bct4alive
23rd March 2013, 07:47
~ LRFFXIII รับอิทธิพลมาจาก Skyrim + โครงเรื่องดำเนินไปตามสคริปต์ FNC ที่แต่งขึ้นตั้งแต่ 2004 ~
http://www.gconsole.com/images/15372/388838_10151462216407221_901635006_n.jpg
---------------------------------
เว็บไซต์ Nova Crystallis โดยคุณเอเรน (Erren) ได้มีโอกาสสัมภาษณคุณโมโตมุ โทริยามะ และคุณโยชิโนริ คิตาเสะ สองแกนนำในการสร้าง Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ซึ่งเนื้อหาในการสัมภาษณ์ก็มีดังนี้
เอเรน : ในเรื่องของการกระโดด การปีนป่าย และอื่นๆ อีกเช่นดีไซน์ใหม่ของไลท์นิ่ง ผู้คนมากมายรู้สึกว่ามันคล้ายคลึงกับ Assassins Creed อันนั้นเป็นความตั้งใจ หรือได้แรงบันดาลใจจากเกมตะวันตกซีรีส์ใดรึเปล่า?
โทริยามะ : ในภาคนี้ เราต้องการพัฒนาด้านอิสระในการเคลื่อนไหวในฟิลด์ ดังนั้นเราจึงเพิ่มแอ็คชั่นมากมายลงไป ให้ไลท์นิ่งสามารถเล่นกับโครงสร้างต่างๆ ในฉากสามมิติได้มากที่สุด เป้าหมายนั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่การเพิ่มองค์ประกอบความเป็นแอ็คชั่น แต่เป็นการเพิ่มขอบเขตของวิธีการเดินทางให้มากขึ้น เพื่อที่ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปรอบๆ โลกที่มีเวลาเหลือจำกัดได้ ส่วนชุดใหม่ของไลท์นิ่งนั้นมีพื้นฐานมาจากสีขาวและแดงจาก FFXIII ชุดนี้ได้นำเสนอบทบาทในฐานะผู้ปลดปล่อยสำหรับเธอในภาคนี้ นอกจากนี้ เราก็ไม่ได้แรงบันดาลใจมากจากเกมอื่นๆ แต่อย่างใด
เอเรน : ไม่ทราบว่าเร็วๆ นี้ผู้อำนวยการ หรือทีมงานคนอื่นๆ ได้เล่นเกมอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจบางอย่างให้กับเกมนี้หรือไม่?
โทริยามะ : The Elder Scrolls V: Skyrim มีผลกระทบอย่างมากในเรื่องความกว้างใหญ่และความลุ่มลึกของโลกในแบบ Open-world RPG นี่เป็นครั้งแรกในซีรีส์ FFXIII ที่เราได้ใส่บรรยากาศแบบ Open-world ลงไป และนำมาซึ่งคอนเซปต์ World Driven ที่จะพรรณนาการกาลเวลา 24 ชั่วโมงที่หมุนผ่านไปและการใช้ชีวิตของผู้คนบนโลกนี้ได้อย่างสมจริง ผู้เล่นจะได้คิดว่าพวกเขาจะใช้เวลาอันมีค่าที่เหลืออยู่ 13 วันนี้ยังไงก่อนจะถึงวันสิ้นโลก
เอเรน : คุณได้ตัดสินใจที่จะเลิกใช้โลกจาก 2 ภาคที่ผ่านมา และสร้างโลกใหม่ขึ้นมา ช่วยอธิบายถึงการตัดสินใจนี้หน่อยสิคะ?
โทริยามะ : โลกในภาคนี้ก็มาจากตอนจบของ FFXIII-2 ที่ดินแดนแห่งความตาย วาลฮัลล่า ได้ไหลเข้ามาสู่แกรนพัลส์ และมุ่งสู่ความพินาศ แม้ภาพลักษณ์ของโลกใหม่นี้จะแตกต่างจากเดิมโดยสินเชิง แต่ความเป็นไปนั้นก็ยังดำเนินไปตามตำนานคริสตัล (Fabula Nova Crystallis) ซึ่งต่อเนื่องมาจาก FFXIII กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของโลกใน FFXIII หรือคุณจะพึ่งเข้ามาสัมผัสโลกนี้เป็นครั้งแรก คุณก็สามารถสนุกไปกับโลกนี้ได้
เอเรน : คุณคิดว่าตั้งแต่เปิดตัว FNC มาตั้งแต่ปี 2006 นี้ มีวิสัยทัศน์ด้านใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
คิตาเสะ : อุตสาหกรรมเกมนั้นค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ดังนั้นในส่วนรายละเอียดของโปรเจคท์ อีกทั้งกำหนดการต่างๆ จึงต้องปรับตัวตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม พล็อตที่เป็นรากฐานของโปรเจคท์นี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เรายังคงใช้สคริปต์ FNC ที่เขียนกันขึ้นมาตั้งแต่ปี 2004 กระทั่ง Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ภาคล่าสุดของปี 2013 นี้เราก็ทำอย่างรวดเร็วไปตามไกด์ไลน์ที่วางไว้ในสคริปต์ดังกล่าว
เอเรน : โปรเจคท์ Lightning Returns นี้เข้าสู่การพัฒนาตั้งแต่เมื่อไหร่?
โทริยามะ : ในแง่ของการพัฒนา เราเริ่มต้นทันทีหลังจากวางจำหน่าย FFXIII-2 ได้ทั่วโลก แต่ในแง่ของการวางแผนและระดมความคิดนั้น เรามีคอนเซตป์ในการตีแผ่โลกทัศน์และเนื้อเรื่องของ FFXIII มาตั้งแต่ที่เราเริ่มทำ FFXIII-2 ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ฟันธงกันว่าเราจะสร้างให้มันเป็นเกมไตรภาคดีหรือไม่ แต่เราก็คิดอยากจะสร้างบทสรุปให้กับเรื่องราวของไลท์นิ่งที่เริ่มต้นขึ้นใน FFXIII แล้ว
Lightning Returns: Final Fantasy XIII มีกำหนดวางจำหน่ายภายในฤดูใบไม้ร่วง 2013 นี้ (ราวช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม)
Credit : Bon x Omegawp
---------------------------------
http://www.gconsole.com/images/15372/388838_10151462216407221_901635006_n.jpg
---------------------------------
เว็บไซต์ Nova Crystallis โดยคุณเอเรน (Erren) ได้มีโอกาสสัมภาษณคุณโมโตมุ โทริยามะ และคุณโยชิโนริ คิตาเสะ สองแกนนำในการสร้าง Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ซึ่งเนื้อหาในการสัมภาษณ์ก็มีดังนี้
เอเรน : ในเรื่องของการกระโดด การปีนป่าย และอื่นๆ อีกเช่นดีไซน์ใหม่ของไลท์นิ่ง ผู้คนมากมายรู้สึกว่ามันคล้ายคลึงกับ Assassins Creed อันนั้นเป็นความตั้งใจ หรือได้แรงบันดาลใจจากเกมตะวันตกซีรีส์ใดรึเปล่า?
โทริยามะ : ในภาคนี้ เราต้องการพัฒนาด้านอิสระในการเคลื่อนไหวในฟิลด์ ดังนั้นเราจึงเพิ่มแอ็คชั่นมากมายลงไป ให้ไลท์นิ่งสามารถเล่นกับโครงสร้างต่างๆ ในฉากสามมิติได้มากที่สุด เป้าหมายนั้นจริงๆ แล้วไม่ใช่การเพิ่มองค์ประกอบความเป็นแอ็คชั่น แต่เป็นการเพิ่มขอบเขตของวิธีการเดินทางให้มากขึ้น เพื่อที่ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปรอบๆ โลกที่มีเวลาเหลือจำกัดได้ ส่วนชุดใหม่ของไลท์นิ่งนั้นมีพื้นฐานมาจากสีขาวและแดงจาก FFXIII ชุดนี้ได้นำเสนอบทบาทในฐานะผู้ปลดปล่อยสำหรับเธอในภาคนี้ นอกจากนี้ เราก็ไม่ได้แรงบันดาลใจมากจากเกมอื่นๆ แต่อย่างใด
เอเรน : ไม่ทราบว่าเร็วๆ นี้ผู้อำนวยการ หรือทีมงานคนอื่นๆ ได้เล่นเกมอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจบางอย่างให้กับเกมนี้หรือไม่?
โทริยามะ : The Elder Scrolls V: Skyrim มีผลกระทบอย่างมากในเรื่องความกว้างใหญ่และความลุ่มลึกของโลกในแบบ Open-world RPG นี่เป็นครั้งแรกในซีรีส์ FFXIII ที่เราได้ใส่บรรยากาศแบบ Open-world ลงไป และนำมาซึ่งคอนเซปต์ World Driven ที่จะพรรณนาการกาลเวลา 24 ชั่วโมงที่หมุนผ่านไปและการใช้ชีวิตของผู้คนบนโลกนี้ได้อย่างสมจริง ผู้เล่นจะได้คิดว่าพวกเขาจะใช้เวลาอันมีค่าที่เหลืออยู่ 13 วันนี้ยังไงก่อนจะถึงวันสิ้นโลก
เอเรน : คุณได้ตัดสินใจที่จะเลิกใช้โลกจาก 2 ภาคที่ผ่านมา และสร้างโลกใหม่ขึ้นมา ช่วยอธิบายถึงการตัดสินใจนี้หน่อยสิคะ?
โทริยามะ : โลกในภาคนี้ก็มาจากตอนจบของ FFXIII-2 ที่ดินแดนแห่งความตาย วาลฮัลล่า ได้ไหลเข้ามาสู่แกรนพัลส์ และมุ่งสู่ความพินาศ แม้ภาพลักษณ์ของโลกใหม่นี้จะแตกต่างจากเดิมโดยสินเชิง แต่ความเป็นไปนั้นก็ยังดำเนินไปตามตำนานคริสตัล (Fabula Nova Crystallis) ซึ่งต่อเนื่องมาจาก FFXIII กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของโลกใน FFXIII หรือคุณจะพึ่งเข้ามาสัมผัสโลกนี้เป็นครั้งแรก คุณก็สามารถสนุกไปกับโลกนี้ได้
เอเรน : คุณคิดว่าตั้งแต่เปิดตัว FNC มาตั้งแต่ปี 2006 นี้ มีวิสัยทัศน์ด้านใดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
คิตาเสะ : อุตสาหกรรมเกมนั้นค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ดังนั้นในส่วนรายละเอียดของโปรเจคท์ อีกทั้งกำหนดการต่างๆ จึงต้องปรับตัวตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม พล็อตที่เป็นรากฐานของโปรเจคท์นี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เรายังคงใช้สคริปต์ FNC ที่เขียนกันขึ้นมาตั้งแต่ปี 2004 กระทั่ง Lightning Returns -Final Fantasy XIII- ภาคล่าสุดของปี 2013 นี้เราก็ทำอย่างรวดเร็วไปตามไกด์ไลน์ที่วางไว้ในสคริปต์ดังกล่าว
เอเรน : โปรเจคท์ Lightning Returns นี้เข้าสู่การพัฒนาตั้งแต่เมื่อไหร่?
โทริยามะ : ในแง่ของการพัฒนา เราเริ่มต้นทันทีหลังจากวางจำหน่าย FFXIII-2 ได้ทั่วโลก แต่ในแง่ของการวางแผนและระดมความคิดนั้น เรามีคอนเซตป์ในการตีแผ่โลกทัศน์และเนื้อเรื่องของ FFXIII มาตั้งแต่ที่เราเริ่มทำ FFXIII-2 ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ฟันธงกันว่าเราจะสร้างให้มันเป็นเกมไตรภาคดีหรือไม่ แต่เราก็คิดอยากจะสร้างบทสรุปให้กับเรื่องราวของไลท์นิ่งที่เริ่มต้นขึ้นใน FFXIII แล้ว
Lightning Returns: Final Fantasy XIII มีกำหนดวางจำหน่ายภายในฤดูใบไม้ร่วง 2013 นี้ (ราวช่วงเดือนกันยายน - ธันวาคม)
Credit : Bon x Omegawp
---------------------------------