PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : รหัสลับสมบัติบัลลังก์เลือด (กลับมากลับเรื่ิองที่สองของชีวิต)



Real men cry
25th December 2012, 21:16
รอนานไหมสำหรับคนที่อ่านเรื่องแรกของผม "ลูอิสผจญภัย" เรื่องนั้นอาจไม่ดีเท่าไหร (และไม่จบด้วย55) ขอเริ่มใหม่กับเรื่องนี้ครับ

รหัสลับสมบัตติจากบัลลลังค์สีเลือด

บทนำ

ฮัลโล!! ฮัลโล!! ฮัลโล....OK ฉันว่าน่าจะได้แล้วนะ อืม....OK ได้ล่ะ ก่อนอื่นเลยฉันอยากจะบอกคุณก่อนถึงรหัสลับของฉัน 12/12/12 ใช่ๆๆ อย่าลืมมันล่ะ อย่าลืมเด็ดขาดนี่คือคำเตือนของฉัน จำไว้ให้ดีก่อนที่ฉันจะเล่าเรื่องต่อไปนี้ เรื่องราวที่ยากเกินจะเชื่อ แต่ฉันขอร้องหากเธอเชื่อฉัน เธอจะได้รับสิ่งที่มีค่าตอบแทนแน่!! เอาล่ะฉันว่าฉันพูดมากเกินไปแล้วเดี๋ยวฉันจะ....อ้อไม่มีอะไรหรอก จงตั้งใจฟังสิ่งต่อไปนี้ให้ดีเถอะ.....

Chepter 1 "การเดินทางของฉัน"

เอาล่ะเช้าวันที่ 21 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ฉันออกเดินทาง.. อืม...ฉันลืมบอกเธอไปเลย ฉันชื่อจอนท์ คาร์เตอร์ ใช่ถ้าเธอรู้จักเขาเขาเป็นนักแสดงแต่ฉันเป็นนักโบราณคดี อืม คนเราชื่อเหมือนกันเยอะไปอย่าคิดอะไรมาก...ต่อเลยนะ ฉันออกเดินทางวันที่...อ้อ พูดไปแล้วเหรอขอโทษทีนะ ขอบคุณมากโจนท์ที่เตือนฉัน อืมเดี๋ยวนะ ขอโทษทีฉันลืมเพื่อนฉันไปเสียสนิท เขาชื่อ วิลเลียม โจนท์...OK ไม่มีอะไรมากเพราะเขาขับรถอยู่ เขาคงไม่อยากจะมาพูดหรอกเพราะเราสองคนอาจโดนสิบล้อบดถ้าเขาหันมาพูด เอาล่ะ!! เช้าวันนั้นวันที่ฉันออกเดินทางฉันได้รับข่าวดีว่ามีการพบหินและสร้อยประหลาดมากมายในประเทศไทย ใช่! มันเป็นสิ่งดีมากสำหรับนักโบราณคดีเด็กใหม่อย่างฉันที่เพิ่งเรียนจบได้แค่เดือนกว่าๆก็มีงานทำ นักบารณคดีแก่ๆหลายคนอิจฉาฉันที่ฉันอายุเพียง 28 ปี ก็ได้รับไว้วางใจให้ทำงานอย่างนี้ หา!! นายว่าฉันพล่ามมากไปเหรอโจนท์ OK ฉันขอโทษ! ฉันขอโทษ! เอาล่ะหลังจากได้ตั๋วเครื่องบินแล้วฉันก็รีบบึ่งมาที่เมืองไทยทันที คนที่ประเทศนี้ทั้งสวย มีเสน่ห์เป็นกันเองแบบบอกไม่ถูก ทุกๆคนดูเหมือนจะยิ้มให้ฉันตลอดเวลา โดยเฉพาะแอร์โฮสเตสในเครื่องบิน รอยยิ้มของพวกเธอทำเอาโจนท์เพื่อนฉันหน้าแดงเป็นแอปเปิ้ลเลยที่เดียว 555 อย่ามองหน้าฉันอย่างนั้นสิโจนท์ เอาล่ะต่อเลยนะเครื่องบินของเราลงที่เมืองหลวงของประเทศไทย เมืองหลวงอะไรไม่รู้ชื่อยาวมากๆ แต่คนไทยเขาก็ให้เรียกสั้นๆได้ว่า "กรุงเทพ" หลังจากลงเครื่องที่กรุงเทพเราก็ต้องต่ออีกเครื่องเพื่อไปยังจังหวัดที่มีการค้นพบหินและสร้อยประหลาด หลังจากเครื่องลงที่...เออ...ที่ อ้อจำได้แล้ว อำเภอพุนพินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่สิ่งแวดล้อมยังคงสวยงามไม่เหมือนในกรุงเทพที่คลาคลั่งไปด้วยรถราและฝูงชน ที่นี่ยังคงมีภูเขามีทัศนียภาพที่สวยงาม มันสวยมาก ภูเขาบางลูกมีรูโบ๋ไปข้างในจนมันเกือบทำให้ฉันคิดว่าหินและสร้อยประหลาดต้องอยู่ที่นั้นแน่ๆ แต่ผิดคาดเมื่อคณะโบราณคดีของที่นี่มารับ เขาบอกว่าเราต้องนั้งรถไปอีกไกลราวๆ 20 กิโลเมตร หลังจากขึ้นรถมาระหว่างสองข้างทางฉันก็พบกับความเจริญสลับกับธรรมชาติที่สวยงามไปมา จนกระทั่งคณะโบราณคดีบอกว่าถึงที่หมายแล้วฉันก็ยิ่งตะลึงไปใหญ่ ที่นี่ไม่ได้สวยงามมากนัก ที่นี่มีความเจริญเข้ามาขยายตัวอยู่มากแล้ว ส่วนมากเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งของนายทุนต่างชาติ บ่อพวกนี้กว้างใหญ่มาก มองไปถึงถึงเส้นขอบฟ้าก็ยังไม่สุด เวลาตอนนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ประกอบกับแถวนั้นไม่มีโรงแรมที่พักทำให้ต้องไปขอพักอยู่กับวัด ซึ่งพระท่านเจ้าอาวาสก็ใจดีมากๆให้ที่พักพิงแก่นักบารณคดีกับคนงานกว่า 20 คนได้พักผ่อนกัน วันนั้นผมตื่นเต้นจนนอนเกือบไม่หลับมารู้สึกง่วงก็ตอนเที่ยงคืนกว่าแล้ว โดยที่ตอนเช้าก็ต้องไปตั้งแต่ตี 5 ผมจึงนอนไปค่อยเต็มอิ่มนัก

เช้าวันต่อมา ขณะที่หัวหน้างานกำลังสั่งลูกน้องให้เตรียมของขุดค้นอยู่นั้น ผมก็เป็นฝ่ายเข้าไปทัก
"ไง..ผมชื่อ จอนท์ คาร์เตอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณ...." ผมพูดพร้อมกับยื่นมือไปตามประสาการทักทายฉบับอเมริกัน
"อ้อ!!..ผมชื่อ วิชัย อรุณเมฆาครับ ครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับคุณคาร์เตอร์" หัวหน้างานตอบกลับมาพร้อมร้อยยิ้ม เขาเป็นคนไทย และดูท่าว่าจะชำนาญด้านนี้มากด้วยอาจมากกว่าผมด้วยซ้ำ
"ครับ คุณวิชัย หากผมทำอะไรผิดก็ขอครับแนะนำด้วยนะครับ" ผมตอบกลับไปพร้อมร้อยยิ้ม คำพูดของผมอาจดูแปลกมากเพราะที่ผมมาก็เพราะมาทำงาน ไม่ใช่มาฝึกงาน คุณวิชัยอึ่งอยู่สักพักเขาก็หันไปสั่งคนงานต่อ ก่อนจะหันมูดกับผมอีกครั้ง
"ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ..ก็คุณมาทำงานไม่ใช่เหรอ ทุกๆคนหวังพึ่งคุณอยู่นะ อาจฟังดูเป็นคำสอนแต่ผมคิดว่าคุณน่าจะมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้" คุณวิชัยตบไหล่ผมเบาๆก่อนที่จะหัวเราะและทำงานของเขาต่อ
"ก็จริงอย่างที่เขาพูด" ผมคิด ไม่เคยมีใครทำให้ผมประทับใจนอกจากพ่อ พ่อชอบที่จะสั่งสอนผมบ่อยๆ พ่อมักจะพูดคำโดนๆ หรืออะไรๆที่ประทับใจอยู่เสมอ คุณวิชัยถือเป็นคนที่สองที่สามารถทำให้ผมเข้าใจได้ถึงหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ควรจะเป็น

เวลา 07.00 น. ของวันนั้นเหล่าคณะนักโบราณคดีเตรียมตัวออดเดินทาง แต่ก็เจอเจ้าอาวาสกลับจากบิณฑบาตรเสียก่อน เราทุกคนเลยต้องรอให้เจ้าอาวาสท่านพรมน้ำมนตร์อวยพรชัยให้กว่าจะทำพิธีสวด พิธีให้พรและพิธีพรมน้ำมนตร์ก็เสร็จราว 08.00 น. จากนั้นทั้งคณะเดินทางมายังสถานที่ที่เจอหินและสร้อยประหลาดแล้วที่แห่งนี้อยู่บนภูเขา ทางเข้ามีเฟริน์อยู่เต็มไปหมด มันดูมีความลับมากกว่าถ้ำทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคณะได้แต่พากันอึ้งกิมกี่ เราทุกคนยังเข้าไปไม่ได้เนื่องจากต้องรอคนที่พบหินและสร้อยประหลาดก่อน คุณวิชัยเลยให้คนงานตั้งเตนท์อยู่ข้างนอกจนเวลา 09.00 น. ทั้งคณะลงความเห็นว่าควรเข้าไปสำรวจได้แล้ว เพราะถ้ารอคนที่พบคงไปทันการแน่ เราทุกคนอยู่ในสถานะพร้อมรบ ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดานสามตอนพร้อมเข้าถ้ำ คุณวิชัยเป็นคนดูนาฬิกาไว้ เขาเริ่มเคาว์ดาวน์รอฤกษ์งามยามดี 5...4...3...2...1...0 เวลา 09.09 คณะโบราณคดีเริ่มเดินทางเข้าถ้ำปริศนา การเดินทางแสนพิสดารเริ่มขึ้นแล้ว...........


Cherter 2 : "Life of Thai"

สวัสดี.....ฮัลโล..ฮัลโล .. ได้ยินฉันไหม..ที่อัดเสียงนี่ท่าจะพังซะแล้วสิ อ่ะ!! ได้แล้ว.ได้แล้ว...เอ๋..ฉันเล่าถึงไหนแล้วนะ อ้อ! จำได้แล้ว
เราทุกคนก้าวเท้าเข้ามาในถ้ำอัดน่าพิศวง ที่นี้ดูแปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์ใจเอาเสียมากๆ บนเพดานมีหินงอกหินย้อยมากมาย พวกมันย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ บางอันย้อยลงมาจนถึงพื้นดินพวกมันแวววาวเมื่อเราเอาไฟฉายส่องไปโดนมัน
"ที่นี่น่าอัศจรรย์มาก!!" ผมพูดขึ้น
"มันเป็นอย่างนี้เกือบทุกๆถ้ำในเมืองไทยแหละ มิสเตอร์คาร์เตอร์" คุณวิชัยกล่าวอย่างภาคภูมิใจถึงความสวยงามของธรรมชาติในประเทศของตน
"ถ้าประเทศผมมีอย่างนี้บ้างผมคงจะภูมิใจไม่น้อย" ผมพูดแนวชมธรรมชาติของที่นี่ว่าสวยงามเอาเสียมากๆจนผมไม่ได้สังเกตเลยว่าตัวเองอ้าปากค้างมาตั้งแต่ตอนเข้าถ้ำแล้ว
จากคนราว 20 คน เราแบ่งคนเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มล่ะห้าคน โดยมีนักโบราณคดีหนึ่งคนต่อหนึ่งกลุ่ม กลุ่มของผมมีคุณวิชัยอยู่ด้วยและโจนท์ก็ตามผมมาโดยแลกหน้าที่กับคนงานคนหนึ่ง
"ที่นี่ใหญ่โตมาก คุณคิดว่าเราควรเริ่มจากตรงไหน" ผมเริ่มถามคุณวิชัย
"อืม...มันยากมากที่จะตอบอย่างชัดเจน แต่ผมได้แบ่งการค้นหาเอาไว้แล้ว เราจะไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทางเข้าลึกลงไปในถ้ำ"
"หืม..แล้วเราจะเข้าไปได้อย่างไรกัน??" ผมถาม
"คุณเห็นช่องเล็กๆตรงนั้นไหม เราจะเข้ากันไปทางนั้น" คุณวิชัยพูดพร้อมชี้ไปที่รูเล็กๆ ที่สูงจากพื้นไป 5 เมตร
"คุณจะปีนขึ้นไปจริงเหรอ ผมคิดว่าเราไม่มีทางขึ้นไปได้" ผมแย้งพร้อมกับชี้ผนังถ้ำที่ลื่นและลาดชัน
"....ใช่คุณอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าเราท้อใจก่อนที่จะได้ลองทำมันคงเป็นเรื่องที่น่าอายและไม่ควรทำ ใครจะรู้เราอาจจะทำได้ก็ได้" คุณวิชัยกล่าว แม้สิ่งที่เขาจะทำอาจเป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่เขาก็มั่นใจที่จะลองทำมันดู
"OK!! ผมเชื่อก็ได้ว่าเราอาจจะปีนขึ้นไปได้" ผมตอบตกลง
หลังจากพยายามลองเหวี่ยงเชือกติดตะขอขึ้นไปหลายครั้ง มันทำให้ทุกๆคนเริ่มท้อ เพราะไม่ว่าจะพยายามซักเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถเป็นไปได้
"มันแค่ลื่นเกินไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง" คุณวิชัยว่า พร้อมกับโยนเชือกขึ้นไปครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจจะทราบได้
"พอเถอะ....มันอาจจะแทงใจดำแต่.."
"คุณอย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ได้ไหม!! " คุณวิชัยตะโกนบอกเสียงดัง เสียงเขาดูโกรธจัดจากความผิดพลาด แต่เมื่อเขาเห็นทุกคนเงียบเขาก็เริ่มคิดได้
"ผะ..ผมขอโทษ.." เวลานี้ชายแก่วัย 40 ที่ดูเหมือนจะทำอะไรอะไรได้ทุกๆอย่าง เขากลับท้อเสียเองและเขาดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อเขาพูดคำขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงทางนี้จะไปไม่ได้แต่ถ้าลองสำรวจดีๆเราอาจพบทางเข้าอื่น" โจนท์พูดขึ้น และทุกคนดูเหมือนจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ทุกๆคนปลอบใจคุณวิชัยและทั้งหมดก็เริ่มออกสำรวจอีกครั้ง
จากพระอาทิตย์ขึ้นเป็นตก พระจันทร์เริ่มทอแสงท่ามกลางหมู่ดาว ทีมค้นหาทั้ง 4 ทีม ไม่มีใครพบทางเข้าแม้แต่ทางเดียว ทุกคนเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียจากการค้นหาทางเข้าทางอื่นนอกจากรูเล็กๆที่ทำยังไงก็เข้าไม่ได้
"คนที่พบหินยังไม่มาอีกเหรอครับ" ผมพูดขึ้นกับคุณวิชับหลังจากเขาสั่งให้ทุกๆคนกลับมายังเตนท์ที่พักเพื่อพักผ่อน รอการค้นหาในเช้าถัดไป
"อืม..นายพรานที่ผมให้เฝ้าอยู่หน้าถ้ำก็ไม่มีใครเห็นซักคนเหมือนกัน" คุณวิชัยตอบ
"เหตุอะไรที่คนพบหินกลับไม่มานะ..." ผมพูดขึ้นเบาๆแต่คุณวิชัยก็เกิดได้ยิน
"คุณว่าอะไรนะ?" คุณวิชัยถาม
"เปล่าครับ..เปล่า!" ผมตอบ คุณวิชัยดูหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปวาดอะไรบางอย่าง
"นั้นอะไรกันครับ?" ผมถามขึ้น
"อ้อ..ผมลองวาดแผนที่ในถ้ำดูน่ะ....มันอาจไม่เหมือนของจริงแต่ก็วาดๆไว้จะได้ไม่ลืมส่วนที่สำรวจไปแล้ว" คุณวิชัยตอบ ท่าทางเขาจะมีความสุขกับการวาดภาพมาก เพราะเขาผิวปากไปพลางวาดภาพไป
แม้คืนนี้คณะเดินทางจะหลับไหลแต่จิตใจของทุกคนยังแรงกล้าที่จะค้นหาต่อไป จิตใจที่ไม่ย่อท้อที่จะเข้าสำรวจทำปริศนาแสนพิศวง ถ้ำที่มีความลี้ลับมากมายอยู่ในนั้น นอกจกนี้ภายในถ้ำยังมีสิ่งของที่ทุกคนตามหาสิ่งที่ทุกคนไม่รู้ว่าเป็นยังไง ความอัศจรรย์เริ่มขึ้นแล้ว......



ที่จริงผมคือ suradet55 นะแต่มีปัญหากับไอดีนิดหน่อยครับ

ขอเพียงกดกล่าวขอบคุณ หรือ คอมเมนท์ติชมครับ ^^

"การกดกล่าวขอบคุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย การติชมผลงานผู้อื่นย่อมทำให้ผู้เขียนดีใจเป็นที่สุด"

nakiann123
25th December 2012, 21:37
แหม่ๆ ผมเห็น ID ท่านแวบๆนะ

Real men cry
26th December 2012, 18:26
แหม่ๆ ผมเห็น ID ท่านแวบๆนะ

ที่ไหนครับ แคร์ด่วน!!

Real men cry
26th December 2012, 18:31
อัพเดทแล้วนะคอมเมนท์กันบ้าง