PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ตำนาน "นกสีฟ้า นกแห่งความสุข"



PorFG141
12th June 2012, 00:28
ชีอาวาเซ...โนะ...อาโอ้ย...โทริ
นกสีฟ้า..นกแห่งความสุข


นกสีฟ้า...เป็นนกแห่งความสุขและสมหวังของมนุษย์...นกสีฟ้าตัวนี้ จะอาศัยอยู่ที่ในหัวใจของเราทุกคน..ไม่เว้นใครเลย...มีอยู่ในหัวใจของเรา ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนเดียว...อย่างแน่นอน...มาเถอะ..เรามาควานหา นกสีฟ้าที่เรามีสิทธิ์ที่จะมีได้และเป็นเจ้าของได้ในหัวใจของเรา..... หันมาให้ความสำคัญและถนอมเลี้ยงดูมันกันเถอะ.........

http://upic.me/i/a4/blue-finch-angry-birds-blue-bird.jpg


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...มีครอบครัวคนตัดไม้ที่ยากจนมากอยู่ครอบ ครัวหนึ่งที่บ้านหลังนี้...มีพี่น้องสองคนอาศัยอยู่ คนพี่เป็นผู้ชายชื่อ จิรุจิรุและ คนน้องเป็นผู้หญิงชื่อ มิจิรุ...วันนี้เป็นวันคริสมาส..วันที่ทุกคนดีใจ แต่ที่บ้านของจิรุจิรุและมิจิรุ ไม่มีอะไรเลย...ด้วยเป็นเพราะความยากจน จึงไม่มีต้นคริสมาสและไม่มีแม้แต่อาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้า...รวมทั้ง งานเลี้ยงอะไรกับใครเขา...มิจิรุ นั่งมองบ้านตรงข้ามสนุกสนานจัดงาน เลี้ยงฉลองต้อนรับวันคริสมาส..มองต้นคริสมาสที่บ้านนั้นจัดและตบแต่ง ไว้อย่างสวยงาม มิจิรุ มองอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วพูดกับผู้เป็นพี่ว่า " เน้..พี่ จิรุ จิรุ..อยากให้บ้านเรามีต้นคริสมาสเหมือนอย่างที่บ้านนั้นจังเลย..ดูสิ ทำไมถึงสวยอย่างนี้ก็ไม่รู้...เฮ้อ..สวยจังเลย " จิรุ จิรุ ผู้พี่มองน้องสาวด้วย ความสงสาร..แต่เขาก็ได้แต่ทอดถอนใจเพราะบ้านของเขานั้นยากจนจึง ไม่มีพลังที่จะไปเลียนแบบกับใครเขาได้...ดูเอาแต่ว่าวันนี้เถอะ..วันนี้เป็น วันคริสมาสนะนี่...แต่พ่อกับแม่ของเขาทั้งสองก็ยังต้องออกไปทำงาน กลางหิมะอันหนาวเย็น และยังไม่รู้เลยว่า..อีกกี่วันถึงจะเสร็จและจะ กลับมาบ้านได้วันไหนเลยนี่....

ขณะที่จิรุจิรุและมิจิรุ กำลังถอดอกถอนใจมองบ้านตรงข้ามด้วยนึก อิจฉาต้นคริสมาสของเขาอยู่นั้น ยายที่อยู่ในหมู่บ้านก็มาที่บ้านของ จิรุจิรุและมิจิรุ " ขอโทษทีนะ..บ้านของหนูทั้งสองมี " นกสีฟ้า "หรือปล่าว จ๊ะ...หลานของยายไม่สบายมาก..จำเป็นที่จะต้องมีนกสีฟ้าอย่างมาก เลยหละ.." จิรุจิรุ ฟังแล้วจึงตอบยายข้างบ้านไปว่า " ที่บ้านมีแต่นกแก้ว จ๊ะ..ยาย แล้วก็ไม่ได้เป็นสีฟ้าอย่างที่ยายต้องการเสียด้วย.."

" เฮ้อ..ไม่ใช่นกสีฟ้าหรอกหรือ....นี่จิรุจิรุและมิจิรุ ช่วยไปตามหานกสีฟ้า ให้ยายหน่อยได้ไหม? ยายจำเป็นที่จะต้องมีนกสีฟ้าตัวนั้น..อย่างที่สุด" " ได้สิยาย...แต่ว่าเราสองคนไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน? แล้วจะไปตามหาได้ที่ไหน?.. ล่ะยาย.." ยายที่อยู่ในหมู่บ้านจึงหยิบหมวกใบหนึ่งออกมาแล้วส่งให้จิรุจิรุ...... เป็นหมวกสีสวยสด...แล้วตรงกลางหมวกยังมีเพชรเม็ดใหญ่มากติดอยู่บน หมวกใบนั้นด้วย..แล้วยายก็พูดกับจิรุจิรุว่า.. " จิรุจิรุ..ลองสวมดูสิ แล้วหมุนเพชรเม็ดนั้น ไปทางด้านขวานะ.." จิรุจิรุ จึงเอื้อมมือขึ้นไปและหมุนเพชรไปทางด้านขวาอย่างที่ ยายคนนั้นบอกทันที...แล้วอะไรกันนั่น!!!มีแสงสว่างเป็น 7สีเหมือนสายรุ้ง สว่างจ้า..พรุ่งออกมา..สว่างไสวทั่วไปหมดทั้งบริเวณนั้นเลยหละ....มหัศจรรย์เหลือเกิน...

แล้วในท่ามกลางความมหัศจรรย์กลางแสงสว่างที่พรุ่งออกมานั้น...ก็บังเกิดมีเทพ แห่งขนมปัง,เทพแห่งนมและเทพแห่งน้ำตาล..ออกมาวิ่งกระโดดโลดเต้นไปมา อย่างดีอกดีใจ..แล้วตรงนั้นก็เช่นกันแมวและหมาที่ทั้งสองเลี้ยงไว้นั้นก็ลุกขึ้นยืน ได้แบบคน...ดูสิ..มหัสจรรย์จริง ๆ..แล้วจากตรงกลางของแสงสว่างจ้านั้นก็ปรากฏ มีเทพธิดาแห่งแสงสว่างที่สวยงามมากออกมายืนสงบนิ่งและยิ้มอย่างใจดีกับ จิรุจิรุและมิจิรุ ทั้งสองพี่น้องตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าอย่างที่สุด แล้วตรงนั้นยายที่อยู่ในเมืองก็พูดขึ้นมาแทรกความตะลึงตะลานทั้งหมดว่า " ส่า...เทพทุกองค์และเทพธิดาแห่งแสงสว่าง จงช่วยกันพา...จิรุจิรุและมิจิรุ ไปตามหา " นกสีฟ้า " ตั้งแต่บัดนี้เถิด.." แล้วประตูของการเดินทางไปสู่ความ มหัศจรรย์ก็เปิดแง้มออก.....

เมื่อทั้งสองเดินออกมาพ้นประตู...ตรงนั้นเป็นหน้าบ้านของทั้งสองเอง แต่วันนี้ที่ตรงหน้าบ้านไม่รู้ว่ามีบันใดอันยาวเหยียดพาดทอดสูงขึ้นไปสู่สวรรค์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่..บันใดนั้นพาดยาวเหยียดเป็นเส้นตรงเหมือนขีดเส้น มองเห็นลิบ ๆ ขึ้นไปสู่สวรรค์จริง ๆ ด้วย...ทุกคนค่อย ๆ เดินขึ้นบันใดไปทีละ ขั้น ๆ ตามเทพธิดาแห่งแสงสว่างซึ่งเป็นที่ผู้ก้าวเดินนำหน้าไปติด ๆ...เมื่อเดินขึ้น มาได้สักพักหนึ่งก็มาถึง " เมืองแห่งความทรงจำ " ที่หน้าเมืองแห่งความทรงจำนี้ ปรากฏว่ามีตาและยายของสองพี่น้องที่ตายล่วงลับไปนานแล้วออกมายืนต้อนรับ ทั้งสองอยู่....จริง ๆ ด้วย.....ตากับยายยืนยิ้มอย่างใจดีเหมือนเดิมแล้วพูดว่า " จิรุจิรุและ มิจิรุ ดีใจที่ได้พบกับเจ้าทั้งสองอีกครั้ง..ตากับยายดีใจเหลือเกิน.."

" ตาจ๋ายายจ๋า..เราสองคนก็คิดถึงตากับยายมากเหลือเกิน "..ใช่แล้วจากนี้ ก็เป็นเวลาแห่งความสุขเมื่อได้พบกับสิ่งที่เคยรักและต้องพรัดพรากและ เมื่อได้มาพบ ทุกคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข...ใช่แล้ว..อยากจะหยุดเวลา " ให้มีแต่ตรงนี้จังเลย " ...จิรุจิรุและมิจิรุคิด..แต่..ไม่มีเวลาแล้ว..แล้วในที่สุด เมื่อหมดเวลา...ตากับยายจึงพูดกับจิรุจิรุและมิจิรุว่า " ตากับยายสองคน จะอยู่ในใจของเจ้าเสมอ..คิดถึงเมื่อไหร่ ก็จะได้พบตลอดกาลนะลูก...จำไว้ " เมื่อตาและยายพูดเสร็จแล้วก็มอบ " นกสีฟ้า" ให้กับจิรุจิรุและมิจิรุ เป็นของ ขวัญ...ทั้งสองเดินถือกรงนกสีฟ้า ลงบันใดจากเมืองแห่งความทรงจำ กลับมาบ้านของตน..แต่เมื่อทั้งสองเดินลงบันใดมาถึงที่หน้าบ้านเข้าเท่านั้น นกสีฟ้าที่ตากับยายให้มา ก็กลับกลายเป็นนกสีดำ เปลี่ยนไปในทันทีทัน ใดนั้นเลย....

เทพธิดาแห่งแสงสว่างที่ตามมาติด ๆภายหลังจึงพูดว่า " เห็นทีว่าพวกเรา จะต้องไปที่ " ปราสาทแห่งความมืด " แล้วหละ..จิรุจิรุและมิจิรุ " เมื่อทั้งสามออกเดินทางไปสู่ปราสาทแห่งความมืดแล้ว พวกเทพที่ยังคง เหลือและรออยู่ในบ้านของจิรุจิรุและมิจิรุรวมทั้งแมวและหมาด้วยนั้น ก็เกิดการถกเถียงกันอย่างโกระหลขึ้นมา...อยู่ ๆก็มีเสึยงหนึ่งพูดขึ้นว่า " นี่ถ้า จิรุจิรุและมิจิรุ ไปพบนกสีฟ้าที่ปราสาทแห่งความมืดเข้า...พวกเราก็ต้อง กลับกลายเป็นเหมือนเดิม น่ะสิ..แล้วก็ไปโดนพวกมนุษย์ทั้งหลายกลั่น แกล้งเอาเหมือนอย่างเดิมใช่ไหม?..ไม่ดีเลย..พวกเราต้องแย่แน่ ๆ..แฮ้.." ที่พูดขึ้นมาก็คือ..แมวจอมฉลาดนั่นเอง...

หมานั่งฟังอยู่เงียบ ๆ จึงพูดโผลงเถียงแมวไปว่า " จิรุจิรุและมิจิรุ ใจดีกับ พวกเราเสมอไม่ใช่หรือ ?..จะไปขัดขวางทำไม ? " แต่เจ้าแมวรีบตอบกลับ ไปว่า " ไม่เอาหรอก..ไม่เอา ข้าไม่อยากเป็นเหมือนเดิม ถึงจิรุจิรุและมิจิรุ จะดีกับข้าอย่างไร..ก็ไม่เอาด้วยหรอก ข้าจะต้องไปขัดขวางไม่ให้ได้พบ นกสีฟ้า เป็นอันขาด..มาใครที่เห็นด้วยกับข้า..มา..เราไปขัดขวางกันเถอะ " แต่ไม่มีใครในที่นั้นเห็นด้วยเลยสักนิดแมวจึงโมโหเลยกระโดดออกจาก บ้านและเดินทางไปแต่ผู้เดียวทันทีนั้น...หมาเห็นแมวคิดไม่ดี และเดินทางไปแล้ว ก็ให้เป็นห่วงจิรุจิรุและมิจิรุเป็นอันมาก จึงรีบออกเดิน ทางตามหลังแมวไปติด ๆ...

เมื่อแมวเดินทางมาถึงปราสาทแห่งความมืดก่อนใคร ๆ ทั้งหมดแล้ว..ก็รีบเข้าไปหา แม่มดเจ้าของปราสาทแห่งความมืดทันที เจ้าแมวรีบเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่จิรุจิรุและมิจิรุ พร้อมทั้งเทพธิดาแห่งแสงสว่าง..ว่ากำลังจะมาตามหานกสีฟ้าที่นี่ในไม่ช้านี้แล้วหละ แม่ มดจึงเกิดพิโรธขึ้นมาทันทีและตะโกนก้องด้วยความโกรธว่า " เห..อะไร ! เจ้าว่าเทพธิดาแห่ง แสงสว่างก็จะมาด้วยหรือนี่ ? หือ " แล้วตรงนั้น จิรุจิรุและมิจิรุก็มาถึงพอดี...ดูสิ..แล้วก็ไม่รู้ อิโน่อิเน่อะไรเลยด้วยสิ... " ข้าแต่เจ้าหญิงแห่งความมืด พวกเรามาตามหานกสีฟ้า..นก ตัวนั้นมันอยู่ที่นี่หรือปล่าว ? " แม่มดจึงตอบกลับไปแบบสุดแสนจะชาเย็นเป็นที่สุดว่า " อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ! เจ้าจะมาหาอะไร ? มันก็ไม่เกี่ยวกับข้านี่ แต่ข้าเกลียดเทพธิดา แห่งแสงสว่าง นะจะบอกให้..ส่า..รีบออกไปจากที่นี่แต่โดยไวเถอะ.." แม่มดว่าแล้วก็หัน หลังเตรียมที่จะหนีไปที่อื่น...

" ได้โปรดเถิด..อย่านึกโกรธอย่างนั้นสิ เจ้าหญิงแห่งความมืด..พวกเรามีความจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องได้พบเจ้านกสีฟ้าตัวนั้นอย่างมาก..ขอได้โปรดอย่าโกรธเลย..ช่วยเปิดทางให้กับ พวกเราเถอะนะ " จิรุจิรุและมิจิรุเห็นว่าแม่มดเจ้าของปราสาทแห่งความมืดไม่ยอมตอบกลับ มาว่าอะไร ? คงเพราะนางคงเกลียดแสงสว่างอย่างมาก..รีบเดินถอยหายไปจากที่นั้นทันที... ทั้งสามจึงถือโอกาศเดินเข้าไปภายในแล้วตามหานกสีฟ้าทันทีเหมือนกัน..ภายในปราสาทที่ มืดทึบมีห้องเรียงกันอยู่มากมายเป็นแถวยาวมากทีเดียว " มิจิรุ เราลองเปิดห้องนี้ดูก่อนดีไหม ? " จิรุจิรุพูดชวนน้องสาวแล้วเอื้อมมือไปหมุนเพชรบนหมวกไปทางด้านขวา...แล้วในท่ามกลาง แสงสายรุ้งที่สว่างจ้านั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก....แต่ ! จากในห้องนั้นก็มีภูตผี ปีศาจและสัตว์ ประหลาดต่าง ๆจ ากนรก วิ่งพลูกันออกมาจากห้องมากหมาย... " โอ้ย..น่ากลัวเหลือเกิน... หนีกันเถอะ..."

" ห้องนั้นมันห้องรวมผีปีศาจ แน่นอนเลย..ฮี้.." แล้วเทพธิดาแห่งแสงสว่างก็เอ่ยชวนให้ทุกคน ไปที่ห้องที่อยู่ลึกเข้าไปซึ่งเป็นห้องสุดท้าย.. " มาที่ห้องนี้เถอะ จิรุจิรุและมิจิรุ..." ห้องนี้เป็น " ห้องแห่งความฝัน " เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ห้องทั้งห้องมีดอกไม้มากมายบานสะพรั่งเต็มห้องไปหมด แล้วภายในห้องบนเพดานยังมีนกสีฟ้ามากมายบินว่อนโฉบไปโฉบมาเต็มไปหมดเลยอีกด้วย...ทุกคน ช่วยกันตามจับนกสีฟ้ากันอย่างรีบร้อน...แต่ ! เมื่อจับตัวไหนใส่ลงไปในกรงแล้ว...ทุกตัวก็มีอันต้อง ตายไปทุกตัวนั้นเลย...ทำไมถึงเป็นและแปลกแบบนี้..ก็ไม่รู้ ? ? ?....

" พวกนกสีฟ้าที่อยู่ในห้องนี้...ทุกตัวคงเป็นแค่ภาพลวงตาทั้งหมด..แน่เลย..ส่า..สงสัยจะไม่มีนกสีฟ้า ในปราสาทแห่งนี้แล้วหละ ! " เทพธิดาแห่งแสงสว่างเอ่ยแล้วก็ชี้มือไปข้างหน้า " สงสัยนกสีฟ้าคงจะหนี ไปที่ป่านั่น...มา..เราไปที่นั่นกันเถอะ " ...แปลกเหลือเกิน..มีป่าปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนจริง ๆ ด้วย แล้วทุกคนก็เดินออกจากปราสาทมุ่งหน้าไปที่ป่านั้นทันทีทันใด...แต่ว่า ! เหมือนมีเมฆหมอกแห่งการ ขัดขวางเพราะก็ยังเหมือนเดิมอยู่อีกนั่นแหละ...เพราะในป่านั้น..เจ้าแมวตัวเดิมกำลังยืนพูดกับ " เจ้า แห่งต้นไม้ "..อยู่มิใช่หรือนั่น ? ? " ท่านเจ้าแห่งต้นไม้ ผู้ยิ่งใหญ่..จากนี้หละ..ท่านต้องแย่แน่เลย..ต่อ จากนี้จะมีลูก ๆ ของคนตัดไม้..จะเข้ามาทำการโค่นและตัดท่านเพื่อจับนกสีฟ้าตัวนั้น..ที่เกาะอยู่บน กิ่งของท่านในไม่ช้านี้..แล้วหละท่าน ! เรามาเตือนด้วยความเป็นห่วง " แล้วเจ้าแมวก็ชี้มือไปที่นกสีฟ้า ที่กำลังเกาะอยู่บนกิ่งของเจ้าแห่งต้นไม้ตัวนั้น...."

" อะไรนะ ! เจ้าว่าจะมีลูก ๆของคนตัดไม้จะมาโค่นและตัดข้า อย่างงั้นหรือนี่ ? " เจ้าแห่งต้นไม้ ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ ! แล้วในขณะนั้น จิรุจิรุและมิจิรุ ก็เดินทางมาถึงตรงที่บริเวณนั้นทันที " ที่นี่มี นกสีฟ้าหลงเข้ามาหรือปล่าว ? " พอสิ้นเสียงถามของจิรุจิรุและมิจิรุ..ก็มีเสียงของเจ้าแห่ง ต้นไม้ดังก้องกัมปนาทด้วยความโกรธตอบกลับมาว่า " ไม่มีทางที่จะให้นกสีฟ้ากับเจ้าทั้งหลายหรอก.. ฮึ ! " แล้วทันทีทันใดนั้น..เจ้าแห่งต้นไม้ก็บรรดาลให้เกิดลมพายุใหญ่ขึ้นมา..แล้วอะไรจะอย่างนั้น เมื่อลมพายุสงบลง..ก็เห็นพวกต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งหมดในป่านั้นเริ่มขยับ..ขยับไปมาแล้วยืดแขนยืดขา ออกมา...และได้โปรดเถิดพระเจ้า ! พวกมันพร้อมใจกันออกลุกวิ่งพลูเข้าใส่พวกของจิรุจิรุและมิจิรุ.. ทันที..ฮี้..น่ากลัวเหลือเกิน....เร็ว..จิรุจิรุ...มิจิรุ..หนีกันเถอะ ! ....

เมื่อพวกของจิรุจิรุและมิจิรุโดนไล่หนีหายออกจากป่าไปแล้ว นกสีฟ้าที่เกาะอยู่บนกิ่งของเจ้าแห่ง ต้นไม้ก็ตกใจและบินหนีหายลับไปจากป่านั้นทันทีเหมือนกัน...จิรุจิรุและมิจิรุเมื่อวิ่งหนีมาได้สักพัก ก็หยุดและพูดด้วยความเสียใจว่า " ที่ไหน ? ที่ไหน? ก็ไม่มีนกสีฟ้าแน่ ๆ เลย ..ฮื่อ ๆ ๆ " เทพธิดา แห่งแสงสว่างจึงพูดเชิงปลอบใจทั้งสองว่า " มันไม่ใช่สิ่งที่จะเจอง่าย ๆ หรอกนะ..แต่มันจะต้องอยู่ ที่ไหน? สักแห่งแน่นอน..อย่าเพิ่งท้อถอยสิ...ส่า..จิรุจิรุและมิจิรุ...ที่นั่น " ปราสาทแห่งความสุข " ไปเราไปที่นั่นกันเถอะ " เทพธิดาแห่งแสงสว่างชี้มือไปข้างหน้า...แล้วก็น่าอัศจรรย์อีกแล้วเพราะที่ ตรงทางข้างหน้าของทั้งสองนั้น...ปรากฏมี " ปราสาทแห่งความสุข " ปรากฏขึ้น มิใช่หรือ ? นั่น !

ที่ " ปราสาทแห่งความสุข " นั้นภายในปราสาททุกอย่างโอ่อ่าและมีแต่ของดี ๆ มีค่ามากมายและ ยังมีเสียงเพลงบรรเลงขับกล่อมเจื่อยแจ้วอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย...ตรงกลางห้องมีโต๊ะอาหารตัวใหญ่ ตั้งอยู่และบนโต๊ะนั้นมีอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มมากมายจัดตั้งเรียงรายไว้..เหมือน กองภูเขาเลากา..เปรียบเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปานเลยทีเดียว... " ที่นี่มีแต่ความฟุ่มเฟือย และของยั่วยวนใจ ทั้งนั้น...ดูเหมือนจะมีความสุขเสียเหลือเกินใช่ไหม ?...แต่ถ้าอดใจไม่ได้หลง เคลิบเคลิ้มไปกับมันเข้าให้หละก็...แย่แน่ !..เพราะเพียงแค่หยิบของพวกนั้น เข้าปากแค่คำเดียว เท่านั้น..ก็จะทำให้ลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่าง..และจะไม่มีวันได้กลับไปบ้านของตนได้อีกเลย..และตลอด กาลเสียด้วย " เทพธิดาแห่งแสงสว่างพูดเตือนขึ้น จิรุจิรุและมิจิรุ..ถึงแม้ว่าจะอยากกินของ พวกนั้นเหลือเกิน..ก็พยายามอดใจและเดินห่างจากห้องนั้นออกมาโดยเร็ว.....

จิรุจิรุและมิจิรุเมื่อเดินออกมาพ้นจาก " ปราสาทแห่งความสุข" แล้วก็มาพบ " สวนแห่งความสุข " ภายในสวนมี " เทพตัวน้อย ๆ " มากมายบินว่อนไปหมด และเมื่อพวกเทพน้อยทั้งหลายเหลือบมา เห็นทั้งสองเข้าก็พูดทักขึ้นพร้อม ๆ กันว่า " ย่า..สวัสดี..จิรุจิรุและมิจิรุ " จิรุจิรุและมิจิรุ เห็นพวก เทพน้อย ทักชื่อตัวเองถูกก็ตกใจ " เอ๊ะ ! ทำไม ? พวกท่านจึงรู้จักชื่อเราสองคนล่ะ ? " เทพน้อย ทั้งหลายจึงตอบมาว่า " ท่านสงสัยว่า..ทำไมจึงรู้จัก..อย่างนั้นหรือ ?..ก็เพราะเราอยู่กับท่านที่บ้าน ของท่านมาตลอดน่ะสิ "

แล้วเมื่อเทพน้อยพูดจบ...ก็มีเสียงหนึ่งที่ทั้งสองคุ้น ๆ เป็นอย่างดีดังขึ้น " ใช่แล้ว...อยู่กับเธอทั้งสอง มาตลอดเลยทีเดียว " เมื่อสิ้นเสียงจิรุจิรุและมิจิรุรีบหันไปมองทันที...อะไรกันนี่ ! นั่นแม่ของเขาทั้ง สองมิใช่หรือ ?..." แม่..แม่..นั่นแม่จริง ๆ ด้วย " ทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปหา และกอดแม่ด้วยความคิดถึง ..." แม่จ๋า..เราคิดถึงแม่เหลือเกิน..แต่ทำไม ? วันนี้แม่ถึงสวยงามอย่างนี้ล่ะ ? " มิจิรุถามขึ้นด้วย ความสงสัย ?... " ตอนที่อยู่ที่บ้านน่ะ..ยากจน ใส่แต่เสื้อผ้าที่เก่าและสกปรก..แต่ที่นี่..ตรงนี้น่ะ คือรูปร่างที่แท้จริงของแม่..จ๊ะลูก "

เมื่อแม่ของจิรุจิรุและมิจิรุพูดจบก็ค่อย ๆ จางหายไปจากตรงนั้น...หายไปจริง ๆ ไม่มีร่องรอยอะไร เหลือไว้เลย...ทั้งสองพี่น้องจึงกอดกันร้องให้ออกมาทันที.. " ฮื่อ ๆ ๆ ๆ ๆ " ...เทพธิดาแห่งแสงสว่างจึง พูดขึ้นว่า " เมื่อได้กลับไปบ้านแล้วเมื่อนั้น..ก็จะได้พบกับแม่ของพวกเธออีกอย่างแน่นอน..อย่า เสียใจไปเลย..ส่า...เรารีบไปหานกสีฟ้าต่อกันเถอะ ! " ทั้งสามจึงออกเดินทางไปสู่ " ปราสาทแห่ง อนาคต " ที่ปราสาทแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวปราสาทหรือสะพานและทุก ๆ อย่าง..จะเป็นสีและลวด ลายเหมือนท้องฟ้า...สวยงามลานตาไปหมดเลยทีเดียว......

ภายในปราสาท มีพวกเด็ก ๆ มากมาย...มากจนลานตาไปหมดและมากจนไม่สามารถที่จะนับ จำนวนได้เลยทีเดียว...เด็ก ๆ พวกนั้นเดินป้วนเปี้ยนไปมากันให้เต็มห้องไปหมดเลยจริง ๆ... " ที่ปราสาทแห่งนี้ เป็นที่เฉพาะสำหรับพวกเด็กที่จะไปเกิดในอนาคตข้างหน้า เด็ก ๆจะ โดนกำหนดไว้ทุกคนแล้วว่า เขาจะต้องไปเกิดที่บ้านไหน ? และรวมถึงการกำหนด ไว้แล้วด้วยว่า เมื่อไปเกิดแล้วและเมื่อเวลาเขาโตขึ้นจะต้องเป็นอะไรไว้อีกด้วย ?...โฮร่า.. ดูอย่างเด็กคนนี้สิ ! เห็นไหม ? เขาใส่หมวก ด๊อกเตอร์สีดำใบใหญ่กำหนดแน่นอนเลยว่า... โตขึ้นไปในอนาคตเขาจะต้องเป็น ครูหรืออาจารย์..อย่างแน่นอน..แล้วตรงนั้น...ได้เวลา แล้วหละ!..." คุณตาผู้กำหนดเวลา ก็เดินออกมาแล้วเดินถือไม้ตรงไปที่ฆ้องใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ คู่กับเรือสำเภาลำใหญ่นั้น.." กอง...กอง..กอง.." ใช่แล้ว..ได้เวลาออกเดินทางแล้วหละ !

แล้วเทพธิดาแห่งแสงสว่างก็กล่าวทำลายความเงียบขึ้นว่า " ส่า...พวกเราก็เหมือนกัน...ได้เวลา ที่จะต้องกลับแล้วหละ ! " จิรุจิรุและมิจิรุจึงหันไปมองเทพธิดาแห่งแสงสว่าง คุณพระช่วย.. ที่บนมือของเทพธิดาแห่งแสงสว่างมีนกสีฟ้าเกาะอยู่นั่น..มิใช่หรือ ? นี่..จิรุจิรุและมิจิรุดีใจจน กระโดดโลดเต้น แล้วรับนกสีฟ้าที่เทพธิดาแห่งแสงสว่างยื่นส่งให้ใส่กรงทันที.. " ขอบคุณ.. เทพธิดาแห่งแสงสว่าง..ขอบคุณท่านอย่างมาก " แล้วในขณะที่จิรุจิรุและมิจิรุ กำลังจะก้าวเท้า ออกไปข้างหน้า..ในฉับพลันทันทีนั้น..ทั้งสองก็เหมือนตกฮวบลงมาจากที่สูง..ตกมาลอย เคว้งคว้างอยู่บนท้องฟ้า..อยู่นี่มิใช่หรือ ? " นี่เรากำลังจะตกลงไปสู่พื้นดินจริง ๆ หรือนี่ " จิรุจิรุรีบเอื้อมมือไปที่กรงนกสีฟ้า...แต่อะไรกันนี่อีกล่ะ..นกสีฟ้าที่อยู่ในกรงกลับกลายเปลี่ยน สีเป็นสีแดงทันทีแล้วบินหนีจากกรงไปทันทีด้วย... " ว้าย...ช่วยด้วย " ทั้งสองร้องขึ้นอย่างตกใจ...

แล้วทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็ดับวูปไปฉับพลันทันทีนั้น..เงียบสงัด...แล้ว ! ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในท่าม กลางความเงียบทั้งหมด... " ทั้งสองคนเป็นอะไร ? ไปหรือนี่..ตื่นเถอะ ! ลูก..โฮร่า..ตื่นสิลูก " จิรุจิรุและมิจิรุมานอนอยู่ในเตียงของตนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ?...ทั้งสองรู้สึกเหมือนโดนปลุก จึงเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา..ก็เห็นแม่ของพวกเขา...ยืนยิ้มให้อยู่ที่ข้าง ๆ เตียง..นี่..นี่มันอะไร กัน...นี่มันความฝันหรือความจริงล่ะนี่ ? " แม่..แม่จริง ๆ ด้วย..พวกเราออกไปตามหานกสีฟ้า ไปตามสถานที่ต่าง ๆ หลายที่เลยหละ...แต่หาเท่าไหร่ ๆ ก็หาไม่พบสักทีเลย.." แม่จึงพูดทั้ง รอยยิ้มว่า " นกสีฟ้าหรือลูก..ถ้าที่ลูกตามหาเป็นนกสีฟ้าละก็..อยู่ในกรงนี่ไง..พ่อเขาจับมา ให้ลูก ๆ เพื่อเป็นของขวัญ " วันคริสมาส " กับลูกน่ะ "

แล้วแม่ก็ยื่น " นกสีฟ้า " ให้กับจิรุจิรุและมิจิรุ..เจ้านกสีฟ้าร้อง " จิ จิ จิ "..." ฮ่า ฮ่า ฮ่า..น่ารักจังเลย แล้วก็หาพบจนได้นะนี่..จิ จิ จิ เจ้านกสีฟ้า..เราสองคนนะแม่..ไปที่ปราสาทแห่งความสุข มาด้วยหละ...แต่ว่าถึงที่นั่นจะสวยงามและน่าอยู่แค่ไหน ? พวกเราก็ชอบและรักที่นี่มากกว่า ที่นี่คือบ้านของเรา..ถึงจะยากจนแล้วแม่จะใส่แต่เสื้อผ้าเก่า ๆ และสกปรกแค่ไหน...เราสองคน ก็รักที่นี่...และชอบมากที่สุดในโลกเลย " แล้วตรงนั้น..ยายที่อยู่ในเมืองก็มาที่บ้านของจิรุจิรุ และมิจิรุ " โอ้ยะ..โอ้ยะ...เธอทั้งสองหานกสีฟ้าจนพบหรือนี่...ขอบคุณหนูทั้งสองมาก..จิรุจิรุ และมิจิรุ..."

แล้วเมื่อหลานของยายข้างบ้านได้เห็นนกสีฟ้าแล้ว..ก็หายเจ็บหายป่วยและอาการดีขึ้นมาอย่าง น่าอัศจรรย์เลยทีเดียว...ยายที่อยู่ในเมืองเล่าให้ทั้งสองฟังว่า " วันหนึ่งยายฝันเห็นเทพเจ้า...ท่าน บอกกับยายว่า ถ้าคนที่เรารักเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา..ให้ไปหานกสีฟ้าแล้วนำมาให้ดู..เมื่อเห็นแล้ว ก็จะหายจากการเจ็บป่วย...จริง ๆ อย่างในความฝันบอกเลยหละ..เป็นความจริง..จริง ๆ ด้วย " จิรุจิรุและมิจิรุ เห็นหลานยายหายแล้ว..ก็จัดการปล่อยนกสีฟ้าให้เป็นอิสระ..เจ้านกสีฟ้าเมื่อ พ้นออกมาจากกรงแล้ว ก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า..ไปสู่ความเป็นอิสระ..และบินหายลับไปใน ที่สุด...แต่แม้ว่านกสีฟ้าจะจากไปแล้ว แต่เจ้านกแห่งความสุขตัวนี้ก็ยังจะบินอยู่ในใจของ เราอยู่เสมอ...และตลอดกาล.




.
แปลและเรียบเรียงโดยสุขุมาลย์

credit: www.dhammakid.com


ถ้าจะเยอะไปหน่อยต้องขออภัยด้วยนะครับ

badlyzone
2nd July 2012, 18:54
เยอะๆ:victory

Rex
2nd July 2012, 19:04
ซึ้งโคตรครับบบบบบบบบบบบ