Type-7442
16th June 2012, 20:08
สงสัยกันบ้างไหม ว่าทำไมช่วงนี้จึงมีข่าว การเสียชีวิตหรือการโจมตีกันระหว่างสถาบันของนักศึกษา
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่คนที่จะพอรู้จักเรื่องวงการเช่นนี้อาจจะพอรู้บ้าง
รุ่นพี่ผมที่เป็นเด็กช่างอยู่ปี 3 และค่อนข้างมีประสบการณ์เขาบอกเพียงแต่ว่า " นี่คือฤดูล่า " เขาก็บอกให้ผมระวังตัวไว้ดีๆ
...ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้เท่าไหร่
ผมสงสัยจึงถามพี่คนนั้นไปว่า
" โธ่พี่ เขาผิดอะไร เขาจะกลับบ้านเอง "
พี่ผมยิ้มมุมปาก พลางมองไปทีอื่นแล้วบอกว่า
" ต้องเ้ข้าใจว่าความจริงมันเป็นอย่างไร, ก็สมควรแล้วที่ไปเหยียบถิ่นเขาแบบนั้น "
ผมก็พอจะนึกออก เพราะผมก็ไม่ได้อยู่ในวงการนั้นผมก็อาจจะไม่เข้าใจ
แต่คงจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะที่เด็กช่างโจมตีกันก็เพราะเหตุผลเช่นนี้
แม้เหตุผลเช่นนี้จะดูไม่สมเหตุสมผลที่จะไปฆ่าใคร แต่ความจริงมันเป็นอย่างนั้น..
ธรรมดาที่จะเห็น ช่างกล มักใส่เหยียบกรม ( ยกตัวอย่าง ชุดช็อปของอุเทนสีกรมท่า )
และ ช่างก่อ มักใ่ส่เหยียบสีออกโทนแดง ( ยกตัวอย่าง ชุดช็อปของปทุมวันสีเลือดหมู )
เพียงแค่เหตุผลแค่นี้ก้เพียงพอทำให้คุณเจ็บตัวได้แล้ว..
เพราะเท่าที่จำได้ในคดีไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตใส่ Converse ChuckTaylor สีแดง..
อย่างตามในเหตุการณ์ที่ลงข่าวบ่อยๆ การตีกันของนักศึกษาช่างกล
จะสังเกตุได้แล้ว ทุกครั้งที่ตำรวจไปถึง น้อยมากที่จะพบตัวผู้ต้องหา
กลับพบแต่ผู้บาดเจ็บหรือคนโดนลูกหลง ยากที่จะพบอาวุธให้ยึดหรือนักศึกษา
เว้นแต่จะหาตามจับเจอในภายหลัง
แม้จะจับมาสอบปากคำได้ เหตุการณ์ก็สามารถดิ้นรนเปลี่ยนข้อหาได้ไม่ยาก
จาก พยายามฆ่าคนโดยเจตนา เป็น ป้องกันตนเองและฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาได้
ที่สำคัญยกพวกมา สมมุติมา 7 คน คนเหนี่ยวไกแค่คนเดียว แต่อีก 6 คนลอยนวล
ทั้งทีก็โจมตีคู่อริหรือทำให้เกิดลูกหลงเหมือนกัน
บางกรณีคดีบางคดีก็เงียบไปซะงั้น.. คนทำผิดก็ลอยนวล
ที่สำคัญนอกจากนั้นพาหนะประจำเด็กช่างส่วนใหญ่มักจะเป็น KSR ไม่มีป้ายทะเบียน
คุณอาจจะไม่รู้ว่า ส่วนใหญ่สถานศึกษาช่างกลนั้น มีสิ่งที่เรียกว่า " เฟือง "
1 เฟือง = 1 ศพ ใช้เฟืองร้อนจี้บริเวณต้นแขนหรือตามในร่มผ้า
เป็นสัญลักษณ์บางอย่าง บางทีอาจจะสื่อถึงความน่าเกรงขาม
ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องนั้นไม่ได้ใช่เท่าไหร่
มักใช้ระบบจำนวนเฟิืองมากกว่า
แม้อยู่ปี 1 แต่มีเฟือง 3 ตัว ; รุ่นพี่ปี 4 ที่มีเฟืองแค่ตัวเดียว ก็ต้องชงหรือรินเหล้าให้..
ส่วนมากเป็นปืนไทยประดิษฐ์ นักศึกษามักใช้ลูกปืน 9 หรือ 11 มม เข้าไป ยิงทีเดียวรังเพลิงก็อาจแตกได้เพราะประดิษฐ์กันเอง
( หากโดน 9 มม ยิงในระยะหวังผล ก็จะเหมือนโดนรถเก๋งทั่วไปที่ความเร็วท้องถนนทั่วไปชน เพียงแต่ย่อบริเวณเสียหายลง )
( หากโดน 11 มม ยิงในระยะหวังผล ก็จะเหมือนโดนรถสิบล้อทั่วไปที่ความเร็วท้องถนนทั่วไปชน เพียงแค่ย่อบริเวณเสียหายลง )
การสังเกตุเด็กช่างส่วนใหญ่นั้นไม่ยากลักษณะคือ
- เสื้อยืดตัวใหญ่หน่อยๆ หรือ ปรกติ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นเสื้อยืด
- กางเกงยีนสีฟอก
- รองเท้าผ้าใบ
- สายตามักลอกแลก ไหวตัวอยู่ตลอดเวลา
รู้หรือไม่ว่าบุหรี่ในเรือนจำมวนละ 600 และในกรณีของยาม้าอาจจะเม็ดละ 5,000++ ( ข้างนอกราคาอาจจะอยู่ที่เม็ดละ 300 - 400 ร้อย )
คนขายก็ไม่ใช่ใคร ก็คือพวกเอเย่นที่ติดคุก และรับของมาจากพวกโยนของมา
และที่ไม่น่าสงสัย ในกลุ่มของผู้คุมก็มีเ่ช่นกัน เพราะเงินเดือนไม่กี่หมื่นจะไปพอกินอะไร
เพราะอัตราส่วนผู้คุมหนึ่งคนก็ประมาณต่อนักโทษ 500 คนด้วยซ้ำ
ลองนึกดูนะครับ บุหรี่ตัวนึง 600 บาท ขาย 1 ซองจะได้เท่าไหร่ .. ตัวเดียวดูดไม่กี่นาทีก็หมดแล้ว
อย่าคิดว่าไม่มีคนซื้อนะครับ สิ่งพวกนีเป็นของธรรมดาสำหรับนักโทษส่วนใหญ่เลย
( ข้อหาฆ่าคนก็จะอยู่กับพวกข้อหาฆ่าคน ข้อหาขายยาบ้าก็จะอยู่กับพวกขายยาบ้า )
...
// ขอบคุณครับ
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่คนที่จะพอรู้จักเรื่องวงการเช่นนี้อาจจะพอรู้บ้าง
รุ่นพี่ผมที่เป็นเด็กช่างอยู่ปี 3 และค่อนข้างมีประสบการณ์เขาบอกเพียงแต่ว่า " นี่คือฤดูล่า " เขาก็บอกให้ผมระวังตัวไว้ดีๆ
...ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้เท่าไหร่
ผมสงสัยจึงถามพี่คนนั้นไปว่า
" โธ่พี่ เขาผิดอะไร เขาจะกลับบ้านเอง "
พี่ผมยิ้มมุมปาก พลางมองไปทีอื่นแล้วบอกว่า
" ต้องเ้ข้าใจว่าความจริงมันเป็นอย่างไร, ก็สมควรแล้วที่ไปเหยียบถิ่นเขาแบบนั้น "
ผมก็พอจะนึกออก เพราะผมก็ไม่ได้อยู่ในวงการนั้นผมก็อาจจะไม่เข้าใจ
แต่คงจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะที่เด็กช่างโจมตีกันก็เพราะเหตุผลเช่นนี้
แม้เหตุผลเช่นนี้จะดูไม่สมเหตุสมผลที่จะไปฆ่าใคร แต่ความจริงมันเป็นอย่างนั้น..
ธรรมดาที่จะเห็น ช่างกล มักใส่เหยียบกรม ( ยกตัวอย่าง ชุดช็อปของอุเทนสีกรมท่า )
และ ช่างก่อ มักใ่ส่เหยียบสีออกโทนแดง ( ยกตัวอย่าง ชุดช็อปของปทุมวันสีเลือดหมู )
เพียงแค่เหตุผลแค่นี้ก้เพียงพอทำให้คุณเจ็บตัวได้แล้ว..
เพราะเท่าที่จำได้ในคดีไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตใส่ Converse ChuckTaylor สีแดง..
อย่างตามในเหตุการณ์ที่ลงข่าวบ่อยๆ การตีกันของนักศึกษาช่างกล
จะสังเกตุได้แล้ว ทุกครั้งที่ตำรวจไปถึง น้อยมากที่จะพบตัวผู้ต้องหา
กลับพบแต่ผู้บาดเจ็บหรือคนโดนลูกหลง ยากที่จะพบอาวุธให้ยึดหรือนักศึกษา
เว้นแต่จะหาตามจับเจอในภายหลัง
แม้จะจับมาสอบปากคำได้ เหตุการณ์ก็สามารถดิ้นรนเปลี่ยนข้อหาได้ไม่ยาก
จาก พยายามฆ่าคนโดยเจตนา เป็น ป้องกันตนเองและฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาได้
ที่สำคัญยกพวกมา สมมุติมา 7 คน คนเหนี่ยวไกแค่คนเดียว แต่อีก 6 คนลอยนวล
ทั้งทีก็โจมตีคู่อริหรือทำให้เกิดลูกหลงเหมือนกัน
บางกรณีคดีบางคดีก็เงียบไปซะงั้น.. คนทำผิดก็ลอยนวล
ที่สำคัญนอกจากนั้นพาหนะประจำเด็กช่างส่วนใหญ่มักจะเป็น KSR ไม่มีป้ายทะเบียน
คุณอาจจะไม่รู้ว่า ส่วนใหญ่สถานศึกษาช่างกลนั้น มีสิ่งที่เรียกว่า " เฟือง "
1 เฟือง = 1 ศพ ใช้เฟืองร้อนจี้บริเวณต้นแขนหรือตามในร่มผ้า
เป็นสัญลักษณ์บางอย่าง บางทีอาจจะสื่อถึงความน่าเกรงขาม
ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องนั้นไม่ได้ใช่เท่าไหร่
มักใช้ระบบจำนวนเฟิืองมากกว่า
แม้อยู่ปี 1 แต่มีเฟือง 3 ตัว ; รุ่นพี่ปี 4 ที่มีเฟืองแค่ตัวเดียว ก็ต้องชงหรือรินเหล้าให้..
ส่วนมากเป็นปืนไทยประดิษฐ์ นักศึกษามักใช้ลูกปืน 9 หรือ 11 มม เข้าไป ยิงทีเดียวรังเพลิงก็อาจแตกได้เพราะประดิษฐ์กันเอง
( หากโดน 9 มม ยิงในระยะหวังผล ก็จะเหมือนโดนรถเก๋งทั่วไปที่ความเร็วท้องถนนทั่วไปชน เพียงแต่ย่อบริเวณเสียหายลง )
( หากโดน 11 มม ยิงในระยะหวังผล ก็จะเหมือนโดนรถสิบล้อทั่วไปที่ความเร็วท้องถนนทั่วไปชน เพียงแค่ย่อบริเวณเสียหายลง )
การสังเกตุเด็กช่างส่วนใหญ่นั้นไม่ยากลักษณะคือ
- เสื้อยืดตัวใหญ่หน่อยๆ หรือ ปรกติ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นเสื้อยืด
- กางเกงยีนสีฟอก
- รองเท้าผ้าใบ
- สายตามักลอกแลก ไหวตัวอยู่ตลอดเวลา
รู้หรือไม่ว่าบุหรี่ในเรือนจำมวนละ 600 และในกรณีของยาม้าอาจจะเม็ดละ 5,000++ ( ข้างนอกราคาอาจจะอยู่ที่เม็ดละ 300 - 400 ร้อย )
คนขายก็ไม่ใช่ใคร ก็คือพวกเอเย่นที่ติดคุก และรับของมาจากพวกโยนของมา
และที่ไม่น่าสงสัย ในกลุ่มของผู้คุมก็มีเ่ช่นกัน เพราะเงินเดือนไม่กี่หมื่นจะไปพอกินอะไร
เพราะอัตราส่วนผู้คุมหนึ่งคนก็ประมาณต่อนักโทษ 500 คนด้วยซ้ำ
ลองนึกดูนะครับ บุหรี่ตัวนึง 600 บาท ขาย 1 ซองจะได้เท่าไหร่ .. ตัวเดียวดูดไม่กี่นาทีก็หมดแล้ว
อย่าคิดว่าไม่มีคนซื้อนะครับ สิ่งพวกนีเป็นของธรรมดาสำหรับนักโทษส่วนใหญ่เลย
( ข้อหาฆ่าคนก็จะอยู่กับพวกข้อหาฆ่าคน ข้อหาขายยาบ้าก็จะอยู่กับพวกขายยาบ้า )
...
// ขอบคุณครับ