BEARRUSSIA
11th June 2012, 23:09
http://hilight.kapook.com/img_cms2/News%202/true.jpg
ทรู วิชั่นส์ ขยับแพ็คเกจดูฟรีหลายช่องให้สมาชิก 1 เดือนเต็ม ด้าน แกรมมี่ ออกแถลงการณ์ ซัด ทรู ไม่ยอมตกลงเงื่อนไขตั้งแต่แรก ทั้งที่รู้ว่าต้องจอดำ แต่ตอนนี้กลับโยนความรับผิดชอบมา ระบุต้องส่งเรื่องให้ยูฟ่าชี้ขาด พร้อมหาทางออกเพื่อไม่ให้กระทบลูกค้ากล่อง GMMZ และพาร์ทเนอร์ที่ร่วมลงทุน
จากกรณี "ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลยูโร 2012" ที่ดูเหมือนว่า ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ กับเรื่องนี้ หลังจากที่ทางทรู วิชั่นส์ ยอมเสียค่าปรับวันละ 2 หมื่นบาท และยอมปล่อยให้สมาชิกทรูจอดำ ไม่สามารถชมบอลยูโรผ่านช่องฟรีทีวีได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 มิถุนายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางทรู วิชั่นส์ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทรู วิชั่นส์ ขออภัยที่ท่านสมาชิกไม่สามารถรับชม ฟุตบอล Euro 2012 ผ่านฟรีทีวี ในระบบของทรูวิชั่นส์ได้ ซึ่งเป็นข้อจํากัดจากผู้ถือลิขสิทธิ์ Euro 2012 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ท่านได้ให้ความอุปการะต่อทรู วิชั่นส์ เสมอมา ทรู วิชั่นส์ ขอมอบสิทธิพิเศษดังต่อไปนี้ให้กับท่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน 10 กรกฎาคม 2555 ดังนี้...
สมาชิกแพลตทินัมแพ็คเกจ จะได้รับชมช่องรายการในอลาคาร์ตแพ็คเกจ รวม 9 ช่อง ได้แก่
ช่อง HBO Signature (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 155)
HBO Family (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 156)
HBO Hits (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 157)
Discovery Science (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 151)
TLC(ทรู วิชั่นส์ ช่อง 153)
Discovery Turbo (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 152)
Discovery Home&Health (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 154)
Disney Chanel (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 35)
Disney Junior (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 34)
ส่วนสมาชิกโกลด์แพ็คเกจ ได้รับชมช่องรายการในแพลตทินัมแพ็คเกจ และสมาชิกในแพ็คเกจอื่น ๆ ได้รับชมช่องกีฬา ทรู สปอร์ต 1, 2, 3, 4, 5 และ 6
http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/patcharin/News/June/GMM.jpg
ขณะที่ในเวลาต่อมา จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า เป็นแถลงการณ์เพื่อชี้แจงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งกำลังจะถูกบิดเบือนว่ามีสาเหตุมาจากประเด็นทางธุรกิจ โดยมีใจความสรุป ว่า จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะผู้ได้ลิขสิทธิ์เผยแพร่การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้ใช้เม็ดเงินกว่า 400 ล้านบาท ในการแข่งขันประมูลลิขสิทธิ์กับผู้ประกอบการหลายราย จนได้ลิขสิทธิ์เผยแพร่ในทุกช่องทางการรับชม (All Right) ถือเป็นความชอบธรรมที่ผู้ได้รับสิทธิ์จะมีสิทธิ์บริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ผู้บริโภคได้รับชม
ทั้งนี้ ในขั้นตอนก่อนประมูลนั้น ผู้เข้าประมูลต้องเสนอต่อยูฟ่า ผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ ด้วยว่า มีช่องทางใดจะสามารถรับชมฟุตบอลได้บ้าง ตามมาตรฐานที่ยูฟ่ากำหนด และต้องเผยแพร่การถ่ายทอดสดภายในประเทศไทยเท่านั้น หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต้องแจ้งให้ยูฟ่าเห็นชอบก่อนทุกกรณี ซึ่งนี่ถือเป็นหลักสากล
หลังจากได้สิทธิ์มาแล้ว แกรมมี่ ได้เริ่มเจรจาหาพันธมิตร โดยตั้งเป้าที่ 3 ช่องทางหลัก ๆ ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของคนไทย มาตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2554 คือ ไทยทีวีสีช่อง 3 (ฟรีทีวี ระบบภาคพื้นดิน), เคเบิลทีวี ทางสาย coaxial และ โทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งจากการรวบรวมตัวเลขของผู้ชมโทรทัศน์ในระบบต่าง ๆ ก่อนเหตุการณ์อุทกภัย พ.ศ.2554 พบว่า มีผู้ชมฟรีทีวีผ่านเสาอากาศ ประมาณ 10.9 ล้านครัวเรือน ผ่านระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น 2.3 ล้านครัวเรือน ที่เหลือเป็นระบบจานดาวเทียมทั้ง ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ ประมาณ 6.8 ล้าน และของทรูวิชั่น อีก 1.8 ล้านครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เนื่องจากหลังอุทกภัย หลายบ้านต้องเปลี่ยนทีวี และเครื่องรับสัญญาณใหม่เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ แกรมมี่ ได้เจรจากับ ทรูวิชั่น ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2554 โดยเสนอแลกเปลี่ยนสิทธิ์ของฟุตบอลยูโร ในระบบ HD กับคอนเทนท์อื่น ๆ ที่ทรูวิชั่นถือสิทธิ์อยู่ โดยไม่มีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และชี้แจงแล้วว่า หากไม่มีการเข้ารหัส จะเจอปัญหาจอดำทางฟรีทีวีในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งไม่มีเหตุผลใดที่ทรูวิชั่นจะปฏิเสธการรับรู้ หรือเข้าใจเองว่าสามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรได้ตามแถลงการณ์ที่ออกมา
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ระบุด้วยว่า ได้พยายามเจรจากับทรูหลายครั้งแล้ว แต่ไม่บรรลุผล จึงได้เจรจากับพันธมิตรรายอื่นแทน ทั้งช่องเคเบิลทีวี ซีทีเอส และผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมทั้งแพลทฟอร์ม ดีทีวี ที่บรรลุข้อตกลงตามเงื่อนไข ในการร่วมมือผลิตกล่องรับสัญญาณระบบ HD ร่วมกัน ซึ่งสมาชิก ดีทีวี ที่ใช้กล่องระบบ HD จะสามารถชมฟุตบอลยูโรได้ แต่สมาชิกที่ชมผ่านจาน และกล่องดีทีวีรุ่นทั่วไป จะไม่สามารถรับชมได้เช่นเดียวกับทรู เพราะถือว่าเป็นฟรีทีวีที่นำสัญญาณไปทวนซ้ำ (Rebroadcast) ในระบบดาวเทียม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสองสัปดาห์ก่อนการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มขึ้น ทรูได้ติดต่อขอเจรจาสิทธิ์เผยแพร่ฟุตบอล แลกกับคอนเทนท์ตามเงื่อนไขที่เคยเจรจากันไว้ แต่ครั้งนี้ทางจีเอ็มเอ็มไม่สามารถตอบตกลงทรูได้ เพราะได้ทำข้อตกลงกับดีทีวี ที่ร่วมเป็นพันธมิตรจ่ายค่าลิขสิทธิ์ไปแล้ว และได้ประกาศกับลูกค้า ดีลเลอร์ และสังคม ไปแล้วว่า สามารถดูได้ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็มแซทเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้จีเอ็มเอ็มถูกมองว่า ทำธุรกิจด้วยการหลอกลวงผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์
ด้วยเหตุนี้ จีเอ็มเอ็ม จึงเสนอให้ทรูเช่ากล่อง เพื่อที่จีเอ็มเอ็มจะได้ไม่ผิดสัญญากับพาร์ทเนอร์ และยังสามารถดำเนินธุรกิจกับทรูได้ โดยไม่ต้องส่งเรื่องขอคำตอบจากทางยูฟ่า แต่สถานการณ์บานปลายขึ้น เมื่อสมาชิกของทรูไม่สามารถชมฟุตบอลได้ และทรูตอบคำถามสมาชิกด้วยการออกแถลงการณ์ขออภัยผู้ชม และแสดงความผิดหวังที่จีเอ็มเอ็มจำกัดสิทธิ์ทุกช่องทางของทุกสื่อที่ทรูมี ซึ่งเท่ากับเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้จีเอ็มเอ็ม กลายเป็นผู้รับผิดชอบปัญหา
แกรมมี่ ชี้แจงต่อว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับ ช่อง 3 , 5 และ 9 ในฐานะฟรีทีวี ซึ่งยูฟ่าระบุชัดเจนว่า เป็นการรับชมในภาคพื้นดิน ที่รับชมอย่างอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขผ่านเสาอากาศทุกประเภทเท่านั้น แต่หากเป็นฟรีทีวีที่นำสัญญาณไปทวนซ้ำ (Rebroadcast) ในระบบดาวเทียม เช่น ทรู, DTV, IPM โดยเฉพาะ ทรู ที่มีรายได้จากการบอกรับสมาชิก และมีฟรีทีวีรวมอยู่ในแพคเกจด้วยนั้น ถือเป็นสิทธิ์อีกช่องทางหนึ่งที่ต้องมีระบบการเข้ารหัสสัญญาณ (Encryotion) เพื่อไม่ให้สัญญาณหลุดออกไปนอกประเทศ ซึ่งเป็นกติกาที่ฟรีทีวีทุกช่องทราบ และในทุกทัวร์นาเมนท์ระดับโลก หากต้องยิงสัญญาณผ่านดาวเทียม ก็ต้องมีการเข้ารหัสทั้งสิ้น แกรมมี่ จึงได้เปิดตัวกล่องรับสัญญาณดาวเทียมจีเอ็มเอ็มแซท แต่ก็พร้อมแบ่งปันคอนเทนท์ เพื่อให้คนไทยทุกระดับได้รับชมวงกว้างในราคาที่ถูกลง
สำหรับการเจรจาระหว่างจีเอ็มเอ็มกับทรูในวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายนนั้น ผู้บริหารของจีเอ็มเอ็มได้ตอบรับที่จะพยายามเจรจากับยูฟ่าอีกครั้ง แม้จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธด้วยความชอบธรรมก็ได้ แต่เพื่อเป็นการยืนยันมิตรไมตรีที่มีให้ทรูในฐานะคู่ค้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะมีกระแสสังคมกดดันกลับมาที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จีเอ็มเอ็ม ได้ส่งเรื่องให้ยูฟ่าแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน และจะใช้ความพยายามอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบพันธมิตร คู่ค้า และผู้บริโภคกล่องจีเอ็มเอ็มแซท เพื่อลดความขัดแย้งครั้งนี้
จีเอ็มเอ็ม ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า จนกว่ายูฟ่าจะให้คำตอบมาภายในสัปดาห์นี้ ทรูคงต้องยอมรับสถานการณ์จอดำอย่างไม่มีกำหนด เพราะได้เลือกเองไว้แล้วตั้งแต่ต้น และไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นใด ก็หวังว่าทางทรูจะทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเคารพในเรื่องการบริหารลิขสิทธิ์ด้วยข้อเท็จจริง
By kapook
ทรู วิชั่นส์ ขยับแพ็คเกจดูฟรีหลายช่องให้สมาชิก 1 เดือนเต็ม ด้าน แกรมมี่ ออกแถลงการณ์ ซัด ทรู ไม่ยอมตกลงเงื่อนไขตั้งแต่แรก ทั้งที่รู้ว่าต้องจอดำ แต่ตอนนี้กลับโยนความรับผิดชอบมา ระบุต้องส่งเรื่องให้ยูฟ่าชี้ขาด พร้อมหาทางออกเพื่อไม่ให้กระทบลูกค้ากล่อง GMMZ และพาร์ทเนอร์ที่ร่วมลงทุน
จากกรณี "ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลยูโร 2012" ที่ดูเหมือนว่า ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ กับเรื่องนี้ หลังจากที่ทางทรู วิชั่นส์ ยอมเสียค่าปรับวันละ 2 หมื่นบาท และยอมปล่อยให้สมาชิกทรูจอดำ ไม่สามารถชมบอลยูโรผ่านช่องฟรีทีวีได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 มิถุนายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางทรู วิชั่นส์ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทรู วิชั่นส์ ขออภัยที่ท่านสมาชิกไม่สามารถรับชม ฟุตบอล Euro 2012 ผ่านฟรีทีวี ในระบบของทรูวิชั่นส์ได้ ซึ่งเป็นข้อจํากัดจากผู้ถือลิขสิทธิ์ Euro 2012 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ท่านได้ให้ความอุปการะต่อทรู วิชั่นส์ เสมอมา ทรู วิชั่นส์ ขอมอบสิทธิพิเศษดังต่อไปนี้ให้กับท่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน 10 กรกฎาคม 2555 ดังนี้...
สมาชิกแพลตทินัมแพ็คเกจ จะได้รับชมช่องรายการในอลาคาร์ตแพ็คเกจ รวม 9 ช่อง ได้แก่
ช่อง HBO Signature (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 155)
HBO Family (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 156)
HBO Hits (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 157)
Discovery Science (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 151)
TLC(ทรู วิชั่นส์ ช่อง 153)
Discovery Turbo (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 152)
Discovery Home&Health (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 154)
Disney Chanel (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 35)
Disney Junior (ทรู วิชั่นส์ ช่อง 34)
ส่วนสมาชิกโกลด์แพ็คเกจ ได้รับชมช่องรายการในแพลตทินัมแพ็คเกจ และสมาชิกในแพ็คเกจอื่น ๆ ได้รับชมช่องกีฬา ทรู สปอร์ต 1, 2, 3, 4, 5 และ 6
http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/patcharin/News/June/GMM.jpg
ขณะที่ในเวลาต่อมา จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า เป็นแถลงการณ์เพื่อชี้แจงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งกำลังจะถูกบิดเบือนว่ามีสาเหตุมาจากประเด็นทางธุรกิจ โดยมีใจความสรุป ว่า จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในฐานะผู้ได้ลิขสิทธิ์เผยแพร่การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้ใช้เม็ดเงินกว่า 400 ล้านบาท ในการแข่งขันประมูลลิขสิทธิ์กับผู้ประกอบการหลายราย จนได้ลิขสิทธิ์เผยแพร่ในทุกช่องทางการรับชม (All Right) ถือเป็นความชอบธรรมที่ผู้ได้รับสิทธิ์จะมีสิทธิ์บริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ผู้บริโภคได้รับชม
ทั้งนี้ ในขั้นตอนก่อนประมูลนั้น ผู้เข้าประมูลต้องเสนอต่อยูฟ่า ผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์ ด้วยว่า มีช่องทางใดจะสามารถรับชมฟุตบอลได้บ้าง ตามมาตรฐานที่ยูฟ่ากำหนด และต้องเผยแพร่การถ่ายทอดสดภายในประเทศไทยเท่านั้น หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต้องแจ้งให้ยูฟ่าเห็นชอบก่อนทุกกรณี ซึ่งนี่ถือเป็นหลักสากล
หลังจากได้สิทธิ์มาแล้ว แกรมมี่ ได้เริ่มเจรจาหาพันธมิตร โดยตั้งเป้าที่ 3 ช่องทางหลัก ๆ ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของคนไทย มาตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2554 คือ ไทยทีวีสีช่อง 3 (ฟรีทีวี ระบบภาคพื้นดิน), เคเบิลทีวี ทางสาย coaxial และ โทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งจากการรวบรวมตัวเลขของผู้ชมโทรทัศน์ในระบบต่าง ๆ ก่อนเหตุการณ์อุทกภัย พ.ศ.2554 พบว่า มีผู้ชมฟรีทีวีผ่านเสาอากาศ ประมาณ 10.9 ล้านครัวเรือน ผ่านระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น 2.3 ล้านครัวเรือน ที่เหลือเป็นระบบจานดาวเทียมทั้ง ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ ประมาณ 6.8 ล้าน และของทรูวิชั่น อีก 1.8 ล้านครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เนื่องจากหลังอุทกภัย หลายบ้านต้องเปลี่ยนทีวี และเครื่องรับสัญญาณใหม่เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ แกรมมี่ ได้เจรจากับ ทรูวิชั่น ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2554 โดยเสนอแลกเปลี่ยนสิทธิ์ของฟุตบอลยูโร ในระบบ HD กับคอนเทนท์อื่น ๆ ที่ทรูวิชั่นถือสิทธิ์อยู่ โดยไม่มีตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และชี้แจงแล้วว่า หากไม่มีการเข้ารหัส จะเจอปัญหาจอดำทางฟรีทีวีในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งไม่มีเหตุผลใดที่ทรูวิชั่นจะปฏิเสธการรับรู้ หรือเข้าใจเองว่าสามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรได้ตามแถลงการณ์ที่ออกมา
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ระบุด้วยว่า ได้พยายามเจรจากับทรูหลายครั้งแล้ว แต่ไม่บรรลุผล จึงได้เจรจากับพันธมิตรรายอื่นแทน ทั้งช่องเคเบิลทีวี ซีทีเอส และผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมทั้งแพลทฟอร์ม ดีทีวี ที่บรรลุข้อตกลงตามเงื่อนไข ในการร่วมมือผลิตกล่องรับสัญญาณระบบ HD ร่วมกัน ซึ่งสมาชิก ดีทีวี ที่ใช้กล่องระบบ HD จะสามารถชมฟุตบอลยูโรได้ แต่สมาชิกที่ชมผ่านจาน และกล่องดีทีวีรุ่นทั่วไป จะไม่สามารถรับชมได้เช่นเดียวกับทรู เพราะถือว่าเป็นฟรีทีวีที่นำสัญญาณไปทวนซ้ำ (Rebroadcast) ในระบบดาวเทียม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสองสัปดาห์ก่อนการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มขึ้น ทรูได้ติดต่อขอเจรจาสิทธิ์เผยแพร่ฟุตบอล แลกกับคอนเทนท์ตามเงื่อนไขที่เคยเจรจากันไว้ แต่ครั้งนี้ทางจีเอ็มเอ็มไม่สามารถตอบตกลงทรูได้ เพราะได้ทำข้อตกลงกับดีทีวี ที่ร่วมเป็นพันธมิตรจ่ายค่าลิขสิทธิ์ไปแล้ว และได้ประกาศกับลูกค้า ดีลเลอร์ และสังคม ไปแล้วว่า สามารถดูได้ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็มแซทเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้จีเอ็มเอ็มถูกมองว่า ทำธุรกิจด้วยการหลอกลวงผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์
ด้วยเหตุนี้ จีเอ็มเอ็ม จึงเสนอให้ทรูเช่ากล่อง เพื่อที่จีเอ็มเอ็มจะได้ไม่ผิดสัญญากับพาร์ทเนอร์ และยังสามารถดำเนินธุรกิจกับทรูได้ โดยไม่ต้องส่งเรื่องขอคำตอบจากทางยูฟ่า แต่สถานการณ์บานปลายขึ้น เมื่อสมาชิกของทรูไม่สามารถชมฟุตบอลได้ และทรูตอบคำถามสมาชิกด้วยการออกแถลงการณ์ขออภัยผู้ชม และแสดงความผิดหวังที่จีเอ็มเอ็มจำกัดสิทธิ์ทุกช่องทางของทุกสื่อที่ทรูมี ซึ่งเท่ากับเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้จีเอ็มเอ็ม กลายเป็นผู้รับผิดชอบปัญหา
แกรมมี่ ชี้แจงต่อว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับ ช่อง 3 , 5 และ 9 ในฐานะฟรีทีวี ซึ่งยูฟ่าระบุชัดเจนว่า เป็นการรับชมในภาคพื้นดิน ที่รับชมอย่างอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขผ่านเสาอากาศทุกประเภทเท่านั้น แต่หากเป็นฟรีทีวีที่นำสัญญาณไปทวนซ้ำ (Rebroadcast) ในระบบดาวเทียม เช่น ทรู, DTV, IPM โดยเฉพาะ ทรู ที่มีรายได้จากการบอกรับสมาชิก และมีฟรีทีวีรวมอยู่ในแพคเกจด้วยนั้น ถือเป็นสิทธิ์อีกช่องทางหนึ่งที่ต้องมีระบบการเข้ารหัสสัญญาณ (Encryotion) เพื่อไม่ให้สัญญาณหลุดออกไปนอกประเทศ ซึ่งเป็นกติกาที่ฟรีทีวีทุกช่องทราบ และในทุกทัวร์นาเมนท์ระดับโลก หากต้องยิงสัญญาณผ่านดาวเทียม ก็ต้องมีการเข้ารหัสทั้งสิ้น แกรมมี่ จึงได้เปิดตัวกล่องรับสัญญาณดาวเทียมจีเอ็มเอ็มแซท แต่ก็พร้อมแบ่งปันคอนเทนท์ เพื่อให้คนไทยทุกระดับได้รับชมวงกว้างในราคาที่ถูกลง
สำหรับการเจรจาระหว่างจีเอ็มเอ็มกับทรูในวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายนนั้น ผู้บริหารของจีเอ็มเอ็มได้ตอบรับที่จะพยายามเจรจากับยูฟ่าอีกครั้ง แม้จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธด้วยความชอบธรรมก็ได้ แต่เพื่อเป็นการยืนยันมิตรไมตรีที่มีให้ทรูในฐานะคู่ค้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะมีกระแสสังคมกดดันกลับมาที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จีเอ็มเอ็ม ได้ส่งเรื่องให้ยูฟ่าแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน และจะใช้ความพยายามอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบพันธมิตร คู่ค้า และผู้บริโภคกล่องจีเอ็มเอ็มแซท เพื่อลดความขัดแย้งครั้งนี้
จีเอ็มเอ็ม ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า จนกว่ายูฟ่าจะให้คำตอบมาภายในสัปดาห์นี้ ทรูคงต้องยอมรับสถานการณ์จอดำอย่างไม่มีกำหนด เพราะได้เลือกเองไว้แล้วตั้งแต่ต้น และไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นใด ก็หวังว่าทางทรูจะทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเคารพในเรื่องการบริหารลิขสิทธิ์ด้วยข้อเท็จจริง
By kapook