Guardian
30th July 2012, 19:30
http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/564511_467170943302341_1280001123_n.jpg
หนุ่มโคราชสุดฉุน เพื่อนร่วมงานโทรจีบเมียไม่หยุด เตือนแล้วไม่ยอมฟัง บรรจงเตะก้านคอทีเดียวเลือดคลั่งในสมองดับ
(30 ก.ค.) พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมชุดสืบสวน สส.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกระต่าย ศรีวิเชียร หรือต่าย อายุ 38 ปี
ผู้ต้องหาเตะก้านคอเพื่อนร่วมงานคือ นายเมธา คลังกะปุม อายุ 33 ปี เสียชีวิต
นายต่าย กล่าวว่าตอนเป็นหนุ่มร่วมกับเพื่อนปล้นรถยนต์ จนถูกจับกุมต้องอยู่ในคุกนาน 11 ปี พ้นออกจากคุกเดือนเศษที่ผ่านมา จึงเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.อุดรธานี เป็นกรรมกรแบกของขึ้นรถที่
บริษัทวุฒิชัยเจริญขนส่ง โดยตนได้ยืมโทรศัพท์มือถือนายแมว โทรไปหาภรรยาที่โคราช ซึ่งไปทำงานเสริมสวยที่กทม. แต่นายแมวทำตัวเจ้าชู้กับภรรยา โดยเอาหมายเลขโทรศัพท์ที่ค้างในเครื่อง
โทรไปจีบภรรยาหลายครั้งจนภรรยาโทรมาฟ้อง เคยเตือนและขอร้องให้เลิกแต่ก็ไม่เชื่อ เย็นวันนั้นพอเมาก็โทรไปอีก ด้วยความโกรธจึงเข้าไปเตะก้านคอ 1 ครั้ง นายแมวล้มลงทั้งยืน
นายต่าย กล่าวต่อว่า หลังจากเตะนายแมวก็เดินเข้าไปหา เพื่อพยุงให้ลุกขึ้นมานั่งพักผ่อนที่แคร่ไม้ พร้อมกับพูดสั่งสอน ซึ่งนายแมวยังกล่าวขอโทษ รับปากจะไม่โทรกลับไปอีก แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
รุ่งขึ้นจึงรู้ว่านายแมวตาย จึงหลบหนีเข้ากทม.ไปหาภรรยา ต่อมาได้รับการติดต่อจากตำรวจ ให้เข้ามอบตัวภายใน 5 วัน จึงเดินทางกลับมามอบตัว
ด้านเจ้าหน้าที่ ตำรวจกล่าวว่า นายแมวแม้จะถูกเตะเพียงครั้งเดียว ไม่มีบาดแผลภายนอกปรากฏให้เห็น แต่ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง และไม่ได้เดินทางไปรับการตรวจรักษา
โดยอาการมาแสดงออกภายหลัง ญาติพี่น้องใช้วิธีการรักษาแบบพื้นบ้านโบราณคือ เอาเจ็บนอนบนแคร่ไม้ ก่อไฟถ่านอยู่ด้านล่าง เชื่อว่าจะเป็นการไล่เลือดไล่ลมจากอาการช้ำใน ตกดึกก็เสียชีวิต
เมื่อชันสูตรสรุปว่าท้ายทอยบวมมีอาการเลือดคลั่งในสมอง
ปล.เมื่อกี่รีบไปหน่อย ลืมใส่ Cr.
Cr.Sanook.com
หนุ่มโคราชสุดฉุน เพื่อนร่วมงานโทรจีบเมียไม่หยุด เตือนแล้วไม่ยอมฟัง บรรจงเตะก้านคอทีเดียวเลือดคลั่งในสมองดับ
(30 ก.ค.) พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมชุดสืบสวน สส.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกระต่าย ศรีวิเชียร หรือต่าย อายุ 38 ปี
ผู้ต้องหาเตะก้านคอเพื่อนร่วมงานคือ นายเมธา คลังกะปุม อายุ 33 ปี เสียชีวิต
นายต่าย กล่าวว่าตอนเป็นหนุ่มร่วมกับเพื่อนปล้นรถยนต์ จนถูกจับกุมต้องอยู่ในคุกนาน 11 ปี พ้นออกจากคุกเดือนเศษที่ผ่านมา จึงเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.อุดรธานี เป็นกรรมกรแบกของขึ้นรถที่
บริษัทวุฒิชัยเจริญขนส่ง โดยตนได้ยืมโทรศัพท์มือถือนายแมว โทรไปหาภรรยาที่โคราช ซึ่งไปทำงานเสริมสวยที่กทม. แต่นายแมวทำตัวเจ้าชู้กับภรรยา โดยเอาหมายเลขโทรศัพท์ที่ค้างในเครื่อง
โทรไปจีบภรรยาหลายครั้งจนภรรยาโทรมาฟ้อง เคยเตือนและขอร้องให้เลิกแต่ก็ไม่เชื่อ เย็นวันนั้นพอเมาก็โทรไปอีก ด้วยความโกรธจึงเข้าไปเตะก้านคอ 1 ครั้ง นายแมวล้มลงทั้งยืน
นายต่าย กล่าวต่อว่า หลังจากเตะนายแมวก็เดินเข้าไปหา เพื่อพยุงให้ลุกขึ้นมานั่งพักผ่อนที่แคร่ไม้ พร้อมกับพูดสั่งสอน ซึ่งนายแมวยังกล่าวขอโทษ รับปากจะไม่โทรกลับไปอีก แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
รุ่งขึ้นจึงรู้ว่านายแมวตาย จึงหลบหนีเข้ากทม.ไปหาภรรยา ต่อมาได้รับการติดต่อจากตำรวจ ให้เข้ามอบตัวภายใน 5 วัน จึงเดินทางกลับมามอบตัว
ด้านเจ้าหน้าที่ ตำรวจกล่าวว่า นายแมวแม้จะถูกเตะเพียงครั้งเดียว ไม่มีบาดแผลภายนอกปรากฏให้เห็น แต่ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง และไม่ได้เดินทางไปรับการตรวจรักษา
โดยอาการมาแสดงออกภายหลัง ญาติพี่น้องใช้วิธีการรักษาแบบพื้นบ้านโบราณคือ เอาเจ็บนอนบนแคร่ไม้ ก่อไฟถ่านอยู่ด้านล่าง เชื่อว่าจะเป็นการไล่เลือดไล่ลมจากอาการช้ำใน ตกดึกก็เสียชีวิต
เมื่อชันสูตรสรุปว่าท้ายทอยบวมมีอาการเลือดคลั่งในสมอง
ปล.เมื่อกี่รีบไปหน่อย ลืมใส่ Cr.
Cr.Sanook.com