PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : การรักษาโรค...ด้วยปลิง!



CrazyBlinker
8th August 2012, 15:55
http://image.free.in.th/z/im/627289topicix0.jpg (http://pic.free.in.th/id/ac4b9c4f45a88ccfedd4249406015281)

ปลิง เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือลำธาร จะหากินด้วยการดูดเลือดจากสัตว์อื่น ๆ ไม่เว้นแม้คน ปลิงจะมีน้ำลายที่มีสาร

ทำให้เลือดของเหยื่อไม่แข็งตัว ถ้าปลิงเข้าไปดูดเลือดในร่างกายของคนและหากนำออกมาไม่ทัน อาจทำให้คนผู้นั้นเสียชีวิต

ได้....ปกติเราจะรู้เรื่องราวปลิง แบบผู้ร้าย...แต่คราวนี้ เจ้าปลิงได้กลายเป็นพระเอกซะแล้ว...เรามาดูกันนะคะว่าปลิงรักษาโรคให้คน

ได้อย่างไร?........


http://www.youtube.com/watch?v=mkHzS0XCbJU

http://image.free.in.th/z/ib/627289topicix1.jpg (http://pic.free.in.th/id/cb8b7b208f56447ebe6da2e3ad1d5628)

หลายคนอาจจะรู้จักปลิงในฐานะของปรสิตที่ดูดเลือดกินเป็นอาหารและคิดว่าปลิงเป็นสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ทราบหรือไม่ว่าที่จริงแล้วปลิงถูกนำมาใช้ช่วยรักษาโรคได้ ปลิงจัดอยู่ในไฟลัมแอนนิลิดา (Annelid) subclass Hirudinea มีสองเพศในตัวเดียว (Hermaphrodite) คือมีทั้งอันฑะและรังไข่อยู่ในตัวเดียวกัน ผสมพันธุ์ภายในตัวเองโดยใช้ clitellum ในการเก็บไข่ ปลิงอาศัยอยู่ทั้งบนบกและในน้ำ มีขนาดลำตัวอยู่ระหว่าง 5 – 45 มิลลิเมตร ปลิงบางชนิดเป็นปรสิตที่กินเลือดสัตว์จำพวกปลาไปจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมและมนุษย์ โดยปลิงจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูดหรือ sucker ซึ่งภายในจะมีขากรรไกรที่มีลักษณะเป็น 3 แฉกแต่ละแฉกจะมีฟันซี่เล็กๆอยู่จำนวนมากใช้สำหรับเกาะที่ตัวเหยื่อ นอกจากนั้นในน้ำลายของปลิงยังมีสาร Hirudin ที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดบริเวณที่ถูกปลิงกัดนั้นมีการไหลเวียนได้ตลอดเวลา และนี่คือเหตุผลที่แพทย์เลือกปลิงมาใช้เป็นการแพทย์ทางเลือก

เมื่อ 2500 ปีก่อน ปลิงเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์สมัยโบราณ โดยปลิงถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคและช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งประวัติการนำปลิงมาใช้รักษาโรคนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ อ้างอิงได้จากภาพวาดบนฝาผนังที่พบบริเวณหลุมศพในช่วงราชวงศ์ฟาโรห์ เนื่องจากวงการแพทย์สมัยนั้นยังไม่เจริญแพทย์ชาวอียิปต์จึงนำปลิงไปใช้รักษาอาการโรคไขข้ออักเสบ ช่วยบรรเทาอาการไข้ และช่วยในการผ่าตัดหลอดเลือดดำ คนอิยิปต์โบราณเชื่อว่าการที่คนเราเจ็บป่วยหรือเป็นโรคนั้นเกิดจากความไม่สมดุลในร่างกายและหากต้องการทำให้อาการป่วยนั้นหายไปจะต้องปฏิบัติดังนี้คือ ให้ผู้ป่วยขับสารพิษออกจากร่างกายโดยการถ่ายอุจจาระ หรืออาเจียนออกมา หรือให้ผู้ป่วยอดอาหารเพื่อรอให้ร่างกายขับสารพิษออกมาและวิธีสุดท้ายคือการเอาเลือดเสียออกจากร่างกาย ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำปลิงมาช่วยรักษาโรคนั่นเอง


ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ได้มีการค้นคว้าและทำงานวิจัยเพื่อนำปลิงมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบ ปวดบวมหรือมีอาการทางสมองเช่น ปวดศีรษะหรือเลือดคั่งในสมอง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้การปลูกผิวหนังหรือเนื้อเยื่อรวมไปถึงการผ่าตัดอวัยวะต่างๆ เช่น การต่อกระดูกนิ้วเท้า ต่อแขน ขา โดยปลิงจะถูกนำมาช่วยรักษาอาการเลือดคั่งตามผิวหนังบริเวณที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายใหม่ตลอดจนช่วยฟื้นฟูระบบการหมุนเวียนของเลือดบริเวณที่ผ่าตัดได้ ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยของ Essen – Mitte Clinic ในเยอรมันที่นำปลิงมาใช้รักษาคนไข้จำนวน 16 คน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีอายุเฉลี่ย 68 ปีและได้รับความเจ็บปวดจากโรคข้อต่อกระดูกอักเสบ ซึ่งวิธีการรักษานั้นเริ่มจากการนำปลิงจำนวน 4 ตัวไปวางไว้ตรงบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการปวด เช่น บริเวณหัวเข่า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วจึงนำปลิงออก ทำเช่นนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าอาการปวดนั้นบรรเทาลง ถ้าสังเกตจากขั้นตอนการรักษาแล้วดูเหมือนว่าปลิงจะมีส่วนช่วยทำให้อาการปวดนั้นบรรเทาลงได้ แต่ความจริงแล้วที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดนั่นอาจเป็นเพราะผู้ป่วยได้รับสารHirudin ในน้ำลายของปลิงที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกชา นั่นหมายความว่าปลิงไม่ได้ช่วยทำให้อาการของโรคข้อต่อกระดูกอักเสบหายไปเพียงแต่ช่วยทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดในขณะที่ทำการรักษามากกว่า ส่วนข้อควรระวังของการนำปลิงมาใช้รักษาโรคคือ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้สาร Hirudin ที่ได้รับจากปลิง อาจทำให้เกิดอาการแพ้จนเกิดเป็นผื่นคันตามผิวหนัง และอาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย ดังนั้นแพทย์จึงต้องทำการทดสอบผู้ป่วยก่อนทุกครั้งก่อนที่จะนำปลิงมาใช้รักษาทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ป่วยเอง

Credit : postjung