Michiri
17th June 2012, 21:13
ฝากอีก 1 กระทู้ของผมครับ เทพเจ้ากรีก (http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=103243)
สิ่งมีชีวิตในตำนานกรีก
พวกอมนุษย์
ยังลงไม่ครบนะครับ จะทยอยลงให้เรื่อย
http://cdicollegeconte.kegtux.org/imythologie/typhon1.jpg
ขอบคุณภาพจาก LanaDelRey
ไทฟอน (อังกฤษ: Typhon)
เป็นอสูรกายยักษ์ซึ่งได้เกิดมาจากพระแม่ธรณีไกอา (บ้างคัมภีร์บอกว่าเป็นเจอา ไกอา หรือไมอา) กับปีศาจทาร์ทารัสซึ่งถือกำเนิดเป็นไทฟอน (ในหนังสือ Mythology ของเฮดิธ แฮมิลต้น อธิบายไว้ว่าไทฟอนเป็นอสุรกายร้อยหัว ตาลุกไฟ และสามารถพ่นไฟได้)บ้างก็ว่าร่างกายเป็นคน น้ำตาเป็นพิษ มีหัวร้อยหัว ซึ่งเจอาได้สั่งให้ไทฟอนไปโค่นเขาโอลิมปัส พลังของไทฟอนร้ายกาจถึงขั้นกางปีนสามารถปิดโลกได้ เมื่อเคลื่อนไหวร่างกายจะกลายเป็นพายุขนาดใหญ่ นอกจากนี้ไทฟอนยังเป็นบิดาของปิศาจทั้งปวง ส่วนมารดาของปิศาจทั้งปวงนั้นคืออีคิดน่า และต่อมาผู้คนที่เคยเรียกพายุนี้ว่า ไทฟอน ก็เพี้ยนมาเป็น ไต้ฝุ่น จนถึงทุกวันนี้
-----------------------------------------------------------------
http://tn3-1.deviantart.com/fs16/300W/f/2007/193/f/9/Siren_by_michan.jpg
ขอบคุณภาพจาก LanaDelRey
ไซเรน (อังกฤษ: Siren, กรีก: Σειρήν, Σειρῆνες)
Siren มีหลายที่มา บ้างว่าเป็นหญิงนางเงือก แต่ส่วนใหญ่ระบุว่าครึ่งนกครึ่งผู้หญิง อาศัยตามโขดหิน คอยร้องเพลงขับขานด้วยเสียงเพลงอันไพเราะราวเสียงสวรรค์
เพื่อหลอกล่อชาวเรือเข้ามาชนหินโสโครก บ้างก็ว่าเสียงร้องของนางสะกดให้ชาวเรือหลงไหล ลืมสิ้นทุกสิ่ง จนโดดลงทะเลเพื่อว่ายไปหานาง
ในตำนานกรีก เมื่อเจสันและลูกเรืออาร์โกนอทจำเป็นต้องผ่านน่านน้ำที่ไซเรนอาศัยอยู่ แต่ออร์เฟียสได้ดีดพิณเป็นทำนองเพลงที่ไพเราะยิ่งกว่าของไซเรน ดึงความสนใจของลูกเรืออาร์โกนอทไว้จึงผ่านมาได้อย่างปลอดภัย
และในเวลาต่อมา โอดิสซีสอุส อยากรู้ว่าเสียงเพลงของไซเรนเป็นอย่างไร จึงให้ลูกเรือทุกคนใช้ขี้ผึ้งอุดหู แล้วมัดเขาไว้กับเสากระโดงเรือ ในที่สุดก็ผ่านไปได้
-----------------------------------------------------------------
http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2012/03/cro1.jpg
โครเนิส (อังกฤษ: Cronus หรือ Kronus, /kroʊ nəs)
เป็นเทพแห่งกาลเวลาและผู้นำเหล่ายักษ์ไททัน (Titan) รุ่นแรกที่มีอายุน้อยที่สุด ซึ่งเป็นทายาทของเทพีไกอา (Gaia) พระแม่ธรณี และ เทพบิดาอูรานอสหรือเทพยูเรนัส (Uranus) เทพแห่งท้องนภา เทพโครเนิสได้ทำการโค่นบัลลังก์ของพระบิดา เทพยูเรนัส และขึ้นครองบัลลังก์ในช่วงยุคทอง จนกระทั่งถูกโค่นบัลลังก์โดยพระโอรสของตน เทพซุส (Zeus) เทพโครเนิสมิได้ถูกจองจำในยมโลกทาร์ทารัส (Tartarus) เหมือนเช่นไททันตนอื่นๆ แต่เขากลับหลบหนีไป
ด้วยเหตุที่ว่าเทพโครเนิสมีความเกี่ยวเนื่องกับยุคทอง เขาจึงได้รับการสักการะในฐานะเทพแห่งฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งรวมไปถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลเช่น ข้าว ธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตร และการเดินไปข้างหน้าของกาลเวลาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ภาพของเทพโครเนิสมักถือเคียวไว้ในมือ ซึ่งพระองค์ใช้ในการเก็บเกี่ยวพืชผล และเป็นอาวุธที่พระองค์ใช้โค่นบัลลังก์เทพยูเรนัส ในกรุงเอเธนส์ (Athens) วันที่ 12 ของทุกๆ เดือน ถูกเรียกว่าวันฮีคาทอมบาเอียน (Hekatombaion) ซึ่งจะมีงานเทศกาลชื่อว่า เทศกาลโครเนีย (Kronia) จะจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพโครเนิสสำหรับฤดูเก็บเกี่ยว พระนามของเทพโครเนิสในตำนานเทพปกรณัมโรมันคือ เทพแซทเทิร์น (Saturn)
-----------------------------------------------------------------
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/192/7192/images/Atlas/Atlas3.jpg
แอตลาส (อังกฤษ: Atlas, /ˈætləs/)
เป็นหนึ่งในเหล่าไททันที่ก่อกบฏในสงครามไททัน หลังจากที่พ่ายแพ้ต่อเหล่าเทพโอลิมเปียนแล้ว แอตลาสก็ถูกลงโทษให้เป็นผู้แบกท้องฟ้า(บางตำนานว่าเป็นโลก)ไว้บนบ่า
แอตลาสเป็นผู้ช่วยให้เฮอร์คิวลีสสามารถทำภารกิจสำเร็จหนึ่งภารกิจ นั่นคือการไปนำแอปเปิ้ลทองคำของเฮสเพอร์ริดิสมาให้กษัตริย์ เพราะแอตลาสเป็นบิดาของพวกเฮสเพอร์ริดิส และเป็นเพียงผู้เดียวที่จะสามารถไปนำแอปเปิ้ลทองคำเหล่านั้นมาได้
เฮอร์คิวลีสได้อาสาแบกท้องฟ้า(โลก)ไว้จนกว่าแอตลาสจะนำแอปเปิ้ลมาได้
-----------------------------------------------------------------
http://www.newanimal.org/tumnus_faun_satyr.jpg
เซเทอร์ (อังกฤษ: satyr (เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈseɪtər/))
ตามตำนานเทพปกรณัมกรีก เป็นมนุษย์ในวัยหนุ่ม มักมีหูเป็นหูม้า มีเขาเล็กเหมือนแพะ มีขาเป็นแพะ มักท่องเที่ยวในป่าและภูเขา บางตำราบอกว่าเป็นเทพารักษ์ อีกทั้งยังเป็นผู้ติดตามของเทพแพน (Pan) และเทพไดโอไนซัสอีกด้วย ในเทพปกรณัม เซเทอร์ เกี่ยวข้องกับพลังทางเพศของเพศชายและผลงานศิลปกรรมกรีก-โรมันมักสร้างภาพของเซเทอร์ให้มีอวัยวะเพศที่ตั้งชูชัน
-----------------------------------------------------------------
http://fc05.deviantart.net/fs25/f/2008/140/c/c/cc63102a83a76595f2cc3a66a0dc50fb.jpg
ฮาร์พี (อังกฤษ: harpy, /hɑrpi/)
เป็นสิ่งมีชีวิตตามตำนานกรีกซึ่งมีรูปกายเป็นมนุษย์ผู้หญิง มีท่อนล่างอย่างนก และมีปีก
กล่าวกันว่าแต่เดิมฮาร์ปีมีเพียงสองตนเท่านั้น คือเอลโล และโอไซพีเทส ธิดาแห่งเธามาส และโอเชียนิดนามอิเล็กตร้า (โอเชียนิดคือนิมฟ์แห่งทะเล) เธามาสผู้นี้เป็นโอรสของพอนทัสและไกอา ทั้งพอนทัสและไกอาต่างก็เป็นเทพเจ้าโบราณของกรีก โดยพอนทัสเป็นเทพแห่งทะเล ส่วนไกอาเป็นเทพแห่งพิภพ ฮาร์ปีทั้งสองเป็นพี่น้องกับเทวีไอริส ซึ่งเป็นเทวีผู้ทำหน้าที่นำสารให้กับเหล่าเทพเจ้าต่างๆ เช่นเดียวกับเฮอร์เมส หากแต่เฮอร์เมสนั้นขึ้นตรงต่อเทพบดีซูส ในขณะที่ไอริสเป็นเทวีใต้บัญชาของเฮร่า เทวีไอริสยังมีปีกเป็นนกเช่นเดียวกับอีรอส และมักถูกกล่าวถึงในลักษณะของสาวน้อยมีปีก ถือคทานำสาร นอกจากนี้ไอริสยังเป็นเทวีพรหมจรรย์ และถือเป็นเทวีแห่งสะพานสายรุ้งอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------
http://semodyssey3.wikispaces.com/file/view/pic4.gif
ไซคลอปส์ (กรีก: Κύκλωψ; ละติน: Cyclops หรือ Kyklops) หรือ อสูรตาเดียว เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก
ชื่อไซคลอปส์ถูกใช้ระบุถึงยักษ์ตาเดียวสองชนิด โดยชนิดแรกเป็นลูกของเจ้านภา ยูเรนัสและพระแม่ธรณี ไกอา ซึ่งไซครอปส์จำพวกนี้มีเด่นๆ3ตน คือ อาจีรอส บรอนทีส และสเตอร์โรพีท มักจะถือค้อนอันใหญ่ มีพลังแห่งสายฟ้า และมีฝีมือในด้านช่างเหล็ก ไซคลอปส์กลุ่มนี้ถูกยูเรนัสกักขังไว้ในทาทารัส จนกระทั่งซุสปลดปล่อยออกมาหลังจากที่โค่นโครนัสผู้เป็นบิดา ซึ่งไซคลอปส์ได้ตอบแทนโดยตีอาวุธต่างๆให้เหล่าเทพ ได้แก่ สายฟ้า thunderbolt ให้แก่ ซุส สามง่ามหรือตรีศูร ให้แก่ โพเซดอน หมวกล่องหน ให้แก่ ฮาเดษ และเหล่าไซคลอปส์ได้เป็นลูกมือของเทพแห่งช่างเหล็กเฮฟเฟสตุสในเวลาต่อมา จนกระทั่งถูกอพอลโลสังหารเพื่อล้างแค้นให้แอสคิวลาปิอัสที่ถูกซุสใช้สายฟ้าฟาด
ไซคลอปส์กลุ่มที่สองเป็นลูกหลานของโพเซดอนและพรายน้ำโทซา ไซคลอปส์กลุ่มนี้กินมนุษย์เป็นอาหาร โดยมีบทบาทในเรื่องโอดิสซีย์ ไซคลอปส์มีความนิยมมากเหมือนกัน เช่นไซคลอปส์ในการ์ตูน ไซคลอปส์ในเกม
-----------------------------------------------------------------
http://gunsp.files.wordpress.com/2010/02/centaurs.jpg
เซนทอร์ (อังกฤษ: centaur; มาจากภาษากรีกโบราณ κένταυροι)
เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในเทพปกรณัมกรีก มีร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่ส่วนลำตัวลงไปเป็นม้าหนุ่มที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ สง่างาม อาศัยอยู่แถบภูเขาของอาคาเดีย และเทสสาลีในประเทศกรีซ
เซนทอร์มีสองตระกูล โดยตระกูลหนึ่งเกิดจาก อิคซอน อันธพาลแห่งสวรรค์ที่ขึ้นชื่อ กับอีกตระกูลที่เกิดจากโครนัส ฝ่ายหลังมีอุปนิสัยดีแตกต่างจากฝ่ายแรกมาก
เซนทอร์ตระกูลอิคซอน เกิดจากอิคซอนกับเนฟีลี มีพละกำลังมาก ชอบดื่มไวน์กับชอบไล่คว้าผู้หญิง ซ้ำชอบทะเลาะเวลาเมา เซนทอร์จึงถูกมองว่าเป็นพวกขี้เมาไม่กลัวใครทั้งสิ้น
เซนทอร์ตระกูลโครนัสต่างกับตระกูลอิคซอน เป็นเซนทอร์แสนดี โครนัสแต่งงานกับฟีลีร่า นางอัปสรน้ำผู้เลอโฉม มีลูกชื่อไครอน ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียน มีความสุขุมรอบคอบจนได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของเหล่าวีรบุรุษหลายคนในตำนานกรีก เช่น อคิลลีส, เฮอร์คิวลีส, เจสัน, พีลูส, อีเนียส และบรรดาลูกศิษย์ของเขาก็ประพฤติตัวตามแบบครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดี
-----------------------------------------------------------------
http://i82.photobucket.com/albums/j245/carria_jang/Animal/bellerophon.jpg
คิมีร่า Chimera หรือ Chimaera ชื่อกรีก= Χιμαιρα
คิมีร่าเป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีส่วนผสมของสัตว์อีกสามชนิด ได้แก่ สิงโต แพะ และงูหรือมังกร โดยมันมีส่วนหัวปกติจนไปถึงอกเป็นสิงโต ส่วนกลางของมันเป็นแพะ และมีส่วนท้ายเป็นงู มีหัวงูอยู่ที่ตรงปลายหางสามารถศัตรูได้ ซึ่งแต่ละหัวของมันนั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง หัวมังกรของมันสามารถพ่นไฟได้ หายใจเป็นเปลวไฟ หางมันเป็นงูพิษร้ายแรง กัดแล้วถึงตายในทันที คิเมร่าเป็นลูกของอสูรกายไทฟอน และอิคิดนา มีพี่น้องหกตัวได้แก่ เซอร์บีรัส ไฮดรา นีเมียน สฟิงซ์ และเลดอน
คิมีราบุกเข้าทำลายเมือง ลีเซีย(Lycia) ทำให้กษัตริย์โลเบทีสซึ่งเป็นเจ้าปกครองเมืองอยู่ในขณะนั้น ต้องการผู้มาปราบเจ้าสัตว์ร้ายตนนี้ บังเอิญวีรบุรุษ เบลเลอโรฟอน ขี่ม้าบินปีกาซัสผ่านมาพอดีจึงอาสาที่จะฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายตนนี้ แต่มันออกจะเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละหัวของมันมองได้ทุกทิศทาง เบลเลอโรฟอนขี่ม้าบินเพกาซัสฉวัดเฉวียนอยู่เหนือคู่ต่อสู้ คอยหลบเปลวเพลิงที่พรุ่งพรวยออกมาจากปากของมัน และกระหน่ำห่าธนูใส่ จนในที่สุดเจ้าอสูรร้ายก็สิ้นชีพ
-----------------------------------------------------------------
http://www.thaigoodview.com/files/u1305/8071.jpg
ก็อบลิน (Goblin)
เป็นพวกโนมที่มีรูปร่างวิกลวิการ พวกมันชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งก็ชั่วร้ายและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน รอยยิ้มของก็อบลินทำให้เลือดหยุดไหล เสียงหัวเราะทำให้นมบูดและผลไม้หล่น ก็อบลินมีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส
-----------------------------------------------------------------
http://board.postjung.com/data/558/558247-topic-ix-4.jpg
บาซิลิสก์ (Basilisk)
เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยองในตำนานกรีกและยุโรป ซึ่งแค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้ ในทำนองเดียวกับ เมดูซ่า
ได้มีนักเล่านิทานคนหนึ่งอธิบายว่า บาซิลิสก์เป็น "งูที่มีมงกุฎสีทองเล็กๆ บนหัว ในยุคกลางมีผู้เชื่อว่ามันเป็นเพียงงูที่มีหัวเหมือนไก่ บางครั้งก็มีหัวเป็นคน บาซิลิสก์เกิดจากไข่ที่ออกมาจากพ่อไก่ระหว่างที่ กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ ปรากฏบนท้องฟ้า และได้คางคกเป็นผู้กกไข่ การมองเห็นบาซิลิกก์นั้นน่ากลัวสยดสยองมาก ถ้าสัตว์ใดก็ตามได้เพียงเห็นมันมองผ่าน แม้แต่ทางกระจกก็อาจตายได้ทันทีเพราะความกลัว วิธีเดียวที่จะฆ่ามันได้ก็คือต้องถือกระจกไว้ข้างหน้าตัวมันก่อนที่มันจะมองผ่านมา เมื่อมันมองมาในกระจกนั้น มันก็จะเห็นเงาตัวมันเองในกระจกและตายในทันที มีผู้เชื่อว่าบาซิลิสก์มีเขาหรือมีพังผืดด้วย"
ในยุโรปสมัยกลาง บาซิลิสก์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย โดยคู่กับกริฟฟิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความดี บาซิลิสก์เป็นสัญลักษณ์ของเมือง บาเซิล (Basel) ใน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บาซิลิสก์ถูกนำไปใช้หลายครั้งตามนิยายแฟนตาซีต่างๆ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
ซึ่งชื่อ บาซิลิสก์ นี้ได้ถูกตั้งเป็นทั้งชื่อเรียกสามัญ และชื่อวิทยาศาสตร์ของกิ้งก่าจำพวกหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ มีหงอนบนหัว และสามารถวิ่งได้เร็วมากจนวิ่งบนน้ำได้ โดยกิ้งก่าจำพวกนี้ มีชื่อสกุลว่า Basiliscus
-----------------------------------------------------------------
http://statics.atcloud.com/files/comments/76/765638/images/1_display.jpg
เซอร์บีรัส Cerberus หรือ เคอร์เบรอส Kerberos ชื่อในภาษากรีก Kerberos
เป็นสัตว์ในตำนานกรีก เป็นบุตรของไทฟอน(Typhon) และอีคิดน่า(Echidna)มีพี่น้องหกตัวได้แก่ ไคเมร่า ไฮดรา สฟริงซ์ นีเมียน ลาดอน(แต่ละตัวนี่ไม่ไช่เล่น)โดยเซอร์บีรัส มีรูปร่างเป็นสุนัขสามหัวตัวใหญ่ แข็งแรง มีหางเป็นงูที่สามารถฉกกัดได้ แต่สำหรับผมคิดว่า เซอร์บีรัสน่ามีหางเป็นงูแน่นอนเพราะเป็นลูกของอีคิดน่า ซึ่งมีรูปร่างเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาแสนสวย แต่ท่อนล่างของนางกับเป็นงูใหญ่จึงไม่ผิดที่เซอร์บีรัสจะมีหางเป็นงู ภายหลังเทพเฮดิส(Hedes)ได้นำเซอร์บีรัสไปเป็นยามเฝ้าประตูนรก มันจึงถือได้ว่าเป็นสัตว์อารักขาประจำตัวของเทพเจ้าเฮดิสเลยทีเดียว ในภาพเห็นตัวแค่นี้แต่จริงในตำนานกล่าวว่ามันมีตัวใหญ่ ถึงไม่เท่ามังกรก็เถอะ เราจะเห็นได้ในภาพยนตร์หรือในวรรณกรรมหลายๆเรื่อง ที่เห็นสุนัขสามหัวตัวใหญ่เฝ้าทางเข้านรก หรือสิ่งของอื่นๆตามจินตนาการของผู้เขียน
นรกที่ว่า หมายถึงนรกในตำนานของชาวกรีก เฮดิส(ตามชื่อผู้ปกครอง) ซึ่งเซอร์บีรัสจะเฝ้าที่นี่ไว้โดยมันจะให้คนที่ตายแล้วผ่านเข้าไป แต่จะไม่ให้กลับออกมาอีก ส่วนคนที่ยังไม่ตาย อย่าหวังว่าจะได้เข้าไป มันจะไม่ให้ผ่านเข้าไปเด็ดขาด!
และที่ได้ยินกันบ่อยในตำนานของวีรบุรุษในตำนาน เฮอร์คิวลิส(Herculis) หรือเฮราเคิลในตำนานโรมัน โอรสของจอมเทพซูส โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ เฮอร์คิวลิสถูกเทพีเฮร่ากลั่นแกล้งในฐานะที่เป็นลูกภรรยาน้อยของซูส ให้เฮอร์คิวลิสทำความผิดนานาประการ ผู้พยากรแห่งวิหารเดลฟีได้บอกแก่เขาว่า เขาจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ที่ไร้ความสามารถเป็นเวลาถึง 12 ปี และเขาต้องทำภาระกิจ 12 อย่าง เช่นต่อสู้กับสัตว์ร้ายต่างๆหนึ่งในนั้นคือจับเซอร์บีรัส ในกาลนั้น เขาได้เดินทางไปยังไต้บาดาลและต่อสู้กับเซอร์บีรัสอย่างดุเดือด แต่ด้วยพละกำลังมหาศาลที่ได้จากเทพซูสผู้เป็นบิดา จึงสามารถจับเซอร์บีรัสไปถวายกษัตริย์ได้
และยังมีตำนานของออร์ฟีอุส ซึ่งภรรยาของเขาถูกงูพิษกัดตาย เขาได้ใช้พรสวรรค์ในการเล่นพิณ ทำให้เซอบีรัสเคลิ้มหลับไป ปล่อยให้เขาไปเข้าตามวิญญาณภรรยาในเฮดิสโดยง่าย ด้วยเสียงพิณนี้เอง เทพเฮดิสและเพอซีโฟนีภรรยาได้ทรงสดับเสียงพิณอันไพเราะ เกิดความประทับใจในความสามารถและความพยายามของเขา ยอมให้ยูริดิซี คนรักของออร์ฟีอุสกลับไปมีชีวิตได้ ทว่ามีข้อแม้ว่าเขาห้ามหันมามองนางระหว่างทางกลับจนกว่าจะถึงโลกมนุษย์ แต่เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ออร์ฟีอุสลืมคำเตือนของเฮดิส หันไปมองยูริดิซี ทำให้นางต้องกลับไปอยู่ในใต้ภิภพตลอด
-----------------------------------------------------------------
http://4.bp.blogspot.com/-OwRMuE_70kU/Tj9fQOppKZI/AAAAAAAAAAg/767k7lv4AII/s1600/untitled.bmp
Nemean>อสุรกายนีเมียน
ในเมื่อว่างก็ต้องทำให้เสร็จ จากตอนของเคอเบรุส สุนัขสามหัวได้กล่าวไว้ว่าเฮอคิวลิสจะต้องทำภารกิจ 12 อย่างเพื่อเป็นการไถ่บาป เช่นต่อสู้กับสัตว์ราย และภารกิจข้อแรก ซึ่งง่ายที่สุดของเฮอคิวลิสคือ ฆ่านีเมียน นีเมียนเป็นหนึ่งในหกพี่น้องตระกูลไทฟอน(พ่อ)-อิคิดนา(แม่) โดยรวมแล้ว มีรูปร่างเป็นราชสีห์ตัวใหญ่ มีขนสีทอง นีเมียนไม่มีลักษณะเด่นที่น่าสนใจนัก มีเพียงผิวหนังของมันซึ่งแข็งแกร่งดุจเหล็กเพชร ไม่มีอาวุธใดๆทะลุผ่านได้ (ขอบอกว่าเรื่องนี้สั้นมาก) นีเมียนได้กบดานอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง โดยเฮอคิวลิสต้องล่อมันออกมาจากถ้ำ และได้เข้าต่อสู้กัน แต่เนื่องจากอาวุธทำอันตรายมันไม่ได้(อาวุธของเฮอคิวลิวคือ ดาบ และธนูกับลูกดอกทำจากไม้มะกอก) เลยต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่าๆ หลังจากต่อสู้กับเจ้าสิงโตได้ไม่นาน เฮอคิวลิสก็บีบคอมันตายคามือ และได้ถลกหนังมันออก แล้วเอาไว้เป็นเครื่องป้องกันตัว
-----------------------------------------------------------------
http://www.3dtotal.com/admin/upload/gallery/big/2009-11-26(50991)_Hydra_monster_1.jpg
ไฮดรา (กรีก: Λερναία Ύδρα; อังกฤษ: Hydra)
เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก มีหลายหัว แต่ละหัวมีลักษณะหัวเหมือนงู ไฮดรามีหัวน้อยที่สุดคือ 8 หัว เมื่อแต่ละหัวที่ถูกตัดจะมีหัวเพิ่มขึ้นอีกสองหัว และมันมีมากได้อย่างไม่สิ้นสุด บางตำนานกล่าวว่ามันมี 100 หัว ไฮดราเป็นอสูรกายที่มีลำตัวเป็นสุนัข ร่างกายปลกคลุมด้วยเกล็ดและมีหางเหมืองมังกร ลมหายใจของมัน มีอันตรายถึงขนาดที่ทำให้คนที่เข้าไกล้ถึงแก่ความตาย มันเป็นลูกหลานของ Typhon (สัตว์ในตำนาน) และ Echidna เมื่อตอนที่สร้างตำนานนี้ชาวกรีกโบราณอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจาก หมึก ซึ่งอาจเป็นเพราะหมึกจะงอกหนวดขึ้นมาใหม่เมื่อหนวดเก่าถูกทำลาย
-----------------------------------------------------------------
http://board.postjung.com/data/501/501061-topic-ix-0.jpg
เมดูซ่า (Medusa)
ในตำนานของกรีกนั้น เมดูซ่า (อังกฤษ: Medusa) เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู และเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอ (จ้องตา) คนผู้นั้นจะกลายเป็นหิน ที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้น เมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก เมดูซ่า เป็นลูกสาวของเทพแห่งท้องทะเล ฟอซิส และนางซีโต นางถือเป็นหลานของเทพีไกอาและเทพพอนทัส มีพี่น้องคือ สเธโน ยูริอาลี และกราเอีย
เรื่องเริ่มขึ้นจากเพอร์ซิอุสวีรบุรุษอีกผู้หนึ่งของชาวกรีก เพอร์ซิอุสได้รับคำสั่งจากกษัตริย์ใจร้ายที่พยายามหาทางกำจัดเขาเพื่อจะได้แต่งงานกับมารดาของเขา โดยให้ไปสังหารเมดูซ่าซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของสามพี่น้องตระกูลกอร์กอน เล่ากันว่าครั้งหนึ่งเมดูซ่าเคยเป็นสาวงาม แต่เพราะโดนโพไซดอน เทพแห่งท้องทะเลขืนใจ ในวิหารของเทพีอธีนา เทพีอธีนาจึงกล่าวหาว่าเมดูซ่าลบหลู่นาง ดังนั้นนางจึงโดนสาปให้กลายเป็นหญิงอัปลักษณ์ มีผมเป็นงู และมีดวงตาเป็นอำนาจลึกลับหากผู้ใดจ้องมองจะกลายเป็นหินทันที เชื่อกันว่า บรรดารูปปั้นหินชายและหญิงจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดตามแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นส่วนหนึ่งของผู้โชคร้ายที่มาพบเห็นเมดูซ่านั่นเอง
ในบรรดาสามพี่น้องตระกูลกอร์กอนนี้ มีเพียงเมดูซ่าเท่านั้นที่ไม่เป็นอมตะ คือถูกฆ่าตายได้ แต่นับเป็นเรื่องที่ยากที่จะมีใครทำได้โดยไม่กลายเป็นหินเสียก่อน ทั้งสามอาศัยอยู่ในถ้ำลึกบนเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกล ถ้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยหินจำนวนมากที่ครั้งหนึ่งนั้นเคยเป็นมนุษย์และสัตว์ที่มีชีวิตจิตใจ
เมื่อเพอร์ซิอุสได้รับคำสั่งให้ไปกำจัดเมดูซ่า เขาจำเป็นต้องหาที่อยู่ของนางเสียก่อน เพอร์ซิอุสจึงไปถามจากหญิงชราสามคนที่มีตาเพียงดวงเดียว ดวงตานี้มีอำนาจมองเห็นไกลทั่วโลก ในขณะที่หญิงชราทั้งสามถกเถียงกันเพื่อจะแย่งดวงตานี้มาใช้เพอร์ซิอุสแอบขโมยดวงตาไป ทำให้ทั้งสามมองไม่เห็นหญิงชราทั้งสามจึงจำต้องบอกที่อยู่อของเมดูซ่าให้แก่เพอร์ซิอุสเพื่อแลกกับการดำรงชิวิตของพวกตน
จากนั้นเพอร์ซิอุสจึงเดินไปยังที่อยู่ของเมดูซ่า ซึ่งเขามีเทพเฮอร์เมสและเทพอธีนาคอยให้ความช่วยเหลือ โดยมอบดาบวิเศษพร้อมโล่เอจีส หมวกล่องหน รองเท้าติดปีก และย่ามวิเศษ ให้เขานำติดตัวไปด้วย คืนหนึ่งในขณะที่เมดูซ่ากำลังหลับสนิท เพอร์ซิอุสแอบเข้าไปในถ้ำ เขาใช้โล่ที่ขัดเป็นเงาราวกระจกส่องดูเงาสะท้อนของเมดูซ่า เพื่อหลีกเลี่ยงการมองของนางโดยตรง จากนั้นเขารีบใช้ดาบวิเศษตัดศีรษะของนาง แล้วโยนใส่ลงในย่ามวิเศษ
ทันทีที่หยดเลือดหลั่งรินออกมาจากบาดแผลของเมดูซ่า เพกาซัส ม้ามีปีกสีขาวก็ถือกำเนิดขึ้นมา สองพี่น้องของเมดูซ่าซึ่งเป็นอมตะ พยายามจะทำร้ายเพอร์ซิอุส แต่เขาใช้หมวกล่องหนและรองเท้าติดปีกช่วยให้ตนเองหลบหลีกออกไปได้ เมื่อเพอร์ซิอุสกลับไปถึงเมืองของกษัตริย์ใจร้ายที่เป็นผู้มอบหมายให้ไปกำจัดเมดูซ่า เขามอบศีรษะของเมดูซ่าให้แก่กษัตริย์พระองค์นั้น ซึ่งทำให้พระองค์กลายเป็นหินไปในทันทีที่ทอดพระเนตร
ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่าเส้นผมที่เป็นงูของเมดูซ่านี้สามารถป้องกีนการปองร้ายของเหล่าปิศาจได้เป็นอย่างดี ในภายหลังเพอร์ซิอุสได้นำศีรษะของเมดูซ่าถวายแด่เทพีอธีนาผู้ช่วยเหลือเขามาตั้งแต่แรก เทพีอธีนานำเพกาซัสไปยังยอดเขาโอลิมปัสซึ่งเป็นสถานที่พำนักของเหล่าเทพโอลิมเปียน และมอบให้อยู่ในการดูแลของเทพธิดามิวส์ทั้งเก้าองค์ซึ่งเป็นเหล่าเทพธิดาผู้ดลใจให้ความคิดสร้างสรรค์แก่นักศิลปะทั้งมวล เพกาซัสเป็นม้าที่องอาจปราดเปรียว ไม่ยอมให้ผู้ใดขี่หรือแตะต้อง มีแต่เทพธิดามิวส์เท่านั้นที่เข้าใกล้ได้
ขอขอบคุณ สัตว์ในตำนานกรีก (http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1216025)
สิ่งมีชีวิตในตำนานกรีก
พวกอมนุษย์
ยังลงไม่ครบนะครับ จะทยอยลงให้เรื่อย
http://cdicollegeconte.kegtux.org/imythologie/typhon1.jpg
ขอบคุณภาพจาก LanaDelRey
ไทฟอน (อังกฤษ: Typhon)
เป็นอสูรกายยักษ์ซึ่งได้เกิดมาจากพระแม่ธรณีไกอา (บ้างคัมภีร์บอกว่าเป็นเจอา ไกอา หรือไมอา) กับปีศาจทาร์ทารัสซึ่งถือกำเนิดเป็นไทฟอน (ในหนังสือ Mythology ของเฮดิธ แฮมิลต้น อธิบายไว้ว่าไทฟอนเป็นอสุรกายร้อยหัว ตาลุกไฟ และสามารถพ่นไฟได้)บ้างก็ว่าร่างกายเป็นคน น้ำตาเป็นพิษ มีหัวร้อยหัว ซึ่งเจอาได้สั่งให้ไทฟอนไปโค่นเขาโอลิมปัส พลังของไทฟอนร้ายกาจถึงขั้นกางปีนสามารถปิดโลกได้ เมื่อเคลื่อนไหวร่างกายจะกลายเป็นพายุขนาดใหญ่ นอกจากนี้ไทฟอนยังเป็นบิดาของปิศาจทั้งปวง ส่วนมารดาของปิศาจทั้งปวงนั้นคืออีคิดน่า และต่อมาผู้คนที่เคยเรียกพายุนี้ว่า ไทฟอน ก็เพี้ยนมาเป็น ไต้ฝุ่น จนถึงทุกวันนี้
-----------------------------------------------------------------
http://tn3-1.deviantart.com/fs16/300W/f/2007/193/f/9/Siren_by_michan.jpg
ขอบคุณภาพจาก LanaDelRey
ไซเรน (อังกฤษ: Siren, กรีก: Σειρήν, Σειρῆνες)
Siren มีหลายที่มา บ้างว่าเป็นหญิงนางเงือก แต่ส่วนใหญ่ระบุว่าครึ่งนกครึ่งผู้หญิง อาศัยตามโขดหิน คอยร้องเพลงขับขานด้วยเสียงเพลงอันไพเราะราวเสียงสวรรค์
เพื่อหลอกล่อชาวเรือเข้ามาชนหินโสโครก บ้างก็ว่าเสียงร้องของนางสะกดให้ชาวเรือหลงไหล ลืมสิ้นทุกสิ่ง จนโดดลงทะเลเพื่อว่ายไปหานาง
ในตำนานกรีก เมื่อเจสันและลูกเรืออาร์โกนอทจำเป็นต้องผ่านน่านน้ำที่ไซเรนอาศัยอยู่ แต่ออร์เฟียสได้ดีดพิณเป็นทำนองเพลงที่ไพเราะยิ่งกว่าของไซเรน ดึงความสนใจของลูกเรืออาร์โกนอทไว้จึงผ่านมาได้อย่างปลอดภัย
และในเวลาต่อมา โอดิสซีสอุส อยากรู้ว่าเสียงเพลงของไซเรนเป็นอย่างไร จึงให้ลูกเรือทุกคนใช้ขี้ผึ้งอุดหู แล้วมัดเขาไว้กับเสากระโดงเรือ ในที่สุดก็ผ่านไปได้
-----------------------------------------------------------------
http://movie.mthai.com/wp-content/uploads/2012/03/cro1.jpg
โครเนิส (อังกฤษ: Cronus หรือ Kronus, /kroʊ nəs)
เป็นเทพแห่งกาลเวลาและผู้นำเหล่ายักษ์ไททัน (Titan) รุ่นแรกที่มีอายุน้อยที่สุด ซึ่งเป็นทายาทของเทพีไกอา (Gaia) พระแม่ธรณี และ เทพบิดาอูรานอสหรือเทพยูเรนัส (Uranus) เทพแห่งท้องนภา เทพโครเนิสได้ทำการโค่นบัลลังก์ของพระบิดา เทพยูเรนัส และขึ้นครองบัลลังก์ในช่วงยุคทอง จนกระทั่งถูกโค่นบัลลังก์โดยพระโอรสของตน เทพซุส (Zeus) เทพโครเนิสมิได้ถูกจองจำในยมโลกทาร์ทารัส (Tartarus) เหมือนเช่นไททันตนอื่นๆ แต่เขากลับหลบหนีไป
ด้วยเหตุที่ว่าเทพโครเนิสมีความเกี่ยวเนื่องกับยุคทอง เขาจึงได้รับการสักการะในฐานะเทพแห่งฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งรวมไปถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลเช่น ข้าว ธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตร และการเดินไปข้างหน้าของกาลเวลาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ภาพของเทพโครเนิสมักถือเคียวไว้ในมือ ซึ่งพระองค์ใช้ในการเก็บเกี่ยวพืชผล และเป็นอาวุธที่พระองค์ใช้โค่นบัลลังก์เทพยูเรนัส ในกรุงเอเธนส์ (Athens) วันที่ 12 ของทุกๆ เดือน ถูกเรียกว่าวันฮีคาทอมบาเอียน (Hekatombaion) ซึ่งจะมีงานเทศกาลชื่อว่า เทศกาลโครเนีย (Kronia) จะจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพโครเนิสสำหรับฤดูเก็บเกี่ยว พระนามของเทพโครเนิสในตำนานเทพปกรณัมโรมันคือ เทพแซทเทิร์น (Saturn)
-----------------------------------------------------------------
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/192/7192/images/Atlas/Atlas3.jpg
แอตลาส (อังกฤษ: Atlas, /ˈætləs/)
เป็นหนึ่งในเหล่าไททันที่ก่อกบฏในสงครามไททัน หลังจากที่พ่ายแพ้ต่อเหล่าเทพโอลิมเปียนแล้ว แอตลาสก็ถูกลงโทษให้เป็นผู้แบกท้องฟ้า(บางตำนานว่าเป็นโลก)ไว้บนบ่า
แอตลาสเป็นผู้ช่วยให้เฮอร์คิวลีสสามารถทำภารกิจสำเร็จหนึ่งภารกิจ นั่นคือการไปนำแอปเปิ้ลทองคำของเฮสเพอร์ริดิสมาให้กษัตริย์ เพราะแอตลาสเป็นบิดาของพวกเฮสเพอร์ริดิส และเป็นเพียงผู้เดียวที่จะสามารถไปนำแอปเปิ้ลทองคำเหล่านั้นมาได้
เฮอร์คิวลีสได้อาสาแบกท้องฟ้า(โลก)ไว้จนกว่าแอตลาสจะนำแอปเปิ้ลมาได้
-----------------------------------------------------------------
http://www.newanimal.org/tumnus_faun_satyr.jpg
เซเทอร์ (อังกฤษ: satyr (เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈseɪtər/))
ตามตำนานเทพปกรณัมกรีก เป็นมนุษย์ในวัยหนุ่ม มักมีหูเป็นหูม้า มีเขาเล็กเหมือนแพะ มีขาเป็นแพะ มักท่องเที่ยวในป่าและภูเขา บางตำราบอกว่าเป็นเทพารักษ์ อีกทั้งยังเป็นผู้ติดตามของเทพแพน (Pan) และเทพไดโอไนซัสอีกด้วย ในเทพปกรณัม เซเทอร์ เกี่ยวข้องกับพลังทางเพศของเพศชายและผลงานศิลปกรรมกรีก-โรมันมักสร้างภาพของเซเทอร์ให้มีอวัยวะเพศที่ตั้งชูชัน
-----------------------------------------------------------------
http://fc05.deviantart.net/fs25/f/2008/140/c/c/cc63102a83a76595f2cc3a66a0dc50fb.jpg
ฮาร์พี (อังกฤษ: harpy, /hɑrpi/)
เป็นสิ่งมีชีวิตตามตำนานกรีกซึ่งมีรูปกายเป็นมนุษย์ผู้หญิง มีท่อนล่างอย่างนก และมีปีก
กล่าวกันว่าแต่เดิมฮาร์ปีมีเพียงสองตนเท่านั้น คือเอลโล และโอไซพีเทส ธิดาแห่งเธามาส และโอเชียนิดนามอิเล็กตร้า (โอเชียนิดคือนิมฟ์แห่งทะเล) เธามาสผู้นี้เป็นโอรสของพอนทัสและไกอา ทั้งพอนทัสและไกอาต่างก็เป็นเทพเจ้าโบราณของกรีก โดยพอนทัสเป็นเทพแห่งทะเล ส่วนไกอาเป็นเทพแห่งพิภพ ฮาร์ปีทั้งสองเป็นพี่น้องกับเทวีไอริส ซึ่งเป็นเทวีผู้ทำหน้าที่นำสารให้กับเหล่าเทพเจ้าต่างๆ เช่นเดียวกับเฮอร์เมส หากแต่เฮอร์เมสนั้นขึ้นตรงต่อเทพบดีซูส ในขณะที่ไอริสเป็นเทวีใต้บัญชาของเฮร่า เทวีไอริสยังมีปีกเป็นนกเช่นเดียวกับอีรอส และมักถูกกล่าวถึงในลักษณะของสาวน้อยมีปีก ถือคทานำสาร นอกจากนี้ไอริสยังเป็นเทวีพรหมจรรย์ และถือเป็นเทวีแห่งสะพานสายรุ้งอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------
http://semodyssey3.wikispaces.com/file/view/pic4.gif
ไซคลอปส์ (กรีก: Κύκλωψ; ละติน: Cyclops หรือ Kyklops) หรือ อสูรตาเดียว เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก
ชื่อไซคลอปส์ถูกใช้ระบุถึงยักษ์ตาเดียวสองชนิด โดยชนิดแรกเป็นลูกของเจ้านภา ยูเรนัสและพระแม่ธรณี ไกอา ซึ่งไซครอปส์จำพวกนี้มีเด่นๆ3ตน คือ อาจีรอส บรอนทีส และสเตอร์โรพีท มักจะถือค้อนอันใหญ่ มีพลังแห่งสายฟ้า และมีฝีมือในด้านช่างเหล็ก ไซคลอปส์กลุ่มนี้ถูกยูเรนัสกักขังไว้ในทาทารัส จนกระทั่งซุสปลดปล่อยออกมาหลังจากที่โค่นโครนัสผู้เป็นบิดา ซึ่งไซคลอปส์ได้ตอบแทนโดยตีอาวุธต่างๆให้เหล่าเทพ ได้แก่ สายฟ้า thunderbolt ให้แก่ ซุส สามง่ามหรือตรีศูร ให้แก่ โพเซดอน หมวกล่องหน ให้แก่ ฮาเดษ และเหล่าไซคลอปส์ได้เป็นลูกมือของเทพแห่งช่างเหล็กเฮฟเฟสตุสในเวลาต่อมา จนกระทั่งถูกอพอลโลสังหารเพื่อล้างแค้นให้แอสคิวลาปิอัสที่ถูกซุสใช้สายฟ้าฟาด
ไซคลอปส์กลุ่มที่สองเป็นลูกหลานของโพเซดอนและพรายน้ำโทซา ไซคลอปส์กลุ่มนี้กินมนุษย์เป็นอาหาร โดยมีบทบาทในเรื่องโอดิสซีย์ ไซคลอปส์มีความนิยมมากเหมือนกัน เช่นไซคลอปส์ในการ์ตูน ไซคลอปส์ในเกม
-----------------------------------------------------------------
http://gunsp.files.wordpress.com/2010/02/centaurs.jpg
เซนทอร์ (อังกฤษ: centaur; มาจากภาษากรีกโบราณ κένταυροι)
เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในเทพปกรณัมกรีก มีร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่ส่วนลำตัวลงไปเป็นม้าหนุ่มที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ สง่างาม อาศัยอยู่แถบภูเขาของอาคาเดีย และเทสสาลีในประเทศกรีซ
เซนทอร์มีสองตระกูล โดยตระกูลหนึ่งเกิดจาก อิคซอน อันธพาลแห่งสวรรค์ที่ขึ้นชื่อ กับอีกตระกูลที่เกิดจากโครนัส ฝ่ายหลังมีอุปนิสัยดีแตกต่างจากฝ่ายแรกมาก
เซนทอร์ตระกูลอิคซอน เกิดจากอิคซอนกับเนฟีลี มีพละกำลังมาก ชอบดื่มไวน์กับชอบไล่คว้าผู้หญิง ซ้ำชอบทะเลาะเวลาเมา เซนทอร์จึงถูกมองว่าเป็นพวกขี้เมาไม่กลัวใครทั้งสิ้น
เซนทอร์ตระกูลโครนัสต่างกับตระกูลอิคซอน เป็นเซนทอร์แสนดี โครนัสแต่งงานกับฟีลีร่า นางอัปสรน้ำผู้เลอโฉม มีลูกชื่อไครอน ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียน มีความสุขุมรอบคอบจนได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของเหล่าวีรบุรุษหลายคนในตำนานกรีก เช่น อคิลลีส, เฮอร์คิวลีส, เจสัน, พีลูส, อีเนียส และบรรดาลูกศิษย์ของเขาก็ประพฤติตัวตามแบบครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดี
-----------------------------------------------------------------
http://i82.photobucket.com/albums/j245/carria_jang/Animal/bellerophon.jpg
คิมีร่า Chimera หรือ Chimaera ชื่อกรีก= Χιμαιρα
คิมีร่าเป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีส่วนผสมของสัตว์อีกสามชนิด ได้แก่ สิงโต แพะ และงูหรือมังกร โดยมันมีส่วนหัวปกติจนไปถึงอกเป็นสิงโต ส่วนกลางของมันเป็นแพะ และมีส่วนท้ายเป็นงู มีหัวงูอยู่ที่ตรงปลายหางสามารถศัตรูได้ ซึ่งแต่ละหัวของมันนั้น มีความคิดเป็นของตัวเอง หัวมังกรของมันสามารถพ่นไฟได้ หายใจเป็นเปลวไฟ หางมันเป็นงูพิษร้ายแรง กัดแล้วถึงตายในทันที คิเมร่าเป็นลูกของอสูรกายไทฟอน และอิคิดนา มีพี่น้องหกตัวได้แก่ เซอร์บีรัส ไฮดรา นีเมียน สฟิงซ์ และเลดอน
คิมีราบุกเข้าทำลายเมือง ลีเซีย(Lycia) ทำให้กษัตริย์โลเบทีสซึ่งเป็นเจ้าปกครองเมืองอยู่ในขณะนั้น ต้องการผู้มาปราบเจ้าสัตว์ร้ายตนนี้ บังเอิญวีรบุรุษ เบลเลอโรฟอน ขี่ม้าบินปีกาซัสผ่านมาพอดีจึงอาสาที่จะฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายตนนี้ แต่มันออกจะเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละหัวของมันมองได้ทุกทิศทาง เบลเลอโรฟอนขี่ม้าบินเพกาซัสฉวัดเฉวียนอยู่เหนือคู่ต่อสู้ คอยหลบเปลวเพลิงที่พรุ่งพรวยออกมาจากปากของมัน และกระหน่ำห่าธนูใส่ จนในที่สุดเจ้าอสูรร้ายก็สิ้นชีพ
-----------------------------------------------------------------
http://www.thaigoodview.com/files/u1305/8071.jpg
ก็อบลิน (Goblin)
เป็นพวกโนมที่มีรูปร่างวิกลวิการ พวกมันชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งก็ชั่วร้ายและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน รอยยิ้มของก็อบลินทำให้เลือดหยุดไหล เสียงหัวเราะทำให้นมบูดและผลไม้หล่น ก็อบลินมีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส
-----------------------------------------------------------------
http://board.postjung.com/data/558/558247-topic-ix-4.jpg
บาซิลิสก์ (Basilisk)
เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยองในตำนานกรีกและยุโรป ซึ่งแค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้ ในทำนองเดียวกับ เมดูซ่า
ได้มีนักเล่านิทานคนหนึ่งอธิบายว่า บาซิลิสก์เป็น "งูที่มีมงกุฎสีทองเล็กๆ บนหัว ในยุคกลางมีผู้เชื่อว่ามันเป็นเพียงงูที่มีหัวเหมือนไก่ บางครั้งก็มีหัวเป็นคน บาซิลิสก์เกิดจากไข่ที่ออกมาจากพ่อไก่ระหว่างที่ กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ ปรากฏบนท้องฟ้า และได้คางคกเป็นผู้กกไข่ การมองเห็นบาซิลิกก์นั้นน่ากลัวสยดสยองมาก ถ้าสัตว์ใดก็ตามได้เพียงเห็นมันมองผ่าน แม้แต่ทางกระจกก็อาจตายได้ทันทีเพราะความกลัว วิธีเดียวที่จะฆ่ามันได้ก็คือต้องถือกระจกไว้ข้างหน้าตัวมันก่อนที่มันจะมองผ่านมา เมื่อมันมองมาในกระจกนั้น มันก็จะเห็นเงาตัวมันเองในกระจกและตายในทันที มีผู้เชื่อว่าบาซิลิสก์มีเขาหรือมีพังผืดด้วย"
ในยุโรปสมัยกลาง บาซิลิสก์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย โดยคู่กับกริฟฟิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความดี บาซิลิสก์เป็นสัญลักษณ์ของเมือง บาเซิล (Basel) ใน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บาซิลิสก์ถูกนำไปใช้หลายครั้งตามนิยายแฟนตาซีต่างๆ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
ซึ่งชื่อ บาซิลิสก์ นี้ได้ถูกตั้งเป็นทั้งชื่อเรียกสามัญ และชื่อวิทยาศาสตร์ของกิ้งก่าจำพวกหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ มีหงอนบนหัว และสามารถวิ่งได้เร็วมากจนวิ่งบนน้ำได้ โดยกิ้งก่าจำพวกนี้ มีชื่อสกุลว่า Basiliscus
-----------------------------------------------------------------
http://statics.atcloud.com/files/comments/76/765638/images/1_display.jpg
เซอร์บีรัส Cerberus หรือ เคอร์เบรอส Kerberos ชื่อในภาษากรีก Kerberos
เป็นสัตว์ในตำนานกรีก เป็นบุตรของไทฟอน(Typhon) และอีคิดน่า(Echidna)มีพี่น้องหกตัวได้แก่ ไคเมร่า ไฮดรา สฟริงซ์ นีเมียน ลาดอน(แต่ละตัวนี่ไม่ไช่เล่น)โดยเซอร์บีรัส มีรูปร่างเป็นสุนัขสามหัวตัวใหญ่ แข็งแรง มีหางเป็นงูที่สามารถฉกกัดได้ แต่สำหรับผมคิดว่า เซอร์บีรัสน่ามีหางเป็นงูแน่นอนเพราะเป็นลูกของอีคิดน่า ซึ่งมีรูปร่างเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาแสนสวย แต่ท่อนล่างของนางกับเป็นงูใหญ่จึงไม่ผิดที่เซอร์บีรัสจะมีหางเป็นงู ภายหลังเทพเฮดิส(Hedes)ได้นำเซอร์บีรัสไปเป็นยามเฝ้าประตูนรก มันจึงถือได้ว่าเป็นสัตว์อารักขาประจำตัวของเทพเจ้าเฮดิสเลยทีเดียว ในภาพเห็นตัวแค่นี้แต่จริงในตำนานกล่าวว่ามันมีตัวใหญ่ ถึงไม่เท่ามังกรก็เถอะ เราจะเห็นได้ในภาพยนตร์หรือในวรรณกรรมหลายๆเรื่อง ที่เห็นสุนัขสามหัวตัวใหญ่เฝ้าทางเข้านรก หรือสิ่งของอื่นๆตามจินตนาการของผู้เขียน
นรกที่ว่า หมายถึงนรกในตำนานของชาวกรีก เฮดิส(ตามชื่อผู้ปกครอง) ซึ่งเซอร์บีรัสจะเฝ้าที่นี่ไว้โดยมันจะให้คนที่ตายแล้วผ่านเข้าไป แต่จะไม่ให้กลับออกมาอีก ส่วนคนที่ยังไม่ตาย อย่าหวังว่าจะได้เข้าไป มันจะไม่ให้ผ่านเข้าไปเด็ดขาด!
และที่ได้ยินกันบ่อยในตำนานของวีรบุรุษในตำนาน เฮอร์คิวลิส(Herculis) หรือเฮราเคิลในตำนานโรมัน โอรสของจอมเทพซูส โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ เฮอร์คิวลิสถูกเทพีเฮร่ากลั่นแกล้งในฐานะที่เป็นลูกภรรยาน้อยของซูส ให้เฮอร์คิวลิสทำความผิดนานาประการ ผู้พยากรแห่งวิหารเดลฟีได้บอกแก่เขาว่า เขาจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ที่ไร้ความสามารถเป็นเวลาถึง 12 ปี และเขาต้องทำภาระกิจ 12 อย่าง เช่นต่อสู้กับสัตว์ร้ายต่างๆหนึ่งในนั้นคือจับเซอร์บีรัส ในกาลนั้น เขาได้เดินทางไปยังไต้บาดาลและต่อสู้กับเซอร์บีรัสอย่างดุเดือด แต่ด้วยพละกำลังมหาศาลที่ได้จากเทพซูสผู้เป็นบิดา จึงสามารถจับเซอร์บีรัสไปถวายกษัตริย์ได้
และยังมีตำนานของออร์ฟีอุส ซึ่งภรรยาของเขาถูกงูพิษกัดตาย เขาได้ใช้พรสวรรค์ในการเล่นพิณ ทำให้เซอบีรัสเคลิ้มหลับไป ปล่อยให้เขาไปเข้าตามวิญญาณภรรยาในเฮดิสโดยง่าย ด้วยเสียงพิณนี้เอง เทพเฮดิสและเพอซีโฟนีภรรยาได้ทรงสดับเสียงพิณอันไพเราะ เกิดความประทับใจในความสามารถและความพยายามของเขา ยอมให้ยูริดิซี คนรักของออร์ฟีอุสกลับไปมีชีวิตได้ ทว่ามีข้อแม้ว่าเขาห้ามหันมามองนางระหว่างทางกลับจนกว่าจะถึงโลกมนุษย์ แต่เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ออร์ฟีอุสลืมคำเตือนของเฮดิส หันไปมองยูริดิซี ทำให้นางต้องกลับไปอยู่ในใต้ภิภพตลอด
-----------------------------------------------------------------
http://4.bp.blogspot.com/-OwRMuE_70kU/Tj9fQOppKZI/AAAAAAAAAAg/767k7lv4AII/s1600/untitled.bmp
Nemean>อสุรกายนีเมียน
ในเมื่อว่างก็ต้องทำให้เสร็จ จากตอนของเคอเบรุส สุนัขสามหัวได้กล่าวไว้ว่าเฮอคิวลิสจะต้องทำภารกิจ 12 อย่างเพื่อเป็นการไถ่บาป เช่นต่อสู้กับสัตว์ราย และภารกิจข้อแรก ซึ่งง่ายที่สุดของเฮอคิวลิสคือ ฆ่านีเมียน นีเมียนเป็นหนึ่งในหกพี่น้องตระกูลไทฟอน(พ่อ)-อิคิดนา(แม่) โดยรวมแล้ว มีรูปร่างเป็นราชสีห์ตัวใหญ่ มีขนสีทอง นีเมียนไม่มีลักษณะเด่นที่น่าสนใจนัก มีเพียงผิวหนังของมันซึ่งแข็งแกร่งดุจเหล็กเพชร ไม่มีอาวุธใดๆทะลุผ่านได้ (ขอบอกว่าเรื่องนี้สั้นมาก) นีเมียนได้กบดานอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง โดยเฮอคิวลิสต้องล่อมันออกมาจากถ้ำ และได้เข้าต่อสู้กัน แต่เนื่องจากอาวุธทำอันตรายมันไม่ได้(อาวุธของเฮอคิวลิวคือ ดาบ และธนูกับลูกดอกทำจากไม้มะกอก) เลยต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่าๆ หลังจากต่อสู้กับเจ้าสิงโตได้ไม่นาน เฮอคิวลิสก็บีบคอมันตายคามือ และได้ถลกหนังมันออก แล้วเอาไว้เป็นเครื่องป้องกันตัว
-----------------------------------------------------------------
http://www.3dtotal.com/admin/upload/gallery/big/2009-11-26(50991)_Hydra_monster_1.jpg
ไฮดรา (กรีก: Λερναία Ύδρα; อังกฤษ: Hydra)
เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก มีหลายหัว แต่ละหัวมีลักษณะหัวเหมือนงู ไฮดรามีหัวน้อยที่สุดคือ 8 หัว เมื่อแต่ละหัวที่ถูกตัดจะมีหัวเพิ่มขึ้นอีกสองหัว และมันมีมากได้อย่างไม่สิ้นสุด บางตำนานกล่าวว่ามันมี 100 หัว ไฮดราเป็นอสูรกายที่มีลำตัวเป็นสุนัข ร่างกายปลกคลุมด้วยเกล็ดและมีหางเหมืองมังกร ลมหายใจของมัน มีอันตรายถึงขนาดที่ทำให้คนที่เข้าไกล้ถึงแก่ความตาย มันเป็นลูกหลานของ Typhon (สัตว์ในตำนาน) และ Echidna เมื่อตอนที่สร้างตำนานนี้ชาวกรีกโบราณอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจาก หมึก ซึ่งอาจเป็นเพราะหมึกจะงอกหนวดขึ้นมาใหม่เมื่อหนวดเก่าถูกทำลาย
-----------------------------------------------------------------
http://board.postjung.com/data/501/501061-topic-ix-0.jpg
เมดูซ่า (Medusa)
ในตำนานของกรีกนั้น เมดูซ่า (อังกฤษ: Medusa) เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู และเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอ (จ้องตา) คนผู้นั้นจะกลายเป็นหิน ที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้น เมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก เมดูซ่า เป็นลูกสาวของเทพแห่งท้องทะเล ฟอซิส และนางซีโต นางถือเป็นหลานของเทพีไกอาและเทพพอนทัส มีพี่น้องคือ สเธโน ยูริอาลี และกราเอีย
เรื่องเริ่มขึ้นจากเพอร์ซิอุสวีรบุรุษอีกผู้หนึ่งของชาวกรีก เพอร์ซิอุสได้รับคำสั่งจากกษัตริย์ใจร้ายที่พยายามหาทางกำจัดเขาเพื่อจะได้แต่งงานกับมารดาของเขา โดยให้ไปสังหารเมดูซ่าซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของสามพี่น้องตระกูลกอร์กอน เล่ากันว่าครั้งหนึ่งเมดูซ่าเคยเป็นสาวงาม แต่เพราะโดนโพไซดอน เทพแห่งท้องทะเลขืนใจ ในวิหารของเทพีอธีนา เทพีอธีนาจึงกล่าวหาว่าเมดูซ่าลบหลู่นาง ดังนั้นนางจึงโดนสาปให้กลายเป็นหญิงอัปลักษณ์ มีผมเป็นงู และมีดวงตาเป็นอำนาจลึกลับหากผู้ใดจ้องมองจะกลายเป็นหินทันที เชื่อกันว่า บรรดารูปปั้นหินชายและหญิงจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดตามแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นส่วนหนึ่งของผู้โชคร้ายที่มาพบเห็นเมดูซ่านั่นเอง
ในบรรดาสามพี่น้องตระกูลกอร์กอนนี้ มีเพียงเมดูซ่าเท่านั้นที่ไม่เป็นอมตะ คือถูกฆ่าตายได้ แต่นับเป็นเรื่องที่ยากที่จะมีใครทำได้โดยไม่กลายเป็นหินเสียก่อน ทั้งสามอาศัยอยู่ในถ้ำลึกบนเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกล ถ้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยหินจำนวนมากที่ครั้งหนึ่งนั้นเคยเป็นมนุษย์และสัตว์ที่มีชีวิตจิตใจ
เมื่อเพอร์ซิอุสได้รับคำสั่งให้ไปกำจัดเมดูซ่า เขาจำเป็นต้องหาที่อยู่ของนางเสียก่อน เพอร์ซิอุสจึงไปถามจากหญิงชราสามคนที่มีตาเพียงดวงเดียว ดวงตานี้มีอำนาจมองเห็นไกลทั่วโลก ในขณะที่หญิงชราทั้งสามถกเถียงกันเพื่อจะแย่งดวงตานี้มาใช้เพอร์ซิอุสแอบขโมยดวงตาไป ทำให้ทั้งสามมองไม่เห็นหญิงชราทั้งสามจึงจำต้องบอกที่อยู่อของเมดูซ่าให้แก่เพอร์ซิอุสเพื่อแลกกับการดำรงชิวิตของพวกตน
จากนั้นเพอร์ซิอุสจึงเดินไปยังที่อยู่ของเมดูซ่า ซึ่งเขามีเทพเฮอร์เมสและเทพอธีนาคอยให้ความช่วยเหลือ โดยมอบดาบวิเศษพร้อมโล่เอจีส หมวกล่องหน รองเท้าติดปีก และย่ามวิเศษ ให้เขานำติดตัวไปด้วย คืนหนึ่งในขณะที่เมดูซ่ากำลังหลับสนิท เพอร์ซิอุสแอบเข้าไปในถ้ำ เขาใช้โล่ที่ขัดเป็นเงาราวกระจกส่องดูเงาสะท้อนของเมดูซ่า เพื่อหลีกเลี่ยงการมองของนางโดยตรง จากนั้นเขารีบใช้ดาบวิเศษตัดศีรษะของนาง แล้วโยนใส่ลงในย่ามวิเศษ
ทันทีที่หยดเลือดหลั่งรินออกมาจากบาดแผลของเมดูซ่า เพกาซัส ม้ามีปีกสีขาวก็ถือกำเนิดขึ้นมา สองพี่น้องของเมดูซ่าซึ่งเป็นอมตะ พยายามจะทำร้ายเพอร์ซิอุส แต่เขาใช้หมวกล่องหนและรองเท้าติดปีกช่วยให้ตนเองหลบหลีกออกไปได้ เมื่อเพอร์ซิอุสกลับไปถึงเมืองของกษัตริย์ใจร้ายที่เป็นผู้มอบหมายให้ไปกำจัดเมดูซ่า เขามอบศีรษะของเมดูซ่าให้แก่กษัตริย์พระองค์นั้น ซึ่งทำให้พระองค์กลายเป็นหินไปในทันทีที่ทอดพระเนตร
ชาวกรีกโบราณเชื่อกันว่าเส้นผมที่เป็นงูของเมดูซ่านี้สามารถป้องกีนการปองร้ายของเหล่าปิศาจได้เป็นอย่างดี ในภายหลังเพอร์ซิอุสได้นำศีรษะของเมดูซ่าถวายแด่เทพีอธีนาผู้ช่วยเหลือเขามาตั้งแต่แรก เทพีอธีนานำเพกาซัสไปยังยอดเขาโอลิมปัสซึ่งเป็นสถานที่พำนักของเหล่าเทพโอลิมเปียน และมอบให้อยู่ในการดูแลของเทพธิดามิวส์ทั้งเก้าองค์ซึ่งเป็นเหล่าเทพธิดาผู้ดลใจให้ความคิดสร้างสรรค์แก่นักศิลปะทั้งมวล เพกาซัสเป็นม้าที่องอาจปราดเปรียว ไม่ยอมให้ผู้ใดขี่หรือแตะต้อง มีแต่เทพธิดามิวส์เท่านั้นที่เข้าใกล้ได้
ขอขอบคุณ สัตว์ในตำนานกรีก (http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1216025)