PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : แม่ช็อค! เอาข้าวมาส่ง เจอศพลูกโดนเผาคาห้องนอน



โอมอาร์ม
4th November 2012, 11:04
http://toptenthailand.com/2012/img/img_news/1351992206.jpg


ฆ่าโหดเชือดคอหนุ่มก่อนราดน้ำมันเผาคาห้องนอน แม่ผงะเอาข้าวมาส่งเจอศพ ตร.คาดเป็นการฆ่าล้างแค้น ขัดแย้งเรื่องธุรกิจมืด หลังตรวจสอบประวัติพบเคยค้ายาบ้า

(3 พ.ย.) สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่หมู่ 5 ว่า มีคนถูกฆ่าเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 5 บ้านหนองตะโกล่าง ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จึงรุดไปตรวจอสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้ตามร่างกายบางส่วน ลำคอมีรอยถูกเชือดด้วยของมีคมจนหลอดลมขาด ที่บริเวณศีรษะมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมลึกถึงกะโหลก ทราบชื่อต่อมาคือนายวิสุทธิ์ ห้วยกรุต อายุ 28 ปี ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ จึงส่งศพไปยังสถาบันนิติเวชฯ เพื่อผ่าพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง

นางวันนา ตันเถื่อน อายุ 52 ปี มารดาของผู้ตาย กล่าวว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้นำอาหารมาส่งให้ลูกชายตามปกติ เมื่อมาถึงเห็นประตูปิดอยู่ จึงได้ตะโกนเรียกให้ลูกชายเปิดประตูมารับอาหาร แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป และต้องตกใจเมื่อพบว่าลูกชายถูกฆ่าและถูกเผาจนเสียชีวิต หลังจากตั้งสติได้ จึงรีบวิ่งไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ และโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ไม่ทราบว่าลูกชายถูกฆ่าเพราะสาเหตุอะไร เพราะอาศัยอยู่กันคนละบ้าน โดยลูกชายมีอาชีพทำงานรับจ้างขับรถ หลังเสร็จจากงานก็มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง ส่วนประวัติลูกชายของตน เคยถูกตำรวจจับกุมมาหลายครั้ง โดย เข้าๆ ออกๆ จากคุกเป็นประจำ ล่าสุดถูกตำรวจจับกุมในข้อหาค้ายาบ้า 200 เม็ด ติดคุกอยู่ 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียงไม่กี่เดือน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่าตรวจสอบประวัตินายวิสุทธิ์ พบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาค้ายาบ้ามา และลักรถจักรยานยนต์มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน ก่อนก่อเหตุคนร้ายคงอาศัยช่วงที่ผู้ตายนอนหลับ แอบเข้าไปแล้วใช้มีดเชือดคอและฟันที่ศีรษะของผู้ตายจนเสียชีวิต จากนั้นจึงใช้น้ำมันที่เตรียมมาด้วยราดไปที่ร่าง แล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นการฆ่าล้างแค้นกันเอง หรือไม่ก็ขัดแย้งเรื่องธุรกิจมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป