Antaaheet
25th September 2012, 14:50
เป็นเกมเก่าแต่ หาสรุปภาษาไทยยากเลยไปแปลมา เริ่มละกัน เครดิตจาก Romangelo Knucho Rpadillav และจากเวบ http://lastremnant.wikia.com/wiki/The_Last_Remnant_Wiki_-_The_Last_Remnant_Guide
Added by Romangelo
ยินดีต้อนรับสู่บทสรุป The Last Remnant ภาษาไทย บทสรุปนี้จะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่องหลักตั้งแต่ต้นจนจบ โปรดจำไว้ว่า Quest ต่าง ๆ จะมีเพียงไม่กี่ Quest เท่านั้นที่อยู่ในเนื้อเรื่อง โปรดดูที่หน้า Quest และทำ Quest ไประหว่างดำเนินเนื้อเรื่อง เนื่องจาก Quest หลาย ๆ Quest จะหายไปเมื่อคุณดำเนินเนื้อเรื่องไปเกินกว่าที่กำหนดและจะไม่สามารถย้อนกลับมาทำได้อีก ในเกม The Last Remnant จะมีสิ่งต่าง ๆ ที่ควรทำก่อนจะดำเนินเรื่องต่อไป ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับมาทำได้ โดยเราจะ Note เตือนคุณตลอดเมื่อถึงจุดนั้นของเนื้อเรื่อง
ระบบเกม
เกม The Last Remnant นั้น มีรายละเอียดของระบบการเล่นที่ค่อนข้างซับซ้อน อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจบ้าง แรก ๆ อาจจะน่าเบื่อแต่หากคุณเข้าใจระบบทุกอย่างแล้วรับรองได้ว่าคุณจะสนุกไปกับเกมอย่างแน่นอน (ผมว่าไม่น่าเบื่อนะ)
สิ่งสำคัญที่ควรศึกษาก่อนเริ่มเล่น
Battle Rank
ตัวละครแต่ละตัวจะไม่มี Level จะมีเพียง Battle Rank ซึ่งเป็นระดับโดยรวมของกองทัพเราเท่านั้น ยิ่ง BR ของเราสูง ศัตรูก็จะยิ่งเก่งขึ้นด้วย (แต่ก็ไม่เท่ากับที่เราเก่งขึ้น) สิ่งสำคัญคือ หากเรา BR สูงแล้ว ค่า Status ของตัวละครจะอัพยากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เหมือนตอน BR ต่ำ ๆ ที่อัพแทบจะทุกครั้งที่จบการต่อสู้ หากว่าเราเก็บ BR สูงเกินไป ตัวละครที่เราได้มาร่วมทีมในช่วงท้าย ๆ เกมจะอัพค่า Status ยากมาก ดังนั้นวิธีเล่น The Last Remnant ให้ตัวละครของเราเก่งที่สุดคือ หนีการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนกว่าเราจะได้ตัวละครที่เราต้องการใช้มาครบก่อน แล้วค่อยไปเก็บ BR จากการต่อสู้ จำไว้เสมอว่าไม่ควรต่อสู้กับศัตรูที่อ่อนแอกว่าเรา เพราะจะทำให้ BR เพิ่มขึ้น แต่ค่า Status เพิ่มน้อย ไม่คุ้มค่ากับการที่ BR สูงขึ้น การต่อสู้กับศัตรูที่เก่งกว่าเรา เราจะอัพค่า Status ได้เร็วกว่า วิธีสังเกตว่าศัตรูกลุ่มไหนเก่งกว่าเราหรืออ่อนแอกว่าเราคือ ค่า Morale ที่มีในขณะเริ่มการต่อสู้ หาก Morale ของฝ่ายเราต่ำกว่าศัตรูมาก ๆ หมายความว่าศัตรูแข็งแกร่งกว่าเรา
การเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ
Arts หมายถึง Skills นั่นเอง การที่ตัวละครจะเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ ได้นั้น เราจะต้องใช้ Arts ในประเภทเดียวกันให้บ่อยครั้ง เมื่อค่าประสบการณ์ถึงระดับที่กำหนด ตัวละครก็จะเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ เอง ส่วนวิธีเพิ่มระดับเลเวลให้ Arts ที่มีอยู่แล้วคือ ใช้ Art นั้น ๆ ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าจะอัพเป็นระดับที่สูงขึ้น (สูงสุดระดับ V)
ไอค่อนพูดคุย
เราสามารถคุยกับตัวละครต่าง ๆ ที่มีไอค่อนพูดคุยอยู่บนหัว ซึ่งจะมีข้อมูลสำคัญที่เราควรรู้ โดยเฉพาะหากเป็นไอค่อนสีแดง หมายถึงมีความสำคัญมาก หรือเป็นบุคคลที่ต้องคุยเพื่อดำเนินเหตุการณ์ต่อไป
บทเริ่มต้นของเรื่องราว
Lord David กำลังยิง Gae Bolg.
Added by Knucho
Rush Sykes เด็กหนุ่มคนหนึ่งออกตามหาน้องสาวของเขา Irina Sykes ซึ่งถูกชายชุดดำลึกลับกับมอนสเตอร์บินได้ลักพาตัวไปจากเกาะ Eulam เมื่อ Rush เดินผ่านป่าแห่งหนึ่งออกมาก็ได้พบกับกองทัพกำลังเข้าห้ำหั่นกับบรรดามอนสเตอร์อยู่ และนักรบหญิงคนหนึ่งในกองทัพนั้นก็หน้าตาคล้าย Irina เหลือเกิน Rush จึงวิ่งเข้าไปท่ามกลางสมรภูมินั้น
เราจะได้เข้าสู่ฉากต่อสู้ของเกมนี้เป็นครั้งแรก โดยทีมของ David จะต้องสู้กับกองทัพมอนสเตอร์ เมื่อเราต่อสู้ไปจนถึงเทิร์นที่ 2 จะมีคำสั่งให้ใช้ Gae Bolg เมื่อใช้แล้วศัตรูจะตายทั้งหมดและจบฉากต่อสู้
Rush จะได้รับการคุ้มครองด้วยพลังประหลาดจากจี้ห้อยคอของเขา แต่ก็ไม่วายตกลงไปในถ้ำใต้ดินพร้อมกับ Emma เนื่องจากดินถล่มจากแรงสะเทือนของ Gae Bolg
หาทางออกจากถ้ำใต้ดิน Underground Cavern
Emma จะคิดว่า Rush เป็นสปายแฝงตัวเข้ามา แต่ Rush จะบอกว่าเขาแค่มาตามหาน้องสาวเท่านั้น เมื่อ Rush บอกว่าเป็นลูกชายของ John Sykes ทำให้ Emma ตกใจและบอกให้คุยกันทีหลังเมื่อออกจากถ้ำนี้ไปได้ ภายในถ้ำจะมี Chest Remnant อยู่ Emma จะบอกให้เราเปิดเพื่อเก็บสมบัติ ซึ่งจะได้ Broadsword มา ให้เราเปิดเมนูขึ้นมาติดตั้งดาบซะ แล้วเดินต่อไป จะพบกับมอนสเตอร์ขวางทางอยู่ Emma จะสอนวิธีต่อสู้ให้เรา เมื่อกำจัดมันได้แล้วให้เดินต่อไปจะพบกับบอส เมื่อต่อสู้ไปถึงเทิร์นที่ 3 จะมีคำสั่งให้ใช้ท่าไม้ตาย Omnistrike หลังจบการต่อสู้ Emma จะแปลกใจกับพลังของจี้ห้อยคอของ Rush และพอดีกับที่ David และขุนพลคนอื่น ๆ มาถึงพอดี
David เป็นพระราชาของเมือง Athlum เมื่อเขาได้รู้ว่า Rush เป็นลูกชายของ Dr. John Sykes นักวิจัย Remnant ชื่อดังของโลก ก็รับปากจะช่วยเหลือ Rush ตามหา Irina โดยให้ Rush ตามพวกเขากลับไปที่เมือง Athlum ก่อน
จากนั้นจะตัดเข้าสู่ฉากแผนที่โลก ตอนนี้เราจะอยู่ที่ Yamarn Plain ให้เราเลือกเดินทางไปที่เมือง Athlum เพื่อเข้าสู่เนื้อเรื่องต่อไป
เราจะมาถึงเมือง Athlum ซึ่งเป็นเมืองแรกที่เราจะได้เจอในเกม เป็นเมืองที่ปกครองโดย David เมื่อเรามาถึงพวก 4 ขุนพลจะบอกให้ Rush ไปพักในห้องพักที่เตรียมไว้ให้ที่ปราสาท ก่อนจะส่ง Rush กลับเกาะ Eulam Island แต่ Rush ไม่อยากจะกลับไปเฉย ๆ เพราะอยากจะร่วมตามหา Irina ด้วย Emma เลยบอกให้เราไปหาข่าวสารที่ผับ แต่อย่าไปก่อเรื่องอะไรเข้าล่ะ
สำรวจและซื้อของ
ลองเดินดูให้ทั่ว ๆ เมือง ศึกษาร้านค้าต่าง ๆ ให้ละเอียด เพราะเราต้องใช้เมืองนี้เป็นหลัก กดปุ่ม Back เพื่อกลับไปยัง City Map ซึ่งจะมีโซนต่าง ๆ ของเมืองให้เลือก ให้สำรวจให้หมด หากต้องการให้ Rush เล่นสายอาวุธมือเดียวก็ควรจะไปซื้อโล่ห์มาใส่ให้เรียบร้อย
ผับในโซน Virtus Parish
หลังจากซื้อของเรียบร้อยแล้ว ให้ไปยังโซน Virtus Parish เข้าไปยังผับที่ชื่อ "Warrior's Honor" คุยกับบาร์เทนเดอร์เพื่อถามวิธีเข้าพบกับ David เมื่อบาร์เทนเดอร์ตอบว่า David จะต้อนรับแขกที่ห้องโถงพระราชวัง ให้เรากด Back เพื่อกลับไปยัง City Map จะปรากฏโซน Athlum Castle ขึ้นมา ให้เราเลือกไปที่นั่นเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องต่อ
Athlum Castle
เมื่อมาถึงปราสาท Pagus หนึ่งในสี่ขุนพลจะแจ้งข่าวเบาะแสที่อาจเกี่ยวข้องกับ Irina ว่ามี 2 ข่าวด้วยกันคือ มีกลุ่มพ่อค้าทาสลักพาตัวเด็กสาวในเมืองไปซ่อนไว้ในถ้ำ Gaslin Caves อีกข่าวหนึ่งก็คือ มีคนเห็นทหาร Athlum ออกจากซากโบราณสถาน Robelia Ruins อาจเป็นไปได้ว่ามีการซ่องสุมกำลังกลุ่มปฏิวัติ
David จะสั่งให้ขุนพลของเขาช่วยเหลือ Rush ในการไปสำรวจสถานที่เหล่านี้ ส่วน Emma ก็บอกว่าเธอได้แจ้งให้กับ Celapaleis จ้าวอาณานิคมของ Athlum ทราบแล้วว่าตอนนี้ Rush อยู่ในความคุ้มครองของ Athlum
ถึงตรงนี้เราจะต้องเลือกว่าจะไปสำรวจที่ไหนก่อน ระหว่าง Gaslin Caves และ Robelia Ruins ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนก่อนก็จะต้องไปอีกที่อยู่ดี
กองโจรในถ้ำ Gaslin Cave
Blocter จะมาช่วย Rush สำรวจถ้ำ Gaslin Cave
Added by Rpadillav
หากเลือก Gaslin Caves ก่อน Blocter จะเข้าร่วมกลุ่มกับเรา ให้เรากด Back กลับไปยัง City Map และกด Back อีกครั้งเพื่อไปสู่แผนที่โลก จะปรากฏ Gaslin Caves ขึ้นมาให้เลือก
กำจัดกองทัพ Rosefly
กลุ่มของเราจะมีทหาร Athlum ร่วมกลุ่มด้วยสองคน ส่วนกลุ่มของ Blocter จะมีแค่ตัวเขาคนเดียว เมื่อกำจัดกลุ่ม Rosefly ได้แล้ว Blocter จะสอนวิธีต่อสู้ด้วย Combat Arts ให้ รวมถึงวิธีการลากมอนสเตอร์หลาย ๆ กลุ่มมาสู้พร้อมกันด้วยle.
กำจัดกลุ่มพ่อค้าทาส
เมื่อเข้าไปในส่วนลึกสุดของถ้ำก็จะตัดเข้าสู่ cut scene
Rush กับ Blocter จะพบกับกลุ่มเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวมามากมาย แต่พ่อค้าทาสจะมาเจอเราเข้าเสียก่อนและตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้กับบอส Slaver
หลังจากชนะบอสได้แล้ว ให้คุยกับเหล่าเด็กสาว ซึ่งพวกเธอจะขอบคุณ Rush แต่จะไม่พบ Irina ที่นี่ Blocter จะบอกให้เรากลับ Athlum กันก่อน ให้เราเดินย้อนกลับไปเล็กน้อยจะพบ Teleporter ซึ่งใช้สำหรับวาร์ปกลับไปยังแผนที่โลก ให้เราเลือกกลับไปที่ Athlum Castle
ทหาร Athlum ใน Robelia Ruins!?
Pagus เข้าร่วมกลุ่มกับ Rush เพื่อสำรวจโบราณสถาน Robelia Ruins
Added by Knucho
เมื่อคุยกับ David แล้ว คราวนี้ Pagus จะเข้าร่วมกลุ่มกับ Rush ให้เรากลับไปยังแผนที่โลก จะปรากฏ Robelia Ruins ให้เลือก
Pagus จะสอนวิธีใช้ Mystic Arts ให้กับเรา จากนั้นให้เราขึ้นไปด้านบนสุดของแผนที่จะพบกับประตูที่ถูกปิดผนึกอยู่ ให้เราหาหีบสมบัติแถวนั้นซึ่งจะมี Slayer Stone สำหรับใช้คลายผนึกประตู เมื่อเข้าประตูไปแล้วจะพบกับกลุ่มปฏิวัตต่อต้านการใช้ Remnant ซึ่งเราต้องกำจัดพวกเขา
หลังจากปราบบอสได้แล้ว เราจะพบว่า Irina ไม่ได้อยู่ที่นี่ ให้เราใช้ Teleporter ในห้องนี้กลับไปยังแผนที่โลก และกลับไป Athlum Castle ก่อน
Added by Romangelo
ยินดีต้อนรับสู่บทสรุป The Last Remnant ภาษาไทย บทสรุปนี้จะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่องหลักตั้งแต่ต้นจนจบ โปรดจำไว้ว่า Quest ต่าง ๆ จะมีเพียงไม่กี่ Quest เท่านั้นที่อยู่ในเนื้อเรื่อง โปรดดูที่หน้า Quest และทำ Quest ไประหว่างดำเนินเนื้อเรื่อง เนื่องจาก Quest หลาย ๆ Quest จะหายไปเมื่อคุณดำเนินเนื้อเรื่องไปเกินกว่าที่กำหนดและจะไม่สามารถย้อนกลับมาทำได้อีก ในเกม The Last Remnant จะมีสิ่งต่าง ๆ ที่ควรทำก่อนจะดำเนินเรื่องต่อไป ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับมาทำได้ โดยเราจะ Note เตือนคุณตลอดเมื่อถึงจุดนั้นของเนื้อเรื่อง
ระบบเกม
เกม The Last Remnant นั้น มีรายละเอียดของระบบการเล่นที่ค่อนข้างซับซ้อน อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจบ้าง แรก ๆ อาจจะน่าเบื่อแต่หากคุณเข้าใจระบบทุกอย่างแล้วรับรองได้ว่าคุณจะสนุกไปกับเกมอย่างแน่นอน (ผมว่าไม่น่าเบื่อนะ)
สิ่งสำคัญที่ควรศึกษาก่อนเริ่มเล่น
Battle Rank
ตัวละครแต่ละตัวจะไม่มี Level จะมีเพียง Battle Rank ซึ่งเป็นระดับโดยรวมของกองทัพเราเท่านั้น ยิ่ง BR ของเราสูง ศัตรูก็จะยิ่งเก่งขึ้นด้วย (แต่ก็ไม่เท่ากับที่เราเก่งขึ้น) สิ่งสำคัญคือ หากเรา BR สูงแล้ว ค่า Status ของตัวละครจะอัพยากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เหมือนตอน BR ต่ำ ๆ ที่อัพแทบจะทุกครั้งที่จบการต่อสู้ หากว่าเราเก็บ BR สูงเกินไป ตัวละครที่เราได้มาร่วมทีมในช่วงท้าย ๆ เกมจะอัพค่า Status ยากมาก ดังนั้นวิธีเล่น The Last Remnant ให้ตัวละครของเราเก่งที่สุดคือ หนีการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนกว่าเราจะได้ตัวละครที่เราต้องการใช้มาครบก่อน แล้วค่อยไปเก็บ BR จากการต่อสู้ จำไว้เสมอว่าไม่ควรต่อสู้กับศัตรูที่อ่อนแอกว่าเรา เพราะจะทำให้ BR เพิ่มขึ้น แต่ค่า Status เพิ่มน้อย ไม่คุ้มค่ากับการที่ BR สูงขึ้น การต่อสู้กับศัตรูที่เก่งกว่าเรา เราจะอัพค่า Status ได้เร็วกว่า วิธีสังเกตว่าศัตรูกลุ่มไหนเก่งกว่าเราหรืออ่อนแอกว่าเราคือ ค่า Morale ที่มีในขณะเริ่มการต่อสู้ หาก Morale ของฝ่ายเราต่ำกว่าศัตรูมาก ๆ หมายความว่าศัตรูแข็งแกร่งกว่าเรา
การเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ
Arts หมายถึง Skills นั่นเอง การที่ตัวละครจะเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ ได้นั้น เราจะต้องใช้ Arts ในประเภทเดียวกันให้บ่อยครั้ง เมื่อค่าประสบการณ์ถึงระดับที่กำหนด ตัวละครก็จะเรียนรู้ Arts ใหม่ ๆ เอง ส่วนวิธีเพิ่มระดับเลเวลให้ Arts ที่มีอยู่แล้วคือ ใช้ Art นั้น ๆ ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าจะอัพเป็นระดับที่สูงขึ้น (สูงสุดระดับ V)
ไอค่อนพูดคุย
เราสามารถคุยกับตัวละครต่าง ๆ ที่มีไอค่อนพูดคุยอยู่บนหัว ซึ่งจะมีข้อมูลสำคัญที่เราควรรู้ โดยเฉพาะหากเป็นไอค่อนสีแดง หมายถึงมีความสำคัญมาก หรือเป็นบุคคลที่ต้องคุยเพื่อดำเนินเหตุการณ์ต่อไป
บทเริ่มต้นของเรื่องราว
Lord David กำลังยิง Gae Bolg.
Added by Knucho
Rush Sykes เด็กหนุ่มคนหนึ่งออกตามหาน้องสาวของเขา Irina Sykes ซึ่งถูกชายชุดดำลึกลับกับมอนสเตอร์บินได้ลักพาตัวไปจากเกาะ Eulam เมื่อ Rush เดินผ่านป่าแห่งหนึ่งออกมาก็ได้พบกับกองทัพกำลังเข้าห้ำหั่นกับบรรดามอนสเตอร์อยู่ และนักรบหญิงคนหนึ่งในกองทัพนั้นก็หน้าตาคล้าย Irina เหลือเกิน Rush จึงวิ่งเข้าไปท่ามกลางสมรภูมินั้น
เราจะได้เข้าสู่ฉากต่อสู้ของเกมนี้เป็นครั้งแรก โดยทีมของ David จะต้องสู้กับกองทัพมอนสเตอร์ เมื่อเราต่อสู้ไปจนถึงเทิร์นที่ 2 จะมีคำสั่งให้ใช้ Gae Bolg เมื่อใช้แล้วศัตรูจะตายทั้งหมดและจบฉากต่อสู้
Rush จะได้รับการคุ้มครองด้วยพลังประหลาดจากจี้ห้อยคอของเขา แต่ก็ไม่วายตกลงไปในถ้ำใต้ดินพร้อมกับ Emma เนื่องจากดินถล่มจากแรงสะเทือนของ Gae Bolg
หาทางออกจากถ้ำใต้ดิน Underground Cavern
Emma จะคิดว่า Rush เป็นสปายแฝงตัวเข้ามา แต่ Rush จะบอกว่าเขาแค่มาตามหาน้องสาวเท่านั้น เมื่อ Rush บอกว่าเป็นลูกชายของ John Sykes ทำให้ Emma ตกใจและบอกให้คุยกันทีหลังเมื่อออกจากถ้ำนี้ไปได้ ภายในถ้ำจะมี Chest Remnant อยู่ Emma จะบอกให้เราเปิดเพื่อเก็บสมบัติ ซึ่งจะได้ Broadsword มา ให้เราเปิดเมนูขึ้นมาติดตั้งดาบซะ แล้วเดินต่อไป จะพบกับมอนสเตอร์ขวางทางอยู่ Emma จะสอนวิธีต่อสู้ให้เรา เมื่อกำจัดมันได้แล้วให้เดินต่อไปจะพบกับบอส เมื่อต่อสู้ไปถึงเทิร์นที่ 3 จะมีคำสั่งให้ใช้ท่าไม้ตาย Omnistrike หลังจบการต่อสู้ Emma จะแปลกใจกับพลังของจี้ห้อยคอของ Rush และพอดีกับที่ David และขุนพลคนอื่น ๆ มาถึงพอดี
David เป็นพระราชาของเมือง Athlum เมื่อเขาได้รู้ว่า Rush เป็นลูกชายของ Dr. John Sykes นักวิจัย Remnant ชื่อดังของโลก ก็รับปากจะช่วยเหลือ Rush ตามหา Irina โดยให้ Rush ตามพวกเขากลับไปที่เมือง Athlum ก่อน
จากนั้นจะตัดเข้าสู่ฉากแผนที่โลก ตอนนี้เราจะอยู่ที่ Yamarn Plain ให้เราเลือกเดินทางไปที่เมือง Athlum เพื่อเข้าสู่เนื้อเรื่องต่อไป
เราจะมาถึงเมือง Athlum ซึ่งเป็นเมืองแรกที่เราจะได้เจอในเกม เป็นเมืองที่ปกครองโดย David เมื่อเรามาถึงพวก 4 ขุนพลจะบอกให้ Rush ไปพักในห้องพักที่เตรียมไว้ให้ที่ปราสาท ก่อนจะส่ง Rush กลับเกาะ Eulam Island แต่ Rush ไม่อยากจะกลับไปเฉย ๆ เพราะอยากจะร่วมตามหา Irina ด้วย Emma เลยบอกให้เราไปหาข่าวสารที่ผับ แต่อย่าไปก่อเรื่องอะไรเข้าล่ะ
สำรวจและซื้อของ
ลองเดินดูให้ทั่ว ๆ เมือง ศึกษาร้านค้าต่าง ๆ ให้ละเอียด เพราะเราต้องใช้เมืองนี้เป็นหลัก กดปุ่ม Back เพื่อกลับไปยัง City Map ซึ่งจะมีโซนต่าง ๆ ของเมืองให้เลือก ให้สำรวจให้หมด หากต้องการให้ Rush เล่นสายอาวุธมือเดียวก็ควรจะไปซื้อโล่ห์มาใส่ให้เรียบร้อย
ผับในโซน Virtus Parish
หลังจากซื้อของเรียบร้อยแล้ว ให้ไปยังโซน Virtus Parish เข้าไปยังผับที่ชื่อ "Warrior's Honor" คุยกับบาร์เทนเดอร์เพื่อถามวิธีเข้าพบกับ David เมื่อบาร์เทนเดอร์ตอบว่า David จะต้อนรับแขกที่ห้องโถงพระราชวัง ให้เรากด Back เพื่อกลับไปยัง City Map จะปรากฏโซน Athlum Castle ขึ้นมา ให้เราเลือกไปที่นั่นเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องต่อ
Athlum Castle
เมื่อมาถึงปราสาท Pagus หนึ่งในสี่ขุนพลจะแจ้งข่าวเบาะแสที่อาจเกี่ยวข้องกับ Irina ว่ามี 2 ข่าวด้วยกันคือ มีกลุ่มพ่อค้าทาสลักพาตัวเด็กสาวในเมืองไปซ่อนไว้ในถ้ำ Gaslin Caves อีกข่าวหนึ่งก็คือ มีคนเห็นทหาร Athlum ออกจากซากโบราณสถาน Robelia Ruins อาจเป็นไปได้ว่ามีการซ่องสุมกำลังกลุ่มปฏิวัติ
David จะสั่งให้ขุนพลของเขาช่วยเหลือ Rush ในการไปสำรวจสถานที่เหล่านี้ ส่วน Emma ก็บอกว่าเธอได้แจ้งให้กับ Celapaleis จ้าวอาณานิคมของ Athlum ทราบแล้วว่าตอนนี้ Rush อยู่ในความคุ้มครองของ Athlum
ถึงตรงนี้เราจะต้องเลือกว่าจะไปสำรวจที่ไหนก่อน ระหว่าง Gaslin Caves และ Robelia Ruins ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนก่อนก็จะต้องไปอีกที่อยู่ดี
กองโจรในถ้ำ Gaslin Cave
Blocter จะมาช่วย Rush สำรวจถ้ำ Gaslin Cave
Added by Rpadillav
หากเลือก Gaslin Caves ก่อน Blocter จะเข้าร่วมกลุ่มกับเรา ให้เรากด Back กลับไปยัง City Map และกด Back อีกครั้งเพื่อไปสู่แผนที่โลก จะปรากฏ Gaslin Caves ขึ้นมาให้เลือก
กำจัดกองทัพ Rosefly
กลุ่มของเราจะมีทหาร Athlum ร่วมกลุ่มด้วยสองคน ส่วนกลุ่มของ Blocter จะมีแค่ตัวเขาคนเดียว เมื่อกำจัดกลุ่ม Rosefly ได้แล้ว Blocter จะสอนวิธีต่อสู้ด้วย Combat Arts ให้ รวมถึงวิธีการลากมอนสเตอร์หลาย ๆ กลุ่มมาสู้พร้อมกันด้วยle.
กำจัดกลุ่มพ่อค้าทาส
เมื่อเข้าไปในส่วนลึกสุดของถ้ำก็จะตัดเข้าสู่ cut scene
Rush กับ Blocter จะพบกับกลุ่มเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวมามากมาย แต่พ่อค้าทาสจะมาเจอเราเข้าเสียก่อนและตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้กับบอส Slaver
หลังจากชนะบอสได้แล้ว ให้คุยกับเหล่าเด็กสาว ซึ่งพวกเธอจะขอบคุณ Rush แต่จะไม่พบ Irina ที่นี่ Blocter จะบอกให้เรากลับ Athlum กันก่อน ให้เราเดินย้อนกลับไปเล็กน้อยจะพบ Teleporter ซึ่งใช้สำหรับวาร์ปกลับไปยังแผนที่โลก ให้เราเลือกกลับไปที่ Athlum Castle
ทหาร Athlum ใน Robelia Ruins!?
Pagus เข้าร่วมกลุ่มกับ Rush เพื่อสำรวจโบราณสถาน Robelia Ruins
Added by Knucho
เมื่อคุยกับ David แล้ว คราวนี้ Pagus จะเข้าร่วมกลุ่มกับ Rush ให้เรากลับไปยังแผนที่โลก จะปรากฏ Robelia Ruins ให้เลือก
Pagus จะสอนวิธีใช้ Mystic Arts ให้กับเรา จากนั้นให้เราขึ้นไปด้านบนสุดของแผนที่จะพบกับประตูที่ถูกปิดผนึกอยู่ ให้เราหาหีบสมบัติแถวนั้นซึ่งจะมี Slayer Stone สำหรับใช้คลายผนึกประตู เมื่อเข้าประตูไปแล้วจะพบกับกลุ่มปฏิวัตต่อต้านการใช้ Remnant ซึ่งเราต้องกำจัดพวกเขา
หลังจากปราบบอสได้แล้ว เราจะพบว่า Irina ไม่ได้อยู่ที่นี่ ให้เราใช้ Teleporter ในห้องนี้กลับไปยังแผนที่โลก และกลับไป Athlum Castle ก่อน