PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ทำไมเวลาตากฝน แล้วถึงเป็นหวัด



Speedy-K.O.
10th June 2013, 19:02
http://image.ohozaa.com/i/594/fmt1rg.jpg

เคยสงสัยไหมครับว่า เวลาตากฝน โดยเฉพาะเวลาศีรษะเปียกฝน แล้ววันต่อมาเริ่มมีอาการของหวัด เช่น มีอาการจาม คัดจมูก หรือน้ำมูก วันนี้ผมมีคำอธิบาย และมีคำแนะนำเวลาตากฝน

โรคหวัด ก็คือโพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากไวรัส มีไวรัสเป็นร้อยชนิด ที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้ ไวรัสเหล่านี้ กระจายฟุ้งอยู่ในอากาศ แล้วก็ตกลงอยู่ทีพื้น หรือเกาะอยู่ตามฝุ่น ไวรัสเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน ในช่วงปกติ เราก็จะสัมผัสกัับไวรัสเหล่านี้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากปริมาณมีไม่สูง รวมทั้งภูมิต้านทานของร่างกาย และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เราจึงไม่เป็นโรคหวัด

ก่อนฝนตก มักจะมีกระแสลมที่แรง ลมเหล่านี้ จะพัดให้ไวรัสให้ฟุ้งกระจายปริมาณมาก หากเราอยู่ในบริเวณนั้น ก่อนฝนตก โอกาส ที่จะสัมผัสไวรัสในปริมาณมากก็มีมากขึ้น ดังนั้น พยายามอย่าอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยเฉพาะเวลาก่อนฝนตกนะครับ หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากปิดจมูก ในช่วงเวลานั้นก็ได้ครับ


http://image.ohozaa.com/i/fb1/lRT2Z5.jpg

หากเราตากฝน ศีรษะของเราก็จะเปียกฝน เชื้อโรคไม่ได้เข้าทางศีรษะนะครับ แต่การที่ศีรษะเปียกฝน จะมีผลทำให้อุณภูมิที่พื้นผิวของเยื่อบุจมูกลดต่ำลงประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิระดับนี้ เหมาะสมสำหรับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่ตกค้างอยู่ในช่องจมูก ประกอบกับการสัมผัสเชื้อไวรัสปริมาณมากช่วงก่อนฝนตก ก็เลยทำให้มีไวรัสจำนวนมากบริเวณเยื่อบุจมูก ภูมิต้านทานของร่างกาย จึงไม่อาจต้านทานเชื้อเหล่านี้ได้อีกต่อไป ก็เลยเกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก เกิดอาการบวมของเยื่อบุจมูก ทำให้คัดจมูก รวมทั้งเกิดการสร้างสารคัดหลั่งมากขึ้น ซึ่งก็คือน้ำมูก นั่นเอง หากเชื้อไวรัสลุกลามไปที่ลำคอ ก็จะทำให้เกิดคออักเสบตามมาได้

นอกจากศีรษะที่เปียกฝน ที่มีผลต่ออุณหภูมิในจมูกแล้ว อุณหภูมิบริเวณมือและเท้า ก็มีผลด้วยเช่นเดียวกัน การที่รองเท้าเราเปียกน้ำ และต้องแช่อยู่ในนั้นนานๆ ก็มีผลทำให้อุณภูมิในจมูกลดลง นำไปสู่อาการเป็นหวัดได้


http://image.ohozaa.com/i/e41/DsIqnm.jpeg

วิธีการป้องกัน ไม่ให้เกิดหวัดเวลาศีรษะเปียกฝนก็คือ หลบฝนในที่ร่มเสียก่อน รอจนฝนหยุด แล้วค่อยเดินทางต่อ ใช้ร่มเพื่อบังศีรษะของเราไว้ หากศีรษะเปียกฝน รีบเช็ดให้แห้งเมื่อมีโอกาส ถ้าจะให้ดี สระผมไปเลยก็ได้ แล้วเช็ดหรือเป่าให้แห้งโดยเร็ว รีบทำให้ร่างกายอบอุ่น อาจแช่เท้าทั้งสองข้างในน้ำอุ่น เพื่อช่วยเปลี่ยนอุณภูมิที่พื้นผิวของจมูก ทำให้ไม่เหมาะต่อการแบ่งตัวของเชื้อโรค รับประทานผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ส้ม วิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างเซลและเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป ช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้

วิธีการง่ายๆ เหล่านี้ ก็ทำให้คุณไม่เป็นหวัดง่ายๆ ในหน้าฝนนี้ครับ(หรือจะยังไงก็แล้วแต่นะครับ ไม่บังคับ แค่แนะนำให้ครับ :))

Credit : http://board.postjung.com/683151.html http://upic.me/i/ff/zorori04.gif

{s-c-p} *man*
10th June 2013, 19:14
สุดยอดครับ ความรู้นี้เอาไปใช้ได้ พอดีเดินกลับบ้านทุกวัน ต้องตากฝนอยู่เเล้ว

Jerryboyz57
10th June 2013, 19:24
เป็นข้อมูลที่ต้องใช้เลยแหละครับ ผมเดินทุกวันเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

MerlinB
10th June 2013, 19:36
ง่ะ ฝนไม่ตกอ่ะ :sweat

nakiann123
10th June 2013, 19:36
ทำไมฝนตกแล้วเป็นเกย์?

AUTcher
10th June 2013, 19:42
ทำไมฝนตกแล้วเป็นเกย์?

:preved เชื้อโรคเข้าทางก้น

Michiri
10th June 2013, 19:44
เมื่อผมเดินตากฝน

สิ่งที่ผมคิด

http://img294.imageshack.us/img294/5135/cap024xo9.jpg

ความจริง

http://www.thailanddogshow.com/image/mypic_article/Thailanddogshow-News-650.jpg

Granado
10th June 2013, 19:45
ผมโดนฝนเต็มๆเน้นๆ ไม่เป็น โดนนิดเดียวเป็น

exodus
10th June 2013, 21:17
ผมโดนฝนเต็มๆเน้นๆ ไม่เป็น โดนนิดเดียวเป็น
เหมือนกันฮะ ฝนตกหนักๆเดินลุยกันครึ่งค่อนชั่วโมง ลมโกรกกันซู่ๆ เปียกเหมือนลูกหมา หน้ามือปากซีดจนเขียวเพราะหนาว โดนทั้งลมทั้งน้ำฝน เดินตัวสั่นหงึกๆ ไม่เคยจะเป็น
อีทีตอนตกเปาะแปะๆ โดนกันเม็ดสองเม็ด ที่ละเปาะทีละแปะ ตกมายังไม่ทันเปียกทั่วหัวเลย นี่เรียบร้อย วันรุ่งขึ้นเตรียมตัวขี้มูกยืดได้เลย

แต่มันมีวิธีแก้ครับ ถ้าโดนฝนตกเบาๆเปียกพอหมาดๆ แบบเดาทางได้ว่าหวัดกินแน่ รีบเข้าห้องน้ำแล้วสระผมอะครับ(หรือจะอาบเลยก็ดี) ออกมาเช็ดหัวนอนพัดลมเป่าไข่ สบาย หวัดไม่กิน