[AHQ] (Frutrative Another) แต่งเล่นตอนมีเวลาว่าง

[Vocaloid_BRS]

Frutrative Another ~Sign of War~
Frutrative Another ~Arts of War~

เป็นนิยายที่แต่งขึ้นเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดจบเรื่องที่คิดไว้ เนื้อเรื่องเปลี่ยนบ่อยตามใจเพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่พอ HDD พังทำให้หายไปหมด จึงลงแดงและเข็ดไปหลายวัน สุดท้ายไม่รู้คิดยังไงพิมพ์ทั้งวันทั้งคืนด้วยความโมโห บอกไม่ถูกจริงๆ

คิดไปคิดมาอีกเอามาลงเว็บเลย อย่างน้อยถ้า HDD พังอีกรอบก็ไม่หายไปไหนแล้วล่ะนะ เพราะ JKG เว็บคงล่มไม่บ่อยหรอก ล่มมาครั้งเดียวเองนี่

*Word ดังงองแงไม่ยอมเปิดให้เพราะตัวสแกนไวรัสไม่ยอมรับอัพเดทอีก จะเอายังไงเนี่ย ชักไม่สบอารมณ์แปลกๆ - -*

ใส่ข้อมูลไปเรื่อยๆแล้วกัน

PS. เหตุผลที่ไม่นำไปหมวดนิยายก็เพราะปกติเวลาที่ผมคุยในแต่ละโพสมักกล่าวถึงอนิเมะ ถึงกระทู้นี้จะตั้งขึ้นเกี่ยวกับนิยายก็เถอะ

PS3. อาจจะคิดว่า ถ้าเยอะขนาดนี้คงว่างตลอดปี แต่เปล่าหรอกครับ แต่งมานานมากแล้ว = ="


Character

Frutrative Another ~Sign of War~ [~Mirai no Unmei~ Season 1]

ชื่อ : เคย์เนะ เรย์เซ็น 【Keine Reisen】『刑ね 令戦』
ฮิรางานะ : 「けいね　れいせん」
อายุ : ประมาณ 373 ถึง 376 ปี
ส่วนสูง : 171 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 46 กิโลกรัม
เกิด : 18 / 11 / FZ 3309, 18 / September / A.D. 1653
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : ทวิน-เซลเรีย
ชอบ : ความเร็ว, ตุ๊กตา, แกล้งข้ารับใช้, ทรมานศัตรูก่อนตาย, การรบยุทธวิธี, ดวงดาว
เกลียด : ความน่าเบื่อ, อากาศร้อน-หนาว-ฝนตก, คนที่มีความเห็นต่างจากตัวเอง, มนุษย์
งานอดิเรก : แกล้งดอลเป็นชีวิตจิตใจ, ดูแลเสื้อผ้า, ซ่อมแซมดอล, นอน, ไร้สาระ
คลาส : มังกรเลือดผสม มังกรแดง-แวมไพร์
ฉายา 1 : เจ้าหญิงมังกรตาสีแดงแห่งสงครามและความพินาศ
ฉายา 2 : Princess Doll Dragon Red-eyes Crisis and War


Frutrative Another ~Arts of War~ [~Seitokai no Seniki~ Season 2]

เแต่งจบไปแล้ว (ภาค 2) พอเห็นชื่อตอนที่แต่งแล้วรู้สึกกัดกินใจ

Act 1 The Rules of Element Part 1 –Confuse– It's Start?
Act 2 The Rules of Element Part 2 –Nightmare– A Normal Life
Act 3 The Rules of Element Part 3 –Patrol– Martal Combat
Act 4 The Rules of Element Part 4 –Secret– Magic for Love
Act 5 The Rules of Element Part 5 –Fault– Don't Cry
Act 6 The Rules of Engagement Part 1 –Tactical– My Brave Smlie
Act 7 The Rules of Engagement Part 2 –Conflictia– Thank to my hand
Act 8 The Rules of Engagement Part 3 –Crisis– Heroic Battle
Act 9 The Rules of Engagement Part 4 –Contact– Approaching to secret of fortune
Act 10 The Rules of Engagement Part 5 –Prototype– No time to talk!
Act 11 The Rules of Embodiment Part 1 –Warfare– You remaining time for war
Act 12 The Rules of Embodiment Part 2 –Rescue– No mercy
Act 12.5 The Rules of Embodiment Part 3 –Memories– Sacred Promise
Act 14 The Rules of Embodiment Part 4 –Stratos– Nothing happened
Act 15 The Rules of Embodiment Part 5 –Conquer– Hello for Good bye
Act 16 The Rules of Ethereal Part 1 –Rearm– Inexperience
Act 17 The Rules of Ethereal Part 2 –Invasion– All set
Act 18 The Rules of Ethereal Part 3 –Unleash– Realized in time
Act 19 The Rules of Ethereal Part 4 –Eternal– Far Away
Act 20 The Rules of Ethereal Part 5 –Snow– Farewell
Act 21 The Story of Epilogue Part Final –Forever– Fear Dream

http://moe.animecharactersdatabase.com/uploads/chars/5688-724556270.jpg

[English-Russian]

Eletear A.K. Vermillion [エレッチア・エー・ケイ・ベミリュン]

ชื่อ - เอเลเทียร์ เอ.เค. เวอร์มิลเลี่ยน
เพศ - หญิง
วันเกิด - ???
อายุ - ??? (คาดเดา A.D. 1700)
วันเกิด - 26/12/1700
อายุ (จากรูปร่าง) - 16 หรือ 17 (*จำนวนอายุหยุดเพิ่ม)
อายุ (คาดเดาจากปีเกิด) - มากกว่า 300 ปี
ส่วนสูง - 166
น้ำหนัก - 43
กรุ๊ปเลือด - (จากข้อมูล A+O)
ศาสนา - คริสต์ นิกาย ออทอร์ด็อกซ์
ฉายา - 1992 Technology Deadlock Time-Keeper
ฉายา2 - 2016 Patrol Wildcat Deathknight Stalker
ฉายา3 - 2029 Commander President Code : Black
อาวุธประจำตัว - P99, MP5, AKS-74u, M240 Custom, BSL .50 HEAT/AP (Heavy Sniper .50 Purpose Caliber), Twin-Blade "Siberia"
งานอดิเรก - สร้างอาวุธ, สร้างเครื่องมือต่างๆ, เดินไปทั่ว
สิ่งที่กลัว - อยู่คนเดียว, การจากลา, ความตาย (ยอมทำและทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดตาย)

ชุดรบประจำตัว - Wildcat Death Hand (ไวด์แคท เดท แฮนด์)
ชื่อย่อ - WC (ดับบิว ซี)

***

Close Combat : S
Tactical Combat : S
Shot Range : B
Armor : A
Ground Speed : A
Control : S
Air Speed : B
Armed : C
Artillery : B
Bomber : E
Intercapt : D
Spead Wing : 0
Technologies : Fruoresitence Systems
Combat Style : Combat tactical close range
Primary Role : Assault
Shield Power : Very High
Primary Weapons : Twin-Hand
Special Abilities : Hamonic Storm, Quark Earth, Anti-Misslie Systems

***

ชุดรบประจำตัว2 - Shooting Star Thesis (ชูทติ้ง สตาร์ ทีซิส) [シューティング・スター・シーシッス]
ชื่อย่อ - Tearsis (เทียร์ซิส)

***

Close Combat : D
Tactical Combat : S
Shot Range : S
Armor : D
Ground Speed : SI
Control : SS
Air Speed : SSI
Armed : A
Artillery : C
Bomber : SSI
Intercapt : SS
Spead Wing : True 6 Spead 2 Tactical Assistance
Technologies : Colorful Magic Systems
Combat Style : Nova high speed bomber, Suppression of Enemy Air Defenses, Tactical Air Navigation, Airborne Warning And Control System, Defensive Counter Air and Reconnaissance
Primary Role : Support, Dogfight Combat
Shield Power : High
Primary Weapons : Twin-Blade Laser
Special Abilities : Light Speed, Cronosphere

***

ชุดรบประจำตัว3 - Amnesia Nostalgis Asteroid (แอมเนเซีย นอสทอลจิส แอสเทอรอยด์) [アムニージア・ノッスタルギズ・アッスタロイド]
ชื่อย่อ - Amnesis (แอมเนซิส)

***

Close Combat : A
Tactical Combat : A
Shot Range : SSI
Armor : SSS
Ground Speed : AA
Control : A
Air Speed : B
Armed : SSI
Artillery : SSI
Bomber : C
Intercapt : A
Spead Wing : 0
Technologies : Asteroid Quad Systems
Combat Style : Howitzer Artillrty, Heavy Anti-Aircraft Artillery, All Range Combat
Primary Role : Artillery
Primary Weapons : PEI-32 'Vesteroid' 120mm
Shield Power : Medium
Special Abilities : Nightmare Howitzer (Very Fast Rate-of-Fire)

***

ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคต, ออกแบบและประดิษฐ์สิ่งต่างๆให้ใช้งานได้ในเวลาไม่มากแม้จะไม่สมบูรณ์
ความสามารถพิเศษชุดรบ - โดยรวม ต่อสู้ระยะใกล้ได้ทุกรูปแบบ
ความสามารถพิเศษชุดรบ2 - โดยรวม รวดเร็ว ลอบโจมตี
ความสามารถพิเศษชุดรบ3 - โดยรวม เคลื่อนไหวช้า อาวุธยิงถล่มเป็นวงกว้าง
ลักษณะพิเศษ - ผมสีขาว, เสื้อคลุมสีแดง, มัดผมม้าไปทางขวา
สัญชาติ (ปัจจุบัน) - อังกฤษ-รัสเซีย
*ระดับ - ผู้บัญชาการสูงสุด, ประธานาธิบดี
ระดับยศ - [10] Supreme Commander Military Conscription of Technologies
*ครอบครัว - พ่อ (มิคาโดรอฟ)/แม่ (อวาลอน)/พี่สาว (แอมเบอร์)/พี่ชาย (???)
(2029) *พันธมิตร : ญี่ปุ่น - รัสเซีย - อังกฤษ - ฝรั่งเศษ - สเปน
(2029) *ไม่ทราบฝ่าย : อเมริกา - เยอรมัน - ยูเครน - อิตาลี - ตุรกี - แคนาดา
(2029) *ศัตรู : จีน - เกาหลีเหนือ - เกาหลีใต้ - *อเมริกา - อัฟกานิสถาน - อิรัก - เวียดนาม - *ญี่ปุ่น
** ญี่ปุ่นและอเมริกาต่อต้านเอเลเทียร์เพราะเผด็จการกับความรุนแรงรวมถึงค้าอาวุธสงครามและใช้อำนาจทางการทหารเข้าควบคุมประเทศญี่ปุ่น
(2029) *จำนวนยานพาหนะที่ออกแบบ : 9 แบบ
- HMV-1 'Mayhok'
- MFA-1 'SkyKing'
- MFA-2 'Deadfield'
- MFA-3 'Sensor'
- VT-60 'Boneniffer'
- CAE-36 'Savelife'
- CAE-17 'PAT Miner'
- WW-968 'Holonosphere'
- NUV-1 'Limery'
- NUV-10 'Charger'
(2029) *จำนวนรถหุ้มเกราะที่ออกแบบ : 7 แบบ
- APC-30 'Mover'
- APC-36 'Abp'
- APC-40 'Caulow'
- KT-80 'Pointblack'
- BVG-18 'Forest Hunter'
- LKF-1 'Firefly'
- AR-118 'Bonefield'
(2029) *จำนวนรถถังขนาดกลางที่ออกแบบ : 11 แบบ
(2029) *จำนวนรถถังขนาดใหญ่ที่ออกแบบ : 3 แบบ
- TR-90K
- TR-120A
- TR-120D
(2029) *จำนวนชุดรบที่สร้าง : 291 เครื่อง
(2029) *จำนวนเครื่องบินขับไล่ที่ออกแบบ : 35 แบบ
(2029) *จำนวนเครื่องบินที่พัฒนา : 19 รุ่น
(2029) *จำนวนอาวุธ, ระเบิด, อาวุธต่อต้านรถถัง, อาวุธต่อต้านอากาศยานที่ออกแบบ : 119 แบบ
(2029) *จำนวนอาวุธพลังงานที่ออกแบบ : 78 แบบ
(2029) *จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่ออกแบบ : 6 แบบ
(2029) *จำนวนกระสุนทะลวงเกราะที่ออกแบบ : 31 แบบ
(2029) *จำนวนกระสุนหัวระเบิดที่ออกแบบ : 42 แบบ

---

http://moe.animecharactersdatabase.com/images/2143/Iriina_Urajiimirovuna_Puchina.jpg

[Russia]

Anastasiya Erisia

ชื่อ - Анастасия Ерисиа (อานาสทาซิย่า เอริเซีย) [アナッスタッシユ・アーリッシア]
เพศ - หญิง
วันเกิด - ???
อายุ - ???
ฉายา - True Russian President
ส่วนสูง - 168
น้ำหนัก - 45
งานอดิเรก - แข่งเทคโนโลยีกับเอเลเทียร์
กรุ๊ปเลือด - Rh
อาวุธประจำตัว - P99
เทคโนโลยีด้านอาวุธประจำตัว - ???
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ???
ลักษณะพิเศษ - ???
สัญชาติ - รัสเซีย
*ระดับ - ประธานาธิบดีรัสเซีย (2028), ผู้บังคับบัญชาการทหารอากาศรัสเซีย



Story

Frutrative Another ~Sign of War~
Frutrative Another ~Arts of War~
Frustrative Another Plus ~The Dragon Maiden~
Frustrative Another ~The Vempire Maiden~
Frustrative Another ~Royal Garden of the Lydiar The Ethereal~
Frustrative Another ~Nostalgia~


Outsite Story

Frutrative Another ~Cold War Crisis~
Story of Eletear
Story of Reisen

[Vocaloid_BRS]

Story of Eletear 'Legendary Livetune behind the Future'

-Main Character-

เอเลเทียร์ เอ.เค. เวอร์มิลเลี่ยน
Eletear A.K. Vermillion

2nd December A.D. 1688

“คุณพูดภาษารัสเซียได้ไหม”
“คะ-ค่ะ”
“รีบหนีไปกับผมเถอะ!”
“ว่ายังไงนะคะ แต่คุณเป็นทหารของรัสเซีย”
“เพื่อนของคุณ คนอังกฤษคนนั้นฝากผมให้มาช่วยคุณออกไปก่อนที่เขาจะตาย เขาค้นพบบางอย่าง บางอย่างที่รัสเซียทำผิดพลาด ผมต้องจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเขาคนนั้น และนี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำได้”
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“ผมไม่มีอะไรอธิบาย แต่เราต้องรีบหนี บอกคนอื่นที่ถูกจับมาด้วยว่าไม่ต้องกลัว ผมมีทางหนี มันเป็นทางลับใต้ดินของจักรวรรดิ เราจะใช้มัน”
“แต่คุณจะอันตรายนะคะ พวกเราเป็นแค่เชลย”
“พวกรัสเซียไม่ควรทำแบบนี้ พวกเขากำลังบางแผนอะไรบางอย่างอยู่ และเพื่อนของคุณไปรู้มันเข้า และเขาบอกผม แม้ตอนนี้ทางจักรวรรดิจะยังไม่รู้แต่อีกไม่นานพวกเขาต้องรีบตามมาฆ่าผมแน่”
“ระวังข้างหลัง!”

ทหารรัสเซียคนนั้นชักดาบออกและฟันไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว ทหารอีกคนที่พุ่งเข้ามาทางด้านหลังโดนฟันจนคอขาดสะบั้น เขาล้วงเอากุญแจที่ขโมยมาจากทหารเฝ้ายามมาไขกรงขังให้แล้วก็รีบพาทุกคนไป

“ทางนี้ ตามมา”
“คุณชื่ออะไรคะ”
“มิคาโดรอฟ... อคราสเนซ มิคาโดรอฟ (Akrasnezh Mikadorov)”
“ฉันชื่อ อวาลอน เวอร์มิลเลี่ยน (Avalon Vermillion)”
“อาฮะ เป็นชื่อที่หาได้ยาก ฟังดูไฟเราะดี”
“ขอบคุณค่ะ และก็ขอบคุณที่ช่วยฉันออกมา”
“ผมก็ดีใจที่ยังมีคนอังกฤษพูดภาษารัสเซียได้”

* [รัสเซียเป็นภาษาทางการทั่วประเทศ มีภาษาทางการร่วมอีก 27 ภาษาในภูมิภาคต่าง ๆ]

เสียงตะโกนไล่หลังมาทำให้มิคาโดรอฟเร่งฝีเท้า

“เร็วเข้า มีคนตามมา”
“มีเสียงเท้าตามมามากเกินไป แบบนี้ล่ะก็!”
“ไม่ต้องห่วง ผมเตรียมบางอย่างไว้แล้ว รีบพาคนอื่นๆไปก่อนเร็ว!”

เขาหยุดวิ่งและชักดาบออกมา

“แล้วคุณล่ะคะ!”
“ผมจะต้านพวกนั้นไว้สักพัก ถึงจะเจ็บใจที่ต้องทรยศพวกเดียวกันก็เถอะ”
“ไม่ไหวหรอกค่ะ”
“เชื่อฝีมือดาบของผมเถอะ รีบไปซะ!”

มิคาโดรอฟหยุดอยู่ตรงนั้น มันเป็นทางใต้ดินที่ไม่กว้างมากแต่ก็พอที่จะทำให้เหวี่ยงดาบได้ ทุกคนรีบวิ่งเต็มที่จนห่างออกไป เขารีบแยกตัวออกแล้วตามไป เขาวิ่งไปต่อสักพักแล้วคว้าคบเพลิงที่ปักอยู่วางลงบนพื้นที่มีอะไรบางอย่างโรยอยู่ เขารีบวิ่งต่อไปแล้วอีกไม่นานจุดนั้นก็ระเบิดลงมาจนปิดเส้นทาง

ทุกคนออกมาจากที่นั่นได้ แต่ก็พบกับทุ่งหิมะ มิคาโดรอฟเหนื่อยหอบและเงยหน้ามองไปรอบๆ

“เรารอดแล้ว...”

อวาลอนเดินมาหาแล้วจับที่ไหล่เขา

“คุณรู้ไหมคะว่าที่นี่ที่ไหน”
“ไม่ต้องห่วง ที่นี่คือตอนใต้ของรัสเซีย เราจะลงใต้และมุ่งไปทางตะวันออกเรื่อยๆ จะมีเมืองที่ทำให้เราสามารถไปอังกฤษได้”
“แต่คนอังกฤษไม่ต้อนรับคนรัสเซียอย่างคุณนะคะ”
“ผมไม่ได้จะไปอังกฤษ ผมมาได้แค่นี้”
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมคงต้องหนี... หนีต่อไปเรื่อยๆ พวกรัสเซียไม่ปล่อยให้ผมมีชีวิตอยู่แน่”

เขาล้วงเอาบางสิ่งในกระเป๋าออกมา มันคือหลอดแก้วที่มีของเหลวเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆไม่ซ้ำกันอยู่ข้างใน

“จากข้อมูลของชายอังกฤษคนนั้นบอกว่าสารนี้จะทำให้จักรวรรดิแข็งแกร่งขึ้น และอาจจะมีอำนาจจนถึงขั้นเข้าครอบครองทุกเมืองได้เลยก็ได้”
“มันเป็นยาเกี่ยวกับอะไร”
“ยาเร่ง...เอ่อ... ผมก็ไม่รู้ แต่มันช่วยพัฒนาสมองและการวิวัฒนาการของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว ผมเคยเห็นกับตา พวกที่อยู่ในห้องลับทำการทดลอง มีแต่แผนภาพสิ่งต่างๆและอาวุธที่ไม่มีในสมัยนี้ กระบวนการมันซ้ำซ้อนราวกับว่ามาจากอนาคต ผมจะต้องไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น ผมเลยทำลายมันทิ้งทั้งหมดและขโมยตัวอย่างมาหนึ่งอัน”

เขากำยาไว้ในมือและหันไปหาผู้หญิงและผู้ชายที่โดนจับเป็นเชลยและเขาช่วยออกมา

“ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ขอให้พวกคุณโชคดี ให้พวกคุณเดินไปทางใต้เรื่อยๆ จะมีหมู่บ้านที่กองทัพส่วนหนึ่งของอังกฤษมาทำการค้าขาย ผมรู้จักกับพวกเขา และพวกเขาจะพาคุณออกไปจากที่นี่และขึ้นเรือกลับไปอังกฤษได้ ผมขอแค่ให้พวกคุณรอดกลับไป และบอกคนอื่นให้รับรู้ถึงความน่ากลัวของรัสเซีย และจงหยุดพวกรัสเซีย ก่อนที่มันจะกลายเป็นฝันร้าย”
“ขอบคุณนะครับ ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี”

ทุกคนกล่าวขอบคุณมิคาโดรอฟ

“ผมก็แค่ทหารรัสเซียคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเวลาแล้ว พวกคุณรีบไปจากที่นี่ก่อนฟ้าจะมืด ไม่อย่างนั้นทุ่งหิมะแห่งนี้จะกลายเป็นเหมือนนรกที่หนาวเหน็บ”

ทุกคนรีบออกเดินทางไป มีแต่อวาลอนที่ไม่ยอมไปไหน

“คุณเองก็รีบไปได้แล้ว”
“ถ้าทุกอย่างที่คุณพูดเป็นความจริง คุณก็ไม่จำเป็นต้องช่วยพวกเราออกมา”
“ผมต้องการกำลัง ทุกคนสามารถเป็นข้อมูลให้ได้ ถ้าอังกฤษเชื่อ พวกเขาก็ยินดีที่จะหยุดรัสเซีย”
“ไม่แน่ว่าอังกฤษอาจจะต้องการยานั่น”
“มันเป็นทางเลือกเดียว แต่อังกฤษไม่เป็นแบบนั้นแน่ ถึงพวกเขาจะได้มันไป แต่คงไม่ทำอะไรแบบนั้น ผมเชื่อใจคนอังกฤษอย่างพวกคุณ”

มิคาโดรอฟจับมือของอวาลอนและเอายาใส่ไว้ในมือของเธอ

“จงเอามันกลับไปอังกฤษ พวกยุโรปต้องทำอะไรได้สักอย่างแน่”
“คุณไม่เป็นห่วงชีวิตตัวเองเลย! คุณคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดหรือไง”
“ผมก็เหมือนตายตั้งแต่คิดทรยศรัสเซียแล้ว...รีบไปซะเถอะ”

อวาลอนดึงฝาออกแล้วดื่มยานั่นเข้าไปจนหมด มิคาโดรอฟตกใจมากและพยายามจะห้าม แต่ช้าไปแล้ว เธอดื่มมันจนหมด

“เธอบ้าไปแล้วอวาลอน! เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายานั่นอันตรายมากแค่ไหน”
“ถ้าเรื่องที่คุณพูดเป็นความจริงล่ะก็ ถ้ามันทำให้สมองพัฒนาการอย่างรวดเร็วล่ะก็ มันอาจจะทำให้เราวางแผนหรือคิดอะไรที่จะห้ามพวกรัสเซียได้ก็ได้”
“เราหยุดพวกนั้นไม่ได้ถ้าไม่มีพันธมิตร”
“อย่าสนเรื่องนั้น คุณไม่ควรจะมาตายตอนนี้ คุณเป็นทหารที่ดี และจากนี้ไปฉันจะช่วยคุณให้รอดไปได้เอง...”

ต่อจากนั้นไม่นาน อวาลอนก็ทำสิ่งน่าเชื่อหลายอย่างเป็นการบ่งบอกว่ายานั่นได้ผลจริงๆ เธอสามารถใช้สิ่งต่างๆรอบตัวในการทำอย่างอื่นเช่นสร้างบ้านด้วยวัสดุที่คนในยุคนั้นคิดตามไม่ทันและสร้างเครื่องมือที่ไม่มีในตอนนี้ มันสะดวกมาก ผ่านไปถึงปี 1689 ทั้งมิคาโดรอฟและอวาลอนแต่งงานกันและมีลูกสาวคนหนึ่ง เธอชื่อ แอมเบอร์ เพราะแววตาเธอดูเหมือนหินพลอยและสีผมมีโทนสีเหลืองและสีส้มดูน่าพิศวง อวาลอนยังทำสิ่งต่างๆ เช่นในการวางแผนการรบ เธอป้องกันหมู่บ้านด้วยคนไม่กี่ยี่สิบคน แต่กลับขับไล่กองโจรมากกว่าห้าสิบคนได้โดยไม่เสียเลือดสักหยด ชื่อเสียงของเธอเริ่มแพร่กระจายไปทั่วว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ก็เพียงแค่นั้น เธอไม่เคยบอกใครหรือแสดงอะไรให้ดูด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ เธอพยายามปิดบังทุกสิ่งที่เธอทำ แต่แอมเบอร์ก็เริ่มแสดงออกมาเหมือนกันว่าตัวเองก็เป็นอัจฉริยะ เธอไม่ได้มีความสามารถเก่งกาจเหมือนอวาลอน แต่ทั้งที่ยังเด็กอยู่ กลับมีความรู้สึกนึกคิดเป็นผู้ใหญ่เกินคาดจนเข้ากับเด็กคนอื่นๆไม่ได้ เวลาส่วนใหญ่ของแอมเบอร์คือการเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในบ้านและออกไปล่าสัตว์นอกบ้านกับมิคาโดรอฟ ซึ่งการวางกับดับของแอมเบอร์ถือว่านายพรานทั่วไปเทียบไม่ติดฝุ่น เวลาล่วงเลยไปหลายปี โชคร้ายที่อวาลอนร่างกายไม่แข็งแรง ร่างกายของเธอเริ่มทรุดหนักมาก แต่อวาลอนก็ตัดสินใจจะมีลูกสาวอีกคนหนึ่ง...อวาลอนบอกกับตัวเองว่าเธอคนนี้จะเป็นคนเปลี่ยนแปลงอนาคตและจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้เป็นไปตามที่เธอคนนี้ต้องการ เธอชื่อว่า...

26th December A.D. 1700

ยามค่ำคืนที่เงียบสงัด แสงไฟสลัวๆ หิมะสีขาวโพลนที่ค่อยๆร่วงหล่น

“ดูเด็กคนนี้สิคะ ผมสีขาวด้วย”
“อา...สีผมเหมือนหิมะเลยล่ะ”
“ว้าว... สวยงามจังเลย”
“แววตาสีน้ำเงินเหมือนคุณเลย อวาลอน”
“แอมเบอร์คงดีใจแน่นอนที่ได้น้องสาวที่น่ารักแบบนี้”
“นั่นสินะ”
“เธอคนนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่ง ฉันเชื่อแบบนั้น”
“ผมเชื่อคุณอวาลอน ผมเองก็รู้สึกอย่างนั้น”
“ต้องเป็นชื่อที่เหมาะแน่ๆ เด็กคนนี้ชื่อว่า...”

เอเลเทียร์ เอ.เค. เวอร์มิลเลี่ยน ชื่อกลางของเธอคือ อคราสเนซ คูเวกาสคอฟ (Akrasnezh Kruvegazkov) เป็นเด็กสาวที่ร่าเริง แต่ก็ไม่สามารถเข้ากับเด็กคนอื่นได้อีกเช่นกัน มีเพียงแอมเบอร์เท่านั้นเอเลเทียร์เล่นด้วยและยิ้มให้ นอกเหนือจากนั้นเธอก็มักจะตีหน้านิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจคนเดียว ต่อมาไม่นานอวาลอนก็ทรุดหนักจนต้องนอนอยู่บนเตียงแทบจะตลอดทั้งวัน ต่อมาอีกสามปี อวาลอนได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 32 ต่อมา เธอบอกว่ากับมิคาโดรอฟ รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ อย่าเสียใจไปเลย มนุษย์ควรจะอยู่ในกฎเกณฑ์ที่โลกสร้างขึ้นมา แต่เอเลเทียร์ต่างจากมนุษย์ทั่วไป เธอสามารถทุกสิ่งที่มนุษย์ปกติทำไม่ได้ หลังอวาลอนเสียชีวิตลง ต่อมาอีกไม่กี่เดือนมิคาโดรอฟก็ถูกนักฆ่าของจักรวรรดิตามล่าจนเจอและถูกสังหารที่ฝรั่งเศสในฐานะกบฏของรัสเซีย เหลือเพียงแอมเบอร์และเอเลเทียร์ แม้แอมเบอร์จะเสียใจมากแค่ไหนแต่เธอก็ต้องอยู่ต่อไปได้ เธอพาเอเลเทียร์หนีไปด้วยทุกที่... ในยุคของพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 มหาราชทรงขยายอาณาเขตรัสเซียออกไปทางตะวันออกถึงวลาดีวอสตอค และใช้นโยบายสู้ตะวันตก นำรัสเซียเข้าสู่ยุคใหม่ โดยในปี 1712 ย้ายเมืองหลวงจากมอสโควมาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แอมเบอร์ตัดสินใจพาเอเลเทียร์ไปที่ประเทศรัสเซีย... ซึ่งประเทศที่มิคาโดรอฟและอวาลอนรู้จักกัน

“ที่นี่ล่ะ! เอเลเทียร์... เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก”

เอเลเทียร์อ้าปากออกมาด้วยความตกใจและทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวน่าดึงดูดมาก ทั้งสองคนอยู่ที่นี่... ต่อมาได้อีกไม่นานนัก แอมเบอร์กลับมีอาการเดียวกันกลับอวาลอน เธอทรุดลงอย่างรวดเร็ว เอเลเทียร์ไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลาด้วยซ้ำ... แอมเบอร์เสียชีวิตในปี 1716 แอมเบอร์เป็นเพียงคนเดียวที่เอเลเทียร์ไว้ใจและเชื่อมั่น แอมเบอร์แทบจะเป็นทุกอย่างของเอเลเทียร์ นับจากแอมเบอร์เสียชีวิตเอเอเทียร์ก็เกลียดการตายจากกันไปที่สุด
ในปี 1716 เธอได้แต่หมกตัวอยู่แต่ห้องทดลองใต้ดิน สิ่งที่เธอทำออกมาภายในเวลาสามเดือนและเธอเรียกมันว่า ‘เครื่องเดินทางข้าวกาลเวลา’
ไม่มีการทดลอง ไม่มีข้อมูลใดๆที่บอกว่ามันใช้งานได้ แต่เอเลเทียร์เชื่อมั่นกับเจ้าเครื่องนี้เต็มที่ มันจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ยุคนี้ไม่มีไฟฟ้า แต่เธอผลิตมันขึ้นมาได้ โดยใช้แร่สีเขียวปริศนาในการสร้างประจุไฟฟ้า... นับถอยหลัง 30 วินาที เครื่องเริ่มทำงาน ระเบิดเวลาที่วางอยู่ทั่วห้องไม่ต่ำไปกว่า 50 แพ็คนับถอยหลังไปเรื่อยๆ

9...8...7...6...5...4...3...2...1...0...
ร่างของเอเลเทียร์โดนแสงสีขาวดูดกลืนและหายไปจากที่นั่น ระเบิดภายในห้องระเบิดอย่างรุนแรงจนทุกสิ่งที่อยู่ในห้องนั้นหายไป... ห้องใต้ดินถล่มลงมา ทับเศษซากทุกอย่างไป

1st December A.D. 1916

เอเลเทียร์ปรากฏตัวในตกร้างแห่งหนึ่ง เธอใช้เวลาครึ่งปีในการหาข้อมูลและเรื่องราวต่างๆในยุคนี้...
ซาร์นิโคลัสที่ 2 ตัดสินใจร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่การทำแบบนั้นนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งชีวิตของทหารและชาวรัสเซียนับล้านที่เมื่อรัสเซียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ การจลาจลเกิดขึ้นทั่วเมือง ในที่สุดปี 1917 จึงเกิดการปฏิวัติล้มล้างระบบซาร์ พระเจ้านิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นบริหารประเทศ เอเลเทียร์เริ่มการรวบรวมอำนาจและแสดงตนขึ้นออกมาให้โลกเห็นโดยทำการ ปฏิวัติยึดอำนาจการบริหารประเทศไว้ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ พร้อมทั้งประกาศให้ประเทศเป็น สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics / USSR)

ปี 1918 ย้ายเมืองหลวงและฐานอำนาจกลับสู่มอสโคว กระนั้นก็ยังมีผู้ไม่พอใจกับสภาพแร้นแค้น การขาดสิทธิเสรีภาพ จึงทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ในปี 1924 เอเลเทียร์เริ่มปกครองด้วยความเผด็จการ และกวาดล้างทุกคนผู้ที่มีความคิดต่อต้าน เธอเปิดการพัฒนาประเทศสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ จนเทียบเคียงสหรัฐอเมริกาภายในเวลาอันสั้น แต่ปัญหาความอดอยาก ที่เรื้อรังมานานก็ยากเกินเยียวยา และยิ่งเลวร้ายเมื่อฮิตเลอร์สั่งล้อมมอสโควไว้ โดยเฉพาะที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กถูกปิดล้อมไว้นานถึง 900 วันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชาวรัสเซียเรียกสงครามครั้งนั้นว่า มหาสงครามของผู้รักชาติ (The Great Patriotic War) กระนั้นเอเลเทียร์ก็มีบทบาทในการพิชิตนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 (1941-1945) นี้ไว้ได้

ปี 1985 เอเลเทียร์สละตัวเองจากโลกทางทหารและการเมือง เธออยากใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครอีก... เธอเสียทหารเคียงบ่าเคียงไหล่ไปหลายคนในสงคราม ซึ่งมันทิ่งแทงบาดแผลในใจของเธอจนย่อยยับและไม่มีจิตใจจะทำอะไรไปอีกหลายปี... มิคาอิล กอร์ฮาชอฟขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เขาเป็นผู้นำการปฏิรูปโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่เรียกว่า เปเรสตรอยกา (Perestroyka) โดยนำพาประเทศเข้าสู่ระบบทุนนิยม มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนาฝีมือแรงงานรวมถึงเสนอนโยบายเปิดกว้างกลาสนอสต์ (Glasnost) คือให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชน มีการติดต่อด้านการค้ากับตะวันตก รวมถึงถอนกำลังออกจากยุโรปตะวันออกและอัฟกานิสถานและยังได้เข้าร่วมกับองค์การนาโต หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ในปี 1990 กอร์ฮาชอฟได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ รวมถึงได้รับยกย่องจากนิตยสารไทม์เป็นบุรุษแห่งทศวรรษ (Man of the Decade) กระนั้นปัญหาขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค และความล้าหลังทางการผลิตที่สั่งสมมานานก็ทำให้นโยบายเปเรสตรอยกาล้มเหลว ความนิยมในกอร์ฮาชอฟเริ่มตกลง ต่อมาเกิดรัฐประหารขึ้นในเดือนสิงหาคม 1991 โดยกลุ่มคอมมิวนิสต์หัวเก่าที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงสู่ตลาดเสรี แต่เอเลเทียร์กลับมาแล้วก็สามารถกู้สถานการณ์เอาไว้ได้ กอร์ฮาชอฟจึงสิ้นคะแนนนิยมอย่างแท้จริง เขาประกาศลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงประกาศยกเลิกพรรคคอมมิวนิสต์ต่อหน้ามหาชน พร้อมด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำ สหภาพโซเวียตจึงล่มสลาย สาธารณรัฐต่างๆ ทั้ง 15 สาธารณรัฐแยกตัวเป็นอิสระ รวมทั้งสาธารณรัฐรัสเซีย (Russian SFSR) ภายใต้ชื่อใหม่ว่า สหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation)

Russian Federation
Российская Федерация
Rossiyskaya Federatsiya
สกุลเงินของรัสเซียคือรูเบิล (RUB)

เอเลเทียร์ได้เป็นประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อปี 1989 โดยเธอเป็นประธานาธิบดีโดยตรงครั้งแรกในประวัติศาสตร์รัสเซีย

คริสต์ทศวรรษ 1990 รัสเซียได้เผชิญกับความขัดแย้งด้วยอาวุธในคอเคซัสเหนือ ทั้งการสู้รบประรายด้านชาติพันธุ์ท้องถิ่นและการก่อการกบฏของกลุ่มอิสลามแบ่งแยกดินแดน นับตั้งแต่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชเชนได้ประกาศเอราชในต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ก็ได้เกิดสงครามกองโจรขึ้นเป็นระยะๆ ระหว่างกลุ่มกบฏกับกองทัพรัสเซีย กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้โจมตีก่อการร้ายต่อพลเรือน ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ วิกฤตการณ์ตัวประกันโรงละครมอสโควซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยศพและเรียกความสนใจจากทั่วโลก เอเลเทียร์ตัดสินใจลงจากตำแหน่ง ช่วงนั้น มูรานอฟ เซเคฟขึ้นเป็นประธานาธิบดี
รัสเซียยอมรับความรับผิดชอบในการจัดการหนี้สินภายนอกของสหภาพโซเวียต แม้ประชากรรัสเซียจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของประชากรสหภาพโซเวียตเมื่อสหภาพล่มสลายไปนั้น การขาดดุลงบประมาณอย่างสูงเป็นเหตุของวิกฤตการณ์การเงินรัสเซียและยิ่งทำให้ GDP ลดลงไปอีก

วันที่ 31 December 1999 ประธานาธิบดีเซเคฟลาออก ตำแหน่งที่ว่างอยู่เอเลเทียร์จึงต้องกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม เอเลเทียร์ปราบปรามการก่อกบฏ แม้ความรุนแรงเป็นพักๆ ยังเกิดขึ้นทั่วคอเคซัสเหนือ ราคาน้ำมันที่สูงและเงินตราที่เดิมอ่อนค่าเกิดขึ้นหลังอุปสงค์ภายในที่เพิ่มขึ้น การบริโภคและการลงทุนได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นหลายปีติดต่อกัน ซึ่งได้พัฒนาคุณภาพชีวิตและเพิ่มอิทธิพลของรัสเซียในเวทีโลก แม้การปฏิรูปหลายอย่างที่เอเลเทียร์ดำเนินการระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดยทั่วไปมักถูกชาติตะวันตกวิจารณ์ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ความเป็นผู้นำของเอเลเทียร์เหนือการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย เสถียรภาพและความก้าวหน้าได้ทำให้เอเลเทียร์เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในรัสเซีย
8 December 2005 อเมริกาไม่พอใจในการปกครองของเอเลเทียร์เป็นอย่างมาก ทางเอเลเทียร์ก็ไม่พอใจเช่นกันที่ชาติตะวันตกไม่เห็นด้วย ซึ่งประชากรส่วนหนึ่งในรัสเซียก็ไม่เห็นด้วยอีกเช่นกันที่คนอังกฤษมาปกครองรัสเซีย จุดเริ่มต้นของสงครามเริ่มจากจุดนี้

หลายฝ่ายพยายามล้มล้างอำนาจของเอเลเทียร์ การปกครองของเธอเป็นไปอย่างยากลำบาก เธอเริ่มหันหน้าเข้าหาการปกครองแบบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์อย่างเต็มรูปแบบ เป็นการเผด็จการอย่างแท้จริง เธอใช้อำนาจทหารที่มีทุกอย่างในการปกครองและต่อต้านผู้ไม่เห็นด้วยรวมถึงอเมริกาและพันธมิตรอื่นๆ สงครามขนาดใหญ่เกิดขึ้น เอเลเทียร์เริ่มกระบวนการผลิตและขายอาวุธสงครามโดยแท้จริง เทคโนโลยีของเธอก้าวล้ำไปรวดเร็วมากจนเกินขีดจำกัดของสงครามที่ทุกฝ่ายจะเอาชนะเธอได้ แต่การปกครองในรัสเซียตอนนั้นสั่นคลอนมาก เธอปกครองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เธอตั้งเป้าหมายไว้ ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกให้อเมริกา ทำให้อเมริกามีอำนาจในการทำธุรกิจกับญี่ปุ่น แต่รัสเซียไม่... และในปี 2010 กองทัพเรืออเมริกาอยู่ในน่านน้ำของญี่ปุ่น เอเลเทียร์ยกกองทหารบางส่วนไปที่ญี่ปุ่นและเกิดการปะทะกันกับทหารอเมริกัน ทั่วญี่ปุ่นตกอยู่ในสภาวะสงคราม สงครามยืดเยื้อไป 1 ปีจบด้วยการเตะก้นอเมริกาให้จมหายไป นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอเมริกา เอเลเทียร์เข้าปกครองญี่ปุ่นและเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์แต่เธอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับประเทศนี้ เธอยุ่งเกี่ยวกับทางการทหารแต่ไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับปากท้องของประชาชน เธอบอกว่านั่นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ใช่ทหาร แต่เธอก็มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศจากเงินของเธอในการค้าอาวุธสงครามและส่วนอื่นๆ ความนิยมของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและหลายฝ่ายของญี่ปุ่นให้การสนับสนุนเธอเต็มที่

เทคโนโลยีของเธอก้าวล้ำไปมาก ที่มีความน่ากลัวในสนามรบมากที่สุดคือ Combat Suit ชุดเกราะที่ขับเคลื่อนโดยคนหนึ่งคนอยู่ในชุดที่เหมือนหุ่นยนต์ ขนาดใหญ่กว่ารูปร่างปกติของมนุษย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพเกินจะคาดเดา บางเครื่องสามารถถล่มได้รัฐหนึ่งโดยใช้เวลาไม่มาก

มาโฮวคาคุมาโยวริ จุดศูนย์รวมแห่งเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากที่สุดในโลกและไม่มีการแพร่เทคโนโลยีออกไปประเทศอื่น ปี 2015 เกาหลีเหนือส่งจรวดโดยมีหัวรบนิวเคลียร์ทำลายล้างสูงถึง 3 หัว สามารถทำลายญี่ปุ่นได้ทั้งประเทศถูกยิงมา เป้าหมายคือที่มาโฮวคาคุมาโยวริ เอเลเทียร์ระดมนักขับชุดรบ (Combat Suit) ชุดหนึ่งขึ้นไปบนอากาศรวมถึงตัวเธอเองเพื่อยับยั้งหายนะ

เธอขับชุดรบขึ้นไปและสามารถเปลี่ยนทิศทางของนิวเคลียร์ได้ ซึ่งมันกลับไปและถล่มลงระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ เกาหลีเหลือเจอหายนะหนัก เกาหลีเหนือมันแทบจะหายไปจากแผนที่ทั้งประเทศในขณะที่จีนอยู่ๆก็โดนลูกหลงเพราะเอเลเทียร์ เลยตั้งตัวเป็นศัตรูและเคลื่อนทัพมาที่เกาหลีเหนือเพื่อเตรียมตัวผ่านทางน่านน้ำมารบที่ญี่ปุ่น

ชุดรบและรถหุ้มเกราะประเภท Advanced Artillery ระดมหลายร้อยคันยิงถล่มข้ามประเทศเป็นเวลาจำนวน 3 วันติดต่อกันสร้างความเสียหายให้มหาศาลกับทั้งกองทัพของจีนและเกาหลีใต้ซึ่งก็โดนลูกหลงอีกตามเคย ทำให้เอเลเทียร์ต้องปวดหัวเพราะบังเอิญทำให้มีศัตรูเพิ่มเข้ามาอีก

2025 เริ่มเกิดสงครามไปทั่วโลก เอเลเทียร์ก็ยิ่งยุให้แตกแยกเข้าไปอีกแล้วก็ขายอาวุธสงครามให้แทบทุกฝ่ายถ้าพวกเขาต้องการ เอเลเทียร์ก้าวไปเป็นที่รู้จักของโลกในฐานะผู้ค้าอาวุธหัวรุนแรงอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเธอไม่ชอบมันซะนิด
ปัจจุบันปี 2029-2030 เธอยังก้าวต่อไปในเส้นทางแห่งการปกครองแบบทหารและยังมีสงครามอยู่ เธอใช้วิธีง่ายๆคือส่งกองทัพไปหาพวกที่ไม่ใช่พันธมิตรและถามว่าถ้าหยุดสงครามหรือจะทำสงคราม ถ้าไม่อยากมีสงครามเธอก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับประเทศนี้อีกเลย แต่ถ้าอยากทำสงครามค่อยตกลงกันอีกที

เอเลเทียร์เกิดในปี 1700 เมื่อเธออายุได้ 16 เธอสร้างเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลา เธอทำสำเร็จด้วยการเดินทางข้ามไปในปี 1916 แต่นับจากนั้นอายุของเธอก็หยุดเดิน เธอใช้ชีวิตในรูปร่างและอายุ 16 ของเธอมาตั้งแต่ปี 1916 ถึงปี 2029 ถ้านับจากวันที่เธอเกิดด้วยล่ะก็เธอจะมีอายุ 129 ปี ถ้านับในปีเกิดล่ะก็เธอจะมีอายุถึง 329 ปีในขณะที่รูปร่างยังคงเดิมมาตลอด

ในปี 1919 เธอสร้างชุดรบเครื่องแรกและใช้งานได้เยี่ยมยอด มันชื่อว่า Wildcat Death Hand เธอเป็นคนชอบแมวและชุดรบนี้เวลาทำงานบริเวณศีรษะจะมีหูแมวซึ่งเธอประดับขึ้นให้ดูสวยงามแต่มันก็เป็นเซ็นเซอร์สำหรับดักจับเสียงที่ดีได้
ต่อมาช่วงปี 1930 เธอค้นพบว่ามีโลกในมิติอื่นที่เชื่อมต่อกับโลกมนุษย์อีกมากมาย แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรู้ไม่เคยบอกใครหรือบอกข้อมูลคนอื่นให้รับรู้ เธอข้ามไปยังที่นั่น มันชื่อว่า ‘ฟอร์เร็นท์ เวิล์ด’ เธอเริ่มเป็นนักล่าปีศาจตั้งแต่นั้นมาและได้เสื้อคลุมสีแดงประดับด้วยโซ่สีทองซึ่งบ่งบอกว่าเป็นล่าปีศาจระดับ S ทันที

ในปี 1942 เธอหลบภัยไปอยู่ที่ไซบีเรีย ช่วงนี้เธอก็ยังพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ของเธอไปเรื่อยๆ เธอสร้างอาวุธเป็นของตัวเองอันแรก นั่นคือดาบขาวคู่แถบแดง เธอออกแบบมันมาจากชุดของสีแดงและทำด้ามจับเป็นสีทอง ส่วนสีขาวนั้นเธอมักจะมองพายุหิมะที่พัดกระหน่ำรวมถึงผมสีขาวของเธอเลยทำตัวดาบออกมาเป็นสีขาว ดาบนั้นชื่อว่า ‘ไซบีเรีย’ ส่วนประสิทธิภาพของมันร้ายกาจมากกว่าชุดรบของเธอ แต่ติดที่ว่าน้ำหนักและความเย็นมันแพร่กระจายออกมาเยอะเกินที่มนุษย์จะรับไหว นั่นเป็นเหตุผลของการที่เธอใส่เกราะแนบเนื้อไว้กับตัวและใส่ถุงมือกับถุงน่องไว้ตลอดเวลา ซึ่งมันช่วยได้หลายอย่างเหมือนกำลังขับชุดรบอยู่

ปลายปี 1942 เธอยังกลับเข้าร่วมรบที่สตาลินกราด เธอสร้างปืนสไนเปอร์ไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่ใช้หัวกระสุน .50 เป็นรุ่นแรกในโลกที่ยิงต่อเนื่องได้รุนแรงและรวดเร็วที่สุด ชื่อของมันคือ BSL .50 HEAT/AP (Heavy Sniper .50 Purpose Caliber) กล้องสามารถซูมได้ถึง 30x หัวกระสุน .50 สองแบบใช้สำหรับเจาะเกราะและอีกหัวกระสุนสำหรับต่อต้านรถถัง ลำกล้องตรวจจับความร้อน และหน้าจอ Heartbeat ตรวจจับรอบทิศ เธอเป็นมือสไนเปอร์ที่น่ากลัวสำหรับเยอรมัน
1943 ในช่วงสงครามโลกเธอสร้างชุดรบของตัวเองออกมาอีกชุดหนึ่งนั่นคือ Shooting Star Thesis ช่วงนั้นเธอสามารถสร้างเครื่องบินรบเทอร์โบเจ็ทได้แล้วแต่เธอไม่คิดจะกระจายข้อมูลมันออกไป นี่เป็นเทคโนโลยีแรกในสมัยนั้นที่ใช้งานเทอร์โบโดยการเผาผลาญเชื้อเพลิง มันมีความเร็วมากกว่าเครื่องบินทั่วไป 30 เท่า

ในปี 1976 เริ่มในช่วงสงครามเย็น เธอสร้างชุดรบของตัวเองขึ้นมาอีกชุดหนึ่งนั่นคือ Amnesia Nostalgis Asteroid ความสามารถโดยรวมของชุดคือยิงถล่มทุกอย่างที่ขวางหน้า เหมือนกับการเอารถหุ้มเกราะ Howitzer และปืนกลหนักมารวมอยู่ที่เดียวกันร้อยคันและยิงถล่มพร้อมๆกัน

ปี 1992 เธอเริ่มฉายแววในโลกแห่งสงครามมากขึ้นจนได้ฉายาใหม่ว่า Technology Deadlock Time-Keeper ซึ่งเธอก็รบในสงครามและก็ยิ่งทำให้สงครามครั้งนั้นปั่นป่วนเข้าไปอีก

ในปี 2016 เธอเลื่อนยศทหารขึ้นเป็น Supreme Commander Military Conscription of Technologies และเริ่มควบคุมทุกอย่างมากขึ้นตั้งแต่การทหารรวมถึงเศรษฐ์กิจของโลก และใช้ฉายาใหม่ว่า Patrol Wildcat Deathknight Stalker

ในปี 2029 เธอได้เปลี่ยนฉายาใหม่จากการเปลี่ยนแปลงทิศทางของสงครามไปเป็น Commander President Code : Black

ในทางการทหารไม่มีใครน่ากลัวไปกว่าเธอ ประเทศไหนทำอะไรไม่เข้าตาเธอจะติดต่อไปหาและพูดประโยคสั้นๆว่า “Do you want to die!?” และส่งทหารส่วนหนึ่งไปรอเจรจาว่าจะเอายังไง เอเลเทียร์ยังเด่นในด้านภาษา เธอพูดได้หลายภาษาและยังชื่นชอบภาษาญี่ปุ่นมากอีกด้วย แต่เธอก็มีปัญหาคือถ้าเธอเกลียดประเทศไหนจะไม่ยอมรับรู้ภาษานั้น ดังเช่นก่อนที่เกาหลีเหนือจะยิงนิวเคลียร์มาเกาหลีเหนือก็ส่งข้อตกลงมาว่าถ้าไม่หยุดการกระทำที่แทรกแซงไปซะทุกอย่างแบบนี้จะยิงนิวเคลียร์ใส่ แต่เธอด่ากลับไปเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ‘พ่อ***สิ’ เพราะเธอฟังภาษาเกาหลีไม่ออก เลยเป็นเหตุให้เกาหลีเหนือจัดการถล่มซะ แต่อย่างนั้นก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ญี่ปุ่นบางส่วนก็ต่อต้านเธอ ทำให้เธอมีปัญหาในการใช้ภาษาญี่ปุ่น และทั้งที่เธอมีเสื้อสายรัสเซีย แต่พอโดนคนรัสเซียต่อต้านก็พูดภาษารัสเซียได้อึกอัก เธอก็คิดจะศึกษาภาษาจีนไว้ แต่หลังจากวิกฤตนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่ได้โดนจีน ทำให้จีนส่งข้อตกลงมา ซึ่งเอเลเทียร์ก็ไม่ชอบประเทศนี้และฟังภาษาจีนไม่ออกและไม่ชอบให้คนอื่นแปลให้ ข้อความส่งมาว่าไม่อยากจะเป็นศัตรูกับเธอ แต่ถ้าการทำแบบนี้เป็นการจุดชนวนสงครามเราก็ยินดีจะรบด้วย ซึ่งเอเลเทียร์ตอบกลับไปสั้นๆในภาษาญี่ปุ่น ‘ปาลาเปาบ้านแกสิ ฉันฟังไม่รู้เรื่อง หัดพูดภาษาคนซะบ้างก็ดีนะ’

ปฐมบทของเอเลเทียร์ยังมีอีกมากมายทั้งในโลกนี้และโลกอื่น เธอมีคนมากมายรอบตัวและคนแปลกๆอีกมากที่รู้จัก หนึ่งในนั้นคือ ‘เคย์เนะ เรย์เซ็น’ เธอคนนี้เป็นที่รู้จักใน ฟอร์เร็นท์ เวิล์ด ในด้านความแข็งแกร่ง โหด*****ม ทารุณ และไร้ความปราณี ทั้งสองคนนี้คล้ายกันและเริ่มจากเอเลเทียร์เข้าไปยุ่งกับฟอร์เร็นท์ เวิล์ดก่อนทำให้รู้จักกับเรย์เซ็นและเริ่มชอบภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ตอนนั้นเธอชื่อของเรย์เซ็นมีความหมายเหมาะสมกับตัวเรย์เซ็นเองมาก

ในเนื้อเรื่อง Frustrative Another หรือเรื่องอื่นนั้นโดยส่วนมากตัวละครพวกนี้จะยังอยู่แม้ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในเนื้อเรื่อง การดำเนินเนื้อเรื่องของ Frustrative Another จะสลับไปยังโลกนู้นโลกนี้จนทำให้สับสนและตัวละครมากเกินกว่าจะจำได้หมด ก็มักจะมีเอเลเทียร์กับเรย์เซ็นเท่านั้นที่แทบจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับทุกอย่าง (หัวรุนแรงไร้ความปราณีทั้งสองคน ชื่อเรื่องเลย Frustrative Another ไง)

เคย์เนะ เรย์เซ็น เป็นที่รู้จักของฟอร์เร็นท์ในฉายา Princess Doll Dragon Red-eyes Crisis and War หรือ เจ้าหญิงมังกรตาสีแดงแห่งสงครามและความพินาศ เธอเป็นมังกรในร่างมนุษย์ แน่นอนว่าความแข็งแกร่งนั้นมีมากมายแม้จะไม่มีกำลังทหารเหมือนเอเลเทียร์ก็ตาม ทั้งเอเลเทียร์และเรย์เซ็นไม่ชอบให้ใครแข็งแกร่งกว่าหรือเด่นกว่าแต่ทั้งสองคนนี้ก็สนิทกันได้ แม้จะไม่มากเพราะว่าปะทะกันเองบ่อยด้วยเรื่องส่วนตัว ทั้งสองคนนี้สนิทกันได้เพราะเรย์เซ็นมีข้อเสียหลายอย่างกับสภาพอากาศ ถ้าหนาวเกินไปหรือร้อนเกินไปสภาพก็ไม่ต่างไปจากคนใกล้ตายทำให้เอเลเทียร์ยิ้มและคิดว่า ฉันนี่แหละแข็งแกร่งที่สุด แต่แน่นอนว่าสภาพโดยรวมแล้วเอเลเทียร์เทียบไม่ติดฝุ่นทั้งการวางแผนการรบ กำลังกายและอายุขัยรวมถึงพลังพิเศษที่มนุษย์ไม่มี เอเลเทียร์สู้ไม่ได้แน่นอน เพราะในการปะทะกันแต่ละครั้งเรย์เซ็นก็มักจะคว้าชัยชนะไปแบบง่ายๆโดยไม่เสียแรงมาก เธอก็คิดในใจเช่นกันว่า ฉันนี่แหละแข็งแกร่งที่สุด

เรย์เซ็นเกิดวันที่ 18 เดือน 11 ปีฟอร์เร็นท์ที่ 3309 หรือ 18th September 1653 เธอเกิดก่อนเอเลเทียร์ 47 ปีแต่ร่างกายกลับโตกว่าเอเลเทียร์เพียงเล็กน้อย เพราะเธอเป็นมังกรและสามารถมีอายุได้ถึงพันปีหรืออาจจะถึงหมื่นปี อีกสิ่งหนึ่งที่เธอเหมือนกับเอเลเทียร์คือ เอเลเทียร์ครึ่ง อังกฤษ-รัสเซีย ในขณะที่เรย์เซ็นนั้นครึ่ง อัลค์ซัลท์-ไลย์เดีย เธอเป็นครึ่งมังกรครึ่งแวมไพร์ และในส่วนลึกๆที่ทั้งสองคนพยายามเก็บซ่อนไว้ข้างในตัวเองเผลอหลุดออกมาก็คือความไร้สาระ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทั้งสองคนมักจะทำตัวบ้าๆบอๆทั้งๆที่สภาพโดยรวมไม่น่าจะเป็นแบบนั้น

เรย์เซ็นใช้ชีวิตมาตลอด 300 กว่าปีที่ผ่านมาในขณะที่เอเลเทียร์เดินทางข้ามเวลามา ยิ่งเวลาทั้งคู่ทะเลาะกันก็มักจะขุดเอาเรื่องอายุของใครมากกว่ามาตีกัน ยิ่งโดยเฉพาะเวลาของทั้งสองโลกมันเร็วบ้างช้าบ้างแล้วเอเลเทียร์มันมาเดินทางข้ามเวลาทำให้ทุกอย่างมันมั่วไปหมดเลยยากที่จะตกลงกันได้กว่าใครโตกว่ากัน แต่ก็แหงล่ะ เรย์เซ็นเป็นพี่สาวมากกว่าอยู่แล้ว เพราะอายุของเอเลเทียร์มันหยุดอยู่แค่ 16 นั่นล่ะ และเรย์เซ็นก็ผ่านสนามรบความรู้สึกหลากหลายแบบมามากกว่าเอเลเทียร์

-เอเลเทียร์-
(ปกติ) ส่วนสูง 166 น้ำหนัก 180 สัดส่วน 70-57-85
(ตัวเปล่า) ส่วนสูง 166 น้ำหนัก 43 สัดส่วน 82-57-85

-เรย์เซ็น-
(ปกติ) ส่วนสูง 171 น้ำหนัก 80 (ตัน) สัดส่วน 89-56-87
(ตัวเปล่า) ส่วนสูง 171 น้ำหนัก 46 สัดส่วน 89-56-87

ความสามารถของ Combat Suit (ชุดรบ) มีมากมาย และในแต่ละรุ่นความสามารถก็จะยิ่งไม่เท่ากัน แต่โดยรวมแล้วแต่ละรุ่นมีเกราะป้องกันที่ดีเยี่ยม ยุทโธปกรณ์ทั้งหมดจะเทคโนโลยีเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาจากคลังแสงไปยังชุดรบ ดังนั้นผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องขนมิสไซด์หรือกระสุนไปมากเมื่อเข้าสนามรบ เป็นเหตุผลที่ชุดรบเครื่องเล็กๆสามารถยิงถล่มได้เกินขีดจำกัดที่เห็นว่าไม่มีจุดไหนที่จะเอามิสไซด์ไปยัดไว้ได้เลย

ด้านการเคลื่อนไหวมีทั้งรุ่นที่เคลื่อนไหวบนพื้นด้วยการเดินหรือล้อขนาดเล็กใต้เท้าช่วยในการสไลด์หลบ ส่วนมากจะเป็นรุ่นที่ใช้งานบนท้องฟ้าโดยไอพ่นเทอร์โบที่ติดในบางส่วนของชุดเช่นด้านหลัง ใต้เท้า หรือที่มือ ชุดรบรุ่นที่ปัจจุบันใช้พลังงานจากฟลูออเรสซิเท็นซ์ซิสเต็มท์ เป็นระบบการส่งถ่ายพลังงานแบบง่ายๆ แต่รุ่น 33 เริ่มใช่พลังงานจาก Colorful Magic Systems แล้ว ทำให้การเคลื่อนที่บนท้องฟ้ารวดเร็วขึ้นและบินได้สูงขึ้นมากกว่าเดิม

บางรุ่นจะมีปีกทางด้านหลัง รุ่นนี้ส่วนมากจะเน้นทางด้านการสำรวจและโหมดไล่ล่ากันบนอากาศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการร่อนบนอากาศได้หลายเท่าตัว

ชุดรบโดยปกตินั้นถ้าอาวุธไม่ใช่จนเกินไปผู้ใช้สามารถสะพายไปข้างหลังขณะใส่ชุดรบอยู่ได้เลย แต่ระบบการเก็บอาวุธบางอย่างไม่เหมือนอาวุธอื่นเช่นการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งซึ่งเรียกว่า โคนอสสเปียร์ แต่เป็นการลดขนาดและอยู่ให้เล็กที่สุดเหมือนกระเป๋า Combat Suit รุ่นที่ไม่ได้นำออกมาใช้งานในตอนนี้จะถูกเก็บในรูปแบบกระเป๋า ซึ่งเอเลเทียร์ก็ใช้วิธีเดียวกันกับการเก็บอาวุธขนาดใหญ่ไว้ในชุดรบ เมื่อชุดรบเปิดใช้งานมันจะกางออกและปรับสภาพเป็นชุดรบให้สามารถใช้งานได้ทันที แต่ผู้ใช้ต้องปรับสภาพให้เข้ากลับชุดรบด้วยตัวด้วยการฝึกการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ แต่ถ้าในกรณีฉุกเฉินหรือเร่งรีบก็มีห้องสำหรับอนาไลซิสผู้ใช้และชุดรบให้สามารถเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว แต่ช่วงที่อนาไลซิสจะเหมือนอยู่ในห้องทรมานเป็นปีๆในขณะใช้เวลาแค่สิบนาทีเกราะของชุดรบนั้นโดยปกติจะป้องกันบางส่วนของผู้ใช้ การมีเกราะให้น้อยช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวและความเร็วได้ ด้านเกราะนั้นฟลูออเรสซิเท็นซ์ซิสเต็มท์เป็นตัวป้องกันอย่างดี โดยสร้างบาเรียรอบๆชุดกันได้ตั้งแต่ลูกตะกั่วจนถึงแรงระเบิดของมิสไซด์ แต่ก็ไม่เน้นทางด้านการป้องกันมากเพราะชุดรบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ ‘หลบ’ มากกว่าเพื่อ ‘รับ’ ความเสียหายแบบตรงๆอยู่แล้ว ชุดรบใช้ว่าจะไร้เทียมทาน บาเรียก็มีช่วงอ่อนกำลัง ยิ่งอยู่ห่างจากระบบฟลูออเรสซิเท็นซ์การส่งผ่านพลังงานก็ยิ่งลดต่ำลงไป เป็นเหตุผลที่เอเลเทียร์มักจะย้ำนักย้ำหนาสำหรับนักฝึกหัดชุดรบว่าอย่าพึ่งพาเกราะป้องกันมากเกินไป และยิ่งช่วงที่ระบบฟลูออเรสซิเท็นซ์หยุดการทำงานจะเหลือแค่พลังงานของชุดรบเท่านั้นและเหลือบาเรียบางๆสำหรับป้องกันการปะทะเล็กๆน้อยๆ ถ้าโดนกระสุน 7.62 หรือ 12.7 เข้าไปผู้ใช้ก็มีสิทธ์ตายคาชุดรบได้แน่นอน

โดยบางส่วนของผู้ใช้ตอนอยู่ในชุดรบจะไม่มีเกราะบางส่วน เช่นใบหน้า ช่วงอก หน้าท้อง อาจจะเป็นช่วงต้นแขนหรือต้นขาด้วยก็ได้ และส่วนมากจะเป็นรุ่นของผู้หญิงเพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าผู้ชายทั้งด้านรูปร่างและการนำเกราะบางส่วนออก แต่ยังไงก็ตามชุดรบก็มีโหมด Full Armor หรือเกราะแบบเต็มตัว ส่วนที่มองเห็นผู้ใช้ได้ชุดรบจะหุ้มเกราะเสริมขึ้นมา ใบหน้า ช่วงอก หน้าท้อง และส่วนอื่นๆ จนแทบจะกลายเป็นหุ่นยนต์ไปโดยแท้ แล้วอัตราการมองเห็นเมื่ออยู่ในสภาพนี้ก็ต่ำมาก อีกเหตุผลหนึ่งที่เธอทำชุดรบแนวนี้ออกมาเยอะๆก็เพราะมีบางคนชอบคอยแกล้งเธอตอนเธอลองใช้ชุดรบในการทดสองประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยี(ไม่ใช่อ่ะ) ที่เอเลเทียร์ไม่รู้จักดับการทำงานของ Combat Suit ทำให้เธอติดแหงกอยู่ในนั้น สภาพเหมือนติดอยู่ในซากตึก ทั้งร้อนทั้งอึดอัดและหนัก แม้ภายในจะสามารถปรับอากาศให้อุ่นหรือเย็นได้แต่เมื่อไร้พลังงานก็เตาอบดีๆนั่นล่ะ ก็เลยเกิดเป็นแผลในใจของเธอที่ว่ายิ่งเอาเกราะออกมากไหร่ยิ่งดี ช่วงนั้นเธอออกแบบจะไปออกแบบจนมีส่วนประกอบเสริมโดยมีส่วนประกอบหลักแต่ปิดส่วนสำคัญอย่างกับชุดว่ายน้ำ โชคดีที่เรย์เซ็นเรียกสติเอเลเทียร์กลับมาได้ก่อนที่จะลงมือทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นลงไป

“นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง ชุดน่าอายแบบนั้นใครเขาจะไปใช้กัน”
“อา...อ๋า... เอ๋?!! นี่ฉันกำลังคิดชุดรบอะไรของฉันกันแน่อยู่เนี่ย”

เอเลเทียร์จ้องในภาพและหน้าแดง

“น่าอายสุดๆเลย”
“นั่นก็หมายถึงตัวเจ้านั่นล่ะ”
“ว่าไงนะ?! เธอหาว่าฉันน่าอายอย่างนั้นเหรอ?!”
“ฟุฮึ่ม...”

และเรย์เซ็นก็เดินจากไปโดยทิ้งคำพูดประชดเอเลเทียร์เหมือนเดิม

ความร้ายกาจของชุดรบยังมีอีกมากมายและยังมีเครื่องที่มีความสามารถที่น่ากลัวอยู่ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่หลากหลายในด้านสงครามและความสะดวก แต่ข้อมูลเทคโนโลยีของเธอไม่เคยรั่วไหลออกไปที่ไหนเลย ไม่ว่าจะระบบอาวุธหรือสิ่งต่างๆ มีหลายครั้งที่โดนขโมยข้อมูลไป แต่เธอก็ทำลายมันทิ้งจนหมดสิ้น เช่น ข้อมูลปืน XMI-5568 ‘Rhythm’ เคยตกไปอยู่ในมืออเมริกาเพราะมีสายลับแฝงตัวเข้ามาในช่วงสงคราม เป็นปืนพลังงานต่อต้านสิ่งก่อสร้างและยานเกราะ เธอทำลายข้อมูลทั้งหมดทิ้ง ทางอเมริกายังไม่ลดละที่จะพยายามสร้างมัน แต่ด้วยวิธีการที่ซับซ้อนและใช้พลังงานที่ไม่เข้าใจทำให้พวกนั้นยอมแพ้ที่จะพยายามทำมันขึ้นมา

เอเลเทียร์เป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากเรย์เซ็น ตามที่วางเนื้อเรื่องไว้คือที่โลกคาคุเซ็น เพียงอย่างเดียว และไม่มีโลกมนุษย์ เอเลเทียร์ปรากฏตัวขึ้นมาหลังจากที่ล้มเนื้อเรื่องเก่า(HDD พัง Format หายไปทุกเรื่องที่ทำๆไว้)และสร้างตัวละครหลักเพิ่มขึ้นมาอีกมากมายรวมถึงการติดต่อกับโลกอื่น และเอเลเทียร์ก็เป็นคนที่น่ากลัวโลกมนุษย์ ส่วนเรย์เซ็นเป็นคนนี่น่ากลัวในคาคุเซ็น พอรู้สึกตัวอีกทีก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนนี้เหมือนกันจนตัวเองก็รู้สึกแปลกใจ การทำสงครามระหว่างทั้งสองโลกกลายเป็นการจัดการปัญหาระหว่างทั้งสองโลกและความเป็นพันธมิตรกัน

Combat Suit of Eletear

-Wildcat Death Hand-

รุ่นนี้ส่วนมากเธอใช้ที่ฟอร์เร็นท์ ชุดนี้การไหลเวียนของพลังงานจะมาจากพลังเวทย์เป็นส่วนใหญ่และในโลกมนุษย์ก็จะมีเพียงมาโฮวคาคุมาโยวริเท่านั้นที่ใช้งานชุดนี้ได้ดี เอเลเทียร์จึงไม่ค่อยได้ใช้ชุดนี้สักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ชุดนี้มีความสามารถหลากหลายแบบ เธอพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ รูปแบบจะเป็นเกราะเรียบๆ ช่วงเท้าหุ้มถึงเข่า นิ้วมือถึงเลยศอกขึ้นมานิดหน่อย เกราะไหล่ทั้งสองข้าง และเกราะข้างหลังสำหรับติดตั้งไอพ่น อาวุธของชุดนี้ในระยะประชิดมีแค่หมัดขนาดใหญ่ มีความสามารถในการต่อยที่หนักหน่วง ยิงพลังงานได้ ดึงสิ่งของบางอย่างได้รวมถึงความสามารถในการพุ่งเข้าไปหาเป้าหมาย(ยิงสลิงไปเกาะเป้าหมายและดึงตัวเองเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว)
อาวุธระยะไกลก็เป็นขั้นพื้นฐานที่ชุดรบรุ่นปกติมีนั่นคือ กระบอกปืนขนาด 12.7 สองกระบอก มิสไซด์จากอากาศสู่พื้น จำนวน 6 แพค(แพคละ 3 ลูก)และมิสไซด์จากอากาศสู่อากาศ 6 แพค (แพคละ 2 ลูก) FFAR สองกระบอก เตรียมมิสไซด์สำหรับบรรจุใหม่ 18 ชุด(ชุดละ 19 ลูก) M397 Anti-Inf หัวกระสุนขนาด 7.62 จำนวนสองกระบอกและ GAU-8C หัวกระสุนขนาด 35mm จำนวน 1 กระบอก
อาวุธระยะประชิดเป็น MWC ‘Death Hand’
---รายละเอียดทั่วไป---
น้ำหนักว่างเปล่า : 1,180lbs
น้ำหนักสูงสุด : 3,200lbs
บรรจุพลังงาน : 19Hrs.
ใช้โดย : Russian Federation High Rank Military
ความชำนาญพิเศษ : ทุกสภาพอากาศ, ทนทานต่อกระสุนทุกชนิด, โจมตีในระยะใกล้
ชื่อ : ไวด์แคท เดท แฮนด์ (Wildcat Death Hand)
ประเภท : Invention Combat Suit
ผู้เริ่มต้น : ELT
ผู้ผลิต : EKV
ประเภทเทอร์โบ : ปีกสามเหลี่ยมเทอร์โบคู่

---แอร์เฟรม---

ค่า G สูงสุด : ระดับ 5

---การขับเคลื่อน---

ตัวถ่ายเทพลังงาน : HW1-RAW-300
ประเภทเครื่องยนต์ : เทคโนโลยีชุดรบ (Combat Suit Technologies)
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 2.18
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (สุดขีดกำจัด) : 1.16

---สมรรถภาพ---

ระดับความเร็วสูงสุด : 598 Knots kts
ระดับความสูง : 60,000+ ft

- Shooting Star Thesis-

ชุดนี้เน้นความเร็วเป็นหลักและยังเร็วที่สุดในบรรดาชุดรบทั้งหมดที่เธอสร้างขึ้นมา สามารถไต่ระดับความสูงได้อย่างรวดเร็วและสามารถกดบาเรียรอบๆให้อัดกระแทกอากาศให้เกิดโซนิคบูมและไปได้เร็วมาก เป็นชุดรบที่มีเกราะตั้งแต่หัวจนปลายเท้า กระจกยูเฟเรลานัมเป็นกระจกสำหรับมองได้ในวิสัยทัศน์กว้างเวลาเครื่องที่ เวลาป้องกันแว่นตาอีกหนึ่งชั้นจะขยายขึ้นมาล้อมบริเวณหมวกนักบิน ช่วยป้องกันแสงต่างๆและแรงระเบิดได้ เกราะเน้นช่วงไหล่ หัว มือถึงศอกและเอวลงไปถึงปลายเท้า SST ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับแยกส่วนลำตัว เมื่ออยู่ในชุดรบก็จะสามารถปลดหมวกนักบินออกได้อย่างเดียวในขณะที่ชุดรบอื่นๆส่วนมากจะถอดส่วนแขน ขาและลำตัวได้เมื่อเสียหายหรือเกิดอะไรขึ้น เอเลเทียร์เกือบตายหลายครั้งเพราะชุดนี้ และเมื่อกลางปี 2021 เธอทดสอบเทอร์โบตัวใหม่และการขยายของบาเรียในความเร็วสูงสุดเพื่อสร้างสุญญากาศรอบๆ ระหว่างการทดสอบเธอเห็นสัญญาณเตือนในเรดาร์ว่าเป็นเครื่องบิน ระยะห่าง 90000 ฟีต ถ้าตามปกติคงจะ 3 นาทีกว่าจะถึงเป้าหมาย แต่ไม่ทันไรก็อัดโครมเข้ากับเครื่องบิน Air Force One เต็มๆภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาทีด้วยซ้ำ ระบบต่างๆของชุดรบขัดข้อง เทอร์โบข้างหนึ่งไม่ทำงานและเอเลเทียร์ก็ร่วงลงไปในทะเล หมวกส่วนหนึ่งแตกทำให้น้ำไหลเข้าไปในชุด โชคดีที่ SST ในส่วนหมวกนักบินจะมีออกซิเจนครอบบริเวณปากและจมูกไว้ทำให้ยังรอดไป เธอคิดอยู่ในใจเสมอว่าไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหนก็ไม่อยากตายทั้งนั้น แต่ว่าแต่ละอย่างที่ทำนั้นมันเสี่ยงตายสุดๆแต่ก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นจนมันเกิดปัญหา หน่วยกู้ภัยในกองทัพของเธอมางมเจอหลังจากนั้น 3 ชั่วโมง ดีที่รอดตาย แต่พอกลับไปก็ต้องไปนั่งงัดเกราะออกอีก แม้ชุดรบจะมีเทคโนโลยีดีแค่ไหน แค่เอเลเทียร์ไม่ได้พัฒนาในด้านนี้ความยุ่งยากให้น้อยลงเลย ถ้าชุดรบไม่มีปัญหาการจะเรียกชุดออกมาใช้งานหรือเลิกใช้งานนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่ว่าถ้ามันพังจนเกินเยียวยาล่ะก็ยุ่งยากหนักเลย เพราะชุดมันเชื่อมกันหมด ไม่มีส่วนสำหรับใส่หรือถอดเฉพาะ ไม่มีซิบหรือส่วนประกอบที่ถอดได้

SST ก็ยังดีขึ้นเรื่อยๆในด้านอื่น แม้จะยังเอาชุดนี้บินออกไปนอกอวกาศไม่ได้แต่ก็สามารถสร้างสภาพไร้แรงโน้มถ่วงรอบๆและสามารถทำความเร็วได้ถึง 9600 ไมล์ทะเล นั่นหมายถึงเร็วกว่า MiG-31 ถึงเกือบ 10 เท่า สามารถขึ้นไปได้ถึงชั้น Stratosphere ไต่ระดับได้ 1000 ฟีตต่อวินาที

ชุดรบนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาสำหรับติดอาวุธแบบเฉพาะเจาะจง แต่สามารถบรรจุยุทโธปกรณ์ที่ต้องการใช้เข้าไปได้ แต่เอเลเทียร์ก็ปรับแต่งใช้มีปืน Purple Laser บริเวณด้านหลังข้อมือทั้งสองข้างสำหรับป้องกันตัว

-Amnesia Nostalgis Asteroid-

หนึ่งในบรรดาชุดรบของเอเลเทียร์ที่มีครบทุกอย่างตั้งแต่ดาบ ปืนใหญ่ ปืนกล ทั้งเกราะและความรวดเร็ว เป็นชุดที่เน้นหนักทางด้านอาวุธและบาเรียหนาเตอะสำหรับป้องกัน แม้จะป้องกันไม่ได้รอบทิศ(ได้แค่ 180 องศา) แต่แค่เข้ามาใกล้ได้ก็เก่งแล้ว การออกแบบชุดคล้ายๆกับการยืนข้างๆอาวุธและสั่งให้ยิงมากกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับอาวุธเหมืนชุดอื่นๆ มีเกราะขาถึงน่อง นิ้วมือถึงต้นแขนไม่มีเกราะไหล่(เปิดไหล่)เกราะบางๆหุ้มที่คอและเกราะทางด้านหลังสำหรับเทอร์โบและปีก นอกนั้นเป็นชุดหนังบางๆสีดำสำหรับใส่ในชุดรบซึ่งสำหรับรูปแบบของผู้หญิงจะเปิดช่วงหน้าท้องและด้านหลังนิดหน่อยและเปิดด้านข้างเอวจนถึงต้นขา แม้เอเลเทียร์จะไม่ชอบการออกแบบแบบนี้สักเท่าไหร่(เอเลเทียร์ไปบอกให้ใครบางคน(เมงามิเนะ)ทำให้แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด ไม่สิ ไปขอให้ช่วยผิดคน) แต่ก็ช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีพอสมควร ANA มีความสามารถหลากหลายและยังพัฒนาตามเอเลเทียร์ได้รวดเร็วเหมือนดาบไซบีเรียของเธอ ชุดจึงมีการปรับแต่งด้วยมือน้อยครั้ง โดยส่วนมากจะพัฒนาซอฟแวร์ไปพร้อมกับตัวผู้ใช้ เพียงแต่ว่าถ้ามันปรับขนาดชุดหรือเกราะบางส่วนจะทำให้เกิดอาการแปลกๆ ถ้าใครบ้าจี้ล่ะก็อาจตายคาชุด และเอเลเทียร์ก็เป็นหนึ่งในพวกที่บ้าจี้สุดๆแต่ทะเลาะกับชุดรบชุดนี้อยู่บ่อยๆแม้จะรู้ดีว่าพูดกับ Combat Suit ไปมันก็ไม่รู้เรื่อง

-Another Character-

ตัวละครมีเพิ่มขึ้นมาเป็นทั้งเพื่อนและผู้ติดตามของเอเลเทียร์ เป็นตัวที่ใช้สำหรับในมาโฮวคาคุมาโยวริโดยเฉพาะในช่วง Frustrative Another 2028-2030

- คิริซาเมะ โยมิ (ชุดรบ - Fulcrum Stratos Havoc)
- เมงามิเนะ อายาริ (ชุดรบ - Corona Horizon Horror) (*มิโกะ)
- ยูเมคุจิ คิตซึเนะ (ชุดรบ - Desperation Flash Point) (*มิโกะ)
- อากะชิมะ ฮาชิโนะ (ชุดรบ – Strategic Lead Pursuit)
- จิฮาระ มายุโตะ (ชุดรบ - Trickster Sentry Flanker)
- เลเซเรียส เนเวส คาริเทียร์ (ชุดรบ - Nightmare Ranger)
- ซิลิเซียร์ คาเวสน์ ทรานอสเอลม่าซ์ (ชุดรบ - Hellfire Solar Eclipse)
- เรเซสคริปซ์ เนวาเดีย (ชุดรบ - Avenger Skies Diva)
- เซเรียสต้า เฟรก้า เซ็ทรอทแม็คคาเร็ท (ชุดรบ – Skyflash Trinity Twinkle)

ตัวละครเพิ่มใน Frustrative Another ช่วงสงครามโลกและสงครามเย็น

- อะกราย่า ซาเซฟสกี้ (Agraya Zrazhevsky) [CS - Kirov Lastormir Puvticsha]
- นาทาช่า ลาฟรันทรี่ (Natasha Lavrantiy) [CS - Dead Dreamer Hamonic]
- โรม่า นาเดซด้า (Roma Nadezhda) [CS - Seek Side Warfare]

และชุดรบเสริมที่เอเลเทียร์สร้างขึ้นทำหรับเรย์เซ็น

Dragorous Inexorable Thunder Reisen
Apocalypse Frustrative Crisis - Reisen
Seniki Tenkuu Seisouken - Sphere
Senki Shinken Denriken - Reisen

-Mahoukakumayouri Technology Airforce Military Academy-

ตารางในช่วงหนึ่งของโรงเรียนนี้

*ตารางสอน*

[วันอังคาร]
ผู้ดูแลการฝึกสอนในวันนี้

-ประธานนักเรียน เอเลเทียร์ เอ. คูเวกาสคอฟ เวอร์มิลเลี่ยน-
-รองประธานนักเรียน จิฮาระ มายุโตะ-
-เลเซเรียส เนเวส คาริเทียร์-

08.30-09.30
ภาษาฝรั่งเศส (แคนนาดา, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์ก)-ภาษาอังกฤษ-ภาษารัสเซีย
09.35-10.50
ภาษาเยอรมัน (เยอรมัน, ออสเตรีย)-ภาษาอิตาลี-ภาษาอินโดนิเซีย
10.55-11.35
วิ่งรอบค่ายทหารโดยไม่หยุดพักจนหมดชั่วโมงซ้อม
11.45-12.20
พักกลางวัน
12.20-13.00
ฝึกเจาะระบบในเครือข่ายข้อมูลทุกรูปแบบ
13.10-14.30
ฝึกการบินโดยใช้ Combat Suit
14.30-15.30
ซ้อมต่อสู้โดยใช้ Combat Suit
15.30-16.00
สอนการเรียนทุกวิชาแบบเคร่งครัดภายใน 30 นาที
16.05-17.30
ฝึกความอดทนโดยกลั้นหายใจในน้ำอย่างน้อย 3-15 นาที
17.30-18.00
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ Combat Suit
18.00
เลิกเรียน
หน้าที่เพิ่มเติมของ [Eletear A.K. Vermillion]
18.30 - ทำงานของสภานักเรียน
19.30 – ตรวจสอบฟลูออเรสซิเท็นซิสซ์เต็มซ์
21.00 – พัฒนาอาวุธ
22.00 - ลาดตระเวนในกองทัพ
23.00 - ตรวจสอบตารางบิน
0.00 [new day] – เตรียมการซ้อมรบ

**********

[วันพุธ]

ผู้ดูแลการฝึกสอนในวันนี้

-ประธานนักเรียน เอเลเทียร์ อคราสเนซ คูเวกาสคอฟ เวอร์มิลเลี่ยน-
-รองประธานนักเรียน จิฮาระ มายุโตะ-
-เซเรียสต้า เฟรก้า เซ็ทรอทแม็คคาเร็ท-

ผู้บัญชาการพิเศษ

-Lt. คิริฮาระ มิกิ-
*สนับสนุนการยิงระยะไกล (Artillery, Mortar, Howitzer)
-Lt. คิริซาเมะ โยมิ-
*กำหนดเส้นทางและจู่โจมทางภาคพื้นดิน
-[9th Recon Fighter Squadron] Cpt. ซิลิเซียร์ คาเวสน์ ทรานอสเอลม่าซ์-
*หน่วยสนับสนุนข้อมูลทางอากาศในพื้นที่สู้รบและอนุมัติการสนับสนุนทางอากาศ
-[1st Military Airbase] Comdr. เอเลเทียร์ อคราสเนซ คูเวกาสคอฟ เวอร์มิลเลี่ยน-
*บัญชาการการรบและออกคำสั่ง
-[3rd Close Air Support Squadron] Lt. Col. เซเรียสต้า เฟรก้า เซ็ทรอทแม็คคาเร็ท-
*ควบคุมพื้นที่และเป้าหมายในการสนับสนุนภาคพื้นดินทางอากาศ

01.00-10.00
ซ้อมรบเสมือนจริง [รถหุ้มเกราะ, เดินเท้า, เครื่องบินรบ, ปืนใหญ่, หน่วยสนับสนุนต่างๆ],เตรียมพร้อม [Setup equipments 0110 Hrs.], ซ้อมกระโดดร่ม [Start air invasion 0200 Hrs.], เข้าสู่การรบ [In action after HAHO & HALO
special paratroops team in warzone]
10.00-11.00
พัก
11.00-11.50
ประเมินระดับความสามารถของแต่ละคนจากการซ้อมรบ
12.00-13.00
ศึกษาเกี่ยวกับฟลูออเรสซิเท็นซิสซ์เต็มซ์, ศึกษาคัลเลอร์ฟูล เมจิค ซิสซ์เต็มซ์เพิ่มเติม
13.05-14.20
ภาษาฝรั่งเศส (สวิตเซอร์แลนด์)-ภาษาเกาหลี-ภาษายูเครน-ภาษาสเปน (อาร์เจนตินา)
14.25-15.50
ซ้อมเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ต่างๆ
16.00-17.30
สอนการเรียนทุกวิชาแบบเคร่งครัดภายใน 30 นาที
17.30-18.00
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ Combat Suit
18.00
เลิกเรียน
หน้าที่เพิ่มเติมของ [Eletear A.K. Vermillion]
18.30 - ทำงานของสภานักเรียน
22.00 - ตรวจสอบฟลูออเรสซิเท็นซิสซ์เต็มซ์
23.55 – บินลาดตะเวน
02.00 [new days] - ตรวจสอบยุทโธปกรณ์
02.50 – แก้ไขจุดบกพร่องของยานพาหนะ
05.00 - ตรวจสอบทุกส่วนในโรงเรียน
06.00 - พัฒนาคัลเลอร์ฟูล เมจิค ซิสซ์เต็มซ์
*Day End*


-ส่วนต่างๆของชุดรบ-

Prototype Main Suit
ประกอบด้วยเกราะและส่วนต่างๆในการป้องกันผู้ใช้

Dynamic Battle Gear
อุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็นปีก เทอร์โบ หรือตัวเสริมการรวบรวมบาเรีย

Asteroid Combat Accelerate
ชุดรบที่ทำงานด้วยพลังงานจากเทคโนโลยีแอสเทอร์รอยด์ซิสเต็มส์

CM Combat Accelerate
ชุดรบที่ทำงานด้วยพลังงานจากพลังงานคัลเลอร์ฟูล เมจิค ซิสเต็มส์

FR Combat Accelerate
ชุดรบที่ทำงานด้วยพลังงานจากตัวสร้างปฏิกิริยาฟลูออเรสซิเท็นซ์ซิสเต็มส์

Spread Wing
ปีกสำหรับช่วยในการเคลื่อนไหว มีหน้าช่วยในการหยุดการเคลื่อนที่กลางอากาศได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ปีกจะขยายแรงกดอากาศรอบๆและต้านลมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

Superior Wing
ปีกสำหรับช่วยในการบินและหักมุมเลี้ยว สามารถช่วยให้ปล่อยทิศทางได้ฉับพลันได้ทุกทิศทางแม้จะอยู่ในระยะใกล้พื้นดิน Spread Wing มีจุดเด่นในการเปลี่ยนทิศบนอากาศแบบฉับพลันเหมาะสำหรับการไล่ล่ากลางอากาศ แต่ Superior Wing มีจุดเด่นในด้านการยิงพร้อมหลบห่ากระสุนที่พุ่งเข้ามาหาไปด้วย

Kinesis Turbo
เทอร์โบสำหรับใช้งานในการไปยังจุดเป้าหมาย มีหน้าที่คล้ายกับจรวดเชื้อเพลิงของการปล่อยยานอวกาศขึ้นไป เมื่อหมดประสิทธิภาพก็สามารถปลดทิ้งได้ทันที

Sub-Engine Reactor Generation
ตัวเสริมประสิทธิภาพพลังงานเมื่อ Combat Suit ทำงานร่วมกับ Havoc Suit ในสภาพไม่สมบูรณ์เต็มที่

Armament
อาวุธทุกอย่างของชุดรบ

Multi-Advanced Fire Control
ระบบควบคุมการโจมตีในระยะไกลทุกระดับ ชุดรบมีความสามารถในการใช้อาวุธหลายอย่างพร้อมกันไม่ว่าจะปืนกล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่พลังงาน ปืนใหญ่มุมสูงหรือแม้แต่มิสไซด์ ตังควบคุมนี้จะแยกระบบการเล็งเป้าโดยอาศัยการอ่านความคิดจากนัยน์ตาของนักบิน ระบบนี้จะเชื่อมต่อไปยังอาวุธจึงสามารถรับรู้ความสามารถและประสิทธิภาพของอาวุธนั้นได้รวมถึงสามารถอนาไลซิสเป้าหมายที่ล็อคเป้าว่าเป็นประเภทไหนหรือมีอาวุธประเภทไหนได้ด้วย

Multi-Systems Optics
หมวกนักบินรูปที่ปิดหมดทุกส่วนในโหมดเกราะทั้งชุด บริเวณดวงตานั้นจะเป็นกล้องของชุดรบส่งภาพเข้าไปให้ผู้ใช้เห็นภายในชุด คล้ายๆกับการขับหุ่นยนต์ที่ไม่สามารถมองเห็นตรงๆได้นอกจากภาพด้านนอกที่หุ่นยนต์สามารถมองเห็นได้เท่านั้น ระบบนี้มีความสามารถสูงในการจัดแยกเป้าหมายและคำนวนสิ่งต่างๆ การจัดการส่วนอื่นๆรวมถึงการโจมตีก็จะมีประสิทธิภาพในความแม่นยำมากขึ้น ข้อเสียอยู่ตรงที่ถ้าชุดรบเกิดความเสียหายในส่วนหัวหรือจนระบบของชุดหยุดทำงานนักบินจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่สำหรับจุดเด่นคือสามารถซูมการมองเห็นได้ไกลมาก

Fulcrum Systems Optics
ส่วนมากระบบนี้จะใช้มากกว่า Multi-Systems Optics เพราะสามารถจัดการทุกอย่างได้เองทั้งหมด สิ่งที่มองและสั่งการจะเป็นไปตามที่เราต้องการ ทุกส่วนก็เหมือนเกราะปิดเต็มไปหน้าเหมือนรุ่นอื่นๆเพียงแต่ที่บริเวณการมองเห็นดวงตาจะทำมาจากแร่แอสเทอร์รอยด์ สามารถกันแรงระเบิดและกระสุนได้จากการปะทะตรงๆ ด้วยกระจกที่บางทำให้การมองเห็นดีมาก ในชุดรบการมองเห็นในโหมดเกราะเต็มตัวนั้นจะต่ำมาก การเคลื่อนไหวและโจมตีแบบตรงๆถือว่าระยะการมองแบบนี้ดีที่สุด แต่ถ้าจะหลบการโจมตีจากหลายๆทิศคงยังต้องพึ่งพาระบบของชุดอยู่ ระบบนี้ดีกว่า Multi-Systems Optics ตรงที่แม้ชุดรบจะหยุดทำงานแต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้

Emergency Eject
ระบบปลดชุดรบ ระบบนี้ไม่ได้มีทุกรุ่น ที่ชุดจะมีจุดสำหรับดึงเล็กๆเอาไว้สำหรับปลดชุดรบออกในยามฉุกเฉินแม้ชุดจะทำงานต่อไม่ได้ มันจะดีดเกราะส่วนบนแยกออกจากกันทันที จะเหลือแต่ส่วนแขนตั้งแต่ไหล่ลงไปกับขาตั้งแต่หัวเข่าลงไปหรือบางรุ่นอาจเหลือตั้งแต่เอวลงไปเลยก็ได้ ชุดรบมีความสามารถในการบินและรบทางอากาศได้สูงกว่าบนพื้นดินในหลายๆรุ่นที่ทำออกมา ดังนั้นระบบนี้จึงถูกตัดออกไป ถ้าชุดรบหยุดทำงานกลางอากาศด้วยความเสียหายที่หนักมากแม้ผู้ใช้จะตกลงมาระบบหลักของชุดนั้นก็ยังป้องกันการกระแทกไม่ให้บาดเจ็บตอนปะทะพื้นด้วย

Hyperspace Phase Jump
มีใน Asteroid Combat Suit เท่านั้น เป็นการสร้างทางเดินโดยอาศัยรูปแบบเดียวกันกับรูหนอนในอวกาศเป็นการเดินทางข้ามอวกาศด้วยความเร็วแสง ความเร็วในการใช้บนโลกมนุษย์แม้จะเร็วไม่ได้มากแต่ถ้าใช้ระบบนี้ในการสร้างมิติล่ะก็การเดินทางด้วยความเร็วแสงจากอีกจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องจากไม่ว่าจะไกลแค่ไหน สำหรับชุดรบรุ่นที่ 32 ขึ้นไปนั้นมีความสามารถในการทนกับสภาพไร้แรงโน้มถ่วงได้ แม้จะสามารถอยู่ในอวกาศได้นาน 3 ชั่วโมงแต่ก็ต้องกลับไปเติมอ็อกซิเจนให้กับชุดอยู่ดี บาเรียของชุดเมื่ออยู่ในอวกาศจะไม่สามารถใช้งานได้ การใช้งานของชุดรบในอวกาศก็จะเป็นในในทางตรวจเช็คหรือซ่อมบำรุง Satellite หรือ Star Base ขนาดยักษ์ในอวกาศเท่านั้น



Story of Reisen – Livetune of Main Character


-Main Character-

เคย์เนะ เรย์เซ็น
Keine Reisen


สเฟียร์ อลิซ เดอะ มูนไลท์ อิมมอร์เทิล
Sphere Alice the Moonlight Immortal

เคย์เนะ เรย์เซ็น... ชือนี้มีน้อยคนที่จะรู้จักในโลกแห่งฟอร์เร็นท์ แต่ถ้าพูดถึงมังกรตาสีแดงแทบทุกคนจะรู้จักเป็นอย่างดีถึงความน่ากลัวและความร้ายกาจของคนๆนี้... เรย์เซ็น... มังกรตาแดงแห่งความพินาศ
ฟอร์เร็นท์หรือคาคุเซ็น คือโลกที่เป็นพื้นที่การดำเนินเรื่อง Frutrative Another ‘ฟอร์เร็นท์’ ถูกตั้งตามชื่อของผู้สร้างโลกนี้ก็คือ (ไลย์เดีย ‘เรย์เนะ’ ฟอร์เร็นท์) ความจริงนั้นคาคุเซ็นมีขึ้นมาอยู่ก่อนแล้ว มีแต่ความป่าเถื่อนและโหดร้าย การฆ่าฟันกันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ฟอร์เร็นท์ใช้เครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลกสร้างสิ่งต่างๆ แยกทวีปออกจากกัน และจัดระเบียบกฎทุกอย่างขึ้นมาใหม่ เธอเป็นคนปกครองฟอร์เร็นท์อย่างลับๆโดยไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แต่ก็มียังมนุษย์ที่คิดจะแย่งพลังมาจากเธอ พลังในการสร้างโลก เธอหายตัวไปหลังจากปี Firenze 997 พร้อมกับเครื่องดนตรีทุกชิ้น มีตำนานกล่าวต่อมาก็คือฟอร์เร็นท์ได้ให้กำเนิดมังกรขึ้นมาเพื่อปกครองมนุษย์และเผ่าทุกเผ่าแทนตัวเธอ มันมีพลังและอำนาจเหนือกว่าทุกเผ่า ผู้คนต่างหวาดกลัวและต่อต้าน ก่อให้เกิดสงครามมากมายขึ้นมายอีก รวมถึงความเชื่อที่ว่าถ้ากำจัดมังกรได้ล่ะก็จะได้ครอบครองคาคุเซ็นทั้งหมด และบางตำนานยังมีการกล่าวถึงโลกมนุษย์ ว่าผู้คนที่ตายบางส่วนจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง

คาคุเซ็นประกอบด้วยหลายส่วน มันใหญ่กว่าโลกมนุษย์หลายเท่า แต่พื้นดินนั้นใหญ่กว่าฝรั่งเศสแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น ส่วนที่เด่นที่สุดประกอบด้วยน้ำจำนวนมหาศาล

ผู้ช่วยของเธอมีหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ถูหลังตอนอาบน้ำไปจนถึงตายแทนได้ เรย์เซ็นเรียกคนเหล่านั้นว่า ‘ดอล’

เรย์เซ็นมีพี่สาว 1 คนและน้องสาว 1 คน ชื่ออันนะและซายะ ซึ่งก็เห็นเลยว่าชีวิตส่วนใหญ่ของเรย์เซ็นอยู่กับแต่ผู้หญิงเท่านั้น แม้จะเร็วไปหน่อยแต่เธอเข้ากับผู้ชายไม่ได้เพราะแบบนี้ล่ะ แต่ด้วยความน่ากลัวก็เธออย่าว่าแต่ผู้ชายเลย ถึงใครที่ไหนก็พยายามออกห่างกันทั้งนั้นยกเว้นที่คนรู้จักเรย์เซ็นเป็นอย่างดีหรือคนที่ไม่รู้ประสีประสาอะไรเกี่ยวกับเธอ เธอรับช่วงต่อดอลมาจากใครบางคน แต่เธอมีปัญหาในด้านความทรงจำ ยิ่งอยู่ไปเรื่อยๆนานเท่าไหร่ความทรงจำบางส่วนจะจางหายไปจากในหัว จนเธอทำไม่ได้แล้วว่าใครกันแน่ที่มอบดอลทั้งสิบให้เธอ แม้แต่ใครเป็นคนสร้างดอลพวกนี้ขึ้นมาก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ... พวกเธอมีกัน 10 คนและความสามารถในการรับใช้ก็ต่างกัน

เล่นชิริโทริ
เวลาว่างของดอลมีไม่มากในการปรากฏตัว สิ่งหนึ่งที่พวกนั้นมักทำคือเล่นเกมต่อคำและกฏของเกมนี้คือขอแค่คำที่ออกเสียงคล้ายๆกันก็สามารถต่อคำกันได้ เพียงแต่ว่าถ้าใครแพ้ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องทำตามที่คนชนะสั่ง
ด้านเนื้อเรื่อง Frutrative Another ในโลกฟอร์เร็นท์

เรย์เซ็นเป็นมังกรคนเดียวเท่านั้นมีที่นามสกุล นอกจากนี้ก็ไม่มีเลยนอกจากชื่อประจำตัว เช่นพี่สาวและน้องสาวของเธอก็มีแค่ชื่อประจำตัว เพราะมังกรนั้นจะรู้จักและจำกันเฉพาะฉายาของกันและกัน ซึ่งแต่ละฉายาก็บ่งบอกลักษณะของคนๆนั้นได้ดี
ในด้านพละกำลังและเวทย์มนต์เรย์เซ็นจัดอยู่ในอันดับต่ำที่สุดในเผ่ามังกร แต่เมื่อเริ่มเติมโตกลับมาพลังแข็งแกร่งมากที่สุด ปัญหามันอยู่ตรงที่สภาพอากาศและสิ่งต่างๆไม่ว่าจะการคงสภาพในร่างมนุษย์หรือโดนน้ำทะเลมากๆไม่ได้นั้นก็เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่ดี

เอเลเทียร์ชอบในตัวเรย์เซ็นมากพอสมควรเพราะเธอแข็งแกร่งและเอเลเทียร์อยากเป็นแบบนั้น ซึ่งเรย์เซ็นก็ไม่ชอบเอเลเทียร์สักเท่าไหร่ เหตุผลคือเอเลเทียร์เป็นมนุษย์ เหตุผลที่สองคือเข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง เช่นช่วงหนึ่งก่อนที่เรย์เซ็นจะไปโลกมนุษย์ เธอซัดกับข้ารับใช้คนหนึ่งซึ่งไม่พอใจที่เรย์เซ็นยังรังเกลียดมนุษย์ หลังบทสนทนาที่ไร้ความหมายสำหรับเรย์เซ็นเธอก็เร่งพลังและปล่อยมันออกมา จากนั้นทุกอย่างก็จบสิ้นลง... ทุกอย่างของเรย์เซ็น...

***

‘กริ๊ก...’

ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนผาบริเวณคอนแวนต์ ถุงมือสีดำถือนาฬิกาขนาดพอดีมือ เสื้อคลุมสีแดงขอบขาว ผมสีขาว ที่ต้นขาใต้กระโปรงมีปืนพกอยู่หนึ่งกระบอก บ่งบอกให้รู้ว่านั่นคือเอเลเทียร์
‘เพล้ง!’

กระจกของนาฬิกาแตกและมีควันลอยออกมา

“ใช้ได้แค่ครั้งเดียวจริงๆแหะ ยังไงการย้อนเวลาในโลกอื่นก็ยังมีปัญหาจนได้ คิดว่าสมบูรณ์แบบแล้วเชียว”

ตัวของเธอสลายหายไปเหมือนอยู่ในคอมพิวเตอร์ รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง มีเพียงเรย์เซ็น เธอกลับมาอยู่อยู่ในชุดเดิมที่ใส่ตลอดเวลา รอบๆเป็นสีน้ำเงิน มีขีดสีขาวตัดกันอย่างมั่วซั่ว

***

เอเลเทียร์เมื่อตอนอยู่คาคุเซ็นเธอเป็นนักล่าปีศาจอันดับ S แม้จะไม่แข็งแกร่งที่สุดแต่ก็มีทักษะการรบมากที่สุด ที่สำคัญคือชอบหนีงานมาไล่ตามเรย์เซ็นเพราะติดใจที่เรย์เซ็นดูสง่างามและท่าทางเหมือนเจ้าหญิง (เพราะเป็นเจ้าหญิงจริงๆ) ส่วนตัวเองยิ่งใหญ่แต่ทำไมยังเหมือนเด็กอยู่ (นั่นก็เพราะไม่รู้จักโตไงล่ะ)

[Vocaloid_BRS]

Character of Frutrative


ชื่อ : สเปคเตอร์ (Spectre) [スペックター]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 171 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 48 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : ความสงบ, แคมเฟอร์, ไมเด็น
เกลียด : ฮานาซาวะ โนวเลดจ์
งานอดิเรก : นั่งหลับตาในท่าที่เรียบร้อย
คลาส : ดอลสังเกตการณ์-ล่าสังหาร

หนึ่งในผู้ช่วยของเรย์เซ็น มีความสามารถคือ สังเกตการณ์ (Observe Doll) เธอมีนิสัยเงียบๆ เย็นชา สุขุม ไม่รีบร้อน จึงเหมือนกับพี่สาวของเรย์เซ็น แต่เธอก็นับถือเรย์เซ็นเป็นพี่สาวของเธอ รวมถึงดอลทุกตัวของเธอด้วย ถึงเธอจะเงียบๆ แต่ก็เป็นมิตรและใจดี ดอลทุกตัวเลยจะชอบสเปคเตอร์เป็นพิเศษ โดยเธอสามารถควบคุมเครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลกได้คือ กีตาร์ แต่การใช้งานก็ต้องเล่นตั้งแต่เครื่องดนตรีสามชิ้นขึ้นไปเท่านั้น การสังคีตและดนตรีจึงจะบรรเลงได้ คำพูดที่ดอลสังเกตการณ์ใช้เรียกเรย์เซ็นก็คือ ‘ท่านเคย์เนะ’

ชื่อ : ซิคลูด (Seclude) [シックルード]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 166 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 47 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : สันโดษ, สเปคเตอร์, แซฟเฟอร์
เกลียด : เวลาที่เหรียญตกลงบนพื้น
งานอดิเรก : ดีดเหรียญด้วยมือซ้าย
คลาส : ดอลสังเกตการณ์-พลางตัว

หนึ่งในสามของดอลสังเกตการณ์ ซิคลูดชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใครในตอนที่พักผ่อนหรือไม่มีอะไรทำ แต่ตอนเดินทางก็มักจะกอดคอสเปคเตอร์จากด้านหลังแล้วไปด้วยกัน ความสามารถของเธอก็คือ ทำตัวไม่ให้เป็นที่สนใจได้ เหมาะมากในการสังเกตการณ์เพราะจะไม่เป็นเป้าสายตาหรือเป็นที่สนใจ แต่อย่างเรย์เซ็นคงจะยากหน่อย เพราะเธอมักจะเลือกใช้ดอลไปสั่วๆไม่เคยเลือก ด้วยเหตุผลที่ ‘ดอลก็คือดอล เหมือนกันทุกตัว ทำไมถึงจะทำอย่างอื่นเหมือนกันไม่ได้’ เธอควบคุมได้หนึ่งเครื่องดนตรีของเธอคือ เซลโล่ เธอคือคนสำคัญที่จะทำให้การบรรเลงดนตรีมีพลังขึ้นมาได้

ชื่อ : ราเว็น (Raven) [レイブン]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 173 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 55 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : พูดโกหก, มองลงมาจากที่สูง, เมเยอร์, เอนิกซ์ม่า
เกลียด : เกลียดในสิ่งที่คนอื่นเกลียด แล้วแต่บางอารมณ์
งานอดิเรก : อะไรก็ได้ที่ทำแล้วมันสนุก
คลาส : ดอลสังเกตการณ์-ที่สูง

ดอลตัวสุดท้ายของดอลสังเกตการณ์ ราเว็นเป็นพวกชอบพูดหยอกและพูดเล่นจนติด เวลาพูดคุยด้วยจะเดาได้ยากมากว่ากำลังพูดเล่นหรือพูดจริง อันไหนหลอกหรืออันไหนไม่ได้หลอก ไม่มีความจริงจัง เธอมักจะสังเกตการณ์จากบนฟ้าและมีความสามารถในการไต่ระดับความสูงได้ดี เรย์เซ็นก็มีผลและความสามารถจากราเว็นด้วย หนึ่งในเครื่องดนตรีทั้งหมดที่เธอควบคุมได้ก็คือ ‘กลองชุด’ เครื่องดนตรีที่มีความสามารถหลากหลาย แต่ดูเหมือนเรย์เซ็นจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลลอยๆว่า ‘เจ้ากล่องกลมๆนั่นมันหนวกหูชะมัด...’

ชื่อ : เลเทล (Lethel) 【レッセル】
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 163 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 42 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : อยู่ข้างๆเรย์เซ็น, ไมเด็น, เทรสเซอร์
เกลียด : เวลาที่โดนจ้องมองด้วยความสนใจ
งานอดิเรก : ยิ้มตลอดเวลา
คลาส : ดอลรับใช้-อาวุธสังหาร

หนึ่งในเจ็ดดอลรับใช้ (Disillusion Doll) เลเทลเป็นพวกชอบหยอกเล่นและอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง เลยมักจะเป็นเป้าสายตาให้เรย์เซ็นเข้าไปแกล้งและรังแกต่างๆ และนั่นก็คือหนึ่งกิจวัติประจำวันที่เรย์เซ็นต้องทำเพื่อความสนุกโดยที่ขาดไม่ได้ เลเทลมีความสามารถในการพลางตัว แต่ไม่ใช้วิธีซุ่มโจมตี เธอจะใช้ความสามารถนี้ในการอยู่ข้างๆเรย์เซ็น ในขณะที่ดอลตัวอื่นต้องเข้าในอยู่ในร่างกายเรย์เซ็น และต้องใช้พลังเวทย์ในการปรากฏตัวออกมาในแต่ละครั้ง การทำแบบนี้เลเทลสามารถคุ้มครองเรย์เซ็นได้ตลอดเวลา คำพูดที่ดอลรับใช้ใช้เรียกเรย์เซ็นก็คือ ‘นายหญิง’

ชื่อ : เมเยอร์ (Mayer) [メイアー]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 50 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : ชุดที่เรย์เซ็นตัดให้, เหตุผล, ความเป็นผู้ใหญ่
เกลียด : เวลาที่ตัวเองซุ่มซ่าม
งานอดิเรก : ดูแลดอลตัวอื่นๆ
*หน้าอก : คัพ D
คลาส : ดอลรับใช้-ดูดกลืน

เธอมีนิสัยราวกับเป็นผู้ใหญ่ทั้งๆที่ก็ไม่ต่างไปจากดอลตัวอื่นมากมายเลย เมื่อดอลตัวอื่นเข้าไปเล่นด้วยหรือเข้าไปคุยด้วยก็มักจะวางตัวไม่ถูกและเผลอทำตัวเหมือนเด็กๆ พอรู้ตัวอีกทีเธอก็จะหน้าแตกแล้วรีบคืนสภาพกลับมา อะฮึ่ม... ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ความสามารถในการต่อสู้ของเธอคือความหนักหน่วงในการโจมตีและทำลาย ความรุนแรงในการทำลายอยู่ที่ตัวเรย์เซ็นล้วนๆ เรย์เซ็นเลยดึงแค่พลังทำลายล้างเป็นวงกว้างมาได้เท่านั้น ที่จริงเธอสามารถควบคุมเครื่องดนตรีได้ก็คือกลองชุด แต่ดอลที่เหลือต่างลงความเห็นตรงกันเลยว่า ‘เปลี่ยนให้ฉันเถอะ ถ้าเจ้าเล่นล่ะก็พังแน่นอน’ ความหนักหน่วงของเมเยอร์ทำให้เครื่องดนตรีเสียหายไปซะก่อน ไม่กลองทะลุก็เละทั้งชุดนั่นล่ะ เพราะเครื่องดนตรีทุกชิ้นจำเป็นต้องดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้คงพลังแฝงเอาไว้

ชื่อ : เทรสเซอร์ (Treasure) [トレザー]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 165 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 46 กิโลกรัม และมีท่าทีว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : หญิงสาว, ไมเด็น, ยูมินะ, สเปคเตอร์, สิ่งของหายาก, อาวุธในตำนาน
*ไม่ชอบ : แคมเฟอร์, สเปคเตอร์, เลเทล
เกลียด : ความอ้วน, อาหารที่ทานแล้วอ้วน, เวลาที่โดนทักว่าน้ำหนักเพิ่ม
งานอดิเรก : ไดเอท
คลาส : ดอลรับใช้-ความสำคัญ

‘สมบัติล้ำค่า... อย่างนั้นเหรอ... สำหรับฉันก็คือร่างกายที่เรียวเล็กและความงดงามของหญิงสาวพรหมจรรย์เท่านั้น’ ฮ่า~~!... พอได้ยินประโยคนี้ดอลตัวอื่นจะพากันถอยห่างเทรสเซอร์กันหมด เทรสเซอร์จะมักเผลอตัวและพูดออกมารวมถึงกอดตัวเอง พอรู้สึกตัวก็จะหน้าแดงและโวยวายบอกว่าไม่ใช่ โดยที่เรย์เซ็นจะหัวเราะเบาๆออกมา ‘ฮึฮึ... ฉันไม่รังเกลียดหรอกนะเทรสเซอร์’ เทรสเซอร์ให้ความเคารพและเชื่อฟังเรย์เซ็นมาก เธอควบคุมเครื่องดนตรีได้หนึ่งชิ้นคือ คีย์บอร์ด เธอสามารถใช้เครื่องดนตรีของเธอเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีอื่นอีกสองชิ้นได้ แต่กลับให้พลังเหมือนเช่นด้วยกันหกชิ้น เพราะเทรสเซอร์เด่นในด้านความเร็วที่สูงมากในด้านการโจมตี เลยใช้ในการเล่นเครื่องดนตรีได้รวดเร็วด้วย

ชื่อ : เอนิกซ์ม่า (Enikzma) [エニックズマー]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 159 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 41 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : บาห์เนส-มาสเตอร์, เซลเรีย-มาสเตอร์
ฟื้นฟูพลัง : ศาสตร์มืด, เวทย์สายบาห์เนส
ชอบ : ทำให้คนอื่นสับสน, ความเรียบง่าย, เลเทล
เกลียด : เวทย์สายบาห์เนส
งานอดิเรก : ฝึกเวทย์สายเซลเรีย
คลาส : ดอลรับใช้-ลอบจู่โจม

เธอค่อนข้างจะทำตัวแปลกๆและพิลึกๆ โดยการเคลื่อนไหวมักจะโผล่ๆหายๆ เสียงมาจากข้างหลัง หันไปก็ไม่เจอ เสียงมาจากข้างหน้าพอหันมาก็ไม่เจอ เสียงมาจากข้างหลังอีกรอบ พอหันไปได้ครึ่งนึงแล้วตัดสินใจไม่หันไปก็จะเห็นเอนิกซ์ม่ายืนยิ้มให้อยู่ข้างหน้าแล้วทักว่า ‘สบายดีไหมล่ะ’ ซึ่งทุกคนก็โดนหมด ยกเว้นเรย์เซ็นที่ตอบว่า ‘ไม่สบาย ช่วยหาอะไรสนุกๆให้ทำที’ กับสเปคเตอร์ที่ตอบกลับมาว่า ‘ปวดหัว ขอไปนอนก่อน’ และแคมเฟอร์ที่ตอบว่า ‘นักรบต้องมีร่างกายเต็มที่อยู่เสมอ เจ้าเองก็เลิกเล่นได้แล้ว’ เอนิกซ์ม่ามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก เธอเร็วกว่าเรย์เซ็นที่อ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูและเคลื่อนไหวไปในจุดที่คาดไว้แล้ว เอนิกซ์ม่าสามารถไปในจุดใกล้ๆได้ด้วยการเคลื่อนไหวที่เร็วสุดๆ

ชื่อ : แซฟเฟอร์ (Zephyrts) [ゼフィットズ]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 139 เซนติเมตร
น้ำหนัก : ปกติ 33 g น้อยสุดต่ำกว่า 3 g มากสุดมากกว่า 70 t
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ชอบ : อาหารอร่อยๆ, ความสนุก, เสียงหัวเราะ, ดอลทุกตัว, เรย์เซ็น, อิบุกิ
เกลียด : น้ำทะเล, ลมที่พัดตามธรรมชาติ, สภาพอากาศร้อน-ชื้น
งานอดิเรก : กิน, เล่นสนุก, วุ่นวาย, หนวกหู, ชวนคนอื่นมาเล่นด้วยกัน
คลาส : ดอลรับใช้-สนับสนุน

แซฟเฟอร์ก็เป็นหนึ่งในเจ็ดดอลรับใช้ เธอมีนิสัยเหมือนเด็กๆ ชอบโดนเรย์เซ็นแกล้งอยู่บ่อยๆ และเธอก็มักจะร้องไห้ไปหาสเปคเตอร์เสมอ โดยที่เรย์เซ็นทำท่าทางมีความสุขหลังจากที่ได้แกล้ง แต่พักหลังๆมานี่แซฟเฟอร์โดนสเปคเตอร์ล้างสมองทำให้เรย์เซ็นแกล้งไม่ได้ เช่นเรย์เซ็นเอาขนนกไปปั่นหูและแหย่จมูกแซฟเฟอร์ แซฟเฟอร์ก็จะละเมอและดิ้นจนแขนไปฟาดเรย์เซ็นจนเจ็บตัวโดยบังเอิญ เลยทำให้เรย์เซ็นเปลี่ยนไปแกล้งดอลตัวอื่นแทนจนกว่าแซฟเฟอร์จะหายเป็นปกติ แซฟเฟอร์มีความสามารถคือร่างกายไร้น้ำหนักหรือมีน้ำหนักน้อยมาก เวลาโดนโจมตีก็แทบไม่มีความเสียหาย เช่นโดนต่อย แต่ร่างกายของแซฟเฟอร์กลับลอยออกไปเหมือนลูกโป่ง แต่ถ้าเป็นตอนที่โจมตีล่ะก็ กระโดดทับด้วยน้ำหนักตัวเกือบๆร้อยตัน

ชื่อ : ไมเด็น (Maiden) [メイドン]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 45 กิโลกรัม
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย-มาสเตอร์
ฟื้นฟูพลัง : พลังเวทย์รอบๆตัว, เวทย์สายเซลเรียขั้นสูงสุด
ชอบ : เรย์เซ็น, สเปคเตอร์, ทำอาหาร, ความสงบ, มิโกะ
เกลียด : โดนแกล้ง, สิ่งที่ไม่เข้าใจ, ถอดเสื้อผ้า
งานอดิเรก : เรียนรู้สิ่งที่มิโกะจำเป็นต้องทำ
คลาส : ดอลรับใช้-เวทย์มนต์

ไมเด็นคือดอลที่เรย์เซ็นเปลี่ยนเป้าหมายมาแกล้ง ปกติเธอจะโดนเทรสเซอร์แกล้งอยู่แล้ว เธอก็โดนเรย์เซ็นแกล้งซ้ำอีก เธอเป็นดอลที่ร้องไห้ง่ายมาก เทรสเซอร์ก็เลยแกล้งไม่มาก แต่เรย์เซ็นแกล้งแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำให้ไมเด็นผู้น่าสงสารแทบจะทนไม่ได้ น่าร้องไห้จริงๆ... ไมเด็นเด่นทางด้านเวทย์มนต์ เธอไม่ต่างไปจากแม่มดเลย ในด้านการยิงเวทย์หรือการใช้งานเวทย์มนต์ เพียงแต่ชุดไม่ใช่แม่มดแถมยังเหมือนกับดอลตัวอื่นๆด้วย ก็คือเสื้อเหมือนชุดว่ายน้ำ(วันพีช)สีดำและเสื้อคลุมเล็กๆที่ปิดไหล่และช่วงอกสีแดงบ่งบอกว่าเป็นขับรับใช้ของเรย์เซ็น (มังกรตาสีแดง) และถุงน่อง ดอลรับใช้จะใส่ถุงน่องสีดำ ดอลสังเกตการณ์ถุงน่องสีขาวและชุดในสีขาวส่วนเสื้อตัวเล็กที่คลุมข้างนอกก็สีแดงเหมือนเดิม เธอสามารถเก็บเวทย์มนต์ได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเก็บขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ไม่เคยสะสมไว้ได้มาก เพราะเรย์เซ็นจำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์มากมายในการทำสิ่งต่างๆ ไมเด็นสามารถควบคุมเครื่องดนตรีได้หนึ่งชิ้นคือ เปียโน เวลาเล่นจะมีมือสีฟ้าลางๆออกมาช่วยเล่นด้วย แล้วแต่จังหวะโน้ต ถ้าเป็นโน้ตแห่งการกลาดล้างและปฏิวัติล่ะก็ เปียโนจะเล่นเร็วมากจนสิบนิ้วยังเล่นไม่ทัน เหมาะสำหรับไมเด็นที่มีความสามารถนี้ โน้ตช้าไมเด็นก็เล่นได้ แต่ถ้าโน้ตเร็วก็มีมือสีฟ้าจางๆออกมาช่วยอีก 4-6 มือ

ชื่อ : แคมเฟอร์ (Kampfer) [キャムプファー]
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 173 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 61 กิโลกรัม
สัญชาติ : เนวาเดียซ์
แหล่งกำเนิดพลัง : เนวาเดียซ์-มาสเตอร์
ฟื้นฟูพลัง : จิตใจนักรบ, ความแข็งแกร่ง, ทักษะเนวาเดียซ์ขั้นสูงสุด
ชอบ : เรื่องสนุก, หน้าอก, เทรสเซอร์, สเปคเตอร์, ไมเด็น, สเฟียร์, เรย์เนะ ฟอร์เร็นท์
เกลียด : ความไร้ระเบียบ, ฮานาซาวะ โนวเลดจ์, มนุษย์, อาวุธระยะไกล, พื้นที่แฉะ
งานอดิเรก : ฝึกดาบ, ไล่จับหน้าอกคนอื่น, เล่นมุกตลก, หาเรื่องเฮฮา, ไล่ถอดเสื้อผ้าคนอื่น
คลาส : ดอลรับใช้-นักรบ, เนวาเดียซ์-เบลด มาสเตอร์

ดอลรับใช้ที่เข้มงวดและจริงจังมากที่สุด แม้เรย์เซ็นจะไร้สาระและไม่จริงจังบ้างก็ยังโดนแคมเฟอร์บ่น เป็นดอลตัวเดียวที่เรย์เซ็นยอมก้มหน้าโดนบ่น เพราะเรย์เซ็นเถียงไม่เคยชนะเลยสักครั้ง และดอลตัวอื่นก็คอยเข้าข้างฝ่ายที่ถูกซึ่งส่วนใหญ่ก็คือแคมเฟอร์ เรย์เซ็นเลยหัวเดียวกระเทียมลีบเถียงไม่ออก เธอไม่ชอบอะไรที่ไม่เรียบร้อย อย่างเช่นแซฟเฟอร์หยิบช้อนด้วยมือซ้ายและส้อมหยิบด้วยมือขวา แคมเฟอร์จะทำแววตาดุดันจนลุกเป็นไฟแล้วพูดเสียงดัง ‘ยัยบ้า! ใครใช้ให้จับช้อนมือซ้าย!’ ซึ่งก็สมกับเป็นนักรบ(งี่เง่า)จริงๆ แซฟเฟอร์ก็ตกใจแล้วร้องไห้ออกมาพร้อมกับขอโทษ สเปคเตอร์ก็จะบ่นแคมเฟอร์แทนอีก เธอก็เลยขอโทษที่ทำเสียงดัง และมักจะเป็นบ่อยครั้งไม่ว่าที่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเธอเสียงดังใส่เรย์เซ็นล่ะก็เรย์เซ็นจะใช้กระดาษที่พับสลับไปมาหลายๆชั้นตีที่หัวแล้วบอกว่า ‘หนวกหูน่า แคมเฟอร์’ แคมเฟอร์มีความสามารถในด้านการรบเชิงยุทธวิธีและกลวิธีในการวางแผนการรบและจู่โจม ในด้านเชิงดาบก็เก่งที่สุดในดอลทั้งหมด รวมถึงเรย์เซ็นด้วย เรย์เซ็นเก่งดาบเพราะบ้าพลังเพียงอย่างเดียว ทักษะดาบสู้แคมเฟอร์ไม่ได้

ชื่อ: สเฟียร์ อลิซ ดิ มูนไลท์ อิมมอร์เทิล (Sphere Alice the Moonlight Immortal) [スフィア・アリッス・ザー・ムーンライト・イモートル]
อายุ : มากกว่า 1000-3000 ปี
ส่วนสูง : 176 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 45 กิโลกรัม
สัญชาติ : ไลย์เดีย
แหล่งกำเนิดพลัง : ดวงจันทร์ (อยู่ที่การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ทั้งสองดวง)
ชอบ : สิ่งที่เรย์เซ็นชอบ, เหตุผล
เกลียด : สิ่งที่เรย์เซ็นเกลียด, ลุยเป็นทีม
งานอดิเรก : พัฒนาอาวุธ, ตั้งชื่อให้อาวุธ, ทำแว่นขึ้นมาสำหรับใส่เอง
คลาส : ไลย์เดีย แวมไพร์
ฉายา : แวมไพร์รัตติกาล สเฟียร์ อลิซ ดิ มูนไลท์ อิมมอร์เทิล

ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เธออยู่ในร่างเดียวกับเรย์เซ็น แม้จะสามารถแยกร่างออกจากกันได้ แต่ก็ไม่ได้แยกจริงๆ แถมต้องอยู่ใกล้กันแบบตัวติดกันอีกด้วย อยู่ห่างกันไม่ได้ สเฟียร์นั้นในภาค Mirai no Unmei ก็คือคนๆเดียวกับเรย์เซ็น ไม่ว่าจะความคิดหรือความทรงจำ แม้จะหน้าตา ชุด รูปร่างต่างกันเพียงนิดหน่อย แต่เรย์เซ็นก็ควบคุมทั้งหมด จนเรย์เซ็นเปลี่ยนไป เธอกลับพยายามแยกสเฟียร์ออกจากตัวเอง หรือว่า... สเฟียร์มีตัวตนเป็นของตัวเอง และมีชีวิตและความคิดส่วนตัว?! เรื่องนั้นก็ยังเป็นความลับ เธอมีแววตาสีเหลือง ผมสีขาวออกเทาๆ เขี้ยวเล็กๆและปีกแวมไพร์ขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถซ่อนปีกได้ เธอมีหน้าที่หลักในการคงสภาพให้เรย์เซ็น สเฟียร์สามารถดูดกลืนพลังเวทย์และชีวิตจากคนอื่นได้ ซึ่งก็ช่วยได้มากสำหรับความลับในการคงสภาพของเรย์เซ็น อาวุธที่เธอมีติดตัวคือ Imperishable Hellscythe Forever Dream Mk-9 และ Crimson Hellscythe Invisible Moon Mk-11 เคียวสองอันนี้พัฒนาไปตามรูปแบบผู้ใช้งาน ปัจจุบันคือสองอันนี้ มีศัตรูหลายคนถามว่า “ทำไมต้องมี ‘มาร์ค-(ตัวเลข)’ ด้วย” สเฟียร์ก็ตอบไม่ได้ เพราะเซ็นซ์ในการตั้งชื่อของเธอแทบไม่มีเลย เธอยังเป็นคนสร้างดอลทั้งสิบตัวขึ้นมาด้วย แต่ในขณะอีกด้านหนึ่ง เรย์เซ็นยังเชื่อว่าดอลทั้งหมดนั้นเธอสร้างขึ้นมาเอง แต่ในอีกความคิดหนึ่งคืออันนะ น้องสาวของเธอเป็นคนสร้างให้ แต่สิ่งไหนคือความจริงกันแน่ แม้แต่ดอลก็ไม่สามารถตอบได้เช่นกัน

ชื่อ : ยูเรกิ อิบุกิ (Yuureigi Ibuki) [幽霊儀 威武祇]
ฮิรางานะ : 「ゆうれいぎ　いびく」
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 170 เซนติเมตร
น้ำหนัก : น่าจะเบามาก
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เซลเรีย, หิมะ
ชอบ : ติดตามเรย์เซ็น, เล่นกับดอลตัวอื่นๆ, นั่งหลับตาด้วยความสงบ
เกลียด : ไฟ, น้ำทะเล, สู้ระยะประชิด, เรย์เซ็นตอนบ้าคลั่ง, เหยียบบนพื้นดินลำบาก
งานอดิเรก : ให้เรย์เซ็นนอนตัก, ให้ดอลนอนตัก, ยิ้ม, สำรวจพื้นที่รอบๆ, คลายความหนาว
คลาส : วิญญาณมังกรหิมะ
ฉายา 1 : เจ้าหญิงมังกรครึ่งวิญญาณแห่งลมหายใจหิมะ
ฉายา 2 : Princess dragon snow half-ghost spirit

ข้ารับใช้ของเรย์เซ็น ลักษณะของชื่อที่เด่นสุดโหดเพราะเขียนยากมาก! เพราะคันจิในชื่อของเธอไม่ได้มีการเรียงในลักษณะของชื่อคน(?)เลย มีลักษณะเด่นง่ายๆคือตาสีฟ้า ผมสีฟ้า ชุดแนวโกธิคสีฟ้าอีกเช่นกัน ปนสีขาวหน่อยๆ มีเพียงปีกมังกรที่เป็นสีขาว กระดูกที่โผล่ออกมาด้านบนสุดของปีกเป็นสีเทา ตัวตนของเธอจางๆ และลอยอยู่บนอากาศโดยไม่ลงเดินบนพื้น ก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าจะเสียเวลาคิดแบบรองเท้าให้อิบุกิทำไมตั้งนาน แต่ช่างเถอะ ที่ไปที่มาของเธอยังคงเป็นความลับ เรย์เซ็นก็จำไม่ค่อยได้ อะไรที่อยากจำก็จะจำ แต่ถ้ามันไม่สำคัญนักไม่นานก็ลืม ต่อให้นึกให้ตายเธอก็นึกไม่ออก อิบุกิมีหน้าที่หลักในการคุ้มครองเรย์เซ็นไม่ว่าตอนเดินทางหรือนอน แต่อิบุกิต้องอยู่ห่างๆหรือหายตัวหลบไว้ ไม่อย่างนั้นเรย์เซ็นจะจามออกมาแล้วบอกว่า ‘หนาว......’ เพราะอิบุกิเป็นมังกรที่มีความสามารถในด้านความเย็น ไม่ว่าน้ำแข็งหรือหิมะ ฉายาที่น้อยคนนักที่รู้จัก แม้แต่เรย์เซ็นก็ยังไม่รู้จักเพราะไม่เคยจำ นั่นคือ ‘เจ้าหญิงมังกรครึ่งวิญญาณแห่งลมหายใจหิมะ’ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ‘Princess dragon snow half-ghost’ อิบุกิคือตัวละครที่ผมตั้งนิสัยและความสามารถเพื่อเรย์เซ็นโดยเฉพาะ เรย์เซ็นมีความสามารถส่วนตัวคือไฟ และจากดาบของเธอคือฝนและพายุ แต่เธอขาดความสามารถทางด้านน้ำแข็ง เลยจับมาเข้าคู่กัน และคอยจำในสิ่งต่างๆที่สำคัญด้วย จากชื่อของเธอนั้นคำว่า ยูเร มาจากตัวคันจิที่แปลว่า ‘วิญญาณ’ ตรงๆเลย และคำว่า กิ ที่มาจากตัวคันจิคำว่า ‘ความซื่อสัตย์’ ส่วนชื่อ คำว่า อิบุ มาจากคำว่า ‘ปลอบโยน’ (นางุสะ) และ กิ ที่มาจากคำว่า ‘บันทึก, การจดจำ’ (ชิรุ) โดยที่เมื่อเรียกรวมชื่อโดยปกติจะเรียกว่า ‘อิบุกิ’ ก็มีความหมายว่า ‘ลมหายใจ’ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้คันจิสื่อถึงความหมายนั้นก็ตาม ชื่อของเธอค่อนข้างอ่านแยกและเขียนลำบากมาก เวลาเรย์เซ็นเขียนหนังสือหรือจดบันทึกก็มักจะเขียนชื่อของอิบุกิเป็นตัวฮิรางานะด้วยความมักง่าย อิบุกิควบคุมเครื่องดนตรีได้หนึ่งอย่างคือ เบส และมีลักษณะพิเศษต่างจากคนอื่นก็คือ ตอนที่ดีดในแต่ละครั้งไอและเกร็ดน้ำแข็งและกระจายออกไป ไม่นานนักรอบๆพื้นที่สามสิบเมตรจะมีหิมะตกลงมา


ชื่อ : โทซากะ ยูมินะ (Tosaka Yumina) [遠坂 弓那]
ฮิรางานะ : 「とさか　ゆみな」
อายุ : ไม่ทราบ
ส่วนสูง : 165 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 47 กิโลกรัม
สัญชาติ : เนวาเดียซ์-อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : เนวาเดียซ์, มาสเตอร์
ชอบ : ที่สูง, โจมตีจากระยะไกลสุดลูกหูลูกตา, แคมเฟอร์, ดอกซากุระ
เกลียด : สิ่งกีดขวางในวิถีที่โจมตี, เสียงหนวกหู, เวทย์สายบาห์เนส
งานอดิเรก : คุยกับแคมเฟอร์, ทดลองแว่นที่สเฟียร์ทำขึ้นมา, แต่งตัวให้ดอล
คลาส : เนวาเดียซ์-แทคติคอล อาเชอร์

นักธนูที่เป็นอีกหนึ่งข้ารับใช้ของเรย์เซ็น(ฮาเร็มยูริเหรอ?) ผมสีชมพู ชุดก็เรียบๆเหมือนนักธนูทั่วไป แต่ดูเผินๆเหมือนชุดนักเรียนมากกว่านะ ธนูของเธอมีความสามารถในการยิงที่ไกลมาก แม่นยำ และรุนแรง เมื่อง้างธนู ดอกซากุระเรืองแสงจะเริ่มออกมาจากลูกออก เมื่อปล่อยออกไปดอกซากุระเรืองแสงก็จะปลิวออกมาจากลูกดอกเป็นทาง ยิ่งระยะไกลเท่าไหร่ดอกซากุระก็จะมากขึ้น และถ้ามากเกินไปลูกดอกจะสลายไปทันที นั่นไม่ใช่ความร้ายกาจของธนู แต่เป็นดอกซากุระต่างหาก เพราะแต่ละใบนั้นคมกริบ มันสามารถปลิวผ่านลำตัวคนและทะลุเนื้อหนังเข้าไปได้แบบไม่รู้สึกเลย กว่าจะรู้ตัวว่าโดนดอกซากุระบาดจนเข้าไปถึงข้างในก็คงจะตายไปแล้ว ถึงอย่างนั้นก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ตัวลูกดอกเอง เธอสนิทกับแคมเฟอร์ด้วยเหตุผลบางอย่าง บางท่านอาจจะจับได้แล้วว่าทำไม แต่ก็ยังไม่เฉลยแล้วกัน ยูมินะชอบไปแต่งตัวให้ดอลหลังอาบน้ำหรือเรย์เซ็นตัดชุดให้ใหม่ มันใส่ลำบากตรงที่ชุดที่เรย์เซ็นทำออกมาให้ดอลใส่นั้นซิบมันอยู่ทางด้านหลัง มาว่าถึงชื่อกันเถอะ คำว่า โท มาจากคันจิคำว่า ‘ห่างไกล, ระยะไกล’ (เอ็นเคียวริ) และมีความหมายว่า ‘สายตายาว’ (เอ็นชิ) ด้วย และคำว่า ซากะ มาจากคำว่า ‘เนิน, ที่ลาด’ รวมชื่อของเธอก็ใช้ความหมายว่า ระยะไกลและบนที่สูง เป็นรูปแบบการยิงธนูของเธอ ส่วนชื่อ ตัวแรกคำว่า ยูมิ มาจากคำว่า ‘ธนู, คันธนู’ (คิว) และคำว่า นะ ที่รวมคันจิสองตัวโดยความหมายไม่ได้สื่ออะไรสำคัญๆ ก็ข้ามไปแล้วกัน ในภาคนี้จะมีการพูดถึงยูมินะ แต่จะไม่มีใครได้เห็นตัวตน รวมถึงในภาคที่แล้วด้วย ยูมินะมีบทแค่ฉากสุดท้ายตอนปะทะกับโนวเลดจ์เท่านั้นเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาปรากฏตัวอย่างเด่นชัด

ชื่อ : อันนะ 【Anna】『杏奈』
ฮิรางานะ : 「あんな」
อายุ : ประมาณ 370 ถึง 372 ปี
ส่วนสูง : 163 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 42 กิโลกรัม
เกิด : 17 / 11 / FZ 3307, 17 / September / A.D. 1651
สัญชาติ : อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : ฮาล์ฟ-เซลเรีย-ไลย์เดีย, บูล-อาย, ออด-อาย เอวิล
ชอบ : ？？？
เกลียด : ？？？
งานอดิเรก : ？？？
คลาส : มังกรวิญญาณผสาน
ฉายา 1 : เจ้าหญิงมังกรตาสีม่วงแห่งการตามล่าอนาคต
ฉายา 2 : Princess Doll Dragon Purple-eye Hot Pursuit Purpose Future

ชื่อ : ซายะ 【Saya】『沙耶』
ฮิรางานะ : 「さや」
อายุ : ประมาณ 379 ถึง 381 ปี
ส่วนสูง : 173 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 51 กิโลกรัม
เกิด : 19 / 11 / FZ 3316, 19 / September / A.D. 1660
สัญชาติ : ไลย์เดีย-อัลค์ซัลท์
แหล่งกำเนิดพลัง : ทวิน-ไลย์เดีย, ทรู เอ็นเทอร์ไพรส์ ดราก้อน
ชอบ : ？？？
เกลียด : ？？？
งานอดิเรก : ？？？
คลาส : มังกรวีรบุรุษแห่งตำนานไลย์เดีย
ฉายา 1 : เจ้าหญิงมังกรตาสีน้ำเงินแห่งการฆาตกรรมและกลืนกินชีวิต
ฉายา 2 : Princess Senior Dragon Blue-eye Drain Life Murderous

ชื่อ : ไลย์เดีย เรเนะ 【Lydiar Rēne】『ライデル　れーね』
อายุ : ???
ส่วนสูง : ???
น้ำหนัก : ???
เกิด : ???
สัญชาติ : ???
แหล่งกำเนิดพลัง : ???
ลักษณะเฉพาะตัว : ผมสีขาว มีหูเหมือนแมว มีหางแมว ตาซ้ายสีน้ำเงิน ตาขวาสีเหลือง ชุดสีดำ-ขาว สร้อยคอที่เป็นเหมือนกับกุญแจที่ล็อคอยู่

[Vocaloid_BRS]

.::Artifact::.

เท็นกิ โนะ ซึรุกิ (Tenki no Tsurugi) [天気の剣]

ดาบเล่มโปรดของเรย์เซ็น มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แม้ไม่สามารถเปลี่ยนสภาพอากาศได้ตามใจก็ตาม แม้จะเป็นดาบซึรุกิ แต่รูปร่างดาบเปลี่ยนแปลงไปมากและคล้ายกับดาบมุรามาสะมากกว่าซึรุกิด้วยซ้ำในตอนนี้ ดาบถูกออกแบบและมีความสามารถให้เหมาะกับเรย์เซ็นเพียงแค่คนเดียว เรย์เซ็นมีข้อจำกัดมากมายในการใช้ชีวิตและต่อสู้ สภาพอากาศยิ่งสำคัญกับเธอ สิ่งที่จะดึงพลังของเรย์เซ็นออกมาได้มากที่สุดก็คือท้องฟ้ามืดในตอนกลางวันและลมพัดค่อนข้างแรง แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศอื่นๆเช่นฝนตกหนัก หนาวมาก หรือแดดร้อนเปรี้ยงเรย์เซ็นอาจจะเหนื่อยหอบจนทำอะไรไม่ได้เลย

บลัด-โอ (Blood-O)

ปืนสั้นรูปแบบแฟนท่อมสไตรท์เกอร์ ออกแบบสำหรับยิงได้รวดเร็วขึ้น เป็นรุ่นพัฒนาจาก Nightwalker .735 "Combat Action" ที่เรย์เซ็นแย่งเอาไป เอเลเทียร์ตัดสินใจสร้างกระบอกใหม่ขึ้นมา แต่ก็ไม่ต่างจากกระบอกเดิม ก็คือเธอใช้ไม่เคยถนัดและออกแบบได้ไม่เข้ากับตัวเอง ถ้ายิงแรงไปก็รับแรงกระแทกไม่ไหว ถ้ายิงเร็วไปปืนก็จะโอเวอร์ฮีทและชิ้นส่วนของปืนจะแตกหักแยกออกจากกัน เอเลเทียร์คำนวณทุกอย่างลงในปืน มีเพียงหนึ่งอย่างที่เธอคำนวณพลาดทุกครั้งในการสร้างอาวุธ นั่นก็คือตัวเธอ ร่างกายของเอเลเทียร์มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา การจะสร้างอาวุธที่เหมาะสมกับตัวเองและใช้ได้ตลอดไปนั้นยากเกินกว่าที่จะทำได้ จึงไม่แปลกที่เธอจะมีอาวุธที่สร้างไว้เยอะแยะเต็มไปหมด แม้จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้แต่ตัวผู้ใช้ก็ต้องมีความสามารถและความรู้ในการใช้ด้วย

เครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลก

เครื่องดนตรีแห่งความลับ ไม่มีใครรู้ถึงที่มาและประวัติของมัน โดยล่าสุดอยู่ที่เรย์เซ็น โดยมีฝ่ายของเธอดูแลอย่างดี จากที่ผ่านมาเรย์เซ็นได้ใช้มันเปิดฉากปะทะกับมนุษย์ทั้งหมดในทวีอัลค์ซัลท์ สร้างความเสียหายใหญ่หลวงมาก รวมถึงเครื่องดนตรีของเธอด้วย เครื่องดนตรีในปัจจุบันทั้งหมดมีเจ็ดชิ้นก็คือ ไวโอลิน กีตาร์ เบส กลองชุด เซลโล่ คีย์บอร์ด และเปียโน ซึ่งไวโอลินนั้นเรย์เซ็นเป็นคนเล่น ศูนย์กลางในการควบคุมพลังอยู่ที่เรย์เซ็นทั้งหมด แต่เรย์เซ็นเป็นตัวเร่งพลัง ในการบรรเลงและจังหวะอยู่ที่สเฟียร์ โดยร่างกายจะเป็นของสเฟียร์ ตาสีเหลือง ปีกแวมไพร์ขนาดใหญ่สีแดง ผมสีเทา ก็เป็นร่างกายที่สผมกับเรย์เซ็นและสเฟียร์ มันยังมีพลังแฝงอีกมากมายแต่การที่จะขุดค้นสิ่งต่างๆและความลับนั้น จำเป็นต้องใช้ความความสามารถของฮานาซาวะ โนวเลดจ์ในการค้นคว้า แต่คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะเธอเป็นศัตรูที่ไล่ฆ่าทุกคนที่เป็นฝ่ายเรย์เซ็น มีทางเลือกเดียว ข้อมูลที่สเฟียร์มีอยู่ คือตามหา เรย์เนะ ฟอร์เร็นท์ ผู้สร้างฟอร์เร็นท์หรือโลกชั่วนิรันดร์ และเป็นผู้สร้างเครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลกในการสร้างโลกแห่งนี้ขึ้นมา เธอหายสาบสูญไปเมื่อสามพันปีก่อนที่จะเกิดสงครามใหญ่พร้อมกับเครื่องดนตรีทุกชิ้นของเธอ ถึงแม้จะค้นพบเครื่องดนตรี แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยมีใครได้เจอเธออีกเลย ในหนังสือบางเล่มมีการกล่าวว่าเครื่องดนตรีมีทั้งหมดเก้าชิ้น อย่างไรก็ตาม สงครามก็ยังปะทุขึ้นตามพื้นที่ต่างๆของทั้งสองทวีป(อัลค์ซัลท์กับราล์ฟ) การค้นหาและค้นคว้าจึงต้องหยุดลง ซึ่งมันก็ตั้งแต่พันปีก่อน จนเดี๋ยวนี้ก็มีนักค้นคว้ารุ่นนี้ปัจจุบันอยู่บ้างนิดหน่อย มีคนถอนตัวไปเกือบหมดเพราะประโยคเดียวเท่านั้น ‘เครื่องดนตรีเจ็ดชิ้นอยู่กับมังกรตาสีแดงแห่งสงคราม’

ไซบีเรีย (Siberia) [サイビアリア] <Сибирь>

ดาบคู่ประจำตัวของเอเลเทียร์ ลักษณะเป็นรูปร่างดาบตะวันตก ปลายดาบโค้งขึ้นนิดหน่อย ตัวดาบสีแดง คมดาบสีขาว ที่จับบางส่วนเป็นสีทองสลับแดง เป็นดาบคู่ที่เอเลเทียร์สร้างขึ้นตอนอยู่ที่ไซบีเรียเพราะเธอไม่มีอาวุธใดๆตอนอยู่ที่นั่นเลย ใช้พลังงานความเย็นเป็นหลัก สามารถโจมตีได้ทั้งระยะไกลและประชิด ไซบีเรียคือดาบคู่เพียงคู่เดียวที่เอเลเทียร์ใช้งานได้ตลอดโดยปรับสภาพตามเอเลเทียร์ได้ทันเสมอโดยเธอแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมตลอดเวลาเหมือนอาวุธประเภทอื่นที่สร้างขึ้นมา แต่มีข้อเสียตรงที่น้ำหนักเยอะมาก ในการลงดาบแต่ละทีนั้นจำเป็นต้องใช้แรงเยอะในการฟาดฟันดาบ ซึ่งเอเลเทียร์ก็ใช้งานมันแทบจะไม่ไหว อีกอย่างคือมันปล่อยความเย็นออกมาตลอดเวลา เธอเคยใช้งานมันทั้งๆอย่างนั้น ผลที่ออกมาก็คือความเย็นกัดมือของเธอจนใช้งานไม่ได้และเกือบที่จะต้องตัดมือทิ้งไป ต่อมาเธอก็ได้สร้างถุงมือขึ้นสำหรับใช้งานดาบนี้โดยเฉพาะ สามารถป้องกันความเย็นได้ เวลาใช้งานดาบถุงมือนี้จะยาวขึ้นไปจนถึงเกือบไหล่เพื่อป้องกันความเย็น เธอยังออกแบบให้จับดาบถนัดขึ้นและช่วยลดน้ำหนักของสิ่งที่จับ แต่ด้วยน้ำหนัก 70-90 กิโลกรัมของดาบเพียงหนึ่งเล่มนั้นก็ยังมากไปอยู่ดี แม้จะมีตัวช่วยลดน้ำหนักจนเหลือเพียง 30 กิโลกรัมแต่พอถือทั้งสองอันก็ยังมีน้ำหนักถึง 60 กิโลกรัม มันมากพอที่จะทำให้เอเลเทียร์ง้างดาบฟันเพียงหกเจ็ดทีก็ปวดแขนแล้ว เธอเลยออกแบบเพิ่มเติมสำหรับชุด มันเป็นชุดแนบเนื้อที่เธอใส่ไว้ตลอดตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่พัฒนาเพิ่ม ถุงน่องสำหรับช่วยลดแรงเหยียบและแรงเสียดทานบนพื้น ชุดแนบเนื้อรูปแบบชุดว่ายน้ำโรงเรียนช่วยเพิ่มความคล่องตัวและป้องกันความเย็นจากดาบเช่นกัน แต่ปัญหาก็มีตามมา เนื่องจากช่วงบนของชุดนั้นป้องกันเป็นพิเศษ(ปอดและหัวใจ)สามารถรับแรงกระแทกหนักๆได้ 980 ปอนด์ ต้านลูกกระสุนขนาด 12.7mm ได้ แม้จะต้านหลายลูกแล้วเกิดความเสียหายเข้าไปถึงภายในตัวก็ตามแต่ก็ถือว่าชุดเกราะปกติทำไม่ได้ ปัญหาเพียงอย่างเดียวที่เจอในชุดนี้ก็คือมันรัดและบีบหน้าอกของเธอเป็นว่าเล่นเลยทำให้อึดอัดแต่พอนานๆไปก็ชินแล้ว พอมองจากภายนอกก็จะเห็นว่าเอเลเทียร์หน้าอกเล็กมากจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นยัยไม้กระดาน และชุดของเธอก็ยังถอดยากมาก แม้แต่คนที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดก็จะไม่เคยได้เห็นร่างกายทุกส่วนเอเลเทียร์ อย่างไรก็ตาม ไซบีเรียก็ยังเป็นดาบคู่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เธอเคยสร้างอาวุธขึ้นมา สามารถทำลายรถถัง T-90 และ M1A2 ได้มากกว่าสามสิบคันภายในครึ่งชั่วโมง ประสิทธิภาพสูงสุดของดาบทั้งสองเล่มเทียบได้กับ JFS-335 ‘Strategic Foxhound’ สองลำเลยทีเดียว

เจเอฟเอส-ทรีทรีไฟฝ์ ‘สทราเทจิค ฟอกซ์เฮานด์’ (JFS-335 ‘Strategic Foxhound’) [ジフズ-335 'ストレーティージック・フォックスハウンド']

เป็นเครื่องบินขับไล่แบบ AMHATSF [แอมแฮทฟ์] (Advance Multi-role High Altitude Tactical Superiority Fighter) ที่เอเลเทียร์สร้างขึ้นมาหลังจากที่ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุด จนเสร็จสมบูรณ์ ขึ้นบินครั้งแรกบนเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ ซีวีเอ็นเก้าศูนย์ “นาวี” ในน่านน้ำของเกาหลีใต้ มีสามปัญหาใหญ่ๆที่เจอก็คือเรดาร์ทำงานร่วมกับเครื่องบินไม่ทัน ระบบอาวุธส่งคำสั่งไปไม่ถึงยุทโธปกรณ์บางส่วน และความเร็วในการลงจอดยังมีปัญหาเนื่องจากคุมเครื่องยากและมุมในการเปลี่ยนทิศมากเกินไป ปัญหาเล็กๆน้อยๆจากเครื่องยนต์และการซ่อนตัวจากการตรวจจับ รวมถึงลำยังใหญ่เทอะทะมากเกินความจำเป็น เลยยังไม่ได้ถูกใช้จริงในสนามรบ ตัวต้นแบบถูกเก็บไว้ภายในใต้ดินซึ่งเป็นฐานบัญชาการของเอเลเทียร์และข้อมูลส่วนใหญ่ก็ยังถูกเก็บเป็นความลับจนกว่าจะพัฒนาเสร็จ

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักว่างเปล่า : 38,690lbs
น้ำหนักสูงสุด : 232,700lbs
บรรจุน้ำมัน : 150,900lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ
นักบิน : 1-3 คน
จุดติดยุทโธปกรณ์ : 11
ความชำนาญพิเศษ : ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ, Stealth
ชื่อ : เจเอฟเอส-335เอ ‘สทราเทจิค ฟอกซ์เฮานด์’ (JFS-335A ‘Strategic Foxhound’)
ประเภท : Advance Multi-role High Altitude Tactical Superiority Fighter
ผู้เริ่มต้น : ไม่ปรากฏ
ผู้ผลิต : ไม่ปรากฏ
ขึ้นบินครั้งแรก : 12/9/2027
เข้าร่วมภารกิจ : 2027
ประเภทของหาง : ปีกสี่เหลี่ยมเรียวคู่ระดับสูง (Advance Double-tapered delta)
In Service : 1-3
ประเภทหาง : Canted twin cropped delta
ล้อลงจอด : Retractable Tricycle

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 60 deg
AOA ต่ำสุด : -20 deg
Flapperons : สามารถใช้ได้
การกระพือขอบของปีกขณะลงจอด : สามารถใช้ได้
การกระพือขอบของปีกท้าย : สามารถใช้ได้
ร่มชูชีพดึงความเร็ว : 3 ร่ม
ค่า G สูงสุด : ระดับ 9+
ขับเคลื่อนในอวกาศ : 6 ชั่วโมง
การเบรกในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง : เทคโนโลยี ระบบฟลูออเรสซิเท็นท์

---เครื่องยนต์---

ชื่อ : R-295 ‘SFH’
ประเภทการขับเคลื่อน : เทอร์โบเจ็ท
ประเภทเครื่องยนต์ : นาโนเทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Nano Technologies)
จำนวนเครื่องยนต์ : 3
ความสามารถพิเศษ : ขับเคลื่อนได้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด (ระดับทะเล) : 96,320lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 5.39
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 2.30

ชื่อ : F199-PW-300 ‘SFH’
ประเภทการขับเคลื่อน : พัดลมเทอร์โบ
ประเภทเครื่องยนต์ : เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Technologies)
จำนวนเครื่องยนต์ : 2
แรงขับเคลื่อนสูงสุด (ระดับทะเล) : 86,320lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 3.98
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 1.75

ชื่อ : S6G ‘SFH’
ประเภทการขับเคลื่อน : เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กสำหรับขับเคลื่อนใต้น้ำ
ประเภทเครื่องยนต์ : เทคโนโลยีนิวเคลียร์ระดับสูง (High Tech Nuclear)
กำลัง : one shaft 115,000shp
จำนวนเครื่องยนต์ : 1
แรงขับเคลื่อน : 500+knots
ความลึกของการดำน้ำ : มากกว่า 3,000 feet
Actual : 300-350 knots เมื่อดำน้ำ
Actual : 985 feet ในความลึกพอประมาณ
Actual : 3,800 feet เกิดขีดจำกัดที่จะรับได้

---ป้องกัน---

Chaff : 90
Flares : 30
ชั้นป้องกันโพลีเออแทน
ชั้นป้องกันยูเรเนี่ยม
Chobham + Depleted Uranium

---เรดาร์---

ระบบ : รูปแบบควบคุมการยิงหลายเป้าหมายด้วยเรดาร์ (Multi-mode fire control radar)
โหมด : RWS, TWS, ACM, VS, GM
ระยะ : 660nm
อัตราการกวาด : 90 deg/sec
ขนาดแสงกวาด : 3 deg
มุมค้นหาสูงสุด : 210 deg
มี NCTR
สามารถโจมตีจากอากาศสู่พื้น
สามารถโจมตีจากอากาศสู่อากาศ
มีความสามารถ TWS
ชีพจรเรดาร์
ดอปเปอล์เรดาร์
ระบบ : AN/APY-3
ประเภท : เรดาร์ตรวจตราการขนส่งทางอากาศ
รูปแบบ : ตรวจจับชีพจรดอปเปอล์, ตรวจจับชีพจรเรดาร์, ตรวจจับยานพาหนะในทะเล, ทำงานตลอดเวลา

---ยุทโธปกรณ์---

20mm M61-EX JFS-335 : 790
30mm GAU-8D Avenger JFS-335 : 1600
60mm L60 Phalanx-EX : 10
AIM-120C-7 : 30
AIM-11M : 36
AIM-11X : 36
AGM-65X : 12
AGM-114H Hellfire : 18
CBU-97 SFW/C : 6
ALQ-119F “AE/ECM pod” : 2
1100 Gal Tank JFS-335 : 3
LAU-71/131/MPAT : 12
Mk-99F : 10
AGM-88E “HARM” : 6
And more armament

---ระบบของเครื่องบิน---

AN/AAQ-25 อินฟาเรดควบคุมทิศทางพลุล่อมิสไซด์
AN/AAT-51 อินฟาเรดแจ้งเตือนอันตราย
AN/ALE-49 ระบบปล่อยชาฟและแฟร์แบบกระจาย
AN/ALQ-176 ระบบพลุล่อมิสไซด์อิเล็กทรอนิกส์
AN/ALQ-210 Jammer
AN/ALQ-155 Tactical Jammer
AN/AEC-3 Airborne Warning and Control System
AN/AMC-18 Advanced Control Medium-Range Air-to-Air Missile
AN/ALR-69 อินฟาเรดเตือนอันตราย
AN/APR-46A Panoramic RF receiver
QRC-84-02 ระบบพลุล่อมิสไซด์อินฟาเรด
SPS-49 3D radar
SPS-51 long-range air-search radar
SPN-70 or LN-68 navigation radar
SPN navigation landing radars
AIM-120C-7 AMRAAM fire-control systems
Naval Tactical Data Systems (NTDS)
Space Tactical Data Systems (STDS)
Link 15 and Link 16 Data-link
SLQ-31(V)6 SSM system with WLR-9
WLR-9 warning and SLQ-18AS
SLQ-18AS jamming elements
OE-83 satellite communications system
WSC-7 satellite communications transaction
SSR-9 satellite communications receiver
EQE-119 emergency power unit
URN-30 TACAN
SRN-96 advanced intelligence and combat tactical auto pilot
RR/MH-1 check landing gear

---สมรรถภาพ---

ระยะในการมองเห็น : 5,300nm
ระยะในการรบ : 950nm
ระดับความเร็วสูงสุด : 1,800+ kts
ระดับความสูง : 150,000+ ft
ไต่ระดับความสูง : 300 ft/sec
ความเร็วต่ำกลางอากาศ : 190 kts
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) [ปกติ] : 2,180ft
ระยะการลงจอด (Landing Run) [ปกติ] : 3,960ft
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) [เทอร์โบเต็มกำลัง] : 330ft
ระยะการลงจอด (Landing Run) [ใช้ตัวหน่วงความเร็ว] : 1,120ft

---อาวุธ---

ชื่อ : M61-EX JFS-335 “Vulcan”
ประเภท : ปืนกลสู้รบกลางอากาศ (Dogfight Gatling Cannon)
ลำกล้องปืน : ขนาด 2
ขนาดของลำกล้องปืน : 20mm
อัตราความเร็วในการยิง : 110rds/sec
บรรจุกระสุน : 790 นัด
ประเภทกระสุน : M58 HEI, M56 API, PGU-29
ความเร็วกระสุน : 5,000ft/rds
ประสิทธิภาพ : ข้อมูลทางการทหาร
ชื่อ : GAU-8D JFS-335 “Avenger”
ประเภท : ปืนกล (Getling Cannon)
ลำกล้องปืน : ขนาด 7
จำนวนปืน : 7
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
อัตราความเร็วในการยิง : 70rds/sec
บรรจุกระสุน : 1600 นัด
ประเภทกระสุน : PGU-15/B API, PGU-11/B HEI, PGU-9/B TP
ความเร็วกระสุน : 3,900ft/rds
ประสิทธิภาพ : ข้อมูลทางการทหาร
ชื่อ : L60 “Phalanx-EX”
ประเภท : ปืนใหญ่ (Cannon)
ลำกล้องปืน : ขนาด 1
ขนาดของลำกล้องปืน : 60mm
อัตราความเร็วในการยิง : 1rds/sec
บรรจุกระสุน : 10 นัด
หัวรบ : HE
ประเภทการระเบิด : Very large HE Blast
แรงระเบิด : GSX
จำนวนของแรงระเบิด : 7,000lbs
ความเร็วกระสุน : 3,100ft/rds
ประสิทธิภาพ : ข้อมูลทางการทหาร

---อุปกรณ์ที่นั่งนักบิน---

ระบบ : ACES III
ประเภท : ดีดตัวที่นั่งนักบิน
ความสามารถ : 3 วินาทีก่อนดีดตัว ต่ำสุด 300 ฟุต สูงสุด 110,000 ฟุต

---ระบบนักบินอัตโนมัติ---

ระบบ : LASTE
ประเภท : เรดาร์วัดความสูง, คอมพิวเตอร์ควบคุมการยิง, นักบินอัตโนมัติ
รูปแบบ : CCIP

---ระบบอุปกรณ์ของนักบิน---

ระบบ : IHADSS
ประเภท : หน้าจอที่หมวกของนักบิน
ความสามารถ : มองเห็นเป้าหมายเป็นทางยาว, หน้าจออินฟาเรดขยายใหญ่
ระบบ : TADS
ประเภท : ดึงเป้าหมายให้อยู่ในเรดาร์และระบบค้นหาชื่อ
ความสามารถ : ทำงานร่วมกับ IHADSS, TV จำกัดระยะสายตาและเลเซอร์กำหนดจุด

---ระบบอุปกรณ์ค้นหา---

ระบบ : PNVS
ประเภท : FLIP (เรดาร์หมุนตามเมื่อเปลี่ยนทิศทาง)
ความสามารถ : เตรียมรูปสำหรับเส้นระยะในการมองเห็น

---ระบบโจมตี---

ระบบ : AN/APS-109
ประเภท : ควบคุมการยิงด้วยเรดาร์
ความสามารถ : ตรวจจับและแบ่งการพุ่งหาเป้าหมายกลางอากาศของมิสไซด์

---ระบบเพิ่มเติม---

Electronic Countermeasures (ECM) [พลุล่อมิสไซด์อิเล็คทรอนิกซ์]
Airborne Early Warning Radar (AEW) [เรดาร์ตรวจตราการขนส่งทางอากาศ]
Electronic Intelligence Equipment (ELINT) [ระบบอิเล็คทรอนิกซ์จัดเตรียมระบบอัจฉริยะ]
Close Air Support (การสนับสนุนทางอากาศระยะใกล้)
Air Interdiction (ลักลอบเข้าประเทศทางอากาศ)

[Vocaloid_BRS]

.::World & Area::.

คาคุเซ็น (Kakuzen) [化苦全]

คาคุเซ็น คือโลกที่เป็นพื้นที่การดำเนินเรื่องนี้ มีอีกชื่อหนึ่งก็คือ ฟอร์เร็นท์ ถูกตั้งตามชื่อของผู้สร้างโลกนี้ก็คือ “เรย์เนะ ฟอร์เร็นท์” ความจริงนั้นคาคุเซ็นมีขึ้นมาอยู่ก่อนแล้ว มีแต่ความป่าเถื่อนและโหดร้าย การฆ่าฟันกันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ฟอร์เร็นท์ใช้เครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลกสร้างสิ่งต่างๆ แยกทวีปออกจากกัน และจัดระเบียบกฎทุกอย่างขึ้นมาใหม่ เธอเป็นคนปกครองฟอร์เร็นท์อย่างลับๆโดยไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แต่ก็มียังมนุษย์ที่คิดจะแย่งพลังมาจากเธอ พลังในการสร้างโลก เธอหายตัวไปหลังจากปี Firenze 997 พร้อมกับเครื่องดนตรีทุกชิ้น มีตำนานกล่าวต่อมาก็คือฟอร์เร็นท์ได้ให้กำเนิดมังกรขึ้นมาเพื่อปกครองมนุษย์และเผ่าทุกเผ่าแทนตัวเธอ มันมีพลังและอำนาจเหนือกว่าทุกเผ่า ผู้คนต่างหวาดกลัวและต่อต้าน ก่อให้เกิดสงครามมากมายขึ้นมายอีก รวมถึงความเชื่อที่ว่าถ้ากำจัดมังกรได้ล่ะก็จะได้ครอบครองคาคุเซ็นทั้งหมด และบางตำนานยังมีการกล่าวถึงโลกมนุษย์ ว่าผู้คนที่ตายบางส่วนจะมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง

มหาสมุทรแห่งความลับ (Taikai no Himitsu) [大海の秘密]

มหาสมุทรที่กั้นระหว่างสองทวีป โลกแห่งนี้มีแผ่นดินเพียง 3 ใน 10 ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น นอกจากผืนดินสองทวีปอันกว้างใหญ่แล้วที่เหลือก็มีแต่น้ำทั้งหมด แต่ปัจจุบันก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ เพราะมหาสมุทรมีแต่ความอันตรายและความลับมากมาย ผู้คนที่เดินทางข้ามทวีปนั้นมีเพียง 30% ที่จะรอดตายมาได้โดยบังเอิญ เผ่าในน้ำนั้นมีมากมาย แต่ไม่เข้ามายุ่งย่ามบนผืนดิน อย่างเช่น Headhunter Hydra ที่เรย์เซ็นเคยปะทะด้วย เป็นหนึ่งในเผ่าไฮดร้าครึ่งมังกร (เรย์เซ็นคือเผ่ามังกรโดยแท้ แต่ไฮดร้ามีเลือดมังกรที่สผมอยู่เพียง 1 ใน 6 เท่านั้น) อาศัยอยู่ในที่ลึกมาก ลำตัวของมันยาวเกินสุดจะคาดเดา สามารถพุ่งขึ้นฟ้าด้วยลำตัวแค่ 2 ใน 3 เลยเหนือเมฆขึ้นไปสองสามเท่าหรือความสูงประมาณ 50000-60000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล และจากระดับน้ำทะเลลงถึงก้นมหาสมุทรก็ลึกมากขนาดที่ว่าถ้ามันยืดตัวตรงในน้ำล่ะก็ยังมองไม่เห็นหัวมันโผล่ขึ้นมาเลย เลยมีการคาดเดาว่าคาคุเซ็นเกิดขึ้นมานานแสนนานแล้ว และระดับน้ำอาจสูงขึ้นมากมายจนกลืนกินทวีปหลายๆส่วนไป แต่น้ำมหาศาลขนาดนี้มาจากไหนก็ไม่มีใครตอบได้เช่นกัน แต่ในด้านหนึ่งมันก็เป็นประตูเชื่อมไปยังโลกอื่น ผู้คนที่มาจากโลกมนุษย์ที่ลงไปในมหาสมุทรจะถูกดูดไปที่อื่น เขาจะปรากฏตัวในที่ๆเขาจำในตอนที่อยู่ในโลกมนุษย์ แต่มีโอกาสน้อยมาก ความเสี่ยงในการหายสาบสูญไปตลอดกาลมีถึง 95%


.::Another::.

ผลึกฟอร์เร็นท์ (Firenze Crystal)

ในภาคนี้จะมีการกล่าวถึงความลับอีกอย่างหนึ่งในการเดินทางผ่านโลกทั้งสอง ที่ทางเชื่อมของทั้งสองโลกนั่นก็คือผลึกฟอร์เร็นท์(อ่านเนื้อเรื่องเอา) ผลึกจะอยู่ที่มุมต่างๆของมิติซึ่งคอยดึงและดันโลกทั้งสองไว้ให้สมดุลกัน แต่ผลึกได้ร่วงหล่นลงมาในโลกมนุษย์แล้วหลายชิ้น ถ้าผลึกทุกชิ้นหลุดออกมาล่ะก็ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็เดาไม่ยาก... ประตูมิติสำหรับปรากฏตัวออกมาในโลกมนุษย์คือท้องฟ้า ส่วนมิติที่จะปรากฏและเข้าไปในฟอร์เร็นท์นั้นอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของมหาสมุทรซึ่งเคลื่อนย้ายที่อยู่ตลอดเวลา เมื่อผลึกหลุดออกมาจนหมด มิติที่กั้นโลกทั้งสองจะพลังทลายลง น้ำมหาศาลในฟอร์เร็นท์จะถาถมเข้าใส่โลกมนุษย์ โลกใหญ่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของฟอร์เร็นท์ และน้ำในฟอร์เร็นท์มากกว่าในโลกมนุษย์เป็นร้อยหรือพันเท่า มันจะท่วมทุกสิ่งจนหมดสิ้น การผนึกประตูมิตินั้นมีทางอยู่ คือรวบรวมผลึกแล้วใส่คืนให้ประตูมิติทั้งหมด จากนั้นก็ใช้เครื่องดนตรีแห่งการปฏิวัติและสังคีตโลกผนึกมันซะ แต่หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็สุดจะคาดเดา

มาโฮวคาคุมาโยวริ (Mahoukakumayouri) 【魔法画迷う離】

โรงเรียนมาโฮวคาคุมาโยริเป็นไม่ต่างไปจากโรงเรียนปกติ มีนักเรียนปี 1 ถึงปี 3 แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนโรงเรียนทั่วไปก็คือ นักเรียนที่นี่ถูกฝึกให้รบ ฝึกชุดรบที่ในปัจจุบันมีที่นี่เท่านั้น นักเรียนที่นี่ทุกคนตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสามนั้นไม่มีญาติที่ไหนเลย ความหมายของชื่อโรงเรียนนั้นสื่อถึงประเด็นได้ดี มาโฮว ‹魔法›　มาจากคำว่าเวทย์มนต์ คาคุ มาจากคำว่า คาคุอิซึ ‹画一›　ที่แปลว่า เหมือนกัน, แบบเดียวกันหมด มาโยว ‹迷う› ที่แปลว่า หลงทาง และคำว่า ริ ‹離›　ที่แปลว่า แยก, จากไป ซึ่งเอเลเทียร์ตั้งชื่อโรงเรียนตามนี้ ก็คือมีระบบสู้รบ นักเรียนที่จะเข้ามาที่นี่ได้คือไม่เหลือใคร ถูกทิ้ง และทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ก็เหมือนกันทุกคนคือไม่เหลือใครแล้วนอกจากตัวเอง เมื่อจบปีสามก็จะออกไป ส่วนใหญ่เป็นทหาร รบในพื้นที่ต่างๆที่มีการสู้รบ โดยการฝึกจากที่นี่นั้นฝึกให้เอาชีวิตจากสนามรบ โดยค่ายทหารจะอยู่ข้างๆโรงเรียนเลย แต่การฝึกนั้นจะอยู่ภายในโรงเรียน นักเรียนทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักเหรียญเดียว ที่พัก อาหาร การเรียนทุกอย่างฟรีหมด แต่ก็มีงานพิเศษต่างๆให้ทำเผื่ออยากซื้อของบางอย่างที่อยากได้ แลกกับการพัฒนากองทัพทหารและความแข็งแกร่งของประเทศ เอเลเทียร์ค่อนข้างจะปกครองและคุมทุกอย่างแบบสังคมนิยมหรือเรียกอีกแบบว่าคอมมิวนิสต์ คือเด็ดขาด ข้อบังคับสุดโหด และเผด็จการ เธอค่อนข้างมีอคติกับพวกทุนนิยมหรืออเมริกาแต่ก็จำเป็นต้องร่วมมือกันไว้เพราะสงคราม มีหลายคนที่เอเลเทียร์รับเข้ามาด้วยตัวเอง เช่น เลเซเรียส เนเวส คาริเทียร์, เรเซสคริปซ์ เนวาเดีย, ซิลิเซียร์ คาเวสน์ ทรานอสเอลม่าซ์ และคนอื่นๆอีกไม่กี่คน แต่ละคนนั้นรอดมาได้จากในเขตสงครามทั้งนั้น พวกเธอรู้สึกขอบคุณเอเลเทียร์มากและอยากอยู่ด้วยกันไปตลอด แต่เอเลเทียร์กำชับไว้ว่าอย่าเข้ามายุ่งให้มากและทำตัวให้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้นจะจับไปทรมาน เธอทำแบบนี้เพราะรักษาภาพลักษณ์ของประธานนักเรียนสุดแกร่งเอาไว้ เอเลเทียร์เป็นทั้งประธานนักเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่ทุกคนที่เข้าเรียนที่นี่จะได้เรียนกับเอเลเทียร์ทุกคน เธออยู่ในร่างกายเล็กๆนั่งเรียนในห้องเรียนปีสามมาสิบกว่าปีแล้ว เมื่อก่อนเธอเป็นคนสอนในหลายๆวิชา แต่เนื่องจากเป็นคนที่หัวไปทางคอมมิวนิสต์มากไปหน่อยทำให้คนอื่นพากันกลัว เลยต้องหาอาจารย์มาสอน ส่วนตัวเองย้ายไปทำงานในห้องสภานักเรียนเงียบๆ สอนสาขาการใช้ชุดรบ เธอไม่ค่อยอยู่ติดโรงเรียนเพราะสงครามเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ เลยต้องไปช่วย โดยเฉพาะในตะวันออกกลางและแถวๆเกาหลีเหนือ สงครามได้ลุกลามไปทั่วโลกเช่น อเมริกาใต้ อเมริกากลาง รัสเซีย ฝรั่งเศส อัฟกานิสถาน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ และในหลายพื้นที่ที่เกิดการความวุ่นวายขึ้นโดยเฉพาะตะวันออกกลาง เอเลเทียร์ขึ้นเป็นผู้นำทหารแนวหน้าได้เพราะเทคโนโลยีและหัวทางด้านการรบแบบแผนการรบขั้นสูง รุนแรง และเฉียบขาด เทคโนโลยีทางด้านอาวุธของเธอก็ยอดเยี่ยม เอเลเทียร์เปรียบเสมือนผู้ก่อการร้ายตัวยง ทั้งความรุนแรง สงคราม และขายอาวุธ ในเมื่อหยุดสงครามไม่ได้ ก็รบกันให้ตายกันไปข้างนึง เธอพูดไว้อย่างนั้น เงินเข้ามาหาเธอมากมายมหาศาลชนิดที่ว่าใช้จนตายก็ไม่หมด เลยมีเงินพอที่จะจัดการเรื่องของนักเรียนทั้งหมดรวมถึงในกองทัพทหาร แต่ก็ต้องใช้เงินในการพัฒนาอาวุธต่อไป มาโฮวคาคุมาโยวริมีประวัติว่าจะโดนโจมตีอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะใหญ่ที่สุดคือเกาหลีเหนือยิงนิวเคลียร์ที่มีหัวรบถึง 3 หัวในลูกเดียวมา เอเลเทียร์ตัดสินใจออกไปแนวหน้าเองโดยใช้ชุดรบของเธอเข้าจู่โจมและเปลี่ยนทิศทางของนิวเคลียร์ ผลของมันก็คือนิวเคลียร์เปลี่ยนทิศกลับไปในที่ๆมันมา และดอกเห็ดขนาดใหญ่ก็เกิดระเบิดแบบที่มองเห็นได้จากในอวกาศอย่างชัดเจนที่ส่วนบนของเกาหลีเหนือติดกับจีน เป็นเหตุให้จีนตอนล่างตั้งตัวเป็นศัตรูกับญี่ปุ่น แต่ดูเหมือนเอเลเทียร์จะไม่ใส่ใจเลย เพราะเธอก็ไม่ชอบประเทศจีนสักเท่าไหร่เพราะจีนตั้งใจที่จะแข่งทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีให้เร็วกว่าเทคโนโลยีของเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว

[napushi]

เจิม คนแรก ครับหนุกๆ ต่อๆ:victory


แค่ อุปกรณ์ ไรนี้ ชุด อาวุธ ก็ เจ๋ง แล้ว ครับ ฮ่าฮ่า

[Vocaloid_BRS]

เอ่อ... - -* สนุก... สินะ แต่ผมยังไม่ได้โพสเนื้อเรื่องหลักลงสักตอนเลยนะ? :sweat

[Vocaloid_BRS]

Frutrative Another ~Cold War Crisis~

ทำไมตัวละครถึงเยอะ?

เพราะตายบ่อย แม้จะไม่ต้องการกำลังตัวละครมากในนิยายเรื่องหนึ่งแต่ในสนามรบที่ทำได้แค่จับปืนยืงนั้นแค่คนสองคนมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากหรอกครับ

[Russian]

Zrazhevsky Agraya

ชื่อ - ซาเซฟสกี้ อะกรายะ
เพศ - หญิง
วันเกิด - 28/6
อายุ - 17
ฉายา - Ghost Graya
ส่วนสูง - 176
งานอดิเรก - นั่งสมาธิ
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - AK-74u
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 28 - Kirov Lastormir Puvticsha
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - มองในที่มืดได้ดี, มองทะลุกำแพงทุกชนิดหนาน้อยกว่า 2 เมตรได้
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ทิ้งระเบิด, โฮวิตเซอร์ อาทิลเลอร์รี่, ไนท์ แอตเซาท์
ลักษณะพิเศษ - แว่นตาเลนน์เดี่ยวสีน้ำเงินข้างซ้าย
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - กุโระ, เย็นชา, ชอบเด็กสาวน่ารักๆ
ระดับยศ - [4] Recruiting Propaganda
หน่วยรบ - 23th Conquer Special Force Divition

Lavrantiy Natasha

ชื่อ - ลาฟรันทรี่ นาทาช่า
เพศ - หญิง
วันเกิด - 16/1
อายุ - 19
ฉายา - Spectre Gunship
ส่วนสูง - 172
งานอดิเรก - อ่านหนังสือ, แต่งนิยายสยองขวัญ
กรุ๊ปเลือด - O
อาวุธประจำตัว - 7 of M134 Minigun
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 30 - Dead Dreamer Hamonic
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - วิ่งเร็ว
ความสามารถพิเศษชุดรบ (การสื่อสาร) - ส่งสัญญานติดต่อได้ในระยะไกล, ดักฟังคลื่นวิทยุ, ส่งกระแสพลังงานบีบคลื่นสมองไปทางคลื่นวิทยุ
ความสามารถพิเศษชุดรบ (การสู้รบ) - สนับสนุนทางอากาศระยะใกล้, 25mm, 30mm , 40mm, 55mm, 105mm, ความสามารถสนับสนุนได้ในตอนกลางคืนและทุกสภาพอากาศ
ลักษณะพิเศษ - ใส่หูฟังไว้ตลอดเวลา
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - ซึนเดเระ, M
ระดับยศ - [5] Advanced War Scouting
หน่วยรบ - 8th Close Air Support Divition

Nadezhda Roma

ชื่อ - นาเดซด้า โรม่า
เพศ - หญิง
วันเกิด - 2/3
อายุ - 16
ฉายา - Chemical Symphony
ส่วนสูง - 152
งานอดิเรก - ผลิตสารเคมี, คิดค้นสารเคมี
กรุ๊ปเลือด - ???
อาวุธประจำตัว - Mc-155 Toxic, RPD
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 26 - Seek Side Warfare
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ใส่หน้ากากไว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง, กินนมแทนข้าวได้โดยไม่ต้องถอดหน้ากาก
ความสามารถพิเศษชุดรบ - กระจายสารพิษได้ในระยะ 3 ไมล์, ทนสารพิษได้ 6 ชั่วโมง, ทนสารพิษจากนิวเคลียร์ได้ 3 ชั่วโมง, สำรวจจุดที่มีสารเคมีรุนแรงได้ 2 ชั่วโมง
ลักษณะพิเศษ - ใส่หน้ากากกันสารพิษอยู่ตลอดเวลา
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - โลลิ, M, ยูริ
ระดับยศ - [3] Basic Military
หน่วยรบ - 15th Tactical Side by Side Divition

Stanislav Tanya

ชื่อ - สตานิสลาฟ ทันย่า
เพศ - หญิง
วันเกิด - 19/12
อายุ - 18
ฉายา - Tactical Combat
ส่วนสูง - 178
งานอดิเรก - ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ระยะประชิด
กรุ๊ปเลือด - O
อาวุธประจำตัว - M249 SAW
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 33 - Zemberline Milcaurt Priceranger
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - สังหารศัตรูด้วยมือเปล่าได้หลายรูปแบบ
ความสามารถพิเศษชุดรบ - พลางตัว, หลบหลีกการตรวจจับ, ถนัดในการติดตั้งและแก้ไขหัวรบนิวเคลียร์
ลักษณะพิเศษ - ทวินเทลสีบลอนซ์, กระสุนขนาด 5.56 พาดไขว่ไหล่ทั้งสองข้าง
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - S, ชอบ 2D
ระดับยศ - [5] Advanced War College
หน่วยรบ - 1st Recon Assassin Divition

Koroyakov Raisha

ชื่อ - โคโรยาคอฟ ไรช่า
เพศ - ชาย
วันเกิด - 11/10
อายุ - 20
ฉายา - Grim Rising
ส่วนสูง - 186
งานอดิเรก - ดูแลคลังแสง
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - RPG-7, AK-47, RPK
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 19 - King Flank Deadfloor
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - รู้จักอาวุธทุกชนิด, แก้ไขอาการปืนขัดลำกล้องได้อย่างรวดเร็วด้วยมือเปล่า
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ยิงสนับสนุนภาคพื้นดิน, มอร์ทาร์ เทรเมอร์, ต่อต้านอากาศยาน
ลักษณะพิเศษ - ผมยาวสีเทาปัดไปข้างหลัง, ชอบใส่เสื้อแขนสั้น, ใส่ปลอกแขนสีดำที่แขนขวา
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - คุณชาย, ไม่เข้าพวก
ระดับยศ - [4] Resupply Protocol
หน่วยรบ - 10th Heavy Artillry Divition

Kouverianos Fasha

ชื่อ - โควเวอร์เรียนอส ฟาช่า
เพศ - ชาย
วันเกิด - 30/9
อายุ - 20
ฉายา - Self-Control Overlord
ส่วนสูง - 188
งานอดิเรก - เขียนหนังสือเกี่ยวกับสงคราม
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - RPK, RPD
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 28 - Battle Overlord Thanatos
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - วางแผนการรบ
ความสามารถพิเศษชุดรบ - อนาไลซิสพื้นที่การรบ, ควบคุมยูนิตทั้งหมดจากบนอากาศภายในสนามรบ
ลักษณะพิเศษ - ใส่หมวก Beret สีดำ
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - ชอบทวิลเทล, โลลิค่อน, ชอบสาวแว่น
*เกี่ยวข้อง : Mariya Kouverianos - พี่ชาย
ระดับยศ - [6] Master Crisis Training
หน่วยรบ - [0] General Battlefield Control

Kouverianos Mariya

ชื่อ - โคเวอร์เรียนอส มาริย่า
เพศ - ชาย
วันเกิด - 15/12
อายุ - 17
ฉายา - Tactical Howitzer
ส่วนสูง - 172
งานอดิเรก - วาดภาพ, นอนหลับ
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - M4A1, Dragunov
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 32 - Nightfall Artillery Scatter
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - หน้าตาสวยใสเหมือนผู้หญิง, หล่อ, ดึงดูดผู้หญิง, ขี้อาย, เชี่ยวชาญทักษะการยิงระยะไกล
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ 105mm ทีละ 6 กระบอก 10 วินาทีต่อ 1 ชุด ยิงต่อเนื่องได้ 20 นาที, คำนวนวิถีกระสุนได้แม่นยำ 90% ภายในระยะ 8 ไมล์
ลักษณะพิเศษ - หน้าตาดี, ผมสีทองปัดมาข้างหน้านิดหน่อย, ไม่ชอบจัดทรงผม
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - M, นิสัยเด็ก, ติดพี่ชาย
*เกี่ยวข้อง : Fasha Kouverianos - น้องชาย
ระดับยศ - [2] Formalized Training Plan
หน่วยรบ - 10th Heavy Artillry Divition

Viktoriya Martin

ชื่อ - วิคทอริยะ มาติน
เพศ - ชาย
วันเกิด - 23/1
อายุ - 19
ฉายา - Aircraft Captain
ส่วนสูง - 185
งานอดิเรก - ดูแลเครื่องบินรบ, ดูแลการบรรจุยุทโธกรณ์ให้กับเครื่องบินรบ
กรุ๊ปเลือด - B
อาวุธประจำตัว - Stinger, M16A4
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 31 - Cantera Thunder Fighter
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ตอบสนองต่อการสู้รบกลางอากาศได้ทุกรูปแบบ, เชี่ยวชาญทักษะหลบหลีกมิสไซด์
ความสามารถพิเศษชุดรบ - บินได้ด้วยความเร็ว 800 ไมล์ทะเล, ปล่อยพลุล่อมิสไซด์แบบกระจาย, ความสามารถอะแวคซ์, สนับสนุนและช่วยเหลือการสื่อสารทางภาคพื้นดิน
ลักษณะพิเศษ - เคี้ยวหมากฝรั่งแทบจะทุกเวลา, ผมสีดำชี้สะเปะสะปะ
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - สัญโดด, ยูริ, S
ระดับยศ - [6] Efficient Deployment
หน่วยรบ - 3nd Preplan Fighter Divition

Praskovya Feliks

ชื่อ - พราสคอฟยะ เฟริกซ์
เพศ - ชาย
วันเกิด - 21/12
อายุ - 16
ฉายา - Armored Hunter
ส่วนสูง - 172
งานอดิเรก - พัฒนาหัวรบต่อต้านรถถัง
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - Javelin, AT4
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 27 - Ex-Maverick Light Farewell
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ซุ่มโจมตี, แม่นยำในการทำลายยานเกราะและรถถังจากระยะไกล, แบกน้ำหนักมากได้มากกว่าคนอื่น
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ยิงกระสุนสังหารคนขับภายในยานเกราะหรือรถถัง, เจาะจะบบข้อมูลยานพาหนะ, หลอมละลายเกราะของยานพาหนะ
ลักษณะพิเศษ - ยิ้มตลอดเวลา, ชอบล้วงกระเป๋ากางเกง, เจ้าชู้, สร้างฮาเร็ม, มีสเน่ห์
สัญชาติ - รัสเซีย
สาย - ฮาเร็ม, หลงตัวเอง, หลงไหล 2D
ระดับยศ - [3] Basic Weapon and Military
หน่วยรบ - 6th Anti-Armored Vehicle Divition

---

[Ukrainain]

Taras Kostyantyn

ชื่อ - ทาราส คอสทรายติน
เพศ - ชาย
วันเกิด - 5/6
อายุ - 19
ฉายา - Blood Evolution
ส่วนสูง - 186
งานอดิเรก - อ่านหนังสือ
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - AK-47, AK74u
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 20 - AFMLK Freeze Wing Combat
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - อ่านหนังสือพร้อมกันหลายๆเล่ม
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ความสามารถในการกระจายความเย็นและขัดขวางการตรวจจับความร้อนของศัตรูโดยรอบ
ลักษณะพิเศษ - ผ้าปิดตาข้างซ้าย, ผมสีดำชี้ขึ้น
สัญชาติ - ยูเครน
หน่วยรบ - 2nd Armored Tank Division

---

[German]

Frera Eckehard

ชื่อ - เฟรร่า เอคฮาร์ด
เพศ - หญิง
วันเกิด - 2/11
อายุ - 17
ฉายา - Glass-Girl Killer
ส่วนสูง - 172
งานอดิเรก - คิดค้นอาวุธชนิดใหม่, แยกชิ้นส่วนปืนเพื่อศึกษา, ปรับปรุงลำกล้องปืน
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - AA12, XM95A7, XMk165
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 29 - Rebel Firefly Heavygun
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ประกอบปืนและแบกชิ้นส่วนปืนด้วยมือเปล่าได้อย่างรวดเร็ว, รู้จักทุกส่วนประกอบของปืนและการทำงานของปืนทุกชนิดเป็นอย่างดี
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ติดอาวุธทำลายได้เยอะ *M134 6กระบอก, 105mm สองกระบอก, 40mm สามกระบอก, 30mm สองกระบอก กระบอกละ 7 รู, 70mm Rocket Pack จำนวน 5 จุด, และอาวุธอื่นๆอีก 6 ชนิด*
*การใช้งานหลักของชุดรบ - ยิงถล่มเป้าหมายใหญ่ๆเช่นหุ่นรบ ยานเกราะขนาดยักษ์ ยานแม่ ฐานบัญชาการ ป้อมปราการ หรือแม้แต่ยิงถล่มเป็นวงกว้าง
*ข้อเสียของชุดรบ - ไม่เหมาะสำหรับโจมตีเป้าหมายในระยะไกลและเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
ลักษณะพิเศษ - ใส่แว่น, มัดผมหางม้า, ผมสีเทา, ใส่รองเท้าหุ้มสูงถึงน่อง, มีรอยแผลเป็นที่หลังคอ
สัญชาติ - เยอรมัน
*ผลงานอาวุธที่ปรับปรุงขึ้นมาแล้วใช้งานได้สมบูรณ์แบบ : 6 ชิ้น

Helene Helmfried

ชื่อ - เฮเลเน่ เฮล์มเฟรด
เพศ - หญิง
วันเกิด - 21/12
อายุ - 17
ฉายา - Mystery Soprano
ส่วนสูง - 168
งานอดิเรก - ร้องเพลง
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - SN-6 Hamonic, TR-21 AEMP Launcher (Advance EMP), FFAR 75mm Sentry Rocket Pod
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นพิเศษ - Soukougeki Uta Saimin
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ร้องเพลง, แต่งเพลง, เต้น, ร้องเพลงภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง, พูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่อง
ความสามารถพิเศษชุดรบ - คลื่นเสียงกล่อมประสาท, คลื่นสั่งให้ผู้ที่ได้ยินตกอยู่ในสภาพไม่ได้สติ, คลื่นเสียงสะกดจิต, มองเห็นคลื่นเสียง, ตรวจจับคลื่นเสียงได้ในระยะ 0.5 ไมล์
ลักษณะพิเศษ - ผมยาว, ทวินเทล, สีเหลือง, หูฟังมีไมล์ขนาดเล็ก, ปลอกแขนสีส้ม, นัยน์ตาสีน้ำเงิน
สัญชาติ - เยอรมัน


Heino Meinhard

ชื่อ - เฮโน่ แมนฮาร์ด
เพศ - ชาย
วันเกิด - 11/2
อายุ - 20
ฉายา - Suppression Fire
ส่วนสูง - 165
งานอดิเรก - จัดกระสุนใส่ในแม็กกาซีนและกล่องกระสุน
กรุ๊ปเลือด - B
อาวุธประจำตัว - M249, M60, Bag of 5.56 Ammo
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 33 - Tactical Suppression Round
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ยิงสนับสนุนได้อย่างต่อเนื่อง (เปลี่ยนกระสุนอีกปืนและอีกปืนยังยิงต่อ)
ความสามารถพิเศษชุดรบ - กลายรูปแบบเป็นป้อมปืนป้องกันพื้นที่
ลักษณะพิเศษ - ใส่แว่น, ผมสีเหลือง, นิสัยเด็ก
สัญชาติ - เยอรมัน

Gilbert Ruprecht

ชื่อ - กิลเบิร์ท รูเพิร์ท
เพศ - ชาย
วันเกิด - 16/10
อายุ - 18
ฉายา - Armored Fury
ส่วนสูง - 179
งานอดิเรก - ไม่มีเป็นพิเศษ
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - M16A2 Custom, USP .45
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 30 - Limanius Thunder Invesion
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ไม่มีเป็นพิเศษ
ความสามารถพิเศษชุดรบ - เกราะป้องกันหลายชั้น, กลายร่างเป็นยานเกราะเคลื่อนที่เร็วได้, ปืนต่อต้านรถถังหลายขนาด
ลักษณะพิเศษ - ใส่เสื้อผ้าแบบเรียบๆ, ผมสีดำ, มัดผมสั้นๆไว้ข้างหลัง
สัญชาติ - เยอรมัน
หน่วยรบ - 2nd Armored Tank Division

---

[France]

Louise Adolphe

ชื่อ - หลุยซ์ อดอลฟี่
เพศ - หญิง
วันเกิด - 28/9
อายุ - 17
ฉายา - Delta Scream
ส่วนสูง - 173
งานอดิเรก - เดินเล่น, แกล้งคนอื่น
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - M134 Sentry Gun, M2 .50Cal Sentry Gun, MP5, Colt .45 Desert Eagle, .50C Night Hawk
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 33 - Delta Stream Coloring
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - แข็งแรงแม้จะไม่มีกล้ามเหมือนเด็กสาวทั่วๆไป, เปลี่ยนกระสุนได้รวดเร็ว, ได้ยินเสียงเบามากๆได้, ตอบสนองต่อทุกอย่างรอบตัวได้รวดเร็ว, เปลี่ยนกระสุนปืนกลหนักทีละสองอันแม้ในมือจะถือปืนอยู่
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ตั้งป้อมปืนเป็นมุมสามเหลี่ยม, บินปล่อยพลุล่อมิสไซด์ได้ครั้งละจำนวนมาก, เร่งความร้อนของชุดรบได้สูงถึง 300 องศาโดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้, ความเร็วสูงสุด 1600 ไมล์ทะเล
ลักษณะพิเศษ - ผมสีดำ, มัดผมหางม้า, ชอบกัดก้านไม้เล็กๆไว้ในปาก, ใส่กระโปรงสั้นๆและชุดเหมือนนักเทนนิส, ชอบยิ้มแบบล่อแหลม
สัญชาติ - ฝรั่งเศส

Remy Marcelline

ชื่อ - เรมี่ มาร์แชลไลน์
เพศ - หญิง
วันเกิด - 6/2
อายุ - 16
ฉายา - Sharp Shooting
ส่วนสูง - 162
งานอดิเรก - เช็ดลำกล้องปืน, บรรจุกระสุนใส่แม็กกาซีน
กรุ๊ปเลือด - O
อาวุธประจำตัว - Barrett .50 cal, M21 Custom
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 3 - Ancient Servent Rhapsody
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - คำนวนความเร็วลมด้วยสิ่งของที่สามารถมองเห็นได้และตอบสนองกับแรงลม, กลั้นหายใจได้นานในการเล็งปืนสไนเปอร์, เชี่ยวชาญจังหวะการลั่นไกสไนเปอร์ไรเฟิล
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ถนัดการเคลื่อนไหวถอยหลังและยิงตอบโต้, เสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ใช้, จุดเก็บกระสุนเฉพาะสำหรับปืนของผู้ใช้, ขนาดเครื่องรัดรูปผู้ใช้และมีเกราะขนาดเล็ก
ลักษณะพิเศษ - ผมสีเหลือง, รวบผมไว้ข้างขวาและมัดไว้, สะพาย M21 เวลาเดินข้างนอกตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเช้า, มี PS Diva ติดตัวเอาไว้เล่นตลอดเวลา
สัญชาติ - ฝรั่งเศส

Raymond Vespasien

ชื่อ - เรย์มอนด์ แวสพาซิเอน
เพศ - ชาย
วันเกิด - 15/6
อายุ - 19
ฉายา - Soldier of Valor
ส่วนสูง - 182
งานอดิเรก - ซ้อมยิงปืน
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - M4A2 Red-Dot Sight/M203, M14 Extra Long Sight, Mk46 Iron Sight/Grip
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 33 - Nuisance Perplexed Valor
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ตัดสินใจและยิงได้อย่างแม่นยำ, มีสติและความเยือกเย็นในระหว่างสงคราม
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ทนแรงกระแทก, เคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ, ซ่อมแซมเกราะป้องกันได้รวดเร็ว, ติดอาวุธสงครามได้หลายจุด, ตรวจจับสิ่งมีชีวิตรอบๆ
ลักษณะพิเศษ - ใส่แว่นตาดำ, ใส่กางเกงทหาร, มีท่าทางเป็นทหารโดยแท้จริง
สัญชาติ - ฝรั่งเศส

---

[English]

Aisha Calanthe

ชื่อ - ไอช่า คาลานเต้
เพศ - หญิง
วันเกิด - 1/1
อายุ - 19
ฉายา - Crazy Flyer
ส่วนสูง - 168
งานอดิเรก - เล่นเกม, ท่องเว็บ, ศึกษาเกี่ยวกับชุดรบ
กรุ๊ปเลือด - O
อาวุธประจำตัว - PMI-377 Haze Energy, GUL-18 "Guilty Blade", Twin Combat Knife
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 19 - AQRPD Spead Wing Nova
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ใช้ปืนต่อสู้ในระยะประชิด, เชี่ยวชาญการใช้มีดสั้นและดาบ, ร่างกายไม่ตอบสนองต่อไฟฟ้า (ไฟช็อตไม่ได้)
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ปีกหลัง 6 แฉก มีความสามารถในการปล่อยความเย็นออกไปรอบๆเพื่อลดความร้อนของเป้าหมาย (ดีต่อการหลบหลีกมิสไซด์และเรดาร์ตรวจจับความร้อน), ความสามารถในการสำรวจพื้นที่โดยไม่มีอันตราย
ลักษณะพิเศษ - ทรงผมทวินเทลสีเหลือง, ชอบใส่เสื้อแขนสั้น, มีดพกสองอันที่ต้นแขน, แบกปืนยิงพลังอันใหญ่ไว้ข้างหลัง, เก็บดาบพลังงานไว้ในฝักดาบห้อยไว้ด้านซ้าย
สัญชาติ - อังกฤษ

---

[America]

Baldric Blake

ชื่อ - บลัดริค เบลค
เพศ - ชาย
วันเกิด - 19/9
อายุ - 18
ฉายา - Homing Seeker
ส่วนสูง - 176
งานอดิเรก - ออกกำลังกาย, ทดลองระเบิด
กรุ๊ปเลือด - A
อาวุธประจำตัว - Javelin, Lot of Javelin Missile, Lot of C4, Lot of Smoke Grenades
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ - 33 Oriental Ecstasy Mysterious
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ขนสิ่งต่างๆไปได้มากมาย, ติดอาวุธและระเบิดไปได้ทีละมากๆ, ชำนาญด้านการใช้ระเบิดควันและอาวุธต่อต้านรถถัง
ความสามารถพิเศษชุดรบ - กำหนดทิศทางและเวลาระเบิดของระเบิด, ควบคุมทิศทางมิสไซด์ติดตาม, แปลงสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในรัสมีได้ภายในระยะ 2 ไมล์
ลักษณะพิเศษ - ผมสีขาว, ตาสีน้ำเงิน, โยนระเบิดขึ้นลงบนมือเป็นชีวิตจิตใจ
สัญชาติ - อเมริกา
หน่วยรบ - 18th Anti-Heavy Tank Divition

---

[Sweden-Russian]

Eva J.(Jekaterina) Isidora

ชื่อ - อีวา แจคาเทอร์ริน่า ไอซิโดร่า
เพศ - หญิง
วันเกิด - 3/21
อายุ - 17
ฉายา - Lead of Horror
ส่วนสูง - 173
งานอดิเรก - นั่งอยู่เงียบๆคนเดียว
กรุ๊ปเลือด - AB
อาวุธประจำตัว - Combat Knife
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 21 - Asellus Satelaput Atmushateculum (อเซลลัส ซาเต้ลาปุท อัทมุชชาเตกูลุม)
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - ย่องเบา, ทักษะในการต่อสู้และสังหารระยะประชิด
ความสามารถพิเศษชุดรบ - [Standard]
ลักษณะพิเศษ - ผมยาวสีม่วง, ชอบนั่งกอดเข่า
สัญชาติ - สวีเดรน-รัสเซีย

---

[Romania]

Serafim Tatianasia

ชื่อ - เซร่าฟิม ทาเทียนาเซีย
เพศ - หญิง
วันเกิด - 5/6
อายุ - 18
ฉายา - Sniper Girl
ส่วนสูง - 171
งานอดิเรก - เช็ดสไนเปอร์ส่วนตัว
กรุ๊ปเลือด - B
อาวุธประจำตัว - MST .50 cal APS
ชุดรบประจำตัว - ชุดรบรุ่นที่ 25 - La Dos QuiXOtica
ความสามารถพิเศษส่วนตัว - คำนวนแรงลมได้แม่นยำ, คาดเดาทิศทางลมได้ล่วงหน้า
ความสามารถพิเศษชุดรบ - ยิงถล่มและบุกทะลวงเข้าไป
ลักษณะพิเศษ - มัดผมม้า, ผมสีน้ำเงิน, ชอบจับปลายกระบอกปืนมากกว่าจับตรงที่จับเวลาถือไปไหนมาไหน
สัญชาติ - โรมาเนีย
หน่วยรบ - 9th Recon Fighter Squadron Divition

[Vocaloid_BRS]

ต่อจาก


Story of Reisen – Livetune of Main Character


“ที่นี่มัน...”

เรย์เซ็นเดินไปและเอามือจับอากาศ มันกระเพื่อมเหมือนแตะบนผิวน้ำ แต่จากที่ตาเห็นแล้วเหมือนอยู่ในคอมพิวเตอร์มากกว่า

ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ทุกอย่างสว่างวาบเป็นสีขาว เธอหลับตาสนิทโดยไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป

มันเกิดอะไรขึ้น เรย์เซ็นไม่มีเวลารอคำตอบ เธอกำลังดิ่งลงจากหอคอยที่สูงตระหง่านกลางเมือง สิ่งที่เธอทำต่อไปหลังจากคิดคือคว้ามือไปเกาะหอคอยไว้ จากความเร็วลากให้ปูนแตกลากเป็นทางลงมา

“ตรงนั้นเหรอ!”

เรย์เซ็นชักปืนออกมาจากเอวด้านหลังและยิงไปที่มุมตึกแห่งหนึ่งที่มีบางคนยืนอยู่ กระสุนเข้าปะทะก็จริง แต่ดูเหมือนคนๆนั้นจะหนีไปได้ ความทรงจำส่วนที่เรย์เซ็นโดนกับดักจนเฉียดตายหายไปจนหมดก่อนที่จะลงพื้นแบบไม่ค่อยนิ่มนวลสักเท่าไหร่

“มันเกิด...อะไรขึ้น...”

เธอมองดูปืนในมือตัวเองโดยอัตโนมัติ ราวกับว่ามันดึงดูดหรือบังคับให้มอง เธอสำรวจไปทั่วปืน จำไม่ได้จริงๆว่ามีปืนได้อย่างไร ที่ใกล้ๆจุดขัดปลอกกระสุนมีบางอย่างสลักไว้

‘Nightwalker .735 -Combat Action-’

ข้างหลังประโยคนั้นมีต่ออีกนิดหน่อย ตัวอักษรเล็กมากจนมองแทบไม่เห็นว่าเขียนอะไรไว้

‘ELT AK. VML’

ตัวย่อสั้นๆ ที่ไม่รู้ความหมาย ปกติเรย์เซ็นไม่เคยสนเรื่องแบบนี้ แต่ทำไมเธอถึงสนใจได้ หลังจากที่เธอกลับมาเป็นปกติ ก็เลิกสนใจปืนไปซะเฉยๆแล้วเก็บไว้ข้างหลังเหมือนเดิม ผู้คน... สิ่งมีชีวิตอื่นๆ หยุดนิ่ง ทำให้เรย์เซ็นประหลาดใจมาก เธอแก้ความสงสัยด้วยการเดินไปจิ้มคนที่อยู่ใกล้ๆ สิ่งต่างเริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆและในที่สุดก็กลับเป็นเหมือนเดิม

เอเลเทียร์มีปัญหาในด้านความทรงจำเหมือนที่บอกไป และถึงแม้เธอจะพบกับเอเลเทียร์แบบตรงๆ แต่เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากเป็นคนที่จำยากลืมง่ายทำให้เรื่องบาดหมางต่างๆ ไม่พุดเข้ามาทำให้หงุดหงิด อย่างเช่นเหตุการณ์หลังจากนั้น มันน่าหงิดหงุดที่โดนกับดักจนตัวเองตาย(แต่ไม่รู้ตัว)แบบนี้ แต่พอกลับถึงที่พัก

เรย์เซ็นหัวหมุนติ้วเพราะความงุนงงก็เดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปที่พัก เธอเดินขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็นห้องของเธอ เธอเดินไปนอนบนเตียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ สเปคเตอร์ปาหมอนที่อยู่ในมือออกไปแล้วหันมาหาเรย์เซ็นที่นอนเอาแขนพาดหน้าผาก

“ปฏิบัติภารกิจรวดเร็วดีนี่คะ สมแล้วที่เป็นนายหญิง”
“อือ...”

เรย์เซ็นตอบสั้นๆ... สั้นมาก...

“โฮระ!”

เทรสเซอร์ปาหมอนมาทางสเปคเตอร์ สเปคเตอร์เอียงตัวหลบอย่างง่ายดาย

‘ปุ!’

หมอนร่วงลงเต็มๆหน้าของเรย์เซ็น ดอลทุกตัวรวมถึงอิบุกิเหงื่อตกกันยกใหญ่(อิบุกิเหงื่อตกนิดๆแต่ยังยิ้มจางๆออกมา) เรย์เซ็นหยิบหมอนออกจากหน้าแล้วเอนตัวขึ้นจากเตียงพร้อมหันไปหาเทรสเซอร์

‘ตายล่ะ...’

ดอลทุกตัวคิดในใจจากนั้นก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก
อย่างไรก็ตามเรย์เซ็นก็ยังมีความน่ากลัวโดยเฉพาะตอนที่เธออารมณ์เสียนั้น ถ้าอารมณ์เสียแบบจริงจังและอยากจะทำอะไรสักอย่างจะไม่มีใครหยุดเธอได้ ดอลทุกตัวรู้จักเรย์เซ็นดี และถ้าเรย์เซ็นจะลงโทษดอลตัวเองล่ะเตรียมเผ่นกันหมดเพราะไม่มีดอลตัวไหนชอบการทรมานของเธอเลย บางเวลาเธอก็ไม่ได้เข้มงวดตลอดเวลาและมักจะแสดงด้านไร้สาระออกมาบ่อยครั้ง

“นี่แน่ะ!”

เรย์เซ็นปาหมอนใส่เทรสเซอร์จนหงายหลังลงไปบนเตียงด้านหลัง เธอหยิบหมอนที่เพิ่งนอนมาปาใส่ดอลตัวอื่นอีกก็ไปโดนไมเด็น มีหรือจะยอม ดอลตัวอื่นๆก็พากันหยิบหมอนมาปาใส่กันอีก เรย์เซ็นเลยเข้าไปร่วมเล่นด้วยซะอย่างนั้น อิบุกิยืนยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี หมอนเริ่มปามั่วไปโดนอิบุกิ หัวบ้าง ตัวบ้าง แขนบ้าง ความหยั๊วะเริ่มปรากฎบนหน้าของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะยิ้มอยู่แต่คิ้วกระตุกราวกับว่าชักรำคาญ

‘ปุ’

หมอนอันล่าสุดลอยมาจากไมเด็น อิบุกิยกมือมาจับไว้แล้วปากลับไป สงครามหมอนเริ่มขึ้นปีกครั้งโดยอิบุกิเข้าไปร่วมเล่นด้วย วุ่นวายดีแท้
หัวหน้าเมดเปิดประตูเข้ามาเพราะเห็นว่าเสียงดัง

“มีอะไรกันคะ ทำไมเสียงดังกัน-”
‘ปุ...’

หมอนปะทะเข้าไปเต็มๆหน้า เธอถอยกลับไปแล้วปิดประตูอย่างช้าๆ ทุกคนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีคนปาหมอนไปโดนเต็มๆหน้าของหัวหน้าเมด
เมดคนอื่นที่เดินสำรวจทุกๆชั้นจนมาถึงชั้นบนเห็นหัวหน้าเมดกำลังจะลงไปพอดี

“ขึ้นมาทำอะไรบนนี้เหรอคะ”
“มาสำรวจอะไรนิดหน่อยว่าทำไมถึงเสียงดังกัน”
“ห้องคุณหนูนี่คะ? มีอะไรกันหรือเปล่า?”
“เธอเข้าไปดูเองสิ”

หัวหน้าเมดพูดทิ้งท้ายก่อนที่เดินลงไป เมดคนนั้นตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป

“ขออนุญาตนะคะ...-”
“ปุ...”

โดนเหมือนกับหัวหน้าเมดไม่มีผิด ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยว่าปาหมอนไปโดนเมดคนนั้น เธอเลยถอยแล้วปิดประตูอย่างช้าๆก่อนที่จะเดินกลับลงไปชั้นล่าง
ฮ่าๆๆ มีเพียงอิบุกิคนเดียวเท่านั้นที่สนว่าเมดสองคนเข้ามาตรวจดูแล้วออกไป นอกนั้นก็เล่นกันไม่รู้เรื่องและนี่ก็เป็นกิจวัตรประจำวันในการหาเรื่องแก้เครียดของเหล่าดอล
ทุกคนลงไปทานอาหารในห้องพิเศษที่จัดเตรียมไว้ ทุกคนก็ทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน

“เจ้าเนี่ยน้า... กินไม่รู้จักพอจริงๆ”
เทรสเซอร์หันไปพูดกับแซฟเฟอร์ที่ยัดเอายัดเอา(ไม่เรียกว่ากินแล้ว)แบบล้างพลาญไม่เกรงใจใคร แต่กลับเป็นดอลที่น้ำหนักตัวเบาที่สุด แซฟเฟอร์หันมาพูดหลังจากที่กลืนอาหารอึกใหญ่ลงคอไป
“ทำไมเธอไม่กินเยอะๆดูล่ะ อาหารพวกนี้อร่อยออกจะตายไป ถ้าไม่กินเยอะๆก็น่าเสียดายน่ะสิ”

เทรสเซอร์มีสีหน้าแย่ลง

“มะ-... ไม่หรอก ไม่เป็นไร ข้ากินแค่นี้ก็อิ่มแล้ว”
“หึหึ... ข้ารู้นะเทรสเซอร์ น้ำหนักเจ้าเพิ่มมาอีกสามขีดใช่ไหมล่ะ อย่าบอกนะว่าที่ทานน้อยๆแบบนี้กำลังไดเอทอยู่น่ะ”

เทรสเซอร์หน้าแดงและหันไปโวยวาย

“สะ-สเปคเตอร์ล่ะก็! ข้าไม่ได้ไดเอทอยู่นะ แล้วน้ำหนักก็ไม่ได้เพิ่มด้วย!”

เธออายจนทำอะไรไม่ถูก เลยหยิบเค้กมาหนึ่งชิ้นและกำลังจะเอาเข้าปาก(กำลังฉุน)

“ฮุ!...(ขำ) ระวังน้ำหนักเพิ่มนะ”

เลเทลทักเทรสเซอร์ เทรสเซอร์วางเค้กลงแล้วทำท่าจะร้องไห้

“เลเทล บ้า บ้า!” <reaction : หน้าแดงเพราะความอาย>
“ฮ่าๆๆ เทรสเซอร์คุงน่ารักจังเลย” <reaction : รู้สึกว่าเทรสเซอร์โมเอะ>

เลเทลพูดล้อเล่นต่ออีกนิดหน่อย แคมเฟอร์ที่นั่งสงบอยู่เฉยๆก็ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนเสียงดังด้วยความเข้มแข็ง

“ยัยพวกงี่เง่า! นักรบไม่มีเวลาไม่ใส่ใจกับเรื่องน้ำหนักหรือเรื่องน้อยนิดแบบนั้นหรอก!”
‘ปั่ก’
“หนวกหูน่าแคมเฟอร์ (Kanpufaはうるさいですわ)” (เรย์เซ็นตั้งใจพูดเอาฮา)”

แคมเฟอร์โดนเรย์เซ็นใช้กระดาษพับตีหัวแต่ก็ยังนิ่งราวกับไม่รู้อะไรเลย

“ทำเป็นพูดไป เจ้าเองก็กำลังไดเอทเหมือนข้าอยู่ไม่ใช่หรือไงแคมเฟอร์”

เทรสเซอร์พูดย้อนพร้อมกับมองจานอาหารของแคมเฟอร์... เธอทานไปครึ่งเดียวแล้วไม่ทานต่ออีกเลย

“โฮะ! เทรสเซอร์คุงยอมรับแล้วสินะว่ากำลังไดเอทอยู่”

พลาด! เทรสเซอร์พลาดแล้ว! เลเทลไม่ปล่อยให้ประโยคนั้นหลุดไปง่ายๆ เทรสเซอร์ก็เลยหน้าดำหน้าแดงโวยวายไปเรื่อยเปื่อยด้วยความอายซึ่งก็สนุกสนานไปเรื่อย จนแคมเฟอร์ที่นั่งหลับตาด้วยความสงบลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหึกเหิม
“ข้าเห็นแล้ว!(見えた!)”
‘ปั่บ!’
เรย์เซ็นใช้กระดาษพับตีหัวแคมเฟอร์อีกครั้ง ทั้งแซฟเฟอร์ สเปคเตอร์และราเว็นก็ฮาแตกออกมาตั้งแต่แคมเฟอร์ลืมตาพรึบแล้วพูดเสียงดังว่าข้าเห็นแล้ว! ยิ่งเรย์เซ็นเอากระดาษพับตีหัวแล้วบ่นใส่ทำให้ทั้งสามคนขำกันท้องแข็ง

“มันหนวกหูนะ...(うるさいぞ…)”

ไมเด็นหันไปหาแคมเฟอร์แล้วถาม

“เห็นอะไรของเธอ(なに見てのよ、君)”
“น้ำหนักของเทรสเซอร์เพิ่มขึ้นมาอีกสองขีด”

น้ำเสียงปกติที่ดุดันของแคมเฟอร์กลับกลายเป็นพูดออกมาเล่นๆปนความฮารวมถึงขำออกมานิดๆด้วย คนอื่นก็พากันฮาแตกยกใหญ่ มีเทรสเซอร์ที่เหงื่อตกแล้วพูดออกมาด้วยความสิ้นหวัง

“กลับมาเรื่องนี้อีกแล้วเรอะ?!”

เอนิกซ์ม่านั่งอยู่ตรงข้ามกับอิบุกิ...

“ท่านยูเรย์กิ รบกวนช่วยทำน้ำดื่มของข้าให้เย็นขึ้นหน่อยสิ”

เอนิกซ์ม่าพูดพร้อมหยิบแก้วน้ำยื่นให้อิบุกิ

“อะ...เอ๋? ฉันเหรอคะ?”

อิบุกิรับแล้วน้ำมาแล้วเป่าลมลงไปในแก้วให้น้อยและเบาที่สุด... น้ำแข็งแป๊กเป็นน้ำแข็งเลย อิบุกิเหงื่อตกแล้วยื่นแก้วกลับไปให้เอนิกซ์ม่า เอนิกซ์ม่าก็เหงื่อตกตาม

“เป็นน้ำแข็งหมดเลยแบบนี้แล้วข้าจะดื่มยังไงล่ะ”
“อะ ฮะๆๆ” [อิบุกิ]
“เอามานี่สิ เดี๋ยวพี่สาวจัดการให้เอง”

เมเยอร์ที่นั่งข้างๆแสดงความเป็นผู้ใหญ่พร้อมกับหยิบแก้วของเอนิกซ์ม่าส่งไปให้เรย์เซ็น

“นายหญิง...”

เรย์เซ็นก็ไม่ได้เข้าใจมาก เมเยอร์บอกสั้นๆว่าให้ใช้ลมหายใจมังกรละลายน้ำแข็งลงหน่อย เรย์เซ็นก็ทำ เธอหายใจออกมาเป็นไฟเล็กๆและดูดเข้าไปทางปาก ตามด้วยพ่นออกมานิดหน่อย น้ำแข็งค่อยๆละลาย เมเยอร์เลยส่งกลับไปให้เอนิกซ์ม่า

“ขะ-ขอบคุณนะ...”

เอนิกซ์ม่าจับแก้วไว้แต่ก็ต้องรีบวางบนโต๊ะ อยู่ๆน้ำแข็งก็ละลายเร็วมากตามด้วยมีไฟลุกพรึบท่วมแก้วแล้วก็ดับไป(รีบวางเพราะร้อน)

“หวะ-หวา!” [เมเยอร์]
“อะไรกันล่ะนั่น...” [ราเว็น]

จากน้ำเปล่า... กลายเป็นน้ำแข็ง จากนั้นก็กลายเป็นน้ำร้อน เอนิกซ์ม่าอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ อะไรนี่ แค่น้ำเย็นแก้วเดียวมันทำยากขนาดนั้นเลยหรือ? ไม่หรอกมั้ง แค่คนอื่นทำให้มันยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้นเอง

“ข้ามีความคิดดีๆแล้วล่ะ”

เลเทลออกความคิดเห็น

“ท่านยูเรย์กิมีองศาความเย็นที่ต่ำมาก ส่วนนายหญิงก็มีไฟที่ทำองศาความร้อนได้สูง ข้าว่าถ้าทั้งสองท่านร่วมมือกันคนละครึ่งมันก็จะออกมาได้สมบูรณ์แบบ”
“อื้ม... น่าสนุกดีนี่”

เรย์เซ็นตอบตกลงด้วยความสนใจ

“อะ-เอ๋ เอาจริงเหรอคะ คุณเลเทล”

เลเทลพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มเหมือนปกติ เรย์เซ็นหยิบแก้วของเอนิกซ์ม่าขึ้นมา อิบุกิเลยจำเป็นต้องช่วยเรย์เซ็น อิบุกิพ่นไอเย็นออกไปก่อน เรย์เซ็นก็พ่นไอร้อนออกไปตาม ก็ได้ผลตามคาด ไม่มากไป ไม่น้อยไป... มั้งนะ?

“ฉันไม่ยอมแพ้หรอกน่า!” [เรย์เซ็น]
“เอ๋?” [เลเทล]

เลเทลเหงื่อตกทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ เรย์เซ็นเร่งไอร้อนจนเป็นไฟลุกท่วม อิบุกิกลัวไฟเลยเร่งพ่นไอเย็นต้านไฟไว้(มังกรน้ำแข็งอย่างอิบุกิย่อมกลัวไฟเป็นธรรมดา)

“โฮะ! คิดสู้เหรอ น่าสนุกดีนี่! ฉันไม่ยอมแพ้หรอกน่าอิบุกิ!”

เรย์เซ็นเห็นเป็นเรื่องสนุกไปซะแล้ว ด้วยความกลัวอิบุกิจึงพ่นความเย็นแข่งเพื่อไล่ไฟออกไป อย่างกับการแสดงพ่นไฟและน้ำแข็ง ดูท่าเรย์เซ็นคงจะลืมไปแล้วว่าอิบุกิกลัวไฟแล้วคงนึกไปอีกว่าอิบุกิกำลังท้าแข่งด้วย

“อืม... ถึงจะไม่เป็นไปตามที่คาดแต่แบบนี้ก็สนุกเหมือนกันแหะ”

เลเทลยังพูดออกมาเหมือนกันเรื่องน่ายินดี ดอลตัวอื่นก็พากันเชียร์ทั้งเรย์เซ็นและอิบุกิว่าอย่ายอมแพ้ เอนิกซ์ม่านั่งนิ่งและเหงื่อตก... นี่มันอะไรกันเนี่ย? เธอคิดในใจ

เมดคนหนึ่งเดินเอาน้ำเย็นมาให้เอนิกซ์ม่า

“เชิญค่ะ”
“อื้ม... ขอบใจ”

แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? มั่วดีจริงๆ... แต่นี่ก็คือเหตุการณ์ปกติที่เจอได้บ่อยๆ ทุกคนจะหาอะไรเล่นหรือสนุกทำตลอดเวลาที่เฮฮาได้ แม้แคมเฟอร์ที่ดูจะเข็มงวดตลอดเวลา แต่กลับเป็นคนที่นิ่งและระเบิดฮาออกมาได้ตลอด

“เล่นกันได้ไม่รู้จักเหนื่อย”

ซิคลูดบ่นออกมาในขณะที่ใช้ส้อมปักลงไปในชิ้นเนื้อใหญ่แล้วยกขึ้น เธอยกขึ้นไปลนไฟที่เรย์เซ็นพ่นออกมาพักนึงจนเป็นหนังใหม้ๆแล้วซิคลูดก็เอาลงมากินทั้งอย่างนั้น

“ฮื้ม... รสชาดใช้ได้”

นั่นเธอก็กำลังเล่นกับพวกเขาอยู่ไม่ใช่เรอะ?! ซิคลูด?! ราเว็นคิดในใจ เธอหันกลับมาที่จานของเธออีกครั้งแล้วก็ต้องหันกลับไปหาซิคลูด

“ยัยบ้า! นั่นมันเนื้อของฉันนะ! อุตส่าห์เก็บไว้กินอ่า!”
“โฮ่ๆๆ ใครเร็วกว่าเป็นผู้ชนะ”
“ฮึ่ม!”

ราเว็นหยิบเนื้อชิ้นใหญ่จากในจานของซิคลูดมาบ้าง

“อ๊ะ เนื้อของข้า!(ああ! 私の焼肉!)(やきにく)”
“ใครเร็วกว่าก็ชนะไงล่ะ! โฮ้! โฮ่ๆๆๆ!~”
“กรุณาเอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!~(かえせ!-く!-だ!-さ!-い!~)”

ราเว็นไม่ยอมคืนให้ เธอกัดมันคาไว้ในปาก ราเว็นพยายามดึงเนื้อจากซิคลูดที่ใช้ปากกัดไว้ ส่วนซิคลูดดึงเนื้อจากราเว็นที่ใช้ปากกัดไว้เช่นกัน เนื้อเหนียวมาก ดึงกันไม่ขาดสักที

“แง่ง! (だそ!)” [ซิคลูด]
“แง่ง! (ですわ)” [ราเว็น]

เป็นอีกคู่หนึ่งที่ไม่เคยยอมกัน

.........
......
...

แม้แต่ช่วงอาบน้ำ

“ยะฮู้!~”

แซฟเฟอร์สาดน้ำใส่คนอื่นๆ ห้องอาบน้ำรวม เรย์เซ็น สเปคเตอร์ ไมเด็น แซฟเฟอร์ เลเทลนั่งแช่น้ำร้อนอยู่และเล่นไปมากันไม่รู้จักจบสิ้นสักที ส่วนคนที่เหลือก็ไปนั่งขัดตัวและถูหลังให้กัน

เทรสเซอร์มองที่หน้าท้องตัวเองและถอยหายใจทิ้งๆขว้างๆ ดูเหมือนจะกังวลเรื่องน้ำหนักพอสมควรเลยนะเนี่ย

แคมเฟอร์ตาลุกวาวเป็นเปลวไฟแล้วเดินไปข้างหลังของเทรสเซอร์ที่ถอนหายใจอยู่ ควันพุ่งออกจากจมูกของแคมเฟอร์แล้วเธอก็เข้าไปจับหน้าอกของเทรสเซอร์จากด้านหลัง

“ว๊าย!!” [เทรสเซอร์]
“ฮึ่ม! บ้าชะมัด! ทำไมถึงหน้าอกใหญ่แบบนี้! นักรบไม่จำเป็นต้องมีหน้าอกหรอกน่า! น่าหมั่นไส้จริงๆ!”

แคมเฟอร์เล่นต่อไปโดยไม่หยุด เทรสเซอร์ร้องไห้งองแงดันแคมเฟอร์ไปข้างหลังจนหงายลงไปในบ่อแช่น้ำร้อนทั้งสองคน

“ตู้ม!!”

เรย์เซ็นเอากระดาษพับจากไหนไม่รู้เอาออกมาตีหัวแคมเฟอร์

“น้ำมันเข้าฉันจมูกนะ”

แคมเฟอร์โผล่หน้าขึ้นมาเพียงครึ่งเดียวและทำบุ๋งๆอยู่ใต้น้ำ เมเยอร์จะไปถูตัวบ้าง เธอรักษาลุคพี่สาวสมบูรณ์แบบของเธอไว้ตลอด แต่ก้าวแรกที่เธอเดินขึ้นไปกลับลื่นสบู่ที่วางอยู่บนพื้นจนหงายท้องลงไปมาอีกครั้ง คนอื่นๆก็เฮฮากันอย่างสนุกสนาน เมเยอร์เลยโผล่หน้าขึ้นมาแค่ครึ่งเดียวและทำบุ๋งๆใต้น้ำเหมือนแคมเฟอร์เพราะความอาย(แคมเฟอร์ทำบุ๋งๆไปอย่างนั้นแหละ)
และเฮฮาช่วงนอนก่อนที่จะกลับสู่สภาวะสู้รบเหมือนเดิม

‘กุกกั่ก’

แซฟเฟอร์นอนพลิกตัวไปมาเหมือนเด็กๆ

เรย์เซ็นนอนกับไมเด็น

เรย์เซ็น(นอนอยู่ทางขวาหันไปทางซ้าย)นอนกับไมเด็น(นอนทางซ้ายและนอนหงายตามปกติ)

‘งั่ม...งั่ม...’

ไม่เด็นคงนอนไม่หลับแน่ถ้าเรย์เซ็นยังงับหู(ขวา)ของเธออยู่อย่างนี้ทั้งคืน

ราเว็น(นอนทางขวาหันไปทางซ้าย)นอนกับซิคลูด(นอนทางซ้ายหันไปทางขวา)

“เนื้อ...เนื้อ...เอาคืนมา” [ราเว็น/ซิคลูด]

ทั้งสองคนนอนละเมอดึงแก้มกันไปมา... หลับลงได้ไงเนี่ย?

เลเทล(นอนทางขวาหันไปแกล้งเทรสเซอร์ทางซ้าย)นอนกับเทรสเซอร์(นอนทางซ้ายหันหนีเลเทลไปทางซ้าย)

“ฮุฮุ...”

เลเทลเอานิ้วจิ้มเอวของเทรสเซอร์ที่นอนไม่เป็นสุข

“งืม...งืม...”

จากท่าทางแล้วเทรสเซอร์คงนอนฝันร้าย เลเทลยิ้มแล้วยื่นหน้าไปข้างๆหูของเทรสเซอร์

“ว้า...แย่แล้ว... น้ำหนักเพิ่มอีกสามกิโล อ้วนแน่ๆ ต้องอ้วนแน่ๆเลย”

เทรสเซอร์งึมงำออกมาราวกับว่าไม่เอาและกลัว สีหน้าดูไม่ดีซะเลย

“เหอๆ ไม่มีทาง เจ้าไม่มีทางไดเอทสำเร็จหรอก ข้าคือเทพเจ้าแห่งความอ้วน และก็จะไปอยู่กับเจ้าให้จงได้~” (*และก่อจ๊ะไปอยู่กับเจ่าให่จ๊งด้าย~*)

เลเทลพูดกระซิบด้วยน้ำเสียงฮาๆกรอกหูเทรสเซอร์ที่นอนฝันร้ายหนักกว่าเดิมอีก เลเทลดูท่าทางมีความสุขมากที่เห็นเทรสเซอร์นอนหลับฝันดี(?)ขนาดนั้น

แซฟเฟอร์(นอนทางซ้ายหันไปถีบทางขวา)นอนกับเมเยอร์(นอนอึดอัดอยู่ทางซ้าย)

‘ปึ่ก...’

ขาขวาของแซฟเฟอร์พาดมาบนตัวของเมเยอร์

‘ปั่ก...’

ขาข้างซ้ายดิ้นมาเตะขาของเมเยอร์

‘ตุบ’

แซฟเฟอร์ละเมอกำหมัดและยื่นไปดันหน้าเมเยอร์เหมือนกับว่ากำลังชก เมเยอร์มีสีหน้าย่ำแย่เหมือนตกอยู่ในฝันร้ายสุดๆ เธอคิดอยู่เสมอว่าตัวเองโตกว่าดอลตัวอื่นๆ และต้องมีความเป็นผู้นำ เลยอดทนไว้ไม่พูดหรือบ่นออกมาสักคำ หึหึ การเป็นพี่สาวนี่มันลำบากเนาะ

เอนิกซ์ม่า(นอนทางซ้ายเป็นชิกุวะหันหน้าไปทางซ้ายมั้ง)นอนกับอิบุกิ(นอนทางขวาและนอนหงายตามปกติ)

‘กึ่กๆๆ’

อิบุกินอนอยู่ข้างๆกับชิกุวะเหรอ? ผ้าห่มห่อตัวเป็นกลมๆนั่นคือเอนิกซ์ม่า คงห่อตัวไว้ประมาณ 3-6 ชั้นนี่ล่ะ หนาซะ แต่ก็ยังหนาวจนสั่นนิดๆอีกด้วย ถ้าเป็นอากาศปกติล่ะก็ร้อนตายชัก ส่วนอิบุกินอนสบาย หนาวก็ไม่หนาว ชินแล้ว ร้อนก็ไม่ร้อน เพราะในตัวมีความเย็นตลอด อิบุกิก็เหมือนกับแอร์เคลื่อนที่นั่นล่ะ แต่เอนิกซ์ม่าที่นอนใกล้ๆคงไม่ต่างไปจากนอนบนน้ำแข็งในสภาพอากาศติดลบ 20-35 องศานั่นล่ะ

สเปคเตอร์(นอนทางขวาหันหน้าไปทางซ้าย)นอนกับแคมเฟอร์(นอนทางซ้ายหันหน้าไปทางขวา)

“ฮิมิตซึ” (ความลับ) [สเปคเตอร์]
“ซึกิ” (ดวงจันทร์) [แคมเฟอร์]
“คิเซ็ตซึ” (ฤดูกาล) [สเปคเตอร์]
“ซึกิโนะ” (ต่อไป)
“โนงาซึ” (ปล่อย) [สเปคเตอร์]
“ซึ...ซึนางาริ” (ความผูกพัน)
“ริซึ” (กระรอก) [สเปคเตอร์]
“ซึ...ซึกิ” (ชอบ)
“คิสซึ” (จูบ) [สเปคเตอร์]
“ซึ?!... ซึ... ซึนาโอะ” (ซื่อ)
“โอซึ” (กด) [สเปคเตอร์]
“ซึ!?!... ซึ... ซึ... ซึมิ!” (น้ำหมึก!)
“มิซึ” (น้ำ) [สเปคเตอร์]
“...” <reaction : เงียบ>
“...” [สเปคเตอร์] <reaction : หน้านิ่ง>
“สเปคเตอร์... เลิกลงท้ายด้วยคำว่า ‘ซึ’ จะได้ไหม”

สเปคเตอร์พยักหน้าเบาๆ

“ซึ...อืม...ซึงาโอะ” (ตัวจริง)
“โอนิกิริ” (ข้าวปั้น) [สเปคเตอร์]

แคมเฟอร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ริคุ” (แผ่นดิน)
“คุซึ” (ไร้ประโยชน์) [สเปคเตอร์]
“...” <reaction : เหงื่อตก>
“...” [สเปคเตอร์] <reaction : หน้านิ่ง>
“ซึรุ่ย!!” (ขี้โกง!!) <reaction : โวยวาย>
“...” [สเปคเตอร์] <reaction : หน้านิ่ง>

เรย์เซ็นที่นอนเตียงถัดไปละเมอหันมาหาแล้วเอากระดาษพับมาตีหัวแคมเฟอร์ที่นอนอยู่ทางด้านซ้ายของเตียง สเปคเตอร์นอนด้านริมสุด

‘ปั่บ’
“หนวกหูง่า...ง้าว...อืม... แคมเฟอร์...”

แล้วเรย์เซ็นก็ละเมอหันไปงับหูไมเด็นต่ออย่างมีความสุข สเปคเตอร์และแคมเฟอร์เล่นชิริโทริ(เกมต่อคำ) และทั้งสองคนก็ยังเล่นต่อไปโดยไม่รู้จักนอน

“โฮร่า!! ‘ซึ’ อีกแล้ว!!”

เสียงดังมาจนถึงเมเยอร์ที่นอนอึดอัดเพราะแซฟเฟอร์ทับมาทั้งตัว(น้ำหนักปกติ)

“หนวกหูจริง...(うりさい... ですわ...ね)”

หวังว่าคืนนี้เมเยอร์คงจะได้นอนสบายๆเหมือนคนอื่น(เหรอ?)บ้างนะ

.........
......
...

[Vocaloid_BRS]

Frutrative Another ~Sigh of War~

Main Story Season 1

Coming soon...

[rinkaprefm]

มาไวๆเนอะ ทายะคุงรออยู่่

[MilkyNaNa]

โฮชิโนะคุง.........

[Vocaloid_BRS]

ขุดขึ้นมากันทำม๊าย!!! =[]=?!!!

[MilkyNaNa]

ก็คนมันคิดถึงอ่ะ

[Vocaloid_BRS]

ก็คนมันคิดถึงอ่ะ

= ="

คิดถึงเขาแต่เราไม่ใช่โฮชิโนะเขานะ = _="

[MilkyNaNa]

คิดถึง Sieg ด้วย

[Vocaloid_BRS]

เอ่อ... ทำไมถึงรู้จักซิกล่ะ... คุณเป็นใครกันแน่นี่... ช่วยบอกชื่อหน่อยได้ไหม