PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : กฎหมายเพื่อทุกเพศทุกวัย



John Marston
6th October 2012, 23:58
กฎหมายเพื่อทุกเพศทุกวัย



http://webboard.sex.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3395331.0;attach=1014883;image




ถ้ามองตามกฎหมายบ้านเราซึ่งรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา 30
“บุคคล ย่อมเสมอกัน ในกฎหมาย และ ได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรม ต่อบุคคล เพราะเหตุแห่ง ความแตกต่าง ในเรื่อง ถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกาย หรือ สุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือ ความคิดเห็นทางการเมือง อันไม่ขัดต่อ บทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้

แต่ถึงกระนั้นยังไม่เพียงพอต่อความเท่ากันจริงๆ ในทางที่ถูกต้อง ต้องใช้คำว่า "มีสิทธิ เสรีภาพได้อย่างเหมือนๆกันมากกว่า"




ดังนั้น จึงขอเสนอ “กฎหมายเพื่อทุกเพศทุกวัย" โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้


มาตราที่ 1 “มนุษย์ทุกเพศทุกวัย ย่อมมีสิทธิ เสรีภาพ เหมือนกัน โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น”


มาตราที่2 “ให้แก้ไขกฎหมายหรือที่เป็นบทบัญญัติไม่ว่าจะฉบับใด โดยแก้ไขคำที่เขียนไว้ว่า “ชาย” หรือ “หญิง”ยกเลิกคำเหล่านั้นแล้วให้ใช้คำว่า “ผู้ใด” และ "ผู้อื่น" แทน


อธิบาย : ไม่ว่าจะกฎหมายหรือตราที่มีการบังคับใช้ใดๆก็ตาม มีคำจำกัดความถึงเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง หนูมองว่า “มันเป็นการเลือกปฎิบัติทางเพศอย่างชัดเจนที่สุด” เพราะโลกสมัยนี้ไม่ได้มีแค่เพศชายเพศหญิงเท่านั้น แต่ยังมี "เพศกลาง" ที่นอกเหนือไปจากชายจริงหญิงแท้อีกมากมายค่อนครึ่งประเทศ





มาตราที่3 “การสมรส ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศตรงข้ามเสมอไป แต่ การสมรสจะต้องมีได้ก็ต่อเมื่อ บุคคลทั้งสองตกลงยินยอมเป็นคู่สมรสกันโดยถูกต้องตามกฎหมายและไม่จำกัดเพศ”



อธิบาย : ความรักเป็นสิ่งสวยงาม การที่คนเรารักกัน ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ชาย-ผู้หญิงเท่านั้น ในฐานะเป็นคนรุ่นใหม่ มองเห็นถึงจำนวนคนที่เพศเดียวกันรักกัน(เราจะไม่ใช้คำว่าเพศที่3เพราะมันดูไม่เท่าเทียมกัน) โดยพวกเขาต้องยอมรับว่ามีจำนวนเยอะมากๆขึ้นทุกปี

ต่อไป อยากให้มีการยกเลิก คำว่า “สามี”หรือ “ภริยา” แล้วใช้คำนี้ว่า “คู่สมรส” แทน แบบนี้แหละถึงจะเท่าเทียมกันจริงๆ เพราะถ้าใช้คำว่า “สามี” หรือ “ภริยา” มันจะไปขัดมาตราที่2ที่ห้ามใช้คำจำกัดความที่บ่งบอกถึงเพศ



มาตราที่4 “เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการฝากท้อง”




อธิบาย : ประโยชน์ของ กฎหมายว่าด้วยการฝากท้อง มีสาระสำคัญ คือ

เช่น บุคคลใด ต้องการมีบุตร แต่ไม่ต้องการมีคู่สมรส หรือเป็น เกย์ ตุ๊ด กะเทย ทอมกับทอม(เป็นแฟนกัน) ให้มีการฝากท้องโดยทำเป็นสัญญาข้อตกลงกันได้ อาทิ เช่น

ตัวอย่าง ฝ่ายชายต้องการมีบุตรแต่ไม่ต้องการมีภรรยาไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ให้มีการทำสัญญากันอย่างถูกกฎหมาย โดยที่ฝ่ายชายเป็น “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหญิงที่มีหน้าที่ตั้งท้องแทนเป็น “ผู้รับจ้าง” สมัยนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวไกลอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องผสมพันธุ์ตามธรรมชาติแต่สามารถใช้วิธีการฉีดหรือเรียกง่ายๆว่า ผสมเทียมนั่นแหล่ะ เมื่อบุตรคลอดออกมาแล้ว กรรมสิทธิ์ทั้งหมดในตัวบุตรตกเป็นของผู้ว่าจ้างทันที โดยที่ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิในตัวบุตรคนนั้นอีกต่อไป

เพราะถือว่า ผู้ว่าจ้างก็คือ ผู้ที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของบุตรอยู่แล้ว





มาตราพิเศษ "เสนอให้มีบทพิเศษ ลงโทษนักการเมือง ผู้บริหาร หน่วยงาน หรือองค์กรใด ทำเพื่อประโยชน์ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือ แบ่งแยกทาง อายุ เพศ การศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิพิเศษหรือผลประโยชน์อันใด

ต้องระวางโทษประหารชีวิต"



คำอธิบาย : นักการเมือง ผู้บริหาร หน่วยงาน หรือองค์กรใด ที่ทำเพื่อประโยชน์ของตน หรือของกลุ่ม เฉพาะกลุ่ม อายุ เพศ การศึกษา โดยไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ให้กับประชาชนทุกคนทุกเพศทุกวัย มีการเลือกข้างใดข้างหนึ่งโดยใช้คำจำกัดความ อายุ เพศ การศึกษา หรืออื่นๆที่ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงประชาชนทุกคน

เช่น มีกฎหมาย ข้อบังคับ มาตรการ นโยบาย กองทุน หน่วยงาน หรือองค์กรใด ที่เลือกปฎิบัติเฉพาะ อายุ เพศ การศึกษา จะกระทำมิได้ รวมไปถึงผู้เป็นนักการเมืองหรือผู้บริหารประเทศที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคนในประเทศ หากผู้ใดฝ่าผืน ต้องมีอัตราโทษประหารชีวิต และให้มีผลรวมไปถึงตัวการ ผู้ใช้ และ ผู้สนับสนุนทั้งหมดที่กระทำการฝ่าฝืนมาตรานี้ด้วย อย่าให้เป็นแบบอย่างแก่้เยาวชนที่ดีในอนาคตได้









ที่มา: http://atcloud.com/stories/105490

Pop_PeR
7th October 2012, 10:44
สมัยตอนอนุบาล - ป.6 ผมล่ะ อิจฉาผู้หญิงสุดๆ ทำอะไรได้ทำก่อนประจำ เเละ ครูก็บอกว่า ต้องให้ผู้หญิงไปก่อน

เพราะว่า อนาคตผู้หญิง จะลำบาก ??? ลำบากอะไร ตอนเด็กๆ ไม่ยักจะรู้เรื่องว่า ลำบากอะไร

โตมา ก็ยังไม่รู้ว่า ผู้หญิง อนาคตลำบากอะไร ตอนนี้ก็ยังข้องอยู่ !!!!!!!!!!!!!!!!!~

Grandnadoesp
7th October 2012, 12:48
แค่ข้อแรกก็ยากแล้ว
ลองคิดดู ปกติเด็กต้องเชื่อฟังพ่อแม่
ถ้ากฎหมายข้อแรกออกมา เด็กตัวเล็กที่ขี้เกียจไปเรียนก็อ้างข้อไม่ไปเรียนได้ ตามกฎหมาย