มีใครพอจะอธิบายเกี่ยวกับ ทฤษฏี สัมพันธภาพ ได้บ้างครับ?

[Ich_Liebe_Dich]

ผมสนใจเรื่องพวกนี้ ซึ่งผมเคยได้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับ การ ทำงานของNukeไปแล้ว ตอนนี้ ผมอยากรู้หลายอย่างมาก แต่ ค่อยๆถามที่ละอย่าง ตอนนี้อยากรู้เกี่ยวกับ ทฤษฏี สัมพันธภาพ ครับ ใครพอจะอธิบาย แบบย่อๆได้บ้าง เคยไปอ่านอยู่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างครับ ขอบคุณมากๆครับ

[{s-c-p} *man*]

ถ้า จะอธิบาย กันคงไม่จบครับ มันกว้างมาก

สั้นๆเลยให้พอเข้าใจ

สัมพัทธภาพ

วางมือคุณไว้บนเตาอบร้อนๆ สักนาที มันจะเหมือนกับชั่วโมง

นั่งลงข้างสาวสวยสักชั่วโมง มันจะเหมือนกับนาทีเดียว

ผมสองเส้นในถ้วยกาแฟนั้นมากไป

ผมสองเส้นบนศีรษะนั้นน้อยไป

นั้นคือ สัมพัทธภาพ

[assist05]

ลึกซึ้งมาก

[Fairy]

อธิบายด้วย Twin Paradox ล่ะกัน

สมมุติคุณมี แฝดหนึ่งคน

คุณโชคดีที่ได้ไปสำรวจ ดาว xxx

ที่ต้องใช้เวลาเดินทาง 10 ปีแสง

แล้วคุณใช้เวลเดินทางด้วยความเร็วแสงไปกลับ รวม เป็นเวลา 20 ปี

กลับมาถึงโลก คุณจะแก่ขึ้น 20 ปี

แต่แฝดของคุณอาจจะแก่ 70 ปี


ถ้าสนใจจริงๆ คราวนี้ผมหาเวปเรียนบ่ได้

แต่แนะนำหนังสือให้ได้

เล่มแรก A Brief History of Time ชื่อภาษาไทย ประวัติย่อของกาลเวลา

http://upic.me/i/0r/illustrated_brief_history_of_time.jpg (http://upic.me/show/2570291)

เล่มที่สองอ่านต่อกันเลย The Universe in a Nutshell ชื่อไทย จักรวาลในเปลือกนัท



http://upic.me/i/x1/the-universe-in-a-nutshell_stephen-hawking_2001.jpg (http://upic.me/show/42586896)

ที่ผมแนะนำสองเล่มนี้เพราะอ่านแล้วสนุกเข้าใจง่ายมากไม่ต้องมีความรู้ในด้านฟิสิกส์ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆด้วยการยกตัวอย่างของคนเขียน
ผมอ่านเล่มแรกแล้ว เนื้อหาสนุก เข้าใจง่าย น่าติดตาม

แต่งโดย สตีเวน ฮอร์กกิ้ง นักฟิสิกส์ ที่ยิ่งใหญ่ พอๆกับไอสไตน์


ซื้อที่ไหนหรอครับ? อยากอ่านมากเลยครับ

ร้าน ซีเอ็ด ก็น่าจะมีมั้งครับ ถ้าไม่มีในสต็อกของร้านก็สั่งจากร้านเอาเลย หนังสือขายดี อีกอย่างตีพิมพิ์ ออกมาตั้งหลายรอบ

[jamebanjen]

เพึ่งรู้ว่ามีทฤษฏีแบบนี้ด้วย

[haofire]

ก่อนอธิบาย นะครับ แสดงว่าคุณก็พอเข้าใจ สมการ E=Mc2 มาแล้ว
ถ้าคุณตอบได้ว่า ทำไม ต้องใช้ C (ความเร็วแสง) ในสมการนี้ได้
ผมจะอธิบายให้ครับ แต่ถ้าหากคุณไม่ ก็ยาก ที่จะทำให้คุณเข้าใจครับ

[BaCk To NaTuRe]

สัมพันธภาพ มี 2 แง่ครับ คือ

1.แบบทั่วไป
ใช้อธิบายได้ทุกการเคลื่อนที่ในห้วงอวกาศครับ โดยหลักเวลาอวกาศ เช่นการเวลาที่ไม่เท่ากัน โดยอาศัยการอธิบาย โดยอิงจากแรงโน้มถ่วง เช่น แรงโน้มถ่วงเยอะ เส้นเวลา
อวกาศงอมาก เวลาช้าลง เช่นเวลาบนดาวพฤหัสจะช้ากว่า โลก หรือการตกแบบอิสระ

2.แบบพิเศษ
เป็นทฤษฎีที่ล้มล้าง ทฤษฎีเวลาสัมบูรณ์ของนิวตัน ก็คือ ระยะทางและเวลาจะขึ้นอยู่กับผู้สังเกตุ เหมือนที่ข้างบนบอกครับรวมถึง จน. ด้วย โดยใช้สูตรที่สุดยอดอย่าง
E=MC^2 ครับ โดย โดยการ เอามวลคูณเข้ากับ ความเร็วแสง^2 (มวลเดินทางด้วยความเร็วแสง 2 เท่า) เราก็จะกลายเป็นพลังงานวี๊ดวิ้วเลย
แล้วเราก็จะลั่นล้าไปในอวกาศได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ยังไม่มีใครทำกลับมาเป็นมวลเหมือนเดิมได้เท่านั้นเอง

ปล. ผมมั่วนะ ฮ่้าๆ อาจจะมีจริง + ผิด + มั่วบ้าง นี่คือที่ผมได้ยินมา ฮ่าๆ :sweat

[Z€l2oN€]

http://www2.eduzones.com/learn/29865

[Ich_Liebe_Dich]

อธิบายด้วย Twin Paradox ล่ะกัน

สมมุติคุณมี แฝดหนึ่งคน

คุณโชคดีที่ได้ไปสำรวจ ดาว xxx

ที่ต้องใช้เวลาเดินทาง 10 ปีแสง

แล้วคุณใช้เวลเดินทางด้วยความเร็วแสงไปกลับ รวม เป็นเวลา 20 ปี

กลับมาถึงโลก คุณจะแก่ขึ้น 20 ปี

แต่แฝดของคุณอาจจะแก่ 70 ปี


ถ้าสนใจจริงๆ คราวนี้ผมหาเวปเรียนบ่ได้

แต่แนะนำหนังสือให้ได้

เล่มแรก A Brief History of Time ชื่อภาษาไทย ประวัติย่อของกาลเวลา

http://upic.me/i/0r/illustrated_brief_history_of_time.jpg (http://upic.me/show/2570291)

เล่มที่สองอ่านต่อกันเลย The Universe in a Nutshell ชื่อไทย จักรวาลในเปลือกนัท

http://upic.me/i/x1/the-universe-in-a-nutshell_stephen-hawking_2001.jpg (http://upic.me/show/42586896)

ที่ผมแนะนำสองเล่มนี้เพราะอ่านแล้วสนุกเข้าใจง่ายมากไม่ต้องมีความรู้ในด้านฟิสิกส์ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆด้วยการยกตัวอย่างของคนเขียน
ผมอ่านเล่มแรกแล้ว เนื้อหาสนุก เข้าใจง่าย น่าติดตาม

แต่งโดย สตีเวน ฮอร์กกิ้ง นักฟิสิกส์ ที่ยิ่งใหญ่ พอๆกับไอสไตน์

ซื้อที่ไหนหรอครับ? อยากอ่านมากเลยครับ

[Mercury]

จักรวาลในเปลือกนัท ผมอ่านก็สนุกดีนะ แต่แบบกลิ่นกระดาษมันชวนให้ผมปวดหัวจริงๆ (ลองหาตามร้านหนังสือใหญ่ๆอ่ะครับ น่าจะมี)

[kibakanun]

ถ้า จะอธิบาย กันคงไม่จบครับ มันกว้างมาก

สั้นๆเลยให้พอเข้าใจ

สัมพัทธภาพ

วางมือคุณไว้บนเตาอบร้อนๆ สักนาที มันจะเหมือนกับชั่วโมง

นั่งลงข้างสาวสวยสักชั่วโมง มันจะเหมือนกับนาทีเดียว

ผมสองเส้นในถ้วยกาแฟนั้นมากไป

ผมสองเส้นบนศีรษะนั้นน้อยไป

นั้นคือ สัมพัทธภาพ

หรืออีกอย่างที่ไอสไตน์บอกคือ "คนที่ฉลาดมากกับคนที่ไม่มีความรู้เลยเอามาเทียบกับความรู้ทั้งจักวาลทั้ง2คนก็ไม่ได้ต่างกันเลย"