PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [Novel]ตำนาน หมาป่า(?)หลังโรงเรียน



Shockshift
27th January 2013, 17:04
บทนำ

********************
วิ้ง วิ้ง วิ้ง วิ้ง
เสียงแมลงหลายชนิด เริ่มดังก้องกังวานไปทั่วเขตป่า
มันดังมากเสียจนผมเริ่มประสาทเสีย
'เฮ้อ ..'
แต่ที่ผมทำได้มันก็แค่การถอนหายใจเฮือกใหญ่เท่านั้น ธรรมชาติก็ส่วนของธรรมชาติ มนุษย์ก็ส่วนของมนุษย์ ..
'แต่เอ๊ะ! ที่โลกมันร้อนขึ้นเพราะมนุษย์ทำลายธรรมชาติไม่ใช่เหรอฟร่ะ?'
"....."
นี่ผมคิดอะไรของผมอยู่เนี๊ย ผมไม่ใช่ Green peace ซะหน่อย!!

"เห้ย !! นายน่ะ นายที่อยู่บนต้นไม้น่ะ!!"

'หือ ?'
อาาาา ..ขอสงบๆสักคืนไม่ได้เหรอครับพี่น้องครับ นึกว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกในรอบเดือนที่ไม่มี'พวกแปลกๆ'โผล่หัวมาก่อกวนซะอีก
บอกตามตรงนะ ผมเกือบจะคิดว่ายัยคนที่ทักผมเนี๊ย เป็นพวกมาโซ(พวกชอบความเจ็บปวด)ซะอีก

"แหม่ๆ ยังหยิ่งยะโสเหมือนเดิมเลยนะ"
"...."

ผมไม่เคยพูดคุยกับพวกที่ผมเจอทุกคนนั้นแหละ ส่วนเหตุผลน่ะเหรอ ? ...ช่างมันเหอะ ให้ตายเซ่
ผมกระโดดจากกิ่งไม้ใหญ่ๆที่พอจะนั่งได้ 2 คนลงมาบนพื้นแบบสบายๆ ถ้าเป็นคนปกติกระโดดลงมาคงเจ็บขาน่าดู
ผมโยกหัวไปทางขวาทีนึง ซึ่งเป็นกิริยาที่ผมทำประจำ ถ้าอธิบายเป็นคำพูดก็ ...'มีไรว่ะ?' 'ถ้าต้องการอะไร ไปสหกรณ์หลังหอนู่น ชิ่วๆ'
แต่เพราะผมใส่'หน้ากาก'รูปหมาป่าสีขาวที่แต่งแต้มด้วยลายเส้นสีแดงๆอยู่ ทำให้การขยับศีรษะและการมองเห็นลำบากนิดหน่อย
อาาาาา ..ยัยคนที่เริ่มเดินมาใกล้ๆผมนิ ชื่ออะไรน๊า ? นึกไม่ออกซักที

"ฉัน!! กัญญา ราชินีของเหล่าหนูทั้งหลาย ขอท้าดวลกับ'ยาม'อย่างนายแบบตัวต่อตัว!!"
เธอตะโกน พร้อมกับเอากำมือทุบที่อกข้างขวาแสดงถึงความมั่นใจสุดฤทธิ์
เธอผู้นี้มีทรงผมตัดสั้นคล้ายๆพวกทอมบอยสีดำสนิท ที่ดูน่าจับเล่น กับเสื้อกล้ามของนักกีฬาบาตเกตบอลของโรงเรียนที่ไหนสักแห่ง
กับกางเกงวอมขาสั้นถึงเข่าสีน้ำเงินเข้ม แต่ที่เด่นสะดุดตาคือ หูโตๆของหนูสีเทาๆ กับหางหนูเรียวยาวที่โผล่มาจากใต้เสื้อกล้ามนั้น
ผมว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากเลยนะ ถ้าไม่ทำตัวห้าวๆกับเป็น'ปีศาจหนู'..
พอๆผมคิดอย่างนั้น ผมก็สังเกตุเห็นหนูน้อย ตัวเล็กๆที่ดูไม่เหมือนหนูบ้านน่ารังเกียจไต่มาอยุ่บนไหล่ของเธอพร้อมเสียงร้องดัง 'จิ๊ด''จิ๊ด'

'ขอเอากลับบ้านไปเลี้ยงสักตัวได้มั้ยฟร่ะ ?'
ผมคิดในใจ พลางมองท่าทีของศัตรู'ตน'นี้
"ว่าไงจ๊ะ~ ไมเคิล~"
กัญญาพูดเสียงวี๊ดว๊าย พลางลูบหัวสัตว์เลี้ยงของเธอด้วยนิ้วชี้
'ไมเคิล ? ไมเคิล ? ไมเคิล? ชื่อเห่ยชะมัด ถ้าจะคิดชื่อก็ให้มันปกติสามัญหน่อยสิ อย่างแฮมทาโร่ไรงี้'
ผมเริ่มชักไม่แน่ใจแล้วว่ายัยบ้าหมายเลข 2 คนนี้ต้องการอะไรกันแน่ ผมจึงหันหลัง ก่ะจะเดินไปที่ต้นไม้ต้นโปรดของผม
'อย่าถามแล้วกันว่า ยัยบ้าหมาย 1 คือใคร ฮ่ะๆ'

ชิ้ง !

เสียงของ ของมีคม บางอย่างดังขึ้นจากข้างหลังผม
"อย่ามาทำเมินนะย่ะ เป็นแค่'ยาม'แท้ๆ"
ถ้าผมตาไม่ฝาด ผมเห็นตาของกัญญา ราชินีของเหล่าหนู เปล่งแสงสีแดงออกมา
สำหรับผมภาพลักษณ์ของยัยนี่ ในขณะนี้มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันคล้ายกับ ..หนูปีศาจขนาดใหญ่
และส่งสายตาที่จ้องเขม้งมาทางผมประมาณว่า ..

'เอ็งตาย!!'

ท่าทางคืนนี้ยังอีกยาวแน่นอน
****************************

ปีศาจ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า มอนเตอร์
สำหรับหลายร้อยปีก่อนคงพูดได้ว่า ..
'มันคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากจินตนาการ เพื่อให้มนุษย์รู้จักเกรงกลัวต่อธรรมชาติ ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางหรือทำบาป บลาๆ'
ใช่ สำหรับหลายร้อยปีก่อน
ผมก็ไม่แน่ใจนะ ว่าพวกปีศาจเริ่มมีตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่น่าจะมีหลังจากการกำเนิดของมนุษยืนิดนึงล่ะมั้ง
ทางวิทยาศาตร์ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยว่าปีศาจถือกำเนิดเมื่อไหร่
แต่ปัจจุบันปีศาจเริ่มรุกคืบเข้าหามนุษย์บ่อยครั้ง ..เฉลี่ย 2 ศพต่อสัปดาห์ไม่รวมบุคคลสูญหายอีก สำหรับเมืองที่ผมอยู่ล่ะนะ
นี่ก็ุถือว่าน้อยสุดในประเทศแห่งนี้แล้ว เพราะเมืองแห่งนี้'ไม่ธรรมดา'น่ะสิ

มนุษย์เรานั้น พอเจอกับปัญหา จะมีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทางคือ หนึ่งเลือกที่จะรอปัญหานั้นผ่านพ้นไป กับ สองจัดการกับปัญหานั้นด้วยตัวเอง
แน่นอน มนุษย์เราเลือกข้อสองอย่างไม่ลังเล
ผมที่ไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์เท่าไหร่ไม่ได้รุ้รายละเอียดของเรื่องนี้เท่าไหร่
แต่ที่รู้ๆคือ ..
โลกเราได้ก่อตั้ง 'โรงเรียน' ที่มีหน้าที่ฝึกฝนเหล่าเด็กน้อยใหญ่ให้เป็นนักล่า ที่มีหน้าที่ต่อกรกับเหล่าปีศาจบนโลกใบนี้..มาแต่เนิ่นนานแล้ว
โรงเรียนที่ว่านี้ มีอยู่แทบทุกประเทศ ตั้งแต่อเมริกายันสิงค์โปร และการเรียนการสอนนั้นมีตั้งแต่มัธยมต้นถึงมหาลัย
การเรียนของเด็กมัธยมต้นนั้นก็ประมาณคล้ายๆกับ นักศึกษาวิชาทหาร(รด.) แล้วพอขึ้นมัธยมปลายก็จะเรียนน้อยลง แต่มีการปฎิบัตินอกสถานที่บ่อยขึ้น
และพอถึงขั้นมหาลัยก็จะเน้นวิชาการมากขึ้น การปฎิบัตินอกสถานที่ก็จะน้อยลง
คนที่จบระดับชั้นมหาลัย ส่วนมากก็เป็นใหญ่เป็นตัวกันทั้งนั้น มีเงินมีทอง บางคนรวยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกก็มี
แต่เส้นทางที่เดินไม่เคยง่าย นักเรียนที่เรียนจบส่วนใหญ่มักเหลือแค่ 40-50% เท่านั้น แค่จบมัธยมต้นก็เสียชีวิตไป 5-10% กันแล้ว
ทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะส่งลูกของตัวเองไปเรียนโรงเรียนปกติเสียมากกว่า
เพราะฉะนั้นถ้าคุณคิดจะเห็นเด็กใส่แว่น ถือกองเอกสารการเรียน ณ โรงเรียนแห่งนี้ล่ะก็ ...หาให้ตายก็ไม่มีหรอก ฮ่ะๆ

*************************************

lukpar
27th January 2013, 17:55
ขอบอกว่านิยายเรื่องนี้เเมวมากค่ะ!

LoveSeeker
27th January 2013, 21:16
อ่านดูแล Ok อยู่นะครับ
เปิดเรื่องได้ดี น่าติดตาม คำผิดก็น้อย

รอท่านอื่นมาดูอีกรอบแล้วกันครับ

Shockshift
30th January 2013, 21:57
EP.1

*****************************

มนุษย์หมาป่า หรือที่เรียกสั้นๆว่าหมาป่า...
ปีศาจชนิดหนึ่ง บางคนว่ามันมีตาสีแดงเวลาพบเจอเหยื่ออันแสนโอชะ
บ้างก็ว่ามันยื่น 2 ขาเหมือนมนุษย์ บ้างก็ว่ามันยืน 4 ขาแบบสุันัขบ้านทั่วไป
แต่ที่แน่ๆที่ทุกคนรู้คือ ..'มันเป็นเพียงเรื่องเล่า'

******************************

แฮ่ก แฮ่ก
"พี่เอก! ทางซ้าย!"
'!!!!'
หลังจบคำพูดของยัยนก รุ่นน้องของผมไปไม่ถึง 2 วินาที ข้างซ้ายของผมก็ปรากฎปีศาจร่างยักษ์วิ่งเข้ามาทางผม ท่ามกลางแสงจันทร์

ตูมมมม ม ม !!
ปีศาจตนนี้มันใช้ขวานด้ามโตของมันที่ใหญ่พอๆกันประตูบ้านคน ฟาดตรงจุดที่ผม'เคย'ยืนอยู่
"ฟู่ว รอดตัวไป"
ผมพึ่งสังเกตุเห็นปีศาจตนนี้ชัดๆเป็นครั้งแรก ขนสีดำของมันสะท้อนกับแสงจันทร์เต็มดวง แสดงถึงความสง่างาม
ผิดกับดวงตากลมโตของมันที่สีแดงราวกับเลือดสดๆ ...แดงยิ่งกว่ากุหลาบสีแดงที่ชุบกับสีแดงอีกที
หัวของมันเหมือน ...สิงโต ...ไม่สิ เสือดาว? อ..เอ๋!? เอาเป็นว่ามันเหมือนสิงโตแล้วกันเพราะมันมีขนเหมือนแผงคอ
แต่ที่แน่ๆ ผมมองมันยังไงก็เหมือนหมาดุๆตัวหนึ่งอ่ะนะ ถ้ามันไม่ยืนสองขากับมีกล้ามหน้าท้อง ฮ่ะๆ
"ไอ้บ้านัด!! ไหนบอกมันตัวเท่ารถกระป๋องไงว่ะ!! นี่มันรถบรรทุกแล้วนะเว้ย!!!"
"กุไม่ผิดนะเว้ย ..ใบจ้างวานเขาบอกมันสูงแค่ 2 เมตรครึ่งนี่หว่า!!"
นัด...เพื่อนของผมรีบวิ่งเข้ามาลากตัวผม เข้าไปในพุ่มไม้ข้างทาง ก่อนที่เจ้าหมาตัวสูง เกือบ 3 เมตรครึ่งจะหันมาสนใจพวกผมอีกรอบ

"สงสัยต้องขอค้าจ้างเพิ่มแล้วนะค่ะ.."
ยัยนกที่ปกติชอบซ่อนตัวเป็นหน่อยซุ่มยิงจากบนต้นไม้ กระโดดลงมาหาพวกผม พร้อมถือหน้าไม้สีเงินคู่ใจ
ผมหางม้าสีดำน้ำตาลเข้มของเธอสยายไปในอากาศในขณะที่กระโดดลงมา
"ขอเพิ่มซัก 20% เป็นไง"
ผมเสนอความคิดเห็นแบบขำๆพลางมองแสงที่สะท้อนจากหน้าไม้
"น้อยไปมั้งไอ้เอก 50% เลยดีกว่ามั้ง คั๊กๆ"
ไอ้นัดที่กำลังส่องมองดูท่าทีของเจ้าหมาตัวยักษ์ หันมาพูดพลางหัวเราะชอบใจ
"แต่ตัวใหญ่อย่างงี้ มันต้อง 90 % เท่านั้นค่ะ"
ยัยนกที่สีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใครบางคน กัดฟันพูดออกมาอย่างเงียบๆ
ดูเหมือนจะแค้นผู้จ้างวานที่ให้รายละเอียดไม่ตรงสินะ ..

http://upicy.com/image-D2FE_51093466.jpg (http://upicy.com/share-D2FE_51093466.html)

ฉับ !

เสียงเหมือนกรรไกรตัดกระดาษแผ่นบางๆดังผ่านหัวผมไปราวกับเครื่องบินเจ็ทบินผ่าน
พอผมลองมองขึ้นไป ...
ต้นไม้ที่เคยบดบังพวกผมได้หายไปกว่าครึ่งต้น จากการฟันด้วยขวานอันบักเอ๊ก
เจ้าหมาตัวโหญ่ก้มมองพวกผมที่กำลังนั่งยองๆ ราวกับมองลูกไก่ในกำมือ ก่อนที่มันจะยกขวานขึ้นสูงอีกครั้ง

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ด ดด !!

**************************************************

โรงเรียนทุกโรงเรียนย่อมมีตำนาน
อย่างโรงเรียนธรรมดา ก็จะมีอย่างผีในห้องน้ำ หรือผีในห้องเคมี
เฮ้อ ...ไร้สาระ
แต่โรงเรียนผมมีตำนานนึง ที่แตกต่างออกไป เกี่ยวกับหมาป่า...ใช่ หมาป่า
ฮ่าๆๆ ใครๆก็รู้ว่าหมาป่าเอย แวมไพร์เอย มัมมี่เอย บลา บลา ..ทั้งๆที่ยุคนี้มีปีศาจมากหน้าหลายตา แต่ไอ้พวกนี้ดันเป็น'เรื่องแต่ง'
ช่วงนี้ข่าวลือเรื่องหมาป่าทำให้พวกนักเรียนมัธยมต้นกลัวกันมาก
เคยมีอาจารย์ไปพิสูจน์หลายต่อหลายคน แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด
และปัจจุบันยังมีข่าวลือมั่วๆ ว่ามันชอบกินเด็กด้วย ...

*****************************************************

"....."
"....."
"....."

หลังเหตุการณ์ที่ต่อสู้กับหมาบ้ายักษ์(?)อย่างดุเดือด(??) ที่จบลงไม่สวยนักเมื่อคืน
พวกผมก็ได้มารวมตัวกันที่บนดาดฟ้าของอาคารมัธยมปลาย
ที่พวกผมชอบมารวมตัวที่นี่เพราะ ดาดฟ้าอาคารนี้อากาศดีมาก บวกกับอากาศช่วงนี้อากาศดีเช่นกัน ลมก็เย็นกำลังดีอีกด้วย
ทั้งๆที่เป็นเขตสวรรค์ปลอดคนแท้ๆ แต่บรรยากาศกลับตึงเครียดเพราะ ...

พวกเราหนีหัวซุกหัวซุนกลับมา

"คนจ้างวานว่าไงบ้างพี่นัด?"
ผู้ที่ทำลายความสงบนั้นคือ ยัยนก ที่นั่งเอาหลังชิดกับกำแพง
"ไม่ให้อ่ะดิ เงินน่ะ"
มันก็แน่อยู่แล้วล่ะนะ ฆ่าเป้าหมายไม่ได้แล้วยังไปขอเงินรางวัล ไม่โดนด่ากลับมาก็ดีแล้ว
"เอาเป็นว่า ยังไงเราก็ทำตามใบจ้างวานประจำสัปดาห์นี้แล้วล่ะนะ"
ด้วยมาตราการโรงเรียนแห่งนี้ นักเรียนทุกคนต้องออกไปทำงานตามใบจ้างวานอย่างน้อยเดือนล่ะ 1 ครั้ง
ยิ่งทำคำจ้างวานมากเท่าไหร่ คะแนนที่ได้ก็ยิ่งมากขึ้น
แล้วยังได้เงินรางวัลหลังจากทำภารกิจจากการจ้างวานอีกด้วย
ซึ่งเป็นวิธีการรวยทางลัดของเหล่านักเรียนหัวกะทิเสียมากกว่า

"ยังไงก็ถือว่าเป็นการขับไล่มันออกจากเขตสินะ ..อื้มมมมม"
นัดลุกขึ้นมาจากพื้นพร้อมบิดขี้เกียจ
"เห้ย เอก! เย็นนี้ไปกินข้าวร้านหลังโรงเรียนด้วยกันมั้ยว่ะ?"
"ไม่ว่ะ มีธุระตอนเย็น"
ผมปฎิเสธแบบทุกที ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากไปกับไอ้นัดหรือยัยนกหรอกนะ
แต่ทุกวันตอนเย็นผมต้องมีธุระที่บอกไม่ได้จริงๆ
"เออเนอะ ..ตูลืมๆไป เอาเป็นว่าเจอกันพรุ่งนี้ว่ะ"
"เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ พี่เอก"
ผมโบกมือลารุ่นน้องกับเพื่อนร่วมห้องก่อนที่จะปิดประตูชั้นดาดฟ้า

****************************************************

ตี 1 52 นาที
สภาพทางเดินหลังโรงเรียนยามดึก ที่ไม่มีแม้แต่แสงไฟ มีแต่เสียงลมที่ชวนขนลุกกับเสียงแมลงดังยัวเยีย
ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในรายการผี หรือหนังผีเรื่องนึง
สำหรับผมมันเป็นวิวที่ผมเห็นจนชินมานานแล้ว
ปกติถนนเส้นนี้มักจะมีข่าวลือเรื่องหมาป่าบ่อยๆ ทำให้ไม่มีเหล่านักเรียนเดินผ่านตั้งแต่ฟ้ามืด
'อา ...สงบสุขอย่างงี้แหละที่รอคอย...ฮืม ?'

ดูเหมือนจะมีใครบางคนกำลังเดินมาทางผม แต่เนื่องจากทัศวิสัยผมมันมืดมากจนมองไม่เห็นว่าใครกำลังเดินมา
ผมลุกขึ้นจากการนั่งเอกเขนกบนต้นไม้ต้นโปรด เพื่อหาต้นเสียง
"....."
คิดไปเองมั้ง ..

"เฮ้!! นายที่อยู่ตรงนั้นน่ะ!!"
"!!!!"
ด้วยความตกใจที่ผมไม่ทันตั้งตัว ผมถึงกับตกจากกิ่งไม้ที่ยืนอยู่กระแทกพื้นดัง 'ตึง'
อูยยยย ย ย ย ย ใครฟร่ะ?
ผมที่สายตากำลังพร่ามัว จากการตกจากที่สูงในสภาพก้นจ้ำเบ้า พยายามมองบุคคลที่อยู่ตรงหน้าของผม

"นายน่ะ ..ไม่กลัวหมาป่ามาจับไปกินเหรอย่ะ!"

......
.........
...............
เอ๋ ?

Shockshift
16th February 2013, 00:37
บทที่ 2

*******************************

กรุบ กรุบ กรุบ
อากาศที่แสนอุ่นราวกับยืนรับแสงแดดอ่อนๆ ถ้าลองหลับตาแล้วจินตนาการอาจจะเห็นเป็นท้องทุ่งโล่งๆได้
กรุบ กรุบ กรุบ
แต่ในความเป็นจริงดูยังไงก็เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมปิดตายก็เท่านั้น
พื้นที่เป็นแผ่นไม้เก่า เดินแต่ล่ะทีก็จะส่งเสียงแอ๊ดอ๊าด
ผนังที่ไม่มีประตูหรือแม้แต่หน้าต่าง โคมไฟเก่าที่แผ่แสงสีส้มอ่อนๆในห้องมืดๆ
โต๊ะไม้เตี๊ยๆไม่ถึงเข่าที่ตั้งกลางห้อง ตู้เย็นสีขาวล้วนที่ยังคงสภาพเหมือนซื้อมาใหม่ตรงมุมห้อง
กรุบ กรุบ กรุบ
"...."
สำหรับ'ฉัน'น่ะนะ.. การอยู่เฉยๆทั้งวันไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินกับนอน เป็นความฝันสูงสุดที่อยากจะทำทุกวัน
แต่นั้นก็เป็นความฝันสมัยก่อน
ใช่.. นานมาแล้วด้วย
กรุบ กรุุบ ......
"อ...เอ๋?"
'ฉัน'อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ข้าวเกรียบที่พึ่งเอาออกมาจากตู้เย็นเมื่อ 5 นาทีก่อน
ในขณะนี้มันเหลือแต่ถุงที่ว่างเปล่า กับเศษข้าวเกรียบที่หกเรี่ยราดเต็มพื้นเท่านั้น

*************************************************
"นายน่ะ ..ไม่กลัวหมาป่ามาจับไปกินเหรอย่ะ!"

"...."
หา ?
ผมเอามือจับที่หลังบริเวณกระดูกสันหลังทั้งๆที่ตัวเองยังคงอยู่ในท่าล้มก้นจ้ำเป้า
สายตาที่กำลังสะลึมสะลือเริ่มปรับภาพภายหน้าให้ชัดขึ้น ราวกับปรับภาพโฟร์กัลของกล้องถ่ายรูป
'อาา ..นี่สินะที่เขาเรียกว่าลิงก็ยังตกต้นไม้ได้น่ะ'
ปกติต้นไม้ต้นนี้ถือเป็นที่เอนหลังชั้นดีของผม เพราะฉะนั้นการขึ้น-ลงต้นไม้จึงถือเป็นเรื่องปกติของผม

"ทำอะไรของนายน่ะ ตาบื้อ"
บื้อ ? ศัพท์หายากมาอีกแล้วแฮะ
ผมจ้องหน้าไปยังบุคคลที่ผมไม่รู้จัก และพึ่งเจอกันครั้งแรกด้วย
เด็กสาวคนนี้น่าจะสูงราวๆไหล่ผมล่ะมั้ง เพราะขนาดผมนั่งกับพื้นอยู่ยังรู้เลยว่าเธอคนนี้น่ะ 'เตี๊ย'
แสงจันทร์ที่ไม่ค่อยสว่างมากนักทำให้ผมเห็นผมหาางม้าที่สั้นราวๆถึงต้นคอ
ส่วนเสื้อผ้าก็ของชั้นมัธยมปลาย ...หา!? มัธยมปลาย? เตี๊ยขนาดนี้เนี๊ยนะ
"เธอมาทำอะไรที่นี่ ?"
ผมหลีกเลี่ยงที่จะถามชื่อของเธอ และถามประเด็นหลักที่ว่า ทำไมเด็กตัวน้อยๆถึงมาเดินดุ่มๆในบริเวณเขตต้องห้ามของโรงเรียน
ซึ่งการมาบริเวณนี้หลัง 1ทุ่ม ถือเป็นความผิดที่พอจะลดคะแนนได้ทั้งเทอมเลยทีเดียว

"หึ !!"
....? ไรว่ะ?
ไอ้การแสดงกิริยาคล้ายดูถูกดูแคลนคนอื่นด้วยลมหายใจนั้มันหมายความว่าอะไร ?
"ฉันก็มาล่าหมาป่าไงล่ะ!!"
เด็กสาวที่กำลังยืนจังก้า เอากำปั้นข้างขวาทุบ'อกแบนๆ'ข้างซ้ายของเธอดัง บึก
"...."
'ยัยนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ'
ผมจ้องมองไปที่ดวงตาสีน้ำเงินอันกลมโตของเด็กสาว ในขณะที่กำลังเอามือยันตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากพื้น

ตึก ตึก ตึก

"!!!"
เสียงของฝีเท้าหนักแน่น ที่บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นคือ 'ปีศาจ'
ค่อยๆดังออกมาจากภายในป่าที่มืดสนิท อย่างช้าๆ ..
เฮ้ย เฮ้ย นี่ตูไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย !?
"นี่ เธอน่ะกลับหอไปก่อนดีกว่ามั้ง? แถวนี้มันอันตรายนะ!!"
ผมรีบสลัดความคิดเชิงลบและบอกกับเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้า
"เรื่อง'ไรฉันต้องหนีด้วย!! บ้างทีไอ้ตัวที่กำลังเดินมาอาจจะเป็นหมาป่าก็ได้!!"
เธอตะคอกใส่ผม ทั้งที่ยังยืนท่าจังก้าอยู่ โดยทำหน้าขมวดคิ้วแบบไม่พอใจสุดฤทธิ์
'ทำไมชีวิตตู ต้องเจอแต่คนคุยยากๆด้วยฟร่ะเนี่ย'
ผมเอามือกุมศีรษะ พลางหยิบปืนที่เอวผม

**********************************************
"........."
มนุษย์สิ่งมีชีวิตที่สามารถจินตนาการได้หลากหลายรูปแบบ
ทั้งคิดสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง และการคิดสิ่งที่มีอยู่จริงให้กลายเป็นสิ่งที่เกินจริง
และบางทีมนุษย์ก็เป็นพวกวิตกจากการคิดสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงอีกด้วย
"........"
ฉันหยิบซองข้าวเกรียบที่ว่างเปล่ามาดู ทั้งๆที่ตัวเองยังนอนแผ่ราบอยู่กับพื้นห้อง
'ส่วนผสม ..แป้ง เกลือ น้ำตาล ..'
ก็นะ ..โดยทั่วไปคนที่ไม่มีอะไรทำ มักจะคิดเรื่อยเปื่อยหรือหาดูนู่นดูนี่เล่นนี่เนอะ
หลังจากจ้องมองอ่านคำสารบรรยายต่างๆที่ข้างซองได้ไม่นาน ฉันก็ได้โยนมันทิ้งไป
และจ้องมองไปยังเพดานสีขาวที่ถูกชะโลมไปแสงสีส้มของหลอดไฟ
ความคิดเรื่อยเปื่อยพุ่งเข้ามาในหัวฉันอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็มาหยุดชะงักกับความคิดแปลกๆ
'จริงสินะ ..มีคนเคยบอกไว้ว่า ถ้าหลับตาแล้วนับ 1 ถึง 3 จะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นนี่เนอะ~'
มือของฉันขยับมาบดบังสายตาเองโดยอัตโนมัติ และเริ่มขยับริมฝีปาก

"1...."

**********************************************
เกรดที่นักเรียนโรงเรียนแห่งนี้ ที่ได้กันนั้นเอาหลักเกณฑ์มาจากต่างประเทศ
คือไม่ใช่การให้แบบ เกรด4 เกรด3 แต่ให้เป็นเกรดA เกรดB แทน
สำหรับผมมันเหมือนการคัดแยกเกรดเนื้อชั้นดีกับเนื้อชั้นเลวมากกว่า
ผมว่าโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากโรงเรียนทั่วไปหรอกมั้ง
คนเก่งมักจะจับคู่กับคนเก่ง และปล่อยให้คนที่อ่อนแอเป็นฝ่ายค่อยๆตายไปช้าๆ
แน่นอนพวกไก่อ่อนที่หลงผิดเข้าโรงเรียนแห่งนี้มักจะ'ตาย'ตั้งแต่ ม.ต้น
เพราะหลักสูตรชั้นประถมยังไม่ได้วางแผนให้เด็กตัวน้อยๆไปเป็นเหยื่อปีศาจนี่เนอะ
ดังนั้น นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นคนที่ ...
'ไม่ค่อยปกติเสียเท่าไหร่'ล่ะมั้ง

**********************************************
ตี 2

เด็กสาวที่น่าจะเตี๊ยซัก 150 ..ไม่สิ 155 ล่ะมั้ง ผู้ชอบพูดคำแปลกๆออกมา
ได้หยิบปืน สกอเปี้ยน(scorpion) ออกมาจากหลังของเธอ(มันซ่อนไว้ตรงไหนฟร่ะ?) แล้วตั้งท่าเล่งแบบมืออาชีพ
ความจริงผมก็ไม่เก่งเรื่องปืนหรอกนะ แต่ที่ผมจำได้เพราะปืนสกอเปี้ยนมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่า
"เธอ...ใส่กระุสุนหรือยัง ?"
"นี่นายคิดว่าฉันเป็นใครย่ะ ใครจะ'โง่'ลืมใส่กระสุนในแมก(แมกการซีน)ตัวเองก่อนลงสนามรบย่ะ!!!"
อูยยย ..แทงใจดำดัง แปร๊ด เลยแฮะ
ก็นะเคยมีครั้งนึงผมลืมใส่ลุกกระสุนในแมกกาซีนที่เตรียมมา ล่อซะจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ฮูมมมมมม ม ม !!!

เสียงที่ก้องกังวาล ที่ดังๆพอกับเสียงรถเร่ขายของที่พบได้ตามท้องถนนทั่วไป
เผยออกมาพร้อมกับตัวต้นตอของเสียง
ปีศาจตนนี้มีความสูงเหนือกว่าผู้ชายปกติเล้กน้อยคือประมาณ 190 เซน
ถึงตัวจะเตี๊ยกว่าปีศาจปกติ แต่ดูเหมือนมันจะชดเชยตัวกล้ามที่เป็นมัดๆ
โดนอัดซักทีคงกระเด็นได้หลายเมตรเลยทีเดียว
เขาคู่นึงกับหางอันใหญ่ต่อของมันสื่อถึงการมีเชื้อสายมังกร
และสีตัวที่เป็นสีน้ำตาลของแดงของมันสื่อถึงสายพันธ์ที่พบได้บ่อยแถวนี้ ...
'มังกรบ้าอะไรไม่มีปีกฟร่ะ ?'
ไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่วิวัฒนาการไปตามเวลา ..ปีศาจเองก็เช่นกัน
ไอ้พวกมังกรไม่มีปีก ก็อย่างมังกรดินก็มีให้พบเห็นได้ในข่าวเป็นประจำ
แต่มันก็อดประหลาดใจไม่ได้ทุกที เมื่อพบเห็นเข้าจริงๆล่ะนะ

ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง !!
เสียงลูกกระสุนที่ยิงรัวราวกับกลองชุด ดังกระหืมจากปากกระบอกปืนสกอร์เปี้ยน
'เว้ย!! จะยิงก็บอกกันก่อนดิ!!'
ผมเอามือข้างนึงปิดหูโดยสัญชาติญาณ ก่อนจะยกปืนพกกึ่งอัตโนมัติ กล๊อก17(glock17)ออกมายิงเจ้าปีศาจ
เจ้าปีศาจที่ดูท่าจะโดนกระสุนเข้าไปหลายนัด กระโดดเข้ามากลางวงพวกผมก่อนจะใช้มือขนาดใหญ่ฟาดมาที่ตัวผม

อึก!
การโจมตีที่ดูรวดเร็วกว่าปีศาจตนอื่นทำให้ผมคาดคะเนผิดพลาดไปเล็กน้อย
ทำให้ผมได้แผลถากๆที่ต้นแขนขวา ...แต่ในขณะที่ผมกำลังอั่มอึ้งอยู่นั้น เด็กสาวที่ถูกลืมได้กระหน่ำปืนของเธอจากด้านหลังของเจ้าปีศาจ

กรรร ร ร...
เจ้ามังกรน้อยกัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายไป
แขนขนาดใหญ่ของมันพุ่งไปที่เด็กสาวอย่างไม่รีรอให้เหยื่อตั้งตัว
แต่ ...
เด็กสาวได้หลบการโจมตีของมันอย่างง่ายดาย
เธอได้หยิบบางอย่างออกมาจากชายกระโปรงก่อนที่จะแทงไปที่แขนของมัน

ฉึก!!

'มีดผีเสื้อ?'
เธอดึงมีดพับของเธอออกก่อนจะแทงที่ต้นแขน และกลางหลังของมันอย่างว่องไว
ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที ..
เธอควงมีดพับของเธอก่อนจะแทงที่กลางหลังซ้ำอีกที (มันจำเป็นต้องควงก่อนด้วยเหรอฟร่ะ ?)
และจบด้วยการสาดกระสุนไปที่หัวของมังกรจนหมดแมกกาซีน

"...."

ความเงียบเริ่มกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับภาพของเด็กสาวที่โยนปืนของตัวเองทิ้ง
และหันมามองทางผมด้วยสายตาดูถูกดูแคลนประมาณว่า 'นายเนี๊ยใช้ไม่ได้เลย~~'
'จบแล้วเหรอ ?'
ผมพึมพำในใจก่อนจะยืนมองซากปีศาจมังกรที่ชะโลมไปด้วยเลือด

****************************************************

"2......"

****************************************************

เด็กสาวผู้พึ่ง'ฆ่า'ปีศาจที่มีขนาดใหญ่กว่าตนเกือบหนึ่งเท่า หันหลังกลับมามองผมพร้อมสีหน้าพึงพอใจกับผลงาน
"นายเนี๊ยมันใช้ไม่ได้เลยจริงๆนะ"
เธอพูดเอามือของตนปัดเศษฝุ่นต่างๆออกจากตัว
"อืมอ่ะนะ .."
อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า ครั้งนี้ผมไม่ได้ช่วยอะไรในการฆ่าเจ้าปีศาจเลยแม้แต่น้อย
ดีไม่ดี ถ้าไม่มียัยนี่ผมอาจตายก็ได้ ...อาจจะ อาจจะ อาจจะ

ไม่สิ ไม่ตายแน่นอนอยู่แล้ว ..

ผมเอามือจับท้ายทอยของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กสาวที่กลับมายืนท่าจังก้าเหมือนเดิม
"เป็นอะไรหรือเปล่า ?"
"ไม่เป็นไรอยู่แล้วย่ะ เอาแต่ยืนอยู่เฉยๆไม่คิดจะช่วยกันตั้งแต่แรกแล้วหรือไงย่ะ!?"
"เออ ..ขอโทษด้วยก็แล้วกัน"
ด้วยคำตอบที่โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ผมได้แต่ทำตัวแบบขอไปทีก่อนที่หัวจะแล่นเสียอีก
"เฮ้อให้ตายสิ ทำไมคนไร้ประโยชน์อย่างนายถึงมาอยู่ในโรงเรียนนี้ได้เนี๊ย .."
"...."
ผึง
เป็นเพราะอะไรไม่รู้ ผมรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองถูกกระตุ้นด้วยคำพูดท่อนนี้
และเป็นการกระตุ้นต่อมโมโหเสียด้วย
"นี่ยัยเตี๊ย .."
ปากของผมขยับไปโดยอัตโนมัติ เป็นคำพูดที่มาจากจิตใต้สำนึกของผม
เด็กสาวที่ตกใจกับคำพูดที่ตนคาดไม่ถึง จ้องมองมาที่หน้าผมด้วยตากลมโต
ผมไม่รู้หรอกนะว่าขณะนี้ผมทำหน้าตายังไง แต่ในหัวของผมมันโล่งไปหมด

นี่สินะที่เขาเรียกว่า สติแตก

"นี่นายเป็นใครกันย่ะ กล้ามาเรียกคนอื่นว่าเตี๊ยน่ะ!! งี่เง่า!!"
"เออใช่สิ!! ใครจะสติดีเหมือนเธอ เธอนั้นแหละเก่งมาจากไหนว่ะ!! ยัยเตี๊ย!!"
"หน่อย ...ทำมาเป็นพูดดี!! ถ้าไม่มีฉันนายตายไปแล้วย่ะ!! เจ้างี่เง่ากำลังสาม!!"
"อ่อเหรอ!! เธอก็แค่มาแย่งเหยื่อฉันนี่นา!! ยัยเด็กประถม!!"
"นายต่างหากที่เอาแต่อำอึ้ง เวลาออกสนามรบเขาไม่มีความลังเลหรอกย่ะ!! ไอ้งี่เง่า!!"
"เวลาแบบนี้่มันไม่เกี่ยวกับสนามรบหรอกเว้ย!! ยัยหน้าอกแบน!!"
"!!!!"
อุ๊ก ..เผลอพูดออกไปจนได้
มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะนร้า ที่ผู้ชายจะเผลอหันไปมองหน้าอกของผู้หญิง
แต่หน้าอกของยัยนี่จะแบนจริงๆนั้นแหละ ..
เด็กสาวที่โดนคำพูดแทงใจดำ ก้มหน้ามองหน้าอก(?)ของตน แล้วหน้าของเธอก็ค่อยๆแดงขึ้น แดงขึ้น ..
แดงไปถึงใบหูเลยทีเดียว
"ไอ้งี่เง่า!! ไอ้โรคจิต!! ไอ้หื่นกาม!! #&!@&^!&!!!"
เธอเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกของเธอราวกับกำลังโป๊อยู่ พร้อมด่าทอผมไม่เป็นภาษา
เท้าของเธอกระทืบกับพื้นยกใหญ่ราวกับจะทำให้ผืนดินทลาย
ความโกธรกับความรู้สึกผิดแบบแปลกๆของผมผสมปนแปไปหมดจนผมไม่รู้จะทำยังไง
ได้แต่ยืนอยุ่เฉยๆให้ตัวเองใจเย็นลง

ผึง !!

สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นข้างหลังเด็กสาวตัวน้อย
ศพ ...ใช่ ศพมังกรที่น่าจะตายไปแล้ว
กระเด้ง(?)ขึ้นมา... กระเด้งราวกับมีคนเอาเครื่องปั้มหัวใจมาปั้มที่อกของมัน
ถ้าจะให้เห็นภาพคุณนึกถึงภาพคนที่โดนผีสิงในหนังผีทางฝั่งอเมริกา
"!!"
ศพมังกรที่ลุกขึ้นมายืนขึ้นสองขาเหมือนลุกขึ้นจากการหกล้ม
กระโดดพุ่งเข้ามาทางพวกผม พร้อมยื่นกรงเล็บที่เป็นอาวุธของมัน
ผมรีบเอามือของผมเข้าไปโอบกอดเด็กสาวที่โกธรผมจนไม่รู้อิโหน่อิเหน่
หน้าของเธอแดงกล่ำมากขึ้นกว่าเดิม แต่ผมไม่ได้สนใจมากนักในตอนนี้
ผมรีบหลับตาและตั้งสมาธิ ....

เข้าสู่ ...ที่ไหนสักแห่ง ....

***************************************

"3 !!!!!!"
ฉันลืมตาขึ้นมาจากความมืด
สำหรับฉันนี่เป็น 3 วินาทีที่ยาวนานมากเลยทีเดียว
แต่ ...ภาพที่ฉันเห็นคือ แสงไฟสีส้มที่แยงเข้ามานัยตากับเพดานที่ถูกชะโลมไปด้วยสีส้ม
"....."
'เฮ้อ ..'
น่าเบื่อจังเลย~~~~
ฉันเอามือยันตัวเองลุกขึ้นมาจากการนอนกับพื้น แล้วลุกที่ตู้เย็นเพื่อหาอะไรกิน
ปึง
ฉันเปิดตู้เย็นออกและสำรวจภายใน ราวกับคนที่หากุญแจรถในกระเป๋าสะพาย
'ส้ม ขนมปัง แคร๊กเกอร์ ...นม ...'
"....."
ฉันยื่นมือเข้าไปหยิบส้มที่มีประมาณ 2 ผลในตู้ออกมาไว้ในกำมือ
ปึง

"โยว่ .."
คนที่ทักทายฉันหลังปิดตู้เย็นบานใหญ่คือ ....
"โยว่.. เอก มีธุระอะไรเหรอ ?"
ฉันถามออกไป ทั้งๆที่ในมือกำลังแกะเปลือกส้มอยู่

"นี่ ยัย'หมาป่า' ฉันขอยืมพลังหน่อยสิ"

***************************************************

Nicoma
16th February 2013, 00:54
ผมก็มี
มีอยู่วันหนึ่งผมเดินไปสวนหลังบ้านเเล้วก็พบกับหมาป่าตัวนี้
http://www.dailyotaku.com/wp-content/uploads/2010/04/moe-image1.jpg
เเล้วหลังจากนั้นก็........
จบ

toomtarm005
18th February 2013, 00:39
ช่วยปะติดปะต่อเรื่องราวให้มากกว่านี้หน่อยนะครับ เนื้อเรื่องมันถูกหั่นเป็นส่วนๆมากเกินไป จนบางทีรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเดียวกันเลย :dash ช่วยแต่งจนจบด้วยนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ:)

Shockshift
28th March 2013, 21:48
ช่วยปะติดปะต่อเรื่องราวให้มากกว่านี้หน่อยนะครับ เนื้อเรื่องมันถูกหั่นเป็นส่วนๆมากเกินไป จนบางทีรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเดียวกันเลย :dash ช่วยแต่งจนจบด้วยนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ:)
ผมจะพยายามครับ ขอบคุณมากครับ ;w;

***********************************

บทที่ 3

คุณเคยเห็นภาพทุกอย่างตรงหน้าช้าลงบ้างมั้ย ?
ถ้าจะให้อธิบายชัดๆคือ ตอนเราเจอเหตุกการ์ณที่ผิดปกติ
เราจะรู้สึกสิ่งรอบข้างขยับช้าลง ยกตัวอย่างนะ..
อย่างเช่นตอนหัวหน้าห้องหญิงจอมซุ่มซ่ามที่ขนกองหนังสือกองพะเนิน
เข้ามาในห้อง แล้วสะดุดอากาศจนจะล้ม พระเอกประจำเรื่องที่ดันอยู่แถวนั้นพอดีก็จะหันหน้าไป
พร้อมฉากสโลว์โมชั่น ซึ่งถ้าใส่เสียงแบ็คกราวน์ดัง ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด คล้ายนาฬิกาจับเวลา
..แล้วก็ช่วยจับกองหนังสือที่กำลังจะตกไว้ได้ทัน
โดยไม่ตกลงพื้นแม้แต่เล่มเดียว แล้วคุณคิดดู ..
ถ้าคุณเป็นตัวพระเอกที่ว่า คุณจะรู้สึก'เท่'ขนาดไหน

ผมว่ามันเท่มากเลยนะ
แต่ความรู้สึกนั้นมันไม่ค่อยกระเตื้องสักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้
'แขนข้างซ้าย'ของผมกำลังโดนกรงเล็บของเจ้ามังกรฝั่งอยู่
มันเหมือนโดนเข็มฉีดยาขนาดบิ๊กไซส์ปักแขนเท่านั้นเอง ชิวๆ ...จริงๆนะ
"อัก !"
ผมอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะสลัดแขนของตัวเองออกจากการโจมตีครั้งที่ 2
จากที่สังเกตุ มังกรตนนี้ได้ตายลงไปแล้วเป็นที่แน่นอน
หัวของมันที่เต็มไปด้วยเลือดที่แดงขุ่น นัยตากลับขาวโพล่นราวกับผีในหนังสยองขวัญ กับร่างกายที่ขยับทื่อๆ
'ศพตนนี้กำลังถูกใครสักคนบ่งการอยู่ .. '
"เจ้าบ้า !!!"
เสียงตะโกนของเด็กสาว ดังทะลุแก้วหูผมในระยะประชันชิด
"ปล่อยนะย่ะ!!"
เธอเอามือของเธอดัน'แขนข้างขวา'ของผมออกอย่างกับเป็นของน่ารังเกียจ
"!!!"
และสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ได้เกิดจนได้ ...
เด็กสาวที่เมื่อสักครู่ยังตะโกนโวกเวกอย่างไม่ดูสถานการณ์ ได้เงียบลงด้วยสิ่งผิดปกติบนร่างกายของผม
การได้ยืมพลังของ 'หมาป่า' มานั้น จะทำให้ร่างกายของตนหลอมรวมกับหมาป่าไปส่วนนึง
ซึ่งที่เด่นชัดสุดคือ แขนข้างซ้าย
ที่ตอนนี้ได้เป็นแขนข้างใหญ่กว่าเดิมมาเท่านึง และมีขนสีขาวปกคลุมจนไม่เห็นเนื้อหนัง
ส่วนที่เคยเป็นนิ้ว กลับกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกรงเล็บของหมาป่า แต่ไม่ใช่ป่อมๆแบบหมาบ้านนะ
แต่มันเป็นกรงเล็บที่ดำสนิทและขนาดใหญ่พอๆกับกรงเล็บของมังกรดิน พอที่จะหันโต๊ะเรียนขาดเป็น 2 ท่อน
ที่เด่นรองลงมาก็หู ...หูสุนัขนั้นแหละ ตั้งชี้โด่ชี้เด่อยู่บนหัวของผม ราวกับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย ...
ไม่สิ ...ตอนนี้ก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่่งของผมนั้นแหละ
ส่วนสุดท้ายก็คือ ...หาง
ซึ่งก็ไม่รู้มีไว้เพื่ออะไรเหมือนกัน
บางทีอาจช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีแบบเรือลำโตที่มีหางเสือเรือก็เป็นได้ล่ะมั้ง
ทุกส่วนที่กล่าวมานี้ล้วนสีขาว มันเป็นสีขาวที่คล้ายหิมะที่ไม่มีอะไรเจือนปน ..
'สีขาวบริสุทธิ์'
"เห้ย ยัยเตี๊ยหัดดูสถานการณ์ก่อนดีกว่ามั้ง .."
ผมพูดแบบเหนื่อยๆก่อนเอาจับเด็กสาวอุ้มท่าเจ้าหญิงแล้วกระโดดออกทางซ้าย
ตูม !
กำปั้นใหญ่ๆที่เล็งมาทางผม ทุบลงไปที่พื้นจนแตกกระจายไปทั่ว
"ว้าย!"
ใบหน้าของเด็กสาวเด็กแดงกร่ำเป็นลูกสตอเบอรี่
มือทั้งสองของเธอขดเข้าหาตัว อย่างกับเด็กทารก
เธอหันหน้าของเธอมามองหน้าของผมอย่างช้าๆ พร้อมทำปากขมุบขมิบ
ผมวางเธอลงกับพื้นก่อนที่จะหยิบปืนของผม
เด็กสาวล้มลงพื้นดัง แปะ อย่างไม่เป็นท่า ทั้งๆที่หน้าของเธอยังแดงจนถึงหู
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะว่าขอแค่ไม่มีอะไรมาขัดคอ ...

'มันก็ทำให้ผมฆ่าเจ้านี่ได้ง่ายขึ้นแล้วล่ะ'

**************************************************************************

ปัง ปัง ปัง!!
ขณะที่ผมเอามือข้างซ้ายที่เป็นกรงเล็บฟาดฟันแทนดาบอยู่นั้น
ผมก็ใช้มือข้างขวาซึ่งเป็นข้างที่ถนัด สาดกระสุนไปที่ตัวของมัน
ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของมังกรดิน เดินโซซัดโซเซราวกับกำลังเต้นรำ
สำหรับผม เจ้าซอมบี้ตัวนี้ก็เหมือนเบี๊ยของฝ่ายศัตรู
มันมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง เหมือนโดนบอกให้ซ้ายหัน ขวาหันนั้นแหละ
และยิ่งสู้กับเจ้านี้นานเท่าไหร่ ก็มีโอกาศที่จะโดนคนอื่นพบมากเท่านั้น
ผมจึงต้องรีบหาคนที่ควบคุมเจ้านี่ให้เร็วที่สุด หรืออีกทางก็คือ
เด็ดหัวเจ้ามังกรตนนี้ซะ ...
ปัญหาคือจะหาจังหวะยังไงเท่านั้นแหละ

ผมชายตามองไปที่เด็กสาวที่นั่งห่างไปประมาณ 6 เมตร
เธอยังนั่งอ้าปากพะงาบๆแล้วค่อยๆหันหน้ามามองผม
"น...นะ ....นาย...ระ..."
เหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรซักอย่าง แต่มันตะกุกตะกักเกินไปที่ผมจะจับใจความ
"ห่ะ? อะไร..."
ปึก !!
ยังไม่ทันที่ผมจะถามเธอจบ แรงกระแทกจากหมัดของมังกรดินก็กระจุกกันที่ท้องผม
แรงกระแทกนั้นส่งตัวผม ลอยไถลไปกับพื้นจนหยุดที่หน้าเด็กสาวพอดีราวกับก่ะไว้
"อุก .."
ผมครางออกมาเบาๆก่อนค่อยๆชำเลืองมองไปที่เด็กสาว
"ระวังข้างหน้าด้วย .."
เธอพูดออกมาเงียบๆพลางจ้องตามาที่ผม
"จะบอกไอ้เรื่องแค่นี้ทำไม(เว้ย)!!! ตูหลบเองเป็นเฟ้ย!!"

เจ้ามังกรดินค่อยๆเดินมาทางผม มันเดินช้าเสียยิ่งกว่าเด็กอนุบาลที่หัดปั่นจักรยาน 3 ล้อเสียอีก
แขนของมันแกว่งไปมาชวนให้นึกภาพของชิงช้าที่ยังแกว่งได้เพราะแรงเฉื่อย
ทั้งๆที่การเดินของมันใช้เวลาแต่ละก้าวนานกว่า 2 วิ แท้ๆ(เพราะมันตายไปแล้ว)
แต่กลับมีแรงมหาศาลจากการต่อย 1 ที ซะอย่างงั้น
เหตุผลนั้นทำให้ผมหงุดหงิดไม่ใช่น้อย
'ตายไปแล้วทั้งที ยังอุตสามาอัดซะตูกระเด็นอีกนะไอ้จิ้งเหลนเอ๊ย ..'
ผมสบถในใจ พลางหันหน้าไปยังผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้
"นี่ ยัยเตี๊ย ...ขอยืมมีดผีเสื้อของเธอหน่อยสิ"
ผมใช้มือยันตัวเองให้มาอยู่ในท่านั่งยองๆ ก่อนจะถามนักฆ่าตัวเล็กที่โชว์ฝีมือให้เห็นไปแล้วว่ายัยนี่ 'ไม่ธรรมดา'
"อ..อือ"
เธอทำหน้ากล้ำกลึงเล็กน้อย เหมือนกำลังลังเล
แต่สุดท้ายเธอก็ยื่นให้อย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่
'ถ้ายัยสุนัขนี่กลายเป็นคุณหนูว่าง่ายอย่างงี้ตั้งแต่แรกก็ดีสิ'
"แล้วก็ ..ฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยด้วยล่ะนะ"
ผมถามคำถามตรงไปที่เด็กสาว ก่อนที่จะยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

*********************************************************

กำลังเท้าที่ถีบส่งตัวของตัวเองไปข้างหน้า กับมือข้างซ้ายที่ผิดปกติ และมือข้างขวาที่กุมมีดพับเอาไว้
ร่างกายที่พุ่งตรงดิ่งไปยังเป้าหมายข้างหน้าจนรู้สึกเหมือนตนเองกำลังจะล้มลงไปทั้งอย่างนั้น
ความรู้สึกที่เหมือนตัวเองนั้นมองเห็นสิ่งรอบๆชัดขึ้นกว่าปกติ
กับความรู้สึกที่คันบริเวณหูสุนัขที่งอกออกมาบนหัว ...เออ ช่างมันเหอะ

แค่เผลอคิดอะไรในใจแปปเดียว แต่เวลารอบข้างมันก็ไม่ได้ช่วยหยุดให้นี่เนอะ
ภายในเวลาไม่กี่วิ ตัวผมก็มาอยู่ข้างหน้าของเจ้ามังกรสองขาข้างหน้าเสียแล้ว
มันทำท่าชะงักนิดหน่อย ก่อนจะยกแขนขึ้น แล้วง้างไปข้างหลัง
หมัดตรงพุ่งมาข้างหน้าผม เร็วอย่างกับจรวดก่อนที่ผมจะเบือนหน้าหลบไปอย่างฉิวเฉียด
แน่นอนทริคเดิมๆที่เหมือนเกมเมอร์มือใหม่เล่นเกมไฟว์ติ้งแล้วกดต่อยอย่างเดียวมักใช้ไม่ได้ผลตลอด
ผมอัดบริเวณใต้คางของเจ้ามังกรด้วยมือซ้ายที่เป็นกรงเล็บ เข้าไปอย่างเต็มเปา
ตามด้วยการเอามีดผีเสื้อที่กุมไว้ แทงไปที่ข้อต่อบริเวณแขนของมัน
แล้วลากมาเป็นทางยาวก่อนจะสิ้นสุดบริเวณข้อมือของมัน
เลือดที่กักตัวอยู่ที่แขนของมัน สาดกระเซ็นไปทั่วมันกระจายอย่างกับน้ำรั่ว
ทำให้เสื้อนักเรียนของผมโดนลูกหลงจนเปอะเปื้อนไปด้วย
'ตูขี้เกียจซักนะเว้ย!! ผงซักฟอกที่ตูใช้ยิ่งซักเอาเลือดออกยากๆอยู่ด้วย!'
ผมสถบในใจเล็กน้อย ก่อนจะสังเกตุเห็นมืออีกข้าง
ที่กำลังง้างไปข้างหลังอย่างเต็มที่ ...

ผัวะ!!!
ถึงแรงจะน้อยกว่าตอนแรกๆแต่ก็ยังส่งผมตัวลอยไปอยู่ดี
แถมรู้สึกเหมือนผมจะเริ่มชินชากับการลอยบนอากาศในเวลาอันสั้นแล้วเสียด้วย
อีกทั้งยัง ...
ปลั๊ก ..กลุก กลุก กลุก
'ลงจอดไม่สวยเหมือนเดิมทุกที'
การได้กลิ้งลงพื้นประมาณ 4 รอบครึ่งทำเอาหัวหมุนไม่น้อย
ผมที่พยายามจับทิศบนล่างอยู่นั้น เห็นภาพเจ้ามังกรเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
แหม่ๆ ไม่รู้ผมตาฝาดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนเจ้านี่กำลังยิ้มเยาะเย้ยผมอยู่้ด้วย

ปัง!
เสียงลั่นไกปืนดังสนั่นไปทั่ว ก่อนที่เจ้ามังกรจะหันไปดูที่ต้นเสียง
ตัวต้นเหตุคือเด็กสาวที่กุมปืนกล็อก17(ของผมเอง) ส่วนเหตุผลที่เธอยังน่ะเหรอ ..
ก็แค่ ..หลอกล่อความสนใจมัน ให้ผม'ฆ่า'มันง่ายๆเท่านั้นเอง

"ตายซะไอ้ผีตายซาก"

ผมฉีกยิ้มเล็กน้อย พลางกุมมีดผีเสื้อในมือขวาไว้แน่น และกระโจนเข้าแผ่นหลังแดงๆของมังกรดิน
มือซ้ายที่เป็นอุ้งมือหมาป่าขนาดใหญ่เกาะที่ไหล่ของมังกร
และใช้มีดผีเสื้อที่แหลมคมแทงลงที่หลังคอที่หนาๆของเจ้ามังกรดิน
ฉึก!!!
ตามด้วยการดึงมีดผีเสื้อลงมาเป็นทางยาวส่งเสียงดัง 'แขวก' คล้ายเสียงฉีกผ้า
ผมปล่อยมีดผีเสื้อออกจากมือ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้าง ล้วงเข้าไปและ ...
แขวะ!!

**************************************************

"...."
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเริ่มจากเสียงดังอึกกระทึก และจบลงด้วยความเงียบสงัด
ซึ่งบางทีอาจจะเงียบเกินไปด้วยซ้ำ

วิ้ง วิ้ง วิ้ง
เสียงของเหล่าแมลงต่างๆนาๆที่ผมไม่สามารถระบุได้ว่ามีพันธ์อะไรบ้าง
ดังกระหึ้มอย่างกับเป็นเสียงที่ดังออกมาจากลำโพงขนาดใหญ่
ภาพของ'ซาก'มังกรที่เละยิ่งกว่าโจ๊กตรงหน้า ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอวนสักเท่าไหร่
เลือดสีแดงเข้มที่กระจายไปอยู่ทั่วก็ส่งกลิ่นเหมือนกับจะบ่งบอกว่า
'เห้ย! มีศพตรงนี้นะจ๊ะ มาทำความสะอาดด้วยล่่ะ'
'เฮ้อ'ผมถอนหายใจไล่ความปวดเมื่อยเบาๆก่อนจะเดินไปหาเด็กสาว
"อ่ะ นี่ของเธอ"
ผมเอามีดผีเสื้อเช็ดเสื้อนักเรียนของผมเล็กน้อย ก่อนจะยื่นให้เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของ
"อืม"
เธอรับมีดพับคืนไปด้วยสีหน้าธรรมดา ซึ่งก็ไม่ได้แฝงความรังเกลียดแต่อย่างใด
ถ้าถามว่าทำไมผมเอามีดที่ชุ่มไปด้วยเลือดมาเช็ดเสื้ออันขาวสะอาดน่ะเหรอ ?
ก็นะ ...ตอนนี้มันเปลี่ยนจากขาวบริสุทธิ์เป็นสีแดงชาดแล้วน่ะสิ!!!
บ้าเอ๊ย!! ตอนแรกนึกว่าจะมีเลือดติดมานิดเดียว นี่มันเปลี่ยนสีกันเลยนี่หว่า!!!
สงสัยคงต้องบอกลากันแล้วสินะ ..
ผมคิดในใจอย่างเศร้าสร้อย พลางมองชายเสื้อนักเรียนตัวโปรด
"จะว่าไป ขอปืนของฉันคืนด้วย"
ผมยื่นมือออกไปเพื่อทวงอุปกรณ์หากินของผม
แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันไม่ใช่ปืนกล็อก17ของผม แต่เป็น ...

ชิ้ง

ใบมีดเรียวๆที่เล็กและคมพอจะตัดหลอดลมของผมได้นั้น
จ่ออยู่ที่ลำคอของผม ซึ่งก็น่าจะห่างไม่ถึงเซ็นนึงด้วยซ้ำ
"เห้ยๆ ทำอะไรของเธอน่ะ?"
ผมถามไปยังเด็กสาวร่างเล็กที่ยืนจ่อมีดพับ ก่อนจะค่อยๆยกมือทั้งสองขึ้น
ที่แสดงถึงการยอมจำนน
"นายเป็นตัวอะไรกันแน่"
เด็กสาวพูดออกมาอย่างช้าๆและเยือกเย็น
นัยน์ตาสีน้ำเงินทะเลน้ำลึกของเธอรี่ลงเล็กน้อย
"บอกมา!!!"
เธอตะโกนย้ำคำถามของเธอ ทั้งๆที่มีดยังจ่อคอหอยผม
ประมาณว่า ถ้าไม่รีบตอบคอของผมคงได้ปล่อยเลือดออกมาแบบก็อกน้ำแน่
ผมทำได้แต่ยืนอ้ำอึ้งและบอกความจริงไปทั้งๆอย่างนั้น
"หมาป่า .............ละมั้ง"
ผมตอบออกไป โดยรู้สึกถึงเม็ดเหงื่อที่กำลังไหลอาบแก้ม
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูยังไง ก็เหมือนคอสเพลย์ ..ใช่คอสเพลย์
สวมหู สวมหาง และก็สวมถุงมือขนาดใหญ่
ดูยังไงก็เหมือนตัวละครจากการ์ตูนเรื่องนึง
(แต่ของผมของจริงนะเออ กระดิกหางได้ด้วยล่ะ)
เด็กสาวที่ได้รับคำตอบทำตาครุ่นคิด ก่อนจะลดมีดในมือลงเล็กน้อย
และในขณะที่เธอกำลังจะเปิดปากพูด

'เจอกันเมื่อชาติต้องการเว้ย!'
การวิ่งเอาชีวิตรอดถือเป็นทักษะอย่างนึงของคนเราเหมือนกัน
ผมที่ตอนนี้อยู่ห่างจากแม่นักสังหารกว่า 4 เมตรในพริบตา
รีบจ้ำอ่าวหน้าตั้งโดยไม่สนท่าทีของเด็กสาวผมดำข้างหลัง
'ชีวิตตูทำไมเจอแต่เรื่องซวยๆทั้งนั้นเลยว่ะเนี๊ยยยย ย ย ยย!!!'

*********************************************************

เช้าอันแสนสดใส~
ชีวิตผมเริ่มต้นด้วยการลุกจากที่นอนเซ่งเคร็ง ก่อนจะเริ่มต้นแปรงฟัน
ข้าวเช้าน่ะเหรอ? ไม่มีหรอกของอย่างนั้น ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ~
ด้วยมาตราการประหยัดเงินการกินเฉพาะข้าวเที่ยงกับข้าวเย็นคือมาตราการแรกเท่านั้น~
เสื้อนักเรียนเพียงตัวเดียว ก็พึ่งถูกโยนลงถังขยะเสียแล้วด้วยสิ น่าเศร้าจังเลย~~
สงสัยวันนี้ต้องใส่ชุดพละไปก่อนเสียแล้วสิ อาจารย์คงไม่ว่าผมหรอกเนอะ อุหุ?
ใบแจ้งค่าน้ำ ค่าไฟต่างๆก็เริ่มทยอยเรียกร้องอีกแล้ว~
พอมาถึงโรงเรียน ก็ดันลืมเอาการบ้านวิชายุทธศาสตร์มาอีก
แย่จังเลยนร้า?
"....."

'บัดซบ!!!!!!!'
ผมที่ได้แต่กรีดร้องภายในใจ กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนประจำของตนเอง
'ชาติก่อนตูไปทำอะไรมาฟร่ะ! ดวงถึงได้กุดแบบเน่!!!'
สภาพในห้องเรียนเวลา 7 โมงครึ่ง เริ่มคับคั่งไปด้วยบรรดาเพื่อนร่วมห้อง
ทุกคนต่างส่งเสียงจ้อกแจ้ก จ่อแจไม่ต่างจากเหล่าแมลงเมื่อคืนเสียเท่าไหร่
บางคนที่เห็นสภาพผมที่นั่งกุมขมับ ก็ทำหน้าตาโลเลสักพักนึง แต่ก็ไม่มีใครมาทักผมเลยสักคน

ถึงผมจะติดพลาสเตอร์ตรงแก้มก็เหอะ
แต่รอยช้ำบนร่างกายที่เกิดจากการได้บินระยะสั้น ไม่ได้เป็นรอยให้เห็นชัดแต่อย่างใด
ก็เหมือนผมติดไว้ทำเท่นั้นแหละ
ถ้ามันติดแล้วเพิ่มความโชคดีให้ซัก 0.05% แบบเกมออนไลน์แล้วล่ะก็
ผมจะเอามันติดให้ทั่วร่างกายเลย

กิ้ง ก่อง ก้อง กิ่ง
เสียงของวิทยุเสียงตามสายดังขึ้นแทรกจินตนาการเพ้อฝันไร้ขอบเขตของผม
และประกาศสิ่งที่ใครก็ตามไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองดังขึ้น
'ขอให้ นายเอกชัย ห้อง2 มาที่ห้องครูใหญ่ด้วยค่ะ'
กิ้ง ก่อง ก้อง กิ่ง
'สั้นๆ ได้ใจความ ไม่ถึง 10 วิ ...เอ๊ะ เรียกใครนะ ?'

ผมทำท่าชี้นิ้วมาที่ตนเอง เพื่อถามเป็นภาษามือประมาณว่า 'เรียกตูเหรอ ?''ตูข้าคงหูฝาดไปสินะ'
ก่อนที่ทุกคนในห้องจะพยักหน้าอย่างพร้อมเพียงกัน ซึ่งสื่อว่า 'ใช่ ..คุณเอ็งนั้นแหละ'
ผมที่ได้แต่ทำใจลุกยืนขึ้นจากโต๊ะที่นั่งประจำตัวและลากขากางเกงวอร์มของตนเองไปที่ประตูหน้าห้อง
"...."
เฮ้อ ยายแก่นั้นเรียกตูไปอีกทำไมฟร่ะ
"น...นาย!!!"
จู่ๆเสียงพูดตะกุกตะกักก็ดังขึ้น หลังจากที่ผมก้าวออกมาจากห้องไม่ถึงวิ
คนที่พูด ยืนจ้องหน้าผมราวกับเห็นผี พลางชี้นิ้วสั่นๆมา
ทำให้คนในห้องผม และบนทางเดินหันหน้ามาดูเหตุการณ์

"สวัสดียามเช้า .."
ผมพูดขึ้นพลางทำหน้าเหนื่อยใจ กับเด็กสาวผมดำ ดวงตาน้ำเงินในชุดนักเรียนมัธยมปลายตรงหน้า
หรือ เด็กสาวที่เกือบจะฆ่าผมเมื่อคืนนั้นแหละ
เธอกระชากคอเสื้อผม(โดยรวมเหมือนเธอเขยงเท้าจับคอเสื้อผมมากกว่า)
"เราเรื่องต้องคุยกัน"
เธอพูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินจากไป
ปล่อยให้ผมยืนงงอยู่คนเดียวกับเสียงเซ็งเซ่ข้างหลัง

****************************************************