PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : Testament of demons พันธสัญญาแห่งปิศาจ



muek9999
14th December 2012, 22:30
Testament of demons
พันธสัญญาแห่งปิศาจ

Written:muek9999
Story:Nat
Sort:Action,Drama

***ผลงานแรก ตอนแรกอยู่เป็นอย่างไร ขอฝากติ-ชมไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ และขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น ทุกคำขอบคุณด้วยนะครับ ขอให้อ่านอย่างสนุกนะครับ***

เมื่อ 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ช่วงศัตวรรษแห่งความอุดมสมบูรณ์ไร้แม้กระทั่งการอาชญากรรมฟังดูเหมือน สรวงสวรรค์ มันเป็นเช่นนั้นจริง ผู้คนต่างทำมาหากินกันอย่างมีความสุข มีน้าใจเอื้อเฟื้อ แบ่งปันกัน อยุ่กันอย่างร่มเย็น
ราชาปกครองราษฏรอย่างชอบธรรม ชื่อแคว้นว่า Hevencalda ทุกๆปีจะมีเทศกาลขับไล่เหล่าวิญญาณชั่วร้ายที่เชื่อกันว่าเป็นหนทางซึ่งนำมาสู่ความหายนะ ความอับจน การทะเลาะวิวาท มรสุมครั้งที่ใหญ่ที่สุด
ภัยภิบัติอันใหญ่หลวง
ผู้คนทั้งหลายต่างเชื่อมั่นว่านั่นคือ ราชาปิศาจ บางคนกล่าวว่าเป็นแค่ตำนาน ความเชื่อเท่านั้น คำว่าราชาปิศาจได้ถูกเขียนมาจากผู้ที่ไม่ประสงค์ลงนามเมื่อนานมาแล้ว “ยามใดที่อสูรกายจักกำเนิด เมื่อยามนั้นทุ่งข้าวทุกรวง
รอยยิ้มทุกผู้ ความสุขทุกแห่งหน ล้วนแต่จะถูกขโมย ฉะนั้นแล้ว ปิศาจตนนั้นจักมอบความหายนะแก่ถิ่นนั้น” มันเป็นกำที่ถูกผนึกลงในศิลาใจกลางเมืองไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครเป็นคนสร้าง เป็นคนทำมันขึ้นมา นักธรณีวิทยาบางคนในสมัยนั้น
ก็ตั้งข้อพิจารณาว่ามันมีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์มานานแล้ว บางคนก็กล่าวไว้ว่า ตรวจสอบจากร่องรอยเมื่อเกิดแง่คิดได้ในหัว ก็ได้กล่าวไว้ว่า ศิลาจารึกแผ่นนี้ “มนุษย์” มิได้สร้างมันขึ้นมา จนกระทั่ง.....
มีปิศาจตนหนึ่งที่ถูกขนานนามมานานนับร้อยปีว่า “ราชาปีศาจ” ผู้หยิ่งทระนงในศักศรีดิ์เปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธแค้นที่สาสมมาเนิ่นนาน ด้วยความชั่วช้าที่สะสมมานานจากอำนาจเย่อหยิ่งของตน ได้เข้ามายึดครองผืนดินที่เป็น
ถิ่นอาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึง มนุษย์ ทั้งโลกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ด้วยอำนาจของปิศาจตนนั้น ไม่มีแม้แต่มนุษย์คนใดที่จะกล้าเข้าไปต่อกร ราชาปีศาจตนนั้น จนกระทั่งได้มีผู้กล้าศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในอัศวินผู้เคียงบ่าเคียงไหล่
ราชาของแคว้นนั้นได้ลุกขึ้นมาต่อกรกับราชาปีศาจตนนั้น เขาผู้นั้นยอมสระแม้กระทั่งชีพเพื่อต่อสู้และกระทั่งผนึกราชาปีศาจได้ในที่สุดในปราสาทHilldumlock ปราสาทของราชาที่ผู้คนต่างรักต่างนับถือเจ้าของเดิมนามว่านามว่า
“ฮิบากิ” บนยอดหุบเขาที่แสนห่างไกลจากสายตาผู้คน


ยินดีต้อนรับสู่ พันธสัญญาแห่งปิศาจ

บทที่ 1
-รุ่งอรุณ/Rise of the Moring.
เช้าวันนี้อากาศยังคงสดใสเหมือนทุกๆวัน ฝูงนกต่างบินออกหาอาหารจากรัง เสียงสายน้ำลำธารที่รินไหลผ่านบ้านผมไปช่างฟังดูลื่นหูพร้อมด้วยเสียงลมที่กระทบต้นไผ่จากหลังบ้านของผม นี่ล่ะครับ รุ่งเช้าของผมมักเป็นเช่นนี้

ทุกวันๆ แต่รอบตัวผมช่างว่างเปล่า เพราะบ้านของผมนั้นตั้งออกห่างจากหมู่บ้านซะด้วยนี่สิ เพื่อนบ้านจึงมักไม่ค่อยมีซักเท่าไร ส่วนมากผู้คนที่จะมาพบปะ-พูดคุยกับผมนั้น มักจะมีแต่เรื่องงานซะเต็มไปหมด อ้อ ผมลืมแนะนำตัวไปเลย

ชื่อของผมหรอ “อาบาระ ไซกะ” เองล่ะครับ ส่วนงานของผมที่ว่ามานั่น คือการตีดาบ รู้สึกว่าฝีมือการตีดาบ-ถลุงเหล็กเงิน ของผมนั้นคงล่ำลือมากซะจริงๆ ก็คนที่มาว่าจ้างงานส่วนมากก็เป็นพวกคนที่เป็นข้าจ้างของขุนนางบ้าง

เชื้อราชวงศ์บ้าง พูดถึงประสบการณ์ของผม คงเพียงสัก 5-6 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมอาศัยอยู่ห่างจ่างถิ่นเจริญมาอยู่ในป่านี้ถึง 5-6 ปีเลยเชียวนะ ไม่ใช่นะครับๆ มันมีหลายเหตุผลอยู่น่ะครับ คงเป็นเพราะเรื่องของเชื้อวงตระกูล

ด้วยล่ะมั้งเนี่ย ผมทนอยู่กับการกดกันทางสังคมในเมืองไม่ไหวหรอกครับ จะมีนินทา ทำร้ายข้าวของ บ้างก็ว่าผมเป็นพวกเชื้อสายปิศาจ อะไรกันที่ทำให้ทุกคนพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่ค่อยทราบอยุ่เหมือนกัน คงเพียงเพราะไปช่วยหญิงไว้ผู้

หนึ่งล่ะมั้งเธอน่าจะโดนกล่าวหาว่า“แม่มด”ด้วยมั้งนะ เอาเถอะ ช่างมันเหอะครับ เรื่องพวกนี้มีจริงซะทีไหน ก็แค่เรื่องหลอกเด็กน่า แต่สังเกตดูจากผู้คนแล้ว เห็นเค้ากล่าวลือ บ่นพึมพำกันเรื้อง ศิลาจารึกกลางใจเมืองกันอยู่บ้าง

ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจเหมือนกัน ไอ้หินที่เอาค้อนมาสลักเป็นตัวหนังสือ จะเป็นใคร ใครก็ทำได้อยู่หรอกนะ

“ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง !!!!!!”

“เห้ย ช่วยเคาะประตูเบาๆหน่อยได้ไหมว้อยยย” ผมตะโกนออกไปหลังจากที่ได้ยินเสียงใครไม่รู้เคาะประตูมาซะดังเชียว

“คุณไซกะ คุณไซกะอยุ่รึเปล่า” เสียงของทหารอีกแล้วหรอเนี่ย มาซะตั้งแต่เช้าตรู่เชียวเห้อออออ ไม่อยากลุกออกจากฟูกอันสุดแสนสบายนี่เลย แต่งานก็ต้องทำงานอะนะครับ ไม่งั้นผมจะเอาอะไรที่ไหนกินล่ะ

“สวัสดีครับ มีอะไรให้รับใช้มั้ยครับ”ผมเดินออกไปเปิดประตูต้อนรับพวกทหาร กล่าวตอบรับอย่างมีมารยาทที่สุด ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกที่ผมต้องทำอย่างนี้ เพียงเพราะว่าทหารที่มาว่าจ้างคราวนี้เป็นข้าราชการของพระราชาเราซะด้วยนี่

สิ ดูจากตราที่ติดอยู่บนหมวกมันเป็นรูป ดาบ กับ หอก ไขว้กันอยู่แล้วมีรูปสิงโตอยู่ตรงกลาง ผมก็อ๋อเลย มาจากวังอีกแล้ว

“จำนวนดาบทั้งหมด 20 เล่ม ท่านได้จัดทำให้ทางเราเรียบร้อยหรือยัง ????”คำถามเดิมที่ผมได้ฟังอยู่บ่อยๆ เนื่องจากฝั่งทางวังมาสั่งไว้ซะเยอะเหลือเกิน เกณฑ์การรับทหารวังช่วงนี้ก็เริ่มเยอะขึ้นซะด้วย

“จำนวนนั้น ทางกระผมได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วครับ เอ่อ จำนวน 20 เล่มตามที่กล่าวมานะครับ” ตอนนี้ในใจผมคิดไว้อย่างเดียว เปโซ เปโซ เปโซ เปโซ เปโซ อ่อ เปโซ น่ะหรอ มันคือสกุลเงินในเมืองผมเองล่ะครับ หลังจากนั้นผมก็เข้า

ไปในโรงเก็บของหลังบ้านคงเรียกว่ากระท่อมดีกว่ามั้งเนี่ย ฮะฮะ และผมก็ตามหยิบจำนวนดาบที่วังได้สั่งทำเอาไว้ทั้งหมด

“ขอบคุณมาก ส่วนสิ่งตอบแทนที่ท่านได้รับเป็น เปโซ นั้นทางฝ่ายราชการจะกำหนดส่งมาอีกครั้งหนึ่ง ในระยะ 7 วันหลังจากนี้” เมื่อผมได้ฟังคำนั้นแล้ว อ่าห์ห์ห์ห์ห์ รู้สึกมีความสุขมาก

“ครับๆ แล้วคราวหน้ามาใช้บริการใหม่นะครับ” ผมตอบกับด้วยเสียงที่ฟังดูนิ่มมาก หลังจากนั้นเหล่าทหารของวังก็ได้เดินทัพกลับเข้าตัวเมืองพร้อมฝูงม้าไป อยากลองขี่บ้างจังเลยนะ ม้า เนี่ย พูดไปคงได้แค่ฝันอีกล่ะ เงินก็ไม่ได้มีเยอะซะ

ขนาดนั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังมีอีกเยอะแยะถมไปครับ เอ้ะ แต่ว่าผมต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ์ทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยหรอเนี่ย ไม่ๆๆๆๆๆ ต้องรีบไปอาบซะล่ะ


ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า กลุ่มเมฆต่างเคลื่อนมาบดบังสุริยันต์ ฝูงนกต่างบินกลับรัง ฝูงสัตว์กลางคืนต่างออกหากิน เริ่มมืดแล้วสิเนี่ย สุดท้ายแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่ดูน่าเบื่ออยุ่เหมือนๆทุกวัน “เห้ออออออออ” ผมอุทานออกมาด้วยความ

ที่ตัวผมเองในสภาพตอนนี้กำลังเบื่อหน่อยเอามากๆ เอ้ะกลิ่นอะไร เหม็นไหม้น่ะ กลิ่นนั้นดูท่าทางว่าจะมาจากหน้าบ้านของผม เอาล่ะสิ อยู่เฉยๆไม่ได้ล่ะ ใครมันมาเผาอะไรเล่นในป่าเนี่ย ผมเลยเดินออกไปสังเกตุดูให้แน่ชัด

ผมมองเห็นเปลวเพลิง แต่มันอยู่ใกลจากจุดนี้มาก มองเริ่มหยี่ตามองไปให้ไกลกว่านี้ ก็มองไม่ค่อยชัดอยู่ดี แต่รู้สึกว่าจะเป็นฝั่งตัวเมืองนะ “กรุบ กรุบ กรุบ กรึบ” เอ้ะ เสียงบางอย่างกระทบกับหญ้าฟาง หญ้าแห้ง

รู้สึกว่ามาใครสักคนกำลังย่องผ่านทางหลังบ้านของผไม่ใช่สิ ไม่เหมือนเสียงฝีเท้า แต่เหมือเสียงอะไรสักอย่างกำลังลากของอยู่ผมค่อยๆขยับตัวและเอื้อมตัวไปทางหลังบ้านของผม

“เห้ย!!!!!!!!!!!!” ผมอุทานขึ้นมาอย่างดังมากข้างหน้าผม... ข้างหน้าของผมมีชายผู้หนึ่งดูท่าทางสะบักสะบอมไปทั้งตัวแล้ว เสื้อขาดหลุดรุ่ย ชายผู้นั้นกระเผกเดินเดินมาเอามือพยุงไหล่ผมไว้

"ไอ้หนู ไอ้หนู" ลุงคนนั้นพูดกับผมด้วยนํ้าเสียงที่ฟังไม่ค่อยชัดเจน พร้อมกับเสียงหายใจเหมือนว่าวิ่งผ่านภูเขามาหลายลูก

"อะไรครับลุง เป็นอะไรมากมั้ยครับ" ผมตอบกลับด้วยวาจาที่ตื่นตระหนกมาก

"พะ พะ พะ พวกมัน พวกมัน กำลัง ลัง ลัง จะ.... อัคคค"เสียงของลุงดูท่าทางว่าจะไม่ค่อยไหวนัก ผมจึงรีบเอามือไปพยุงตัวลุงมา


*สวบบบบบบบบบบบบ* กระแสเลือดสาดกระเซ็นเข้ามาเต็มใบหน้าและเสื้อของผม คราวนี้ผมรีบขยี้ตาของผมที่เต็มไปด้วยเลือด แต่เมื่อขยี้ เบิกตามองออกมาแล้ว ผมเจอกับสิ่งที่น่าตกใจนั่นคือ ร่างของลุงคนที่ไร้หัว

“อะไรกัน อะ อะ อะไรกัน” ผมพูดพึมพำอยุ่คนเดียว พร้อมกับดีดตัวออกมาและสดุดล้มลง สภาพศพของคุณลุงค่อยๆเอนลงมาทับร่างของผมที่ล้มหงายท้องอยู่บนกองหญ้า ณ ตอนนี้ผมรู้สึกหวาดกลัวกับสถาณการณ์ตอนนี้มาก ตั้งแต่เกิด

มาเป็นช่างตีดาบยังไม่เคยเห็นศพใครเป็นๆมาก่อนเลย ตอนนี้ผมเกือบจะเป็นลมเพราะเลือดที่ออกมาจากคอของลุงมันหลั่งรินมาเต็มเสื้อผมไปหมดแล้ว ผมดูมือตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด สดๆสีมันคล้าย เลือดหมู แต่มันสดกว่ามาก มันให้

ความรู้สึกเหมือนว่า ผมขาดความบริสุทธิ์ผมกำลังปนเปื้อน ตัวผมแข็งทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ เงาใหญ่ๆหลังร่างจากตรงนี้ไปซัก 6 ศอก ผมค่อยๆเหงยหน้าดูมองตั้งแต่เท้าค่อยๆมองอย่างกลัวขึ้นไปจนกระทั่งถึง

หัวของมัน

“หะ หะ หะ หะ อะ” ตอนนี้ตัวผมสั่นไปหมดเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะเจอในชีวิต สิ่งที่ผมล้อเลียนอยู่มาตลอด สิ่งที่มวลมนุษย์ทั้งหมดต่างกลัวและล่ำลือ สิ่งที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างให้สูญสิ้น “สิ่งที่จะมอบความหายนะแก่

มวลมนุษย์” ตอนนี้ตัวผมสั่นเอามาก ขาแข็ง มือทั้งสองข้างก็กุมเลือดของลุงที่นอนทับผมอยู่ ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาที่ตัวเองเห็นนี่ ผมกำลังจะ จะ จะ กำลังจะ เพชิญหน้าอยู่กับ........


To be continue…

nakiann123
14th December 2012, 22:43
ปูเสื่อครับ 5555555+ ปูมันทุกมู้

จะติดตามละกันครับ ชอบแนวๆนี้อยู่เหมือนกัน

muek9999
14th December 2012, 22:47
^
^
^
ส่วนตัวก็ชอบแนวนี้เอามากๆ อ่านมังงะมาหลายเรื่องแล้ว อยากจะลองแต่งเองบ้างครับ
ทีนี้ผมจะพยายามเขียนนะครับ

muek9999
17th December 2012, 21:48
ดันๆหน่อยครับ ดึกๆนี้เผื่อมีใครว่างสนใจหาเรื่องอ่านเล่นๆ

black jack sdppd
20th December 2012, 07:55
เยี่ยมครับ ขอติดตามละกัน
(ถ้าเป็นแนวสืบสวนลึกลับน่าสนุกแน่)
ฮ่าฮ่าฮ่า