tenmza0
11th January 2013, 23:59
ARTICLE: Asus Zenbook "อัลตร้าบุ๊ค"ราคาน่าสอย
http://image.ohozaa.com/i/0cb/9Jq9vO.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOhcEiT35c17nDX)
ดูเหมือนว่า กระแสของ "อัลตร้าบุ๊ค" (ultrabook) เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก เอเซอร์ (Acer) เปิดตัว Aspire S3 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุด เอซุส (Asus) เปิดตัวอัลตร้าบุ๊คของทางบริษัทที่มีชื่อว่า Asus Zenbook ตามมาติดๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ที่บางเฉียบไม่แพ้ MacBook Air และประสิทธิภาพที่น่าสอยมากๆ ที่สำคัญราคาไม่แพงเกินไปอีกด้วย โดยเริ่มต้นที่ 999 เหรียญฯ หรือประมาณ 30,000 บาท
Asus Zenbook จะมีให้เลือกสองรุ่นด้วยกันคือ UX21 รุ่นหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว และ UX31 รุ่นหน้าจอขนาด 13 นิ้ว ในขณะที่หน่วยความจำ (RAM) ของทั้งสองรุ่นคือ 4GB ระบบออดิโอไฮโซสุดๆ ด้วย Bang & Olufsun พอร์ตเชื่อมต่อ USB ให้ 2 พอร์ตสำหรับ UX21 และ 3 พอร์ตสำหรับ UX31 นอกจากนี้ยังมีพอร์ต micro HDMI และ mini VGA เพื่อใช้ต่อออกจอทีวีไฮเดฟฯ และจอแสดงผล หรือโพรเจ็กเตอร์ สนนราคาของ UX21 อยู่ที่ 999 เหรียญฯ (ประมาณ 30,000 บาท) โดยมาพร้อมกับโมบายโพรเซสเซอร์ Intel Core i5-2467M สามารถอัพเกรดเป็น Core i7 ด้วยการเพิ่มเงินอีก 200 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) หน้าจอ 11.6 นิ้ว (1366 x 768 พิกเซล) สตอเรจ 128GB
http://image.ohozaa.com/i/527/feIgDY.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOhdIeVTYQEHast)
ส่วน Asus Zenbook รุ่น UX31 จะมีราคาอยู่ที่ 1,099 เหรียญฯ (ประมาณ 30,300 บาท) โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอ 13.1 นิ้ว (1600x900 พิกเซล) โมบายโพรเซสเซอร์ Core i5-2557M ช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ SD และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานกว่า สามารถอัพเกรดโพรเซสเซอร์เป็น Core i7 เพิ่มเงิน 100 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 บาท) และอัพเกรดดิสก์เป็น 256GB โดยเพิ่มเงิน 250 เหรียญฯ (ประมาณ 7,500 บาท) นอกจากสเป็กที่ดูน่าสนใจแล้ว Zenbook ยังมีจุดเด่นที่บางเบามากๆ โดยส่วนที่บางสุดแค่ 0.11 นิ้ว และหนาสุดแค่ 0.67 นิ้ว ตัวเคสทำด้วยอะลูมิเนียมขัด น้ำหนักเครื่อของ UX21 แค่ 2.43 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 กิโลกรัม) ส่วน UX31 หนัก 2.86 ปอนด์ (ประมาณ 1.3 กิโลกรัม) เทียบแล้วบางกว่า S3 และ MacBook Air เล็กน้อย
http://youtu.be/vbrpHlD3sb4
เลือกช่องรายการ
ARTICLE: ตะลึง แบตฯ แมคบุ๊ค มีช่องโหว่แฮคได้
เวลาที่เราคิดถึงความปลอดภัยของข้อมูล และช่องโหว่ที่มีความเป็นไปได้สำหรับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แบตเตอรี่ของเครื่องจะเป็นอะไรทีไม่เคยอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเราเลยว่า มันจะเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากแฮคเกอร์ได้
http://image.ohozaa.com/i/9be/9OR4C9.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOifwpGWhfO07eM)
ล่าสุด Charlie Miller นักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยพบว่า แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ สามารถใช้ในการแฮคข้อมูลในเครื่องได้ และยากต่อการตรวจจับอีกด้วย
และหลังจากที่ Miller ได้มีโอกาสทดสอบกับแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์วางตักรุ่นต่างๆ เขาพบว่า แบตเตอรี่ของ MacBook, MacBook Pro และ MacBook Air ในหลายๆ รุ่นสามารถแฮคได้ Miller ให้เหตุผลว่า แบตเตอรี่ของแลปทอปสมัยใหม่จะมาพร้อมกับ"เฟิร์มแวร์" และ "ไมโครคอนโทรลเลอร์" (ชิปควบคุม) ซึ่งใช้ในการติดตามดูแลระดับพลังงานในแบตเตอรี่ โดยจะยอมให้ระบบปฏิบัติการสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และตอบสนองการทำงานทีเหมาะสมได้ แม้แต่ตอนที่ปิดแลปทอปไปแล้วก็ตาม แบตเตอรี่ลิเธียมอิออนที่อยู่ภายในเครื่อง ก็ยังสามารถรู้ได้ว่า เมื่อไรควรหยุดการชาร์จแบตฯ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังสามารถตรวจจับระดับความร้อน เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิที่ปลอดภัยได้อีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่า แบตเตอรี่จะมีความฉลาดมากมายขนาดนี้
ผลจากการทดสอบแบตเตอรี่แลปทอปของ Apple ทาง Miller ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ชิปทั้งหมดที่ใช้กับแบตเตอรี่ของ MacBook, MacBook Pro และ MacBook Air ต่างใช้รหัสผ่านเดียวกันหมด นั่นหมายความว่า แฮคเกอร์ที่รู้รหัสผ่านที่ว่านี้ สามารถหาวิธีที่จะควบคุมเฟิร์มแวร์ของชิป และเปลี่ยนการทำงานของแบตเตอรี่ให้สามารถล่มระบบการทำงานของเครื่องได้ โดยมันมีวิธีต่างๆ มากมายที่สามารถใช้โจมตีผ่านช่องโหว่นี้ได้ ซึ่งรวมถึงการไม่ยอมให้แบตเตอรี่รีชาร์จได้ หรือไม่มีการควบคุมระดับความร้อนจนทำให้ MacBook พัง และที่น่ากลัวสุดคือ การซ่อนมัลแวร์ เพื่อติดเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งนั่นหมายถึง ไม่ว่าคุณจะกำจัดไวรัสออกจากระบบกี่ครั้งก็ตาม พวกมันก็สามารถกลับเข้ามาติดได้อีก หากคุณไม่ได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่ที่ไม่มีพวกมันซ่อนอยู่
ตามรายงานข่าว Miller ได้ส่งผลการวิจัยของเขาไปยัง Apple และ Texas Instruments พร้อมทั้งเตรียมสาธิตการทำงานของช่องโหว่ดังกล่าวที่งานประชุม Black Hat Security ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ศกนี้ นอกจากนี้ Miller ยังได้เสนอวิธีแก้ไขที่เขาเรียกว่า "Caulkgun" ซึ่งแทนที่การใช้ดีฟอลต์พาสเวิร์ดในเฟิร์มแวร์ของชิปด้วยเทคนิคการสุ่มข้อความ (random string) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนพาสเวิร์ดด้วยวิธีนี้จะสามารถทำได้ก็จะต้องมีการอัพเดต Mac OS ด้วย
ARTICLE: SSD ใน MacBook Air เร็วไม่เท่ากัน
http://image.ohozaa.com/i/241/aKXqUw.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOjrfZxVagLLMJu)
สาวก Mac ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคุณผู้อ่านที่กำลังจะซื้อ MacBook Air ทีมาพร้อมกับขนาดของ SSD 128GB รุ่นหน้าจอ 11 นิ้ว หรือ 13 นิ้ว เนื่องจากมีรายงานข่าวแจ้งว่า ประสิทธิภาพความเร็วของ SSD ที่ใช้ใน MacBook Air ทั้งสองรุ่นไม่เท่ากัน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ SSD 128GB ที่มาพร้อมกับ MacBook รุ่นหน้าจอ 11" และ 13" โดย TLD Today พบว่า แฟลชไดรฟ์ที่อยู่ในเครื่อง 2 รุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพความเร็วที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยข้อมูลในเบื้องต้น หากคุณเลือกซื้อเป็น MacBook Air รุ่น 11" มันจะมาพร้อมกับ SSD 128GB รุ่น SM128C ของ Samsung ซึ่งความเร็วในการเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ 246MB/s ส่วนความเร็วในการอ่านจะอยู่ที่ 264 MB/s ในขณะที่หากซื้อ MacBook Air รุ่น 13" ภายในจะใช้ SSD 128GB รุ่น TS128C ของ Toshiba ซึ่งความเร็วของการเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ 156 MB/s และอ่านข้อมูลอยู่ที่ 208 MB/s จะเห็นได้ว่า ประสิทธิภาพของ SSD ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันมากทีเดียว
สำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังจะซื้อ MacBook Air รุ่นใหม่ (หรือเครื่องรุ่นปัจจุบัน) สามารถตรวจสอบ SSD ที่ติดตั้งในระบบได้ว่าเป็นไดรฟ์รุ่นใด ด้วยการคลิกบน About This Mac ในเมนูบาร์ แล้วคลิก More Info เลือก System Report จากนั้นคลิกที่ Serial ATA อย่างไรก็ดี แม้ความเร็วที่วัดได้จะแตกต่างกันมาก แต่ในแง่ของการใช้งานทั่วไป ผู้ใช้จะไม่รู้สึกถึงความต่างนี้ จากผลการทดสอบนี้ แสดงว่า Apple เลือกใช้ SSD ของ Samsung สำหรับไลน์การผลิตรุ่นไฮเอ็นด์อย่าง MacBook Air 11" และใช้ SSD ของ Toshiba สำหรับรุ่นโลว์เอ็นด์ 13" ในส่วนของ MacBook Air รุ่นต่ำสุดจะมาพร้อมกับ SSD 64GB ในขณะที่รุ่นสูงสุดจะเป็น MacBook Air 13" ที่ใช้ SSD 256GB คลิปวิดีโอข้างล่างนี้จะแนะนำขั้นตอนการตรวจสอบ SSD ที่มาพร้อมกับเครื่องให้ทราบครับ
เผย “MacBook Air” ล็อตใหม่ ติด Samsung SSD แรงขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์
http://image.ohozaa.com/i/c4d/OtquBa.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOkjQIzAQnRVmKf)
เดิมโน้ตบุ๊คสุดบางเฉียบของ Apple “MacBook Air” จะมาพร้อมกับ SSD Drive 128GB ของ Toshiba (รุ่น Blade X-Gale) แต่ล่าสุด Anandtech พบว่า MacBook Air ล็อตใหม่ๆ เปลี่ยนมาใช้ SSD ของ “Samsung” จากรหัสรุ่นที่เปลี่ยนไป (TS128c > SM128c) และที่น่าสนใจคือ ความเร็วในการอ่าน-เขียนมากขึ้นกว่าเดิมถึง 20-25 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเป็นรุ่นเดียวกับ Samsung 470 Series ที่ออกมาเมื่อปลายปีก่อน
http://image.ohozaa.com/i/6cd/oyMcZc.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOkEpu82nSZ85PI)
มาแล้วคู่แข่ง Macbook Air : Lenovo Ideapad U260
http://image.ohozaa.com/i/916/hvR9B4.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm6O42lFVZPYH4)
Lenovo เอาใจสาวก Windows Os ด้วยการนำเสนอโน้ตบุ๊กแบบบางเบาตัวใหม่คู่แข่งกับ Macbook Air ที่มีความบางเพียง 0.71 นิ้ว
http://image.ohozaa.com/i/771/K88CyK.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm8dYLtT35iz0l)
หลังจากที่ Macbook Air โน้ตบุ๊กสุดบางได้เปิดตัวออกมาได้ไม่นานก็ต้องพบกับคู่แข่งความบางตัวใหม่อย่าง IdeasPad U260 จาก Lenovo โดยโน้ตบุ๊กสุดบางจาก Lenovo นี้ จะมีหน้าจอขนาด 12.5 นิ้ว หนา 0.71 นิ้ว และหนักเพียง 3.04 ปอนด์ โดยตัวเครื่องทำจาก แมกนีเซียม-อลูมิเนียม อัลลอยย์ มีสองสีให้เลือกคือสีน้ำตาลและสีส้ม
http://image.ohozaa.com/i/0c2/egyWgy.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm8zXrLxiIIzs5)
IdeaPad ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Windows นั้นใช้ซีพียูกินไฟต่ำอย่าง Core i3 หรือ i5 ULV แรม 4 GB ฮาร์ดดิสความจุ 320 GB การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ,WiFi 802.11b/g/n , VGA ,USB 2 พอร์ต และ HDMI ใช้แบตเตอรี่ขนาด 4-cell โดยสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนของราคาและการวางจำหน่ายนั้นยังไม่ได้กำหนดมาแน่นอน
Acer พัฒนาต่อยอดโน้ตบุ๊กให้มีขนาดบางเทียบเท่า MacBookAir
http://image.ohozaa.com/i/gcd/rkjYqn.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOnao8cO9FwvP5m)
เห็นทีในตอนนี้ ซีพียู Core 2 Duo ULV อาจจะมีขนาดใหญ่เกินไปแล้วสำหรับโน้ตบุ๊กตัวใหม่ๆ ซึ่งโน้ตบุ๊กตัวนี้อยู่ในสายของ Acer Timeline มีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง
มันจึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อยเลยที่ได้ทราบว่าผู้ผลิตในไต้หวัน มีการทุ่มทุนกับเจ้า ULV ในปี 2010 อีกครั้ง ซึ่งเรากำลังพูดกันถึง Core i5 และ Core i7 ซีพียูที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ณ เวลานี้ และกำลังได้รับการตอบรับดีเกินคาด แต่ข่าวดีที่ได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมขนาดที่บางเพียง 1.9 cm (0.7 inches) ซึ่งคล้ายกับสายการผลิตของ MacBookAir ที่ประกาศว่าจะเปิดตัวในปีนี้ และนั่นก็เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าบรรดายักษ์ใหญ่กำลังคิดหนักในการที่ จะดึง ACER และ HP ลงมาจากจุดสูงสุดจากยอดการจำหน่ายโน้ตบุ๊กทั่วโลกนั่นเอง
ของเล่นคลายร้อนให้โน้ตบุ๊กตัวโปรด
http://image.ohozaa.com/i/0a8/TrdQ4C.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOogO1Px9Z1Zqr2)
ด้วยปัจจัยหลายประการสามารถส่งผลให้โน้ตบุ๊ก เกิดความร้อนสูงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเกิดจากเครื่องเก่าใช้งานมานานจนพัดลมเริ่มทำงานผิดปกติ ความเสียหายจากการหล่นกระแทก รวมไปถึงการจัดวางที่ไม่ถูกวิธีทำให้การระบายความร้อนเป็นไปได้ช้า เกิดการสะสมอยู่ภายใน จนทำให้มีปัญหาตามมาไม่รู้จบ
การดูแลรักษาโน้ตบุ๊กให้ห่างไกลจากความร้อนทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องสังเกตอาการอยู่บ้างว่าเกิดขึ้นจากสิ่งใด หากเกิดจากอุปกรณ์ ก็คงต้องส่งซ่อมแก้ไขหรือถ้าเกิดจากการใช้งาน ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความร้อนให้กับโน้ตบุ๊กได้มากทีเดียว อย่างไรก็ดี หากมีอุปกรณ์สำหรับช่วยในการระบายความร้อนได้ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีไม่น้อย อย่างเช่น สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้
http://image.ohozaa.com/i/c11/81g1Vh.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOohRXSnUl59fSd)
-สำหรับคนงบน้อย มีค่าใช้จ่ายจำกัด อาจจะเลือกแค่ฐานรองแบบคู่ ซึ่งเป็นแบบยางสำหรับยกโน้ตบุ๊กให้สูงจากพื้น เพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนได้มากยิ่งขึ้น แบบนี้ราคาค่อนข้างถูก แถมยังพกพาสะดวกอีกด้วย ไม่เกะกะพื้นที่ในกระเป๋า
http://image.ohozaa.com/i/c3d/CtQx6K.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOoiVTVevf8hQvm)
-สำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย อาจจะไม่ได้เน้นที่การระบายความร้อนแบบรวดเร็ว แต่ต้องการใช้งานได้ทุกที่และพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ก็อาจจะเลือกแบบที่ยกให้ลอยจากพื้น แต่ไม่มีพัดลมก็ได้ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการดึงไฟจากโน้ตบุ๊กอีกด้วย
http://image.ohozaa.com/i/a93/YsUbP2.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOokHNkErrTK7IB)
-สำหรับคนที่ต้องการการระบายความร้อนที่ดีขึ้น พกพาง่าย มีพัดลมระบายความร้อน Cooling Pad ธรรมดา ก็ตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร พัดลมมีให้เลือกทั้งแบบเดี่ยวหรือคู่หรือจะเลือกเป็นพัดลมใหญ่ๆ ตัวเดียวก็มี บางรุ่นอาจจะพับได้ เพื่อให้ไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า ราคาจะไม่สูงนัก ขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณภาพ
http://image.ohozaa.com/i/6e5/9ReE5r.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOonTBtcG3Wmxnt)
-สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย แต่อยากได้ตัวช่วยสำหรับการระบายความร้อนได้และที่สำคัญต้องวางบนตักได้สะดวก แบบนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่พัดลมระบายความร้อน น้ำหนักเบาและเป็นมีฟองน้ำในจุดที่วางลงบนหน้าตัก ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานๆ ไม่ว่าจะอยู่บนเก้าอี้เดินทางบนรถ เครื่องบินหรือไม่มีโต๊ะให้ทำงานก็ตาม
http://image.ohozaa.com/i/7c8/8RL6kg.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOooXxw3A1lJHtW)
-สำหรับคนที่ใช้งานบนโต๊ะทำงานเป็นหลัก ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนบ่อย แบบที่เป็น Docking Station ย่อมตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะนอกจากจะเป็นสแตนที่ปรับระดับได้แล้ว ยังมีพอร์ตต่อพ่วงที่เพิ่มเติมให้มากขึ้น รวมถึงบางรุ่นยังมาพร้อมแบตเตอรี่สำรองอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ย่อมมาพร้อมค่าตัวที่แสนแพงเหมือนกัน
หลักการระบายความร้อนให้กับโน้ตบุ๊กไม่ต่างไปจากพีซีเลย แค่ให้มีช่องทางสำหรับอากาศภายนอกเข้าไปเวียนภายในเครื่อง แล้วสามารถถ่ายอากาศร้อนออกมาจากเครื่องได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น เพียงง่ายๆ แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหาความร้อนไปได้แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถทำเองได้ ไม่ว่าจะซื้ออุปกรณ์ช่วยระบายความร้อนหรือไม่ก็ตาม
Tips
1.ไม่ควรวางโน้ตบุ๊กขณะใช้งานบนที่นอนหรือกองผ้า เพราะมีโอกาสจะปิดกั้นช่องระบายลมเข้า-ออกได้
2.เป็นไปได้ควรตั้งโหมด Sleep หรือ Hibernate เพื่อให้โน้ตบุ๊กสแตนบายอุปกรณ์ให้น้อยที่สุด
3.การจัดวางโน้ตบุ๊กในพื้นที่ที่มาการถ่ายเทอากาศได้ดี ย่อมช่วยลดปัญหาความร้อนไปได้มาก
CES 2013: นาฬิกา"อีอิงค์"พร้อมแล้ว!!!
หลังจากรอคอยกันมานานพอสมควร ในที่สุด Pebble ก็ได้ประกาศเปิดตัว พร้อมทั้งกำหนดการวางตลาดอย่างเป็นทางการสำหรับ นาฬิกาข้อมือ "อีอิงค์" (E-Ink Smart Watch) โครงการสิ่งประดิษฐ์ทีได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นบนเว็บไซต์ Kickstarter ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนเกือบ 10 ล้านเหรียญฯ ผู้สนับสนุนกว่า 85,000 รายจะได้รับของตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม ศกนี้
Pebble ได้เปิดแถลงข่าวกลางงาน CES 2013 เมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเริ่มส่งมอบ Pebble E-Ink Smartwatch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะกันน้ำได้ และใช้เทคโนโลยี E-Ink ในการทำงานจะเริ่มส่งมอบให้กับผู้สนับสนุน และลูกค้าทีสนใจตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม ศกนี้ โดยผู้สนับสนุน Pebble บน Kickstarter รายแรกๆ จะได้รับนาฬิกาที่ว่านี้ก่อนใคร ส่วนรายหลังๆ จะได้รับทะยอยตามกันไป ในทีสุดความฝันของลูกค้าผู้สนใจนาฬิกาอัจฉริยะอีอิงค์ที่สามารถเชื่อมการทำงานแบบไร้สาย เพื่อแสดงผลข้อมูลจาก iPhone และมือถือ Android ก็เป็นจริงสักที
http://image.ohozaa.com/i/0ae/GxeJnT.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOqKiP8jzzsCMS9)
สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ไม่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการของ Pebble ใน Kickstarter คุณจะยังคงมีโอกาสเป็นเจ้าของนาฬิกาข้อมือ"อีอิงค์"ได้กับเขาเหมือนกัน โดยสามารถสั่งจองได้ที่เว็บไซต์ แต่อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าผู้สนับสนุนที่สนับสนุนในวงเงิน 100 - 125 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 - 3,750 บาท) ต่อเรือน เนื่องจากราคาขายของ Pebble E-Ink Smart Watch บนเว็บไซต์ getpebble.com จะอยู่ที่ 150 เหรียญฯ (ประมาณ 4,500 บาท) และจะต้องรอให้ทาง Pebble ส่งมอบนาฬิกาอีอิงค์ให้กับผู้สนับสนุนได้ครบตามจำนวนก่อน
http://youtu.be/neYmkQMkSvc
Thermaltake Versa G1 ติดตั้งง่าย ระบายความร้อนรวดเร็ว
http://image.ohozaa.com/i/7a4/izybJN.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwhOdZ5GMf75eE)
เคสรุ่นใหม่ๆ ล้วนมีการออกแบบใส่ฟังก์ชันเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น รวมถึงมีความสวยงาม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจบางคนเลือกการอัพเกรดเคสหรือเปลี่ยนเคสไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเครื่องไปด้วย
http://image.ohozaa.com/i/cb7/jqcWQs.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwn7UdlieR8szh)
เช่นเดียวกับเคสรุ่นใหม่จากค่าย Thermaltake ที่คุ้นหูคุ้นตากันดี อย่างในรุ่น Versa G1 นี้ที่เป็นเคสในแบบ Mid Tower ที่ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่าย แต่ให้ฟังก์ชันในการใช้งานและการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี สำหรับการใช้งานโดยทั่วไป รวมถึงระบบที่เน้นการโอเวอร์คล็อก จุดเด่นอยู่ที่มีพื้นที่รองรับการติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ระดับ 32cm ได้อีกด้วย ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้ที่อัพเกรดการ์ดจอใหม่ แต่ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการจัดวาง
http://image.ohozaa.com/i/286/rwOUNz.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwiSa1WcnKYCFp)
Thermaltake Versa G1 ยังคงมีกลิ่นอายเล็กๆ ของในรุ่น V series ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ ฟังก์ชันหรือโครงสร้าง tt ใส่โทนสีดำทั้งภายในและภายนอก มีฝาข้างใสเล็กๆ ตรงกับช่องที่เป็นจุดติดตั้งซีพียู พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างขวาง มิติความหนาอยู่ที่ประมาณเกือบ 20cm ซึ่งเพียงพอสำหรับการติดตั้งฮีตซิงก์ในแนวตั้งได้หลายๆ รุ่น รวมถึงมีพื้นที่มากพอสำหรับการติดตั้งชุดระบายความร้อนด้วยน้ำได้อีกด้วย
http://image.ohozaa.com/i/953/UApTVr.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwl027DRj6FRRY)
ฟังก์ชันพาแนลที่อยู่ด้านหน้าเครื่องมีมาให้แบบกระทัดรัด โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง USB 3.0, USB 2.0 และ HD Audio โดยมีปุ่มเพาเวอร์และรีเซ็ตอยู่ในจุดเดียวกันนี้เลย เป็นการจัดวางที่ใช้สอยได้ง่าย สำหรับการวางเคสทั้งบนและใต้โต๊ะ เช่นเดียวกับขาตั้งด้านใต้เคสรุ่นนี้ ที่มีการยกสูงขึ้นมากกว่าปกติ เพื่อให้การระบายความร้อนด้านใต้เครื่องสำหรับเพาเวอร์ซัพพลายเป็นไปอย่างรวดเร็ว
http://image.ohozaa.com/i/c51/pWPSN8.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwgKhWeXVXg9GW)
จุดติดตั้งพัดลมระบายความร้อนด้านในมีอยู่ด้วยกัน 3 จุดหลักคือ ด้านหน้า ด้านบนและด้านข้าง รองรับพัดลมขนาด 120 x 120mm สามารถติดตั้งได้มากถึง 5 ตัวด้วยกัน เพื่อให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจุดที่น่าสนใจอยู่ที่พัดลมข้างเคสที่สามารถเป่าลมเย็นเข้าสู่การ์ดจอและซีพียูได้เต็มๆ
http://image.ohozaa.com/i/942/CDoTWN.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwobQgbYr1r1gy)
การติดตั้งอุปกรณ์ภายในค่อนข้างง่าย ตามสไตล์ของ tt รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน เพราะส่วนใหญ่เป็นแบบไม่ต้องใช้เครื่องมือ (Screwless) โดยในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์จะมีสลักที่เป็นตัวล็อคใส่ฮาร์ดดิสก์แล้วดันตัวล็อคได้ทันที แต่ในส่วนอื่นๆ อย่างเช่นพัดลมบางจุดหรือเมนบอร์ด ยังต้องใช้อุปกรณ์ในการติดตั้ง
โดยพื้นฐานต้องถือว่าเป็นเคสคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันและรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เน้นการติดตั้งแบบง่ายๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใส่ลูกเล่นที่ดูหวือหวา แต่เมื่อดูจากรูปลักษณ์และการออกแบบให้เข้ากับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ก็นับว่าเป็นเคสอีกรุ่นหนึ่งที่ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาเคสใหม่ เพื่ออัพเกรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Specification
-Case Type : Mid Tower
-Chassis Dimension (H*W*D) : 429 x 196 x 481 mm
-Net Weight : 4.5Kg
-Side Panel : Transparent Window
-Color : Exterior & Interior : Black
-Material : SGCC
-Motherboards : 9.6” x 9.6” (Micro ATX), 12” x 9.6” (ATX)
-I/O Ports : USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 1, HD Audio x 1
-Other : CPU cooler height limitation: 155mm, VGA length limitation: 320mm
ข่าวสาร IT ใหม่ผมจะ อัพให้อ่านเรื่อยนะคับ เพื่อให้ชาว JOKEGAMEได้ทันข่าวสารITใหม่ๆ
แค่คำขอบคุณผมก็มีกำลังใจจะก้าวเดินต่อไป เพื่อชาว JOKEGAME
อ้างอิง
http://www.youtube.com
http://www.tvwaimun.com
arip.co.th
เว็ปไซต์ในข่าว ASUS
i3
Notebook888
http://image.ohozaa.com/i/0cb/9Jq9vO.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOhcEiT35c17nDX)
ดูเหมือนว่า กระแสของ "อัลตร้าบุ๊ค" (ultrabook) เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก เอเซอร์ (Acer) เปิดตัว Aspire S3 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุด เอซุส (Asus) เปิดตัวอัลตร้าบุ๊คของทางบริษัทที่มีชื่อว่า Asus Zenbook ตามมาติดๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ที่บางเฉียบไม่แพ้ MacBook Air และประสิทธิภาพที่น่าสอยมากๆ ที่สำคัญราคาไม่แพงเกินไปอีกด้วย โดยเริ่มต้นที่ 999 เหรียญฯ หรือประมาณ 30,000 บาท
Asus Zenbook จะมีให้เลือกสองรุ่นด้วยกันคือ UX21 รุ่นหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว และ UX31 รุ่นหน้าจอขนาด 13 นิ้ว ในขณะที่หน่วยความจำ (RAM) ของทั้งสองรุ่นคือ 4GB ระบบออดิโอไฮโซสุดๆ ด้วย Bang & Olufsun พอร์ตเชื่อมต่อ USB ให้ 2 พอร์ตสำหรับ UX21 และ 3 พอร์ตสำหรับ UX31 นอกจากนี้ยังมีพอร์ต micro HDMI และ mini VGA เพื่อใช้ต่อออกจอทีวีไฮเดฟฯ และจอแสดงผล หรือโพรเจ็กเตอร์ สนนราคาของ UX21 อยู่ที่ 999 เหรียญฯ (ประมาณ 30,000 บาท) โดยมาพร้อมกับโมบายโพรเซสเซอร์ Intel Core i5-2467M สามารถอัพเกรดเป็น Core i7 ด้วยการเพิ่มเงินอีก 200 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) หน้าจอ 11.6 นิ้ว (1366 x 768 พิกเซล) สตอเรจ 128GB
http://image.ohozaa.com/i/527/feIgDY.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOhdIeVTYQEHast)
ส่วน Asus Zenbook รุ่น UX31 จะมีราคาอยู่ที่ 1,099 เหรียญฯ (ประมาณ 30,300 บาท) โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอ 13.1 นิ้ว (1600x900 พิกเซล) โมบายโพรเซสเซอร์ Core i5-2557M ช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ SD และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานกว่า สามารถอัพเกรดโพรเซสเซอร์เป็น Core i7 เพิ่มเงิน 100 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 บาท) และอัพเกรดดิสก์เป็น 256GB โดยเพิ่มเงิน 250 เหรียญฯ (ประมาณ 7,500 บาท) นอกจากสเป็กที่ดูน่าสนใจแล้ว Zenbook ยังมีจุดเด่นที่บางเบามากๆ โดยส่วนที่บางสุดแค่ 0.11 นิ้ว และหนาสุดแค่ 0.67 นิ้ว ตัวเคสทำด้วยอะลูมิเนียมขัด น้ำหนักเครื่อของ UX21 แค่ 2.43 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 กิโลกรัม) ส่วน UX31 หนัก 2.86 ปอนด์ (ประมาณ 1.3 กิโลกรัม) เทียบแล้วบางกว่า S3 และ MacBook Air เล็กน้อย
http://youtu.be/vbrpHlD3sb4
เลือกช่องรายการ
ARTICLE: ตะลึง แบตฯ แมคบุ๊ค มีช่องโหว่แฮคได้
เวลาที่เราคิดถึงความปลอดภัยของข้อมูล และช่องโหว่ที่มีความเป็นไปได้สำหรับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา แบตเตอรี่ของเครื่องจะเป็นอะไรทีไม่เคยอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเราเลยว่า มันจะเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากแฮคเกอร์ได้
http://image.ohozaa.com/i/9be/9OR4C9.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOifwpGWhfO07eM)
ล่าสุด Charlie Miller นักวิจัยระบบรักษาความปลอดภัยพบว่า แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ สามารถใช้ในการแฮคข้อมูลในเครื่องได้ และยากต่อการตรวจจับอีกด้วย
และหลังจากที่ Miller ได้มีโอกาสทดสอบกับแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์วางตักรุ่นต่างๆ เขาพบว่า แบตเตอรี่ของ MacBook, MacBook Pro และ MacBook Air ในหลายๆ รุ่นสามารถแฮคได้ Miller ให้เหตุผลว่า แบตเตอรี่ของแลปทอปสมัยใหม่จะมาพร้อมกับ"เฟิร์มแวร์" และ "ไมโครคอนโทรลเลอร์" (ชิปควบคุม) ซึ่งใช้ในการติดตามดูแลระดับพลังงานในแบตเตอรี่ โดยจะยอมให้ระบบปฏิบัติการสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และตอบสนองการทำงานทีเหมาะสมได้ แม้แต่ตอนที่ปิดแลปทอปไปแล้วก็ตาม แบตเตอรี่ลิเธียมอิออนที่อยู่ภายในเครื่อง ก็ยังสามารถรู้ได้ว่า เมื่อไรควรหยุดการชาร์จแบตฯ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังสามารถตรวจจับระดับความร้อน เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิที่ปลอดภัยได้อีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่า แบตเตอรี่จะมีความฉลาดมากมายขนาดนี้
ผลจากการทดสอบแบตเตอรี่แลปทอปของ Apple ทาง Miller ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ชิปทั้งหมดที่ใช้กับแบตเตอรี่ของ MacBook, MacBook Pro และ MacBook Air ต่างใช้รหัสผ่านเดียวกันหมด นั่นหมายความว่า แฮคเกอร์ที่รู้รหัสผ่านที่ว่านี้ สามารถหาวิธีที่จะควบคุมเฟิร์มแวร์ของชิป และเปลี่ยนการทำงานของแบตเตอรี่ให้สามารถล่มระบบการทำงานของเครื่องได้ โดยมันมีวิธีต่างๆ มากมายที่สามารถใช้โจมตีผ่านช่องโหว่นี้ได้ ซึ่งรวมถึงการไม่ยอมให้แบตเตอรี่รีชาร์จได้ หรือไม่มีการควบคุมระดับความร้อนจนทำให้ MacBook พัง และที่น่ากลัวสุดคือ การซ่อนมัลแวร์ เพื่อติดเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งนั่นหมายถึง ไม่ว่าคุณจะกำจัดไวรัสออกจากระบบกี่ครั้งก็ตาม พวกมันก็สามารถกลับเข้ามาติดได้อีก หากคุณไม่ได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่ที่ไม่มีพวกมันซ่อนอยู่
ตามรายงานข่าว Miller ได้ส่งผลการวิจัยของเขาไปยัง Apple และ Texas Instruments พร้อมทั้งเตรียมสาธิตการทำงานของช่องโหว่ดังกล่าวที่งานประชุม Black Hat Security ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ศกนี้ นอกจากนี้ Miller ยังได้เสนอวิธีแก้ไขที่เขาเรียกว่า "Caulkgun" ซึ่งแทนที่การใช้ดีฟอลต์พาสเวิร์ดในเฟิร์มแวร์ของชิปด้วยเทคนิคการสุ่มข้อความ (random string) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนพาสเวิร์ดด้วยวิธีนี้จะสามารถทำได้ก็จะต้องมีการอัพเดต Mac OS ด้วย
ARTICLE: SSD ใน MacBook Air เร็วไม่เท่ากัน
http://image.ohozaa.com/i/241/aKXqUw.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOjrfZxVagLLMJu)
สาวก Mac ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคุณผู้อ่านที่กำลังจะซื้อ MacBook Air ทีมาพร้อมกับขนาดของ SSD 128GB รุ่นหน้าจอ 11 นิ้ว หรือ 13 นิ้ว เนื่องจากมีรายงานข่าวแจ้งว่า ประสิทธิภาพความเร็วของ SSD ที่ใช้ใน MacBook Air ทั้งสองรุ่นไม่เท่ากัน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ SSD 128GB ที่มาพร้อมกับ MacBook รุ่นหน้าจอ 11" และ 13" โดย TLD Today พบว่า แฟลชไดรฟ์ที่อยู่ในเครื่อง 2 รุ่นนี้จะมีประสิทธิภาพความเร็วที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยข้อมูลในเบื้องต้น หากคุณเลือกซื้อเป็น MacBook Air รุ่น 11" มันจะมาพร้อมกับ SSD 128GB รุ่น SM128C ของ Samsung ซึ่งความเร็วในการเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ 246MB/s ส่วนความเร็วในการอ่านจะอยู่ที่ 264 MB/s ในขณะที่หากซื้อ MacBook Air รุ่น 13" ภายในจะใช้ SSD 128GB รุ่น TS128C ของ Toshiba ซึ่งความเร็วของการเขียนข้อมูลจะอยู่ที่ 156 MB/s และอ่านข้อมูลอยู่ที่ 208 MB/s จะเห็นได้ว่า ประสิทธิภาพของ SSD ทั้งสองรุ่นแตกต่างกันมากทีเดียว
สำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังจะซื้อ MacBook Air รุ่นใหม่ (หรือเครื่องรุ่นปัจจุบัน) สามารถตรวจสอบ SSD ที่ติดตั้งในระบบได้ว่าเป็นไดรฟ์รุ่นใด ด้วยการคลิกบน About This Mac ในเมนูบาร์ แล้วคลิก More Info เลือก System Report จากนั้นคลิกที่ Serial ATA อย่างไรก็ดี แม้ความเร็วที่วัดได้จะแตกต่างกันมาก แต่ในแง่ของการใช้งานทั่วไป ผู้ใช้จะไม่รู้สึกถึงความต่างนี้ จากผลการทดสอบนี้ แสดงว่า Apple เลือกใช้ SSD ของ Samsung สำหรับไลน์การผลิตรุ่นไฮเอ็นด์อย่าง MacBook Air 11" และใช้ SSD ของ Toshiba สำหรับรุ่นโลว์เอ็นด์ 13" ในส่วนของ MacBook Air รุ่นต่ำสุดจะมาพร้อมกับ SSD 64GB ในขณะที่รุ่นสูงสุดจะเป็น MacBook Air 13" ที่ใช้ SSD 256GB คลิปวิดีโอข้างล่างนี้จะแนะนำขั้นตอนการตรวจสอบ SSD ที่มาพร้อมกับเครื่องให้ทราบครับ
เผย “MacBook Air” ล็อตใหม่ ติด Samsung SSD แรงขึ้นอีก 25 เปอร์เซ็นต์
http://image.ohozaa.com/i/c4d/OtquBa.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOkjQIzAQnRVmKf)
เดิมโน้ตบุ๊คสุดบางเฉียบของ Apple “MacBook Air” จะมาพร้อมกับ SSD Drive 128GB ของ Toshiba (รุ่น Blade X-Gale) แต่ล่าสุด Anandtech พบว่า MacBook Air ล็อตใหม่ๆ เปลี่ยนมาใช้ SSD ของ “Samsung” จากรหัสรุ่นที่เปลี่ยนไป (TS128c > SM128c) และที่น่าสนใจคือ ความเร็วในการอ่าน-เขียนมากขึ้นกว่าเดิมถึง 20-25 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเป็นรุ่นเดียวกับ Samsung 470 Series ที่ออกมาเมื่อปลายปีก่อน
http://image.ohozaa.com/i/6cd/oyMcZc.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOkEpu82nSZ85PI)
มาแล้วคู่แข่ง Macbook Air : Lenovo Ideapad U260
http://image.ohozaa.com/i/916/hvR9B4.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm6O42lFVZPYH4)
Lenovo เอาใจสาวก Windows Os ด้วยการนำเสนอโน้ตบุ๊กแบบบางเบาตัวใหม่คู่แข่งกับ Macbook Air ที่มีความบางเพียง 0.71 นิ้ว
http://image.ohozaa.com/i/771/K88CyK.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm8dYLtT35iz0l)
หลังจากที่ Macbook Air โน้ตบุ๊กสุดบางได้เปิดตัวออกมาได้ไม่นานก็ต้องพบกับคู่แข่งความบางตัวใหม่อย่าง IdeasPad U260 จาก Lenovo โดยโน้ตบุ๊กสุดบางจาก Lenovo นี้ จะมีหน้าจอขนาด 12.5 นิ้ว หนา 0.71 นิ้ว และหนักเพียง 3.04 ปอนด์ โดยตัวเครื่องทำจาก แมกนีเซียม-อลูมิเนียม อัลลอยย์ มีสองสีให้เลือกคือสีน้ำตาลและสีส้ม
http://image.ohozaa.com/i/0c2/egyWgy.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOm8zXrLxiIIzs5)
IdeaPad ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Windows นั้นใช้ซีพียูกินไฟต่ำอย่าง Core i3 หรือ i5 ULV แรม 4 GB ฮาร์ดดิสความจุ 320 GB การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ,WiFi 802.11b/g/n , VGA ,USB 2 พอร์ต และ HDMI ใช้แบตเตอรี่ขนาด 4-cell โดยสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนของราคาและการวางจำหน่ายนั้นยังไม่ได้กำหนดมาแน่นอน
Acer พัฒนาต่อยอดโน้ตบุ๊กให้มีขนาดบางเทียบเท่า MacBookAir
http://image.ohozaa.com/i/gcd/rkjYqn.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOnao8cO9FwvP5m)
เห็นทีในตอนนี้ ซีพียู Core 2 Duo ULV อาจจะมีขนาดใหญ่เกินไปแล้วสำหรับโน้ตบุ๊กตัวใหม่ๆ ซึ่งโน้ตบุ๊กตัวนี้อยู่ในสายของ Acer Timeline มีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง
มันจึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อยเลยที่ได้ทราบว่าผู้ผลิตในไต้หวัน มีการทุ่มทุนกับเจ้า ULV ในปี 2010 อีกครั้ง ซึ่งเรากำลังพูดกันถึง Core i5 และ Core i7 ซีพียูที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ณ เวลานี้ และกำลังได้รับการตอบรับดีเกินคาด แต่ข่าวดีที่ได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมขนาดที่บางเพียง 1.9 cm (0.7 inches) ซึ่งคล้ายกับสายการผลิตของ MacBookAir ที่ประกาศว่าจะเปิดตัวในปีนี้ และนั่นก็เป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่าบรรดายักษ์ใหญ่กำลังคิดหนักในการที่ จะดึง ACER และ HP ลงมาจากจุดสูงสุดจากยอดการจำหน่ายโน้ตบุ๊กทั่วโลกนั่นเอง
ของเล่นคลายร้อนให้โน้ตบุ๊กตัวโปรด
http://image.ohozaa.com/i/0a8/TrdQ4C.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOogO1Px9Z1Zqr2)
ด้วยปัจจัยหลายประการสามารถส่งผลให้โน้ตบุ๊ก เกิดความร้อนสูงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเกิดจากเครื่องเก่าใช้งานมานานจนพัดลมเริ่มทำงานผิดปกติ ความเสียหายจากการหล่นกระแทก รวมไปถึงการจัดวางที่ไม่ถูกวิธีทำให้การระบายความร้อนเป็นไปได้ช้า เกิดการสะสมอยู่ภายใน จนทำให้มีปัญหาตามมาไม่รู้จบ
การดูแลรักษาโน้ตบุ๊กให้ห่างไกลจากความร้อนทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องสังเกตอาการอยู่บ้างว่าเกิดขึ้นจากสิ่งใด หากเกิดจากอุปกรณ์ ก็คงต้องส่งซ่อมแก้ไขหรือถ้าเกิดจากการใช้งาน ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความร้อนให้กับโน้ตบุ๊กได้มากทีเดียว อย่างไรก็ดี หากมีอุปกรณ์สำหรับช่วยในการระบายความร้อนได้ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีไม่น้อย อย่างเช่น สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้
http://image.ohozaa.com/i/c11/81g1Vh.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOohRXSnUl59fSd)
-สำหรับคนงบน้อย มีค่าใช้จ่ายจำกัด อาจจะเลือกแค่ฐานรองแบบคู่ ซึ่งเป็นแบบยางสำหรับยกโน้ตบุ๊กให้สูงจากพื้น เพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนได้มากยิ่งขึ้น แบบนี้ราคาค่อนข้างถูก แถมยังพกพาสะดวกอีกด้วย ไม่เกะกะพื้นที่ในกระเป๋า
http://image.ohozaa.com/i/c3d/CtQx6K.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOoiVTVevf8hQvm)
-สำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย อาจจะไม่ได้เน้นที่การระบายความร้อนแบบรวดเร็ว แต่ต้องการใช้งานได้ทุกที่และพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ก็อาจจะเลือกแบบที่ยกให้ลอยจากพื้น แต่ไม่มีพัดลมก็ได้ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการดึงไฟจากโน้ตบุ๊กอีกด้วย
http://image.ohozaa.com/i/a93/YsUbP2.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOokHNkErrTK7IB)
-สำหรับคนที่ต้องการการระบายความร้อนที่ดีขึ้น พกพาง่าย มีพัดลมระบายความร้อน Cooling Pad ธรรมดา ก็ตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร พัดลมมีให้เลือกทั้งแบบเดี่ยวหรือคู่หรือจะเลือกเป็นพัดลมใหญ่ๆ ตัวเดียวก็มี บางรุ่นอาจจะพับได้ เพื่อให้ไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า ราคาจะไม่สูงนัก ขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณภาพ
http://image.ohozaa.com/i/6e5/9ReE5r.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOonTBtcG3Wmxnt)
-สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย แต่อยากได้ตัวช่วยสำหรับการระบายความร้อนได้และที่สำคัญต้องวางบนตักได้สะดวก แบบนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่พัดลมระบายความร้อน น้ำหนักเบาและเป็นมีฟองน้ำในจุดที่วางลงบนหน้าตัก ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานๆ ไม่ว่าจะอยู่บนเก้าอี้เดินทางบนรถ เครื่องบินหรือไม่มีโต๊ะให้ทำงานก็ตาม
http://image.ohozaa.com/i/7c8/8RL6kg.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOooXxw3A1lJHtW)
-สำหรับคนที่ใช้งานบนโต๊ะทำงานเป็นหลัก ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนบ่อย แบบที่เป็น Docking Station ย่อมตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพราะนอกจากจะเป็นสแตนที่ปรับระดับได้แล้ว ยังมีพอร์ตต่อพ่วงที่เพิ่มเติมให้มากขึ้น รวมถึงบางรุ่นยังมาพร้อมแบตเตอรี่สำรองอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ย่อมมาพร้อมค่าตัวที่แสนแพงเหมือนกัน
หลักการระบายความร้อนให้กับโน้ตบุ๊กไม่ต่างไปจากพีซีเลย แค่ให้มีช่องทางสำหรับอากาศภายนอกเข้าไปเวียนภายในเครื่อง แล้วสามารถถ่ายอากาศร้อนออกมาจากเครื่องได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น เพียงง่ายๆ แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหาความร้อนไปได้แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถทำเองได้ ไม่ว่าจะซื้ออุปกรณ์ช่วยระบายความร้อนหรือไม่ก็ตาม
Tips
1.ไม่ควรวางโน้ตบุ๊กขณะใช้งานบนที่นอนหรือกองผ้า เพราะมีโอกาสจะปิดกั้นช่องระบายลมเข้า-ออกได้
2.เป็นไปได้ควรตั้งโหมด Sleep หรือ Hibernate เพื่อให้โน้ตบุ๊กสแตนบายอุปกรณ์ให้น้อยที่สุด
3.การจัดวางโน้ตบุ๊กในพื้นที่ที่มาการถ่ายเทอากาศได้ดี ย่อมช่วยลดปัญหาความร้อนไปได้มาก
CES 2013: นาฬิกา"อีอิงค์"พร้อมแล้ว!!!
หลังจากรอคอยกันมานานพอสมควร ในที่สุด Pebble ก็ได้ประกาศเปิดตัว พร้อมทั้งกำหนดการวางตลาดอย่างเป็นทางการสำหรับ นาฬิกาข้อมือ "อีอิงค์" (E-Ink Smart Watch) โครงการสิ่งประดิษฐ์ทีได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นบนเว็บไซต์ Kickstarter ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนเกือบ 10 ล้านเหรียญฯ ผู้สนับสนุนกว่า 85,000 รายจะได้รับของตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม ศกนี้
Pebble ได้เปิดแถลงข่าวกลางงาน CES 2013 เมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเริ่มส่งมอบ Pebble E-Ink Smartwatch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะกันน้ำได้ และใช้เทคโนโลยี E-Ink ในการทำงานจะเริ่มส่งมอบให้กับผู้สนับสนุน และลูกค้าทีสนใจตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม ศกนี้ โดยผู้สนับสนุน Pebble บน Kickstarter รายแรกๆ จะได้รับนาฬิกาที่ว่านี้ก่อนใคร ส่วนรายหลังๆ จะได้รับทะยอยตามกันไป ในทีสุดความฝันของลูกค้าผู้สนใจนาฬิกาอัจฉริยะอีอิงค์ที่สามารถเชื่อมการทำงานแบบไร้สาย เพื่อแสดงผลข้อมูลจาก iPhone และมือถือ Android ก็เป็นจริงสักที
http://image.ohozaa.com/i/0ae/GxeJnT.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOqKiP8jzzsCMS9)
สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่ไม่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการของ Pebble ใน Kickstarter คุณจะยังคงมีโอกาสเป็นเจ้าของนาฬิกาข้อมือ"อีอิงค์"ได้กับเขาเหมือนกัน โดยสามารถสั่งจองได้ที่เว็บไซต์ แต่อาจจะต้องจ่ายแพงกว่าผู้สนับสนุนที่สนับสนุนในวงเงิน 100 - 125 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 - 3,750 บาท) ต่อเรือน เนื่องจากราคาขายของ Pebble E-Ink Smart Watch บนเว็บไซต์ getpebble.com จะอยู่ที่ 150 เหรียญฯ (ประมาณ 4,500 บาท) และจะต้องรอให้ทาง Pebble ส่งมอบนาฬิกาอีอิงค์ให้กับผู้สนับสนุนได้ครบตามจำนวนก่อน
http://youtu.be/neYmkQMkSvc
Thermaltake Versa G1 ติดตั้งง่าย ระบายความร้อนรวดเร็ว
http://image.ohozaa.com/i/7a4/izybJN.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwhOdZ5GMf75eE)
เคสรุ่นใหม่ๆ ล้วนมีการออกแบบใส่ฟังก์ชันเพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น รวมถึงมีความสวยงาม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจบางคนเลือกการอัพเกรดเคสหรือเปลี่ยนเคสไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเครื่องไปด้วย
http://image.ohozaa.com/i/cb7/jqcWQs.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwn7UdlieR8szh)
เช่นเดียวกับเคสรุ่นใหม่จากค่าย Thermaltake ที่คุ้นหูคุ้นตากันดี อย่างในรุ่น Versa G1 นี้ที่เป็นเคสในแบบ Mid Tower ที่ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่าย แต่ให้ฟังก์ชันในการใช้งานและการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี สำหรับการใช้งานโดยทั่วไป รวมถึงระบบที่เน้นการโอเวอร์คล็อก จุดเด่นอยู่ที่มีพื้นที่รองรับการติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ระดับ 32cm ได้อีกด้วย ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้ที่อัพเกรดการ์ดจอใหม่ แต่ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการจัดวาง
http://image.ohozaa.com/i/286/rwOUNz.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwiSa1WcnKYCFp)
Thermaltake Versa G1 ยังคงมีกลิ่นอายเล็กๆ ของในรุ่น V series ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ ฟังก์ชันหรือโครงสร้าง tt ใส่โทนสีดำทั้งภายในและภายนอก มีฝาข้างใสเล็กๆ ตรงกับช่องที่เป็นจุดติดตั้งซีพียู พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้างขวาง มิติความหนาอยู่ที่ประมาณเกือบ 20cm ซึ่งเพียงพอสำหรับการติดตั้งฮีตซิงก์ในแนวตั้งได้หลายๆ รุ่น รวมถึงมีพื้นที่มากพอสำหรับการติดตั้งชุดระบายความร้อนด้วยน้ำได้อีกด้วย
http://image.ohozaa.com/i/953/UApTVr.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwl027DRj6FRRY)
ฟังก์ชันพาแนลที่อยู่ด้านหน้าเครื่องมีมาให้แบบกระทัดรัด โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง USB 3.0, USB 2.0 และ HD Audio โดยมีปุ่มเพาเวอร์และรีเซ็ตอยู่ในจุดเดียวกันนี้เลย เป็นการจัดวางที่ใช้สอยได้ง่าย สำหรับการวางเคสทั้งบนและใต้โต๊ะ เช่นเดียวกับขาตั้งด้านใต้เคสรุ่นนี้ ที่มีการยกสูงขึ้นมากกว่าปกติ เพื่อให้การระบายความร้อนด้านใต้เครื่องสำหรับเพาเวอร์ซัพพลายเป็นไปอย่างรวดเร็ว
http://image.ohozaa.com/i/c51/pWPSN8.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwgKhWeXVXg9GW)
จุดติดตั้งพัดลมระบายความร้อนด้านในมีอยู่ด้วยกัน 3 จุดหลักคือ ด้านหน้า ด้านบนและด้านข้าง รองรับพัดลมขนาด 120 x 120mm สามารถติดตั้งได้มากถึง 5 ตัวด้วยกัน เพื่อให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจุดที่น่าสนใจอยู่ที่พัดลมข้างเคสที่สามารถเป่าลมเย็นเข้าสู่การ์ดจอและซีพียูได้เต็มๆ
http://image.ohozaa.com/i/942/CDoTWN.jpg (http://image.ohozaa.com/view2/wzOwobQgbYr1r1gy)
การติดตั้งอุปกรณ์ภายในค่อนข้างง่าย ตามสไตล์ของ tt รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน เพราะส่วนใหญ่เป็นแบบไม่ต้องใช้เครื่องมือ (Screwless) โดยในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์จะมีสลักที่เป็นตัวล็อคใส่ฮาร์ดดิสก์แล้วดันตัวล็อคได้ทันที แต่ในส่วนอื่นๆ อย่างเช่นพัดลมบางจุดหรือเมนบอร์ด ยังต้องใช้อุปกรณ์ในการติดตั้ง
โดยพื้นฐานต้องถือว่าเป็นเคสคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันและรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เน้นการติดตั้งแบบง่ายๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใส่ลูกเล่นที่ดูหวือหวา แต่เมื่อดูจากรูปลักษณ์และการออกแบบให้เข้ากับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ก็นับว่าเป็นเคสอีกรุ่นหนึ่งที่ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาเคสใหม่ เพื่ออัพเกรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Specification
-Case Type : Mid Tower
-Chassis Dimension (H*W*D) : 429 x 196 x 481 mm
-Net Weight : 4.5Kg
-Side Panel : Transparent Window
-Color : Exterior & Interior : Black
-Material : SGCC
-Motherboards : 9.6” x 9.6” (Micro ATX), 12” x 9.6” (ATX)
-I/O Ports : USB 3.0 x 1, USB 2.0 x 1, HD Audio x 1
-Other : CPU cooler height limitation: 155mm, VGA length limitation: 320mm
ข่าวสาร IT ใหม่ผมจะ อัพให้อ่านเรื่อยนะคับ เพื่อให้ชาว JOKEGAMEได้ทันข่าวสารITใหม่ๆ
แค่คำขอบคุณผมก็มีกำลังใจจะก้าวเดินต่อไป เพื่อชาว JOKEGAME
อ้างอิง
http://www.youtube.com
http://www.tvwaimun.com
arip.co.th
เว็ปไซต์ในข่าว ASUS
i3
Notebook888