black jack sdppd
2nd July 2012, 20:07
คำนำ
ตัวละครในเรื่องนี้มีที่มาจากเกมส์ดัง Dota ถ้าประวัติที่มาของตัวละครบิดเบือนต้องขออภัยด้วย
ถ้าอักษรอ่านยากบอกนะครับจะแก้ไขให้
SPIRIT OF WARCRY
บทแรก : สงคราม 1
ณ ฝั่งตะวันตกของดินแดนเยือกแข็ง Frozen Throne มีผู้กำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างสุดชีวิต และสิ่งๆนั้นดูเห็นชัดขึ้น นักรบธนูหญิง “Draw ranger” และผู้ไล่ตาม2คนคือ “Bone Flecher” และ “Bloodseeker” ท่าทางทั้งคู่บ้าเลือด
“หยุดนะDraw rangerแกหนีไม่รอดหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า”
Bone กระดูกร่างเล็กตาลุกโชนไปด้วยดปลวเพลิง คำรามด้วยท่าทางกระหาย
“แกคิดดีแล้วเรอะ ที่ตามมา”
Draw หันกลับไปท้าทายด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
Bone ชะงักทันทีสีหน้าดูสงสัย แต่ Bloodseeker ตะคอกว่า
“ไอโง่อย่าไปเชื่อมันตรงนี้ไม่มีใครเลย”
พูดไม่ทันขาดคำร่างกระทิงยักษ์สีเงาทองดั่งวิญญาณได้ปรากฏขึ้น และกระทืบพื้นอย่างแรง
“ตูมมมมมมมมมมม”พลังนี้ทำให้boneและbloodseekerจังงังนิ่งไป
กระทิงยักษ์โผล่ออกมาจากพุ่มไม้และวิ่งมาฟาดทั้งคู่ไม่ยั้ง ทั้งสองที่หายจากอาการมึนงงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แน่นอนว่าทั้งboneและbloodseekerมีความสามารถในการหลบหนีพอสมควร bloodseekerวิ่งเข้าป่า แต่boneซึ่งภูมิใจในความเร็วของตนกลับวิ่งตรงไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอกระทิงเอ๊ย”
Bone ร้อง
หลังจากวิ่งต่อไม่กี่ก้าวก็มีศรธนูมาปักกลางหลังซึ่งมันไม่สร้างความเจ็บปวดเท่าไหร่แต่เขากลับเย็นและช้าขึ้นอยากเหลือเชื่อboneถึงกับหน้าถอดสีธนูของDrawนั่นเอง ฉับพลันกระทิงดุก็มาหยุดอยู่ข้างๆพร้อมกับยิ้มกริ่ม
Bone : ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ณ Sentinel Castle
เมื่อทั้งคู่มาถึงฐานทัพก็ตรงรี่เข้าไปในปราสาทใหญ่ มียอดแหลมสี่ยอดอยู่ทั้ง4ทิศ โดยไม่สนแคมป์ทหารหรือผู้ที่ทักทายเลยซักนิด
“เป็นไงบ้างTraxex , Crain ภารกิจสำเร็จไหม”
เสียงทักทายของ แม่ทัพ Omiknight ดังขึ้นแทนคำว่าสวัสดี draw รีบตอบอย่างไม่รอช้า
“ข่าวที่ท่านได้พูดเป็นความจริง ตอนนี้ Lich King คิดจะปลุก Lord Avenus แล้ว”
Omiknight ถึงกับหน้าถอดสี แต่ก็ยิ้มออกเมื่อได้ข่าวที่Tauren Chieftrain บอก “ข้าและdraw สามารถสังหารBone Flecher ได้แล้วขอรับ”
Omiknight พูดต่ออย่างไม่รอช้าว่า “มันหมดตัวเก็งไป1ตัว แต่อย่าชะล่าใจไปเพราะLich อาจจะสะสมซากศพแล้วปลุกชีพ เหมือนที่ทำกับ—“ Omiknight ถูกขัดจังหวะเมื่อชายนักแม่นปืนร่างแคระเดินนามว่า Dwarven Sniper เดินเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ท่าน Omiknight ตอนนี้ Undying กำลังเริ่มพิธีแล้วครับปลุกกองทหารอวิญญาณแล้วขอรับ”
Omiknight มีสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วถามว่า
“ทำพิธีที่ไหน”
“ป่าตะวันตกครับ”
“ให้กระผมไปขัดขวางเอง” Tarren Chieftain คำรามด้วยสีหน้าภูมิใจ
Omiknight ขัดว่า “ไม่ต้องให้ beast masterไปขัดขวางซะ”
“แต่ท่านคะ นี่อาจเป็นกับดัก“
Draw แย้ง
“งั้นก็ให้ Rooftrellen ไปด้วย ดูซิจะไปได้ซักกี่น้ำ”
Omiknight นั่งลงกับบัลลังก์ เอามือก่ายหน้าผากพลางคิดถึง
เมื่อสิบปีก่อน
บทที่ 2 เมื่อ 10 ปีก่อน
ณ หมู่บ้านอันสงบสุข Light zone ปกครองโดยพระราชาแห่งความเมตตานาม“Omiknight “ ผู้คน อมนุษย์ ต่างเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ชาวออร์ค มีหน้าที่หาไม้
มนุษย์มีหน้าที่ทำนา หาน้ำ
คนแคระมีหน้าที่ประดิษฐ์สิ่งของ
ยักษ์มีหน้าที่ล่าสัตว์
จอมเวทย์ มีหน้าที่รักษาโรค ให้ความรู้
อสูรต่างๆมีหน้าที่ปรับสมดุลธรรมชาติ
ทุกสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างปกติคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนกระทั่งวันที่ 32 เดือน 13 ปี ศาสตร์ ซึ่งครบ 11 รอบ คำทำนายของ Grand Magus ก็บังเกิดขึ้นเมื่อดินแดนต้องห้ามชื่อ”น้ำแข็งต้องห้าม”ก็ได้ขดตัวเป็นเกลียวเล็กๆ ต่อมาก็ม้วนกันเป็นก้อนกลมๆดูเหมือนบอลสีฟ้าใสๆ แล้วจู่ๆระเบิดขึ้นเกล็ดน้ำแข็งแผ่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง ร่างๆหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางกองหิมะที่ปกคลุมผืนแผ่นดิน หัวเป็นกะโหลก สวมเสื้อคลุมสีฟ้าน้อยชิ้นแต่ปกคลุมทั่วร่าง
ต่อมาร่างนั้นได้สบตากับออร์คร่างสีแดงตัวหนึ่งซึ่งเฝ้าดูเหตุการณืด้วยความอึ้งตั้งแต่ต้น
“แค่กๆ” เสียงไอดังขึ้น
“แกเป็นใคร” ออร์คถาม
“แค่กๆ”
“ฉันถามว่า แกเป็นใคร”
“แค่กๆ”
“แกจะดูถูกฉันงั้นรึ” ออร์คถามอย่างหมดความอดทน
“แค่กๆ”
“แกฉันเคยเป็นถึงแม่ทัพ นามว่าAxe เคยชนะสงครามมาหลายครั้ง การถูกแกดูถูกมันไม่สบอารมณ์เฟ้ย”ออร์คตะโกน
“ใจเย็นๆสิพวก”ร่างกะโหลกพูดพลางปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง “จงมาเป็นพวกฉันซะ”
แล้วจู่ออร์คที่มีสายตาโกรธเกรี้ยว ก็ว่างเปล่าและล้มลงไป
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
หลังจากนั้น 5 วัน Light zone ก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
หลังจากนั้น 3 วัน Light zone เริ่มถูกคุกคามโดยจอมปีศาจนามว่า Lich king และกองทัพที่เขาสร้างขึ้น ซึ่งมีพวกหน้า*****มที่ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน และร่างที่เกิดจากซากศพนับ100 นามว่า Butcher ร่างเละๆของมันสร้างความประหวั่นให้คู่ต่อสู้เสียขวัญ
Omiknight ถามว่า “เจ้าต้องการอะไรทำไมถึงทำเช่นนี้”
“ข้าไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ถ้าอยากรู้ข้าก็จะบอกว่า ข้าตื่นมาจากน้ำแข็ง แล้วมันก็ว่าง จู่มันก็เกิดความคิดว่า ข้าเหลือพลังสะกดจิตครั้งสุดท้ายไว้ให้เจ้าดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า”Lich พูดแล้วก็นำมือมาวางไว้ข้างหน้า Omiknight ไม่รอช้า ตะโกนขึ้นมาว่า
“REPEL” แสงมนตราปรากฏขึ้นเหนือหัว Omiknight แสงสีทองปะทะกับไอเย็นสีเงิน
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และปรากฏร่างๆหนึ่งร่างนั้นเปลือยล่อนจ้อน แต่ดูสง่างาม ไม่ว่าร่างนั้นจะมีพลังขนาดไหนแต่ก็ทำให้Lichคุกเข่าได้ มันวางฝ่ามือบนหัวLichแล้วหายไปพร้อมกับกองทัพโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไรอีก
10 วันต่อมา ชาวเมืองที่เหลืออยู่ต่างรวมพลังกัน
“ถ้ามันจะสู้ เราก็จะแสดงให้เห็นว่าตัวเราเองก็ไม่ได้ด้อยกว่ามันหรอก
แสดงศักยาภาพของเราให้มันเห็น”
บทที่ 3 BEATS MASTER & ROOFTRELLEN
ตัวละครในเรื่องนี้มีที่มาจากเกมส์ดัง Dota ถ้าประวัติที่มาของตัวละครบิดเบือนต้องขออภัยด้วย
ถ้าอักษรอ่านยากบอกนะครับจะแก้ไขให้
SPIRIT OF WARCRY
บทแรก : สงคราม 1
ณ ฝั่งตะวันตกของดินแดนเยือกแข็ง Frozen Throne มีผู้กำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างสุดชีวิต และสิ่งๆนั้นดูเห็นชัดขึ้น นักรบธนูหญิง “Draw ranger” และผู้ไล่ตาม2คนคือ “Bone Flecher” และ “Bloodseeker” ท่าทางทั้งคู่บ้าเลือด
“หยุดนะDraw rangerแกหนีไม่รอดหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า”
Bone กระดูกร่างเล็กตาลุกโชนไปด้วยดปลวเพลิง คำรามด้วยท่าทางกระหาย
“แกคิดดีแล้วเรอะ ที่ตามมา”
Draw หันกลับไปท้าทายด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
Bone ชะงักทันทีสีหน้าดูสงสัย แต่ Bloodseeker ตะคอกว่า
“ไอโง่อย่าไปเชื่อมันตรงนี้ไม่มีใครเลย”
พูดไม่ทันขาดคำร่างกระทิงยักษ์สีเงาทองดั่งวิญญาณได้ปรากฏขึ้น และกระทืบพื้นอย่างแรง
“ตูมมมมมมมมมมม”พลังนี้ทำให้boneและbloodseekerจังงังนิ่งไป
กระทิงยักษ์โผล่ออกมาจากพุ่มไม้และวิ่งมาฟาดทั้งคู่ไม่ยั้ง ทั้งสองที่หายจากอาการมึนงงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แน่นอนว่าทั้งboneและbloodseekerมีความสามารถในการหลบหนีพอสมควร bloodseekerวิ่งเข้าป่า แต่boneซึ่งภูมิใจในความเร็วของตนกลับวิ่งตรงไป
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอกระทิงเอ๊ย”
Bone ร้อง
หลังจากวิ่งต่อไม่กี่ก้าวก็มีศรธนูมาปักกลางหลังซึ่งมันไม่สร้างความเจ็บปวดเท่าไหร่แต่เขากลับเย็นและช้าขึ้นอยากเหลือเชื่อboneถึงกับหน้าถอดสีธนูของDrawนั่นเอง ฉับพลันกระทิงดุก็มาหยุดอยู่ข้างๆพร้อมกับยิ้มกริ่ม
Bone : ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ณ Sentinel Castle
เมื่อทั้งคู่มาถึงฐานทัพก็ตรงรี่เข้าไปในปราสาทใหญ่ มียอดแหลมสี่ยอดอยู่ทั้ง4ทิศ โดยไม่สนแคมป์ทหารหรือผู้ที่ทักทายเลยซักนิด
“เป็นไงบ้างTraxex , Crain ภารกิจสำเร็จไหม”
เสียงทักทายของ แม่ทัพ Omiknight ดังขึ้นแทนคำว่าสวัสดี draw รีบตอบอย่างไม่รอช้า
“ข่าวที่ท่านได้พูดเป็นความจริง ตอนนี้ Lich King คิดจะปลุก Lord Avenus แล้ว”
Omiknight ถึงกับหน้าถอดสี แต่ก็ยิ้มออกเมื่อได้ข่าวที่Tauren Chieftrain บอก “ข้าและdraw สามารถสังหารBone Flecher ได้แล้วขอรับ”
Omiknight พูดต่ออย่างไม่รอช้าว่า “มันหมดตัวเก็งไป1ตัว แต่อย่าชะล่าใจไปเพราะLich อาจจะสะสมซากศพแล้วปลุกชีพ เหมือนที่ทำกับ—“ Omiknight ถูกขัดจังหวะเมื่อชายนักแม่นปืนร่างแคระเดินนามว่า Dwarven Sniper เดินเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ท่าน Omiknight ตอนนี้ Undying กำลังเริ่มพิธีแล้วครับปลุกกองทหารอวิญญาณแล้วขอรับ”
Omiknight มีสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วถามว่า
“ทำพิธีที่ไหน”
“ป่าตะวันตกครับ”
“ให้กระผมไปขัดขวางเอง” Tarren Chieftain คำรามด้วยสีหน้าภูมิใจ
Omiknight ขัดว่า “ไม่ต้องให้ beast masterไปขัดขวางซะ”
“แต่ท่านคะ นี่อาจเป็นกับดัก“
Draw แย้ง
“งั้นก็ให้ Rooftrellen ไปด้วย ดูซิจะไปได้ซักกี่น้ำ”
Omiknight นั่งลงกับบัลลังก์ เอามือก่ายหน้าผากพลางคิดถึง
เมื่อสิบปีก่อน
บทที่ 2 เมื่อ 10 ปีก่อน
ณ หมู่บ้านอันสงบสุข Light zone ปกครองโดยพระราชาแห่งความเมตตานาม“Omiknight “ ผู้คน อมนุษย์ ต่างเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ชาวออร์ค มีหน้าที่หาไม้
มนุษย์มีหน้าที่ทำนา หาน้ำ
คนแคระมีหน้าที่ประดิษฐ์สิ่งของ
ยักษ์มีหน้าที่ล่าสัตว์
จอมเวทย์ มีหน้าที่รักษาโรค ให้ความรู้
อสูรต่างๆมีหน้าที่ปรับสมดุลธรรมชาติ
ทุกสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างปกติคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนกระทั่งวันที่ 32 เดือน 13 ปี ศาสตร์ ซึ่งครบ 11 รอบ คำทำนายของ Grand Magus ก็บังเกิดขึ้นเมื่อดินแดนต้องห้ามชื่อ”น้ำแข็งต้องห้าม”ก็ได้ขดตัวเป็นเกลียวเล็กๆ ต่อมาก็ม้วนกันเป็นก้อนกลมๆดูเหมือนบอลสีฟ้าใสๆ แล้วจู่ๆระเบิดขึ้นเกล็ดน้ำแข็งแผ่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้าง ร่างๆหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางกองหิมะที่ปกคลุมผืนแผ่นดิน หัวเป็นกะโหลก สวมเสื้อคลุมสีฟ้าน้อยชิ้นแต่ปกคลุมทั่วร่าง
ต่อมาร่างนั้นได้สบตากับออร์คร่างสีแดงตัวหนึ่งซึ่งเฝ้าดูเหตุการณืด้วยความอึ้งตั้งแต่ต้น
“แค่กๆ” เสียงไอดังขึ้น
“แกเป็นใคร” ออร์คถาม
“แค่กๆ”
“ฉันถามว่า แกเป็นใคร”
“แค่กๆ”
“แกจะดูถูกฉันงั้นรึ” ออร์คถามอย่างหมดความอดทน
“แค่กๆ”
“แกฉันเคยเป็นถึงแม่ทัพ นามว่าAxe เคยชนะสงครามมาหลายครั้ง การถูกแกดูถูกมันไม่สบอารมณ์เฟ้ย”ออร์คตะโกน
“ใจเย็นๆสิพวก”ร่างกะโหลกพูดพลางปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง “จงมาเป็นพวกฉันซะ”
แล้วจู่ออร์คที่มีสายตาโกรธเกรี้ยว ก็ว่างเปล่าและล้มลงไป
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
หลังจากนั้น 5 วัน Light zone ก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
หลังจากนั้น 3 วัน Light zone เริ่มถูกคุกคามโดยจอมปีศาจนามว่า Lich king และกองทัพที่เขาสร้างขึ้น ซึ่งมีพวกหน้า*****มที่ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน และร่างที่เกิดจากซากศพนับ100 นามว่า Butcher ร่างเละๆของมันสร้างความประหวั่นให้คู่ต่อสู้เสียขวัญ
Omiknight ถามว่า “เจ้าต้องการอะไรทำไมถึงทำเช่นนี้”
“ข้าไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ถ้าอยากรู้ข้าก็จะบอกว่า ข้าตื่นมาจากน้ำแข็ง แล้วมันก็ว่าง จู่มันก็เกิดความคิดว่า ข้าเหลือพลังสะกดจิตครั้งสุดท้ายไว้ให้เจ้าดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า”Lich พูดแล้วก็นำมือมาวางไว้ข้างหน้า Omiknight ไม่รอช้า ตะโกนขึ้นมาว่า
“REPEL” แสงมนตราปรากฏขึ้นเหนือหัว Omiknight แสงสีทองปะทะกับไอเย็นสีเงิน
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และปรากฏร่างๆหนึ่งร่างนั้นเปลือยล่อนจ้อน แต่ดูสง่างาม ไม่ว่าร่างนั้นจะมีพลังขนาดไหนแต่ก็ทำให้Lichคุกเข่าได้ มันวางฝ่ามือบนหัวLichแล้วหายไปพร้อมกับกองทัพโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไรอีก
10 วันต่อมา ชาวเมืองที่เหลืออยู่ต่างรวมพลังกัน
“ถ้ามันจะสู้ เราก็จะแสดงให้เห็นว่าตัวเราเองก็ไม่ได้ด้อยกว่ามันหรอก
แสดงศักยาภาพของเราให้มันเห็น”
บทที่ 3 BEATS MASTER & ROOFTRELLEN