PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : โลกอนาคตเเละ-คนจากอนาคต



GhostRunKung
1st August 2012, 22:08
ผมจะเอาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับโลกอนาคตมาให้ชมกันครับ

2019

http://www.youtube.com/watch?v=5GL3hV6J0Pw
2020

http://www.youtube.com/watch?v=zPjhSI374Ms
2050

http://www.youtube.com/watch?v=QwFaVpKe21M&feature=player_embedded


http://picpost.mthai.com/pic/28645/468458.jpg
ปี 2050: จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ Los Angeles, San Francisco, และ New York City จะได้รับผลกระทบมากที่สุด.. แต่คนตายไม่มาก

ปี 2100: โลกเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ จะมีเยอะมากๆ โลกเราจะสงบและสันติสุดๆ ไม่มีการก่อการร้าย ไม่มีสงคราม ไม่มีความหิวโหย ไม่มีความตระกะ ไม่มีสิ่งที่เป็นแง่ลบอ่ะ >< World Peace จะสมบูรณ์ที่สุด และมันจะเป็นอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆกว่า 300 ปี

ปี 2200: พลังงานสุริยะ จะถูกใช้แทน ไฟฟ้า ใช้แทนน้ำมัน มันจะถูกใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ทุกๆวัน และปี 2200 นี่แหละ ที่โรคเอดส์ และโรคมะเร็ง จะรักษาให้หายได้ คนเราจะมีอายุเฉลี่ยที่ 90 ปี

ปี 2300: ปีนี้.. จะมีลักษณะแบบ... "ไม่มีเสียง" ระบบต่างๆ อุปกรณ์ต่างๆ จะเริ่ม ไร้เสียง.. เงียบ.. การใช้พลังงานนิวเคลียร์ จะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ปลอดภัย การทดลองเกี่ยวกับ สภาพภูมิอากาศ จะเป็นสิ่งที่ "สำคัญ" ที่สุดในยุคนี้ อายุเฉลี่ยของมนุษย์จะอยู่ที่ 110 ปี

ปี 2400: จะมีสงครามนิวเคลียร์ ขนาดเล็ก เกิดขึ้นในต้นศตวรรษที่ 24

หลังจากนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ขึ้นอีกครั้ง (เกี่ยวกับผิวเปลือกโลก แผ่นดิวไหว สึนามิ ประมาณนี้)

หลังจากนั้น จะไม่มี 2 รัฐบาลที่ปกครองโลก.. จะมีแค่รัฐบาลเดียว เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของคนทั้งโลก เรียกว่า The League of One

และจะมีการใช้พลังงานใหม่.. (ไม่ใช้น้ำมัน ไม่ใช้นิวเคลียร์) มันเป็นพลังงานที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ Cold fusion and other free energy
sources are now in use.

ปี 2500: เราจะสามารถ ควบคุม สภาพภูมิอากาศได้ ศตวรรษนี้ จะมีการสร้างหุ่นยนต์ Android (ไม่ใช่โทรศัพท์นะ) ขึ้นมาเป็นคนใช้ของมนุษย์ ทำงานแทนมนุษย์ พวกงานบ้าน งานจิปาถะ

ปี 2600: จะมีการสร้าง เมืองใต้ทะเล Underwater Cities การตัดต่อพันธุกรรมจะมีการทำอย่างเฟื่องฟูในยุคนี้ และจะมีการ เดินทางข้ามดวงดาว ไปๆมาๆ บ่อยๆ

ศตวรรษที่ 26 เราจะมีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว อย่างเป็นทางการ

ช่วงอายุของมนุษย์ จะสูงถึง 215 ปี ยุคนี้ ผู้คนแทบไม่รู้จักคำว่า ป่วย หรือ การติดเชื้อ การแพทย์จะสมบูรณ์แบบมาก

เป็นแบบนี้ไปจนถึง 2700
ปี 2800: รัฐบาล The League of One จะถูกแทนที่ด้วย รัฐบาล The Atlantic and Pacific Federationsรัฐบาลนี้ก็มาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน.. เป็นรัฐบาลของคนฝั่งตะวันออก.. ยุคนี้ไม่มีสงครามแล้ว.. (มันคล้ายๆ 2 พรรคการเมืองระดับโลก ผลัดกันขึ้นมาปกครองโลกอ่ะ)

และมันจะเป็นอย่างนี้ ไปจนถึง ศตวรรษที่ 31

ปี 3100: เป็นต้นไป เราจะเริ่ม เดินทางท่องกาลเวลาได้ (ไปอดีต ไปอนาคต)

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 31 เป็นต้นไป จนถึง ศตวรรษที่ 50

จะมีการเดินทาง ข้ามกาลเวลา ย้อนกลับไปดูอดีตทุกยุค ทุกสมัย ย้อนกลับไปแม้กระทั่งยุคไดโนเสาร์

เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นหลังศตวรรษที่ 31 ได้แก่ (โดยสังเขป):

- จะมีสวนสนุกลอยฟ้า ลอยสูงจากพื้นดินหลายพันฟุต จะมีแรงดึงไม่ให้คนในสวนสนุกตกลงไปด้านล่าง

- จะมี เครื่องทำอาหารตามสั่ง สั่งอะไร ก็กดอันนั้น มันจะทำ จะปรุง ออกมาตามที่เราต้องการเลย

แถมคนจากอนาคตและการย้อนเวลา

หลาย สิบปีที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายถึงเรื่องมนุษย์จากอนาคต ปรากฏกายขึ้นในโลกปัจจุบันหรือช่วง เวลาที่เป็นอดีตกาลของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นจอห์น ไตเตอร์ นายทหารจากโลกอนาคตเดินทางย้อนเวลาตามหาเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM รุ่นแรก แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน ผู้ใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์สร้างผลกำไรมหาศาลจากตลาดหุ้นและการลงทุน หรืออีลอย โคล เดินทางมายับยั้งการทดลองการสร้างหลุมดำจำลองที่นำไปสู่หายนะของโลกในอนาคต

เรื่องเล่าของคนเหล่านั้นเป็นที่กังขาของคนส่วนใหญ่เพราะขาดวัตถุหลักฐาน ยืนยัน จนกระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีคนสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติในภาพ ถ่ายอายุ 70 ปีของพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในประเทศแคนาดา เป็นภาพคนแต่งกายทันสมัยถือกล้องถ่ายภาพขนิดพกพายืนอยู่ท่ามกลุ่มคนและภาพ นี้ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าเป็นภาพถ่ายจริงที่ไม่ผ่านการตบ แต่งแต่อย่างใด
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503512/images/1_display.jpg
คอมพิวเตอร์กู้โลก
จอห์น ไตเตอร์ (John Titor) ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในห้องพูดคุยสาธารณะแห่งหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2000 โดยครั้งแรกเขาได้ลงทะเบียนชื่อว่า “Timetravel_0” และได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อ “John Titor” ในภายหลัง
แน่นอนว่าชื่อ John Titor เป็นนามแฝง John เป็นชื่อสามัญเหมือนกับชื่อ สมชาย ของคนไทย ส่วน Titor เป็นคำย่อของคำว่า Time Travelor โดยเล่นคำสะกดพยางค์สุดท้าย Travelor ด้วย or แทนที่จะเป็น Traveler สะกดด้วย er
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503513/images/1_display.jpg
เขา ออกตัวว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากอนาคตเมื่อปี 2036 ด้วยเครื่องย้อนกาลเวลาที่ผลิตขึ้นในปี 2034 โดยบริษัท GE (General Electronic) เพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของเขาเป็นความจริง จอห์นได้โพสต์ภาพถ่ายเครื่องย้อนกาลเวลา (Time Machine) และคู่มือการใช้งานเครื่องให้ทุกคนได้เห็น
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503514/images/1_display.jpg
แน่ นอนว่าผู้คนที่เข้าร่วม วงสนทนาไม่เชื่อน้ำมนต์ของนายจอห์น ไตเตอร์ หลายคนพยายามยิงคำถามต่างๆนานาเพื่อจับผิดเขา แต่ดูเหมือนจอห์นจะสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ทั้งหมด แถมยังสอนมวยกลับมายังคนลองภูมิอีกด้วย
หลายๆคำถามที่จอห์น ไตเตอร์ ยิงกลับมายังผู้ร่วมสนทนา ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร แต่เมื่อไปค้นคว้าดูในภายหลังพบว่ามันล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ชั้น สูงทั้งสิ้น อีกทั้งคำเตือนเรื่องจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคสมองฝ่อ (Mad Cow Disease) ได้เกิดขึ้นจริงในปี 2001 ทำให้หลายคนชักจะลังเล
ร่ำรวยด้วยความรู้ประวัติศาสตร์
เดือน มกราคม 2003 หนังสือพิมพ์วีคลีย์เวิลด์ด์นิวส์ (Weekly World News) ตีพิมพ์ข่าวเจ้าหน้าที่ FBI บุกจับกุมตัวแอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน (Andrew Carlssin) วัย 44 ปี ในข้อหานำข้อมูลลับภายในไปแสวงหาผลประโยชน์ในตลาดหลักทรัพย์
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503517/images/1_display.jpg
สำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (Security and Exchange Commission) ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายแอนดรูว์ โดยสงสัยว่าเขานำข้อมูลลับของบริษัทมหาชนต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ไปแสวงหาผล ประโยชน์ให้กับตนเอง เพราะแอนดรูว์สร้างความร่ำรวยในเวลาเพียงชั่วพริบตาด้วยการลงทุนเพียง 800 ดอลลาร์ซื้อหุ้นต่างๆแล้วขายออกไป นำเงินที่ได้กลับมาซื้อหุ้นตัวใหม่แล้วทำชอร์ตเซลขายออกไปอีกครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเงินทุนเริ่มต้น 800 ดอลลาร์เพิ่มพูนขึ้นเป็น 350 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แอ นดรูว์รับสารภาพโดย ให้การว่าเขามีข้อมูลว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นในช่วงเวลานั้น เพราะเขามาจากโลกอนาคตในปี 2556 เขาเพียงศึกษาประวัติศาสตร์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ นำความรู้ที่ได้ติดตัวเดินทางย้อนอดีตมาในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อช้อนซื้อ หุ้น เดิมทีนั้นเขาตั้งใจจะลงทุนแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต หากแต่ความโลภทำให้เขาหักห้ามใจไม่อยู่ เทเงินที่หามาได้ในช่วงแรกๆลงทุนซื้อหุ้นที่เขารู้อยู่แล้วว่ามันจะมีราคา สูงขึ้น จนกระทั่งไปสะดุดตาเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ล.ต. หายตัวอย่างลึกลับ แอ นดรูว์หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างที่ตำรวจควบ คุมตัวขึ้นศาลพร้อมกับข่าวคราวการจับกุมตัวเขา ไม่มีสื่อใดๆเสนอข่าวนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. และ FBI เจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนปฏิเสธตรงกันว่าไม่เคยได้ยินชื่อแอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน มาก่อน
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503520/images/1_display.jpg
ปี 2006 แอนดรูว์โผล่ออกมาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วีคลีย์เวิลด์ด์นิวส์อีกครั้ง เขาไม่ยอมเปิดเผยว่าสามารถเล็ดลอดจากการควบคุมตัวมาได้อย่างไร โดยบอกแต่เพียงว่าตอนนี้เขาทำงานบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งหนึ่งใน แคนาดา
เช่นเคย เขาใช้ข้อมูลที่เป็นประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเขาล่วงรู้ว่า “ทรายน้ำมัน” (Tar Sands) เป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่จะมาทดแทนบ่อน้ำมันตามที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะทรายน้ำมันอัลเบอร์ตา (Alberta Tar Sands) ของประเทศแคนาดาเพียงแห่งเดียว สามารถผลิตน้ำมันได้มากถึง 3 แสนล้านบาร์เรล
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503522/images/1_display.jpg
การ รีดน้ำมันออกมาจากทรายนั้นไม่ง่ายเหมือนกับการขุดเจาะน้ำมันทั่วๆไป เขาต้องสร้างเครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า “คาร์ลส์ซินนิซิตี้” (Carlssinicity) เพื่อใช้ในการแยกน้ำมันดิบออกจากทราย โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ดอลลาร์ต่อ 1 บาร์เรลเท่านั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่ามีเพียงหนังสือ พิมพ์วีคลีย์เวิลด์ด์นิวส์เท่านั้นที่ลงเรื่องราวของแอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน และหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้รับสมญานามว่าเป็นหนังสือพิมพ์ประเภทลงข่าวโคมลอย เพื่อความบันเทิง (Entertainment Tabloid) อย่างไรก็ตาม มันเป็นความบังเอิญอย่างน่าประหลาดที่ต่อมาในปี 2008 สำนักงานพลังงานหลายแห่งทั่วโลกยอมรับว่าสามารถแยกน้ำมันดิบออกจากทราย น้ำมันได้จริง ซึ่งมันจะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในอนาคต และ ทรายน้ำมันอัลเบอร์ตาเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง

http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503523/images/1_display.jpg
หยุดยั้งโครงการหลุมดำ

เมื่อ ไม่กี่วันที่ผ่านมา หน่วยรักษาความปลอดภัยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปสามารถจับ กุมตัวอีลอย โคล (Eloi Cole) ระหว่างพยายามก่อวินาศกรรมเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ (Large Hardon Collider) ของห้องทดลองเซิร์น (European Organization for Nuclear Research; CERN) ซึ่งกำลังทำการทดลองสร้างหลุมดำจำลอง (Black Hole)

อี ลอยให้การว่าเขาลอบเข้ามาในห้องทดลองเพื่อหาแหล่งพลังงานให้กับเครื่องเดิน ทางข้ามเวลาของเขา และเตือนว่าการทดลองสร้างหลุมดำจำลองนี้นำไปสู่การสร้างแหล่งพลังงานที่มี อย่างไม่จำกัดในอนาคตอันเป็นการนำไปสู่หายนะของโลกในที่สุด

อีลอยยัง บอกอีกด้วยว่าเขาเองเป็นคนที่ก่อวินาศกรรมเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 ทำให้เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนอาจก่อให้เกิดอันตราย ทำให้นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องหยุดการเดินเครื่องชั่วคราว

เหตุการณ์ในครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์พบว่าต้นเหตุคือเศษขนมปังชิ้นเล็กๆหลุด เข้าไป เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ โดยเข้าใจว่ามีนกคาบเศษขนมปังบินผ่านเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่แล้วทำเศษขนม ปังหล่นลงมา

ระหว่างที่อีลอยถูกควบคุมตัวในห้องขังเพื่อรอการส่งตัวไป ยังสถานบำบัดโรคทางจิต เขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับบนสถานีตำรวจกลางกรุงเจนีวานั่นเอง
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503525/images/1_display.jpg
หลักฐานชิ้นสำคัญ

เดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ Bralorne Pioneer Museum ได้แสดงนิทรรศการภาพถ่าย เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตผ่านทางภาพถ่าย โดยหนึ่งในภาพถ่ายนั้นเป็นภาพกลุ่มคนมุงดูเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 1941
http://statics.atcloud.com/files/comments/150/1503526/images/1_display.jpg
ท่าม กลางฝูงชนในภาพ มีชายคนหนึ่งแต่งกายผิดแผกแตกต่างไปจากผู้คนในยุคสมัยนั้น โดยเขามีทรงผมล้ำสมัย สวมแว่นตาดำ ใส่เสื้อยืดสวมเสื้อแจ๊กเกตทับ อันเป็นแฟชั่นในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เมื่อ 70 ปีก่อน แต่ที่สำคัญกว่าการแต่งกายคือชายคนนี้ถือกล้องถ่ายรูปพกพาที่ยังไม่ผลิตออก จำหน่ายในสมัยนั้น

ภาพ ถ่ายใบนี้เป็นภาพถ่ายโบราณของพิพิธภัณฑ์ Bralorne Pioneer Museum ไม่ใช่ภาพถ่ายทั่วๆไปที่คนมือบอนจะนำตบแต่งด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์กราฟิคได้พิสูจน์แล้วว่าภาพนี้เป็นภาพ ถ่ายจริงที่ไม่ผ่านการตบแต่ง มันจึงถูกกล่าวขานว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ว่ามีคนจากอนาคตเดินทาง ย้อนเวลามาสู่อดีตจริง

ภาพ ถ่ายภาพนี้จึงกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ใน สังคมอินเทอร์เน็ตตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลายคนพยายามสืบค้นว่าบุคคลแปลกปลอมในภาพถ่ายเป็นใคร มาจากไหน ในขณะเดียวกันผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องการเดินทางย้อนเวลาก็พยายามหาข้อมูลมาหัก ล้าง ซึ่งผลการดีเบตระหว่างคน 2 ฝ่ายนี้จะเป็นอย่างไรเราก็ต้องคอยติดตามข่าวกันต่อไป

หญิงปริศนาเดินคุยมือถือเมื่อ82 ปีที่แล้ว

ฮือฮา!! หญิงปริศนา ย้อนเวลา เดินคุยโทรศัพท์มือถือ ในหนัง ชาร์ลี แชปลิน

บาง ครั้ง การย้อนเวลาสู่อดีตอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ หลังจากมีผู้พบเห็นภาพผิดยุคผิดสมัย ในภาพยนต์อมตะอย่าง ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) ที่ผลิตขึ้นในปี 1928 หรือเมื่อ 82 ปีที่ผ่านมา โดยภาพดังกล่าวปรากฎมีหญิงรายหนึ่ง เดินคุยโทรศัพท์มือถือ ทำเอาคนที่เห็นงงไปตามๆกัน

ฉาก นี้ปรากฎขึ้น เป็นฉากสวนสัตว์แห่งหนึ่งของฮอลลีวูด มีผู้หญิงสวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวก เดินถือโทรศัพท์มือถือ ขณะเดินผ่านฉากไป ความผิดยุคสมัยนี้ ไม่มีใครสังเกตมาก่อน ซึ่งนายจอร์จ คลาร์ก (George Clark) ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ก็รู้สึกงงๆกับคลิปดังกล่าว ซึ่งเขานำไปให้หลายๆคนดู ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า ผู้ที่อยู่ในฉากคือใครกันแน่

ผู้ ชมที่เห็นคลิปดังกล่าวสันนิษฐานว่า อาจเป็นไปได้ว่า เธอกำลังฟังวิทยุพกพาแนบกับหูของเธอ แต่ก็อธิบายไม่ได้เช่นกันว่าเธอพูดอยู่คนเดียวหรืออย่างไร บางคนบอกว่า เธอกำลังใช้วัตถุบางอย่างบังใบหน้าไว้ เพื่อซ่อนตัวเธอจากการถ่ายทำภาพยนตร์
http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2010/10/article-1324132-0BC9AD02000.jpg
ลักษณะท่าทางของหญิงดังกล่าว เหมือนกับผู้ใช้โทรศัพท์ในยุคปัจจุบัน

ทั้ง นี้ เมื่อนำมือถือเครื่องแรกที่ผลิตขึ้นอย่างของโมโตโรล่า รุ่นวอลคกี้ ทอล์คกี้ ‘Walkie-Talkie ซึ่งผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1940 แต่กระนั้น ขนาดของมันก็ใหญ่ราวกับแขนมนุษย์เลยทีเดียว อีกทั้งยังผลิตขึ้นหลังจากที่ผลิตภาพยนตร์ดังกล่าวออกฉายกว่าสิบปี

นายคลาร์ก ยังคงต้องการคำตอบว่า ภาพดังกล่าวเกิดจากอะไร หรือหญิงปริศนาคนดังกล่าวจะเป็นผู้ที่อยู่ในอนาคตแล้วย้อนเวลาไปยังยุคนั้น ได้

เครดิต:http://www.unigang.com/Article/7519
เครดิต:http://archive.gameindy.com/forum/20110620/index_t55485.0.html
เครดิต:http://picpost.mthai.com/view/28645

Donewz
1st August 2012, 22:11
เคยอ่านเรื่องนักท่องเวลา (Time Traveler) อยู่เหมือนกันครับ โดยเฉพาะเรื่องคุณป้ามือถือนี่ดังมากๆ

BaCk To NaTuRe
1st August 2012, 22:15
สุดยอดครับ :clap

Ruffian
1st August 2012, 22:50
คิดว่าจะอยู่ถึงกันป่ะ

maiza0883
1st August 2012, 22:57
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

bighipyoza
1st August 2012, 23:01
ไม่ว่าจะไฮเทคแค่ไหน ก็หนีความตายกันไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย ยังจะคงมีอยู่ตลอดไป ในเมื่อยังไม่ถึงยุคพระศิอาน

AofLiverpool
1st August 2012, 23:01
ช่วงอายุของมนุษย์ จะสูงถึง 215 ปี ยุคนี้ ผู้คนแทบไม่รู้จักคำว่า ป่วย หรือ การติดเชื้อ การแพทย์จะสมบูรณ์แบบมาก

:eek::eek::eek::eek::eek::eek::eek::eek:

เฮ้ยย

Mercury
1st August 2012, 23:03
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ
คนละเรื่องแล้วครับ คุณคิดไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวมีดราม่าแน่ๆถ้าคุณยังโพสต์แบบนี้อีก

Chris
1st August 2012, 23:05
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

เเล้วคุณเป็นนายกรึเปล่าครับถามเเค่นี้ละ คุณเเก้ประเทศไทยได้รึไงมาโพสอย่างงี้ไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้าเเค่นั้นเเหละอย่าเอาการเมืองมาเข้าเว็บเกมเลยครับเห็นเเม่งมาหลายมู้เเล้วน่าลำคานโคตรๆ




คนละเรื่องแล้วครับ คุณคิดไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวมีดราม่าแน่ๆถ้าคุณยังโพสต์แบบนี้อีก

ผมขอดราม่าคนเเรกเลยเเล้วกันเบื่อพวกเเยกเเยะไม่ออก

GhostRunKung
1st August 2012, 23:09
งดมาม่า เหอะคับ :stop

helos
1st August 2012, 23:10
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

ไอ้ที่เค้าเอามาให้อ่าน ส่วนมากมันก็เรื่องแต่งทั้งนั้น อ่านเอาสนุกๆ

เค้าเรียกว่าเปิดจินตนาการครับ

โลกจริงมันลำบาก มันไม่มีเรื่องพวกนี้ให้เห็น

เลยมาหยุดพักซักนิด เติมพลังในโลกแห่งนี้เพื่อไปสู้ต่อในโลกจริงไงครับ

ถ้าคิดแบบคุณนี้กันหมด ก็ต้องไม่มี เกม หนัง เพลง สื่อบันเทิงอะไรแล้วครับ

Jung Hye Wook
1st August 2012, 23:13
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

เกี่ยวไรกันกับปัญหาประเทศไทย เขาเอามาให้อ่านเป็นความรู้สนุกๆ มองโลกในเเง่ร้ายเกินเปล่า

KnocKingMasterM
1st August 2012, 23:17
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

ถ้าเครียดขนาดนี้ ผมไม่มาบ่นในนี้หรอกครับผมไป FAP หน้าระเบียงดีกว่า555

ViCtiM 2 Die 4™
1st August 2012, 23:17
ตกใจกับเรปตัวหนังสือสีแดงข้างบน แต่ไม่ยุ่งดีกว่า

เรื่องน่าสนใจมากๆครับ ขอเวลาอ่านแปป เพราะมันยาวมากๆ

yauzalam
1st August 2012, 23:18
จากที่ดูคลิปไป รู้สึกว่า มีหลายอย่างที่เป็นไปได้แล้ว นวัฒตกรรม NFC ที่แค่แตะก็ส่งผ่านข้อมูลต่างๆได้ และมีหลายอย่างครับที่เป็นไปแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ โทรศัพท์โปรงแสงก็มีนะ ไม่ไม่หมดอะได้เฉพาะส่วนปุ่มกด เป็นของ LG :yes

mandragon66
1st August 2012, 23:19
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ
สั้นๆ ===> เกรียน

kingtamza
1st August 2012, 23:21
ขอบคุฌครับ

จะว่าไป ไม่อยากตายเลยจิงๆ

แต่ก้ไปไม่รอด ฮ่าๆๆๆ

sertnalove
1st August 2012, 23:27
พวกท่านลืมคิด ? ไปรึป่าว
1 ครอบครัวยังอลังกาล งานเวอร์ขนาดนี้ แล้วค่าไฟหละ ?
ก็ไม่ใช่จะหรู่ทุกครอบครัวหรอกนะ - -
(2020คลิปช่วงนึงแม่มเปิดน้ำทิ้งไม่ไหว :rtfm)

BaCk To NaTuRe
1st August 2012, 23:28
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ
คนเราควรจะมอง อนาคตไว้บ้างนะครับ มองให้ไกลๆหน่อยนะคุณ เผื่อจะวางแผนอะไรต่ออะไรในชีวิตได้ ;)

m4a1m16a2
1st August 2012, 23:34
นึกถึงเรื่องStein;Gate

saphira
1st August 2012, 23:36
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

แล้วแกจะโยงเข่้าการเมือง ทำไมครับจะสร้างคงวามแตกแยกเหรอครับ นั้นเขาแค่เอามาบอดกเป็นความรู้ นะครับ


ปล ปัจจุบัน ก้มีคนอายุถึง 200 ปีแล้วนะครับ อยู้ ที่ จีนนี่ละครับ เคยออกข่าวในรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง เมือปีที่แล้วรี้นะครับ

atchapong39
1st August 2012, 23:40
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

โพลสอะไรแยกแยะหน่อยครับ อ่านเพื่อความสนุก อย่ามาโชว์ ไร้สาระครับ

doggyshock
2nd August 2012, 00:32
คุณคิดอะไรถึงอนาคตกันนักหนา เเค่ปัจจุบัน ปัญหาเยอะยากจะเเก้อยู่เเล้ว โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคิดถึงเรื่องเเบบนี้กันอยู่อีกหรอครับ

ไม่อยากมาม่านะครับ แต่ว่าโพสของคุณดูไร้อนาคตมากเลย :sweat

Angerokung
2nd August 2012, 00:34
สักวันเราคงเข้าไปเล่นในเกมส์ได้:gamer

Apocalype
2nd August 2012, 22:56
สักวันเราคงเข้าไปเล่นในเกมส์ได้:gamer


ได้อย่างนั้นก้อเจ๋งเลยสิครับ

จะลองเข้าไปเล่น Fear ก่อนเลย 5555555