PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : Twin Paradox ปริศนาฝาแฝดพิศวง



BaCk To NaTuRe
8th January 2013, 14:40
วันนี้จะมากล่าวถึง ปริศนานี้กันครับ "ฝาแฝดพิศวง" (Twin Paradox)


------------------------------------------------------------------------------------

ปริศนานี้ก็คือ ว่า สมมุติว่ามีฝาแฝดอยู่คู่นึง เอาเป็นว่าชื่อ เจมส์ กับ จอนห์ แล้วกัน แฝด 2 คนนี้ มีคนนึง
เป็นนักบินอวกาศซึ่งก็คือ จอนห์ แล้วได้ทำการออกบินไปนอกอวกาศ โดย เจมส์เนี่ยอยู่ในโลก แล้วก็ทั้งสองคนเนี้ย
สามารถมองเห็นหน้ากันได้ตลอดเวลาสามารถเห็นการกระทำของอีกคนได้ตลอดเวลา(วิธีการมองเห็นกันก็ข้ามมันไปนะครับ)
จอนห์ ก็จะเห็น นาฬิกาของเจมส์บนโลกเนี่ยเดินช้ากว่าของตน แต่ในทางกลับกันเจมส์ก็เห็นเวลาในนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังกระสวยอวกาศของจอนห์ เนี่ย
เดินช้ากว่าของตนเช่นกัน สรุป ทั้ง 2 คนเห็นเวลาของอีกฝ่ายเดินช้าลงซึ่งก็คือ จอนห์จะเห็นเจมส์ เนี่ย เด็กกว่า ส่วนเจมส์จะเห็นจอนห์
เด็กกว่าเช่นเดียวกัน แล้วสรุป ใครกันแน่ที่เวลาเดินช้ากว่ากัน นี่จึงก็เกิดความผิดแผกทาง ธรรมชาติขึ้นมา ที่เรียกว่า Paradox(ไม่ใช่วงดนตรีนะ ฮ่าๆ)
แต่ทันใดนั้น เมื่อกระสวยอวกาศที่อาจจะบินไปซื้อผักกาดบนดาวอังคารเสร็จเรียบร้อย ก็เลี้ยวกลับมา ที่โลกเมื่อมาถึงโลกเนี่ย จอนห์ ก็ต้องพบความแปลกใจ
เมื่อ แฝดอันเป็นที่รักของเขานั้น แก่หงำเหงือก ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่มองหน้ากันอยู่ตลอดแท้ๆ



-------------------------------------------------------------------------------------

http://upic.me/i/aq/figure_29_02_05a.jpg

-------------------------------------------------------------------------------------



เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ว่า มีบุคคลหนึ่งเนี่ยเดินทางออกไป แล้วไปทำให้ผลของสัมพันธภาพเปลี่ยนแปลง แล้วใครล่ะที่เป็นคนเดินทาง
ที่ไปทำให้ผลของความสัมพันธ์ของเวลาเปลี่ยนแปลง อาจจะเป็นเจมส์เนี่ย อยู่นึ่งๆ แล้วจอนห์ขี่ยานอวกาศหนีออกไป หรือ
จอนห์เนี่ยอยู่นึ่งๆ ในยาน แล้วเจมส์เนี่ยขี่โลกหนีออกไป แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำลายความสัมพันธ์ของเวลา ของคนทั้ง 2 นี้
แล้วจักรวาลรู้ได้ไงว่าใครเป็นคนที่เดินทาง แต่จริงๆ แล้วเนี่ยการจักวาลเนี่ยแยกออกจากกันดังนั้นมีเพียงคนเดียว ที่รับรู้ถึง
ความเร่งตอนเลี้ยว นั่นก็คือ จอนห์นั่นเองจอนห์เนี่ยแหละที่ไปทำให้ความสัมพันธ์ของเวลาเปลี่ยนแปลง ในวินาทีที่จอนห์เลี้ยวกลับนั้น
เจมส์จะเห็นเวลาของจอนห์เนี่ยแทบจะหยุดนึ่ง ส่วนจอนห์จะเห็นเวลาของเจมส์ที่โลกเนี่ยเดินไปอย่างรวดเร็วมาก
และทันทีที่เลี้ยวเสร็จจอนห์ไม่รู้สึกถึง ความเร่งตอนเลี้ยวแล้วความสัมพันธ์ของเวลาก็กลับมาเป็นปกติ
ทั้งคู่จะเห็นเวลาของกันและกันช้าลงเหมือนเดิม แต่จะไปช้าในอนาคตอันไกลครับ

-------------------------------------------------------------------------------------

ฉะนั้นเราสามารถใช้ หลักการนี้เดินทางไปอนาคตได้ครับแต่เพียงต้องการยานอวกาศที่เร็วมากๆ จนเทียบเท่าแสงเลย
วิ่งไปโดยมีความเร็วสูง แล้วก็หักเลี้ยวกลับมาแรงๆ เราก็จะไปอนาคตได้แต่จะกลับไม่ได้่เท่านั้นเอง ครับ



ปล. บทความนี้ผมอาจพูดจา งงๆ วกไปวนมา หรือผิด ตกหล่นอะไรไปบ้างก็ขออภัยด้วยนะครับ :sweat

cradit : ก็รายการในลายเซ็นต์ผมนี่หละผมฟังมาจาก witcast

Ich_Liebe_Dich
8th January 2013, 14:47
ขอบคุณมากๆครับ

hisawahiroki
8th January 2013, 14:57
ชอบครับ แต่ยิ่งอ่านยิ่ง งง

maxkungg704
8th January 2013, 15:07
ก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ไอ้เรื่องที่ว่า คนที่ไปนอกโลก พอกลับมาบนโลกจะดูอ่อนเยาวกว่าคนบนโลก

ตอนแรกที่ผมเข้าใจ(เอง มั่วสุดๆ) โลกหมุนรอบตัวเอง มีกลางวันกลางคืน จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเวลาขึ้น

เวลา เกิดขึ้นในโลก ใช้กับทุกสรรพสิ่งในโลก แล้วจึงลามไปถึงเวลากาศซึ่งก็ยังใช้หน่วยเวลาบนโลกเป็นเกณท์ เช่นปีแสง

แล้วพอมีคนออกไปนอกโลกได้ ก็เหมือนกับว่า เขาออกไปการกฎเวลาของโลก เวลาทำอะไรกับคนๆนั้นไม่ได้ เหมือนถูกโยนออกไปอีกมิติ เวลาในตัวเขาหยุดเดิน

แล้วพอกลับมายังโลก เวลาก็เริ่มทำงานต่อไปจากวินาทีสุดท้ายที่ได้ก้าวข้ามออกไป

เป็นไงครับ มั่วได้อีกน่ะ ความคิดโคตรบ้าเลย

angnacrub
8th January 2013, 15:09
ขอ งง ด้วยคนครับ อิอิ

vampyelnw
8th January 2013, 15:14
หลักการของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนิครับ ผมเคยได้ยินตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่รุว่ามันต้องเลี้ยวด้วย :dance

ตอนนั้นรู้แค่ว่า ชับไปเร็วๆจะแก่ช้า

bararasza
8th January 2013, 15:34
สรุปคือต้องเดินทางไวกว่าแสง

ก็เหมือนดาว ดาวฤกษ์ ที่ระเบิด แบบไกลๆหลายล้านปีแสง มันระเบิดเมื่อ 10สิงหาคม แต่โลกเพิ่งจะเห็นมันระเบิดเมื่อ 10ตุลาคม เนื่องจากแสงที่ระเบิดยังเดินทางมาไม่ถึงโลกนั่นเอง
การที่จะมองเห็นคือ แสงกระทบกับวัตถุเข้าดวงตา ประมาณนั้นป๊ะ =_=

BaCk To NaTuRe
8th January 2013, 15:40
ชอบครับ แต่ยิ่งอ่านยิ่ง งง

ขอ งง ด้วยคนครับ อิอิ

งง ตรงจุดไหนครับ เผื่อผมจะสามารถขยายความความได้


ก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ไอ้เรื่องที่ว่า คนที่ไปนอกโลก พอกลับมาบนโลกจะดูอ่อนเยาวกว่าคนบนโลก

ตอนแรกที่ผมเข้าใจ(เอง มั่วสุดๆ) โลกหมุนรอบตัวเอง มีกลางวันกลางคืน จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเวลาขึ้น

เวลา เกิดขึ้นในโลก ใช้กับทุกสรรพสิ่งในโลก แล้วจึงลามไปถึงเวลากาศซึ่งก็ยังใช้หน่วยเวลาบนโลกเป็นเกณท์ เช่นปีแสง

แล้วพอมีคนออกไปนอกโลกได้ ก็เหมือนกับว่า เขาออกไปการกฎเวลาของโลก เวลาทำอะไรกับคนๆนั้นไม่ได้ เหมือนถูกโยนออกไปอีกมิติ เวลาในตัวเขาหยุดเดิน

แล้วพอกลับมายังโลก เวลาก็เริ่มทำงานต่อไปจากวินาทีสุดท้ายที่ได้ก้าวข้ามออกไป

เป็นไงครับ มั่วได้อีกน่ะ ความคิดโคตรบ้าเลย

ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอกครับ ฮ่าๆ ผมก็ได้ฟังแล้วก็มาเล่าให้ฟังเลยนี่หละ


หลักการของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนิครับ ผมเคยได้ยินตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่รุว่ามันต้องเลี้ยวด้วย :dance

ตอนนั้นรู้แค่ว่า ชับไปเร็วๆจะแก่ช้า

ใช่แล้วครับ ทฤษฎีสัมพธภาพของไอสไตน์สามารถ อธิบายปรากฎการณ์นี้ได้ //ต้องเลี้ยวด้วยครับ ถ้าตรงอย่างเดียวจะเห็นเป็น Twin paradox
ตลอดครับ


สรุปคือต้องเดินทางไวกว่าแสง

ก็เหมือนดาว ดาวฤกษ์ ที่ระเบิด แบบไกลๆหลายล้านปีแสง มันระเบิดเมื่อ 10สิงหาคม แต่โลกเพิ่งจะเห็นมันระเบิดเมื่อ 10ตุลาคม เนื่องจากแสงที่ระเบิดยังเดินทางมาไม่ถึงโลกนั่นเอง
การที่จะมองเห็นคือ แสงกระทบกับวัตถุเข้าดวงตา ประมาณนั้นป๊ะ =_=

ที่ผมกล่าวนี้หมายถึงยิ่งเดินทางได้ไวเท่าไร ก็จะทำให้เวลาตีโค้งกลับมาความเร่งก็จะเยอะ กาลเวลาก็จะเปลี่ยนมากขึ้นจนเห็นได้ชัด เป็น 30-40 ปีครับ
แต่ที่ท่านกล่าวมาก็ถูกต้องล่ะครับ

jamebanjen
8th January 2013, 15:56
พอเข้าใจครับ นิด นิด

vampyelnw
8th January 2013, 16:03
เอาง่ายๆ คนที่ไม่เข้าใจ ถ้าวิ่งไปด้วยความเร็ว ไวกว่าเสียง คุณก็เหมือนกับนั่ง ธานแมชชีน ขอโดนเรม่อนไรงี้ ทำให้คนบนโลก อายุไวกว่าคุณไปหลายปีเลย

ต้องเลี้ยวโค้งด้วยนะเออ

HaHaHaBank
8th January 2013, 16:23
ก็คือ เดินทางไปอนาคตได้นั้นเอง งั้นถ้าจอนห์ไม่ตีกลับเลย ผลของสัมพันธภาพก็จะไม่เปลี่ยนแปลง งั้นก็หมายความว่า ถ้าออกไปนอกอวกาศแล้วจะไม่มีวันที่จะกลับมาพบกับคนที่รู้จักได้ในสภาพเดิมอีกสินะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง แม่ของจอนห์ก็คงตายแล้ว แถม เจมส์ก็อาจจะตามแม่ไปด้วย ไม่น่าตีกลับเลยนะครับ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆ

BaCk To NaTuRe
8th January 2013, 16:29
ก็คือ เดินทางไปอนาคตได้นั้นเอง งั้นถ้าจอนห์ไม่ตีกลับเลย ผลของสัมพันธภาพก็จะไม่เปลี่ยนแปลง งั้นก็หมายความว่า ถ้าออกไปนอกอวกาศแล้วจะไม่มีวันที่จะกลับมาพบกับคนที่รู้จักได้ในสภาพเดิมอีกสินะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง แม่ของจอนห์ก็คงตายแล้ว แถม เจมส์ก็อาจจะตามแม่ไปด้วย ไม่น่าตีกลับเลยนะครับ ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆ

ใช่ครับๆ จะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ถ้าวิ่งไปช้าๆ หรือไม่เร็วมาก เวลาก็เปลี่ยนไปไม่มากหรอกครับ
ถ้าจะให้เปลี่ยนแบบเยอะๆ ก็ต้องวิ่งเร็วๆ ตีโค้งแรงๆ ครับ

ballba
8th January 2013, 16:39
ทฤษนี้ผมเคยเรียนครับ

ในการ์ตูนก็มีสอนเรื่อง โดราเอม่อน

เขาบอกว่าเวลาในอวกาศจะช้ากว่าบนโลก หรือเร็วกว่าเนี่ยหละ

หากไปแล้วกลับมา อาจจะแก่หรือเด็กกว่า คนรุ่นเดียวกันบนโลก

ก็คือมันสามารถไปอนาคตได้ ที้งๆที่เราอายุเท่าๆเดิม แต่เพื่อนเราอาจจะแก่ตายแล้วก็เป็นได้

ถ้าไป2555 น่าจะกลับมาซัก 2600

ข้อเสียคือ มันเป็นทฤษฎีตามธรรมชาติ แต่ทำได้จริง เวลาก็ผ่านไปปกติ

และไม่สามารถย้อนไปอดีตได้

เป็นผมผมก็ไม่ไป 555

satornarm
8th January 2013, 16:40
จดลงไปในสมองผมยิ่งจำเรื่องแบบนี้ดีซะด้วย

BaCk To NaTuRe
8th January 2013, 16:46
ทฤษนี้ผมเคยเรียนครับ

ในการ์ตูนก็มีสอนเรื่อง โดราเอม่อน

เขาบอกว่าเวลาในอวกาศจะช้ากว่าบนโลก หรือเร็วกว่าเนี่ยหละ

หากไปแล้วกลับมา อาจจะแก่หรือเด็กกว่า คนรุ่นเดียวกันบนโลก

ก็คือมันสามารถไปอนาคตได้ ที้งๆที่เราอายุเท่าๆเดิม แต่เพื่อนเราอาจจะแก่ตายแล้วก็เป็นได้

ถ้าไป2555 น่าจะกลับมาซัก 2600

ข้อเสียคือ มันเป็นทฤษฎีตามธรรมชาติ แต่ทำได้จริง เวลาก็ผ่านไปปกติ

และไม่สามารถย้อนไปอดีตได้

เป็นผมผมก็ไม่ไป 555

ใช่ครับเวลาแต่ละที่ไม่เท่ากัน แต่อันไหนช้ากว่าเร็วกว่า ก็เป็นไปตามคำนี้ครับ

"กาลเวลาและระยะทางขึ้นอยู่กับคนมอง"

ผมก็ไม่ไปเช่นเดียวกันครับ รอหาวิธีกลับก่อน


จดลงไปในสมองผมยิ่งจำเรื่องแบบนี้ดีซะด้วย

ผมก็จำเรื่องพวกนี้แม่นเหมือนกันครับ ฮ่าๆ มันน่าสนใจดี

AodPDS711
8th January 2013, 16:49
ขึ้นชื่อว่า Paradox ต้องวนไปวนมา จนซับซ้อน เหมือนกับคนที่รณรงค์ไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์ แต่กลับพิมพ์ป้ายประท้วงจากคอมพิวเตอร์ อะไรทำนองนั้น -0-

ipromise11
8th January 2013, 16:53
ก็แปลสั้นๆว่าอยู่ในอวกาศอายุเราจะเดินช้ากว่าบนโลก ถ้าเราสามารถสร้างยานที่ไวกว่าแสงได้เราก็จะไปอนาคตได้ เพราะว่าเวลาที่โลกมันไว

ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหม ชี้แนะด้วยนะ

BaCk To NaTuRe
8th January 2013, 17:18
ขึ้นชื่อว่า Paradox ต้องวนไปวนมา จนซับซ้อน เหมือนกับคนที่รณรงค์ไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์ แต่กลับพิมพ์ป้ายประท้วงจากคอมพิวเตอร์ อะไรทำนองนั้น -0-

ใช่ครับ paradox คืออะไรที่ผิดธรรมชาติ วกๆวนๆ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน


ก็แปลสั้นๆว่าอยู่ในอวกาศอายุเราจะเดินช้ากว่าบนโลก ถ้าเราสามารถสร้างยานที่ไวกว่าแสงได้เราก็จะไปอนาคตได้ เพราะว่าเวลาที่โลกมันไว

ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหม ชี้แนะด้วยนะ

ก็ไม่เชิงนะครับ มันหมายความว่าที่ใดก็ตามที่มีแรงมากระทำกับวัตถุมากๆ จะทำให้ เวลาเดินช้าลง เหมือนแรงดึงดูดในดาวพฤหัสเนี่ยมากกว่าโลกก็จะทำให้
เวลาบนดาวพฤหัสเนี่ยเดินช้ากว่า ก็เหมือนกับยานที่วิ่งด้วยความเร็วมากๆ ทันทีที่มันหักเลี้ยวจะเกิดแรงมหาศาลมากระทำกับเรานั่นเองครับ เวลาเลยเดิยช้าลง

bigspy77
8th January 2013, 17:33
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกขอบคุณมากครับที่มาแบ่งปันความรู้ (พอดีผมชอบแนววิทยาศาสตร์และอวกาศอยู่ด้วย)