PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : :: วิจารณ์หนัง Silent Hill: Revelation 3D :



John Marston
30th October 2012, 00:19
วิจารณ์หนัง Silent Hill: Revelation 3D
...............................................


http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si6.jpg

...................................................

Silent Hill ภาคแรกของหนังที่ออกฉายเมื่อปี 2006 เปิดตัวในสหรัฐที่ 20 ล้านเหรียญ ทำรายได้ไปทั่วโลกเพียง 97 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าขาดทุน เพราะรายได้ต้องหารสองแบ่งให้โรงภาพยนตร์อีกครึ่งหนึ่ง หนังเองก็ได้รับคำวิจารณ์ด้านลบเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ชนะใจคอเกมได้ในระดับที่มีการเรียกร้องอยู่เนืองๆ ให้มีภาคต่อ

และด้วยการที่ 3D เป็นกระแส บริษัทหนังโอเพ่นโร้ดฟิล์มจึงเห็นว่าการสร้างภาคต่อในแบบ 3D น่าจะช่วยทำกำไรให้ได้ เมื่อเทียบกับการที่หนังมีฐานแฟนคลับจากเกมและหนังภาคที่แล้วอยู่บ้าง จึงได้ว่างจ้างให้ ไมเคิล เจ. บาสเซ็ทท์ มาเขียนบทและกำกับ แต่ก็ให้ทุนสร้างเพียง 20 ล้านเหรียญ เผื่อไว้ว่าหนังอาจทำรายได้ไม่ต่างจากภาคแรกเท่าไหร่ จะได้ไม่ขาดทุน


สิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่าทำสำเร็จสำหรับหนัง Silent Hill: Revelation 3D ก็คือการพยายามสร้างฉาก ออกแบบอสุรกาย ได้ซื่อตรงต่อต้นฉบับเกม แต่เสียดายหนังดูจะทำสำเร็จแค่นั้น เพราะตลอดเวลาที่เราดูหนังเรื่องนี้ไม่ต่างจากนั่งดูคนเล่นเกมนี้อยู่ เราจึงไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วมกับหนังเหมือนได้ลงไปเล่นเกมเองเลย แต่ที่ทำให้เราสนใจได้เพราะภาพที่ปรากฏบนจอ แต่ขณะที่ภาพที่เรากำลังสนใจภาพที่เห็นอยู่นั้น ภาพก็หายไปเปลี่ยนไปสู่ด่านถัดไปแล้ว เพราะคนเล่นที่เล่นเกมนี้เหมือนเล่นมาบ่อยจนคล่อง รู้ช่องทางในการเอาชนะดีมากจนผ่านแต่ละด่านได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วแบบที่ เรายังไม่ทันอิ่มหรือรู้สึกลุ้นเลยก็เอาชนะได้แล้ว แถมบางทียังมีตัวช่วยมาช่วยให้ผ่านเกมได้ง่ายขึ้นไปอีก ดีที่หนังมีความยาวเพียง 1 ชั่วโมง 29 นาที จึงจบเสียก่อนที่เราจะรู้สึกเบื่อ

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si1.jpg

หนังเปิดเรื่องด้วยการฝันร้ายของเฮทเธอร์ เมสัน (อเดเลด เคลเมนส์) เกี่ยวกับเมืองประหลาดที่เต็มไปด้วยความสยองและอสุรกาย แต่พ่อของเธอ (ฌอน บีน) ก็บอกแค่ว่ามันคงเป็นฝันร้ายทั่วไป เพื่อปกปิดเธอไม่ให้รู้ความจริงเกี่ยวกับเมืองชื่อไซเลนท์ ฮิลล์ ที่เธอฝันถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เธอไปยังเมืองนี้ เพราะมีกลุ่มภาคีชั่วร้ายที่หมายใช้เธอเป็นประโยชน์ในการให้กำเนิดซาตานขึ้นมาบนโลก แต่เมื่อพ่อของเธอถูกลักพาตัวไปยังเมืองที่ว่านี้ เธอก็ตัดสินใจเดินทางไปช่วยพ่อ และได้รู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของตัวเองว่าเธอเกิดขึ้นมาจากการแบ่งร่างของเด็กหญิงอเลสซ่าที่ได้ถูกภาคีชั่วร้ายในหนังจับเผาทั้งเป็น แต่เพราะเป็นเด็กที่มีพลังจิตรุนแรง จึงได้สร้างโลกที่เต็มไปด้วยหมอกควันมาขังคนในเมืองไว้ และสร้างอสุรกาย และความสยดสยองต่างๆ ขึ้นมาทรมานคนในเมือง ภาคีชั่วร้ายจึงต้องหาทางล่อให้เฮทเธอร์มาจัดการกับอเลสซ่า และให้กำเนิดมารร้ายขึ้นมาบนโลก

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si7.jpg

เมื่อเฮทเธอร์ได้รู้กำเนิดที่แท้จริงของตัวเองก็ราวกลางเรื่องพอดี เหตุการณ์หลังจากนี้ก็คือเธอต้องไปยังที่ต่างๆ ตามเงื่อนงำที่ได้จากตัวละครอื่นในการหาทางช่วยพ่อของเธอออกมา ทำให้เหมือนเป็นการผจญภัยผ่านด่านต่างๆ ที่แต่ละด่านก็จะเจออสุรกายแต่ละแบบกันไป และใช้วิธีเอาชนะแตกต่างกัน ซึ่งการเล่าเรื่องทั้งหมดเหมือนแค่ให้เราได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละด่าน และแต่ละด่านมีงานด้านภาพคล้ายกับเกมขนาดไหน แต่ไม่อาจทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับเรื่องราวได้

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si2.jpg

อย่างที่เกริ่นไว้ เฮทเธอร์เอาชนะหรือรอดจากแต่ละด่านได้ง่ายดายอย่างที่เรายังไม่ทันลุ้น เธอก็รอดได้แล้ว ในบางด่านก็ยิ่งแย่หนัก เพราะเราไม่รู้ว่าเธอเอาชนะได้อย่างไร บางด่านก็ยิ่งแล้วใหญ่ เธอมีตัวช่วยมาสู้แทน ซึ่งไม่ใช่ตัวละครที่คนดูผูกพันอะไร เลยไม่ลุ้นสักนิด เสียดายงานออกแบบอสุรกายหลายตัวในหนังครับ ดูน่าเกรงขามและน่ากลัวเวลาเราเห็นเป็นภาพนิ่ง แต่ไม่มีบทบาทให้เรารู้สึกกลัว ชวนขนลุก หรือทำให้เราตกใจได้เลย เหมือนมาวิ่งไปมาผ่านฉากเท่านั้น

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si4.jpg

เงื่อนงำต่างๆ ในหนังก็ควรให้เรารู้สึกคาดไม่ถึง หรืออึ้ง เวลาที่มีการเฉลยออกมาเหมือนเวลาเราดูหนังนักสืบที่สนุกๆสักเรื่อง แต่การเฉลยเงื่อนงำในหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้แห้งแล้งมาก ให้ตัวละครใหม่ที่เฮทเธอร์พบระหว่างทางมาบอกเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นโดยที่เธอไม่ต้องปะติดปะต่อหรือไขปริศนาอะไรเลย และหนังก็ไม่ได้นำเสนอเลยว่าเธอรู้สึกอะไรบ้างเมื่อได้รู้ความจริงเหล่านั้น

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si5.jpg

เมื่อมีการประกาศรายชื่อนักแสดงที่จะมาสมทบ อเดเลด เคลเมนส์ ว่ามีตั้งแต่ ฌอน บีน, แครี่-แอน มอส, มัลคอล์ม แม็คโดเวลล์ และราดา มิทเชล ก็เหมือนชวนให้รู้สึกว่าเป็นโครงการหนังที่น่าสนใจ ที่ได้คัดเลือกนักแสดงคุณภาพหลายคนมาช่วยสร้างความเข้มข้น และเราน่าจะได้เห็นอะไรดีๆ จากนักแสดงเหล่านี้ แต่หนังให้โอกาสแต่ละคนได้ออกกันคนละไม่ 1-2 ฉาก และบทหนังก็ไม่ได้ให้นักแสดงเหล่านี้ได้แสดงศักยภาพอะไรเลย

http://p.s1sf.com/mv/0/ud/6/32917/si3.jpg

การสร้างหนังสักเรื่อง หากจะอยู่ในความจดจำของคนดูได้ ภาพไม่ได้ช่วยได้มากเท่าอารมณ์ครับ สิ่งที่จะตามคนดูออกไปได้มากที่สุดคือ อารมณ์และความรู้สึกแล้วอารมณ์และความ รู้สึกก็จะพาให้นึกถึงภาพตอนนั้น แต่ถ้าภาพนั้นขาดอารมณ์ เมื่อผ่านไปสักพักก็จะถูกลืม ซึ่ง Silent Hill: Revelation 3D ที่ขาดอารมณ์นี้ก็แทบจะทำให้ผมจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากออกจากโรงมาแล้ว นอกจากประโยคที่ตัวละครของฌอน บีน พูดในหนังว่า "อย่าไปที่ไซเลนท์ฮิลล์"



คะแนน: 4.0 /10


..............................................................................................................................................

เครดิต : Jediyuth (http://jediyuth.com/2012/10/27/jediyuths-review-silent-hill-revelation-3d/)

...................................................................

puwaratitarat
30th October 2012, 08:58
"อย่าไปที่ไซเลนท์ฮิลล์" "ผมแค่จะบอกกับหนังว่าเอาเงินคืนมากับรีบเนอะ"

Indreamy_RT
1st November 2012, 00:08
ไปดูมาแล้วคะ ดูแล้วก็ยัง งงๆ แต่ก็หลอนตลอดทั้งเรื่อง (เป็นคนกลัวผีอยู่แล้วเลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่)

หนังก็สนุกดีคะ คุ้มเงินดี

SemIFaIL
1st November 2012, 00:17
อย่าคาดหวังอะไรที่ทำจากเกมแล้วเรารู้อยู่แล้ว ผมไปดูเพราะฉาก 3D ฉากอย่างเดียวให้เยอะอะ แต่เนื้อเรื่องไม่เท่าไร เหมือนมีภาคต่อเลย

iamrocketto
1st November 2012, 09:39
ว่าจะไปเสียตังค์ดูซะหน่อย แต่กระแสเรื่องนี้ค่อนข้างออกมาในด้านลบกันซะเยอะเลย

helos
1st November 2012, 09:55
สำหรับผมยังคงเป็นหนังที่สร้างจากเกมที่ทำได้ดีที่สุดอยู่ คงไม่ถึงเรียกว่าดี แค่พอดูได้

แต่แค่นั้นก็เยอะกว่าหนังจากเกมบางเรื่องที่ลากมา 5 6 ภาคแล้ว

skob
1st November 2012, 12:27
อ่า ถ้าดูเอาหนังดีผมว่า ไม่ได้อะไรจากหนังเรื่องนี้หรอกครับ
แต่ดูเอามันส์ ดูเอาตื่นเต้น ผมว่าก็ไปดูเถอะครับ
เว็บวิจารณ์หนัง หรือ นักวิจารณ์หนัง เมื่อดูมาถึงจุดหนึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าหนังเรื่องไหน สำหรับพวกไหน
ไม่งั้นเขาจะมี rating ทำไมล่ะเนอะ? :D