kabukiput
4th August 2012, 14:13
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อGMM Grammyเกิดนึกครึ้มขึ้นมาโดยการไม่อัพคลิปวิดีโอที่เป็นMVของตัวเองลงยูทูป ด้วยเหตุผลที่ว่าปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ เชิญอ่านได้จากตรงนี้เลยครับผม
แกรมมี่ฯ ผุดนโยบายสวนกระแสโลกออนไลน์ ไม่อัพโหลดมิวสิควิดีโอศิลปินในสังกัดผ่านเว็บไซต์ยูทูบ บอกเพราะถูกเอาไปแปลงเป็นเอ็มพี 3 ด้านนักวิจารณ์เชื่อเป็นการหยั่งฐานเสียงเพื่อกำหนดทิศทางตลาดเพลงมากกว่า
หลังมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุดก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของบ้านเราอย่าง "แกรมมี่" ได้มีนโยบายใหม่จะไม่มีการอัพโหลดมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ๆ ของศิลปินในสังกัดลงเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง YouTube ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ค่ายเพลงชื่อดังได้ให้เหตุผลว่าเหตุที่ต้องดำเนินนโยบายเช่นนี้ก็คือปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์ เนื่องจากไฟล์ที่มีการอัพโหลดลงยูทูบนั้นสามารถนำไปแปลงเป็นเอ็มพี 3 ได้ ซึ่งการอัพโหลดลงจะมีเฉพาะสปอต มิวสิควิดีโอ, ตัวอย่างเพลง และตัวอย่างหนัง-ละครเท่านั้น โดยนโยบายนี้ยังครอบคลุมไปไปถึงเว็บไซต์ของแกรมมี่อย่าง Gmember ด้วย
ซึ่งการดำเนินนโยบายล่าสุดของแกรมมี่ฯ ต้องถือว่าเป็นอะไรที่น่าจับตาไม่น้อย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเว็บอัพโหลดอย่างยูทูบนั้นถือเป็นช่องทางที่มีทั้งความสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมากในการที่ค่ายเพลงจะใช้โปรโมตศิลปินในสังกัดของตนเอง
ขณะที่การให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของปัญหาลิขสิทธิ์เพราะจะถูกนำผลงานไปปั๊มเป็นแผ่นเอ็มพีสามนั้นก็ดูจะเบาบางพอสมควร เนื่องเพราะในปัจจุบันคนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงตัวงานของศิลปินได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อแผ่นประเภทนี้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบกันดีว่ารายได้ของศิลปินในยุคปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่มักจะมาจากในเรื่องของการดาวน์โหลดผ่านมือถือ รวมถึงการขายโชว์ การออกงานอีเว้นต์ต่างๆ ส่วนที่มาจากยอดขายแผ่นซีดีนั้นถือว่าเป็นอะไรที่น้อยมากๆ
โดยทางด้านของ "พอล เฮง" หนึ่งในนักวิจารณ์เพลงของบ้านเราได้แสดงความคิดเห็นว่า... "โดยส่วนตัวผมมองว่ามันน่าจะมีนัยอื่นๆ นะ ผมว่าแกรมมี่เองไม่น่าจะทำอะไรที่มันดูทื่อๆ ดูเหมือนเป็นการถอยหลังเข้าคลองแบบนี้"
"เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันเว็บยูทูบเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการที่ค่ายเพลงจะสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะบรรดาศิลปินหน้าใหม่ในสังกัดของตนเอง ส่วนเหตุผลที่บอกว่าจะมีคนเข้ามาโหลดไป หรือว่าเข้ามาดูฟรีๆ อะไรนั้นมันน่าจะเป็นเหตุผลหลอกๆ นะ"
เชื่อน่าจะเป็นการเช็คกระแสเพื่อกำหนดทิศทางทางการตลาดในอนาคต..."เป็นไปได้หรือไม่ว่าแกรมมี่อยากจะกลับมารีเช็คดูว่าจริงๆ แล้วฐานของคนฟังเพลงที่มีความจงรักภักดีกับตนเองนั้นมีมากขนาดไหน มาดูว่าการใช้สื่อที่เป็นช่องทางเฉพาะของตนเอง อย่าง ทีวีในช่องดาวเทียมนั้นมันจะมีแฟนเพลงที่เป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ เท่าไหร่ เป็นกลุ่มไหน หรือเปล่า"
"อย่างยูทูบมันมีตัววัดที่เป็นเพจวิวก็จริง แต่มันก็เช็คได้ยาก เพราะมันมีประเภทขาจรเยอะ คือการทำแบบนี้ของแกรมมี่นั้นอย่างที่บอกว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกุคออนไลน์ เลย เพราะฉะนั้นมันน่าจะคงมีอะไรซ่อนเร้น คนอย่างปรมาจารย์มันสมองทางการตลาดอย่างแกรมมี่ไม่น่าคิดอะไรทื่อๆ แบบนี้"
"แล้วเราก็ต้องยอมรับนะว่าที่ผ่านมา เพลงไม่ใช่เซคชั่นที่ทำเงินมากที่สุดเหมือนกับในอดีตแล้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมของเขา รายได้หลักอื่นๆ มาจากโชว์ คอนเสิร์ต หนัง ละคร อะไรมากกว่า"
"เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าตรงนี้คงเป็นการลองดูสภาพการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะกำหนดทิศทางตลาดใหม่ในอนาคตว่าจะไปในทิศทางไหนถ้ามีช่องทางที่แบบว่าเป็นเฉพาะของตนเอง เช่น ช่องทีวีดาวเทียม แล้วก็เชื่อว่าไม่นานแกรมมี่ก็น่าจะกลับมาใช้ช่องทางอย่างยูทูบเหมือนเดิม"
เนื้อหาข่าวจาก:http://www.manager.co.th/entertainment/viewnews.aspx?NewsID=9550000095559
จนเป็นเหตุให้คนดังยูทูปของเราต้องออกมาแสดงความคิดเห็นดังนี้ครับผม
https://www.youtube.com/watch?v=TXzr1Rb8584&feature=player_embedded#!
ซึ่งถ้าฟังจากเหตุผลของพี่บี้แล้วเนี่ยมีความถูกต้องเกือบทั้งหมดเลยครับผม ผมเห็นด้วยมากเกี่ยวกับการที่คนไทยจะไม่สามารถโชว์อะไรให้ใครดูได้ว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ในขณะที่ต่างชาติก็จะมองเราด้อย แต่ถ้ามองในมุมมองของแกรมมี่นะครับ เราก็แย่จริงๆนั่นแหละ เขาขายเพลงเราก็ทำกันทุกๆทางเพื่อที่จะละเมิดเขา เขาก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะค่าอัดเพลง เพลงนึงไม่ใช่ถูกๆเลย เพื่อนผมบางกลุ่มอัดเพลงที่แต่งเอง รุ่นพี่อัดเพลงอินดี้ขาย ราคาค่าห้องบางคนเกือบหมื่น ถึงหมื่นก็มี เขาคงจะอยู่กันไม่ได้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ ช่วงหลังๆนี่แกรมมี่จะเอาเงินอย่างเดียวมากเกินไปแล้ว ตั้งแต่ยูโรแล้วครับ แต่ปัญหาด้านเพลงผมไม่เท่าไหร่หรอก เพราะผมก็โหลดแท้อยู่ แต่ติดที่การจะหาMVดูนี่สิ คงไม่มีใครอยากจะมานั่งรอเป้นวันๆเพื่อดูMV เดียวหรอก จริงมั๊ยครับ
อยากให้คลิปนี้ไปถึงGrammyไวๆ ช่วยกันแชร์นะครับ ตอนนี้ไม่ได้ต้องการไลค์ต้องการการแชร์มากที่สุดครับผม
แกรมมี่ฯ ผุดนโยบายสวนกระแสโลกออนไลน์ ไม่อัพโหลดมิวสิควิดีโอศิลปินในสังกัดผ่านเว็บไซต์ยูทูบ บอกเพราะถูกเอาไปแปลงเป็นเอ็มพี 3 ด้านนักวิจารณ์เชื่อเป็นการหยั่งฐานเสียงเพื่อกำหนดทิศทางตลาดเพลงมากกว่า
หลังมีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุดก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของบ้านเราอย่าง "แกรมมี่" ได้มีนโยบายใหม่จะไม่มีการอัพโหลดมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ๆ ของศิลปินในสังกัดลงเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง YouTube ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ค่ายเพลงชื่อดังได้ให้เหตุผลว่าเหตุที่ต้องดำเนินนโยบายเช่นนี้ก็คือปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์ เนื่องจากไฟล์ที่มีการอัพโหลดลงยูทูบนั้นสามารถนำไปแปลงเป็นเอ็มพี 3 ได้ ซึ่งการอัพโหลดลงจะมีเฉพาะสปอต มิวสิควิดีโอ, ตัวอย่างเพลง และตัวอย่างหนัง-ละครเท่านั้น โดยนโยบายนี้ยังครอบคลุมไปไปถึงเว็บไซต์ของแกรมมี่อย่าง Gmember ด้วย
ซึ่งการดำเนินนโยบายล่าสุดของแกรมมี่ฯ ต้องถือว่าเป็นอะไรที่น่าจับตาไม่น้อย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเว็บอัพโหลดอย่างยูทูบนั้นถือเป็นช่องทางที่มีทั้งความสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมากในการที่ค่ายเพลงจะใช้โปรโมตศิลปินในสังกัดของตนเอง
ขณะที่การให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของปัญหาลิขสิทธิ์เพราะจะถูกนำผลงานไปปั๊มเป็นแผ่นเอ็มพีสามนั้นก็ดูจะเบาบางพอสมควร เนื่องเพราะในปัจจุบันคนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงตัวงานของศิลปินได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อแผ่นประเภทนี้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบกันดีว่ารายได้ของศิลปินในยุคปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่มักจะมาจากในเรื่องของการดาวน์โหลดผ่านมือถือ รวมถึงการขายโชว์ การออกงานอีเว้นต์ต่างๆ ส่วนที่มาจากยอดขายแผ่นซีดีนั้นถือว่าเป็นอะไรที่น้อยมากๆ
โดยทางด้านของ "พอล เฮง" หนึ่งในนักวิจารณ์เพลงของบ้านเราได้แสดงความคิดเห็นว่า... "โดยส่วนตัวผมมองว่ามันน่าจะมีนัยอื่นๆ นะ ผมว่าแกรมมี่เองไม่น่าจะทำอะไรที่มันดูทื่อๆ ดูเหมือนเป็นการถอยหลังเข้าคลองแบบนี้"
"เราต้องยอมรับว่าปัจจุบันเว็บยูทูบเป็นช่องทางที่ดีที่สุดในการที่ค่ายเพลงจะสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะบรรดาศิลปินหน้าใหม่ในสังกัดของตนเอง ส่วนเหตุผลที่บอกว่าจะมีคนเข้ามาโหลดไป หรือว่าเข้ามาดูฟรีๆ อะไรนั้นมันน่าจะเป็นเหตุผลหลอกๆ นะ"
เชื่อน่าจะเป็นการเช็คกระแสเพื่อกำหนดทิศทางทางการตลาดในอนาคต..."เป็นไปได้หรือไม่ว่าแกรมมี่อยากจะกลับมารีเช็คดูว่าจริงๆ แล้วฐานของคนฟังเพลงที่มีความจงรักภักดีกับตนเองนั้นมีมากขนาดไหน มาดูว่าการใช้สื่อที่เป็นช่องทางเฉพาะของตนเอง อย่าง ทีวีในช่องดาวเทียมนั้นมันจะมีแฟนเพลงที่เป็นแฟนพันธุ์แท้จริงๆ เท่าไหร่ เป็นกลุ่มไหน หรือเปล่า"
"อย่างยูทูบมันมีตัววัดที่เป็นเพจวิวก็จริง แต่มันก็เช็คได้ยาก เพราะมันมีประเภทขาจรเยอะ คือการทำแบบนี้ของแกรมมี่นั้นอย่างที่บอกว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกุคออนไลน์ เลย เพราะฉะนั้นมันน่าจะคงมีอะไรซ่อนเร้น คนอย่างปรมาจารย์มันสมองทางการตลาดอย่างแกรมมี่ไม่น่าคิดอะไรทื่อๆ แบบนี้"
"แล้วเราก็ต้องยอมรับนะว่าที่ผ่านมา เพลงไม่ใช่เซคชั่นที่ทำเงินมากที่สุดเหมือนกับในอดีตแล้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมของเขา รายได้หลักอื่นๆ มาจากโชว์ คอนเสิร์ต หนัง ละคร อะไรมากกว่า"
"เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าตรงนี้คงเป็นการลองดูสภาพการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะกำหนดทิศทางตลาดใหม่ในอนาคตว่าจะไปในทิศทางไหนถ้ามีช่องทางที่แบบว่าเป็นเฉพาะของตนเอง เช่น ช่องทีวีดาวเทียม แล้วก็เชื่อว่าไม่นานแกรมมี่ก็น่าจะกลับมาใช้ช่องทางอย่างยูทูบเหมือนเดิม"
เนื้อหาข่าวจาก:http://www.manager.co.th/entertainment/viewnews.aspx?NewsID=9550000095559
จนเป็นเหตุให้คนดังยูทูปของเราต้องออกมาแสดงความคิดเห็นดังนี้ครับผม
https://www.youtube.com/watch?v=TXzr1Rb8584&feature=player_embedded#!
ซึ่งถ้าฟังจากเหตุผลของพี่บี้แล้วเนี่ยมีความถูกต้องเกือบทั้งหมดเลยครับผม ผมเห็นด้วยมากเกี่ยวกับการที่คนไทยจะไม่สามารถโชว์อะไรให้ใครดูได้ว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ในขณะที่ต่างชาติก็จะมองเราด้อย แต่ถ้ามองในมุมมองของแกรมมี่นะครับ เราก็แย่จริงๆนั่นแหละ เขาขายเพลงเราก็ทำกันทุกๆทางเพื่อที่จะละเมิดเขา เขาก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะค่าอัดเพลง เพลงนึงไม่ใช่ถูกๆเลย เพื่อนผมบางกลุ่มอัดเพลงที่แต่งเอง รุ่นพี่อัดเพลงอินดี้ขาย ราคาค่าห้องบางคนเกือบหมื่น ถึงหมื่นก็มี เขาคงจะอยู่กันไม่ได้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ ช่วงหลังๆนี่แกรมมี่จะเอาเงินอย่างเดียวมากเกินไปแล้ว ตั้งแต่ยูโรแล้วครับ แต่ปัญหาด้านเพลงผมไม่เท่าไหร่หรอก เพราะผมก็โหลดแท้อยู่ แต่ติดที่การจะหาMVดูนี่สิ คงไม่มีใครอยากจะมานั่งรอเป้นวันๆเพื่อดูMV เดียวหรอก จริงมั๊ยครับ
อยากให้คลิปนี้ไปถึงGrammyไวๆ ช่วยกันแชร์นะครับ ตอนนี้ไม่ได้ต้องการไลค์ต้องการการแชร์มากที่สุดครับผม