ballba
8th July 2011, 15:16
http://women.tlcthai.com/wp-content/uploads/2010/12/d111.jpg
1. ความรักในรูปแบบที่ต้องการสัมผัส เป็นความรักของหนุ่มสาวที่โหยหาการสัมผัสทางกายต่อกัน และสานสร้างสัมพันธ์จากการมีสัมพันธ์สวาททางกายเพื่อที่จะสุขสมร่วมกัน อยากที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา อยากจะสัมผัสร่างกายของกันและกัน ด้วยความคิดว่าจะสามารถถ่ายทอดความรักให้แก่กันได้จากการร่วมรัก กามารมณ์จึงเป็นรากฐานของชีวิตคู่ในระยะแรกของความสัมพันธ์
ดังนั้น กามารมณ์จึงเป็นสัมผัสรักที่จับต้องได้ เป็นสีสันแห่งความรักของหนุ่มสาวที่แรกรักกัน แต่ชีวิตคู่ที่ยืนยาวนั้น จะต้องมีการพัฒนาความรักไปให้มากกว่านั้น
2. ความรักแบบโรแมนติก กล่าวกันว่าความรักของผู้หญิงนั้น เป็นแบบ โรแมนติก แต่ความรักของผู้ชายกลับเป็นแบบ อีโรติก ในการมีความสัมพันธ์กันนั้น ผู้หญิงจะคิดถึงการแสดงความรักด้วยกัน เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดถึงบทพิศวาสในรูปแบบของอีโรติกมากกว่า
+ ผู้หญิงจึงต้องมีความรักเป็นรากฐานก่อนแล้วจึงมีอารมณ์พิศวาส และสุขสมจากบทพิศวาสที่มอบให้แก่กัน
+ ส่วนผู้ชายนั้นจะระบาย ความรักออกไปผ่านการร่วมรักที่อบอุ่นและสุขสม ด้วยความอยากจะระบายความรักออกไป
นี่แหละที่ทำให้ท่วงท่าลีลาของพวกเขาเร่าร้อน ดุดัน และหลั่งเร็ว หลั่งเร็วจึงเป็นปัญหาของผู้ชายเกือบทุกคน ทำให้การไปไม่ถึงจุดสุดยอดจึงเป็นปัญหาของผู้หญิงหลายคนเช่นกัน เมื่อผ่านความรักแบบโรแมนติก และอีโรติกไปแล้ว ความรักในแบบต้องการใช้ชีวิตร่วมกันก็มาเยือน
3. ความรักแบบต้องการคู่ การอยู่ร่วมกันนั้นเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งยวดของชายและหญิงที่รักกัน และอยากจะสร้างครอบครัวร่วมกัน อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกัน มีพันธะผูกพันกัน อยากเห็นกันตลอดเวลาที่มีโอกาส จึงต้องมีการพัฒนาความรักต่อไปเป็นความรักในรูปแบบที่ผูกพันแต่ไม่พึ่งพา
4. ความรักแบบสัญญาใจ เป็นความรักที่เข้าใจกัน ไว้ใจกัน ผูกพันกัน โดยไม่ต้องพึ่งพากัน แม้ว่าจะไม่มีคนรักอยู่ข้างกายก็เหมือนมี ไม่มีความรู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่ เดียวดาย หรือถูกทอดทิ้ง เพราะมีอีกคนอยู่เสมอในใจที่แสนจะเป็นสุข เพราะมีชีวิตคู่ที่มีสัญญาใจต่อกัน สัญญาว่า เราจะครองคู่กันไปตราบจนลมหายใจสุดท้ายแห่งกาลเวลา
credit:google.com
repost
1. ความรักในรูปแบบที่ต้องการสัมผัส เป็นความรักของหนุ่มสาวที่โหยหาการสัมผัสทางกายต่อกัน และสานสร้างสัมพันธ์จากการมีสัมพันธ์สวาททางกายเพื่อที่จะสุขสมร่วมกัน อยากที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา อยากจะสัมผัสร่างกายของกันและกัน ด้วยความคิดว่าจะสามารถถ่ายทอดความรักให้แก่กันได้จากการร่วมรัก กามารมณ์จึงเป็นรากฐานของชีวิตคู่ในระยะแรกของความสัมพันธ์
ดังนั้น กามารมณ์จึงเป็นสัมผัสรักที่จับต้องได้ เป็นสีสันแห่งความรักของหนุ่มสาวที่แรกรักกัน แต่ชีวิตคู่ที่ยืนยาวนั้น จะต้องมีการพัฒนาความรักไปให้มากกว่านั้น
2. ความรักแบบโรแมนติก กล่าวกันว่าความรักของผู้หญิงนั้น เป็นแบบ โรแมนติก แต่ความรักของผู้ชายกลับเป็นแบบ อีโรติก ในการมีความสัมพันธ์กันนั้น ผู้หญิงจะคิดถึงการแสดงความรักด้วยกัน เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดถึงบทพิศวาสในรูปแบบของอีโรติกมากกว่า
+ ผู้หญิงจึงต้องมีความรักเป็นรากฐานก่อนแล้วจึงมีอารมณ์พิศวาส และสุขสมจากบทพิศวาสที่มอบให้แก่กัน
+ ส่วนผู้ชายนั้นจะระบาย ความรักออกไปผ่านการร่วมรักที่อบอุ่นและสุขสม ด้วยความอยากจะระบายความรักออกไป
นี่แหละที่ทำให้ท่วงท่าลีลาของพวกเขาเร่าร้อน ดุดัน และหลั่งเร็ว หลั่งเร็วจึงเป็นปัญหาของผู้ชายเกือบทุกคน ทำให้การไปไม่ถึงจุดสุดยอดจึงเป็นปัญหาของผู้หญิงหลายคนเช่นกัน เมื่อผ่านความรักแบบโรแมนติก และอีโรติกไปแล้ว ความรักในแบบต้องการใช้ชีวิตร่วมกันก็มาเยือน
3. ความรักแบบต้องการคู่ การอยู่ร่วมกันนั้นเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งยวดของชายและหญิงที่รักกัน และอยากจะสร้างครอบครัวร่วมกัน อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกัน มีพันธะผูกพันกัน อยากเห็นกันตลอดเวลาที่มีโอกาส จึงต้องมีการพัฒนาความรักต่อไปเป็นความรักในรูปแบบที่ผูกพันแต่ไม่พึ่งพา
4. ความรักแบบสัญญาใจ เป็นความรักที่เข้าใจกัน ไว้ใจกัน ผูกพันกัน โดยไม่ต้องพึ่งพากัน แม้ว่าจะไม่มีคนรักอยู่ข้างกายก็เหมือนมี ไม่มีความรู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่ เดียวดาย หรือถูกทอดทิ้ง เพราะมีอีกคนอยู่เสมอในใจที่แสนจะเป็นสุข เพราะมีชีวิตคู่ที่มีสัญญาใจต่อกัน สัญญาว่า เราจะครองคู่กันไปตราบจนลมหายใจสุดท้ายแห่งกาลเวลา
credit:google.com
repost