KooKKiK
10th January 2013, 21:40
หลังจากค่ายยักษ์เขียว nVidia ได้เปิดตัวชิพ Tegra 4 (http://www.nextpowerup.com/news/447/nvidia-tegra-4-soc-launched.html) ชิพสำหรับมือถือและแท็บเลทตัวใหม่ล่าสุดในงาน CES 2013 ที่ลาสเวกัส
ซึ่งในการเปิดตัวนั้นก็ทำเอาคนดูตกตะลึงกันเป็นแถบๆ เนื่องจากพี่แกเล่นเอาผลเทสเป็นเวลาที่ใช้ในการโหลด browser มาเทียบกับชิพคู่แข่ง แถมยังใช้ browser กับ os คนละตัวกัน ไม่รู้มันจะเทียบเห้อะไรกันได้...
http://images.anandtech.com/doci/6548/Nvidia2013CES-813_575px.jpg
หลังจากทำคนดูตกตะลึงกันถ้วนหน้าแล้ว... ลางแห่งความเงิบเริ่มมาเยือน เมื่อ Qualcomm ยักษ์ใหญ่แห่งวงการชิพโมไบล์ได้เปิดตัวชิพ Snapdragon 800 , 600 มาเกทับทันที...
ความเงิบเพิ่มเป็นทวีคูณเมื่อ นาย Turbolab สมาชิกคนหนึ่งในบอร์ด xda-developers ได้นำผลเทสที่ได้จากวิศวกรของ nVidia ในฟินแลนด์ ซึ่งอ้างว่าเป็นผลเทสของบอร์ด Tegra 4 มาเทียบกับผลเทสของชิพ A6X ที่ใช้ใน iPad 4 ในโปรแกรมเบนช์มาร์คสำหรับกราฟิก ชื่อดังอย่าง GLBenchmark 2.5
ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่า...
Nvidia DALMORE
GLBenchmark 2.5 Egypt HD C24Z16 - Offscreen (1080p) : 32.6 fps
iPad 4
GLBenchmark 2.5 Egypt HD C24Z16 - Offscreen (1080p): 49.6 fps
ชิพ Tegra 4 นั้นทำคะแนนในโปรแกรม GLBenchmark ได้เพียง 32.6 fps ต่างกับ A6X ที่ออกมาก่อนหลายเดือน ที่ได้ไปถึง 49.6 fps แพ้กันมากกว่าครึ่ง
แม้ว่าตัวบอร์ดนั้นจะเพียงเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งอาจขาดไดรเวอร์ที่เหมาะสม แต่การ optimize ไดรเวอร์ตามปกตินั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมากก็ 10 - 15% เท่านั้น ต่อให้ไดรเวอร์เทพแค่ไหนก็คงจะตามไม่ทัน
ด้วยความแรงประมาณนี้ แม้ในปัจจุบันชิพที่แรงกว่า Tegra 4 น่าจะมีแค่ตระกูล A5/6 ของ Apple เท่านั้น แต่เมื่อคิดถึงชิพของคู่แข่งรายอื่นๆในตลาดในเวลานี้ยังเป็น generation เก่าทั้งหมด ซึ่ง Tegra 4 จะต้องเผชิญความท้าทายจากทั้ง Snapdragon 800 จาก Qualcomm หรือจะ Exynos 5 จาก Samsung ที่กำลังจะเปิดตัวในตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อตำแหน่งของ nVidia ในวงการโมไบล์แน่ๆ
http://gfxspeak.com/wp-content/uploads/2012/02/Jen-Hsun-Huang-tattoo-GTC-2010-gfxs-nvidia.jpg
เฮ้อ... เงิบๆๆๆ Project Shield ในฝันตู กลายเป็นฝันเปียกในไม่กี่วัน ฮึดหน่อยครับพี่เขียว ขาใหญ่ในวงการการ์ดจอทั้งที ทำกราฟิกแพ้เขาได้ไง...
ที่มา xda-developers (http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=2087129)
และติดตามข่าวสารวงการ IT เพิ่มเติมได้ที่ Facebook (https://www.facebook.com/Itdogmouth)
ซึ่งในการเปิดตัวนั้นก็ทำเอาคนดูตกตะลึงกันเป็นแถบๆ เนื่องจากพี่แกเล่นเอาผลเทสเป็นเวลาที่ใช้ในการโหลด browser มาเทียบกับชิพคู่แข่ง แถมยังใช้ browser กับ os คนละตัวกัน ไม่รู้มันจะเทียบเห้อะไรกันได้...
http://images.anandtech.com/doci/6548/Nvidia2013CES-813_575px.jpg
หลังจากทำคนดูตกตะลึงกันถ้วนหน้าแล้ว... ลางแห่งความเงิบเริ่มมาเยือน เมื่อ Qualcomm ยักษ์ใหญ่แห่งวงการชิพโมไบล์ได้เปิดตัวชิพ Snapdragon 800 , 600 มาเกทับทันที...
ความเงิบเพิ่มเป็นทวีคูณเมื่อ นาย Turbolab สมาชิกคนหนึ่งในบอร์ด xda-developers ได้นำผลเทสที่ได้จากวิศวกรของ nVidia ในฟินแลนด์ ซึ่งอ้างว่าเป็นผลเทสของบอร์ด Tegra 4 มาเทียบกับผลเทสของชิพ A6X ที่ใช้ใน iPad 4 ในโปรแกรมเบนช์มาร์คสำหรับกราฟิก ชื่อดังอย่าง GLBenchmark 2.5
ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่า...
Nvidia DALMORE
GLBenchmark 2.5 Egypt HD C24Z16 - Offscreen (1080p) : 32.6 fps
iPad 4
GLBenchmark 2.5 Egypt HD C24Z16 - Offscreen (1080p): 49.6 fps
ชิพ Tegra 4 นั้นทำคะแนนในโปรแกรม GLBenchmark ได้เพียง 32.6 fps ต่างกับ A6X ที่ออกมาก่อนหลายเดือน ที่ได้ไปถึง 49.6 fps แพ้กันมากกว่าครึ่ง
แม้ว่าตัวบอร์ดนั้นจะเพียงเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งอาจขาดไดรเวอร์ที่เหมาะสม แต่การ optimize ไดรเวอร์ตามปกตินั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมากก็ 10 - 15% เท่านั้น ต่อให้ไดรเวอร์เทพแค่ไหนก็คงจะตามไม่ทัน
ด้วยความแรงประมาณนี้ แม้ในปัจจุบันชิพที่แรงกว่า Tegra 4 น่าจะมีแค่ตระกูล A5/6 ของ Apple เท่านั้น แต่เมื่อคิดถึงชิพของคู่แข่งรายอื่นๆในตลาดในเวลานี้ยังเป็น generation เก่าทั้งหมด ซึ่ง Tegra 4 จะต้องเผชิญความท้าทายจากทั้ง Snapdragon 800 จาก Qualcomm หรือจะ Exynos 5 จาก Samsung ที่กำลังจะเปิดตัวในตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อตำแหน่งของ nVidia ในวงการโมไบล์แน่ๆ
http://gfxspeak.com/wp-content/uploads/2012/02/Jen-Hsun-Huang-tattoo-GTC-2010-gfxs-nvidia.jpg
เฮ้อ... เงิบๆๆๆ Project Shield ในฝันตู กลายเป็นฝันเปียกในไม่กี่วัน ฮึดหน่อยครับพี่เขียว ขาใหญ่ในวงการการ์ดจอทั้งที ทำกราฟิกแพ้เขาได้ไง...
ที่มา xda-developers (http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=2087129)
และติดตามข่าวสารวงการ IT เพิ่มเติมได้ที่ Facebook (https://www.facebook.com/Itdogmouth)