xxxlnwjung1
10th June 2012, 18:44
ผมเข้าใจนะครับ ว่าพวกคุณภาคภูมิใจในมวยไทย ผมเองก็ภาคภูมิใจในมวยไทยเช่นกัน
แต่ถ้าพวกไม่คุณไม่เข้าใจกัน เอาแต่พูดว่า มวยไทยเป็นวิชาสังหารคิดค้นมาสู้กับอาวุธจึงแข็งแกร่งที่สุด ผมกลัวจะโดนคนอื่น(ที่เค้ารู้ลึก)คิดในใจว่าโง่
แค่โดนคิดว่าโง่ก็ไม่ดีแล้วนะครับ พวกคุณจะโดนดูถูก
ผมขออธิบายให้เข้าใจกันแจ่มแจ้งว่า มวยไทย ไม่ได้เป็นวิชาเดียวที่เป็นวิชาสังหาร
วิชาอื่นๆ เช่น คาราเต้ ยูโด จูจุสสึ ก็เป็นวิชาสังหารเช่นกันครับ พัฒนามาจากในสนามรบเช่นเดียวกัน
คาราเต้ มีความหมายว่า มือเปล่า ซึ่งเน้นการทำลาย ปัจจัยสำคัญของคาราเต้ก็คือ การทำลายในหมัดเดียว เช่น ท่าทิ่มตา ขยี้อัณฑะ ทะลวงแก้วหู ฟันง่ามนิ้ว บิดกระเดือก
ของคาราเต้ทั้งนั้นครับ และนั่นคือแก่นของคาราเต้ คาราเต้ไม่ใช่วิชาฟันอิฐนะครับ อย่าเข้าใจผิดคิดไปเอง ฮ่าฮ่า
จูจุสสึ พัฒนามาจากสนามรบโดยแท้เลยครับ เพราะพัฒนามาจากท่าวิชาของพวกซามูไร ก็คือ ไม่เน้นทำลายเหมือนคาราเต้แต่เน้นฆ่าเลยครับ
ท่าจูจุสสึโดยมากจะเป็นท่าทุ่มกับล็อคแบบยืน วิชาจุจุสสึ สมัยแรกๆ แข่งกันแบบไม่กติกา แถมท่าก็รุนแรงมาก และเน้นหลักให้คนอ่อนแอฝึกไว้สู้กับคนที่แข็งแกร่ง
เดิมทีศิลปะการต่อสู้ก็มีไว้เพื่อการนี้อยู่แล้ว
ทำให้คนนิยมฝึก แต่ด้วยความที่มันรุนแรงมากแถมฝึกให้ทุกอย่างทั้งมือเปล่าและอาวุธ เลยโดนห้ามฝึกทำให้วิชาหายไปเยอะแยะมากมายก็เลยเหลือไม่มาก
แถมกติกาในการแข่งขันก็น้อย แถมเล่นกันแรงมากๆ ก็เลยไม่ค่อยมีคนฝึกก็เลยยิ่งแย่กันไปใหญ่
ส่วนมวยไทยนั้น เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายผู้ฝึกเป็นหลัก ทำให้วิชามวยไทยมีความแข็งแกร่งรุนแรงและน่าเกรงขามกว่าวิชาอื่นๆ แต่วิชามวยไทยไม่ได้เน้น
ทำลายจุดอ่อนคู่ต่อสู้ แต่เน้นทางด้านอัดให้หมอบเลยซะมากกว่า แถมท่วงท่าก็มีความรุนแรงมากใช้ทั้งศอกทั้งเข่า โดยรวมๆแล้ว นับได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกครับ
แต่เราจะพูดอย่างงี้ เต็มปากไม่ได้ เพราะถ้ามาสู้กันจริงๆ ผลก็ไม่รู้จะออกแบบไหน นั่นคือความจริงครับ แต่ที่ผมมั่นใจคือ
นักกีฬามวยไทยทุกคนเป็นนักสู้ ในขณะที่นักกีฬาที่ฝึกพวก คาราเต้ เทควันโด้ก็เป็นนักสู้เช่นกัน แต่ส่วนน้อยครับเพราะเล่นตามกติกาตลอด บางคนเล่นตามกติกา
จนลืมไปว่า เวลาวิวาทไม่ต้องทำตามกติกา เลยทำให้แพ้พวกมือสมัครเล่นไป
ส่วน MMA(Mix Martial Art) นั้นมีัท่าสากลที่ใช้กันอยู่ไม่มาก แต่ก็มีื่ืท่าเด่นๆที่สร้างความเปรียบอยู่หลายท่านะครับ
อันนี้ คุณจะไปดูถูกมันก็ไม่ถูกนะครับ เพราะ MMA นั้นจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ฝึกเอง ที่จะนำท่ามาดัดแปลง และขยันฝึกเพื่อเพิ่มความแ็ข็งแกร่ง
ให้กับตนเองและวิชา เพราะผมว่าวิชานี้ ต้องฝึกทั้ง 2 อย่างให้เยี่ยมทั้งร่างกายและวิชา จะช่วยให้เป็นศิลปะที่เยี่ยมมากๆ แล้วก็มีคนบอกว่า MMA มันกระจอกไม่เหมือน
วิชาต่อสู้่เหมือน เหมือนมวยวัดล้มแล้วก็ซ้ำ งั้นผมขอถามเลยนะว่า เดิมทีศิลปะการต่อสู้ใช้เพื่ออะไรครับ? หลักๆเลย
1.ป้องกันตัว
2.วิวาทกัน
มันก็แค่นั้นแหละ จบ
เคนอิจิ อย่าไปเชื่อมากครับ บางอัน****ก็เกินความเป็นจริง อย่าง วิชาคาราเต้ ย้าย อวัยวะภายในไม่ให้โดนหอกทิ่มจุดสำคัญ ถ้าอยากเอาความเป็นจริง คุณชายพันธุ์โชะ มี ลุงสามารถ ด้วย อีกเรื่อง tough ใครว่าข้าไม่เก่ง อันนี้ตอนแรกออกแนวความเป็นจริงๆ หลังๆใช้กำลังภายในล้มคู่ต่อสู้
ย้ายอวัยวะมีจริงๆครับของคาราเต้ ไม่ใช่ย้ายอวัยวะภายในนะ แต่เป็น ย้ายอัณฑะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีวิธีฝึกอยู่มั้ย
- - ผมอ่านเเล้วแปลกๆอะ ที่ว่ามวยไทยไม่เเน่น จุดสำคัญ วิชามวยไทยไม่ได้เน้นทำลายจุดอ่อนคู่ต่อสู้ ตรงนี้อะผมจะบอกว่าผมเล่น นาฎมวยไทยเเต่ละท่าจุดอ่อนล้วนๆเลยนะคับ ขมับ คาง หัว กลางกบาล ข้อพับ ลิ้นปี่ มันล้วนๆเลยนะท่าน
แต่เน้นทางด้านอัดให้หมอบเลยซะมากกว่า อันนี้ด้วยมวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันคับท่าอัดให้มอบไม่ค่อยมีหลอกท่ามีก็ส่วนน้อยคับ ส่วนมากจะเป็นท่าส่วนกลับให้ศัตรู กระเด็นถอยห่างมากกว่าไม่ก็ล๊อคเอาไว้ หรือว่าทำให้ล้ม เเต่ไม่เชิงว่าอัดให้หมอบ
ลองๆดูท่าได้ สลับฟันปลา ปักษาเเหวกลัง ชวาซัดหอก อิเหนาเเทงกถษ มอนยันหลัก ปักลูกทอย โคนเขาพระสุเมรุ งูไล่ตุกเเก พิรุณหกกลับ (จำได้เเค่นี้เเละ)
ขมับ หัว กลางกบาล ข้อพับ ลิ้นปี่ ไม่นับเป็นจุดอ่อนนะครับ จุดอ่อนที่ผมพูดถึงคืออ่อนจริงๆในแบบที่ฝึกฝนไม่ได้
ยูโด - หรือ ยูยิสสู หรือ จูจุสสึ ของจขกท.นั้นแหละ แน่นนอนว่ามันถูกพัฒนามาจาก ซูโม่ เป็นศาสตร์ที่พัฒนามาเพื่อใช้ในสนามรบ
โดยหลักใช้จับมือที่ถืออาวุธเพื่อหักข้อมือหรือข้อต่ออื่นๆของร่างกายเสียมากกว่าการทุ่มในสมัยนี้
ึคุณอ่ะอย่ามั่วครับ ยูโด กับ จูจึสสึ คนล่ะวิชากันครับ ตอนแรกน่ะเป็นวิชาเดียวกัน แต่ยูโดแยกตัวออกมาลดทอนท่าที่อันตรายออก เพื่อให้ง่ายต่อการเผยแพร่ฝึกฝน
และนำมาใช้แข่งขันได้อย่างเต็มที่ครับ
แต่ถ้าพวกไม่คุณไม่เข้าใจกัน เอาแต่พูดว่า มวยไทยเป็นวิชาสังหารคิดค้นมาสู้กับอาวุธจึงแข็งแกร่งที่สุด ผมกลัวจะโดนคนอื่น(ที่เค้ารู้ลึก)คิดในใจว่าโง่
แค่โดนคิดว่าโง่ก็ไม่ดีแล้วนะครับ พวกคุณจะโดนดูถูก
ผมขออธิบายให้เข้าใจกันแจ่มแจ้งว่า มวยไทย ไม่ได้เป็นวิชาเดียวที่เป็นวิชาสังหาร
วิชาอื่นๆ เช่น คาราเต้ ยูโด จูจุสสึ ก็เป็นวิชาสังหารเช่นกันครับ พัฒนามาจากในสนามรบเช่นเดียวกัน
คาราเต้ มีความหมายว่า มือเปล่า ซึ่งเน้นการทำลาย ปัจจัยสำคัญของคาราเต้ก็คือ การทำลายในหมัดเดียว เช่น ท่าทิ่มตา ขยี้อัณฑะ ทะลวงแก้วหู ฟันง่ามนิ้ว บิดกระเดือก
ของคาราเต้ทั้งนั้นครับ และนั่นคือแก่นของคาราเต้ คาราเต้ไม่ใช่วิชาฟันอิฐนะครับ อย่าเข้าใจผิดคิดไปเอง ฮ่าฮ่า
จูจุสสึ พัฒนามาจากสนามรบโดยแท้เลยครับ เพราะพัฒนามาจากท่าวิชาของพวกซามูไร ก็คือ ไม่เน้นทำลายเหมือนคาราเต้แต่เน้นฆ่าเลยครับ
ท่าจูจุสสึโดยมากจะเป็นท่าทุ่มกับล็อคแบบยืน วิชาจุจุสสึ สมัยแรกๆ แข่งกันแบบไม่กติกา แถมท่าก็รุนแรงมาก และเน้นหลักให้คนอ่อนแอฝึกไว้สู้กับคนที่แข็งแกร่ง
เดิมทีศิลปะการต่อสู้ก็มีไว้เพื่อการนี้อยู่แล้ว
ทำให้คนนิยมฝึก แต่ด้วยความที่มันรุนแรงมากแถมฝึกให้ทุกอย่างทั้งมือเปล่าและอาวุธ เลยโดนห้ามฝึกทำให้วิชาหายไปเยอะแยะมากมายก็เลยเหลือไม่มาก
แถมกติกาในการแข่งขันก็น้อย แถมเล่นกันแรงมากๆ ก็เลยไม่ค่อยมีคนฝึกก็เลยยิ่งแย่กันไปใหญ่
ส่วนมวยไทยนั้น เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายผู้ฝึกเป็นหลัก ทำให้วิชามวยไทยมีความแข็งแกร่งรุนแรงและน่าเกรงขามกว่าวิชาอื่นๆ แต่วิชามวยไทยไม่ได้เน้น
ทำลายจุดอ่อนคู่ต่อสู้ แต่เน้นทางด้านอัดให้หมอบเลยซะมากกว่า แถมท่วงท่าก็มีความรุนแรงมากใช้ทั้งศอกทั้งเข่า โดยรวมๆแล้ว นับได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกครับ
แต่เราจะพูดอย่างงี้ เต็มปากไม่ได้ เพราะถ้ามาสู้กันจริงๆ ผลก็ไม่รู้จะออกแบบไหน นั่นคือความจริงครับ แต่ที่ผมมั่นใจคือ
นักกีฬามวยไทยทุกคนเป็นนักสู้ ในขณะที่นักกีฬาที่ฝึกพวก คาราเต้ เทควันโด้ก็เป็นนักสู้เช่นกัน แต่ส่วนน้อยครับเพราะเล่นตามกติกาตลอด บางคนเล่นตามกติกา
จนลืมไปว่า เวลาวิวาทไม่ต้องทำตามกติกา เลยทำให้แพ้พวกมือสมัครเล่นไป
ส่วน MMA(Mix Martial Art) นั้นมีัท่าสากลที่ใช้กันอยู่ไม่มาก แต่ก็มีื่ืท่าเด่นๆที่สร้างความเปรียบอยู่หลายท่านะครับ
อันนี้ คุณจะไปดูถูกมันก็ไม่ถูกนะครับ เพราะ MMA นั้นจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ฝึกเอง ที่จะนำท่ามาดัดแปลง และขยันฝึกเพื่อเพิ่มความแ็ข็งแกร่ง
ให้กับตนเองและวิชา เพราะผมว่าวิชานี้ ต้องฝึกทั้ง 2 อย่างให้เยี่ยมทั้งร่างกายและวิชา จะช่วยให้เป็นศิลปะที่เยี่ยมมากๆ แล้วก็มีคนบอกว่า MMA มันกระจอกไม่เหมือน
วิชาต่อสู้่เหมือน เหมือนมวยวัดล้มแล้วก็ซ้ำ งั้นผมขอถามเลยนะว่า เดิมทีศิลปะการต่อสู้ใช้เพื่ออะไรครับ? หลักๆเลย
1.ป้องกันตัว
2.วิวาทกัน
มันก็แค่นั้นแหละ จบ
เคนอิจิ อย่าไปเชื่อมากครับ บางอัน****ก็เกินความเป็นจริง อย่าง วิชาคาราเต้ ย้าย อวัยวะภายในไม่ให้โดนหอกทิ่มจุดสำคัญ ถ้าอยากเอาความเป็นจริง คุณชายพันธุ์โชะ มี ลุงสามารถ ด้วย อีกเรื่อง tough ใครว่าข้าไม่เก่ง อันนี้ตอนแรกออกแนวความเป็นจริงๆ หลังๆใช้กำลังภายในล้มคู่ต่อสู้
ย้ายอวัยวะมีจริงๆครับของคาราเต้ ไม่ใช่ย้ายอวัยวะภายในนะ แต่เป็น ย้ายอัณฑะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีวิธีฝึกอยู่มั้ย
- - ผมอ่านเเล้วแปลกๆอะ ที่ว่ามวยไทยไม่เเน่น จุดสำคัญ วิชามวยไทยไม่ได้เน้นทำลายจุดอ่อนคู่ต่อสู้ ตรงนี้อะผมจะบอกว่าผมเล่น นาฎมวยไทยเเต่ละท่าจุดอ่อนล้วนๆเลยนะคับ ขมับ คาง หัว กลางกบาล ข้อพับ ลิ้นปี่ มันล้วนๆเลยนะท่าน
แต่เน้นทางด้านอัดให้หมอบเลยซะมากกว่า อันนี้ด้วยมวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันคับท่าอัดให้มอบไม่ค่อยมีหลอกท่ามีก็ส่วนน้อยคับ ส่วนมากจะเป็นท่าส่วนกลับให้ศัตรู กระเด็นถอยห่างมากกว่าไม่ก็ล๊อคเอาไว้ หรือว่าทำให้ล้ม เเต่ไม่เชิงว่าอัดให้หมอบ
ลองๆดูท่าได้ สลับฟันปลา ปักษาเเหวกลัง ชวาซัดหอก อิเหนาเเทงกถษ มอนยันหลัก ปักลูกทอย โคนเขาพระสุเมรุ งูไล่ตุกเเก พิรุณหกกลับ (จำได้เเค่นี้เเละ)
ขมับ หัว กลางกบาล ข้อพับ ลิ้นปี่ ไม่นับเป็นจุดอ่อนนะครับ จุดอ่อนที่ผมพูดถึงคืออ่อนจริงๆในแบบที่ฝึกฝนไม่ได้
ยูโด - หรือ ยูยิสสู หรือ จูจุสสึ ของจขกท.นั้นแหละ แน่นนอนว่ามันถูกพัฒนามาจาก ซูโม่ เป็นศาสตร์ที่พัฒนามาเพื่อใช้ในสนามรบ
โดยหลักใช้จับมือที่ถืออาวุธเพื่อหักข้อมือหรือข้อต่ออื่นๆของร่างกายเสียมากกว่าการทุ่มในสมัยนี้
ึคุณอ่ะอย่ามั่วครับ ยูโด กับ จูจึสสึ คนล่ะวิชากันครับ ตอนแรกน่ะเป็นวิชาเดียวกัน แต่ยูโดแยกตัวออกมาลดทอนท่าที่อันตรายออก เพื่อให้ง่ายต่อการเผยแพร่ฝึกฝน
และนำมาใช้แข่งขันได้อย่างเต็มที่ครับ