รับสมัครหญิงอุ้มท้องมนุษย์โบราณ +++ !!!

[beesboy141]

แม้ การโคลนนิ่งมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ จะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่ก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคต่อเหล่านักวิทยาศาสตร์ให้คิดทดลองสร้างสิ่งที่ “ยังเป็นไปไม่ได้” ในปัจจุบัน



ล่าสุด ศาสตราจารย์จากคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐ ผุดโครงการสะท้านวงการ

ประกาศรับสมัครหญิงรักความท้าทายมาอาสาอุ้มท้องตัวอ่อนทารกมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล หรือมนุษย์ยุคโบราณ ซึ่งเคยดำรงชีวิตในช่วงเวลาเดียวกับเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ยุคปัจจุบัน ก่อนที่สายพันธุ์แท้ๆ ของมนุษย์พันธุ์นี้จะล้มหายตายจากไปเมื่อราว 43,000 ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้ริเริ่มความคิดดังกล่าวคือ จอร์จ เชิร์ช วัย 58 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกชีววิทยาสังเคราะห์ และริเริ่มโครงการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์โลก โดย เจ้าตัวแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างเซลล์พันธุกรรม หรือดีเอ็นเอของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลขึ้นได้ใหม่จากรหัสพันธุกรรมที่ถอดมาจาก ซากฟอสซิล และจะคืนชีพมนุษย์โบราณขึ้นมาใหม่โดยให้หญิงมนุษย์ยุคปัจจุบันอุ้มท้อง

หลังจากได้ดีเอ็นเอมาแล้ว ศาสตราจารย์เชิร์ชจะนำมาปลูกถ่ายในเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์

ซึ่งมาจากตัวอ่อนของมนุษย์ และสองสามวันต่อจากนั้น จะย้ายกระบวนการปลูกถ่ายในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์นี้มาผ่าตัดฝังไว้ในมดลูกของอาสาสมัครหญิง เพื่ออุ้มท้องเป็นทารกโดยสมบูรณ์ต่อไป

ทั้งนี้ เชิร์ชเผยเหตุผลที่เดินหน้าโครงการนี้ท่ามกลางกระแสต่อต้านการโคลนนิ่ง หรือสร้างมนุษย์ในห้องแล็บ ว่า มนุษย์ดีแอนเดอร์ทัลไม่ใช่พวกคนป่า แต่มีความฉลาดมาก โดยพิจารณาจากขนาดสมองที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ปัจจุบัน รวมถึงผลงานริเริ่มผลิตเครื่องไม้เครื่องมือรุ่นแรกๆ ของโลก

ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นด้วยว่า เผ่าพันธุ์เพื่อนบ้านที่สาบสูญอาจจะ “ฉลาดกว่า” เผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันด้วยซ้ำ

ดังนั้น โครงการนี้จึงมีแนวโน้มก่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนาคตที่โลกต้องเผชิญกับมหาภัยพิบัติหรือถึงกาลอวสานก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี แนวคิดเพื่อมนุษยชาติยุคไอทีเจอคำวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมด้านต่างๆ อาทิ สายพันธุ์นีแอนเดอร์ทัลที่เกิดมาอาจไม่มีภูมิคุ้มกันโรคภัยจากสภาพแวดล้อมปัจจุบัน และอาจจะอยู่ไม่รอดหรือพิการ

บ้างกังวลถึงการดำรงชีพของมนุษย์สายพันธุ์นี้ในสังคมมนุษย์ปัจจุบันว่า อาจถูกล้อเลียนหรืออยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว ซึ่งโยงไปถึงเรื่องศีลธรรมและความปลอดภัย อีกทั้งยังพากันตั้งคำถามว่าทีมงานของศาสตราจารย์พร้อมแล้วหรือยังที่จะปก ป้องชีวิตใหม่ของนีแอนเดอร์ทัลให้อยู่อย่างเป็นสุขได้ตลอดรอดฝั่ง


แถมๆๆๆๆ

http://forgifs.com/gallery/d/191383-3/UFO-toys-wizard.gif? (http://forgifs.com)



CREDIT:http://www.clipmass.com/story/57012

[Kyonman]

ถ้าเกิด มนุษย์ บนโลกนี้ มีหลาย สายพันธุ์ ผมว่าต้องมีไม่น้อยแน่เลยที่ เกลียด และ เหยียด ระหว่าง เผ่าพันธุ์ และ คิดว่า เผ่าพันธุ์ ตัวเองเจ๋งที่สุด แล้วก็ เกิดสงคราม

เผ่าผู้สร้าง อย่าง เรา ก็เริ่มโดน รุกราน จนจะหมดไปจากโลก

ปล.โครต หนัง เลย - -''

[Mercury]

ถ้าเกิด มนุษย์ บนโลกนี้ มีหลาย สายพันธุ์ ผมว่าต้องมีไม่น้อยแน่เลยที่ เกลียด และ เหยียด ระหว่าง เผ่าพันธุ์ และ คิดว่า เผ่าพันธุ์ ตัวเองเจ๋งที่สุด แล้วก็ เกิดสงคราม

เผ่าผู้สร้าง อย่าง เรา ก็เริ่มโดน รุกราน จนจะหมดไปจากโลก

ปล.โครต หนัง เลย - -''
ก็คล้ายๆแบบนาซีไงครับ นี่ไม่หนังละ ของจริงเลย 55

[jabbawockeez70]

ถ้าเกิด มนุษย์ บนโลกนี้ มีหลาย สายพันธุ์ ผมว่าต้องมีไม่น้อยแน่เลยที่ เกลียด และ เหยียด ระหว่าง เผ่าพันธุ์ และ คิดว่า เผ่าพันธุ์ ตัวเองเจ๋งที่สุด แล้วก็ เกิดสงคราม

เผ่าผู้สร้าง อย่าง เรา ก็เริ่มโดน รุกราน จนจะหมดไปจากโลก

ปล.โครต หนัง เลย - -''

เหมือนกับเกมด้วยครับ 555

กิลวอข้ามเผ่าแต่ล่ะเผ่า หน้าหนุก มีเอเลี่ยนมาด้วยยคงดี

[babymaster]

ถ้าสร้างมาแล้ว จับให้เรียนวิทย์คณิตย์ ให้เป็นนักวิทยาศาสตร์จะดีมาก

ถ้าเกิด มนุษย์ บนโลกนี้ มีหลาย สายพันธุ์ ผมว่าต้องมีไม่น้อยแน่เลยที่ เกลียด และ เหยียด ระหว่าง เผ่าพันธุ์ และ คิดว่า เผ่าพันธุ์ ตัวเองเจ๋งที่สุด แล้วก็ เกิดสงคราม

เผ่าผู้สร้าง อย่าง เรา ก็เริ่มโดน รุกราน จนจะหมดไปจากโลก

ปล.โครต หนัง เลย - -''
ใช่เลยครับ

[worakorn3]

มันไม่ใช่แค่สงครามประเทศ แต่เป็นสงครามเผ่าได้นะ :eek:

[abandon123]

อยากเห็นผลงานจังแฮะ :dance

[zerokoza]

ถ้าเกิด มนุษย์ บนโลกนี้ มีหลาย สายพันธุ์ ผมว่าต้องมีไม่น้อยแน่เลยที่ เกลียด และ เหยียด ระหว่าง เผ่าพันธุ์ และ คิดว่า เผ่าพันธุ์ ตัวเองเจ๋งที่สุด แล้วก็ เกิดสงคราม

เผ่าผู้สร้าง อย่าง เรา ก็เริ่มโดน รุกราน จนจะหมดไปจากโลก

ปล.โครต หนัง เลย - -''


ผมว่าจริงอย่างที่ว่ามานะครับ เเค่เหยียดชนชั้นระหว่างผิวขาว กับผิวสี

เเละคนอเมริกัน กับยิว ไมต้องสายพันธ์อื่นหรอกเเค่เผ่าพันธ์เดียวกันยังยิงกันโลกเกือบระเบิด

ถ้าเกิดเผ่าพันธ์ใหม่ขึ้นมาเเล้วเด็กคนนั้นต้องดูเเลเป็นพิเศษ ด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม

ถ้ามีการโคลนนิ่งสำเร็จ ก็ต้องมีคนดูเเลเพื่อให้เหมือนมนุษย์ทั่วไปก็คงต้องไปเรียน

เเล้วถ้าเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรู้ว่าเป็นคนละเผ่ากันจะไม่เกลียดหรอครับ เเค่คนละกลุ่มคนละสถาบันมันยังยิงกันตาย

นักวิทยาศาสตร์จะคิดเเค่ผลงานตัวเองที่ทำมาสำเร็จเท่านั้น ไม่ค่อยคิดถึงผลที่ตามมาเท่าไหร่เพราะคงหวังเอาดีเข้าตัวไว้ก่อน

ลองคิดดูสิครับ เเล้วถ้าไม่ส่งเด็กไปเรียน เเล้วเขาจะเข้าสังคมได้หรอ จะขยายพันธ์ยังไง ยังไงๆ เขาก็ต้องเข้าสังคมเเละต้องทำให้คนในสังคมยอมรับ

ซึ่งผมคิดว่าคนที่จะรับพวกต่างเผ่าพันธ์ได้ทั้งโลกไม่น่าจะถึง 10% ซะด้วยซ้ำ คนที่คิดเเบบผมก็มีมาก มองต่างจากผมก็เยอะ

เเต่ข้อดี ก็อาจจะมีก็ได้นะครับเเต่ผมไม่รู้ไง --*

[vongola17]

แง่มๆๆๆ 55555555555

[AntiBody]

ผมว่าน่าจะโคลนพวกสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้วน่าจะเหมาะกว่านะ เช่น โคลนนิ่งสมัน อะไรประมาณนั้น = =
คนรุ่นหลังจะได้เห็น ได้ศึกษากัน