gap
20th October 2012, 22:31
งาช้าง แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก
http://3.bp.blogspot.com/-pNM6fLlroik/T6fdV5vcE-I/AAAAAAAAQrc/hsURenpctZ4/s400/article-2140734-12F733F3000005DC-819_634x350.jpg
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามันจะถูกประมูลไปด้วยราคาไม่น้อยกว่า 2.5 แสนปอนด์(12.5 ล้านบาท) คาดว่างาช้างคู่นี้น่าจะเป็นงาช้างแกะสลักใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยมีการประมูลซื้อขายในตลาด
ข้อมูล
งาช้างคู่นี้นี้วัดได้มีความสูง 188 เซ็นติเมตร และ 192 เซ็นติเมตร(วัดโดยไม่คำนึงถึงความโค้ง)
ดาดว่างาช้างคู่นี้น่าจะถูกแกะสลักขึ้นในช่วงราชวงศ์ชิง(Qing) ช่วงศตวรรษที่ 17-19
มันถูกแกะสลักโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างงดงาม มีทั้งรูป สัตว์ นก ต้นไม้ คนกำลังเล่มหมายรุก คนกำลังอ่านหนังสือ คนกำลังขี่สัตว์ในตำนาน และคนเล่นดนตรี มันถูกแกะสลักลึกสลับเป็นชั้น บ้างถูกแกะจนลึกจนเป็นโพรงสร้างให้เกิดแสงเงา และมิติ จนเหมือนว่าผลงานนี้มีชีวิตเคลื่อนไหวได้
ส่วนแท่นวางก็ใช้ัไม้เนื้อแข็งแกะสลักอย่างงดงามไม่แพ้กัน
ในประเทศจีัน งาช้างถูกใช้เป็นสิ่งแสดงถึงฐานะทางสังคม ของบุคคลชั้นสูง และคาดว่าเมื่อเปิดประมูลเหล่าเศรษฐีชาวจึนผู้มั่งคั่ง สมบัติอันล้ำค่าสิ่งนี้กลับมาตุภูมิ
งาช้างคู่นี้ไม่แน่ชัดว่าถูกนำออกโดยใคร เมื่อไร จากประเทศจีน แต่มันถูกเก็บไว้ในโกดังของเก่าในปรเทศสวิสเซอร์แลนด์มากว่า 60 ปี หลังจากการซื้อขายงาช้างเป็นของผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 1975
การซื้อขายงาช้างในปัจจุบันถือว่ามีความผิด แต่ งาช้างคู่นี้เป็นของเก่า และก็มีเอกสาร หลักฐานยื่นยัน ตามอนุสัญญานานาชาติ การซื้อขายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์(the Convention on International Trade in Endangered Species) ทำให้สามารถเปิดประมูลซื้อขายได้
คาดว่าในการเปิดประมูลทีห้องประมูล Duke ใน Dorchester เมืองDorset ประเทศอังกฤษ มันจะถูกประมูลไปด้วยราคมไม่น้อยกว่า 12.5 ล้านบาท ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2012
รูปภาพส่วนเสริม
http://upic.me/i/xg/article-2140734-12f73445000005dc-847_634x405.jpg
งาช้างแกะสลักใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่มีการประมูลซื้อขาย
http://upic.me/i/g3/article-2140734-12f72f82000005dc-475_634x551.jpg
จะเห็นว่างานแกะสลักนั้นงดงามยิ่งนัก การแกะสลักตื้นลึกสลับกันเป็นชั้น จนเกิดเป็นมิติ บริเวณนี้เป็นภาพคนกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
http://upic.me/i/g1/article-2140734-12f72fda000005dc-422_634x373.jpg
เป็นภาพคนกำลังเล่นดนตรีกันอยู่
Credit : >>wowboom.blogspot.com<< (http://wowboom.blogspot.com/2012/05/2.html)
http://3.bp.blogspot.com/-pNM6fLlroik/T6fdV5vcE-I/AAAAAAAAQrc/hsURenpctZ4/s400/article-2140734-12F733F3000005DC-819_634x350.jpg
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามันจะถูกประมูลไปด้วยราคาไม่น้อยกว่า 2.5 แสนปอนด์(12.5 ล้านบาท) คาดว่างาช้างคู่นี้น่าจะเป็นงาช้างแกะสลักใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยมีการประมูลซื้อขายในตลาด
ข้อมูล
งาช้างคู่นี้นี้วัดได้มีความสูง 188 เซ็นติเมตร และ 192 เซ็นติเมตร(วัดโดยไม่คำนึงถึงความโค้ง)
ดาดว่างาช้างคู่นี้น่าจะถูกแกะสลักขึ้นในช่วงราชวงศ์ชิง(Qing) ช่วงศตวรรษที่ 17-19
มันถูกแกะสลักโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างงดงาม มีทั้งรูป สัตว์ นก ต้นไม้ คนกำลังเล่มหมายรุก คนกำลังอ่านหนังสือ คนกำลังขี่สัตว์ในตำนาน และคนเล่นดนตรี มันถูกแกะสลักลึกสลับเป็นชั้น บ้างถูกแกะจนลึกจนเป็นโพรงสร้างให้เกิดแสงเงา และมิติ จนเหมือนว่าผลงานนี้มีชีวิตเคลื่อนไหวได้
ส่วนแท่นวางก็ใช้ัไม้เนื้อแข็งแกะสลักอย่างงดงามไม่แพ้กัน
ในประเทศจีัน งาช้างถูกใช้เป็นสิ่งแสดงถึงฐานะทางสังคม ของบุคคลชั้นสูง และคาดว่าเมื่อเปิดประมูลเหล่าเศรษฐีชาวจึนผู้มั่งคั่ง สมบัติอันล้ำค่าสิ่งนี้กลับมาตุภูมิ
งาช้างคู่นี้ไม่แน่ชัดว่าถูกนำออกโดยใคร เมื่อไร จากประเทศจีน แต่มันถูกเก็บไว้ในโกดังของเก่าในปรเทศสวิสเซอร์แลนด์มากว่า 60 ปี หลังจากการซื้อขายงาช้างเป็นของผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 1975
การซื้อขายงาช้างในปัจจุบันถือว่ามีความผิด แต่ งาช้างคู่นี้เป็นของเก่า และก็มีเอกสาร หลักฐานยื่นยัน ตามอนุสัญญานานาชาติ การซื้อขายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์(the Convention on International Trade in Endangered Species) ทำให้สามารถเปิดประมูลซื้อขายได้
คาดว่าในการเปิดประมูลทีห้องประมูล Duke ใน Dorchester เมืองDorset ประเทศอังกฤษ มันจะถูกประมูลไปด้วยราคมไม่น้อยกว่า 12.5 ล้านบาท ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2012
รูปภาพส่วนเสริม
http://upic.me/i/xg/article-2140734-12f73445000005dc-847_634x405.jpg
งาช้างแกะสลักใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่มีการประมูลซื้อขาย
http://upic.me/i/g3/article-2140734-12f72f82000005dc-475_634x551.jpg
จะเห็นว่างานแกะสลักนั้นงดงามยิ่งนัก การแกะสลักตื้นลึกสลับกันเป็นชั้น จนเกิดเป็นมิติ บริเวณนี้เป็นภาพคนกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
http://upic.me/i/g1/article-2140734-12f72fda000005dc-422_634x373.jpg
เป็นภาพคนกำลังเล่นดนตรีกันอยู่
Credit : >>wowboom.blogspot.com<< (http://wowboom.blogspot.com/2012/05/2.html)