PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [The Ghost Hunter Company]



Blitz
23rd August 2011, 18:02
เป็นนิยายเวียนที่ร่วมกันแต่งกับเพื่อนน่ะครับ

ผลัดกันแต่งคนละ 2 ตอน

ฝากคอมเม้นท์ถึงจุดดีและจุดเสียด้วยนะครับผม

เนื้อเรื่องไม่ออกอวกาศแน่นอนอยู่แล้วครับ มีการประชุมวางโคลงเริ่มและจบกันทุกๆตอน

ขอฝากผลงานนี้ไว้ด้วยนะครับ ~..

ผู้แต่ง :
Blitz
Shockshift


บทเริ่มต้น ผู้แต่ง : Blitz




ถ้าผมบอกว่า ผมเคยไปนรกมาก่อนเหมือนในการ์ตูน คุณจะเชื่อมั้ย ? มันคงเป็นเรื่องตลกมากเลยสินะ เล่าให้ใครฟัง ใครก็คงหัวเราะกันทั้งนั้น..
"เฮลีส แวนเดอร์รา ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนที่ยังมีชีวิตเป็นเด็กเกเร.. อืม.. ฉายาไอ้ลูกซาตานสินะ.. งั้นขอตัดสินให้แกไปอยู่นรกขุมที่ !!.."
".........."

"กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!~"
เสียงนาฬิกาปลุกหน้าตาประหลาดๆ คล้ายสิ่งมีชีวิตอะไรซักอย่างดังขึ้น
"อ๊ะ.. อาา เช้าแล้วเหรอเนี่ย แย่จังแฮะ"
ผมพึมพัมกับตัวเองเสียงเบาๆ ด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น
ทรงผมกระเซอะกระเซิงสีดำสนิทที่ดูเข้ากับรูปร่างหน้าตา ตัดกับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่เล็ดลอดออกมาจากช่องผุๆของหน้าต่าง
หน้าตาของเด็กคนนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว.. แต่แค่ขัดกับนิสัยกันอย่างสิ้นเชิงก็เท่านั้น
"กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!~"
"เออ รู้แล้วๆ ตื่นแล้วว้อย.."
ผมตะโกนออกมาใส่นาฬิกาปลุกรูปร่างแปลกๆ และรีบกดปิดเสียงกริ่งนั่นก่อนที่มันจะทำลายประสาทรับเสียงของผมไปมากกว่านี้
ผมลุกขึ้นจากเตียงที่มีสภาพไม่ต่างจากซากไม้เก่าๆ ถ้ามันพูดได้ก็คงจะบอกว่า 'ลุงจะพยายามให้ถึงที่สุดนะหลานเอ๊ย..'
ผมใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการลุกจากเตียง จนแต่งตัวเสร็จ ใช่.. ผมไม่ได้กินข้าวเช้าแน่นอน ก็แหม.. คนมันจนนี่นา..
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินไปหยิบกระเป๋าสะพายสีเทาที่จัดตารางเรียนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
"ไปก่อนนะครับ"
ผมบอกกับอากาศธาตุในห้องก่อนจะเดินออกไป

ระหว่างทางที่เดินไปโรงเรียนผมก็เกิดอาการหิวขึ้นซะนี่.. แต่เมื่อตรวจเงินในกระเป๋าสตางค์ตัวเองก็ถึงกับต้องถอนหายใจยาวๆออกมา
"เงินไม่พอ จริงๆด้วย.. งั้นกินโคล่าแทนละกันนะ"
ผมพึมพัมกับตัวเองออกมาเบาๆ
"แต่พี่เคยบอกว่า กินโคล่าตอนที่ท้องว่าง จะเป็นแผลในกระเพาะนี่.."
"ก็ช่างเหอะ ก็คนมันหิวนี่หว่า.."
ว่าแล้วก็เดินไปตรงทางม้าลาย แล้วข้ามถนนไปยังซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆนี้ เพื่อไปซื้อโคล่ากินให้หนำใจ
ผมหยิบกระป๋องโค้กออกมาจากตู้แช่เย็นที่มีความสูงพอดีกับหัว หยิบกระป๋องสีแดงที่เป็นรสที่ชื่นชอบของที่สุดออกมา จากนั้นก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ซึ่งมีเจ้าของร้าน อายุประมาณวัยกลางคนยืนอยู่
"เท่าไหร่ครับป้า ?"
" 15 บาทจ้ะ"
"แพงชิบ.."
"ว่าไงนะ ?"
"อ๋อ อะ..เปล่าครับ "
จากนั้นก็เดินออกจากร้านมาพร้อมกระป๋องโคล่าสีแดงที่อยู่ในมือ ผมเดินไปยังทางม้าลายที่จุดๆเดิมเพื่อที่จะข้ามถนนไปยังโรงเรียนซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่ง
"ฮ้าา.. วันนี้ก็ขึ้น ม.ปลายปี 1 แล้วสินะเนี่ย"
ผมคิดในใจแล้วรีบสาวเท้าข้ามถนน โดยที่ไม่ทันสังเกตุว่ามีรถแล่นมาด้วยความเร็วสูงอยู่
"เห้ย ไอ้หนูระวัง !!"
คุณป้าที่อยู่ในซุปเปอร์มาเก็ตก็ตะโกนขึ้นมา
"หือ ?"
เมื่อจับจุดได้ผมจึงหันหน้าไปทางต้นเสียง ที่มีเสียงคล้ายๆรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ตอนนี้ผมอยู่ในอาการตกใจสุดขีด หน้าซีด ก้าวขาไม่ออก ได้แต่ทำตาเหลือกตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า..
"โครมม !!"

".........."
ภาพทุกอย่างเหมือนเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที พอรู้สึกตัวอีกที ผมก็นอนอยู่ข้างๆรถคันหนึ่งที่จอดนิ่ง แต่มีกันชนหน้ายับเหมือนกระแทกกับอะไรเข้าเต็มรัก
เมื่อมองลงมาจากหน้ารถที่ยับนั่น และมองตามรอยเลือดไป ก็เห็นคนๆหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่
"เห้ย นั่นมันตูนี่หว่า !!"
ผมตกใจสุดขีด พร้อมกับลุกขึ้นยืนในเวลาเดียวกัน
"อะ.. อาหาร ~"
เสียงที่แหบพร่าเหมือนคนแก่คอแห้งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม
เป็นเสียงที่ฟังแล้วดูแห้งเหือด แต่แฝงไปด้วยความดีใจ
"หะ.. หิว.. หิวจังเลยเนอะ ~"
"หือ ?"
เมื่อผมหันกลับไปทางต้นเสียง ก็ถึงกับช็อค
"กิน.. กินอาหาร ~"
แหล่งกำเนิดเสียงนี่ มีรูปร่างประหลาด คล้ายก้อนเนื้อที่เอามาอัดเข้าด้วยกันเป็นก้อนๆ มีดวงตาดวงใหญ่อยู่ตรงกลางลำตัว ดูจากขนาดแล้วสูงประมาณ 3 เมตรได้
ความหนาของตัวมัน หนากว่าตัวมนุษย์ปกติถึง 4 - 5 เท่า พร้อมส่งกลิ่นเหม็นเน่าซากศพออกมาจากตัวของมัน
"หะ.. เห้ย นี่ตูไม่ได้อยู่ในโลกการ์ตูนใช่มั้ยเนี่ย ?"
ผมตกใจก้าวขาไม่ออก
"อะ.. อาหาร ~"
เจ้าตัวใหญ่พูดพลางอ้าปากที่ช่องท้องของมัน ราวกับพร้อมที่กลืนกินได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ปัง ! ปัง !
"!"
เสียงปืนดังขึ้น
"กินตะกั่วไปก่อนเถอะ ไอ้มารตัวอ้วน !"
เสียงของเด็กสาวอายุประมาณ 15 ปีดังขึ้นจากด้านข้างของผม
เธอฉุดแขนของผม แล้วลากแขนผมวิ่งด้วยความเร็วชนิดที่ผู้ชายอย่างผมยังก้าวไม่ทัน
"หะ.. เห้ย จะพาผมไปที่ไหนเนี่ย !?"
ผมตะโกนออกไปสุดเสียง
"ก็จะมีที่ไหนอีกล่ะ.."
"ก็นรกไงล่ะจ๊ะ ~"
เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับแลบลิ้นแล้วหัวเราะดัง คิกๆ ออกมา...


ป.ล. ผู้แต่งมือใหม่กันทั้งคู่นะครับ อาจจะใช้คำบรรยายและใช้คำที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ~

Blitz
23rd August 2011, 18:05
ขุมที่ 1 เบ๊..



ขุมที่ 1 เบ๊..

"ตึกๆๆๆๆ"
เสียงฝีเท้าที่ก้าวด้วยความเร็วที่คนธรรมดาไม่มีทางทำได้แน่..
"นะ.. นี่คุณจะพาผมไปไหนเนี่ย !?"
"ก็ไปนรกไง จะให้ย้ำอีกกี่ครั้งกันล่ะ ถามรอบที่ 3 แล้วนะยะ !"
เด็กสาวอายุที่ดูราวๆ 15 ปีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"ไปนรก ? ไปทำไม ? ผมจะไปเรียนนะเห้ย !!"
"นี่เธอยังไม่เห็นศพที่นอนอยู่หน้ารถนั่นรึไง ?"
".........."
นะ.. นี่ผมตายไปแล้วจริงๆเหรอ ไม่น่าเชื่อน่ะ..
"อื้อ ~ ตายไปแล้วจริงๆ"
เด็กสาวตอบราวกับอ่านความคิดผมได้
ผมกับเจ้าเด็กสาวปืนคู่นี่ วิ่งหนีตัวอะไรซักอย่างที่เหมือนก้อนเนื้อมาทับรวมกันแล้วมีกลิ่นซากเน่านั่น มาร่วมๆ 20 นาทีแล้ว
"เอ๊ะ.. ทำไมผมถึงไม่เหนื่อยเนี่ย"
ผมเอียงคอสงสัยพร้อมกับก้าวขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่เสียจังหวะ
"ก็นายเป็นวิญญาณยังไงเล่า นี่โง่จริงๆหรือแกล้งโง่กันเนี่ย ~"
เด็กสาวพูดพร้อมกับหัวเราะ คิกๆ ทำให้ผมโกรธพอดูเลยทีเดียว
"ใครโง่กันเนี่ยฟะ ! อยู่ดีๆก็ต้องมาวิ่งหนีตัวอะไรก็ไม่รู้ เธอเป็นใครก็ไม่รู้ ผมเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้เนี่ย !!"
ผมตะโกนขึ้น
"อา.. โง่จริงๆด้วย"
"งั้นจะตอบทีละคำถามเลยก็แล้วกันนะ ~ อย่างแรก สิ่งที่นายหนีอยู่น่ะเรียกว่ามาร มันจะคอยกินวิญญาณของคนที่เสียชีวิต อย่างนายไง ~"
เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับโหลดแม็กกาซีนชุดใหม่ใส่ปืนคู่ในมือนั้นด้วยความคล่องแคล่ว
"สอง.. ชั้นมีชื่อว่า เวเนสเซีย เป็นยมฑูติ.. มีหน้าคอยมารับวิญญาณบ้องตื้นอย่างนายไง"
เด็กสาวเช็คกระสุนปืนในขณะที่ยังวิ่งอยู่
"สาม.. นายก็คือวิญญาณบ้องตื้นที่เอาแต่ถามอยู่ไงล่ะ วิ่งให้มันเร็วกว่านี้หน่อยสิ !"
อ๊ะ.. เมื่อกี๊ยัยนั่นบอกว่าเป็นยมฑูติเหรอ ฮะๆ จะบ้ารึเปล่าฟะ ยมฑูติที่ไหนจะมาใส่เสื้อกันหนาวติดฮู้ดกับกางเขนขาสั้นจู๋แบบนี้
อ๋า... นี่เราเพิ่งจะมาสังเกตุชุดของยัยนี่เหรอเนี่ย อืม.. แต่ยมฑูติที่เคยเห็นในการ์ตูนมันต้องใช้อะไรนะ.. อ๋อเคียวสินะ
"นี่เธอ เอาแต่หนีทำไม ทำไมไม่ชัก เอ่อ.. เคียวน่ะ.. ใช่.. เคียว.. เอาไปฟันมันเลยสิ"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความมั่นใจในความคิดของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
"หือ ? เคียว ?"
เด็กสาวแสดงสีหน้าสงสัยพลางเอาปืนจากมือข้างหนึ่ง ยกขึ้นมาเกาหัว
"เคียวน่ะ ไม่มีหรอกนะ แต่ถ้าจัดการมารนั่นก็จัดการได้นะ ~"
เหมือนพระเจ้าเป็นใจให้สิ่งที่เธอต้องการ ทันใดนั้น เจ้ามารตัวอ้วนก็กระโดดพรวดขึ้นมาจากใต้ดิน มาขวางข้างหน้าของทั้งคู่ไว้
"เห้ย.. ตัวอ้วนอย่างงี้ยังวิ่งได้เร็วขนาดนี้อีกเหรอเนี่ย ?"
ผมตกใจพลันเหยียดเท้าไปข้างหน้าเพื่อชะลอความเร็วของตัวเองไว้
"มันวิ่งที่ไหนยะ มันบินเอาต่างหากล่ะ ~"
เด็กสาวพูดอย่างอารมณ์ดี พลางหยิบลูกกลมๆในกระเป๋าเสื้อกันหนาวที่มีหมวกฮู้ดออกมา
ยัยนั่นกำลังทำอะไรน่ะ เอ๋.. ดึงสลักออกด้วย เห้ย อย่าบอกนะว่า...
"อย่างที่คิดนั่นแหละจ้าา ~"
เด็กสาวหัวเราะแล้วขว้างลูกกลมๆนั่นออกไปสุดแรง อ๊ะ.. ใช่แล้ว มันคือระเบิดมือนั่นเอง
"ยมฑูติบ้าที่ไหนมันใช้ระเบิดกันฟะ !!!!!!"
"เอ้า มัวแต่พูดมากอยู่นั่นแหละ ก้มลงสิ"
เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับกดหัวผมลงอย่างแรง
"ตูมมมม !!"
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างแรง เสียงดังขนาดทำให้วิญญาณอย่างผมยังหูอื้อได้เลย
อา.. เสียงนาฬิกาปลุกนั่นมันยังดีกว่าตั้งเยอะ..
ร่างก้อนเนื้อของมารตัวนั้นก็กระจุยกระจายไปคนละทิศละทาง แถมยังโชยกลิ่นเหม็นเน่ามาอีกต่างหาก
"เอาล่ะ ปลอดภัยละเนอะ ? งั้นเปิดประตูเลยละกัน"
"ประตู ?"
"ก็ประตูสู่ยมโลกไงล่ะจ๊ะ !~"
"หา ?"
ผมเอียงคอด้วยความสงสัย ผมกับยัยนั่นวิ่งมาถึงที่สวนสาธารณะโล่งๆแห่งหนึ่ง มันจะเป็นประตูได้ยังไงกัน ?
มีแต่หญ้าสิ ฮะๆ.. จะเอาหญ้ามาสานเป็นประตูรึไงเจ๊..
"ขอเวลาชั้นซัก 5 นาทีนะ ระวังให้ด้วยล่ะ"
เด็กสาวพูดขึ้น
"อะ.. อื้อ"
"ถึงเส้นทางแห่งโลกาสู่ยมโลก พื้นปฐพีจงแยกออก ทะเลจงเปิดกว้าง ความเท่าเทียมของพระเจ้าผู้นั้นจะเป็นหนึ่ง "
เอ๋.. อะไรกันน่ะ แผ่นดินไหวเหรอ ?..
ทันใดนั้นเองแทนประตูสูงราว 15 เมตรก็เคลื่อนที่ขึ้นมาจากใต้พื้นดินอย่างช้าๆ
เห้ยๆ.. นี่มันจะเหมือนหนังการ์ตูนเกินไปแล้ว
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องมารอที่นี่กับยัยนี่ตั้ง 5 นาทีด้วย อีกอย่างผมจะหนีก็หนีได้ แต่เอ๊ะ.. ถ้าไอ้อ้วนนั่นมาอีกล่ะ บรื๋ออ !!~ รออยู่นี่ดีกว่า
แต่ อ๊ะ..
ผมจ้องหน้าเด็กคนนั้น
"น่ารักนี่หว่าา"
ผมหลุดปากออกมาเบาๆ แต่ดูเหมือนว่ายัยนั่นจะไม่รู้ตัว
ผมสีทองที่ยาวเป็นประกายแวววับ เข้ากับใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตสีฟ้า ปากนิด จมูกหน่อย ดูเข้ากับเค้าโครงหน้า
เธอใส่เสื้อกันหนาวสีดำที่มีหมวกฮู้ดอย่างท้ายทอย กับกางเกงวัยรุ่นผุ้หญิงขาสั้น ชนิดที่ว่าเลยครึ่งของต้นขาขึ้นมาเลยทีเดียว
"จ้องอะไรน่ะ ?"
"เฮือก !!"
เสียงของเธอทำให้ผมได้สติขึ้น
"เปิดประตูเสร็จแล้วล่ะ งั้นไปได้แล้ว เอาล่ะหลับตาลงซะ"
ยังไม่ทันที่ผมได้พูดอะไร ยัยนั่นก็เอาปืนมาฟาดที่ท้ายทอยผมซะเต็มแรง จนทำให้ผมถึงกับ..สลบ
".........."

"เฮ้ย ตื่นได้แล้ว นอนอะไรนานนักหนาฟะ.."
"โอ๊ยๆ ตื่นแล้ว"
ไม่น่าเชื่อ.. นี่ผมโดนปลุกที่ฝ่าเท้าเหรอเนี่ย เจ็บชะมัด..

"เฮลีส แวนเดอร์ร่า ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนที่ยังมีชีวิตเป็นเด็กเกเร.. อืม.. ชาววาติกันสินะ.. งั้นขอตัดสินให้แกไปอยู่นรกขุมที่..!!"
"เดี๋ยวก่อนค่ะท่านยมบาล"
"ข้าชื่อ "แซนซัส" ว้อย !!"
นี่มันอะไรกันเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว.. อ๊ะ..
ผมเริ่มได้สติ
"ที่นี่นรกเหรอเนี่ย.. ตะแต่.. เดี๋ยวก่อนนะ ท่านยมบาล"
"ข้าชื่อ แซนซัสต่างหากโว้ย เจ้าพวกนี้ !!"
ยมบาลพูดพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมา
"อะ.. เออ นั่นแหละ ผมทำอะไรผิดเนี่ย ?"
"แกไม่มีสิทธิ์มาพูด ไอ้วิญญาณโง่เง่า !!"
".........."

"ข้าขอตัดสินให้เจ้าไปอยู่นรกขุมที่.. !!"
"เดี๋ยวก่อนสิท่านแซนซัส.."
"หือ.. ขัดคอการประหารของข้าซะจริงนะ"
เห้ย.. ประหารงั้นเหรอ
"เจ้ามีปัญหาอะไรกำเจ้าหมอนี่งั้นเหรอไง ?"
"มีค่ะ.. คือชั้น.."
".........."
"จะเอามันไปเป็นเบ๊.. เอ้ย..ยมฑูติค่ะ !!.."
เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ คิกๆ ออกมา..

THELiw
24th August 2011, 20:21
สนุกดีครับขอติดตามเลยละกัน

Blitz
27th August 2011, 12:44
ขุมที่ 2

"เจ้ามีปัญหาอะไรกับเจ้าหมอนี่งั้นเหรอไง ?"
"มีค่ะ.. คือชั้น.."
".........."
"จะเอามันไปเป็นเบ๊.. เอ้ย..ยมฑูติค่ะ !!.."
".........."
"แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน เวเนสซ่า.."
"หุ"
เด็กสาวส่งเสียงเบาๆ ก่อนหันหน้ามาทางผม

"หือ.."
เหมือนผมจะเพิ่งรู้สึกตัวได้
"หะ.. เห้ย ยม.. ยมฑูติงั้นเหรอ ?"
"อื้อ.. ก็ใช่น่ะสิ ทำไม ไม่พอใจอะไรรึไง มีให้เลือก 2 ทางนะ"
เด็กสาวพูดพลางเอามือปิดปากหัวเราะ คิกๆ
"2 ทาง ?"
เอาฟะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเป็นพวกบ้าๆนี่ เอาทาง 2 ละกัน
"หนึ่ง.. มาเป็นยมฑูติกับพวกชั้นซะ... สอง.. ไปลงนรกขุมที่ 13 ไงล่ะ"
".........."
อืม.. ตูเอาทางที่หนึ่งดีกว่าเยอะ..
"อา.. ก็ได้ แล้วไอ้ยมฑูติที่ว่านี่ ทำอะไรมั่งล่ะ วิ่งไล่จับ หรือ..."
ผมนึกถึงเหตุการณ์การที่ยัยนั่นโยนระเบิดมือในเจ้ามารตัวอ้วนนั่นได้ พร้อมกับที่เธออ้าปากพูดออกมา
"ล่า.. สิ่งเหนือธรรมชาติยังไงล่ะ"
"เห้ยเจ๊.. มันไม่ต่างกับลงนรกขุม 13 เลยนะเฟ้ย !!"
ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง
"ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำนะจ๊ะ"
ยัยนั่นเหมือนกำลังหัวเราะเยาะผมเลยแฮะ..
"ตามชั้นมาละกัน.."
เมื่อสิ้นคำยัยนั่น ผมก็เดินตามเธอไปที่ๆบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะเหมือนบ้านของเศรษฐีชาวตะวันตก มีสวนเป็นที่กว้างอยู่หน้าบ้าน ล้อมด้วยรั้วกำแพงรอบด้าน
ผมเดินเข้าไปในรั้วพร้อมกันเวเนสซ่า เมื่อก้าวเข้าไปในอาณาบริเวณของบ้าน ท้องฟ้าและพื้นดินที่เคยเป็นสีแดงก็กลับมาเป็นบรรยากาศปกติ ท้องฟ้าแบบเปิดโล่ง และสวนที่มีหญ้าเขียวขจี
อืม.. ช่างขัดกับสภาพบรรยากาศนรกข้างนอกซะจริง ถ้าเทียบกับอพาร์ทเมนท์เน่าๆของผมนั้นน่ะนะ.. อา.. อย่าเอาไปเทียบกันเถอะ..

"อ๊ะ.. ลืมบอกไป ที่นี่คือบ้านและที่ประชุมของเหล่ายมฑูติสาขานรกนะ.. ทำความรู้จักกับบ้านไว้ซะล่ะ"
เด็กสาวพูดพลางหัวเราะ คิกๆ
"อะ.. อื้อ ฝากตัวด้วยนะ.. เห้ย จะบ้าเรอะ ใครจะไปทำความกับบ้านได้ฟะ !!"
"งั้นก่อนอื่นก็แนะนำ ระบบระเบียบของเหล่ายมฑูติซะก่อนละกัน"
"ยมฑูตินั้นจะแบ่งออกเป็น 5 สายด้วยกัน ซึ่งจะมีความสามารถแตกต่างกันไปตามสายต่างๆ ก่อนอื่นก็คือ
Berserk (เบอร์เซิร์ก ) จำเป็นต้องฝึกพลังพื้นฐานด้านการต่อสู้ระยะประชิด อาวุธประจำหลักๆคืออาวุธจู่โจมทางใกล้
Winchester (วินเชสเตอร์) สายนี้จะใช้อาวุธเป็นสายจู่โจมระยะไกล ต้องใช้ทักษะด้านความแม่นยำสูงเชียวล่ะ
Prayer (เพรเยอร์ ) สามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ด้วยการท่องบทสวดเพียงบทเดียว จะมีจุดด้อยก็คือเรื่องระยะที่ไปถึงและต้องใช้สมาธิสูงในการท่อง
Bartitsu (บาทิสสึ ) ศิลปะการต่อสู้ในระยะประชิดโดยการหักข้อต่อ ต้องฝึกฝนด้วยพลังกายเป็นอย่างมาก
Doctor (ด็อกเตอร์ ) ก็ตรงตามชื่อน่ะนะ แพทย์สนามไง.."
....ทำยังกับเกมส์ RPG ไปได้.. แต่ก็น่าสนใจดีเหมือนกันแฮะ
"Winchester น่าสนใจดีนะ งั้นผมเอาวินเชสเตอร์ก็แล้วกัน"
"ไม่ล่ะ.. ชั้นแค่บอกนายไว้เฉยๆ นายน่ะ จะต้องเป็น [Berserk]"
"หา.. เอาชีวิตผมไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายอีกแล้วเนี่ยนะ ?"
"ทำไมล่ะ.. ก็สายอื่นๆมีคนอื่นเอาไปหมดแล้วนี่ อีกอย่างนะ.. ชั้นก็ว่าสายนี้มันเหมาะกับนายดีด้วย.."
ยัยนี่เอาแต่ใจชะมัด..
"ชิ.. ใจร้ายจริง.."
"ว่าไงนะ ?"
"อ๋อ เปล่าครับ.."

"งั้น ต่อไปก็ต้องอาวุธสินะ.. ตามชั้นมานี่.."
แล้วเธอมาพาผมไปที่ห้องเก็บของเก่าๆห้องหนึ่ง.. ฮะๆ ขนาดห้องเก็บของนี่ยังดูดีกว่าอพาร์ทเมนท์ผมตั้งเยอะ.. เศร้าฟะ !
"ของสายเบอร์เซิร์กก็พวกนี้สินะ.."
เวเนสซ่าพูดจบก็เปิดกล่องขนาดใหญ่สีเงิน ซึ่งในนั้นเก็บอาวุธไว้มากมาย..
ว้าว.. ไม่เสียแรงที่โดนบังคับให้เป็นสายนี้ มีแต่อาวุธเจ๋งๆทั้งนั้น
"งั้นผมเอา.."
"นายเอานี่ไปใช้ละกัน ~"
เด็กสาวพูดพลางเอามือยื่นของอะไรบางอย่างให้ผม พร้อมกับหัวเราะ คิกๆ
"ดะ.. ดาบไม้เนี่ยนะ ?"
"อ๊ะ ใช่แล้ว !"
"โหเจ๊.. เอามีดปอกผลไม้มาให้ผมยังจะดีกว่าซะอีกนะเนี่ย"
"จะเอามั้ยล่ะ ?"
นี่ยังจะมีอีกเหรอ !!?
"มะ.. ไม่ครับ.."
เด็กสาวพูดพลางยิ้มแปลกๆมาทางผม
"งั้น.. ได้อาวุธแล้วนี่เนอะ ตามมาต่อละกัน"
ว่าแล้วเด็กสาวก็เดินนำทางผมไปต่อที่ห้องคล้ายๆห้องนั่งเล่นห้องหนึ่ง ดูยังไงก็ใหญ่กว่าห้องนอนผมหลายเท่าตัวนัก
แอ๊ดด!!~.. เวเนสซ่าเปิดประตูพร้อมกับลากผมเข้าไป
"อ๊าา สวัสดีทุกคน วันนี้ชั้นพาสมาชิกใหม่มาแนะนำให้รู้จักล่ะ.."
อ๊ะ.. ผมสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผมสีบลอนด์เงินยาวประบ่า ดวงตาสีทองที่ดูเหมือนใส่คอนแท็คเลนส์ ใบหน้าอวบอิ่ม
ถ้าหากชายหนุ่มคนไหนเห็น ผมมั่นใจว่าต้องถึงกับหลงรักเธอคนนี้เลยทีเดียว
"พะ.. พี่ !!.. เอลิเซีย !!"
ผู้หญิงผมสีบลอนด์เงินคนนั้น หันมาทางผม เมื่อเห็นผมก็ถึงกับทำหน้าช็อคขึ้นทันที..
"ฮะ.. เฮลีส !?..."

Shockshift
30th August 2011, 19:42
ตอนที่ 3 ผู้แต่ง : Shockshift

คนแต่งคนที่ 2 ขอรับ - -'' (พวกผมสลับกันคนล่ะ 2 ตอน)
-----------------------------

ขุมที่ 3 ... อดีตที่จบลงด้วยการสูญเสีย

"พ ...พี่เอลิเซีย !!"
"เฮลีส !?"

ภาพตรงหน้าผม..คือ ..พี่สาวของผม [เอลิเซีย] ... ที่เสียชีวิตไปเมื่อ ...3 ปีก่อน ..
พี่ในตอนนี้ สวมเสื้อฮู้ดสีดำสนิท ซึ่งตัดกับผมสีบลอนด์เงินของเธอ กับกางเกงยีนที่ไม่รู้ว่าจะสั้นไปไหน ...

"แง ..!!!"

แต่ก่อนที่ผมจะถามอะไร ..พอผมรู้สึกตัวอีกที ... ผมก็ถูกพี่กอดผมพร้อมน้ำตา ....

“พี่ ...”

“ดีใจจังที่ได้พบนายอีก .. ฮือ ....”

ถึงพี่ของผมจะกอดผมแน่นจนผมแทบหายใจไม่ออก แต่ความรู้สึกที่ผมรู้สึกตอนนี้ ..มัน ...

[อบอุ่นเหลือเกิน]

--------------------------------------------

“เอลิเซีย ... เจ้านี่เป็นน้องเธอเหรอ ???”

คนที่พูดขัด คือ ยมทูตที่เรียกตนเองว่า เวเนสซ่า …..
ซึ่งทำให้ผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณที่หล่อนทำให้ผมไม่ต้องไปขุมนรกที่ 13 แล้วมาเจอพี่สาว
หรือ จะต่อว่ายัยนี่ที่มาขัดการเจอหน้าของพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมา 3 ปี กับ ตอนที่ผมเกือบตายเพราะระเบิดยัยนี่ .. (ถึงผมจะตายไปแล้วก็เถอะ)

“อะ ...อือ ...”

เอลิเซียพูดก่อนที่จะปาดน้ำตา และเพิ่งจะรู้ว่าผมเริ่มหน้าเขียวจากการกอดที่แน่นเหมือนการจับล็อคของนักมวยปล้ำ


------------------------------------------------

เมื่อ 3 ปีก่อน ..

หลังจากที่ผมไปซื้อของเพื่อทำอาหารทั้ง 3 มื้อของผมทั้งสัปดาห์ ผมก็ได้เดินไปสถานที่หนึ่ง ที่ผมไป [ทุกวัน]

[โบสถ์] ที่ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นโบสถ์ที่เก่าที่สุดในเมืองนี้ ทุกวันจะมีคนมาสวดมนตร์ตอนเย็น

ผมนั้นไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนามากนัก แต่ที่ผมมาที่นี่ประจำก็เพราะ [พี่สาว] ของผมเป็นซิสเตอร์ประจำโบสถ์นี้ ....
พ่อแม่พวกผมเสียชีวิตไปตั้งแต่พวกผมยังเด็ก ตอนนั้นผมอายุ 8 ขวบได้มั้ง ....

แต่วันนี้มันแปลกๆไป ..
บนฟ้ามีควันลอยโขมงอยู่ แต่ด้วยความสูงของบ้านตรงหน้าทำให้ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าที่กำลังจะถึง ....

แต่ด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง ทำให้ผมเริ่มเดินเร็วขึ้น และ ....เริ่มวิ่ง

-------------------------------------------------

ภายหน้าของผมเป็นภาพที่ผมไม่อยากเชื่อสายตา ควันที่ลอยบนฟ้าเมื่อกี้ ..ไม่ใช่บ้าน
แต่เป็นโบสถ์ที่พี่ผมประจำอยู่ ..........

ข้างหน้าโบสถ์เต็มไปด้วยผู้คนที่มีคนมาดูเหตุการณ์มากกว่าครึ่ง

“พี่ !!!” “พี่ !!!!”

ผมรีบเดินรอบๆฝูงชนพร้อมตะโกนเรียกหาพี่ของผม ด้วยความหวาดกลัว

“เฮลีส !!”

ผมรีบหันหน้าไปทางต้นเสียงด้วยความงุนงงปนตื่นความตระหนก แต่คนที่เรียกผมนั้น ไม่ใช่พี่ผมแต่เป็นซิสเตอร์เจ้าของโบสถ์ ....

“ซิสเตอร์ ! เห็นพี่ผมบ้างหรือเปล่าครับ !?”

“อะ......เอลิเซีย ...เธอ......ยังอยู่ข้างใน ....”

หลังสิ้นสุดประโยคผมไม่รีรอที่จะวิ่งเผชิญหน้ากับกองเผลิง เพื่อตามหาพี่สาวตนเอง


ปึง !!!

ผมรีบกระแทกประตูที่ภายในเต็มไปด้วยเปลวเพลิง …..
สถานที่ ที่ผมวิ่งไปที่แรก คือ ห้องส่วนตัวของพี่ผมเอง
แต่ ...ภายในห้องนั้น มีแต่ความว่างเปล่า ไร้สิ่งมีชีวิต

“……..”

“เฮลีส !!!!!”

ต้นเสียงมาจากห้องโถง ซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหาร
ภายหน้าผมตอนนี้ คือ พี่สาวผมที่อยู่ในชุดซิสเตอร์ กับ ซิสเตอร์อีกคนนึง .....

“เฮลีส ! ช่วยผยุงซิสเตอร์ท่านนี้หน่อย !!”

“แล้วพี่ล่ะ”

“เถอะน่า !!!”

--------------------------------------------


เหงื่อที่ไหล ตอนนี้ไม่ได้มาจากความร้อนของเปลวไฟ แต่มาจาก [ความกลัว] .....

แฮ่ก แฮ่ก ....

ถัดไปอีกประมาณ 2 ห้องก็เป็นทางออก
ความรู้สึกปลอดภัยเริ่มเข้ามาแทนที่ความกลัว ถ้าปลอดภัยตลอดลอดฝั่งก็ดี ...สิ ....

ตูม !!!!

จู่ๆ เพดานก็ถล่มลงข้างหลังผม ถึงมันจะไม่เฉียดผมเลยแม้แต่นิด ...
แต่พี่ที่เดินตามข้างหลังผมนั้น .......

ตอนนี้ผมไม่เห็นพี่ของผม หลังจากเห็นภาพภายหน้าความคิดเลวร้ายก็เริ่มจู่โจมผม ...

“พี่ !!!”

ระหว่างที่ผมเริ่มจะวิ่งไปตรงที่เผดานถล่ม ก็มีคนสวมชุดพนักงานดับเพลิง 2 คนเดินมาจากประตูอย่างรีบร้อนใจ

“เจ้าหนู !! รีบออกไปจากที่นี่เร็ว !!”

“พี่ผมติดอยู่ในนั้น ช่วยพี่ผม ...”

ไม่ทันสิ้นประโยค พนักงานดับเพลิงก็ได้ดึงผมออกจากโบสถ์แบบไม่สนใจคำพูดของผม
ถึงจะขัดขืนยังไง ผมก็ไม่มีแรงที่จะขัดขืนพนักงานดับเพลิงคนนี้ได้ ……

-------------------------------------
เหตุการณ์เพลิงไหม้จบลง ด้วยการที่ตำรวจสรุปว่า เป็นมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ...
เป็นเหมือนเหตุผลที่อ้างอย่างถูๆไถๆ คนบาดเจ็บจากเหตุการณ์ส่วนมากจะเป็นซิสเตอร์กับคนที่มาสวดมนต์ตอนเย็น

ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 1 รายนั้น ...คือ พี่สาวของผมเอง ....

-------------------------------------------

ฮะหว้ากก !!

ผมซูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ หลังจากโดนเอลิเซียจับล็อค(?)อยู่นาน

"ป่ะ ..รีบไปกันเถอะเจ้าเบ๊ ...เอ้ย ...คุณยมฑูติหน้าใหม่"

นั่นมันจงใจพูดชัดๆ !!!

"ปะ ...ไปไหน ?"

ก็เพิ่งมาถึงที่นี่ จะพาไปไหนอีกฟ่ะ !!

"บนโลกมนุษย์ไงล่ะจ๊ะ ~"


---------------------------------------------

Shockshift
4th September 2011, 19:59
ตอนที่ 4 มาแล้ว ~!!!

ตานายเป็ด(Blitz)ลงตอน 5-6 แล้ว ..ช่วงนี้ไม่มีเวลาว่างเลย~(อ้าง)

พวกผมพิมพ์ผิดตรงไหน หรือ ตรงไหนไม่เข้าใจ พวกผมก็ขอโทษด้วยนะครับ(ผงก)

---------------------------------------

ขุมที่ 4 ... ดาบไม้ที่ไร้ประโยชน์ , คาถา และ การพุ่งชน

ละ ...
โลกมนุษย์ ...
ผมตายไปแล้ว ...แต่ได้กลับไปบนโลกมนุษย์ ?? ... หมายความว่ายังไง ?? ....
ผมชักงงกับยัยนี่เข้าไปทุกที ..

"เอาล่ะ ถึงโลกแล้วจ้า ~!!!"
"หา ??"

สถานที่ ที่พวกผมอยู่ในขณะนี้ น่าจะเป็นซอกตึกที่ไหนซักแห่ง ซึ่งทั้ง 2 ข้างตึกเต็มไปด้วย ..ถังขยะ

"ที่ไหนฟ่ะเนี๊ย ?"
"โลกไงจ๊ะ~"

รู้เฟ้ยว่าตูอยู่บนโลกแล้ว !!

หลังเวเนสซ่าพูดเสร็จ จู่ๆ เธอก็หยิบแผ่นกระดาษบางอย่างขึ้นมา และอ่านอย่างเงียบๆเป็นเวลา 2 วิ

".................."
"ไกลเหมือนกันนะเนี๊ย .."
"หา ..อะไรไกล ??"
"[ที่ประชุมยมฑูติ สาขาโลกมนุษย์] น่ะ"

--------------------------------------------

บ้านเมืองในเมืองนี้ ดูเหมือนจะเจริญรุ่งเรืองกว่าบ้านเกิดของผมมาก ..
ทั้งสองข้างทางที่ผมกำลังเดินอยู่นั้น เต็มไปด้วยตึกที่เหมือนห้างใหญ่ๆติดกันมากมาย แต่ล่ะตึกน่าจะสูงไม่ต่ำกว่า 6 ชั้น
ส่วนบนถนนก็มีรถขับผ่านตลอดไม่ขาดสาย

"เฮ้ย !?"

จู่ๆ เวเนสซ่าก็เดินข้ามถนนไปโดยไม่บอกกล่าว
และเมื่อผมจะเดินข้ามถนนตามเธอไป ก็มีฝูงชนเดินข้ามถนนจากฝั่งตรงข้ามบดบังเวนิซ่าออกจากสายตาตา ...

"เวเนสซ่า ..เวเนสซ่า .."

หมับ !!
!! ... ใครจับแขนตูฟะ !?
"นายนี่น้า ~ ...ให้ตายสิ มาเรียกชื่อฉันกลางถนนอย่างนี้มันน่าอายนะยะ"

เวเนสซ่าหน้าแดงแบบเขินอาย จากการกระทำที่ผมทำตัวเหมือน [คนบ้านนอกเข้ากรุง] ....

-------------------------------------------

"วิญญาณเร่ร่อน ...."

เวเนสซ่าพูดขึ้นขณะพวกเรากำลังเดินบนถนนเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยตึกที่เป็นที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ข้างทาง

"หา.. ว่าไงนะ ?"
".........."

หลังพูดจบไม่ทันไร เวนิซ่าก็วิ่งเข้าไปไหนซอยอย่างรวดเร็ว

นี่คิดจะรอตูบ้างมั้ยเนี่ย ...

------------------------------------------

หลังจากที่ผมวิ่งตามเวเนสซ่าทัน ..ผมก็เห็นเธอกำลังหลบหลังกำแพงเหมือนแอบดูอะไรซักอย่าง ...
ทั้งที่วิ่งมาตั้งไกลแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ...หรือนี่จะมาจากการที่ผมตายไปแล้ว ...

"นี่ทำอะไรอยู่น่ะ"
"ชู่ว !!"

นี่วิ่งหนีตูมาตั้งไกล แต่ไม่ยักจะขอโทษเลยหรือไงฟ่ะ ..


กริ๊ดดดดดด !!!!!!


!!!
"ชิ ..ไม่ทันเหรอนี่"

ฟังจากเสียงที่ได้ยิน กับ คำพูดของยัยนี่แล้ว ทำให้ผมรู้ว่าข้างหน้านี้ต้องมีอะไรไม่ดีรออยู่แน่นอน
ไม่ทันไร เวนิซ่าก็วิ่งออกไปโดยไม่บอกผม(อีกแล้ว)

บอกผมหรือส่งสัญญาณมือก่อนก็ได้เจ๊ !!!

----------------------------------------------
ที่ๆเธอวิ่งไปนั้น เป็นซอยที่ห่างออกไป 2 ซอย ทำให้ผมวิ่งตามเธอทันในเวลาไม่นานนัก

"เว...เนสซ่า"

ภาพข้างหน้าคือ สิ่งมีชีวิตที่ตัวสูงกว่าคนปกติเล็กน้อย บนหน้าสวมหน้ากากอะไรซักอย่างที่ปิดปากจนได้ยินแต่เสียงหายใจหอบๆของเจ้านี่
สิ่งมีชีวิตตัวนี้สวมชุดขนาดใหญ่สีขาวออกเทาๆ แขนเสื้อทั้ง 2 ข้างถูกเย็บติดกัน เหมือนชุดของ ...คนบ้าในโรงพยาบาลจิตเวช .....

..... ที่สำคัญ .... บริเวณขาของ [มัน] นั้นมี [ร่างไร้ชีวิต] ของหญิงสาวผู้หนึ่ง จมอยู่ในกองเลือด

"รู้มั้ย ..ยมฑูตหน้าใหม่ ...ว่าทำไมท่านยมบาลถึงตั้ง [ที่ประชุมยมฑูติ สาขาโลกมนุษย์]ที่เมืองนี้"

ถามตูแล้วตูจะไปถามใครฟะ !!?

"เพราะว่าเมืองนี้คือเมืองที่มี [วิญญาณเร่ร่อน] มากที่สุดเป็นอันดับต้นๆไงล่ะ ~"

-----------------------------------------------

หลังจาก [วิญญาณเร่ร่อน] ตนนี้รู้ว่าในสถานที่นี้ ไม่ได้มีแต่มัน กับ [ร่างที่ไร้ชีวิต] ของหญิงสาว มันก็เริ่มที่จะ ....อาละวาด

"ฟืด ...!!"

พอผมหันมาอีกที ตอนนี้เวเนสซ่าก็ถือปืน คู่ใจของเธอทั้ง 2 กระบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
จู่ๆเวเนสซ่าก็กระโดดตีลังกากลับหลังไปอย่างรวดเร็วด้วยเหตุบางอย่าง ...และผมก็ได้รู้เหตุที่เธอกระโดดไปอยู่หลังผม ....

ตูม !!
"อัก !!"

เจ้า [วิญญาณเร่ร่อน] จะวิ่งชนเวเนสซ่า... แต่เพราะเธอหลบไปโดยไม่บอกผม มันจึงชนผมที่อยู่ข้างหลังเธอซะเต็มรักเลยทีเดียว ...
รู้สึกผมจะลอยผ่านเธอไปด้วยมั้ง

ตุบ

ร่างของผมกระแทกกับกำแพงอย่างแรง
บ้าเอยยยยย !!
"ไม่เป็นไรใช่มั้ย ~?"

"ไม่เป็นไรบ้านเธอเด๊ะ !!!"

เวนิซ่าถามผมเหมือนเป็นเด็กที่ไม่รู้ประสีประสา
ผมเริ่มประคองตัวเองให้ลุกขึ้น ด้วยดาบไม้ที่ผมพกมาด้วย (ซึ่งได้รับจากท่านเวเนสซ่าสุดใจดี)

ปัง! ปัง! ปัง!

ดูเหมือนเธอจะไม่สนผมและเริ่มยิง [วิญญาณเร่ร่อน] ตนนี้จนหมดแม๊กกาซีนทั้ง 2 กระบอก ...
ผิดคาด ...เจ้า[วิญญาณเร่ร่อน]ตนนี้ไม่เกิดแผลอะไรขึ้นเลย นอกจากรอยกระสุนของเวนิซ่า
แต่ที่ทำให้ผมเริ่มตั้งท่าใส่เกียร์วิ่ง คือ ...มันเริ่มโมโหมากกว่าเดิม

"ฟืด !!!!!!"

มันวิ่งมาอีกแล๊ ววววววว !!!

ตูม !!!

รอดหวุดหวิดเลยวุ๊ย !!

"............."
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เวเนสซ่ามาอยู่ข้างๆผม
เธอทำท่าเหมือนครุ่นคิดซักพัก ...และพอเจ้า[วิญญาณเร่ร่อน]ตั้งสติได้จากการชนกำแพงของมันนั้น เวเนสซ่า ก็พูดว่า ..

"แผน B นะจ๊ะ ~"

เธอมีแผนด้วยเหรอฟร๊าาาาาา !!!
จู่ๆเวนิซ่าก็กระโดดไปยืนบนเชือกราวตากผ้า(?)ที่เป็นสายต่อระหว่างตึกทั้ง 2 ฝั่ง

"แผน B เป็นยังไงล่ะ !?"
ผมรีบทำการตะโกนถามแผนการของเธอ ก่อนที่ผมจะโดนชนจนเละไม่เป็นท่า

"ก็ให้นายเป็นตัวล่อไงล่ะ ~"

เฮือก !!
ยัยนี่มีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าฟร่ะ

ไม่ทันไร เวเนสซ่าก็ท่องคาถาอะไรบางอย่าง (แต่สำหรับผมแล้วเหมือนเธอบ่นพึมพำกับตัวเองมากกว่า)

"ฟืด !!!"
"บ้าเอ๊ย !!!"

ผมรีบมองไปรอบๆเผื่อจะมีอะไรที่พอ [ช่วย] ชีวิตของผมได้บ้าง

ถังแก๊ส ???

ข้างหลังผมมีถังแก๊สประมาณ 3-4 ถังพอจะได้ สงสัยข้างในจะเป็นร้านอาหารละมั้ง ...ถ้าเจ้า [วิญญาณเร่ร่อน]วิ่งชนจะระเบิดมั้ยนะ ...

ตุบ ตุบ ตุบ
"ฟืด !!"

เจ้า[วิญญาณเร่ร่อน]มันเริ่มวิ่งมาทางผมอีกครั้ง .....
หึหึ
พอมันวิ่งใกล้ผมประมาณ 4 เมตร ..ผมก็รีบกระโดดหลบไปทางด้านซ้าย ...
ระเบิดไปซะ !!

ขวับ !!

เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ...มันวิ่งมาทางซ้ายเหมือนอ่านจิตใจผมออก
"!!!"
ซวยโคตรรรร !!!

ปัง !!!!

จู่ๆก็มีแสงน้ำเงินอมสีม่วง(?)ลูกใหญ่วิ่งเป็นเส้น [ทะลุ] ร่างของวิญญาณเร่ร่อนตนนี้ ..
ส่วนคนที่ยิงก็ไม่ใช่ใครอื่น ..ยัยเวเนสซ่าที่หนีไปบ่นพืมพำข้างบนนั้นเอง

"เฮ้อ ~คาถานี้ท่องยากชะมัด ..ก็อย่างว่าน่ะนะ ทำไมเวทมนตร์ดีๆถึงท่องยากกันนักนะ ..."

ท่อง ?? ...แต่ก็ช่างเถอะ ..ไหนๆก็ต้องขอบคุณยัยนั้นที่ช่วยชีวิตผมอยู่ดี
ตุบ
เจ้า[วิญญาณเร่ร่อน]ลุกขึ้นมาด้วยขาข้างซ้ายของมัน ...
"ฟืด ...ฟืด ..."
ถึงสภาพของมันจะสะบักสะบอม .....แต่จากระยะที่ห่างจากผมไม่ถึง 2 เมตร มันคงสามารถชนผมติดกำแพงที่อยู่ด้านหลังในเวลาอันสั้น
"จะ ...เจ้าเบ๊ของฉัน !!!"
แม้แต่เวนิซ่าก็คาดไม่ถึง ..ว่าการยิงของเธอ [ยังไม่ดีพอ] ในการกำจัดวิญญาณตนนี้
ผมจับดาบไม้แน่นด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดหรืออะไรซักอย่าง ..
ตายอีกรอบแน่เลยตู ...

ตูม !!!!!

จู่ๆก็มี [อะไรบางอย่าง] พุ่งออกมาจากกำแพงด้านซ้ายมือของผม ชนเจ้า [วิญญาณเร่ร่อน] .... [ทะลุ] เข้าไปในกำแพงอีกฟากนึง

"........"

ผมอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้าซักพักนึง ก่อนจะมองไปที่เวเนสซ่า ..ดูเหมือนเธอจะไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เวเนสซ่ากระโดดลงมาจากสายราวตากผ้าที่แขวนติดระหว่างตึกทั้ง 2 ฟาก
"เกิดอะไรขึ้นเหรอเจ้าเบ๊ .."

นี่กะจะไม่ถามว่าตูเป็นยังไงบ้างเลยเหรอฟ่ะ ...

"เนี้ยว ~"

เนี้ยว !?
เสียงเหมือนสัตว์จำพวก [แมว] ดังออกมาจากรูที่เกิดจากการที่ [อะไรบางอย่าง] ชนเจ้า [วิญญาณเร่ร่อน] ....
เนื่องจากฝุ่นจำนวนมากบดบังทัศนวิสัย ..ผมจึงไม่เห็นว่า [อะไรบางอย่างนั้น] คืออะไร ...
ตุบ ตุบ
เสียงเดินดังเข้ามาทางผมกับเวเนสซ่า ...ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ....ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ....

"เนี้ยว ~!!!"

ร่างที่เหมือนเด็ก(?) สูงพอๆกับผมวิ่งเข้าไปกอดเวนิซ่า ..แบบที่เวนิซ่าตั้งตัวไม่ทันจนล้มลงกับพื้นทั้งคู่ ..
พอเธอถอดฮู้ดที่มีเครื่องประดับคล้ายๆหูแมวออก (บนฮู้ดมีรูปลูกตาใหญ่ๆน่ารักๆติดอยู่ด้วย)
ผมก็ได้รู้ว่าเด็กคนนั้น ..เป็นผู้หญิง ...

หน้าตาถือว่าสวยมากเลยทีเดียว ต่างกับผมยาวเขียวอ่อนของเธอ
เธอสวมเสื้อฮู้ดสีเหลืองออกส้มซึ่งบงบอกถึงว่า เธอก็เป็น [ยมฑูต] เหมือนเวเนสซ่า
ในมือของนั้น ...สวมสิ่งที่ผมเรียกว่าถุงมือเหล็กสีเทาขนาดใหญ่ ที่ยาวถึงศอกของเธอ ซึ่งตอนนี้มันมีรอยเลือดที่น่าจะเกิดจากที่เธอ [พุ่ง] ชนเจ้า [วิญญาณเร่ร่อน]เมื้อกี๊ ..

และแล้วเธอก็ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าผม พร้อมทำหน้าแบบสงสัย

"ฉัน [เอริน่า] ยมฑูต สาขาโลกมนุษย์ นายเป็นใครไม่ทราบยะ !!?"

โอ้โฮ ..การทักทายคนเจอที่เจอครั้งแรก ของ ยัยนี่ ช่างสุภาพยิ่งนัก ..

------------------------------------------------------

Blitz
12th September 2011, 23:14
ขุมที่ 5 ความวุ่นวายในบริษัทกำจัดผี
------------------------------------------------------------------

หลังจากที่ผมรอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อตอนเช้าที่แล้ว.. ไม่สิ.. หลังจากที่ผมเกือบตาย.. ไม่สิ.. ผมตายไปแล้วนี่หว่า..
เอาเป็นว่าหลังจากที่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้มาได้ ผมจึงได้เดินทางต่อมายังสถานที่ๆหนึ่ง ซึ่งสภาพไม่ต่างจากห้องของผมเท่าไหร่นัก
พวกสาวๆเรียกบริษัทนี้ว่า [ที่ประชุมยมฑูติ สาขาโลกมนุษย์] ซึ่งมีฉากหน้าชื่อว่าบริษัทกำจัดผี
อืม.. ชื่อแบบนี้ใครจะมาเข้าฟะ !?

------------------------------------------------------------------
"อ๊ะ ยืนทำหน้าเอ๋ออะไรอยู่นั่น เข้ามาสิ !"
เมื่อได้ยินเสียงจากเวเนสซ่า ผมก็รู้สึกตัวได้ทันที..
"อะ.. อือ ละที่นี่ที่ไหนเนี่ย ?"
ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะสถานที่นี้แปลกตามาก ไม่เหมือนประเทศไทยที่ผม[เคย]อยู่..
"อ๋อ.. เอ่อ.. อ๊ะ.. แป๊บนึงนะ"
เวเนสซ่าพูดพลางยกกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาดู พร้อมกับหมุนกระดาษแผ่นนั้นไปมาหลายด้าน
นี่อย่าบอกนะว่าที่เธอดูน่ะ..
"เวเนสซ่า.. นี่เธอดูอะไรของเธอน่ะ ?"
".......... อ๊ะ.. ก็แผนที่ไง ~"
ถะ ถุ๊ย !! นี่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้หรอกเหรอฟะเนี่ย.. นี่ตูไว้ใจหล่อนได้มั้ยเนี่ย.. !!?
"อ้า.. เอิ่ม.. ที่นี่ก็คือ [ที่ประชุมยมฑูติ สาขาโลกมนุษย์] ที่กรุงวาติกันไง ถ้าอ่านไม่ผิดน่ะนะ "
"ถ้าอ่านไม่ผิด ? ดะ.. เดี๋ยวนะ นี่พาผมมาไกลขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ?"
เวเนสซ่าหัวเราะร่า พลางลากแขนผมเข้าไปยังตึกที่ไม่น่าจะเรียกว่าที่ประชุมได้เลยแม้แต่น้อย..

------------------------------------------------------------------
ภายในห้องมีสภาพต่างกับข้างนอกโดยสิ้นเชิง ภายในตึก ไม่สิ.. เรียกว่าเป็นบ้านเล็กๆเลยดีกว่า
ทางเข้าจากประตูบ้านมาจะเป็นทางเดินยาวไปถึงห้องโถง มีห้องเรียงรางอยู่ตามทางเดินเหมือนในโรงแรมไม่มีผิด
มีห้องโถงหรือห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง ประกอบด้วยสี่ห้องนอนที่มีห้องน้ำภายในตัว และห้องว่างๆรวมถึงห้องเก็บของจำนวน 2 ห้อง
ภายในห้องประดับอย่างหรูหรา เครื่องใช้และเครื่องประดับทั้งหมดทำจากทองและเพชร ห้องถูกแต่งในสไตล์ตะวันตก
"โว้ว.. หรูชิบเป๋ง !"
"น่าแปลก.. บ้านหรูขนาดนี้ไม่ยักกะมีโจรมาปล้นบ้างหรือไง.."
ผมคิดพลางหลุดปากพูดออกมา
"ก็มีบ้างนะ แต่ไม่ยักจะเห็นใครมีชีวิตกลับออกไปซักคน"
เวเนสซ่าพูดพลางหัวเราะ คิกๆ
"นายอยากลองเป็นโจรดูมั้ยล่ะ เนี้ยว ?~"
เอริน่าพูดเสริม พลางเอามือเท้าสะเอวแล้วหัวเราะออกมา
"เฮือก..!!"
ยัยพวกนี้ไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างเล๊ย..
"อ๊ะ เอ้อ.. แล้วเอลิเซียล่ะ ?"
"อ๋อ เอลิเซียบอกว่าเดี๋ยวตามมาน่ะ เห็นว่ากำลังทำเรื่องรับยมฑูติหน้าใหม่อยู่นี่"
อ๊ะ.. ! ผมสินะ..


------------------------------------------------------------------
"ถ้างั้นก่อนอื่น ห้องทางซ้ายมือนี่เอาเป็นของนายละกันนะ เดี๋ยวชั้นให้เพื่อนชั้นมาอยู่เป็นเพื่อนละกัน เนี้ยว~"
เอริน่าพูดพลางชี้นิ้วไปทางห้องซ้ายมือ มีป้ายหน้าห้องเขียนว่า [ห้องเก็บของ]
"อะ.. อื๋อ.. อื้อ.. เอาก็เอา"
ผมขี้เกียจที่จะเถียงกับยัยผู้หญิง(เหลือน้อย)นี่แล้วล่ะ
"อ๊ะ แล้วก็ไปช่วยยกของที่อยู่หน้าห้องมาด้วยนะ !~"
เอริน่าพูดขึ้นก่อนที่จะเดินไปช่วยเวเนสซ่าชงชา ดูเหมือนว่าเวเนสซ่าจะชงชาไม่เป็นสินะ แบล๊คเมย์ไว้ๆ
"แต่เอ๋ ?.. ยกของงั้นเหรอ ? ตอนผมเข้ามาก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา"
ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน
"......................"
ที่หน้าบ้านปรากฎกองสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกจัดเก็บใส่กล่องอย่างเป็นระเบียบ มีความสูงราว 3 เมตรได้..
"ต้องขนหมดนี่เลยเหรอ ?.."
ผมพูดกับอากาศธาตุก่อนที่จะเริ่มยกกล่องทีละกล่องเข้าไปยังในบ้าน

------------------------------------------------------------------
และแล้วการลำเลียงกล่องก็เสร็จไปได้ด้วยดี.. นี่ก็ปาไปเกือบ 5 โมงแล้วล่ะสิ
ผมนั่งพักเหนื่อยหลังพิงกับข้างหลังของโซฟาเนื่องจากพวกสาวๆบอกว่า [ห้ามหนุ่มๆนั่งบนโซฟานี้นะจ๊ะ ~]
"ชิ.. แย่จริงๆ"
ผมกระเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์

"กะ.. กลับมาแล้วค่ะ.."
เสียงนุ่มนวลและสุภาพที่ผมคุ้นหู เสียงที่ไม่ว่าจะฟังยังไงไม่ก็ไม่เคยเบื่อ..
"อะ.. แฮ่กๆ.. เอลิเซีย ?" <<[ไม่ใช่นิยายฮาเร็มนะเฟ้ย]
ผมไม่มีแรงที่แม้แต่จะหันหน้าไปหาต้นเสียง
"อ๊ะ !? เฮลีสเองเหรอจ๊ะ"
เอลิเซียจริงๆด้วย..
เอลิเซียเดินมาประคองตัวผมขึ้น เหมือนว่าเธอจะพาผมไปนั่งบนโซฟา
ผมรีบโบกมือปฏิเสธเธอโดยแทบจะทันที
"เวเนสซ่าบอกว่าไม่ให้นั่งน่ะ.."
ผมพูดพลางส่ายหัวไปมา
"ฮิฮิ โดนสาวๆแกล้งมาล่ะสิ ไม่เป็นไรหรอก.. นั่งเถอะ เธอแค่หยอกเล่นน่ะ"
ผมหัวเราะ แหะๆ ก่อนที่จะนั่งลง พร้อมกับที่เอลิเซียเดินไปเทน้ำมาให้
"พวกสาวๆไปไหนล่ะ ?"
เอลิเซียถามขึ้น พร้อมกับที่ผมก็เพิ่งจำได้ว่า เวเนสซ่าฝากให้บอกว่าเอลิเซียว่า [ไปซื้อของใช้ของสาวๆกับเอริน่านะ]
"อ๊ะ.. เวเนสซ่าบอกว่า ไปซื้อของใช้ชองสาวๆกับเอริน่า น่ะ"
เอลิเซียพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่จะยกแก้วน้ำมาให้ผมแก้วหนึ่ง
"พะ.. พี่.. ผมมีเรื่องอยากจะถามพี่เยอะแยะเลยล่ะ.."
"ฮะๆ.. ถามมาสิจ๊ะ"

------------------------------------------------------------------
ผมได้คุยกับเอลิเซียถึงเรื่องที่เธอตายไปแล้ว เรื่องยมฑูติ รวมถึงเรื่องที่คุยกันเรื่อยเปื่อย รวมเวลาคร่าวๆแล้วได้ประมาณ 4 ชั่วโมงได้
ผมจึงได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า หลังจากที่เอลิเซียตายไป เวเนสซ่าก็พาเอลิเซียเข้ากลุ่มทันทีเช่นเดียวกันกับผม(?)
เธอทำงานเป็นยมฑูติมาร่วม 3 ปีแล้ว และคอยเฝ้ามองผมโดยตลอด 2 ปีมานี้..
"อ๊ะตอนนี้ก็ 3 ทุ่มกว่าแล้วนี่เนอะ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ" <<[ไม่ใช่นิยายฮาเร็ม ไม่ต้องไปคิดมาก]
"อะ อื้อ"
เธอไม่เคยเปลี่ยนไปจริงๆ แม้จะไม่เคยเจอกันมา 3 ปี แต่ผมก็จำลักษณะนิสัย และทุกๆอย่างของพี่ได้ทั้งหมด ไม่เคยลืม และไม่คิดที่จะลืม...

------------------------------------------------------------------
ปัง !!..
เวเนสซ่าถีบประตูพรวดเข้ามาอย่างแรง
"เห้ย ของดีๆเดี๋ยวก็พังกันหมดก่อนสิฟะ !!"
ผมพูดขึ้น พลางเห็นที่ในมือของเวเนสซ่ากำลังลากคอเสื้อเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนคนหนึ่งอยู่
เพราะเขาก้มหน้าผมจึงมองหน้าได้ไม่ชัดนัก...
เวเนสซ่าดูเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก แต่เอริน่ากลับหัวเราะร่าตลอดทางที่เดินเข้ามาในห้อง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ ?"
"ก็ [คิส] ดันไปแอบดูเขาถ่ายหนังโป๊กันอยู่น่ะสิ ก็เลยโดนเจ๊เนสสิ(เวเนสซ่า)จัดหนักเข้าให้ เนี้ยว~"
เอริน่าพูดขึ้นมา พลางหัวเราะอย่างไม่มีมารยาท
"ผะ.. ผมแค่ดูนิดเดียวเองนะคร้าบ ~.."
"จะนิดหรือจะเยอะมันก็ดูเหมือนๆกันแหละย่ะ !!"
เวเนสซ่าแยกเขี้ยวขึ้น พลางยิงกำปั้นลงที่ท้ายทอยของเด็กหนุ่มคนนั้น แรงซะจนหน้าฟาดพื้นเลยทีเดียว
"ย๊ากกก... เจ๊บละคร้าบ ยอมแล้วคร้าบ ไม่ทำอีกแล้วคร้าบ ~"
เด็กหนุ่มนั่นพูดพลางที่นอนกลิ้งไปมา

"อ๊ะ เฮลีส เจ้านี่แหละที่ชั้นจะให้มานอนกับนายน่ะ ~"
เอริน่าพูดขึ้น
"อ๊ะ เฮลีสเหรอ ?"
เด็กหนุ่มนั่นหยุดดิ้น พร้อมกับเอามือยันตัวขึ้นมา
"ไม่ได้เจอกันนานนะ ~"
เด็กหนุ่มนั่นยิ้มหล่อๆแล้วเงยหน้าขึ้นมาซึ่งทำให้ผมมองหน้าของเขาได้ชัดๆ
ผมทีทองแวววาวที่เหมือนย้อมสีผมมา หน้าที่เรียวยาวราวกับในการ์ตูน รูปทรงองค์ประกอบของใบหน้าที่สาวๆเห็นเป็นต้อง กรี๊ด
พร้อมกับแว่นกรอบสี่เหลี่ยมหน้าตาแบบขอไปที ที่ประดับอยู่บนหน้านั้น
ใช่.. ผมเคยเจอชายคนนี้มาก่อน..

"หะ.. เห้ย.. ไอ้คิส !?"
"ใช่.. ชั้นเอง ~"
คิสคือเพื่อนสนิทของผมตอนอยู่ ม.ต้น แต่คิสต้องย้ายไปเรียนต่อ ม.3 ที่ต่างประเทศ
ต่อมาผมก็ได้รับข่าวว่าเขาตายจากเหตุการณ์สังหารหมู่ ที่โรงเรียนของเขา
"ชะ ชั้นนึกว่าแกจะตายไปแล้วซะอีก.."
"ก็ตายไปแล้วไงล่ะฟะ นี่โง่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะเนี่ย"
คิสพูดขึ้นพลางทำหน้าเยาะเย้ยใส่ผม
"ชิ.."
แปลกมากที่ผมไม่รู้สึกโกรธมันเลยซักนิดเดียว แต่กลับดีใจด้วยซ้ำ ที่ได้เจอหน้ามันอีกครั้ง
"ก่อนอื่น ก็ไปนอนก่อนเถอะ.. มีอะไรจะถามค่อยเก็บไว้ถามที่โรงเรียนแล้วกัน"
หา ?.. โรงเรียน ?
"แกพูดอะไรของแกน่ะ"
ผมยังไม่เข้าใจอะไรเลยซักอย่าง
"นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ทุกคนจะต้องไป [โรงเรียนยมฑูติ] ยังไงล่ะ"
เวเนสซ่าพูดขึ้นพลางหัวเราะ คิกๆ ~
"อะ.. อือ"
ผมตอบตกลงไป เพราะไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องพักผ่อนบ้างแล้วล่ะ
ผมเดินเข้าห้องนอนซึ่งอดีตเคยเป็นห้องเก็บของมาก่อน.. ผมลงไปนั่งที่ชั้นล่างของเตียง 2 ชั้น ก่อนที่จะหลังไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่า [ผมลืมอาบน้ำ]..


------------------------------------------------------------------

awoy
18th September 2011, 21:49
กรี๊ด พี่โบ๊ท แต่งกาพย์ฉบัง11(ไม่ไช่แล้วเฟ้ย)

ทำเป็นการ์ตูนเลย

Blitz
19th September 2011, 15:54
ขุมที่ 6
------------------------------------------------------------------

"ตื่น !!.. ตื่นได้แล้ว !!"
เสียงของเด็กผู้หญิงวัย 15 ปีดังขึ้นอย่างน่าหนวกหู
"อะ.. อือ.. ขอ 15 นาทีน่าา ~"
"นี่มัน 6 โมงครึ่งแล้ว.. สายไม่ได้นะ ! วันนี้นายต้องไปโรงเรียนวันแรกนี่"
ห๊ะ เอ๋.. วันนี้ผมต้องไปโรงเรียนเป็นวันแรกนี่
ผมรีบดีดตัวขึ้นจากเตียงในทันที
"โครม !!"
"อ๊ากกกก"
หัวผมโขกเข้ากับชั้น 2 ของเตียงพร้อมทำให้เจ้าคิสตื่นขึ้นทันที
"กะ เกิดอะไรขึ้น !!? ผีบุก มารมาถล่ม หรือโลกแตก ?"
คิสตะโกนโวกเวกโวยวายขึ้น ก่อนที่จะลงไปนอนต่อ..
ผมนั่งมองคิสอย่าง งงๆ ก่อนที่จะลุกขึ้น แล้วเดินออกไปจากประตู เพื่อตรงไปอาบน้ำ
"อ๊ะ เมื่อวานเราลืมอาบน้ำนี่หว่า.."
"ใช่ !.. ทุเรศมาก !!.."
เวเนสซ่าพูดขึ้นพร้อมทำตาหยี ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
"หะ.. หัวเราะอะไรเล่า.."
อารมณ์เสียแต่เช้าเลยแฮะ..
ผมเดินออกมาหน้าห้องก็พบ เอลิเซีย และเอริน่านั่งดูทีวีด้วยกันสบายใจเฉิบ..
"แหม.. ตื่นเช้ากันจังเลยนะพวกเธอเนี่ย"
"อื้อ ! ก็ใครจะไปขี้เกียจแม้กระทั่งจะปลุกตัวเองให้ตื่นล่ะ เนี้ยว ~"
เอริน่าพูดขึ้น พลางเอามือมาป้องปากตัวเองไว้แล้วหัวเราะเยาะออกมา..
"เฮ้อ.. ชีวิตตู.."
ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูในห้องของตัวเอง และหันไปมองคิสที่หลับน้ำลายไหลยืดอยู่บนเตียงตัวเองนั้น..
"อา.. หนังโป๊อาทิตย์หน้านี่เรื่องอะไรน้า แจ๊บๆ ~"
คิสละเมอออกมา ก่อนที่จะหมุนตัวหันหลังให้ผม..
"ทุเรศจริง.."


------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ.. ก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินเข้าไปในห้อง
ระหว่างทางก็เห็นคิสนั่งดูทีวีกับพวกสาวๆอย่างสบายใจเฉิบ(?)
"หะ.. เห้ยคิส นี่แกไม่อาบน้ำเหรอเนี่ย ?"
"อาบละเฟ้ย มันมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนอยู่แล้ว ไอ้.."
คิสทำปากเผยอใส่ผม ก่อนที่เอริน่าจะหัวเราะ ก๊ากๆ ออกมาอย่างไร้มารยาท..
"ชิ.."
ผมกระเดาะลิ้นขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์.. ก่อนที่จะเดินไปแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อย
เครื่องแบบของโรงเรียนนี้คล้ายๆ เครื่องแบบนักศึกษาที่ประเทศไทย คือเสื้อเชิร์ตแขนยาว ผูกเน็คไทไว้ที่คอ
ตามด้วยกางเกงขายาวสีดำ ที่กระเป๋าเสื้อมีเข็มกลัดเครื่องหมายของโรงเรียนติดอยู่..


------------------------------------------------------------------
เนื่องจากผมล่าช้าที่สุดในบ้าน ผมจึงแต่งตัวและทำธุระทุกอย่างเสร็จทีหลังคนอื่น..
"ปะ.. ไปโรงเรียนกันเถอะ.."
ผมหยิบกระเป๋าและดาบไม้ขึ้นมาสะพายข้าง ก่อนที่จะเดินไปลากแขนเวเนสซ่าขึ้น
"อะไรน่ะ ? นายก็ไปโรงเรียนกับพวกเอลิเซียสิ"
"อะ อ้าว แล้วเธอไม่ไปโรงเรียนหรือไง เวเนสซ่า ?"
เวเนสซ่าส่ายหน้า 2 ครั้ง
"ชั้นจะไปทำไม ? สมองชั้นน่ะฉลาดกว่านายเป็นร้อยเท่าเลยรู้มั้ย ?"
"คร้าบๆ"
จากนั้นผมก็รีบสาวเท้าออกไปจากบ้านทันที โดยที่ไม่สนคำบ่นของยัยเวเนสซ่าที่ดัง แว้ดๆ มาตามหลัง..

------------------------------------------------------------------
ในที่สุดพวกผมก็เริ่มออกเดินทางไปโรงเรียนด้วยการ [เดินเท้า]
ใช่วันนี้เป็นวันแรกสำหรับนักเรียนใหม่อย่างผม ผมจะไปสายไม่ได้สินะ !!
แต่เมื่อพวกผมเดินกันไปได้ซักพัก..
"อ๊ะ.. ได้กลิ่นวิญญาณเร่ร่อนน่ะ"
เอลิเซียพูดพลางหันรีหันขวาง เหมือนกำลังมองหาอะไรซักอย่าง
"ตามมา.."
เอลิเซียพูดขึ้นแกมออกคำสั่ง.. เธอรีบเดิน เดินเร็วขึ้น และเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมกับคิสแทบตามไม่ทัน
จากนั้นเธอก็หยุดเดินทันทีที่หน้าปากซอยๆหนึ่ง จึงทำให้พวกผมเดินตามเธอได้ทัน
"นั่นไง !!"
เอลิเซียชี้นิ้วไปที่ทางเข้าซอยเปลี่ยวๆ ที่ทั้ง 2 ข้างทางเป็นป่าทั้งหมด

สิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกผมก็คือ มนุษย์ที่มีความสูงเพียงแค่ 150 เซนติเมตรกว่าๆ
เพียงแต่มีดวงตาที่กลวงโบ๋ ผิวหนังเหี่ยวแห้งซูบเซียว ร่างกายที่เปรอะไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และสวมชุดที่ขาดรุ่งริ่ง
"อ๊ะ ?.."
เจ้าวิญญาณนั่นหันหน้ามาทางพวกผม พลางแสยะยิ้มขึ้น..
"ฆ่า... ฆ่า..."
[มัน]พูดขึ้นพลางควักมีดพร้า 2 อันออกมาจากกระเป๋าเสื้อขาดๆของมัน
"หึหึ.. ฮ่าฮ่าฮ่า.. ตาย... ตายซะ !!"
มันวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์ธรรมดา ก่อนที่จะง้างมีดพร้าขึ้น เพื่อเตรียมสับ..
สับหัวผมนี่หว่า ?..
"เห้ย !"
ผมรีบดีดตัวออกจากที่นั่นทันที พร้อมกับควักดาบไม้ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
"ช่วยถ่วงเวลาไว้ให้ด้วยนะ"
เอลิเซียพูดขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าป่าไป
"อะ เห้ย.. เห้ย แล้วผมล่ะ ?"
"ห่วงอะไร แกยังมีชั้นอยู่นี่ทั้งคน"
คิสพูดขึ้นพร้อมกับเก๊กหน้าหล่อราวกับคนที่เพิ่งมีบทพูดกับเขาซักที
"ก็ดีอยู่หรอก.. ว่าแต่แกนี่สายอะไร หา ?.."
"ด็อก.. เตอร์.."
"............"
พระเจ้าครับ.. ฆ่าผมให้ตายเลยเหอะ..
"นี่แกจะเอาอะไรไปสู้กับมันฟระเนี่ย ห๊าา !!?"
"ถึงกายจะสู้ไม่ได้ แต่ใจสู้ได้ชิลๆนะจ๊ะ"
"............"
พระเจ้าครับ.. อย่าฆ่าอย่างเดียว เผาให้ด้วยนะครับ..
"เหอ ?.."
เจ้าวิญญาณนั่นกระโดดมาหาผมอีกครั้ง.. คราวนี้มันง้างมีดของมันขึ้นทั้งสองแขน แล้วสับลงเต็มแรงมาทางผม
"ไม่มีโอกาสหนีพ้นแล้ว!!.."
ผมกำดาบไม้ของผมไว้แน่น ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าหาวิญญาณนั่นอย่างเต็มแรงดีด..
"โดดไปทำไมเล่า ! เดี๋ยวก็ตายหรอก !!"
คิสกระโดดถีบผมเข้าเต็มรักก่อนที่ผมจะกระเด็นออกจากวงมีดของเจ้าวิญญาณนั่น..
ผมล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้น ไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นยืนเนื่องจากอาการจุก
"เจ็บนะโว้ยยยย !!"
"แก... ฆ่า... ฆ่าให้ตาย.."
วิญญาณนั่นกัดฟันแล้วหันมาทางคิส.. ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้ามาหาคิสแทน
"คิสสสสสส !!!"
ฉั๊วะ !!..
เลือดสดๆ กระเซ็นขึ้นมาต่อหน้าต่อตาผม.. คิสล้มทั้งยืนลงไปนอนจมกองเลือดของตัวเอง..
นี่ผมทำอะไรไม่ได้ซักอย่างเลยเหรอเนี่ย ?..
"หึหึ.. ฮ่า~ .. ฆ่า.."
วิญญาณนั่นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ก่อนที่จะง้างมีดขึ้นมาเหนือหัวผม..
จบกันแล้ว..สินะ..
ผมหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง..
"............"
สวบ !!..
"............"
แสงอะไรซักอย่างพุ่งเป็นเส้นตรงผ่านกระโหลกของวิญญาณเร่ร่อน จากด้านหนึ่ง ทะลุออกจากอีกด้านหนึ่ง
"เฮลีส ! ไปช่วยคิสก่อน เดี๋ยวพี่ถ่วงเวลามันให้เอง"
เอลิเซียมาพร้อมกับคันธนูที่ไร้สาย ที่มีขนาดใหญ่พอๆกับตัวของเธอเอง
"อะ.. อื้อ !"
ผมรีบลุกแล้ววิ่งไปหาคิส..
"เห้ย คิส นี่แกเป็นอะไรมากมั้ย"
"ชะ.. ชั้นคงมาได้แค่นี้ล่ะนะ.."
ฉากดรามาติคนี่มันอะไรกันฟะ ใครตอบได้ช่วยตอบที..
"ชั้น.. ดีใจนะที่ได้เจอหน้าแกอีก เฮลีส.."
นะ นี่ผมจะช่วยอะไรมันบ้างได้เนี่ย ผมหมดทางช่วยแล้วจริงๆเหรอ ? คิสมันจะได้ออกบทแค่ 2 ตอนจริงๆน่ะเหรอ ?
ผมช่วยอะไรมันไม่ได้จริงๆเลยเหรอเนี่ย..
"โธ่เว้ยย !!"
ผมสบถออกมา.. อ๊ะ !! ความคิดชั่ววูบแล่นเข้ามาในหัวของผม.. ใช่ !.. มันต้องได้ผลแน่ !
"คิส.. ถ้าแกรอด.. ชั้นจะ.."
"............"
"ชั้นจะเลี้ยงหนังโป๊ของสัปดาห์นี้เอง !!"
แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ คิสลุกขึ้นมานั่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
"เฮลีส.. อัดพลังแค้นลงที่ดาบของนายไว้ซะ.."
"หะ.. เห้ย นี่รอดจริง ?"
"เออ.. อย่าลืมหนังโป๊ด้วยล่ะ"
คิสเอายาอะไรซักอย่างมาฉีดที่คอผม.. มันร้อนวูบวาบมาก.. มีความรู้สึกเหมือนมีพละกำลังขึ้นมากมายก่ายกอง
"Strength พลังแห่งความแข็งแกร่ง จงชี้นำทางแก่เจ้า.."
ผมควบคุมตัวเองไม่ได้.. ผมทำได้แค่เพียงดูการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของตัวเองเท่านั้น
"จงตายในดาบเดียว.."
คิสพูดขึ้น..
ผมกระโดดขึ้นด้วยความสูงที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาถึงหลายเท่านัก พลันฟาดดาบลงมาที่หัวของวิญญาณเร่ร่อนด้วยแรงที่ผมก็ไม่อาจบอกได้
"ย๊าาา !!"
ดาบของผมตัดวิญญาณเร่ร่อนออกเป็น 2 ซีก ก่อนที่เอลิเซียจะท่องอะไรซักอย่างซึ่งทำให้วิญญาณไปสู่สุขคติ
ตอนนี้ดาบไม้ของผมได้หักไปแล้ว..
"............"
"ก่อนอื่น.. พาชั้นไปโรงพยาบาลหน่อยเถอะ.."
คิสพูดขึ้นก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น..
"อ่าว.. เห้ย !! คิสส !!"

------------------------------------------------------------------
"แจ๊บๆ.. อา.. อาโออิ~"
เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนี้เลยทำให้พวกผมอดไปโรงเรียนกันจนได้ และลงเอยที่ต้องไปเฝ้าคิสซึ่งนอนละเมออย่างสบายใจอยู่ในโรงพยาบาล..

ทำให้ผมได้รู้ว่า.. วิญญาณก็เข้าโรงพยาบาลได้เหมือนกันนะ !!~


------------------------------------------------------------------

Shockshift
25th September 2011, 12:40
ขุมที่ ...7 "BL , รถไฟ และ มีด"

----------------------

"ฮ้าว ~"
ตี 5 ทำไมถึงตื่นแต่เช้าตรู่อย่างนี้นะ ...ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
ผมรีบลุกจากเตียง 2 ชั้น ซึ่งผมนอนชั้นล่าง ส่วนเจ้า [คิส] นอนชั้นบน ..ซึ่งตอนนี้ชั้นบนของเตียงไม่มีใครนอนอยู่
เนื่องจากคิสโดน [วิญญาณเร่ร่อน] โจมตีกลางทางทำให้เจ้าคิสได้นอนโรงพยาบาลไป (เห็นบอกว่าจะตามไปโรงเรียนทีหลัง)

หลังจากเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว ผมก็คิดได้ว่าน่าจะออกไปหาอะไรดื่มที่ห้องครัวก่อนซักหน่อย

อาคารที่ผมอาศัยอยู่นั้น เป็นอาคารที่ภายในลึกลับกว่าภายนอก ที่ยมฑูตเรียกกันว่า [ที่ประชุมยมฑูต สาขาโลกมนุษย์]
ส่วนภายนอกเป็นบริษัทคล้าย รับกำจัดผี (ซึ่งแน่นอน ไม่เคยมีใครมาใช้บริการเลยซักครั้ง)

"ดีจ้า ~!!"
"...."

คนที่ทักทายผมคือ ยัย [เวเนสซ่า] ยมฑูตตัวจิ๋ว(กว่าผมนิดนึง)ที่เกือบฆ่าผม(ทางอ้อม)ไปหลายรอบ
ผมทำเป็นไม่สนใจหล่อน ในขณะที่เวเนสซ่ากินมันฝรั่งกรอบดังกรุบๆอยู่บนโซฟา

"กินขนมแต่เช้าเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก"
"เรื่องของฉันย่ะ"
เอ้า...โดนโกรธซะงั้นตู

--------------------------------------------------------------

"เน้ .."
"หือ ?"
จู่ๆเวเนสซ่าก็เรียกเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกับผม ในขณะที่ผมกำลังดื่มน้ำอยู่ในห้องครัว
"ไปปลุกเอริน่าให้หน่อยสิ ~"
"........"
"แล้วทำไมเธอไม่ไปปลุกเองล่ะ"
ผมถามยัยเวเนสซ่าก่อนที่จะเดินไปหาเธอในห้องนั่งเล่นที่อยู่ข้างๆกัน
"แหม ~ ก็เอริน่าจังตื่นยากนี่นา นานๆทีขอนั่งเล่นในห้องเฉยๆบ้างเด๊ะ"
โห ..ธาตุแท้ๆ
"ชั่งเหอะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เธอไปปลุกเองก็แล้วกัน"

แกร็ก แกร๊ก

อะเด๊ะ ? เสียงคล้ายๆใครชักปืนออกมาเลยเนอะ

-----------------------------------------------------------

"......"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
".........."
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"..............."
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ
".........................."
ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง !!!!

เฮ้ย ! ตายในห้องหรือเปล่าฟ่ะ !!
หลังจากที่ผมเคาะ(?)ประตูหน้าห้อง[เอริน่า]อยู่นาน ผมก็เข้าใจลึกซึ้งว่าทำไม ยัยเวเนสซ่าถึงให้ผมมาปลุกเอริน่าแทนตน

ถ้าไม่ใช่เพราะยัยเวเนสซ่าเอาปืน[จ่อหัว]ผมน่ะนะ ผมจะไม่มาเหยียบหน้าห้องนี้เลย

".....(เหงื่อตก)"
"ขอเข้าห้องหน่อยนะครับ ..."

------------------------------------------------------------

สภาพในห้องของเอริน่านั้น ...มีแต่ [ตุ๊กตาสัตว์] ??
มองไปทางซ้ายหรือขวาก็มีแต่ตุ๊กตาเล็กใหญ่เต็มไปหมด สีของห้องนั้นก็ ...[ สีชมพู ] ...
ฮวาก ~
ทำเอาผมอ้าปากนานไปหลายวิเลยทีเดียว
ยัยนี่มีความชอบแตกต่างจากตัวตนภายนอกนะเนี๊ย
พอผมได้สติกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผมก็มองเห็นเด็กผู้หญิงนอนอยู่บนเตียงสีชมพู

เธอมีผมสีเขียวอ่อนเหมือนใบหญ้าอ่อน และมีหูสัตว์บนหัวของเธอ(ซึ่งผมไม่รู้ว่านั้นเป็นหูสุนัข หรือ หูแมว)
ซึ่งแน่นอน คนที่นอนขดตัวบนเตียงที่หมอนกระจุยกระจายไปทั่วห้อง ก็คือ ...

"อ...เอริน่า ..เช้าแล้วนะ ...ครับ .."
ทำไมจู่ๆตูก็พูด "ครับ" ขึ้นมาฟร่ะ ...ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
"อือ ..."
"....."
"เอริน่า เช้าแล้วนะ ..ครับ ..."
"งือ ~"
"เอริน่า ..ครับ ..."
ควับ
ดูเหมือนเอริน่าจะรำคาญมาก จนเธอเอาผ้าห่มคลุมโปงเลยทีเดียว
"........................."
ตุบ
"หือ ?"
จากการที่เธอสะบัดผ้าห่ม ทำให้เหมือนมีอะไรบางอย่างตกข้างเตียง ทำให้ผมสงสัยจนเดินไปหยิบมาดู
(และผมก็เพิ่งคิดได้ว่า ผมไม่น่าเดินไปหยิบมันเลย)

"หนังสือการ์ตูน [เกย์] ??"

รู้สึกเหมือนโลกหยุดไปหลายวิใหญ่ๆ
"....."
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยยยยยยยยย !!!

"กริ๊ด !!!!!!"
จู่ๆเอริน่าที่นอนคดอยู่บนเตียงอยู่นาน ก็กระโดดตัวลอยมาจากเตียง และ ...
ปรั๊ก!!! กร๊อบ !!
เตะคอผมเต็มๆ

"เกิดอะไรขึ้น !!"
จู่ๆเวเนสซ่าจะเปิดประตูดัง ปัง ! เข้ามาในห้องเหมือนเกิดเหตุไฟไหม้ในบ้าน
"ว...เวเนสซ่า ..ช่วยป๋มด้วยกั๊บ"
เสียงเปลี่ยนเลยตู
"เวเนสซ่าช่วยฉันด้วย เจ้าหมอนี่มันจะมาลวนลามฉัน ฮือ ฮือ .."
เอริน่าวิ่งมาหาเวเนสซ่าและซุกอกเธอ แล้วร้องไห้โฮใหญ่
เฮ้ย !! แล้วที่เตะคอตูดัง กร๊อบ เมื่อกี๊คือ 'ไรฟ่ะ
"เลวมากเลยนะนายเนี่ย ~!!"
ผิดคนแล้วก๊าบ !!

------------------------------------------------------

6 โมงครึ่ง
กว่าจะทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จ ก็ได้ออกมาจากบริษัทและออกเดินทางไปโรงเรียน
เนื่องจากเจ้าคิสไม่อยู่ด้วย ทำให้ผมต้องเดินไปกับ เวเนสซ่า และ เอริน่า
ซึ่งการเดินทางนี้เต็มไปด้วย ...ความเงียบ
ผมทำการเดินห่างจาก 2 คนนั้น ประมาณ 2-3 เมตร เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน(?)

"....."
เอริน่าหันกลับมามองผมด้วยสายตาราวสัตว์ป่ามองเหยื่อ(ตัวน้อยๆ)
เฮือก !!!
นี่โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

จะว่าไป ....
หน้าปกหนังสือเกย์ที่เจอในห้องเอริน่านี่มัน ....
ไม่รู้ว่าผมหน้าแดงหรือเปล่า แต่เอริน่าที่หันกลับมาอีกทีดูท่าว่าจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ และ ...

ป้าบ !!!
กระโดดเตะหน้าผมซะปลิว
พี่ครับ ....ผมบินได้ ~

"เอริน่า มีอะไรเหรอ ~?"
เวเนสซ่าผู้ไม่รู้ว่าแกล้งทำเป็นไม่เห็นเหตุการณ์หรือเจ้าตัวไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นก็หันมาถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ มี [แมลงวัน] เกาะหน้าหมอนี่น่ะ เลย[ปัด]ให้น่ะ"
โกหกกันหน้าด้านๆเลยเนอะ

--------------------------------------------------

ตึง !!
"ถ้านายบอกใคร เรื่อง ...หนังสือ ...นั้น ...."
ไม่ทันจบประโยค จู่ๆเอริน่าก็หน้าแดง
ตุบ !!
อ้อก ! จะต่อยท้องตูทำไม ~

หลังจากที่ถึง(หน้า)โรงเรียน เอริน่าก็ลากผมเข้าไปในซอยๆเล็ก ก่อนที่เวเนสซ่าจะสังเกตุ
และดูเหมือนเหตุการณ์นี้จะไม่จบลงง่ายๆซะด้วยสิ

"นาย ...ห้ามบอกใคร...เรื่อง ....หนังสือของฉันนะยะ"
สายตาของเอริน่าตอนนี้มันยิ่งกว่าตอนเดินมาโรงเรียน ซึ่งเหมือนสัตว์ประหลาดตัวใหญ่จ้องสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋ว
"ค...ครับ"
"......."
หลังจากจับคอเสื้อผมอยู่นาน เอริน่าดูเหมือนจะเชื่อใจในคำพูดของผม
"........"
ดูเหมือนเธอจะหน้าแดงนิดหน่อย ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่รอผม
เฮ้อ ..รอดแล้วตู

----------------------------------------------

สภาพโรงเรียนที่ผมย้ายมาเรียน(อย่างกะทันหัน)ก็ปกติธรรมดา แตกต่างจากที่ผมคิดเอาไว้(มากโข)
"อ่ะ ! ใช่ เฮลีสนายอยู่ห้องเดียวกันกับ คิส กับ เอริน่า นะ~!!"
หา ?
ทำไมเหมือนมันจงใจให้อยู่ห้องเดียวกันเลยว้า
"จะว่าไป แล้วเธอล่ะ อยู่ห้องไหนละ ?"
"ฉันเป็น[รุ่นพี่]นายนะย่ะ จะไปอยู่ชนชั้นเดียวกันกับนายได้ไง ~!?"
เวเนสซ่าตอบกลับผม เหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติ
หา ?
นี่ยัยจิ๋วนี่เป็นรุ่นพี่ตูเหรอเนี๊ย จอห์นนี่ไม่เชื่อ ~

-----------------------------------------------

ตกเย็น เวลา 4 โมง ครึ่ง
เหมือนเรียนในโรงเรียนเก่า โชคดีที่เนื้อหาบทเรียนยังไปไม่ไกลมากจากเนื้อหาที่ผมเรียนจากโรงเรียนเก่า

เนื่องจากวิชาสุดท้ายคุณครูติดธุระมาสอนไม่ได้ พวกผมเลยต้องมานั่งที่ม้านั่งรอเจ๊เวเนสซ่าที่เรียนเลิก 5 โมงเย็น
"เฮ้อ .."
ผมรู้สึกเหมือนชีวิตหลังความตายมันก็ไม่แตกต่างจากชีวิตปกติเท่าไหร่นัก
"เอ้า"
ดูเหมือนเอริน่าจะเพิ่งออกไปเดินซื้อน้ำ มาแจกผมกับคิส
แต่น้ำที่ผมได้นั้น ...
"น้ำขิงสด !?"
"อือใช่ เหมาะกับนายดีออก"
ตรงไหนฟ่ะ
ในชีวิตผมไม่เคยกินน้ำผักมาก่อน ปกติได้กินน้ำอัดลมก็ถือว่าหรูแล้วละ

เอาไงเอากันฟ่ะ
อึก อึก
เนื่องจากผมหิวน้ำมาก ทำให้ผมดื่ม[น้ำขิงสด]ไปรวดเดียวหมดทั้งขวด
"..........."
รสชาติลึกซึ้งดีเนอะ

----------------------------------------------

5 โมงเย็น เวเนสซ่าก็วิ่งออกมาท่าทางลุกลี้ลุกลน
พร้อมข่าวร้ายที่ผมไม่ได้ยิน

"เบื้องบนสั่งออกมา ให้ไปสำรวจที่สถานีรถไฟใต้ดินร้าง ในเมืองล่ะ ~"
"........"
"ได้ยินว่าแถวนั้น[วิญญาณเร่ร่อน]เยอะด้วยด้วยนี่นา"
สิ่งที่เอริน่าเสริม มันทำให้ผมขนลุกทันที
"แต่ส่วนมากจะมีแต่วิญญาณเร่ร่อน[ธรรมดา]อ่ะนะ"
ถ้าจะเสริม ก็ช่วยเสริมให้มันจบทีเดียวสิครับ !!
"อ่ะใช่ ..คิสนายยังไม่หายบาดเจ็บนิ นายกลับบริษิทก่อนเลยก็ได้นะ"
จากมุมมองผมแล้ว ดูเหมือนเจ้าคิสจะแอบยิ้มลับหลังด้วยนะ
"เฮ้ย เฮลีส ...โชคดีว่ะ"
ไม่ต้องมาพูดเป็นหนังอีโรติคเลยนะ(เว้ย)

------------------------------------------------

จากโรงเรียนไปสถานีที่ว่า ใช้เวลารวม 20 กว่านาที ...ทำให้ฟ้าเริ่มมืดจนบรรยากาศของสถานีดูน่ากลัวไปโดยปริยาย
ถึงยังไงเวเนสซ่าก็ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร ..แต่ว่า

"น..นี่เรา...ต้องเข้าไปข้างในนี้จริงๆเหรอ ..?"
เอริน่าตัวสั่นหน้าซีดงึกๆอยู่ข้างหลังของเวเนสซ่า
หู(สัตว์)ของเธอก็งอลงเหมือนสุนัขที่กลัวบางอย่างสุดขีด
"นาๆ ไม่เป็นไรหรอกเอริน่า มีฉันอยู่ทั้งคนนี่นา ~"
เวเนสซ่าลูบหัวเอริน่า เหมือนกับเธอคิดว่าเอริน่าเป็นสัตวืเลี้ยงมากกว่าอ่ะนะ

ตรงทางลงสถานีรถไฟใต้ดินมีไม้อัดปิดทางอยู่ เหมือนกับว่าที่นี่จะปิดให้ร้างจริงๆนั้นแหละ
จากบริเวณรอบๆทางเข้าไม่มีผู้คนเดินผ่านเลย เหมาะกับการ[ลักลอบ]เข้าไปแบบ ....

ปัง !! ปัง !! ปัง !!

.....ลับๆ ..........
พอผมหันไปด้านหลัง ก็เห็นว่าเวเนสซ่าชักปืนออกมายิงไม้อัด จนพรุน ..
"นี่ค่อยๆเอาไม้ออกดีๆก็ได้นิ .."
"มันยุ่งยากอ่ะ ~"
เฮ้อ ...ให้ตายสิ ทำอะไรไม่เคยบอกคนอื่นเหมือนเดิมเลยนะยัยนี่

-------------------------------------------

"นี่ เอาไฟฉายมากี่อัน ?"
"ม...ไม่มี"
"ฉันนึกว่าเบ๊อย่างนายเอามาแล้วซะอีก~"
โอ้ ชิท ..

ภายในสถานีนั้น มันเหมือนกับสภาพในหนังสยองขวัญ ม้านั่งที่สนิมเกาะ หน้ากระดาษที่ปลิวไปตามกระแสลมที่พัดมาจากที่ไหนซักแห่ง
ตะไคร้น้ำที่เกาะเต็มกำแพง พอเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเผลอจินตนาการถึงผีหน้าตาโหดๆ .....
เฮือก !!
หลังจากเวเนสซ่าเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟทั้งหมดในสถานี (ในสภาพที่โดนเอริน่าเกาะไว้แน่น)
พอไฟเปิด ผมก็ได้รู้ว่าทั้ง [ทางเข้า และทางออกของรถไฟโดนหินถล่มไปหมด] และบนทางรางรถไฟก็มีเศษเหล็กเต็มไปหมด
"........"

ครืนนนนนนนนนนนนน !!!

จู่ๆก็มีเสียงเหมือนรถไฟ(?)มาจากฝั่งทางขวา ทั้งๆที่มีหินถล่มอยู่
"นี่ เวเนสซ่า ...ได้ยินเสียงรถไฟมั้ย ?"
ผมถามเวเนสซ่าในขณะที่เธอกำลังเดินสำรวจรอบๆสถานี (โดยมีเอริน่าจับหลังเสื้อเธออยู่ไม่ห่าง)
"ไม่นิ หูฝาดเปล่า~?"
"เหรอ .."
หรือว่าผมจะหูฝาดไปจริงๆ

ครืนนนนนนนนนนนนน !!!

หือ !?
"ว...เวเนสซ่า ได้ยินมั้ย ..."
ดูเหมือนเวเนสซ่าจะไม่ได้ยินจริงๆ เธอก็ยังเดินสำรวจสถานีเหมือนเดิม
"...."
หรือว่าผมได้ยินคนเดียว

ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!!!!!

เสียงรถไฟคราวนี้ใกล้ทางที่ถูกหินถล่ม จนน่ากลัว
ชนแน่ๆ ชนแน่ๆ
"!?"

สิ่งที่ผมเห็นและได้ยินไม่ใช่เสียงรถไฟชนแต่อย่างไร
แต่มัน ...[ทะลุ]หินที่ถล่มเหมือนไม่มีหินอยู่ตรงเส้นทางของมัน

สภาพรถไฟ ไฟไหม้ไปทั่วทั้งคัน มีเสียงโหยหวนของเหล่าผู้คนที่ถูกไฟคลอกข้างในเป็นอะไรที่น่าสยดสยองมาก
แล้วรถไฟคันนั้นก็ตกราง ...
ตูม !!!

"........."
การระเบิดครั้งใหญ่ของรถไฟ ทำให้เศษชิ้นส่วนของรถไฟกระจุยกระจายไปตามที่ต่างๆในสถานี แต่ไม่โดนผมเลยแม้แต่น้อย
เวเนสซ่ากับเอริน่าก็ยังคงเดินสำรวจตามปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผู้โดยสารบนรถไฟที่ยังไม่ตาย ต่างพากันออกมาจากสิ่งที่ไม่อาจเรียกได้ว่า[รถไฟ]คันเดิม ด้วยสภาพไฟคลอกทั้งตัว...และต่างมองมาทางผม[ทุกคน]
ตาของพวกเขา ต่างมีเส้นเลือดแดงเต็มตาจนเหมือนจะร้องไห้ออกเป็นเลือด แสดงถึงอาการที่เขาจะตายในอีกไม่ช้า

"กริ๊ด !!"
เสียงเวเนสซ่า !?
พอผมหันไปทางเวเนสซ่ากับเอริน่า และหันกลับมาทางรถไฟอีกที ก็พบว่า ..
มัน[ว่างเปล่า] ...
ผู้คนที่โดนไฟคลอก รถไฟที่ไม่เหลือลักษณะที่จะเรียกว่ารถไฟ ..ทั้งหมดนั้นหายไปหมด
เหลือแต่ เศษเหล็กที่ผมเห็นในตอนแรก
หรือว่าผมหลอนไปเอง ...แต่ภาพที่ผมได้เห็นมันยังติดตาผมอยู่

แต่ตอนนี้ไม่ใช่ประเด็น ดูเหมือนเวเนสซ่าจะมีเหตุร้ายอยู่
ผมรีบวิ่งไปทางเวเนสซ่า และพบว่า ...

เวเนสซ่านอนจมอยู่ใน[กองเลือด]
"ว...เวเนสซ่า !!!"
ผมรีบอุ้มเธอ ดูเหมือนเธอจะหมดสติอยู่ ... และตรงท้องของเธอมีแผลโดนแทงดูเหมือนแผลจะลึกมากซะด้วย

"หึ หึ หึ"
เสียงที่คุ้นเคย..
เอริน่าพูดในขณะที่เธอถือ[มีด]ที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเวเนสซ่า

"เจ้าหนูน้อย ช่างโง่เขลายิ่งนัก"

----------------------------------------------------

PeaceterZero
28th September 2011, 09:11
อ่านจบแล้ววครับ ว่าแต่ 2 คนนี้ช่วยกันแต่งซินะ = =เยอะจริงๆ รออีกตอน

Shockshift
14th October 2011, 11:54
ต้องขอโทษจริงๆนะครับ ที่ลงตอน 8 ช้า(มาก)น่ะครับ

-------------------------------------

ขุมที่ 8 ...ความหลัง

-------------------------------------

"แม่ขา ..หิวน้ำมั้ย ? เดี๋ยวหนูไปหยิบมาให้"
เด็กสาวตัวน้อยๆ กล่าวขึ้น
ผมสีเขียวอ่อนคล้ายใบหญ้าของเธอสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่สอดมาจากหน้าต่าง ที่ส่องมาใน[ห้องผู้ป่วย] ห้องหนึ่ง
"......."
หญิงสาวผู้ป่วยที่ถูกเรียกว่าแม่ เงียบเหมือนไม่สนใจเด็กน้อยแต่อย่างไร
"หรือว่า ..แม่อยากกินขนมมากกว่า เดี๋ยวหนูลงไปซื้อมาให้นะ"
ตุบ ตุบ ตุบ
เด็กน้อยตัวเล็กคิดตามประสาเด็กประถม และรีบวิ่งลงไปซื้อขนมที่ชั้นล่างของอาคารผู้ป่วย
"......."

-----------------------------------

"หึ หึ หึ"
"อ..เอริน่า"
ความคิดต่างๆพุ่งเข้ามาในหัวผมแบบไม่ขาดสาย คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ...ใช่ [เอริน่า] แน่เหรอ ?
เอริน่าที่กำลังถือมีดแกว่งไปมาอย่างกับของเล่น มองมาทางผมกับเวเนสซ่า ด้วยสายตาที่อย่างกับคนเสียสติ ที่จ้องกินเลือดกินเนื้อ
"เอายังไงต่อดีค่ะ [แม่]"
แม่เหรอ ?
ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงงกับคำพูดของเอริน่า แม่ของเอริน่าเหรอ ? แต่เท่าที่ผมจำได้ในนี้มีกันอยู่ "3" คนนะ
"ค่ะ ..ได้ค่ะ ..แม่"
หลังจบคำพูด เอริน่าก็พุ่งมาทางผมกับเวเนสซ่าพร้อมกับมีดที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเวเนสซ่า
ฉึก !
เนื่องจากผมเอามือบังข้างหน้าผมเอาไว้ ทำให้มีดแทงมาทางแขนของผมจังๆ
อึก ..โชคดีแทงไม่ทะลุแฮะ
เอริน่าไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบดึงมีดออกจากแขนของผม และตั้งท่าจะแทงซ้ำ
ขอบอกตามตรงตอนดึงมีดออกมันเจ็บกว่าตอนแทงเยอะ ...
ผมรีบสะบัดมือเธอให้เธอล้ม เผื่อจะให้เธอเสียสมาธิไปบ้าง และรีบวิ่ง ...ไปที่ๆคิดว่าน่าจะปลอดภัย สำหรับ[เวเนสซ่า]

----------------------------------------

แฮก แฮก
ตอนนี้ผมอยู่ตรงหลังเสาในมุมมืดของสถานีรถไฟ มันห่างจากตรงนั้นไม่มากนัก ทำให้ผมหวั่นๆใจอยู่
"เวเนสซ่า ตื่นๆ ไม่เป็นไรใช่มั้ย ...ไม่สิ ..เป็นอะไรมากมั้ย"
เฮ้ยๆ ตายหรือเปล่าฟร่ะ
ผมรีบจับชีพจรตรงข้อมือของเธอ ชีพจรเธอยังเต้นอยู่
เฮ้อ นี่ ผมฟุ้งซ่านไปเองเหรอเนี่ย ..ใจเย็น ..ใจเย็น
เลือดตรงท้องของเธอเริ่มมีมากขึ้น ..ถ้าคนที่กลัวเลือดมาเห็นคงสลบแน่ๆ
ผมรีบเหล่ออกไปตรงที่เอริน่ายืนอยู่ แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว ...
หลังจากนั้น ผมถอดเสื้อนักเรียนมาพันรอบๆท้องเอริน่าแบบลวกๆ
ผมเคยเห็นในหนังบ่อยๆตอนคนบาดเจ็บแล้วพระเอกหรือนางเอกจะพันแผลให้ แต่ส่วนมาก ..จะไม่รอดทุกราย
ตอนนี้ก็ได้แต่สวดมนตร์ ขอให้เอริน่าไม่มาพบเธออ่ะนะ

---------------------------------------

"แม่ขา !! หนูได้ขนมมาแล้ว ~"
เด็กน้อยพูดด้วยเสียงร่าเริง ในมือของเธอมีขนมต่างๆนาๆที่สามารถกินได้ทั้งคืน
"......."
"นี่ๆ หนูซื้อลูกอมมาให้แม่ด้วย รสสตอเบอรี่ด้วยนะ สีแดงเหมือนชุด[พนักงานดับเพลิง]ของแม่ด้วยล่ะ แฮะๆ"
หลังจากที่หนูน้อยวางข้าวของมากมายลงบนโต๊ะกลางแล้ว เธอก็ชูอมยิ้มสีชมพูอมแดงที่ตนเป็นคนชอบขึ้นมา
"นี่รสโปรดหนูด้วยนะ รสชาติมัน หวานๆเปรี้ยวๆ ด้วยล่ะ ~"
"นี่ ..."
จู่ๆหญิงสาวผมสีเขียวอ่อน ผู้เป็น[แม่]ของเด็กน้อยก็เริ่มปริปากพูดเป็น[ครั้งแรก] หลังจากออกมาจากการผ่าตัดนานหลายชั่วโมง

"ขอโทษนะ ...ป้าจำหนูไม่ได้จริงๆ"

--------------------------------------

"เอริน่า !! ออกมาพูดกันดีๆก่อนก็ได้"
ตอนนี้ผมอยู่บนรางรถไฟในโซนที่แสงสอดส่องทั่วถึง เนื่องจากถ้าผมอยู่กับเวเนสซ่าแล้วเอริน่ามาเจอเราอาจไม่รอดทั้งคู่
เคร้ง !!
ผมรีบหันไปทางต้นเสียง เสียงมันเหมือนเหล็กตกพื้น ซึ่งเสียงมันสะท้อนดังกังวาลไปทั่วสถานี
"เอริน่า ..."
ตุบ ตุบ ตุบ
เสียงวิ่งดังรอบๆตัวผม จู่ๆก็ทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ..มันเหมือนฉากในหนังสยองขวัญมากจนทำให้ผมเริ่มสติแตก
พอผมหันมาทางต้นเสียงอีกที ..
"!!!"
เอริน่ายืนจ้องหน้าผมอยู่ข้างหน้าผมพอดีเด๊ะ ทำให้ผมตกใจจนหลุดปากออกมา
"อ..เอริน่า"
จู่ๆเอริน่าก็ชักมีดออกมาก่ะจะแทงผมอีกรอบ ผมรีบดีดตัวไปข้างหลังทัน แต่มันก็ทำให้ผมล้มลงเพราะตั้งหลักไม่ทัน
เอริน่าคอยๆเดินมาทางผม ช้าๆ ..
"เน้ เฮลีส ~ ถึงกับมาให้ฉัน[ฆ่า]เลยเหรอเนี่ย ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันขี้เกียจหานายด้วยสิ แหะๆ"
ตุบ
"อัก !"
เอริน่ากระทืบแขนข้างที่ผมโดนแทงอย่างแรง และมองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดหยาม
มันเจ็บมากจนรู้สึกชาเลยทีเดียว
ก่อนที่เธอจะกระทืบแขนผมอีกครั้ง ผมก็เตะขาของเธอจนล้ม แล้ว ..นอนค่อมเธอไว้เพื่อให้เธอขัดขืนไม่ได้(รึเปล่า ?)
ยอมรับจริงๆว่าผมแอบหน้าแดงนิดหน่อย
ปรั๊ก !!
"อ้อก .."
เฮ้ย ! ทั้งๆที่แขนโดนจับอยู่แท้ๆยังอุตสาใส่เข่าได้เนอะคนเรา
เนื่องจากผมเอามือข้างนึงจับท้องเอ าไว้ จึงถูกผลักออกมา
"นี่ ...มานอนค่อมคนอื่นมันเสียมารยาทนะย่ะ"
เอริน่าลุกขึ้นอย่างช้า และพูดด้วยความเขินอาย(ละมั้ง)

ตุบ ตุบ ตุบ

เสียงคนเดินช้าๆมาจากข้างหลังของเอริน่า หรือว่าจะเป็นเวเนสซ่า ..แต่ยัยนั้นสลบอยู่ไม่ใช่เรอะ
ร่างของเจ้าของเสียงเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ
[สิ่ง]ที่เดินเข้ามานั้นไม่ใช่คน แต่เป็น [วิญญาณเร่ร่อน] ที่ดูออกง่ายดายอย่างเห็นได้ชัด
ร่างของมันเหมือนควันอะไรบางอย่างสีเทาๆที่โปร่งแสงจากแสงไฟอ่อนๆของสถานี

"แม่ค่ะ !?"

แม่เหรอ ?
"ดูยังไงมันก็ [วิญญาณเร่ร่อน] ไม่ใช่เรอะ ?"
ความสงสัยทำให้ผมเผลอหลุดปากพูดออกไป ..คำพูดนั้นทำให้เอริน่าหันกลับมามองผมด้วยสายตาดุดัน
"เสียมารยาทย่ะ ดูยังไงว่า"แม่"ของฉันเป็น[วิญญาณเร่ร่อน]ย่ะ !!!"
[วิญญาณเร่ร่อน] "ตน"นั้น เริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ภาพตรงหน้าผม มันก็เริ่มเบลอๆ
สิ่งที่ติดตาผมก็คือ ทั้งๆที่มันเหมือนควันหรืออะไรซักอย่างที่[เหมือน]มนุษย์ แต่มันกลับ ยิ้ม(?) แบบใครเห็นเป็นต้องทรุดตัวลงไปโดยไม่รู้ตัว
ผมไม่รู้ว่าผมหน้าซีดกับภาพที่เห็นหรือเปล่า ผมรีบจับจับมือเอริน่าหวังจะพาเจ้าหล่อนหนีจากวิญญาณเร่ร่อน แต่ว่า ..
จู่ๆภาพตรงหน้าผมมันเปลี่ยนไป ...ภาพ[วิญญาณเร่ร่อน]ตนนั้นมันเริ่มเปลี่ยนไป เป็น ...หญิงสาว ?
หญิงสาวตรงหน้าผม มีผมสีเขียวอ่อน เหมือนเอริน่า ดูเหมือนเธอจะสูงอายุพอสมควร
เสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่นั้น เหมือนชุดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล
ตาของเธอเหมอลอย เหมือนไม่ได้สนใจอะไร แต่รอยยิ้มแบบเจ้า[วิญญาณเร่ร่อน]นั้นยังไม่หายไป

-----------------------------------------

หวอ ..หวอ ..
เสียงของไซเรนดังขึ้น ในค่ำคืนกลางดึกของสถานีดับเพลิงแห่งหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกถึงเหตุร้ายที่ต้องการให้พวกเขาไปช่วย
"โอ้..ทำไมต้องเกิดเหตุบ้าบอตอนนี้ด้วยเนี่ย"
ชายคนนึงกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ เขารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้พับธรรมดาๆ เพื่อเตรียมตัวออกจากสถานี
"นี่ ถ้ายังขี้เกียจแบบนี้ อาจจะมีคนตายก็ได้นะย่ะ"
หญิงสาววัยกลางคน ผู้มีผมสีเขียวอ่อนที่แตกต่างจากคนอื่น กล่าวขึ้นพร้อมกับตบหลังของชายคนนั้น ในขณะที่เธอวิ่งไปที่รถดับเพลิง
"คร้าบๆ ..."

-----------------------------------------

"นี่ !! มีใครอยู่ในนี้มั้ย !?"
พนักงานดับเพลิงสาวตะโกนขึ้นในขณะที่ตนอยู่ในกองเพลิง
"ช..ช่วยด้วย"
เสียงเล็กดังมาจากห้องๆหนึ่ง ที่มีควันลอยออกมาใต้ประตู ซึ่งบ่งบอกว่าห้องนั้น มีไฟกำลังไหม้อยู่
ตุบ ตุบ ตุบ !!!!
หญิงสาวผู้เป็นพนักงานดับเพลิงนานกว่า 10 ปี กระแทกประตูอย่างชำนาญหลังจากที่เธอรู้ว่าห้องนี้ล็อคกุญแจอยู่
ในห้องตอนนี้ มีแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากไฟไหม้ มันเริ่มลามมาจากห้องข้างในมาเรื่อยๆจนดูน่ากลัว และ ...
มีเด็กสาวตัวน้อยๆยืนร้องไห้อยู่คนเดียว
"โอ๋ๆอย่าร้องนะเด็กดี ป้ามาช่วยแล้วนะ"
คำพูดนั้น ทำให้เด็กตัวน้อยที่ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง เงยหน้าขึ้นมามองพนักงงานดับเพลิงสาวด้วยสายตางุนงง
"ป่ะ ไปจากที่นี่กันเถอะ"
พนักงานดับเพลิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนกับเด็กน้อย ก่อนจะอุ้มเด็กคนนั้น แล้วพาออกจากนรกขุมเพลิงนี้

-----------------------------------------

ข้างนอกอาคารที่กำลังไฟไหม้ ผู้คนต่างมอง และ พูดคุยกันต่างๆนาๆ พนักงานดับเพลิงก็ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟจนมือไม่ว่างกันทุกคน
ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้ จากเรื่องที่ลูกสาวตนยังติดอยู่ในนั้น โดยการที่เธอฝากความหวังเล็กๆกับพนักงานดับเพลิงสาวคนหนึ่งไว้
ตุบ !!
เสียงเปิดประตูหลักของอาคารดังขึ้น ทำให้ทุกคนต่างมองไปทางประตูเป็นตามๆกัน
ภาพที่เห็นคือ หญิงสาวในชุดพนักงานดับเพลิงที่อุ้มเด็กสาวตัวน้อยไว้แน่น ก่อนจะปล่อยเธอลงให้กับแม่ของเด็กน้อย
"ขอบคุณค่ะ ...ขอบคุณคุณจริงๆ..."
ผู้หญิงผู้เป็นแม่ของเด็กรีบวิ่งมารับลูกของตน และขอบคุณพนักงานดับเพลิงหญิงยกใหญ่ พร้อมกับน้ำตาแห่งความดีใจ

----------------------------------------

หลังจากเหล่าพนักงานดับเพลิงควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พนักงานดับเพลิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักกับพนักงานดับเพลิงสาว
"ยังถึกเหมือนเดิมเลยนะเธอน่ะ"
"หึ ยังปากสุนัขไม่เคยเปลี่ยนเลยสินะนายเนี๊ย"
พนักงานดับเพลิงสาวพูดย้อนอย่างไม่เกรงใจ ในขณะที่ตนกำลังนั่งในรถพยาบาลอยู่
"ดูแม่ของเด็กคนนั้น จะดีใจมากเลยนะ"
"ก็แหงสิ แม่คนไหนก็ต้องห่วงลูกทั้งนั้นแหละ"
"แล้วลูกเธอล่ะ ?"
".....นอนอยู่บ้านน่ะ ...."
คำถามนั้นทำให้เธอเงียบไปนานเลยทีเดียว
เนื่องจากเธอเป็นคนที่มุ่งมั่นการงานมาก ทำให้เธอเอาแต่คอยเฝ้าดูบ้านเมืองจนไม่มีเวลาดูแลลูกตนเอง
ลูกของเธอก็มีผมเหมือนกับเธอ จนเหมือนก๊อปปี้กันมาเลยทีเดียว

"อืม..ลาพักร้อน แล้วอยู่กับลูกเต็มๆซักวันก็น่าจะดีเหมือนกันนะ..."

ตูม !!!!
เสียงระเบิดดังลั่น จากชั้น 9 คาดว่าน่าจะเกิดจากถังแก๊สของห้องๆหนึ่ง
ข้าวของมากมายก็กระเด็นออกมาจากหน้าต่างตามแรงระเบิดอีกด้วย
"ระวัง !!!!"
พนักงานดับเพลิงสาวรีบวิ่งเข้าไปผลักพนักงานดับเพลิงคนหนึ่งที่กำลังสำรวจความเสียหายจากไฟไหม้จนไม่ได้สังเกตุข้าวของที่ร่วงลงมา
ปรั๊ก !!
จากการที่เธอวิ่งเข้าไปผลักพนักงานดับเพลิงเพื่อให้เขาหลุดพ้นจากรัศมี แต่มันเป็นเหมือนการเปลี่ยนตัวตายตัวแทน
จนทำให้เธอโดนของที่ตกลงมากระแทกหัวอย่างแรงเสียเอง
การกระแทกมันแรงมากจนทำให้เธอที่ยังสวมหมวกอยู่ ยังต้องทรุดตัวลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว

-------------------------------------------

"แม่หนูเป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ ?"
เด็กสาวตัวน้อยผุ้เป็นลูกของพนักงานดับเพลิงสาว ถามกับคุณหมอผู้เป็นเจ้าของคนไข้ของแม่เธอ
".... แม่หนูพ้นขีดอันตรายแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ"
การพูดของคุณหมอไม่ว่าใครได้ยินเป็นต้องรู้ ว่ามันคือ การโกหก แต่เป็นการโกหกด้วยความหวังดี
"เย้ ~ เห็นมั้ยคุณลุง แม่หนูไม่เป็น'ไรแล้ว"
เด็กน้อยตะโกนด้วยความดีใจ ดูเหมือนเธอจะดูไม่ออกว่านั่นคือการโกหก
"[เอริน่า]ไปรอข้างห้องก่อนเถอะนะ ขอลุงคุยกับหมอหน่อย"
"ค้า ~"
พนักงานดับเพลิงหนุ่มผู้เป็นคนที่คุยกับแม่ของเอริน่าก่อนที่เธอจะประสบอุบัติเหตุ พูดขึ้น

ตุบ

หลังเสียงประตูของห้องคุณหมอปิดลง พนักงานดับเพลิงหนุ่มก็เริ่มที่จะโวยวายขึ้นมา
"หมอ ! ยัยนั้นเป็นยังไงกันแน่ !!"
"......"
"หมอเกรงว่าจะบอกไม่ได้ .."
"หมอ !!"
ด้วยความโกธรของพนักงานดับเพลิงหนุ่มทำให้เขาถึงกับกระชากคอเสื้อของหมอทันที
"ความจำเสื่อม ..."
"หา ?"
"หล่อนได้รับแรงกระแทกที่หัวมากเกินไป ..จนทำให้เธอความจำเสื่อม เฮ้อ ..ทั้งที่สวมหมวกอยู่แท้ๆ"
คุณหมอพูดออกมาจากใจจริงอย่างสลดใจ
"บัดซบ !!"

------------------------------------------

"แม่...จำหนูไม่ได้จริงๆเหรอ..."
"ขอโทษจ๊ะ ป้าจำไม่ได้จริงๆ"
เด็กสาวเริ่มรู้ว่านี่ไม่ใช่การล้อเล่นแต่อย่างไร เด็กตัวน้อยเริ่มรู้สึกเสียใจมากจนอยากร้องไห้เต็มทน ..
"เดี๋ยวหนูมานะค่ะ !!"
แต่หนูน้อยก็ อดกั้นน้ำตาไว้และเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างที่เธอคิดว่ามันจะช่วยให้อาการความจำเสื่อมของแม่เธอหายได้
และเริ่มวิ่งออกจากห้อง เพื่อไปหา[สิ่งๆนั้น]

---------------------------------------

แฮก แฮก
เด็กน้อยที่ออกจากโรงพยาบาลคนเดียวเพื่อไปหา[อะไร]บางอย่างที่สามารถช่วยแม่เธอได้ และรีบวิ่งกลับมาที่ห้องของแม่ของเธอ
พร้อมกับอุ้ม[อะไร]บางอย่างนั้นไว้แน่น ตอนนี้เธอคาดหวังอย่างเต็มที่ว่า [มัน]สามารถทำให้ความทรงจำของแม่เธอกลับมาเป็นปกติ

เพราะว่าลิฟท์ของโรงพยาบาลมีคนใช้เยอะเกินไป ด้วยความรีบร้อนเธอจึงรีบขึ้นทางบันไดแทน
เด็กน้อยวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แต่พอเธอมาถึงชั้น ที่มีห้องแม่เธออยู่นั้น ...
เธอก็ทรุดตัวลงด้วยเหตุบางอย่าง

"อ้าว !? เอริน่า เป็นอะไรน่ะ"
ชายหนุ่มพนักงานดับเพลิงที่ออกมาสูบบุหรี่สงบสติอารมณ์ข้างนอก สังเกตุเห็นความผิดปกติกับลูกของเพื่อนร่วมงานตน
"เฮ้ย ..อย่าบอกนะว่าเธอ ..."

"ช่วยด้วยครับ !! ใครก็ได้หายาพ่นของคนเป็นโรค[หอบหืด]มาให้ทีครับ !!"

เสียงหายใจหอบของเด็กสาวเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
เธอวิ่งตั้งแต่โรงพยาบาลไปร้านแห่งหนึ่งซึ่งไกลจากที่นี่พอสมควร การที่เธอวิ่งกลับมาได้โดยไม่หยุดพักนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์พออยู่แล้ว
แต่เธอยังคงวิ่งขึ้นบันไดอีก การที่โรคหอบจะกำเริบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
"แฮก แฮก ..ลุงค่ะ หนูฝากนี่ไปให้แม่ด้วยนะค่ะ .."
สิ่งที่หนูน้อยอุ้มอยู่นั้นมันคือ [ดอกลิลลี่] ธรรมดาๆดอกนึงที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในท้องตลาด
เด็กน้อยจำได้ว่า แม่ของเธอชอบดอกไม้ชนิดนี้มาก และ เธอก็เคยไปปลูกดอกลิลลี่กับแม่เธออีกด้วย
"ยัยเด็กบ้า ..อย่าทำอะไรให้ผู้ใหญ่เป็นห่วงสิ .."
ชายหนุ่มเริ่มหลั่งน้ำตากับความคิดของเด็กน้อย

เฮือก !
ตัวเด็กน้อย เริ่มหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ มันเกิดจากการที่หลอดลมของเธอตีบตัวลงจนหายใจไม่ออก ซึ่งเป็นอาการของคนที่โรคหอบหืดกำเริบ
ถ้าเด็กน้อยยังไม่ได้ยาพ่นมารักษา เด็กน้อยอาจตายได้อีกในไม่ช้า
"ยา !! ยาพ่น เธอเอาไว้ไหน !!"
เด็กน้อยไม่มีเรียวแรงที่จะพูดอะไรได้ เธอจึงชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเสื้อฮู้ดของเธอ
ชายหนุ่มเริ่มลวงค้นหาทันที แต่รู้สึกเหมือนว่ามันจะหล่นไปในตอนที่เด็กน้อยวิ่งขึ้นมาข้างบน
"บัดซบเอ้ย !!"
บริเวณรอบๆมีแต่คนยืนดูเหตุการณ์ ส่วนมากมีแต่คนที่มารอผู้ป่วย ทำให้บางคนไม่สนใจและเดินผ่านไปด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มเริ่มจะรักษา ด้วยการผายปอดให้เด็กน้อย
แต่รู้สึกว่ามันจะไม่ทันเสียแล้ว .....

"เอริน่า !!!!!!!!"

-----------------------------------------

"นี่น่ะเหรอ ..แม่ของเอริน่า .."
ผมบอกตามตรงว่าเอริน่าหน้าตาเหมือนแม่ของเธออย่างกับแกะ สีผมนี่ไม่ต้องถามเลย
ในระหว่างที่ผมคิดเล่นๆว่า "เอริน่าคงได้เชื้อสายพ่อมาแต่ทางนิสัยแฮงๆ" เล่นๆนั้น วิญญาณเร่ร่อนก็เริ่ม[พูด]ขึ้น
"เอริน่า ..ฆ่าเจ้านั้นเพื่อแม่ ..."
เออ...เสียงแม่เอริน่านั้นเป็นเสียงที่นุ่มนวลมาก แต่เนื้อหาสิขัดแย้งชิบ
"แม่ต้องการวิญญาณของ 2 คนนั้นเพื่อฟื้นคืนชีพแล้วไง ลูกจำไม่ได้เหรอ ?'
โอเค ...รู้แล้วว่าทำไมยัยนี่ถึงตามล่าฆ่าผมกับเวเนสซ่า
"เอริน่าอย่าไปเชื่อ ..."
ชิ้ง
"มัน ........."
เอริน่าจ่อมีดมาทางคอหอยของผม ก่อนที่ผมจะพูดเสร็จเสียอีก เธอทำหน้าเหมือนกับว่า "ถ้ายังกล่าวหาแม่ฉันอีก แกตายแน่ !!" อะไรประมาณนั้น
"ฆ่ามันเลยสิ ...เอริน่า ..."
วิญญาณแม่จอมปลอมพูดแกมสั่งเอริน่า ซึ่งมันทำให้ผมขนลุกเลยทัเดียว
เฮ้ย เฮ้ย

".... แม่ หนูทำไม่ได้ ...."

อะเด๊ะ !?
หักมุมแฮะ
เอริน่าเริ่มลดระดับมีดลง ซึ่งทำให้ผมใจชื่นขึ้นมาหน่อย แต่พอมาคิดกลับกัน ...น่าจะคิดได้ก่อนแทงแขนตูนะเฟ้ยยัยบ้า !!!
"...."
ด้วยคำพูดของเอริน่าที่เหนือความคาดฝันของเจ้าวิญญาณเร่ร่อน ทำให้มันเริ่มเผยตัวตนที่แท้จริงของมัน
"ยัยเด็กโง่เอ้ย !!
"!!"
เอริน่าที่เห็นภาพแม่ของตนเองแปลเปลี่ยนกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน ทำให้เธอถึงกับช็อคจนมีดในมือเธอหล่นลงกับพื้น
ดูเหมือนเจ้าวิญญาณเร่ร่อนกำลังจะใช้มือของมันที่เหมือนกรงเล็บฟันที่เอริน่า ทำให้ผมรีบกระโดดไปจับแขนของมันเอาไว้
"!!!!"
ภาพรอบๆของผมมันเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งๆที่ผมจับแขนของเจ้าวิญญาณเร่ร่อนตนนี้อยู่
ผมเห็นฉากตอนที่ผมโดนเอริน่าแทงแขน และมันก็ย้อนไปตอนพวกผมกำลังเข้ามาในสถานีแห่งนี้อีกด้วย
อ๋อ รู้แล้ว เจ้าวิญญาณเร่ร่อนตนนี้ไม่ได้มีพลังเปลี่ยนรูปร่าง แต่ทำให้ฉากตนเองหรือรอบๆตน"ย้อนเวลา"ไปเพียงเท่าไหร่
แต่รู้สึกแรงของมันจะเยอะมากจนผมหลุดจากฉากที่ย้อนอดีต
เฮ้ย เฮ้ย เบาๆหน่อยเด๊ะเฟ้ย แขนตูยิ่งเพิ่งโดนแทงมาอยู่นะเว้ย
"เอริน่า !!"
ไม่ไหว ตอนนี้เธอช็อคเกินไปจนนั่งน้ำตาคลอกับพื้นแล้ว
อ่ะรู้แล้ว !!

"เอริน่า..ฉันจะบอกเจ้าคิสเรื่องหนังสือการ์ตูน BL ของเธอ..."

วิ้ง !
จู่ๆตาของเอริน่าก็ลุกเป็นประกาย รู้สึกจะได้ผลเกินขาดด้วย
"เฮลีส ~งานนี้เสร็จเมื่อไหร่นายตายแน่ .."
อุ๊ !!!
ดูเหมือนคำพูดนั้น จะเหมือนการแก้เขินมากกว่านะ แต่มันก็น่ากลัวอยู่ดีอ่ะนะ
"เฮลีส ..ถอยไป"
ถอยได้ไง ก็ตูจับแขนมันไม่ให้มันฆ่าเธออยู่เนี่ย !
เอริน่าเริ่มสวดอะไรพึมพำ และแขนเธอก็เปล่งแสง กลายเป็นสนับมือเหล็ก(?)ขนาดใหญ่ของเธอ

"นี่สำหรับที่แกหลอกฉัน .."

เอริน่าพุ่งมาทางเจ้าวิญญาณเร่ร่อนแบบที่มันไม่ได้ตั้งตัว
ปรั๊ก
เอริน่าอัดเจ้าวิญญาณเร่ร่อนไปเต็มแรง โชคดีที่ผมกระโดดหลบทัน
"นี่สำหรับที่แกหลอกเป็นแม่ฉัน !!!"
ปรั๊ก ปรั๊ก ปรั๊ก
เธอรีบพุ่งไปอัดเจ้าวิญญาณเร่ร่อนที่ลอยอยู่ในอากาศจากแรงอัดของเธอ ถ้าดูจากมุมมองผมเจ้าวิญญาณเร่ร่อนโดนอัดจนลอยขึ้นสูงมากเลยทีเดียว
ด้วยการอัดครั้งนั้นทำให้เจ้าวิญญาณเร่ร่อนที่โดนอัดลงกับพื้นถึงกับแหลกหายไปเลย ..แต่เอริน่าก็ยังไม่หยุดอัดมันซึ่งตอนนี้เหลือแต่ความว่างเปล่าแล้ว
"เอริน่า พอได้แล้ว"
ผมรีบเข้าไปห้ามเอริน่าก่อนที่เธอจะบาดเจ็บจากการกระทำของตนเอง
"ฮึก"
จู่ๆเอริน่าหยุดอัดพื้นที่เป็นรอยแตกไปแล้วตอนนี้ และเธอก็กระโดดเข้า[กอด]ผม
เฮ้ย เฮ้ย ทำบ้าอะไรของเธอฟร่ะ มันเขินนะเฟ้ย
"ฮือ ..ฮือ"
"......"
หยวนๆแล้วกันเนอะ

-------------------------------------------

"แล้ว ...มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเหรอเอริน่า ..."
เวเนสซ่าที่อาการดีขึ้นผิดคาด ถามมาทางเอริน่าอย่างงุนงง เพราะเธอสลบตั้งแต่แรก จึงไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"เอิ่ม ..."
"พอดีเอริน่าโดนวิญญาณเร่ร่อนสิงน่ะ"
ผมรีบพูดแทรกก่อนที่เอริน่าพูด
ผมกลัวว่าถ้าเธอบอกความจริงไป เธออาจได้รับโทษอะไรแบบนี้เป็นได้
"เหรอ .."
หลังจบประโยคเวเนสซ่าก็เดินหายไปตรงทางออกของสถานี
"...."
ผมล่ะไม่เข้าใจกับยัยนี่จริงๆเล๊ย

"เฮลีส .."
"หืม ?"
"ขอบคุณนะ .."
เหลือเชื่อ ..เอริน่าพูดขอบคุณเป็นกับเขาด้วยเหรอ !?
"แต่เรื่องหนังสือฉันยังไม่หายโกธรนะ"
เฮือก
เอริน่าพูดพลางหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนจะเดินตามเวเนสซ่าไป ปล่อยให้ผมยืนอยู่ในสถานีคนเดียว
"..... ให้ตายสิ"

-----------------------------------------