Mercury
16th September 2012, 22:39
เรือประจัญบาญ Muteki Nippon เรือประจัญบาญที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยวางแผนสร้างกันมา
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/SuperYamato800.png?t=1313855492
หลายๆคนคงรู้จักเรือประจัญบาญ (Battleship) ของสหรัฐที่มีถึง 6 ลำด้วยกันและใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ฝ่ายอักษะทั้งเยอรมันและญี่ปุ่นเคยคิดจะสร้างเรือประจัญบาญที่มีระวางขับน้ำมากเกินกว่า 100,000 ตัน (เรือที่มีระวางขับน้ำมากขนาดนี้มีเพียงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Nimitz ของสหรัฐเท่านั้น) คือ H Class Battleship รุ่น H44 ที่มีระวางขับน้ำ 131,000 ตันของฝ่ายเยอรมัน แต่ของญี่ปุ่นเราคงรู้จัก Yamato เรือประจัญบาญที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาแต่ราชนาวีของญี่ปุ่นไม่หยุดคิดแค่นั้น เขายังคิดจะสร้างเรือประจัญบาญที่ใหญ่พอๆกับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Nimitz รวมกัน 2 ลำ !!!
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/SuperYamato-1.jpg?t=1313861614
เรือประจัญบาน A-150 มิใช่เป็นเรือรบผิวน้ำที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่มนุษย์ชาติเคยคิดที่จะสร้างขึ้น กองทัพจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น มีแผนที่จะสร้างเรือประจัญบานที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเรือประจัญบานยามาโตะ ซึ่งทรงพลังน่าเกรงยิ่งกว่าและถ้าสร้างเสร็จมันจะนำฝันร้ายมาสู่กองเรือ และเมืองรอบชายฝั่งของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างแน่นอน ซึ่งแบบแปลนที่เห็นนี้ถูกปกปิดเป็นความลับมาตลอดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้ พึ่งถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนในญี่ปุ่นเท่านั้น ในปีค.ศ.2005 วันครบรอบ 60 ปี ของการสิ้นสุดสงครามโลก ... แต่แทบไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณะชนเพราะมันเหมือนเป็นการตอกลิ่ม ย่ำเข้าไปในจิตใจของชาวญี่ปุ่นที่เจ็บปวดจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในครั้งนั้นและสาเหตุที่ทำให้มันแทบไม่เป็นที่รู้จักเลยก็เพราะ เมื่อหลังจากที่แผนแบบนี้ถูกออกแบบแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1941 เพื่อสานต่อจาก เรือประจัญบานรุ่น A-150 นั้น ต่อมาในปีค.ศ.1944 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โครงการได้รับ ความเห็นชอบจากองค์สมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้น แต่เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้น ที่มีผลกระทบอย่างสูงต่อโครงการนี้ก็คือ ความพ่ายแพ้ของกองทัพเรือจักรพรรดินาวีที่ สมรภูมิแห่งมิดเวย์ 2-7 มิถุนายน 2485 ซึ่งกองทัพเรือญี่ปุ่นสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 5 ลำ อันมีผลให้โครงการต่อ เรือประจัญบาน A-150i ถูกระงับในทันที หลังความพ่ายแพ้แก่กองทัพเรือสหรัฐฯในครั้งนั้น ซึ่งก็รวมถึงแผนการต่อเรือประจัญบานชั้น ยามาโต ลำที่ 3, 4 และ 5 ด้วย
โครงการเรือประจันบาน A-150 เริ่มต้นแค่เพียงการวางฐานรองรับกระดูกงูขนาดมหึมาเท่านั้นไม่ถึง 1% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะอาจมีผลต่อโฉมหน้าของสงครามเป็นอย่างมาก หากแม้นว่า A-150 ถูกสร้างแล้วเสร็จ
ข้อมูลโดยย่อ
ระวางขับน้ำปกติ 70,000 ตัน (สูงสุด 82,650 ตัน)
อาวุธหลัก ปืนขนาด 20 นิ้ว 8 กระบอก แท่นละ 2 กระบอก (หน้า 2 แท่น หลัง 2 แท่น)
ความเร็ว 30 น็อต
A-150 i Battleship (Muteki Nippon Battleship)
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/MutekiNippon.jpg?t=1313919984
ข้อมูลแบบแปลนดีไซด์ของ เรือประจัญบานรุ่น A-150i ของญี่ปุ่นที่ซึ่งเป็นรุ่นเสริมที่จะน้ำมาสร้างแทนรุ่น A-150 แบบแรกติดอาวุธด้วยป้อมปืนหลักขนาด 20 นิ้ว 4 แท่นๆละ 2 กระบอก ซึ่งจะเพิ่มจำนวนของป้อมปืนใหญ่ หลักจากเดิม 3 เป็น 4 ป้อมของคลาสนี้ ในลำที่ 3 และ 4 โดยจะลดความเร็วสูงสุดลงจาก 30 น๊อตให้เหลือ 27 น๊อต เท่ากับเรือประจัญบานยามาโต และนี้คือแบบแปลน ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1941 และถูกเก็บรักษาไว้ ที่ พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น
มูเทกิ นิปปอน : เรือประจัญบานยักษ์ ระวางขับน้ำปกติ 298,000 ตัน และระวางขับน้ำสูงสุด 355,000 ตันจึงทำให้มันเป็น อสูรกายแห่งท้องทะเลโดยแท้จริง ที่จะนำความปราชัยสู่กองเรือฝ่ายสัมพันธมิตร และด้วยเกราะไททาเนียม หุ้มส่วนกราบเรือ หนาถึง 1,000 มม. (40นิ้ว) จึงทำให้ปืนใหญ่ของเรือข้าศึกไม่เป็นที่ระคายเคืองผิวแม้แต่น้อย พลังขับเคลื่อนอันมหาศาล จากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นเป็นการเฉพาะ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องยนต์ของ เรือประจัญบานยามาโต ถึง 3 เท่า จำนวน 6 เครื่อง/ใบพัด สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 40 น็อต กองเรือบรรทุกเครื่องบินเคลื่อนที่เร็วอย่าง USS ESSEX (CV-9) ของนาวีสหรัฐฯ คงหนีพ้นการไล่ล่าของเรือยักษ์ลำนี้ได้ยาก ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ มีผลทำให้สามารถหลบหลีก ลูกระเบิด และ ตอร์ปิโด จากเครื่องบินข้าศึกได้อย่างคล่องแคล่ว ง่ายดาย
อาวุธสำคัญ
1.ป้อมปืนใหญ่หลักแฝด 3 จำนวน 5 ป้อม ขนาด 15x510 ซม. (20.1นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 45 คาลิเบอร์
2.ป้อมปืนใหญ่รองแฝด 2 จำนวน 34 ป้อม ขนาด 34x127 ซม. (5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
3.ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแฝด 4 จำนวน 50 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
4.อากาศยานประจำเรือ : เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ ทั้งหมดเป็นแบบติดโฟลต (float-ทุ่นลอย) มากกว่า 20 ลำ บนแท่นปล่อยเครื่องบิน 2 แท่นท้ายเรือ มีศูนย์ ควบคุมการบินที่หอคอยวิทยุ
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/Kiryu.jpg?t=1313655856
IJN Aircraft Carrier Kiryu
แผนแบบเรือลำที่ 2 ใน Muteki Nippon Class เป็นลำน้องของ เรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ถ้าสร้างออกมาแล้วเสร็จในสมัยนั้น ประเทศญี่ปุ่นคงได้ครองแชมป์ถึง 2 ประเภทเลย นั้นก็คือ
- เรือประจัญบานใหญ่ที่สุดในโลก (แชมป์ปัจุบันคือราชนาวีสหรัฐอเมริกา Iowa Battleship class ทั้ง 6 ลำ เป็นมากว่า 70 ปี)
- เรือบรรทุกเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลก (ก็แชมป์เดิมราชนาวีสหรัฐอเมริกา USS Enterprise เป็นมากว่า 40 ปี)
เรือบรรทุกเครื่องบิน คริยุ (IJN Kiryu) ถูกออกแบบขึ้นจากโครงเรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ชนิดเดียวกับมูเทกิ นิปปอน จำนวน 6 เครื่องยนต์ คาดว่าอาจจะทำความเร็วได้มากกว่า มูเทกิ เรือต้นแบบที่มีความเร็วมากกว่า 40 น๊อต และรวมถึงหุ้มเกราะป้องกัน หนาถึง 1000 มม. (40 นิ้ว) ที่เรือบรรทุกเครื่องบิน ไม่เคยมีการสร้างมาก่อน พร้อมอาวุธป้องกันตัว
1.ป้อมปืนใหญ่แบบแฝด 2 จำนวน 14 ป้อม ขนาด 28x127 ซม.(5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
2.ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแบบแฝด 4 จำนวน 46 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
3.อากาศยานประจำเรือ:เครื่องบินประจันบาน,เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำและที่สำคัญ สามารถบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนัก Mitsubishi G4M Betty และ Mitsubishi Ki-21 Sallyซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับ B-24 Liberator ของสหรัฐฯ จึงทำให้มันเสมือนเป็นฐานทัพอากาศลอยน้ำเคลื่อนที่
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/bettyG4M.jpg?t=1314686709
การวิจัยและพัฒนาขยายพื้นที่เรือรบขนาดยักษ์ คริยุ นี้ทำให้มีชั้นเก็บเครื่องบินรบมากถึง 4-6 ชั้น จำนวนเครื่องบินรบที่ ฐานทัพอากาศลอยน้ำ ลำนี้นำเข้าสู่สมรภูมิทางทะเล มีมากกว่า 200-300 ลำ ซึ่งสหรัฐฯอาจจะต้องใช้เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น เอ็กเส็ก จำนวน 4-6 ลำ ในการต่อกร ด้วยจำนวนเครื่องบินรบที่ทัดเทียม โดยทีอย่างน้อยสหรัฐฯจะไม่ตกเป็นรอง ถ้าหากว่าไม่เกิดเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ที่ ยุทธภูมิมิดเวย์ ของ กองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น แผนการสร้างเรือรบทั้งสองลำนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินคริยุ (Kiryu) และ เรือประจัญบานมูเทกินิปปอน (Muteki Nippon) คงดำเนินการต่อไปและแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1947 ซึ่งอาจจะพลิกโฉมหน้า ของสงครามทางทะเลระหว่าง ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ในอีกรูปแบบก็ได้ กองทัพเรืออาทิตย์อุทัย สั่งยกเลิกแผนการสร้างเรือรบขนาดยักษ์ทั้งสองลำนี้ ในปีค.ศ.1944
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/Yamato-MutekiNippon-Kiryu.jpg?t=1313920047
เครดิต https://sites.google.com/site/rungsira/tha-ha-nth-har/reuxrb/bthkhwammimichux
เรือลำขนาดนี้เติมน้ำมันทีนี่นะ หมดคลังเลยมั่งเนี่ย ยิ่งญี่ปุ่นหาน้ำมันไม่ได้ง่ายๆด้วย เรือใหญ่ๆขนาดนี้อเมริกาจมได้แน่ๆครับ Yamato ที่ว่าแน่ยังโดน - -
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/SuperYamato800.png?t=1313855492
หลายๆคนคงรู้จักเรือประจัญบาญ (Battleship) ของสหรัฐที่มีถึง 6 ลำด้วยกันและใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ฝ่ายอักษะทั้งเยอรมันและญี่ปุ่นเคยคิดจะสร้างเรือประจัญบาญที่มีระวางขับน้ำมากเกินกว่า 100,000 ตัน (เรือที่มีระวางขับน้ำมากขนาดนี้มีเพียงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Nimitz ของสหรัฐเท่านั้น) คือ H Class Battleship รุ่น H44 ที่มีระวางขับน้ำ 131,000 ตันของฝ่ายเยอรมัน แต่ของญี่ปุ่นเราคงรู้จัก Yamato เรือประจัญบาญที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาแต่ราชนาวีของญี่ปุ่นไม่หยุดคิดแค่นั้น เขายังคิดจะสร้างเรือประจัญบาญที่ใหญ่พอๆกับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Nimitz รวมกัน 2 ลำ !!!
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/SuperYamato-1.jpg?t=1313861614
เรือประจัญบาน A-150 มิใช่เป็นเรือรบผิวน้ำที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่มนุษย์ชาติเคยคิดที่จะสร้างขึ้น กองทัพจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น มีแผนที่จะสร้างเรือประจัญบานที่มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเรือประจัญบานยามาโตะ ซึ่งทรงพลังน่าเกรงยิ่งกว่าและถ้าสร้างเสร็จมันจะนำฝันร้ายมาสู่กองเรือ และเมืองรอบชายฝั่งของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างแน่นอน ซึ่งแบบแปลนที่เห็นนี้ถูกปกปิดเป็นความลับมาตลอดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้ พึ่งถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนในญี่ปุ่นเท่านั้น ในปีค.ศ.2005 วันครบรอบ 60 ปี ของการสิ้นสุดสงครามโลก ... แต่แทบไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณะชนเพราะมันเหมือนเป็นการตอกลิ่ม ย่ำเข้าไปในจิตใจของชาวญี่ปุ่นที่เจ็บปวดจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในครั้งนั้นและสาเหตุที่ทำให้มันแทบไม่เป็นที่รู้จักเลยก็เพราะ เมื่อหลังจากที่แผนแบบนี้ถูกออกแบบแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1941 เพื่อสานต่อจาก เรือประจัญบานรุ่น A-150 นั้น ต่อมาในปีค.ศ.1944 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โครงการได้รับ ความเห็นชอบจากองค์สมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้น แต่เกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้น ที่มีผลกระทบอย่างสูงต่อโครงการนี้ก็คือ ความพ่ายแพ้ของกองทัพเรือจักรพรรดินาวีที่ สมรภูมิแห่งมิดเวย์ 2-7 มิถุนายน 2485 ซึ่งกองทัพเรือญี่ปุ่นสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 5 ลำ อันมีผลให้โครงการต่อ เรือประจัญบาน A-150i ถูกระงับในทันที หลังความพ่ายแพ้แก่กองทัพเรือสหรัฐฯในครั้งนั้น ซึ่งก็รวมถึงแผนการต่อเรือประจัญบานชั้น ยามาโต ลำที่ 3, 4 และ 5 ด้วย
โครงการเรือประจันบาน A-150 เริ่มต้นแค่เพียงการวางฐานรองรับกระดูกงูขนาดมหึมาเท่านั้นไม่ถึง 1% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะอาจมีผลต่อโฉมหน้าของสงครามเป็นอย่างมาก หากแม้นว่า A-150 ถูกสร้างแล้วเสร็จ
ข้อมูลโดยย่อ
ระวางขับน้ำปกติ 70,000 ตัน (สูงสุด 82,650 ตัน)
อาวุธหลัก ปืนขนาด 20 นิ้ว 8 กระบอก แท่นละ 2 กระบอก (หน้า 2 แท่น หลัง 2 แท่น)
ความเร็ว 30 น็อต
A-150 i Battleship (Muteki Nippon Battleship)
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/MutekiNippon.jpg?t=1313919984
ข้อมูลแบบแปลนดีไซด์ของ เรือประจัญบานรุ่น A-150i ของญี่ปุ่นที่ซึ่งเป็นรุ่นเสริมที่จะน้ำมาสร้างแทนรุ่น A-150 แบบแรกติดอาวุธด้วยป้อมปืนหลักขนาด 20 นิ้ว 4 แท่นๆละ 2 กระบอก ซึ่งจะเพิ่มจำนวนของป้อมปืนใหญ่ หลักจากเดิม 3 เป็น 4 ป้อมของคลาสนี้ ในลำที่ 3 และ 4 โดยจะลดความเร็วสูงสุดลงจาก 30 น๊อตให้เหลือ 27 น๊อต เท่ากับเรือประจัญบานยามาโต และนี้คือแบบแปลน ที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1941 และถูกเก็บรักษาไว้ ที่ พิพิธภัณฑ์กองทัพเรือกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น
มูเทกิ นิปปอน : เรือประจัญบานยักษ์ ระวางขับน้ำปกติ 298,000 ตัน และระวางขับน้ำสูงสุด 355,000 ตันจึงทำให้มันเป็น อสูรกายแห่งท้องทะเลโดยแท้จริง ที่จะนำความปราชัยสู่กองเรือฝ่ายสัมพันธมิตร และด้วยเกราะไททาเนียม หุ้มส่วนกราบเรือ หนาถึง 1,000 มม. (40นิ้ว) จึงทำให้ปืนใหญ่ของเรือข้าศึกไม่เป็นที่ระคายเคืองผิวแม้แต่น้อย พลังขับเคลื่อนอันมหาศาล จากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นเป็นการเฉพาะ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องยนต์ของ เรือประจัญบานยามาโต ถึง 3 เท่า จำนวน 6 เครื่อง/ใบพัด สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 40 น็อต กองเรือบรรทุกเครื่องบินเคลื่อนที่เร็วอย่าง USS ESSEX (CV-9) ของนาวีสหรัฐฯ คงหนีพ้นการไล่ล่าของเรือยักษ์ลำนี้ได้ยาก ซึ่งด้วยความเร็วขนาดนี้ มีผลทำให้สามารถหลบหลีก ลูกระเบิด และ ตอร์ปิโด จากเครื่องบินข้าศึกได้อย่างคล่องแคล่ว ง่ายดาย
อาวุธสำคัญ
1.ป้อมปืนใหญ่หลักแฝด 3 จำนวน 5 ป้อม ขนาด 15x510 ซม. (20.1นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 45 คาลิเบอร์
2.ป้อมปืนใหญ่รองแฝด 2 จำนวน 34 ป้อม ขนาด 34x127 ซม. (5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
3.ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแฝด 4 จำนวน 50 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
4.อากาศยานประจำเรือ : เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ ทั้งหมดเป็นแบบติดโฟลต (float-ทุ่นลอย) มากกว่า 20 ลำ บนแท่นปล่อยเครื่องบิน 2 แท่นท้ายเรือ มีศูนย์ ควบคุมการบินที่หอคอยวิทยุ
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/Kiryu.jpg?t=1313655856
IJN Aircraft Carrier Kiryu
แผนแบบเรือลำที่ 2 ใน Muteki Nippon Class เป็นลำน้องของ เรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ถ้าสร้างออกมาแล้วเสร็จในสมัยนั้น ประเทศญี่ปุ่นคงได้ครองแชมป์ถึง 2 ประเภทเลย นั้นก็คือ
- เรือประจัญบานใหญ่ที่สุดในโลก (แชมป์ปัจุบันคือราชนาวีสหรัฐอเมริกา Iowa Battleship class ทั้ง 6 ลำ เป็นมากว่า 70 ปี)
- เรือบรรทุกเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลก (ก็แชมป์เดิมราชนาวีสหรัฐอเมริกา USS Enterprise เป็นมากว่า 40 ปี)
เรือบรรทุกเครื่องบิน คริยุ (IJN Kiryu) ถูกออกแบบขึ้นจากโครงเรือประจัญบาน มูเทกิ นิปปอน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ชนิดเดียวกับมูเทกิ นิปปอน จำนวน 6 เครื่องยนต์ คาดว่าอาจจะทำความเร็วได้มากกว่า มูเทกิ เรือต้นแบบที่มีความเร็วมากกว่า 40 น๊อต และรวมถึงหุ้มเกราะป้องกัน หนาถึง 1000 มม. (40 นิ้ว) ที่เรือบรรทุกเครื่องบิน ไม่เคยมีการสร้างมาก่อน พร้อมอาวุธป้องกันตัว
1.ป้อมปืนใหญ่แบบแฝด 2 จำนวน 14 ป้อม ขนาด 28x127 ซม.(5 นิ้ว)/ลำกล้องปืนขนาด 65 คาลิเบอร์
2.ป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแบบแฝด 4 จำนวน 46 ป้อม ขนาด 25 มม. และ 40 มม.
3.อากาศยานประจำเรือ:เครื่องบินประจันบาน,เครื่องบินทิ้งระเบิด,เครื่องบินสอดแนม,เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำและที่สำคัญ สามารถบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนัก Mitsubishi G4M Betty และ Mitsubishi Ki-21 Sallyซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับ B-24 Liberator ของสหรัฐฯ จึงทำให้มันเสมือนเป็นฐานทัพอากาศลอยน้ำเคลื่อนที่
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/bettyG4M.jpg?t=1314686709
การวิจัยและพัฒนาขยายพื้นที่เรือรบขนาดยักษ์ คริยุ นี้ทำให้มีชั้นเก็บเครื่องบินรบมากถึง 4-6 ชั้น จำนวนเครื่องบินรบที่ ฐานทัพอากาศลอยน้ำ ลำนี้นำเข้าสู่สมรภูมิทางทะเล มีมากกว่า 200-300 ลำ ซึ่งสหรัฐฯอาจจะต้องใช้เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น เอ็กเส็ก จำนวน 4-6 ลำ ในการต่อกร ด้วยจำนวนเครื่องบินรบที่ทัดเทียม โดยทีอย่างน้อยสหรัฐฯจะไม่ตกเป็นรอง ถ้าหากว่าไม่เกิดเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ที่ ยุทธภูมิมิดเวย์ ของ กองทัพเรือจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น แผนการสร้างเรือรบทั้งสองลำนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินคริยุ (Kiryu) และ เรือประจัญบานมูเทกินิปปอน (Muteki Nippon) คงดำเนินการต่อไปและแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1947 ซึ่งอาจจะพลิกโฉมหน้า ของสงครามทางทะเลระหว่าง ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ในอีกรูปแบบก็ได้ กองทัพเรืออาทิตย์อุทัย สั่งยกเลิกแผนการสร้างเรือรบขนาดยักษ์ทั้งสองลำนี้ ในปีค.ศ.1944
http://i1081.photobucket.com/albums/j350/freenews2011/Yamato-MutekiNippon-Kiryu.jpg?t=1313920047
เครดิต https://sites.google.com/site/rungsira/tha-ha-nth-har/reuxrb/bthkhwammimichux
เรือลำขนาดนี้เติมน้ำมันทีนี่นะ หมดคลังเลยมั่งเนี่ย ยิ่งญี่ปุ่นหาน้ำมันไม่ได้ง่ายๆด้วย เรือใหญ่ๆขนาดนี้อเมริกาจมได้แน่ๆครับ Yamato ที่ว่าแน่ยังโดน - -