SemIFaIL
13th August 2012, 19:47
Satisfaction Space: Tech Frontier
NVIDIA ร่วมมือกับ Weta เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีภาพ Avatar
http://www.techxcite.com/topics/10630/filemanager/13.jpg
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ภาพยนตร์อนิเมชั่นสามมิติล้ำยุคแห่งทศวรรษ Avatar หรือ อวตาร ที่ถูกสร้างโดยผู้กำกับชื่อดัง James Cameron และ 20th Century Fox ที่ได้เปิดตัว เริ่มฉายในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ได้สร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ด้วยการทำรายได้สูงถึง 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงสัปดาห์แรกของการเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสามมิติที่กวาดรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ และทำรายได้สูงสุดที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกหลังจากนั้นไม่นาน
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
โดยบริษัทที่มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จนี้ ก็คือทาง Weta Digital บริษัทชั้นนำทางด้าน Visual Effects หรือกราฟฟิกขั้นสูง ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ซึ่งเด่นในเรื่องของ GPU และกราฟฟิกคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ไปใช้ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Avatar นี้ ซึ่งทาง Weta เป็นผู้สร้างตัวละครภายในเรื่องที่ถูกสร้างโดย CG กว่า 800 ตัวในเรื่องได้สมจริง ดุจกับมีชีวิตเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าในฉากนั้นจะมีรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร, ฉากหลัง ที่มีรายละเอียดเป็นพันล้านโพลีกอนไม่ใช่แค่หลักล้าน ที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพสูงมาก
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ดังนั้นทาง Weta R&D และ NVIDIA Research จึงได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถในการจัดการโพลีกอนกว่าหนึ่งพันล้านหน่วยให้สามารถโลดแล่นอยู่ในภาพยนตร์ Avatar ได้ลื่นไหล ไม่สดุด โดยระยะเวลาเป็นเดือนๆ โดยเทคโนโลยีนี้ถูกเรียกว่า "PantaRay" ซึ่งมาจากภาษากรีกโบราณว่า "Panta Rhei" ที่แปลว่า "ทุกสิ่งอย่างลื่นไหล" นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยในเรื่องการจัดการความเร็วในการส่งผ่านข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดของสี และแสงในภาพยนตร์
http://www.techxcite.com/topics/10630/filemanager/12.jpg
ฉากที่เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของเทคโนโลยี PantaRay จาก Weta ซึ่งเป็นฉากโปรโมทสำคัญของหนังเรื่อง Avatar นั่นก็คือ ฉากที่เฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือเหล่าสิ่งมีชีวิตสีม่วง หรือเหล่าอวตารนั่นเอง โดยในฉากจะประกอบไปด้วยแม่น้ำ, ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้จำนวนมากซึ่งรายละเอียดของฉากนี้มีค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของพุ่มไม้ ใบไม้ทุกใบ หรือสีสัน ความชัดตื้นของภาพ ซึ่งฉากนี้ต้องใช้ความสามารถของเทคโนโลยีที่สูงมาก ดังนั้น PantaRay จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในในการสร้างฉากนี้ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นคอมพิวเตอร์ทั่วไป ต้องใช้เวลากว่า 1 อาทิตย์เพื่อทำให้เกิดฉากนี้ขึ้นมา แต่เพราะ PantaRay ทำให้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันครึ่งเท่านั้น ซึ่งความเร็วในการประมวลของ PantaRay นั้นเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 25 เท่า
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
Weta Digital ยังได้นำเทคโนโลยี PantaRay นี้ไปใช้กับหนังเรื่องต่อมาของ Steven Spielberg/Peter Jackson เรื่อง Tintin ซึ่งเป็นภาพยนตร์กราฟฟิกสามมิติเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกระดับสูงมาก
นาย Martin Hill หัวหน้าฝ่ายกราฟฟิกด้านแสงและเงาของ Weta Digital กล่าวว่า "เพราะว่าความซับซ้อนของกราฟฟิก เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ โปรเจ็คที่เราทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของการ render แสงในแต่ละฉาก ดังนั้นเทคโนโลยี PantaRay ช่วยให้งานของเราทำได้ง่ายขึ้น งานกราฟฟิกยากๆ ก็กลายเป็นเหมือนฉากธรรมดาทั่วไปเลยทีเดียว"
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ทางด้าน NVIDIA นาย Dominick Spina ผู้จัดการฝ่าย Digital Film Technology กล่าวว่า "การทำงานกับทีมพัฒนาของ Weta ทำให้พวกเราเข้าถึงเทคโนโลยีที่เจ๋งสุดๆ นั่นก็คือ PantaRay นั่นเอง โดยเฉพาะในการสร้าง Avatar นี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ดังนั้นพวกเราจะร่วมงานกับบริษัทกราฟฟิก และแอนิเมชั่นชั้นนำแบบนี้ต่อไป เพื่อพัฒนาความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับงาน production ใหญ่ๆ และเพื่อทำให้เราเพิ่มขีดจำกัดของเราขึ้นไปอีกอย่างไม่สิ้นสุด"
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
Source : techxcite
Editor : SemiFail
Design Post : Satisfaction Space
http://image.ohozaa.com/i/243/uYJrKn.png (http://image.ohozaa.com/view2/wglVmPZPUDsJec0y)
Association with : Raven Studio , Snowstorm , Endless Gamers , Exodus Core
Dynamic Technology , SteamCon
NVIDIA ร่วมมือกับ Weta เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีภาพ Avatar
http://www.techxcite.com/topics/10630/filemanager/13.jpg
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ภาพยนตร์อนิเมชั่นสามมิติล้ำยุคแห่งทศวรรษ Avatar หรือ อวตาร ที่ถูกสร้างโดยผู้กำกับชื่อดัง James Cameron และ 20th Century Fox ที่ได้เปิดตัว เริ่มฉายในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ได้สร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ด้วยการทำรายได้สูงถึง 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงสัปดาห์แรกของการเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสามมิติที่กวาดรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ และทำรายได้สูงสุดที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกหลังจากนั้นไม่นาน
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
โดยบริษัทที่มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จนี้ ก็คือทาง Weta Digital บริษัทชั้นนำทางด้าน Visual Effects หรือกราฟฟิกขั้นสูง ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ซึ่งเด่นในเรื่องของ GPU และกราฟฟิกคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ไปใช้ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Avatar นี้ ซึ่งทาง Weta เป็นผู้สร้างตัวละครภายในเรื่องที่ถูกสร้างโดย CG กว่า 800 ตัวในเรื่องได้สมจริง ดุจกับมีชีวิตเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าในฉากนั้นจะมีรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร, ฉากหลัง ที่มีรายละเอียดเป็นพันล้านโพลีกอนไม่ใช่แค่หลักล้าน ที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพสูงมาก
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ดังนั้นทาง Weta R&D และ NVIDIA Research จึงได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถในการจัดการโพลีกอนกว่าหนึ่งพันล้านหน่วยให้สามารถโลดแล่นอยู่ในภาพยนตร์ Avatar ได้ลื่นไหล ไม่สดุด โดยระยะเวลาเป็นเดือนๆ โดยเทคโนโลยีนี้ถูกเรียกว่า "PantaRay" ซึ่งมาจากภาษากรีกโบราณว่า "Panta Rhei" ที่แปลว่า "ทุกสิ่งอย่างลื่นไหล" นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยในเรื่องการจัดการความเร็วในการส่งผ่านข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดของสี และแสงในภาพยนตร์
http://www.techxcite.com/topics/10630/filemanager/12.jpg
ฉากที่เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของเทคโนโลยี PantaRay จาก Weta ซึ่งเป็นฉากโปรโมทสำคัญของหนังเรื่อง Avatar นั่นก็คือ ฉากที่เฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือเหล่าสิ่งมีชีวิตสีม่วง หรือเหล่าอวตารนั่นเอง โดยในฉากจะประกอบไปด้วยแม่น้ำ, ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้จำนวนมากซึ่งรายละเอียดของฉากนี้มีค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของพุ่มไม้ ใบไม้ทุกใบ หรือสีสัน ความชัดตื้นของภาพ ซึ่งฉากนี้ต้องใช้ความสามารถของเทคโนโลยีที่สูงมาก ดังนั้น PantaRay จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในในการสร้างฉากนี้ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นคอมพิวเตอร์ทั่วไป ต้องใช้เวลากว่า 1 อาทิตย์เพื่อทำให้เกิดฉากนี้ขึ้นมา แต่เพราะ PantaRay ทำให้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันครึ่งเท่านั้น ซึ่งความเร็วในการประมวลของ PantaRay นั้นเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 25 เท่า
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
Weta Digital ยังได้นำเทคโนโลยี PantaRay นี้ไปใช้กับหนังเรื่องต่อมาของ Steven Spielberg/Peter Jackson เรื่อง Tintin ซึ่งเป็นภาพยนตร์กราฟฟิกสามมิติเช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกระดับสูงมาก
นาย Martin Hill หัวหน้าฝ่ายกราฟฟิกด้านแสงและเงาของ Weta Digital กล่าวว่า "เพราะว่าความซับซ้อนของกราฟฟิก เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ โปรเจ็คที่เราทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของการ render แสงในแต่ละฉาก ดังนั้นเทคโนโลยี PantaRay ช่วยให้งานของเราทำได้ง่ายขึ้น งานกราฟฟิกยากๆ ก็กลายเป็นเหมือนฉากธรรมดาทั่วไปเลยทีเดียว"
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
ทางด้าน NVIDIA นาย Dominick Spina ผู้จัดการฝ่าย Digital Film Technology กล่าวว่า "การทำงานกับทีมพัฒนาของ Weta ทำให้พวกเราเข้าถึงเทคโนโลยีที่เจ๋งสุดๆ นั่นก็คือ PantaRay นั่นเอง โดยเฉพาะในการสร้าง Avatar นี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ดังนั้นพวกเราจะร่วมงานกับบริษัทกราฟฟิก และแอนิเมชั่นชั้นนำแบบนี้ต่อไป เพื่อพัฒนาความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับงาน production ใหญ่ๆ และเพื่อทำให้เราเพิ่มขีดจำกัดของเราขึ้นไปอีกอย่างไม่สิ้นสุด"
http://image.ohozaa.com/i/90b/zrYi5y.png
Source : techxcite
Editor : SemiFail
Design Post : Satisfaction Space
http://image.ohozaa.com/i/243/uYJrKn.png (http://image.ohozaa.com/view2/wglVmPZPUDsJec0y)
Association with : Raven Studio , Snowstorm , Endless Gamers , Exodus Core
Dynamic Technology , SteamCon