PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : มาดู.. แนวคิดของ "คนรวย" กับ "คนจน" กัน



fank01234
19th May 2013, 12:09
17 ข้อคิด..คนรวย/คนจน
17 ข้อคิดจากหนังสือ ไขความลับสมองเงินล้าน



http://www.amulet.in.th/forums/images/1643.jpg



1. คนรวยเชื่อว่า "ฉันควบคุมชะตาชีวิตของตัวเอง"
คนจนเชื่อว่า "ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้"

2. คนรวยเล่นเกมการเงินเพื่อที่จะเอาชนะ
คนจนเล่นเกมการเงินเพื่อไม่ให้แพ้

3. คนรวยทุ่มเทเพื่อความรวย
คนจนแค่อยากรวย

4. คนรวยคิดการใหญ่
คนจนคิดการเล็ก

5. คนรวยมุ่งความสนใจไปที่โอกาส
คนจนมุ่งความสนใจไปที่อุปสรรค


6. คนรวยชื่นชมผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จคนอื่นๆ
คนจนชิงชังผู้ร่ำรวยและประสบ ความสำเร็จ


7. คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดีและประสบความสำเร็จ
คนจนขลุกอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ร้ายหรือไม่ประสบความสำเร็จ


8. คนรวยเต็มใจโปรโมทตัวเองและคุณค่าของตนเอง
คนจนมองการขายและโปรโมชั่นในแง่ลบ


9. คนรวยมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก
คนจนมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่


10. คนรวยเป็นผู้รับที่ยอดเยี่ยม
คนจนเป็นผู้รับที่ยอดแย่


11. คนรวยเลือกที่จะได้รับเงินตามผลงาน
คนจนเลือกที่จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่ทำงาน


12. คนรวยเลือก "ทั้งสองทาง"
คนจนเลือก "ทางใดทางหนึ่ง"


13. คนรวยสนใจมูลค่าทรัพย์สิน
คนจนสนใจแต่รายได้จากการทำงาน


14. คนรวยเก่งเรื่องการบริหารเงิน
คนจนเก่งเรื่องการบริหารเงินแบบผิดๆ


15. คนรวยให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง
คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน


16. คนรวยมุ่งไปข้างหน้าแม้จะหวาดกลัว
คนจนปล่อยให้ความกลัวหยุดยั้งตนเอง


17. คนรวยเรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา
คนจนคิดว่าตัวเองรู้ดีอยู่แล้ว

เค้ามองต่างกันจริงๆนะ
ขอบคุณที่มา : http://seedang.com/stories/58839

banksakito
19th May 2013, 12:12
อืมๆ...สาระๆ เรามัน "จน"

newvisions
19th May 2013, 12:14
คน จน ทำเท่าที่ตัวเองพอจะทำได้มากกว่ามั้ง
อะไรที่เกินตัว มันก็ไม่ไหว หรอก

คนจนแล้วรวย กับ คนรวยแล้วจน

ถ้าให้ทำธุรกิจ แข่งกัน ใครจะทำได้ดีกว่ากัน

mongkolzaaaa
19th May 2013, 12:17
การคิด แบบนั้น ถือว่าเป็นคนจนสินะ

ความจนมันอยู่ที่ ตัวเองครับ บางทีมีเงิน 1 ล้านบอกจน บางทีบอกรวย

liger0000
19th May 2013, 12:26
คนจนหาเงินให้คนรวยคับ จริงคนรวยเองก็แบ่งเป็น3ประเภท คือ
รุ่นที่1 ทำธุรกิจจนรวย พวกนี้ขยัน มัธยัท มาก รู้ค่าของเงิน มีวิสัยทัศ หรือก็คือแบบที่ว่ามาบนๆ เป็นพวกเสื้อผืนหมอนใบมาก่อน เคยจนและรู้ว่าจนเป็นยังไง
รุ่นที่2 นักบริหาร เริ่มทำงานน้อยลงใช้คนเป็นขึ้น พวกนี้ออกแนวนักลงทุน (หน้าเลือด) เริ่ิมใช่จ่ายแบบสุรุ่ยสุหร่าย ประมาณพวกเสี่ยต่างๆ พยายามทำทุกอย่างเพื่อกำไร
รุ่นที่3 พวกเกิดมาบนกองเงินกองทอง แบบในละคร ทำงานไม่เป็นเพราะไม่จำเป็นต้องทำงานเพราะมีเงินมาเติมในกระเป๋าเรื่อยๆ วันๆก็มีหน้าที่พลาญเงินไปวันๆ พวกนี้ผมเจอมาเยอะละ คนรวยจริงๆโง่เยอะมากคับโดยเฉพาะพวกรุ่นหลานพวกนี้ บางคนไม่เป็นนีต ก็ไปทำงานแบบไม่ให้พ่อว่าแค่งั้น มีเยอะ

อีกอย่างทุนนิยม ยากคับถ้าไม่เก่งจริงๆแบบพวก มาร์ก ซัคเกอร์เบิดหรือเถ้าแก่น้อย เพราะทุนน้อยยากมากคับกับการแข่งจันกับพวกทุนเยอะๆ ยิ่งคนไทยเป็นพวกติดแบรนด้วย

ผมถึงบอกคนรวยมันรวยได้เพราะคนจนทำงานให้ คนจนผลิตสินค้าได้100000บาทแต่ได้เงินเดือนไม่ถึงหมื่นแบบพวกสาวโรงงาน ผมไปดูมาคับโรงงานผลิตรองเท้าไนกี้ที่บังคลาเทศ ได้เงินเดือนเดือนละ10$(ไม่แน่ใจอต่ว่าน้อยมากๆ ทำงานวันละ20ชั่วโมง มีวันหยุดแค่เดือนละ2วัน โรงงานนรกมากคับ แต่เอามาขายเราคู่ละหลายพัน หรือแนะนำหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานIphoneก็ได้คับที่นั้นก็โรงงานนรกเหมือนกัน

Lost Seraph
19th May 2013, 12:35
มันแต่คิดว่าตัวเองจนหรือรวย ไม่คิดว่าจะทำให้มันรวยขึ้นมั่ง ?

postgeno159
19th May 2013, 12:42
ความรวยไม่มีที่สิ้นสุด...

YAKAMA27
19th May 2013, 12:43
ผมเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึงคับ ชื่อ " พ่อรวยสอนลูก" บางคนอาจจะเคยอ่านหรือผานตามามั่ง ผมว่าหนังสือเล่นมนี้เป็นหนังสือที่ดีมาก เค้าสอนให้รู้ว่า คนรวยกับ คนจน วิธีมองโลกมันต่างกันมาก เช่น คนจนมองว่า บ้านเนี้ยเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่แน่นอนที่สุดชีวิต แต่คนรวยกลับมองว่าบ้านเนี้ย สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่มีอ่ะไรที่แน่นอน

PEEIII
19th May 2013, 12:47
มันขึ้นอยู่กับความคิดครับ ไม่ใช่เงินทอง

babymaster
19th May 2013, 12:54
มันขึ้นอยู่กับความคิดครับ ไม่ใช่เงินทอง

บางทีเงินทอง เปลี่ยนความคิดคนไ้ด้นะ

wpspo2499
19th May 2013, 13:15
บางทีเงินทอง เปลี่ยนความคิดคนไ้ด้นะ

เอิ่มๆ อันนี้มันก็จริงครับ

แต่ก็นะครับ ความจน และ รวย อยู่ที่ตนคิด บางทีมี 1000 บาท บอกว่ารวยก็ ได้:o

ต่างคน ต่างความคิด :cool:

topperioz
19th May 2013, 15:57
คนจน มันเลือกที่จะจนเอง ทำไงได้ โอกาสมา ก็วิ่งหนี เพราะกลัวล้มเหลว
คนหลายๆคนสามารถที่จะรวยได้ เพียงแค่ก้าวออกจากจุดที่ยืนอยู่ก็แค่นั้น

แต่พวกเขาเลือกที่จะเป็นลูกจ้าง ทำงานเป็นทาส เป็นหุ่นยนต์ให้คนรวย จนวันตาย
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ คนจนมีเต็มไปหมด คนรวยก็รวยเอาๆ

บทความนี้เป็น บทความที่ดี สอนให้คนคิดได้
แต่คนบางคน เลือกที่จะ อยู่อย่างจนๆ อยู่อย่างพอเพียง (หลอกตัวเองว่าพอเพียง จริงๆอดอยาก)
เพราะขี้เกียจรวย (โดนปลูกฝังโง่ๆ ให้อยู่อย่างจนๆ พอกินไปวันๆ ไม่มีการพัฒนา)

iNaNiTy
19th May 2013, 16:19
คุณได้ไปต่อ !! :cool:

reconnang
19th May 2013, 16:24
ขอจนแบบนี้ละ...รวยแต่ไม่มีที่จะอยู่....ฮาๆๆๆๆ

theneddube
19th May 2013, 16:26
ถ้ารวยด้วยตัวเอง สักวันพวกคุณเข้าใจ

whitebaa555
19th May 2013, 16:26
พอมีพอกิน ก็พอแล้วครับ

Zidane
19th May 2013, 16:34
คนรวยมีของให้เสีย คนจนไม่มี นั้นแหละ ที่ทำให้คนยังจน
เงินคือพระเจ้าสำหรับทุกคนไม่ว่าจนหรือรวย
เงินสามารถซื้อชีวิตได้ จนชีวิตรับไม่ไหว
เงิน 500 บาท สำหรับคนรวยไม่มีค่าดูหนังวันเดียวก็หมด คนจน เป็นเงินที่จะทำให้ท้องอิ่มได้หลายวัน
เมื่อมีโอกาสลงทุน คนรวย สามารถที่จะเจียดส่วนที่เป็นต้นทุนเอาไว้เพื่อเมื่อล้มจะไม่เจ็บมาก คนจนไม่มีส่วนที่จะเจียด
ในหนึงวัน คนจนต้องทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัว วันต่อวัน คนรวย สามารถ จ้างคนจน มาทำงาน เพื่อให้ตัวเองรวย วันต่อวัน
คนรวยไม่สนใจคนจนถ้าไม่มีผลประโยชน์

babymaster
19th May 2013, 16:48
คนรวยมีของให้เสีย คนจนไม่มี นั้นแหละ ที่ทำให้คนยังจน
เงินคือพระเจ้าสำหรับทุกคนไม่ว่าจนหรือรวย
เงินสามารถซื้อชีวิตได้ จนชีวิตรับไม่ไหว
เงิน 500 บาท สำหรับคนรวยไม่มีค่าดูหนังวันเดียวก็หมด คนจน เป็นเงินที่จะทำให้ท้องอิ่มได้หลายวัน
เมื่อมีโอกาสลงทุน คนรวย สามารถที่จะเจียดส่วนที่เป็นต้นทุนเอาไว้เพื่อเมื่อล้มจะไม่เจ็บมาก คนจนไม่มีส่วนที่จะเจียด
ในหนึงวัน คนจนต้องทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัว วันต่อวัน คนรวย สามารถ จ้างคนจน มาทำงาน เพื่อให้ตัวเองรวย วันต่อวัน
คนรวยไม่สนใจคนจนถ้าไม่มีผลประโยชน์

โดนครับ เรียนจบสูงๆเอาใบจบมาสมัครงานเป็นลูกจ้างคนจบป.4ที่ฉลาด

[In]TerLight'z
19th May 2013, 16:56
จากที่อ่านแล้ว "ดูเหมือนผู้แต่งเรื่องนี้ จะเกลียดคนจนนะ"

แง่-สำหรับคนจนเยอะจัง

ผมคิดว่า ที่กล่าวมา มันควรสลับกันมากกว่านะ เอาสีแดงเป้นคนจน เอาสีน้ำเงินเป็นคนรวย

คหสต. นะครับ ไม่ดราม่า

อย่างไรก็ตาม ข้อความที่กล่าวมานั้น มันไม่ตายตัวหรอกครับ อยู่ที่ตัวทำมากกว่านะ

Kellidev
19th May 2013, 19:38
คนเขียนตั้งแง่เกินนะผมว่า เรื่องพวกนี้มันเกี่ยวกับความโลภมากกว่า

บางทีที่คนจนไม่มีโอกาสรวยก็เพราะมีพวกคนรวยที่ไม่รู้จักพอเป็นเสือนอนกินผูกขาดปิดโอกาสคนอื่น

exodus
19th May 2013, 20:49
อีกอย่างทุนนิยม ยากคับถ้าไม่เก่งจริงๆแบบพวก มาร์ก ซัคเกอร์เบิดหรือเถ้าแก่น้อย เพราะทุนน้อยยากมากคับกับการแข่งจันกับพวกทุนเยอะๆ ยิ่งคนไทยเป็นพวกติดแบรนด้วย



ไม่จริงอะ เถ้าแก่น้อยแต่เดิมก็รวยจะตาย(ห่ะ) ตอนแรกบอกว่าจะลงทุนซื้อเครื่องจักรแสนห้า ที่บ้านควักเงินให้ลงทุนหน้าตาเฉย เฮ้ยนี่มันไม่ใช่ขอเงินซื้อขนมหลอกเด็กนะเว้ย
แล้วก็บอกว่าที่บ้านมีหนี้ ก็แหม่นะคุณ คนทำธุรกิจมันต้องมีหนี้หมุนเวียนอยู่แล้ว บางกิจการมีหนี้เป็นร้อยล้าน แต่เขาไม่มายด์ เพราะเขาดูที่อัตราเงินได้ + สภาพคล่อง เพราะมันหมุนเวียนเป็นทุนสู่กำไรอยู่ดี
รวมถึงถ้าทำธุรกิจจริงๆมันก็มีแทคติคเรื่องการหาประโยชน์จากการเป็นหนี้อีกต่างหาก

ถ้าคนรวย คนจน คิดเหมือนกัน บ้านเราคงไม่มีคนอย่าง คุณตัน แห่งอิชิตัน ฯลฯ ขึ้นมาหรอกครับ จริงป่าว


ผมเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึงคับ ชื่อ " พ่อรวยสอนลูก" บางคนอาจจะเคยอ่านหรือผานตามามั่ง ผมว่าหนังสือเล่นมนี้เป็นหนังสือที่ดีมาก เค้าสอนให้รู้ว่า คนรวยกับ คนจน วิธีมองโลกมันต่างกันมาก เช่น คนจนมองว่า บ้านเนี้ยเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่แน่นอนที่สุดชีวิต แต่คนรวยกลับมองว่าบ้านเนี้ย สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่มีอ่ะไรที่แน่นอน

ถูกต้องครับ เพราะอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ถาวร ซื้อมาแล้วไม่สามารถสร้างผลกำไรโดยตรงได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณทำธุรกิจบ้านเช่า นักลงทุนที่ฉลาดจะไม่สิ้นเปลืองกับสินทรัพย์พวกนี้มากมายนักส่วนใหญ่จะเลือกใช้เงินกับสินทรัพย์หมุนเวียนเพราะมันสามารถสร้างผลกำไรได้และหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบไปได้เรื่อยๆ ในทางกลับกันการซื้อสินทรัพย์ถาวรหรือไม่หมุนเวียนเพื่อยืนยันถึงสถานะความมั่นคงในชีวิตนักลงทุนส่วนใหญ่จะมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ "โง่" เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นสินทรัพย์ถาวรที่เป็นอสังหาริมทรัพย์นั้นราคาสูง ถ้ามันกิน % ของเงินทุนที่ต้องใช้เกินกว่า 40% โดยประมาณขึ้นไปจะถือว่ามีความเสี่ยงสูง บางทีคำนวนจุดคุ้มทุนแล้วยังไม่รู้เลยว่าชาตินี้จะถึงคุ้มทุนหรือไม่ แล้วใครจะไปซื้อ จำพวกออฟฟิซเล็กๆที่เปิดในปัจจุบันถ้าอสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงจนหาจุดคุ้มทุนไม่เจอ เราจะใช้วิธีการ "เช่า" ครับ เพราะไม่ต้องพะวงเรื่องการจัดการด้านสินทรัพย์ถาวร ซึ่งคนที่ไม่มีหัวทางด้านนี้จะคิดแค่ว่าการเช่า = เรื่องของคนไม่มีจะกิน ซึ่งมันผิด และการซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนรวยสติดีๆเขาจะนิยมทำกันเช่นกัน

ผมกล้าบอกได้เลยว่าหลายๆคนที่บอกว่าตนเองจนน่ะ ไม่ได้จนเพราะมีรายได้น้อยเกินไปหรอก(อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับมาคุ้ยถังขยะหาของกินกันไม่ใช่รึ) แต่ปัญหามันเกิดจากการ "ใช้เงินไม่เป็น" แค่นั้นแหละ คนที่ใช้เงินเป็น ไม่ใช่ว่าคนเก็บเงินอย่างเดียว ขี้เหนียวทะลุโลก แต่เป็นคนที่ใช้เงินไป 100 แล้วได้คืนกลับมา 200 ต่างหาก ซึ่งตรงจุดนี้มันก็ต้องว่ากันไปตาม แนวคิด มุมมอง และสติปัญญาของแต่ละบุคคล

SchooL
19th May 2013, 21:14
น่าจะสลับกันนะครับเนี่ย = ="

eswc2012nerverdie
19th May 2013, 23:17
ตอนเป็นเด็ก มีเงิน 20 ตูโคตรรวย ตอนโตมามีเงิน20 ทำไรได้ ? . - - หรือไม่จริง ?

L4ST7T4ND
20th May 2013, 11:03
ผมไม่รวย จบ ไม่สนใจด้วย
เกิดมาจาก 0 สุดท้ายทุกคนก็กลับไป ที่ 0
เงินทองตามไปไม่ได้นิ

ผมไม่เคยคิดว่าผมจะรวยได้เท่าไหร่ ผมคิดว่าผมจะเป็นคนดีมากแค่ไหนมากกว่า

diawnaja
20th May 2013, 11:07
ไม่รุ้อ่ะ อยากรวย

sukamoto
20th May 2013, 11:38
จริงครับตอนไม่มีเงินมองอะไรลบเกือบหมดพอมีเงินก็สบายใจมองอะไรก็เป็น+

pramza567
20th May 2013, 13:20
อ่านแล้ว ทุกคอมเม้น ได้แง่คิดทุก อันเลยคับ กระทู้นี้ดูจิงๆ;)

windows
20th May 2013, 13:26
ถ้าฉลาด ก็ไม่จนหรอก

PheoMetalhead
20th May 2013, 13:38
คนเขียนข้อความนี้เหมือนมีอคติกับคนจนมาก ผมจะบอกไว้ว่า คนจนหลาย ๆ คนจิตใจประเสริฐกว่าพวกคนรวยเยอะครับ

hot0892832683
20th May 2013, 14:06
คนจนคิดที่จะอยู่รอด ก็จริงๆครับ เพราะเขาคงไม่มีเงินลงทุนที่ชัดเจนเลยไม่กล้าลงทุน กู้หนี้มา ถ้าธุรกิจนั้นไปไม่รอดละ เขาจะหมดสิ้นทุกอย่างไป ไม่เหลืออะไรเลยเเล้วยังเป็นหนี้อีก คุณเคยเห็นคนเก็บขยะไหมครับ คุณเคยเห็นคนติดพนันไหมครับ คุณเคยเห็นคนบ้าๆ ไปวันไหมครับ คุณเคยเห็นคนที่เอาเเต่กินเหล้าทุกวันไหมครับ คนพวกนี้มันมากจากคำว่าหนี้เกือบทั้งหมด โดยที่คิดจะกล้าลงทุน เเต่กู้มาเเล้ว กลับไปไม่รอด ชีวิตตกอับไม่มีกิน ลูกเมียทิ้ง เครียดทุกๆวัน บางคนสัญหาเเต่โชค บังคนเครียดจนเป็นบ้า บางคนสู้ชีวิต เเต่ก็ด้วยการเก็บขยะ ( ก็ไม่ได้รวยขึ้นสีกที )

เเต่คนรวยเขามีเงินในบัญชี มีเงินทุนสำรอง (คำว่า ธุรกิจต้องมีคำว่าหนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ) ถึงเขาจะกู้มาเเล้วไปไม่รอดยังไงเขากก็อยู่รอด เขาจึงคิดตลอดเวลา ว่าการลงทุนคือการต่อเติมของชีวิต ให้เติบโตไปเรื่อยๆ

ผมจึงสรุปว่า คนเรามามองที่ความคิดไม่ได้หรอกครับ ความคิดของคนมันต่างกันก็จริง เเต่ความคิดของคนรวยเเละคนจนก็อาจจะเหมือนๆกัน เเต่ความคิดๆนั้น มันก็มีทั้งล้มเหลวหมดสิ้นทุกอย่าง โดนโกงจนล้มละลาย ทำธุรกิจเเล้วไปไม่รอด (ติดหนี้อีก) เเต่บางคนมันก็โชคดี รวย ขึ้นมา ผมอาจจะคิดว่าฟ้ามันลิขิตมาครับ เเต่มันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาจริงๆ

" ผมรู้ว่าต้องมีคนมาเถียงกระทู้ผมเเน่นอน เเต่ถ้าคุณไม่ได้สัมผัสกับคนที่เขาเครียดจริงๆ คุณคงไม่เข้าใจ "

DotZero00
20th May 2013, 17:41
จากที่อ่านความเห็นมา ผมรับรู้ได้เลยว่าประเทศนี้มีอคติกับคนรวย

ความ จนไม่ได้ติดกลับตัวมาและเปลี่ยนแปลงไม่ได้เหมือน dna นะครับ

ถ้าจนเครียด ก็สู้สิ ผมมองเหตุผล ที่จะไม่สู้หรือสู้ไม่ได้ ไม่ต่างกับข้ออ้างครับ ต่อให้เหตุผลดีแค่ไหน

มันก็ไม่ต่างกับข้ออ้าง ที่เอาไว้หลอกให้ตัวเองหยุดอยู่กับที่หน่ะแหละ

คุณบอม
20th May 2013, 17:52
มันขึ้นอยู่กับมุมมอง สมมุติมีเงินอยู่ 500 อยากได้ คอมซักเครื่อง ก็จะรู้สึกว่าตัวเองจน แต่ถ้าไม่อยากได้คอมอยากได้ลูกอมซักเม็ดก็จะคิดว่าตัวเองรวย ผมมองอย่างนี้:victory

Sathienpong
20th May 2013, 18:06
มันว่าไม่ใช่แนวคิดของคนรวยกันจนหรอก ผมว่าน่าจะเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง กับ คนไม่ทำอะไรเลยมากกว่า นะ

Pop_PeR
20th May 2013, 19:26
คนจน กับ คนรวย ความคิดย่อมต่างกัน

จงเห็นใจคนไม่มีกินเถิด

Patrenko
20th May 2013, 20:34
เหมือนเขียนเอาเท่ๆเฉยๆผมว่ามั้ง

อันที่จริงคนไม่มีตังก็คิดการใหญ่ได้นะ ผมเห็นกะบ้านมาหลายรายเเล้วที่โล๊ะพื้นที่ส่วนในบ้านออก มาออรวมกันในหลังเดียวเเล้วใช้ที่ที่เหลือประกอบธุรกิจเช่นเลี้ยงไก่ วัว หรือ ปลูกผัก

exodus
20th May 2013, 20:53
คนจนคิดที่จะอยู่รอด ก็จริงๆครับ เพราะเขาคงไม่มีเงินลงทุนที่ชัดเจนเลยไม่กล้าลงทุน กู้หนี้มา ถ้าธุรกิจนั้นไปไม่รอดละ เขาจะหมดสิ้นทุกอย่างไป ไม่เหลืออะไรเลยเเล้วยังเป็นหนี้อีก คุณเคยเห็นคนเก็บขยะไหมครับ คุณเคยเห็นคนติดพนันไหมครับ คุณเคยเห็นคนบ้าๆ ไปวันไหมครับ คุณเคยเห็นคนที่เอาเเต่กินเหล้าทุกวันไหมครับ คนพวกนี้มันมากจากคำว่าหนี้เกือบทั้งหมด โดยที่คิดจะกล้าลงทุน เเต่กู้มาเเล้ว กลับไปไม่รอด ชีวิตตกอับไม่มีกิน ลูกเมียทิ้ง เครียดทุกๆวัน บางคนสัญหาเเต่โชค บังคนเครียดจนเป็นบ้า บางคนสู้ชีวิต เเต่ก็ด้วยการเก็บขยะ ( ก็ไม่ได้รวยขึ้นสีกที )

เเต่คนรวยเขามีเงินในบัญชี มีเงินทุนสำรอง (คำว่า ธุรกิจต้องมีคำว่าหนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ) ถึงเขาจะกู้มาเเล้วไปไม่รอดยังไงเขากก็อยู่รอด เขาจึงคิดตลอดเวลา ว่าการลงทุนคือการต่อเติมของชีวิต ให้เติบโตไปเรื่อยๆ

ผมจึงสรุปว่า คนเรามามองที่ความคิดไม่ได้หรอกครับ ความคิดของคนมันต่างกันก็จริง เเต่ความคิดของคนรวยเเละคนจนก็อาจจะเหมือนๆกัน เเต่ความคิดๆนั้น มันก็มีทั้งล้มเหลวหมดสิ้นทุกอย่าง โดนโกงจนล้มละลาย ทำธุรกิจเเล้วไปไม่รอด (ติดหนี้อีก) เเต่บางคนมันก็โชคดี รวย ขึ้นมา ผมอาจจะคิดว่าฟ้ามันลิขิตมาครับ เเต่มันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาจริงๆ

" ผมรู้ว่าต้องมีคนมาเถียงกระทู้ผมเเน่นอน เเต่ถ้าคุณไม่ได้สัมผัสกับคนที่เขาเครียดจริงๆ คุณคงไม่เข้าใจ "

เรื่องของหนี้สิน พูดง่ายๆเลยส่วนใหญ่คือ "ทำตัวเอง" ครับ ไม่มีใครไปบีบคอให้กู้ ตามหลักแล้วต่อให้กู้ตามสถาบันการเงินที่กฏหมายรับรองมันก็ไม่มีใครบ้ากู้กันเกิน 10-20% ของเงินทุนเดิมหรอกครับ นอกจากต้องการจะฆ่าตัวตายทางอ้อม ยกตัวอย่างถ้าผมมีทุนอยู่ 100 บาท แน่นอนผมคงไม่กู้มาอีก 50 หรืออีก 100 บาทแน่นอน นั่นมันบ้าชัดๆ(ยกตัวอย่างเลขน้อยๆให้คิดภาพตามง่ายๆ) อย่างเก่งก็กู้มาอีก 10 หรือ 20 บาทเท่านั้นแหละ คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่มีเงินมากครับ ทำไมน่ะเหรอ คุณกล้าพนันไหมว่าผมสามารถใช้เงินวันเดียวเป็นพันล้านให้หมดผมก็ใช้ได้ มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่จัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่างหาก คนส่วนใหญ่จะคิดแค่ในด้านของปริมาณเข้ามาว่าทุนต้องหนาถึงจะไปได้ดีและมีชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย คนพวกนี้ทำธุรกิจแล้วเจ๊งสถานเดียวเพราะบริหารเงินไม่เป็น มันอยู่ที่การบริหารทรัพยากรต่างหาก เพราะเอาแต่มองในแง่มูลค่ามากกว่าเรื่องของอรรถประโยชน์สูงสุด คนพวกนั้นกู้มาเท่าไหร่มันถึงไม่เคยพอและขาดสภาพคล่องในการชำระหนี้ไงล่ะครับ แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกก็ยังมีหนี้สินหมุนเวียนเป็นพันล้าน กู้เงินจากสถาบันการเงินเป็นหลักล้านขึ้น แต่ไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง เพราะการบริหารเขาดีจริงจนเงินมันสะพัดและรู้จักวิธีควบคุมความเสี่ยง

ถ้าคุณรู้จัก เงิน รู้จัก หนี้ รู้จัก สินทรัพย์ รู้จัก ความเสี่ยง อย่างถ่องแท้ แล้วเอาปัจจัยทั้งสี่มาบริหารให้ดี ไม่จำเป็นต้องมีเงินล้านหรอก มีเงินแค่หลักร้อย คุณก็เตรียมตัวเป็นคนรวยได้ไม่ยากนักหรอกครับ(แค่ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดแค่นั้นเอง) :yes

THE_NOKIA_LOVE
21st May 2013, 07:10
ผมว่าหลักการมันอวยคนรวยยังไงไม่รู้
คนรวยไม่ใช่คิดแต่จะลงทุนหรือมองโอกาศ
เอ้ยถ้างั้น น้ำป้าเฉงสมัยยังไม่มีข่าวเขาไม่แห่ไปลงทุนเรอะ โอกาศเยอะเลย

ผมเคยจนมาก่อนรู้ดี ว่าคนจนไม่ได้มองหาโอกาศ แต่สร้างโอกาศให้ตัวเอง ทำงานด้วยความตั้งใจเพื่อให้ตัวเองมีฐานะดีกว่าเดิมแต่ไม่ได้ร่ำรวยจนเศรฐี แค่ให้พ่อแม่ลูกเมียอยู่สุขสบายเป็นพอ

หลักการนี้ผมไม่เชื่อพร้อมกับบอกว่าหนังสือบ้าอะไรมองคนจนซะต่ำเตี้ยเรียดิน

satta
21st May 2013, 11:01
ผมว่ามันไม่ถูกทั้งหมดหรอกคับ ผมก็คนจนคนหนึ่ง

newvisions
21st May 2013, 11:42
จนเนี่ยคงไม่ได้หมายถึงจนแบบบ้านไม่มีจะอยู่ ข้าวไม่จะกิน หรอกมั้ง

แต่ยังไงก็ไม่พ้นคำว่า เงินทุนอยู่ดี ถ้าไม่กู้ อะนะ ไม่มีใครบังคับให้กู้ ใช่ไหมละ

อย่างแรกก็ต้องมาดูก่อนละว่าจะทำอะไร ใช้เงินทุนสูงไหม เงินที่เก็บมาพอหรือเปล่า

ทำงานเดือนละ 15000 เก็บเดือนละ 5พัน ต้องใช้เวลาเก็บเงินกี่เดือนกว่าจะถึง ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจที่จะทำ

shisaku
21st May 2013, 13:02
ความรวยสร้างได้ ไม่ได้เกิดจากบุญวาสนา อยากให้ทุกคนคิดตรงนี้ให้ดี อย่าไปโทษ ดิน ฟ้า อากาส ว่าทำไมเราถึงไม่เกิดมารวย เลิกคิดเรื่องนี่ แล้วก้าวไปข้างหน้ากันเถอะ

payback
21st May 2013, 13:11
เขาแนะให้คนจนเปลี่ยนความคิดครับ ถ้าคิดแบบเดิมยังเหมือนเดิมลองคิดอะไรใหม่ๆดูบ้าง แค่นั้น

zerosaint9
21st May 2013, 14:03
สรุป ตุ ผิด ที่ จน
(ล้อเล่น):dance:dance

BoonTew
21st May 2013, 14:18
คนจนวกวนเล่นหวย คนรวยๆเขาไปเล่นหุ้น

DkTaP82
21st May 2013, 14:34
จะรวยหรือจน เป็นแค่สิ่งสมมุติ แค่ได้สัมผัสชั่วครู่ชั่วคราว จิตใจมนุษย์ มีแค่พอกับไม่พอ ไม่ใครแม้สักคน มีความสุขทึีแท้จริงจากทรัพย์สมบัตินอกกายหรอก ความสุขอยู่ทีี่กายสงบ ไม่มีอื่นใดเสมอความสุขเหล่านี้ได้อีกแล้ว ครอบครัวที่อบอุ่นเป็นสิ่งที่ประเมิณค่าด้วยราคาไม่ได้.

exodus
21st May 2013, 21:31
จะรวยหรือจน เป็นแค่สิ่งสมมุติ แค่ได้สัมผัสชั่วครู่ชั่วคราว จิตใจมนุษย์ มีแค่พอกับไม่พอ ไม่ใครแม้สักคน มีความสุขทึีแท้จริงจากทรัพย์สมบัตินอกกายหรอก ความสุขอยู่ทีี่กายสงบ ไม่มีอื่นใดเสมอความสุขเหล่านี้ได้อีกแล้ว ครอบครัวที่อบอุ่นเป็นสิ่งที่ประเมิณค่าด้วยราคาไม่ได้.

ต้องลองให้จนถึงขนาดว่าต้องคุ้ยถังขยะหาเศษอาหารมากิน ผมเชื่อว่าคำพูดคุณจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยครับ :yes
คนที่จนมันจนเพราะขาดแคลนปัจจัย 4 นี่หละครับ เพราะคนเรามันไม่ได้อิ่มทิพย์

civilzaza
21st May 2013, 21:38
เดี๋ยวนี้คนเราไม่ค่อยมีความอดทน ทำงานนิดทำงานหน่อยก็เบื่อแล้วก็ลาออก

บริษัทส่วนใหญ่ถึงได้จ้างแต่ผู้บริหารกับช่างซ่อมเครื่องเพื่อมาใช้แทนคนงานทั่วไป แล้วเอาเครื่องจักรเข้ามาแทน

เป็นเรื่องที่สมควรแล้วครับ คนที่ทำงานดีขยันไม่เกี่ยงงาน ส่วนใหญ่ก็โตไปกับบริษัท แต่อีกประเภทก็นะ..

ปัจจุบันนี้มีแค่เจ้านายกับเครื่องจักรก็รวยเป็นพันๆล้านได้แล้ว ไม่ได้พูดเล่นๆแค่มีวิสัยทัศน์กับความรู้ที่สั่งสมมาตามประสบการณ์

babymaster
21st May 2013, 21:41
ถ้าฉลาด ก็ไม่จนหรอก

ถ้าฉลาดแต่ไม่ทำอะไรล่ะครับ จนเหมือนเดิม

exodus
21st May 2013, 22:18
ถ้าฉลาดแต่ไม่ทำอะไรล่ะครับ จนเหมือนเดิม

น่าเศร้า แต่เป็นเรื่องจริงที่ว่าคนฉลาดหลายๆคน คิดหาวิธีที่ตัวเองจะไม่ต้องทำอะไร แล้วได้เงินครับ
แล้วมันทำได้จริงราว 80% ของกระบวนการ เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นหลายๆคนมีเวลาว่างพอจะไปเที่ยวรอบโลก หรือใช้เวลาไปกับความสำราญบางอย่าง โดยที่ขนหน้าแข้งไม่ร่วงเพราะมีเงินหมุนเวียนจากกิจการเข้ามาเรื่อยๆ
ถ้าไม่ทำอะไรแล้วไม่ได้เงิน พวกนั้นจัดว่าฉลาดปลอมครับ อิอิ

ยกตัวอย่างง่ายๆก็ บิล เกต ไงล่ะครับ เอา IBM DOS มาดัดแปลงให้เป็น MS DOS แล้วเร่ขายเพื่อครองตลาด PC จากนั้นพอเริ่มมีเงินก็กว้านซื้อโปรแกรมเมอร์ให้มันทำงานให้รวมถึงเทคโอเวอร์เหล่าโปรแกรมประยุกต์สำหรับใช้ในสำนักงาน ตัวมันเองน่ะแรกเริ่มก็ไม่ได้รวยหรอกครับ เรียนก็ไม่จบ เขียนโปรแกรมยังไม่ค่อยเป็นเลย วันๆเอาแต่ไดรฟ์กอล์ฟบ้าบอ มีเงินไม่รู้กี่ล้านดอลล์หมุนเข้าไมโครซอฟท์ทุกวันๆ จริงๆมันจะนอนอยู่บ้านเฉยๆก็ได้นะเพราะผูกขาดตลาด PC ไปเรียบร้อยแล้ว

Im:GREAN
21st May 2013, 23:42
ง่ายๆก็อย่าคิดในเเง่คนจนเมื่อมันเป็นเเนวคิดเเล้วเราก็เเค่นำเเนวคิดคนรวยนั้นไปใช้ เหมือนกับว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง" เเต่ถ้าเราไม่รู้ว่าความเสี่ยงผลร้ายหรือผลดี มันก็ไม่ต่างกลับการทายเหรียญหรือโยนลูกเต๋า มันเพียงอยู่ที่จังหวะในการที่พร้อมจะออกตัว เพราะฉนั้นคำว่า "โชค" จะมีประกอบอยู่ด้วย ที่คนจนบางคนที่เรารู้จักเค้าไม่ได้เเค่มองเห็นทางอย่างเดียวเค้าก็มาเพราะโชคเหมือนกัน (ถ้าสักวันรวยขึ้นมาบางคนก็ไม่ยอมเสี่ยงจนอีกครั้งหรอกครับ)