Speedy-K.O.
25th August 2011, 21:38
http://upic.me/i/w0/92524532_resize.jpg
หลักการใช้ถุงน้ำพลาสติกใสใส่น้ำมัดให้ตึง ผูกห้อยแขวนไว้ไล่แมลงวันนี้ ใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และการใช้ประสาทรับภาพในการมองเห็นของตาแมลงวันมาผสมผสานกัน ตาของแมลงวันมีอยู่ 2 ชนิด คือ ตารวม 2 ตา และตาเดี่ยวอีก 3 ตา ตาเดี่ยวจะอยู่เหนือตารวมตรงหัวส่วนบนระหว่างตารวม 2 ตา เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวลง ตาเดี่ยวสามตานี้ จะช่วยให้แมลงวันสามารถมองเห็นในระยะที่ไกล
ส่วนตารวม 2 ตาที่นูนออก 2 ข้าง ใหญ่กว่าหัวและลำตัวของแมลงวัน เป็นตารวมพิเศษ ซึ่งแต่ละข้างของตารวมประกอบด้วยตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมหลายหมื่นแสนตาเรียงต่อเนื่องกันเต็มลูกตาทั้ง 2 ข้าง และตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมของตารวมนี้ สามารถที่จะรับแสงสว่างได้ทุกมุมมอง ผ่านเลนส์และผลึกรูปกรวยรองรับแสง ซึ่งสามารถที่จะยืด และหดได้เพื่อปรับจอรับภาพที่มองเห็นทั้งในที่มืดและสว่าง ตารวมทำให้แมลงวันสามารถมองเห็นภาพได้กว้างกว่า 180 องศา
จากจุดนี้เอง หากเรานำถุงพลาสติกใสใส่น้ำเปล่า ไปไว้ในบริเวณแสงแดด หรือแสงไฟที่มีลำแสงกระทบ ถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำก็จะเสมือนหนึ่งลำแสงหักมุมสะท้อนออกเข้าตาแมลงวัน เลนส์รับภาพของตาแมลงวันเมื่อได้รับแสงก็จะสะท้อนแสง กลับมาที่ถุงน้ำพลาสติกนั้นเกิดเป็นแสงมุมตก มุมสะท้อนกับเลนส์รับภาพของตาแมลงวันสะท้อนกลับไปกลับมา ทำให้การปรับจุดรวมแสงที่จะส่งให้เกิดภาพบนจอรับภาพ (retina) ไม่ชัดเจน จะทำให้เกิดตาพร่ามัวแมลงวันจึงบินเข้าหาอาหารไม่ถูก ในระยะห่างประมาณ 100 เซนติเมตรขึ้นไป แม้ว่ามันจะได้กลิ่นอาหารก็ตาม
ถุงน้ำไล่แมลงวันนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น ถ้าใช้ถุงร้อนซึ่งเป็นพลาสติกใส น้ำที่บรรจุในถุงควรเป็นน้ำที่ใสสะอาดหรือน้ำฝน น้ำยิ่งใสจะยิ่งสะท้อนแสงได้ดี และต้องมัดถุงน้ำให้ตึงแน่น และแขวนถุงนั้นให้รับมุมแสงรอบทิศทางกับดวงไฟหรือดวงอาทิตย์ ถ้ามีการแก่วงถุงพลาสติกหมุนเป็นลำแสงเบนไปมา แถบแสงที่เบนไปมาจะกระทบเลนส์ถูกลูกตาของแมลงวันมากยิ่งขึ้น ทำให้ตาพร่ามัว เข้าตอมอาหารไม่ถูกจึงบินหนีไปให้พ้นรัศมีลำแสงสะท้อน ถุงน้ำไล่แมลงวันนี้ยังใช้ได้ผลดีในการไล่แมลงชนิดอื่นๆ ที่มีตารวม เช่น ผึ้ง และแมลงวันทองที่กัดกินผลไม้ซึ่งทำให้ผลไม้เน่าเสียหาย ฯลฯ อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
Credit : http://campus.sanook.com/%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%AD-936476.html http://upic.me/i/ff/zorori04.gif
แล้ว... แผ่นซีดีล่ะ ?
ผมว่าก็น่าจะหลักการเดียวกันกับถุงน้ำนะครับคุณบอส ในเรื่องของแสงน่ะครับ ^^
หลักการใช้ถุงน้ำพลาสติกใสใส่น้ำมัดให้ตึง ผูกห้อยแขวนไว้ไล่แมลงวันนี้ ใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และการใช้ประสาทรับภาพในการมองเห็นของตาแมลงวันมาผสมผสานกัน ตาของแมลงวันมีอยู่ 2 ชนิด คือ ตารวม 2 ตา และตาเดี่ยวอีก 3 ตา ตาเดี่ยวจะอยู่เหนือตารวมตรงหัวส่วนบนระหว่างตารวม 2 ตา เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวลง ตาเดี่ยวสามตานี้ จะช่วยให้แมลงวันสามารถมองเห็นในระยะที่ไกล
ส่วนตารวม 2 ตาที่นูนออก 2 ข้าง ใหญ่กว่าหัวและลำตัวของแมลงวัน เป็นตารวมพิเศษ ซึ่งแต่ละข้างของตารวมประกอบด้วยตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมหลายหมื่นแสนตาเรียงต่อเนื่องกันเต็มลูกตาทั้ง 2 ข้าง และตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมของตารวมนี้ สามารถที่จะรับแสงสว่างได้ทุกมุมมอง ผ่านเลนส์และผลึกรูปกรวยรองรับแสง ซึ่งสามารถที่จะยืด และหดได้เพื่อปรับจอรับภาพที่มองเห็นทั้งในที่มืดและสว่าง ตารวมทำให้แมลงวันสามารถมองเห็นภาพได้กว้างกว่า 180 องศา
จากจุดนี้เอง หากเรานำถุงพลาสติกใสใส่น้ำเปล่า ไปไว้ในบริเวณแสงแดด หรือแสงไฟที่มีลำแสงกระทบ ถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำก็จะเสมือนหนึ่งลำแสงหักมุมสะท้อนออกเข้าตาแมลงวัน เลนส์รับภาพของตาแมลงวันเมื่อได้รับแสงก็จะสะท้อนแสง กลับมาที่ถุงน้ำพลาสติกนั้นเกิดเป็นแสงมุมตก มุมสะท้อนกับเลนส์รับภาพของตาแมลงวันสะท้อนกลับไปกลับมา ทำให้การปรับจุดรวมแสงที่จะส่งให้เกิดภาพบนจอรับภาพ (retina) ไม่ชัดเจน จะทำให้เกิดตาพร่ามัวแมลงวันจึงบินเข้าหาอาหารไม่ถูก ในระยะห่างประมาณ 100 เซนติเมตรขึ้นไป แม้ว่ามันจะได้กลิ่นอาหารก็ตาม
ถุงน้ำไล่แมลงวันนี้ได้ผลดียิ่งขึ้น ถ้าใช้ถุงร้อนซึ่งเป็นพลาสติกใส น้ำที่บรรจุในถุงควรเป็นน้ำที่ใสสะอาดหรือน้ำฝน น้ำยิ่งใสจะยิ่งสะท้อนแสงได้ดี และต้องมัดถุงน้ำให้ตึงแน่น และแขวนถุงนั้นให้รับมุมแสงรอบทิศทางกับดวงไฟหรือดวงอาทิตย์ ถ้ามีการแก่วงถุงพลาสติกหมุนเป็นลำแสงเบนไปมา แถบแสงที่เบนไปมาจะกระทบเลนส์ถูกลูกตาของแมลงวันมากยิ่งขึ้น ทำให้ตาพร่ามัว เข้าตอมอาหารไม่ถูกจึงบินหนีไปให้พ้นรัศมีลำแสงสะท้อน ถุงน้ำไล่แมลงวันนี้ยังใช้ได้ผลดีในการไล่แมลงชนิดอื่นๆ ที่มีตารวม เช่น ผึ้ง และแมลงวันทองที่กัดกินผลไม้ซึ่งทำให้ผลไม้เน่าเสียหาย ฯลฯ อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
Credit : http://campus.sanook.com/%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%AD-936476.html http://upic.me/i/ff/zorori04.gif
แล้ว... แผ่นซีดีล่ะ ?
ผมว่าก็น่าจะหลักการเดียวกันกับถุงน้ำนะครับคุณบอส ในเรื่องของแสงน่ะครับ ^^