PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [Comedy/Horror] Mysterious Paper "ต้นฉบับปริศนา"



Blitz
2nd January 2013, 11:42
บทนำ

"ลิสท์ ตื่นได้แล้วลูก วันนี้ต้องเดินทางไปหอพักของลูกแล้วนะ"
"อะ อื๋อ ? เห..."
ผมลืมตาตื่นอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะลุกเข้าห้องน้ำแล้วไปยืนอยู่หน้ากระจก
"หล่อเหมือนกันนะเรา ถุ๊ย !"
ผมหยิบแปรงสีฟันพลางบีบยาสีฟันแล้วเริ่มแปรงฟัน
อ้อ ! สวัสดีครับ ผมชื่อ วิพัฒน์ อายุ 19 ปี วันนี้ผมจะเดินทางไปยังหอพักของมหาวิทยาลัยที่ผมกำลังเรียนอยู่
ผมเป็นคนที่ไหนน่ะเหรอ ? ผมก็เป็นคนทุกที่แหละครับ เพียงแต่รู้สึกว่าต่อจากนี้ จะมีอะไรที่ไม่ใช่คนมาอยู่ด้วยกับผมแล้วน่ะสิ..


Mysterious Paper
ต้นฉบับปริศนา
ให้เสียงภาษาไทยโดย พันธมิตร(ไม่ใช่ละ)



http://upic.me/i/e7/usb_horror.gif
(ตัดรูปมาจากแหล่งอื่นจะแปะลิงค์ไว้ท้ายกระทู้ครับ)



บทที่ 1 : ต้นฉบับ ?

"งั้นแม่กลับก่อนนะลูก ตั้งใจเรียนล่ะ"
แม่โบกมืออำลาผมก่อนจะขึ้นรถของพ่อแล้วขับกลับไป
"เฮ้ออ ~ ยังอยากเป็นเด็กอยู่เลยแท้ๆ ต้องมาใช้ชีวิตมหาลัยซะแล้ว"
ผมบ่นพึมพัมก่อนจะขนสัมภาระเข้าห้องของตัวเอง
"อืม.. ต้องมีรูมเมทด้วยสินะ รูมเมทจะเป็นใครกันน้า ?"
ผมฮัมเพลงพลางยกข้าวยกของจัดเข้าที่ก่อนจะทิ้งตัวลงเตียงแล้วผลอยหลับไป




----------------------------------------




"หืม.. ที่นี่มันนี่ไหนกันเนี่ย"
รอบตัวผมมีฉากที่มีแค่ห้องกว้างๆสีขาวๆอยู่เท่านั้น
ผมกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างงุนงง หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงกระซิบอย่างแผ่วเบา
"เรื่องราว เรื่องราวของชั้น.."
เสียงเหมือนคนมีอายุ ..น่าจะประมาณ 30 กว่าๆได้
"..."
ผมค่อยๆหันไปมองตามต้นเสียงที่กระซิบทางซ้ายของหูผม
ทันใดนั้นผมก็เห็นรูปร่างของคน คนที่อยู่ไกลออกไป
"คุณเป็น... ?"
ผมทักออกไป เห... มีเลือดหยดออกจากปลายนิ้วด้วย ไม่ใช่แค่แผล
เหมือนจะเป็นแผลใหญ่ ? เลือด ? เลือดเต็มพื้นในจุดที่ชายคนนั้นยืนอยู่
"หะ.. ให้ตายสิ"
ผี ? สัตว์ประหลาด ? ในตอนนี้ผมไม่รู้หรอก สิ่งที่ผมทำได้คือ วิ่ง..
วิ่ง.. วิ่งสุดชีวิต ผมวิ่งพร้อมกับฉากห้องสีขาวที่ค่อยๆมืดลงจนดับสนิท




----------------------------------------




"อะ ...อืออ "
ผมตื่นขึ้นจากความฝันที่จะเรียกว่าตื่นเต้นหรือสยองดี ?
"อะ เอ่อ สวัสดีครับ ผมคือรูมเมทของคุณนับแต่วันนี้ครับ"
"อะอ๋อ อือ ยินดีที่ได้รู้จัก"
รูมเมทของผมดูเหมือนคนเนิร์ดๆบ้าเรียน เขาใส่แว่นหนาเตอะแถมขณะใส่ชุดไปรเวทยังใส่เสื้อเข้าข้างในซะอีก !
เจอคนแบบนี้ผมล่ะอึดอัดจริงๆเลย..
"อะอ่อ ผมชื่อลิสท์นะ แล้วนายล่ะ ?"
"อ๊ะ.. ผมชื่อยิ้มครับ"
คนอะไรชื่อยิ้ม ฮ่าๆๆ ไม่เอาๆ อย่าไปว่าเขางั้นสิ
ผมตบปากตัวเองในใจ


"เห... แล้วนี่การ์ตูนที่คุณลิสท์เขียนเหรอครับ วาดสวยดีน้า.. แต่ทำไมต้องใช้ปากกาแดงด้วยล่ะ ?"
"หือ ? อ้อใช่ การ์ตูน.. ...หา !? การ์ตูน !? ผมไม่ได้เขียนนะ"
ผมหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู
"อีกอย่าง.. นี่ดูไม่เหมือนปากกาแดง มันดูเหมือน 'เลือด' มากกว่า..."


----------------------------------------
(ติดตามบทต่อไป)



บทที่ 2 :

Waiting




Credit Pic : Click (http://www.reboot.lt/play.php?d=usb_horror.jpg)

Blitz
27th January 2013, 15:18
"จะฆ่าคนน่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออาวุธอะไรหรอก แค่ใช้จิตใจที่สกปรกเลวทราม ก็ทำให้คนหลายๆคนตายได้แล้ว"


บทที่ 2 : ใคร ?

"นี่มันการ์ตูนอิท่าไหนกัน เนื้อเรื่องก็ไม่มีแก่นสาร แค่กล่าวถึงชีวิตของคนๆนึงเนี่ยนะ ?"
ผมวิจารณ์การ์ตูนที่อยู่ในมือ
แผ่นกระดาษ.. แผ่นกระดาษความยาวเท่ากับกระดาษ A4 ที่มีช่องการ์ตูนอยู่ไม่กี่ช่อง การ์ตูนที่มีหน้าเดียว
"ตะ..แต่มันน่ากลัวเป็นบ้าเลยนะครับ ใครมันจะไปบ้าเขียนการ์ตูนด้วยเลือดกันล่ะ ?"
"ก็นั่นสิ..."
ผมจ้องมองกระดาษแผ่นนั้น อ่านการ์ตูนแผ่นนั้นวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ ความรู้สึกมันเหมือนมีอะไรที่ดึงดูดให้อ่าน
"แต่เนื้อเรื่องการ์ตูนมันคุ้นๆนะ ? เหมือนการ์ตูนชีวิตของใครคนนึงเลย..."
ผมพึมพัมก่อนจะเหลือกตาโตขึ้น
"เฮ้ย !? นี่มันชีวิตผมนี่นา"
ผมตกใจสุดขีดก่อนจะอ่านการ์ตูนแผ่นนึงที่ว่านั่นอีกรอบ
"หะให้ตายสิ คระใครมันมาแกล้งกันแบบนี้ เอาเลือดมาวาดการ์ตูน มิหนำซ้ำยังเอาชีวิตผมไปวาดซะอีก !?"
"ใจเย็นๆก่อนครับลิสท์"
เจ้ายิ้มเอามือจับไหล่ผมแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนทั้งๆที่มีสีหน้าตกใจไม่น้อยเหมือนกัน
"พอเถอะ แบบนี้ มะไม่ไหวแฮะ"
ผมขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งโดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะเกิดเรื่องซวยๆต่อจากนี้อีกมากมาย...


----------------------------------------


"ทำไม ? ทำไมต้องทำลายมันด้วยล่ะ ชั้นหวังดีนะ... งั้นชั้นจะทำใหม่ให้ก็แล้วกัน..."


----------------------------------------


"แย่จริง ใครมาเล่นอะไรพิเรณๆแบบนี้กันนะ"
ผมสบถออกมาพลางเปิดตู้เย็นในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาน้ำอัดลมซักขวด
"ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ พรุ่งนี้มีปฐมนิเทศน์นะครับ พวกเราต้องไปให้ทัน มัวแต่กังวลถ้าไปไม่ทันมาล่ะก็แย่แน่เลยนะครับ"
ยิ้มบอกกับผมด้วยคำสุภาพ
สุภาพจนอยากอ้วก..
"นั่นสินะ งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนละกัน"
"ครับ ผมว่าจะหาอะไรกินหน่อยค่อยขึ้นไปน่ะครับ คุณลิสท์ไปอาบน้ำก่อนได้เลยครับ"
พูดงี้หมายความว่าไงฟะ!? เอ็งจะอาบน้ำกะชั้นรึไง !? ไม่มีทางซะหรอก !!

ผมเดินขึ้นห้องตัวเองก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
ที่หอพักของผม จะมีห้องน้ำส่วนตัวในห้องด้วย เพราะค่าเช่าห้องค่อนข้างจะแพงน่าดู
ผมเริ่มต้นแปรงฟันอยู่ที่อ่างล้างมือซึ้งมีกระจกสะท้อนให้เห็นข้างหลังของผม
...มันดูน่าสยองยังไงชอบกลแฮะ
ผมเดินไปหลังผ้าม่านซึ่งเป็นส่วนอาบน้ำ
"เฮ้อ.."
มันคืออะไรกันนะ ให้ตายสิ หงุดหงิดชะมัด อย่าให้พ่อจับได้นะ จะซ้อมให้อ่วมเลย !!
ผมพึมพัมทั้งที่ยังอาบน้ำอยู่
"ทำไม... ทำลายทำไมกัน ?... ทำไม ?... ทำไม ?..."
"หือ ? เสียงใครฟะ !?"
ผมตะโกนลั่นห้องน้ำด้วยความตกใจก่อนที่จะถีบผ้าม่านออกสุดแรง
ระรู้สึกเหมือนถีบโดนอะไรด้วยแฮะ...
ผ้าม่านเปิดออก... แต่กลับไม่มีอะไรอยู่ตรงที่ผมถีบเลย
อะ..อะไรกัน นะน่ากลัวแฮะ แบบนี้ไม่ไหวแฮะ
ผมรีบออกจากห้องน้ำก่อนจะแต่งตัวแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง
"เฮ้ย อะไอ้ยิ้ม !! ผะผมโดนผีหลอกอะ"
ผมวิ่งหน้าตื่นมาหามันที่โรงอาหาร
"บ้าน่า.. อย่าทำให้ผมกลัวไปด้วยสิ หลอนไปเองรึเปล่าคุณลิสท์ ?"
"หลงๆหลอนๆอะไรกันเล่า ได้ยินเสียงอะไรไม่รู้อยู่ในห้องน้ำผมก็เลยถีบมันเต็มแรง แต่พอเปิดมา มันไม่มีอะไรซะงั้นอะ ?"
เชื่อหน่อยเถอะ เชื่อผมที ผมไม่ได้หลอนไปเองนะ...
"ทำใจให้สบายแล้วขึ้นนอนกันเถอะครับ นี่มันก็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว คุณลิสท์ก็นอนไปกอ่นเลยละกัน ผมยังต้องอาบน้ำอีก"
"ให้ตายสิ.."
ผมสบถออกมา ก่อนจะลากเจ้ายิ้มขึ้นห้องแล้วก็เข้านอน


----------------------------------------


"นี่ๆ... ชั้นทำให้ใหม่แล้วนะ.. ฮี่ฮี่..."


----------------------------------------


ตอนเช้าเวลา 06:03 น.

นาฬิกาปลุกที่ผมตั้งโดยโทรศัพท์ได้ดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"โอย.. อืม..."
ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพลางสอดส่องสายตาไปทั่วห้อง
ยิ้มแต่งตัวกำลังจะเสร็จดีก่อนจะหันมาเห็นผมที่เพิ่งตื่นนอนแล้วยิ้มให้
"ปลุกกันบ้างก็ดีนะ.."
"ฮ่าๆๆ ขอโทษครับ ผมไม่อยากรบกวนเวลานอนน่ะ"
"อืมๆ.. ไม่เป็นไร"
ผมหันตัวออกจากเตียงก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจไปมาหลายนาที
"หืม ? เห ?"
ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่คุ้นตา
ฮะเฮ้ย !!
"นี่มันการ์ตูนนี่นา ถะแถมหน้าที่ขย้ำทิ้งไปยังถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย !?"
ยะแย่ล่ะสิ นี่มันไม่สนุกแล้วนะ...

----------------------------------------

lukpar
27th January 2013, 17:57
เจ้ายิ้ม = ช้างยิ้ม ใช่มั้ย!!

Blitz
30th January 2013, 19:45
.



"ฮี่ฮี่... อยากรู้รึเปล่าล่ะ ว่าทำได้ยังไง.. มันเจ๋งดีใช่ม้า... ไม่อยากตายก็หาชั้นให้เจอสิ ฮิ..."

บทที่ 3 : หาให้เจอสิ

"ปวดตับว้อยย !!"
ผมโวยวายพลางเอามือขยี้หัวตัวเองกลางโรงอาหารด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก
"ใจเย็นครับ คุณลิสท์คิดว่าไง ? ผีเหรอครับ ?"
"ไม่ให้เป็นผีจะให้เป็นอะไรล่ะ หมาเรอะ หมาที่ไหนมันเขียนการ์ตูนกันล่ะ"
"แหมๆ ไม่ต้องหงุดหงิดขนาดนั้นก็ได้ครับ"
ผมครุ่นคิดซักพักหนึ่งก่อนจะตักข้าวกระเพราไก่ยัดเข้าปากคำนึงแล้วคว้าการ์ตูนแผ่นที่ 2 ขึ้นมาอ่าน
"อืมม.. อันอ้อไอ้เอิงเอ็นอั๊นอ๊ะอีเอียวอ่อก"
"กลืนข้าวก่อนค่อยพูดก็ได้นะครับ"
ยิ้มตอบก่อนจะหัวเราะอย่างมีมารยาท
ทำไมเอ็งต้องทำตัวเป็นคนเจ้าระเบียบแบบนั้นด้วยฟะ !!
ผมกลืนข้าวที่เพิ่งเคี้ยวเสร็จแล้วเริ่มพูด
"มันก็ไม่เชิงเป็นผมซะทีเดียวหรอกนะ..."
"..."
"ก็ดูจากในการ์ตูนแล้ว แผ่นที่ 2 มันไม่ตรงกับชีวิตของผมเลยซักนิด แต่กลับกันที่ตัวละครตัวผมเป็นตัวดำเนินเรื่องเหมือนเดิมน่ะสิ"
ผมอ่านนิยายซ้ำหลายรอบก่อนจะวางลง
"แต่มันก็เล่นแรงไปนะ เล่นเอาตัวชั้นไปโดนรถบรรทุกชนแบบนั้น ฮะๆ"
ผมหัวเราะแหยๆก่อนจะลุกไปซื้อน้ำ
"แล้วนายเอาน้ำอะไรมั้ยยิ้ม ?"
"อ่อ.. ไม่หรอกครับ ผมหันมารักษ์โลกครับ ไม่กินน้ำ กินน้ำลายตัวเองแทน ฮี่"
"โถ... ไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มาก็บอก"
"ขอโทษครับ... ขอยืมเงินก่อนละกันครับ"
ระหว่างที่ผมเดินไปซื้อน้ำก็เหลือบเห็นเจ้ายิ้มมันหยิบการ์ตูนแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน หน้าตาดูเครียดเชียว คนร้ายก็คงไม่ใช่มันด้วย
มันคงเขียนไม่ทันใน 1 วันหรอก แต่เลือดเนี่ยนะ เราจะไปรู้ได้ไงว่านี่มันฝีมือไง
จริงสิ !! ถ้าตรวจเลือดล่ะ เป็นไปได้แน่ แกติดกับชั้นแล้วเจ้าผีบ้า ฮ่าๆ
ผมหัวเราะอยู่ในใจคนเดียวด้วยความชั่วร้าย
แกอาจจะไม่ใช่ผีก็ได้... ไม่ใช่คน ก็... ไม่สิ... ถ้าเป็นฆาตกรล่ะ ? แบบนี้ก็น่ากลัวแฮะ แต่ยังไงก็ต้องรู้ได้ไง พวกโรคจิตงั้นเหรอ...
"คุณลิสท์ครับ จะยืนอมความเย็นเหรอครับ เห็นยืนอยู่นี่เป็น 5 นาทีแล้วนะครับ"
"อ๊ะ !"
ผมรู้สึกตัวว่าตัวเองหน้ายื่นเข้าไปในตู้เย็นขายน้ำอยู่
"คิดอะไรเพลินๆน่ะ แกคิดว่าไงยิ้ม ถ้าจะเอากระดาษนี่ไปให้หมอตรวจเลือดดูน่ะ"
"เห... จริงสิ ลืมคิดถึงตรงนี้ไปเลยครับ ก็ดีนะครับ"
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นความซวยของผมในวันนี้...


----------------------------------------


"อะไรกันล่ะ... ฮี่ อยากรู้ว่าชั้นเป็นใครเหรอ ไม่ยากหรอก แค่หาให้เจอสิ ฮี่ฮี่..."


----------------------------------------

เวลาประมาณเที่ยงที่โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย

"แกคิดว่าจะเป็นใครฟะเจ้ายิ้ม ถ้าเอาเจ้าเลือดนี่ไปตรวจน่ะ"
"ไม่รู้สิครับ ตามสถิติจำนวนประชากรในปี 2554 มีประชากรทั้งหมด 64,076,033 คน ปัจจุบันอาจจะถึง 65 ล้านแล้วก็ได้นะครับ"
"โหย มะไม่ต้องวิชาการขนาดนั้นก็ได้ครับ ขอโทษครับ จะไม่ถามแล้วครับ"
ผมยกมือไหว้ขอโทษมันก่อนจะมีเสียงเรียกให้พวกผมเข้าไปหาหมอที่นัดไว้
ผมเดินเข้ามาในห้องซึ่งเหมือนห้องตรวจโรคหรือห้องตรวจสุขภาพ ภายในห้องเป็นห้องสีขาวล้วนไม่มีการตกแต่งใดๆ แต่บ่งบอกให้รู้ว่าถูกรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี
"คือ ผมอยากให้หมอตรวจเลือดให้หน่อยน่ะครับ"
เหมือนสายตาหมอจะมองหน้าผมงงๆนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยปากพูด
"อ่ะ..ได้ งั้นยื่นแขนมาสิ"
"หะเห ได้ครับหมอ"
ผมยื่นแขนไปอย่างว่าง่าย
"โอเค งั้นรอหมอแปปนะ"
"มะหมอจะไปไหนครับ ?"
หมอหันกลับมาทำหน้างงๆให้ผมแล้วพูดเหมือนแปลกใจ
"ก็เอาเข็มน่ะสิ จะตรวจเลือดไม่ใช่เหรอไง"
"เฮ้ย !! ไม่ใช่งั้นครับหมอ ไม่ใช่ให้ตรวจเลือดผ๊ม !!! ตรวจเลือดจากกระดาษเนี่ยอะครับ ว่ามันเป็นเลือดใคร DNA ใครครับ !!"
ผมหันไปคว้ากระดาษในกระเป๋าเป้แล้วส่งให้หมอ
"หืม... ไหนล่ะ เลือดที่จะตรวจน่ะ..."
"ก็... นี่ไงครับ...ฮะเฮ้ย !!"
ผมลุกขึ้นไปชี้หน้าการ์ตูนสีเลือดให้คุณหมอเห็น แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายมันดันเกิดขึ้นน่ะสิ
"ทำไมมันถึงกลายเป็นกระดาษเปล่าได้ล่ะ..."


----------------------------------------

Blitz
3rd February 2013, 17:52
บทที่ 4 : ความจริง

"กระดาษเปล่า... มันเป็นไปไม่ได้..."
"แต่ก็เป็นไปแล้วไง เป็นไงล่ะ เจ๋งใช่มั้ยล่ะ"
เสียงแผ่วเบาที่แยกเพศไม่ออกกำลังกระซิบอยู่ข้างหูของผม เสียงที่ไม่รู้ที่มา
เสียงที่ผมคิดว่าผมหูแว่วไปเอง
"แย่มั้ยล่ะไอ้ยิ้ม กระดาษมันกลายเป็นกระดาษเปล่าไปซะแล้วล่ะ อย่างกับมายากลเลยมั้ยล่ะ ? ฮะๆ"
ผมหัวเราะอย่างไม่สบอารมณ์เท่าที่ควรพลางกุมขมับไปด้วย
"ใจเย็นๆครับลิสท์ ทุกปัญหามีทางออกครับ เดี๋ยวเราค่อยกลับไปคิดกันอีกทีที่ห้องดีมั้ยครับ ?"
"ก็... น้า ~~~~~"
ผมลากเสียงอย่างเซ็งแส้

"อะไร... ใครว่าไม่เชิงเป็นนาย นายเต็มๆเลยต่างหาก ฮิ..."

ผมกับเจ้ายิ้มกำลังพากันเดินกลับห้องพัก แต่เพิ่งเดินกันมาได้ครึ่งทางน่ะสิ แย่จัง
มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ กระดาษที่มีแต่เลือดมันกลับกลายเป็นแค่กระดาษเปล่าๆงั้นเหรอ ชิ... ตลกไม่ออกแฮะ
ผมเดาะลิ้นพลางยกกระดาษขึ้นมาจ้องทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง มันคือกระดาษสีเลือด แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่กระดาษเปล่าเท่านั้น
"เลยปากซอยนี้ไปก็ได้ถึงหอพักพวกเราแล้วครับ"
เจ้ายิ้มพูดพลางเร่งจังหวะเดินเร็วขึ้น
จะรีบไปไหนฟะ !
"ระรอด้วย... อ๊ะ แย่ล่ะสิ"
ผมรู้สึกเหมือนมีแรงอัดกระแทกหน้าอย่างแรงจนกระดาษที่อยู่ในมือผมตกพื้น
มีแต่เรื่องซวยๆทั้งนั้นเลย !!
ผมก้มลงไปหยิบกระดาษก่อนจะเห็นเท้าเจ้ายิ้มที่ไม่รู้ตัวว่าผมหยุดเก็บกระดาษ
...มันเดินนำหน้าผมเพียงไม่กี่ก้าว ...ก้าวที่ผ่านซอยไป ไม่สิ... ยังไม่ผ่านซอยเลยด้วยซ้ำ กลางถนนเลยต่างหาก
ซอยที่มีไว้สำหรับคนเดินเท้าเท่านั้น เหมือนซอยในหมู่บ้านทั่วไป แต่ทำไม...
"โครม !!"
รถบรรทุกชนไอ้ยิ้มอย่างจังจนตัวลอยขึ้นเหนือหัวผม ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังลอยข้ามหัวผมไป
"ฮะ เฮ้ย !?"
ผมหันตามร่างของมันไปข้างหลัง อ๊ะ ได้ยินเหมือนเสียงคอเลื่อนนิดหน่อยนะ คอเคล็ดแน่เลย... ไม่ ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น
ร่างของไอ้ยิ้มถูกลากไปกับพื้นเหมือนเอาเชือกมาผูกแล้วลาก แต่มันไม่ใช่... มันถูกลากด้วยแรงขับเคลื่อนของรถที่ชนมัน ไม่น่าจะต่ำกว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ร่างของไอ้ยิ้มกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าจนงอนิดหน่อยก่อนจะกลิ้งไปนอนแน่นิ่งห่างจากตัวผมประมาณ 10 เมตร
"..."
ผมพูดไม่ออก พลันพยายามดันตัวขึ้นวิ่งไปดูจุดที่เจ้ายิ้มเพิ่งยืนอยู่เมื่อกี๊
หะให้ตายสิ... เรี่ยวแรงไปไหนหมด
แต่สิ่งที่กลับทำให้ผมทรุดฮวบลงยิ่งกว่านั้น...
รถบรรทุกหายไปแล้ว ? บ้าน่า เพียงเวลาไม่กี่วินาทีเอง อย่างน้อยก็น่าจะเห็นไกลๆสิ
ผมเห็นกลับไปหาเจ้ายิ้ม... ศพก็ยังอยู่ มันคือความจริงที่เกิดขึ้น
ผมทั้งวิ่งทั้งคลานไปหาศพเจ้ายิ้ม สภาพมันดูไม่ได้ กระดูกคงหักไปทั่วทั้งตัว แขนขาก็บิดเบี้ยวไปหมด
ร่างที่ไร้วิญญาณ...
"มะ ไม่... ไม่ "
ผมทั้งอยากจะร้องไห้ทั้งอาเจียนออกมาพร้อมๆกัน ตอนนี้เพื่อนผมได้จากไปแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ ควรทำยังไงดี ?
ผมกดโทรศัพท์โทร 191 ก่อนจะนั่งลงเฝ้าศพเจ้ายิ้มจนตำรวจมา

----------------------------------------

"...ลุ้นดีมั้ยล่ะ ตื่นเต้นดีล่ะสิ หัวใจเต้นแรงเลย ฮ่าๆ..."

----------------------------------------

"อาห์..."
ผมเดินกุมขมับกลับมายังห้องพักของตัวเอง ถึงเวลาที่ผมควรจะย้ายออกแล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว
ผมเปิดประตูห้องพักตัวเองก่อนจะเดินเข้าไป
นี่โลกมันเบี้ยวหรือเราเดินไม่ตรงฟะ ฮะๆ...
ผมพยายามเดินโซซัดโซเซไปยังหน้าห้องน้ำก่อนจะเปิดน้ำแล้วล้างหน้าให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
"โว้ยยยย !!!"
ผมตะโกนสุดเสียง
ไม่กี่วันที่เข้ามหาลัยบ้าๆนี่มาก็ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆตลอดเวลา มันทำให้ผมถึงขีดสุดกับความอดทนที่เคยมีมา
คงเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี ผีเลยเป็นประเด็นแรกที่ผมตัดออกไป ผีมันไม่มีจริงหรอก
ผมมองหน้าตัวเองผ่านทางกระจกเงา
"โทรมขึ้นเยอะเลย สิวก็ขึ้นด้วย เพราะไอ้เรื่องพวกนี้แน่เลย เลยทำให้ชั้นไม่ได้นอน เพราะพวกแก... แย่จริง"
ผมสบถออกมาใส่ตัวเองทางกระจกก่อนจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงผม
หรือว่า...
ผมรีบเดินไปที่โต๊ะนั่นก่อนจะหยิบกองกระดาษขึ้นมา
กระดาษ 3 แผ่น... ...2 แผ่นที่เนื้อเรื่องหายไป ไปโผล่ที่กระดาษแผ่นพวกนี้... แถมมีอีกแผ่นเพิ่มมา...
เรื่องราวของวันนี้ เพื่อนผมที่ถูกรถชน ทุกๆอย่างเป็นไปตามกระดาษแผ่นที่ 3 ทั้งหมด
แต่นี่ไม่ใช่เวลาให้ระลึกถึงเพื่อนที่เพิ่งจากไป มันทำให้ผมฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้... ใช่แล้ว !!
ผมวิ่งไปที่ถังขยะแล้วค้นหากระดาษแผ่นแรกที่ผมขยำทิ้งไป
...เจอแล้ว !!
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ กระดาษแผ่นแรกที่ผมขยำทิ้งนั้นว่างเปล่า... แต่ทำไมล่ะ ? ผมมั่นใจว่าผมไม่ขยำกระดาษผิดแน่ๆ
เป็นเพราะอะไร... เพราะใครทำกันนะ...
หรือว่า !!... มันน่าจะเป็นอย่างที่ผมคิด ถ้าผมคิดไม่ผิดล่ะก็มันต้องคือสิ่งนี้แน่ๆ...
ผมทิ้งตัวลงนอนทั้งสภาพไม่อาบน้ำอย่างนั้น ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ย้ายออกแล้ว ค่อยอาบพรุ่งนี้ก็ได้นี่ ฮะๆ...

----------------------------------------

"ไม่ได้... ไปไหนไม่ได้หรอก ทุกๆอย่างจะจบแล้ว ที่เหลือคือแกต้องหา..."

----------------------------------------

"เอาอีกแล้ว นี่คือฝันอีกแล้วแน่ๆ..."
ผมหยิกตัวเอง รู้สึกชาๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกตัวว่าผมฝันอยู่
ผมอยู่ภายในห้องสีขาว สีขาวล้วนเหมือนฝันวันก่อนที่ผมเพิ่งเจอ
"เป็นไงล่ะ... สนุกมั้ย เรื่องราวของชั้น..."
เสียงกระซิบรอบๆหูผมดังขึ้น เหมือนช่วงนี้ผมจะได้ยินจนชินแล้วด้วยซ้ำ เพียงแค่ทำเป็นไม่สนใจก็เท่านั้นเอง
"แกน่ะ... สนุกนักรึไงฟะ"
ผมเดินตรงไปหามันอย่างไม่หวาดกลัวเหมือนวันก่อนที่ได้เจอ
"สนุกสิ ถ้าลองมาเป็นแก ก็สนุกนะ... ฮิ"
มันแสยะยิ้มให้ผม เงาดำๆที่รูปร่างเหมือนมนุษย์
"นั่นสินะ ดูเหมือนชั้นจะรู้แล้วว่าแกอยู่ที่ไหน ถ้าสิ่งที่ชั้นคิดมันถูกต้องทั้งหมดล่ะก็นะ"
ผมยืนจ้องหน้ามัน ผมไม่กลัวแล้ว... เพราะผมรู้ว่ามันคือใครแล้วน่ะสิ
"ก็..น้า... งั้นก็มาหาชั้นสิ ชั้นไม่หนีไปไหนหรอก..."
เสียงที่เหมือนกระซิบข้างหูยังเสียงดังฟังชัดเช่นเคย แม้ว่าจะอยู่ห่างมันขนาดไหนก็ตาม
"แกก็คงรู้แล้วสิน้า ว่าชั้นเป็นอะไรน่ะ ก็ขอให้วันพรุ่งนี้ของแกสนุกน้า ฮี่..."
"แน่นอนอยู่แล้วล่ะ มันไม่มีอะไรต้องให้กลัวแกอีกแล้วล่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ"
ผมหันหลังให้แล้วเดินกลับไป ทำไมผมต้องไม่ต้องหนีแล้ว ทำไมผมต้องถึงได้กล้าขนาดนี้ ก็เพราะผมรู้แล้วน่ะสิ ว่ามันคือ...