PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : บาปคืออะไร? ใครตัดสิน?



shisaku
2nd August 2013, 01:19
คือผมสับสนกับคำว่า บาป-กรรม มากเลยครับ

สมมุตินะ มีคนกำลังจะฆ่ากัน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมมีปืนในมือ คนคนนั้นเมายาบ้าหนัก จำเป็นต้องจับตายสถานเดียวเท่านั้น เพือช่วยชีวิตคน
ผมเลยจำเป็นต้องฆ่าเขา

-ผมช่วยคน ผมได้บุญ
-แต่ผมฆ่าคน ผมได้บาป

:sweat:sweat:sweat:sweat:sweat

ผมจะตกนรก หรือขึ้นสวรรค์ หรือมันจะหักล้างกันเหมือน 1-1=0 ?



แล้วอีกกรณี ถ้าผมไม่รู้จักศาสนา ไม่รู้จักเลยซักศาสนา แต่ผมเป็นคนดีมาก ดีสุดๆ ตายไปผมจะไปขึ้นสวรรค์ที่ไหน ? หรือผมชั่วสุดๆ แล้วตายไปผมจะตกนรกที่ไหน?
เพราะ สวรรค์กับนรกของศาสนาอื่นๆมันต่างกัน บรรยายไม่เหมือนกันทุกศาสนา ผมไม่เคยได้ยินพระพูดเลยว่า เจอฝรั่งในกระทะทองแดง หรือเจอนิโกในนรก

ข้องใจมาก มากที่มากที่สุด

บางทีผมอาจไม่ต้องการคำตอบ แค่อยากถามว่าทุกๆท่านคิดแบบผมบ้างไหม




อีกคำถาม

คำว่าบาปคืออะไร ใครเป็นคนคิดคนแรก ใครเป็นคนบัญญัติไว้ว่าทำแบบนี้ได้บาป เช่น ฆ่าสัตว์ ฆ่าชีวิตต้องได้รับบาป การผิดลูกผิดเมีย ดื่มสุราเมรัย ต้องได้รับบาป
ใครคิดค้นเรื้องนี้ ผมเรียนมานะว่าทำอะไรจะเป็นบาป แต่ผมไม่เคยได้เรียนเลยว่า ใครเป็นคนคิดค้นเรื้องบาป บุญ จะว่าพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่ เพราะที่เรียนมาน่าจะมีเรื่องของ บาป บุญมาก่อนหน้านั้นแล้ว

สมมุตินะ เราอยู่ในโลกที่การฆ่ากันไม่ผิด เหมือนกับ เสือ สิงโต ที่มันฆ่ากันได้เพื่อความอยู่รอด แล้วเราจะนิยามคำว่าบาปยังไงดี

แล้วถ้าสมมติว่านรกมีจริง ตามตำราที่ผมศึกษามา ในนรกมีท่าน พยายม คอยพิจารณาบาปของแต่ละคนและตัดสินว่าจะต้องชดใช้กรรมอย่างไรจึงจะสาสมกับบาปที่เราทำไป เราจึงถูกไปทรมาณต่างๆมากมาย ...... ทรมาณ??? การทำให้คนอื่นเจ็บปวดทรมาณมันก็ถือเป็นบาปอย่างนึง แล้วอย่างนี้ ท่านพยายมจะได้รับบาปหรือไม่?
แล้วการพิจารณาบาปเนี่ยต้องทำเป็นรายคน....คือตอนนี้่ประชากรไทยมี 60กว่าล้านคน วันนึงคนตายเยอะไม่รู้เท่าไร แต่รู้ว่าเยอะมาก การพิจารณารายคน มันจะทันกับคนที่ตายเหรอ ถ้าเกิดตายวันละ 500ร้อย ไม่ต้องยืนรอพิจารณาเป็นปีๆเลยเหรอ? หรือในนรกมีเครื่้องสแกนบาปอัตโนมัติ ใครตายก็เข้าเครื้องนี้แล้วสแกนบาปออกมาเลย ไม่จำเป็นต้องให้ท่านมาตัดสิน ......... แล้วถ้าการชดใช้กรรมเนี่ย มันต้องมีระยะเวลา แล้วในนรกมีนาฬิกาหรือปล่าว ถ้าสมมุติชดใช้กรรมหมดแล้ว แต่คนคุมลืมดูเวลา ไม่ต้องใช้กรรมฟรีเลยเหรอ แล้วจะได้รับการชดเชยยังไง

คือทุกวันนี้คิดเรื่องพวกนี้มาก คือจริงจังๆ แต่ไม่กล้าพูดกับคนอื่น กลัวหาว่าบ้า:eek:

Durex52
2nd August 2013, 01:33
จริงๆ ผมก็คิดทำนองคล้าย ๆ ท่านนะครับ และเวลาพูดกับคนอื่น ก็จะถูกมองว่า ขวางโลก 555+ ดีใจจริงๆ ที่ได้ตอบกระทู้นี้ " ใส่บาตรเพราะอยากได้บุญ ทั้งๆที่กับข้าว อาหาร ก็ต้องไปเบียดเบียนสัตว์ ทั้งนั้น แล้วสรุปเรากำลังจะได้ ทั้ง บาป ทั้งบุญ เลยหรอครับ @___@)?" แต่จริงๆสิ่งศักดิ์สิ่งเดียวที่ผมนับถือและไม่มีข้องใจสงสัย คือ คุณพ่อและคุณแม่ครับ :)

Volcanus
2nd August 2013, 01:34
ลองตายดูเดียวก็รู้เองครับ - -"

boomerang0
2nd August 2013, 01:48
ผมก็สงสัยนะ แล้วยังสงสัยอีกว่า หลังจากชดใช้กรรมในนรกแล้ว พอกลับมาเกิดใหม่ ก็จะลืมที่เราโดนลงโทษในนรก แล้วจะโดนลงโทษเพื่ออะไร ?

boysornsit
2nd August 2013, 01:50
ผมก็เป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ สงสัยจนเลิกสงสัยไปละ คุยกับเพื่อนคุยกับญาติเรื่องนี้ไม่ได้กลายเป็นคนขวางโลกทุกที

Imyour
2nd August 2013, 01:51
มันก็แล้วแต่ความเชื่อของชาวพุทธครับ
แต่คริส มีฮีลและบัฟล้างบาปนะครับ แหม่555+

poppysun
2nd August 2013, 02:07
มันก็แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลครับ :yes

leaderpor
2nd August 2013, 02:16
ผมว่า นะ ผมว่า...คำว่าบาป อาจหมายถึง สื่งที่เราทำไปแล้วมันก่อให้เกิดความไม่สบายใน ใจของเรารึเปล่า เมื่อทำไปแล้ว รู้สึกเกิดการไม่สบายใจ กระวนกระวายอยู่กับเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลาทำให้ เกิดการกระทบกับจิตใจที่ใช้ใน ชีวิตประจำวัน(เหมือนว่า ส่ิงที่ทำไปแล้ว มันรู้สึกผิดที่ได้ทำ ซึ่งกลับไปแก้ไขไม่ได้ ณ เวลานั้นๆ)

ถึงแม้บางคนที่ ไปฆ่าเขา เอาเมียเพื่อน อาจทำแล้วไม่มีความรู้สึกผิดเกิดขึ้น..แต่ว่า ในมุมมองของคนอื่น สิ่งที่เขาทำมันผิด จึงเป็น การเรียกว่า คนนั้นทำบาป(ทั้ง ที่เจ้าตัว อาจไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ)....ผมคิดว่าประมาณนี้นะ


.....
ส่วนเรื่องสวรรค์ นรก ผมว่า มันเป็นเหมือนการ จินตนาการเฮือกสุดท้ายที่ เราคิดได้ และก่อให้ความคิดของเราไปสิง อยู่ที่ จินตภาพนั้นๆก่อนตาย(เหมือนการฝัน แต่ฝันที่ไม่ตื่น และไม่รู้สึกตัว) .ประมาณว่า คนที่เขา ชราภาพ ตายแบบ สงบจะ นิ่งๆ ไม่คิดเยอะ รู้แยู่ว่าตัวเองแก่ และกำลังจะจากไปอย่าง สงบ จิตใจ ตอนใกล้ตายก็อาจคิดถึงเรื่อง ทุ่งหญ้า ฟ้าสดใส ซึ่ง บรรยากาศ สงบๆ เปรียบดังเช่น สวรรค์ ....แต่ใคร ที่ ตายแบบไม่สงบๆเช่น กำลัง จมน้ำ..เขา อาจจะคิดเฮือกสุดท้ายก่อนตาย ว่า ทำไมต้องมาจมน้ำ ยังไม่อายกตาย อยากมีชิวิตรอด คือประมาณว่า จิตใจมีความวิตกกังวลต่าง ประดังเข้ามา ทำให้ เฮือกสุดท้าย จินตนาการ เกี่ยวกับ ความลำบาก ความทุกข์ใจ ซึ่งอมันก็อาเปรียบได้กับการ อยู่นรก ก็ได้


แค่ คิดโม้ไปเรื่อย น่ะ...

oolldjlloo
2nd August 2013, 02:23
มันเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้นะ แม้แต่ศาสนาแต่ละศาสนาเองก็ไม่สามารถพูดได้เหมือนๆกันว่าเป็นอย่างไร เพียงแต่มีคำศัพท์เหมือนกันเท่าันั้นเอง นรก = hell สวรรค์ = heaven หรือว่าคนนับถือศาสนาอื่นจะตกอยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งรึเปล่า
มันก็จะไปดึงกับคนที่มีศาสนาอยู่ในบัตร แต่ตัว และใจจริงๆ ไม่ได้นับถือเลย กลายเป็นว่า ไม่ได้ตก ไม่ได้ขึ้น มันก็จะไปดึงกับไม่ได้เกิดซึ่งมันดันตรงกับการนิพานที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้อีก
สรุปคือ มันเป็นเหมือนอวกาศนะ ว่างเปล่า (ไม่มีดาว) ล่องลอย แล้วเกิดใหม่ แต่สิ่งที่ผมสงสัยเพิ่มคือ ถ้าบอกว่าตายแล้วจะไร้ความรู้สึก แล้วคนตกนรกถึงมีความรู้สึก ส่วนคนขึ้นสวรรค์มีความรู้สึกอย่างไร
ส่วนกรรมน่าจะประมาณว่า ถ้าเราเอาเปรียบคนคนหนึ่ง คนคนนั้นก็จะเอาคืน (แต่ก็ไม่รู้ว่า ถ้าเป็นกรณ๊ที่เค้าอโหสิอีก ก็จะมีคนมาเอาเปรียบ โยงกันไปมั่วหมด) เลิกคิดเถอะครับ ปวดหัว (ผมนี่แหละ555)

blacklotus55
2nd August 2013, 02:26
เฮ้ย อย่าไปกลัว บาปหน่ะ มีตังเยอะ ๆ ไว้ ทำเท่าไรก็ล้างได้

อยากจะรู้นัก ฆ่าหมูหนึ่งตัว บาปมันเท่ากับทอดตั๊กแตนใส่ถุงขาย 200 ตัวไหม ทั้ง ๆ ที่มูลค่าผิดกันลิบลับกว่าตั๊กแตนสักหมื่นตัวนัก

ทั้ง ๆ ที่หมูตาย 1 ตัว ช่วยคนไม่อดตาย 200-500 คน ตั๊กแตนตายหมื่่นตัว ทำให้คนได้ของเคี้ยวเล่น 100 คน แค่นั้น

ถามต่อหน่อย งั้น "บุญ" คืออะไร

อาจารย์เก่าผมคนนึง สอนวิชาพุทธศาสนา เจียดเงิน "20 เปอเซ็นต์ ของเงินเดือน" ทุก ๆ เดือน เพื่อ "ทำบุญ" กับเจ้าอาวาสวัดวัดหนึงในภาคตะวันออก อายุ 41

5555555555555555555555555555 แกต้องขายที่ ไร่สวนยางที่ตกทอดมานาน เพื่อเอาเงินสร้างกุฏ กับโบสถ์

ทุกวันนี้แกเกษียรแล้ว กินบำเหน็จบำนาญไปวัน ๆ ลูกหลาน ต่างพากันไปทำงานใน กทม. ไม่มีใครกลับมาเหลียวแล

ผมไม่เห็น "บุญ" ที่แกทำมาทั้งชีวิต มันโผล่หัวมาทำอะไรเลยนะ มีแต่ คนบ้านใกล้เรือนเคียง ที่คอยจุนเจือกันตามประสาคนบ้านนอกแค่นั้นเอง

อย่าถามว่าผมรู้ได้ไง ปีที่แล้ว แกพยายามเสนอขายที่ให้ผมเพื่อที่จะเอาเงินไปทำที่วัด และซื้อข้าวทาน (แดร่ ก ) นั่นเอง หน่ะนะ

แต่ตัวแกเองก็ยังอยู่เท่าเดิม มานานมาก

แล้วมีปัญหา "เงินไม่พอใช้" มานานแล้ว ถามว่าได้ "บาป" หรือได้ "บุญ" หรือ "ได้เคี้ยวหญ้า" (วะ) ...................(ไอ่ฟาย) เอิ่ม ความเห็นส่วนตัวหน่ะนะ

ดูง่าย ๆ ยิงแสกหน้าตำรวจในผับ มันบาปมากนะ ฆ่าคน แต่ปัจจุบัน คนที่ทำบาปนี้ ไม่มีคดีอะไร แถมได้เป็นนักการเมืองตำแหน่งใหญ่เลยนะ

ผมจะถามง่าย ๆ เลยนะ วันนี้ ผมทำงานกล้วย ๆ แดร่ ก ตัง คนดั ก ดาน แต่งรถซิ่ง จนไม่มีเงินเหลือ ไปซื้อข้าว ให้เมียกับลูกทาน (แด ร่ก )

แล้วหัวค่ำวันนี้ ผมได้ช่วยแมลง ๆ ตัวน้อย ๆ (แมงด้วง ผมชอบแมงด้วง) ขึั้นจากน้ำเพื่อให้รอดชีวิต 5 ตัว บุญผมจะหักล้างกับบาป ที่คนดั ก ดานเหล่า นี้ พอไหมครับ

555555555555555555555

EviLBlacK03
2nd August 2013, 02:46
สมัยผม ม.ต้น มีอาจารย์วิชานึงให้จดค่าบาปบุญคุณโทษ คือแบบว่าเหมือนจดบัญชีรายรับรายจ่ายอะไรทำนองนั้นเลย ผมนี้แทบปวดหัวเลย ใครเป็นคนกำหนดกันเนี่ย

Z€l2oN€
2nd August 2013, 03:08
ไปบวช หากเป็นพุทธ ไปเป็นบาทหลวง หากเป็นคริสต์

omegus
2nd August 2013, 03:14
ข้อแรก ถ้ามีปืนไม่ลองยิงที่ขาหล่ะครับ ต้องฆ่ากันเลย การฆ่าคนไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อช่วยคน แต่ละคนมีกรรมเป็นของตัวเอง จขกท ไม่ลองคิดบ้างว่าอาจเป็นเวรกรรม ของ คนกำลังจะฆ่ากัน ก็ได้
ส่วน คำว่าบาปคืออะไร อันนี้ จขกท ต้องรวมบุญไปด้วยนะครับ 2 สิ่งนี้ คือธรรมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นเองไม่มีใครกำหนด ถ้า จขกท สงสัย ลองคิดกลับกันดูบ้างว่าโลกเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมคนเราต้องเกิด ทำไมคนเราต้องตาย ทุกสิ้งล้วนเกียวกันเพราะมันคือธรรมชาติ ส่วนวิธีที่ อยากจะหลุดจากบาปบุญ ได้มีวิธีเดียวเท่านั้น คือพระนิพพานครับ จขกท คิดเรื่องพวกนี้ไม่แปลกหรอกครับ พระพุทธเจ้ายังกล่าวไว้ว่า คนเราไม่ควรเชื่ออะไรง่ายๆ จขกท ลองเอาไปพูดคุยกับพระที่ดูแก่อาวุโส ดูนะครับ ท่านจะแนะนำได้เยอะเลย

jeditrainer
2nd August 2013, 03:20
พรากชีวิต ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตามมันก็คือ การฆ่า อยู่ดี บาปมันไม่ใช่แค่ 1-1=0 หรอกนะ มันมีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น
นรกที่คุณว่าก็ไม่ได้มีพญายมมาคอยทรมานคุณหรอกครับ ถ้าศึกษาในด้านนี้ดูคุณจะรู้ว่าบาปของคุณต่างหากที่จะลงทัณฑ์คุณเอง
แล้วถ้าจะถามว่าบาปคืออะไร ผมจะตอบให้คุณเข้าใจลึกซึ้งนั้นยากครับ ดูจากคุณแล้ว ก็ไม่ต่างจากสอนคนตาบอดให้มองเห็น หรือ
สอนคนหูหนวกให้ได้ยินนั่นแหละ คนเราเกิดมาตามเวรตามกรรมที่เคยทำมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะชาติใดจะศาสนาไหน ก็มีจุดเริ่มต้น
และจุดจบที่คล้าย ๆ กันนั่นแหละครับ ขอตอบแบบกลาง ๆ นะ

kurolykan
2nd August 2013, 03:39
สั้นๆ ง่ายๆ บุญบาปไม่มีหักล้างกัน ถ้าการกระทำ 1 อย่างมันส่งผลทั้งบุญและบาป คุณก็จะได้รับทั้งบุญและบาป

ขยายอีกนิด บุญบาปคือตัวเดียวกัน มันคือผลของการกระทำเหมือนกัน แต่อันที่ก่อให้เกิดทุกข์เราเรียกบาป ส่วนอันที่ก่อให้เกิดความสุขเราเรียกบุญ

แต่ความสุขในแบบนิพานเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป สิ่งที่ว่ามา คิดตามเหตุและผลของกฏแห่งกรรม

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ มันไม่เกี่ยว ถ้าเรื่องกฏแห่งกรรมเป็นของจริง สัจธรรมจะยังคงเป็นอย่างที่มันเป็นไม่เกี่ยวกับที่คุณคิด เรื่องแบบนี้อยากรู้ต้องพิสูจน์เอาเอง

robotboy44
2nd August 2013, 03:53
บาปกรรม ของ การที่ยิงคนเมายาบ้าตาย
ญาติเสียใจ ต้องการเอาผิดเราพอศาลตัดสินว่าเราไม่มีความผิด
ญาติโมโห ตามมายิงคุณตาย จบ :)
(ปญอ ไปวันๆหุๆ)

theaha
2nd August 2013, 04:21
บุญก็ได้ บาปก็ได้ ครับ ยังไงบาปกรรมก่อไว้ไม่มีทางหายครับ อยู่แค่ว่ามันจะมาเร็วหรือช้า บุญเราทำเพื่อหนีบาปกรรมไม่ให้โดนเร็วขึ้น ตามความคิดผมครับ

BoonTew
2nd August 2013, 04:41
จะแถลงไขเรื่องบาป-บุญที่ผมเคยอ่านมา ตกหล่นขออภัย

ในนรกพญามัจจุราชได้ตัดสินชาย 3 คนที่ทำบาปต่างกัน

สุวาน : ชายผู้นี้ได้ทำบาปด้วยการฆ่าหมูขายพระเจ้าข้า:(

พญายมราช : ให้มันไปเกิดเป็นหมูชดใช้กรรม:mad3

สุวาน : ชายผู้นี้ได้ทำบาปด้วยการฆ่าวัวฆ่าควายพระเจ้าข้า:nea

พญายมราช : ให้มันไปเกิดเป็นวัวเป็นควายชดใช้กรรม:mad3

สุวาน : ชายผู้นี้ได้ทำบาปหนักหนาด้วยการฆ่าคนปล้นทรัพย์พระเจ้าข้า:rtfm

พญายมราช : ให้มันไปเกิดคนรวยชดใช้กรรม:mad3

ชายคนที่ 1 ชายคนที่ 2 : ท่านตัดสินเฮียอัลไลของท่านวะครับ:eek:

พญายมราช : ฆ่าหมูก็ไปเกิดเป็นหมูชดใช้กรรม ฆ่าวัวควายก็ไปเกิดเป็นวัวควายชดใช้กรรม ฆ่าคนตายแถมที่ฆ่ายังเป็นคนรวยอีกก็ต้องไปเกิดเป็นคนรวยชดใช้กรรม ก็ถูกแล้วนิ:dance

ชายคนที่ 1 ชายคนที่ 2 : :dash

ชายคนที่ 3 : กฏแห่งกรรมยุติธรรมที่ซู้ดดดดด:dance

เอามาจากหนังสืออะไรจำไม่ได้ ผ่านมาหลายปีแล้วถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคดีฮาหน้าบัลลังค์ เหน็บแนมขำๆนะครับ อย่าคิดมาก

[Never]
2nd August 2013, 04:56
ผมไม่เชื่อหรอก ตายแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก -_-
มีใครพิสูจน์ได้ยังว่าตายแล้วได้ขึ้นสวรรค์ลงนรกบลาๆๆๆ
ทั้งหมดมันก็แค่ความเชื่อที่งมงาย น่าสมเพช...[โลกิพูด]

darkperson50
2nd August 2013, 11:35
จขกท. คิดเหมือนผมเลย
สงสัยแต่ไม่รู้จะถามใคร - -

DkTaP82
2nd August 2013, 11:51
ถามผมก็ได้ .... 5555+

บาปในความหมายคือ ความชั่ว การกระทำชั่ว การกระทำให้สิ่งไม่ดี ทุกอย่างล้วนมีผลเสมอ ประกอบกับปัจจัยต่างๆ
อย่างแรกใกล้ตัว คือ การทำชั่ว ลักเล็กโขมยน้อย เมื่อถูกจับได้ หรือเป็นผลจากกฏหมาย ก็ต้องโดนปรับ หรือติดคุก

การที่รู้จักบุญบาปคือ คนที่สามารถรู้จักแยกแยะว่า การทำดี คือบุญ การทำชั่วคือบาป รู้จักละอายในสิ่งที่ทำชั่ว
รู้จักปิติในสิ่งที่ทำดี สรุปง่ายรู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักปัยจัยต่างๆ

ไม่ต้องเปรียบใ้ห้ไปถึงโลกหน้า หรือโลกอื่นๆ ภูมิอื่นๆ จะนรกหรือสวรรค์ก็ตาม ให้คิดเหตุปัจจัยที่ส่งผลก็พอ
สวรรค์ในโลก เปรียบง่ายๆคือหมู่ในที่มงคล ที่เจริญ คนประพฤติดี ทำดีย่อมคบคนที่ดี อยู่ในที่ที่ดี มีการช่วย
เหลือกันและกัน ต่างจากคนชั่ว ก็คบคนชั่ว ย่อมถูกนำพาไปในสิ่งที่ชั่ว ที่ไม่เป็นมงคล สุดท้ายก็มีผลต่อการมีชีวิต

นรก สวรรค์กล่าวง่ายๆ คือใกล้ตัวเรานี่เอง การทำอะไรสักอย่างเราต้องรู้จักผลที่จะตามมา คือการรู้จักคิดเป็นลำดับขั้น
ทำให้เกิดการตัดสินใจ การคิดวิเคราะห์ และสามารถแก้ไขปัญหาได้

ในธรรมมะคือ ผู้ที่รู้จักการเกิดของทุกข์ และความดับไปของทุกข์ รู้จักสาเหตุของการเกิดทุกข์ และสาเหตุของทุกข์ รู้จักชรา และมรณะ
เหตุของชรา และมรณะ รู้จักการดับของชรา และมรณะประมาณนี้นั้แล

นรกภูมิ สวรรค์ภูมิ เดรัจฉานภูิมิ มนุษย์ภูมิ ผมจะมาเล่าให้ฟังภายหลัง...

otakuoz
2nd August 2013, 11:52
เจ้าของมู้เป็นคล้ายๆผมเลยแฮะ XD ณ ปัจจุบันผมก็ยังไม่รู้เลยว่าบาปมันคืออะไร แต่ถ้ากรรมล่ะก็มันก็ผลจากการกระทำที่เรทำมาอ่ะแหละมั้งเพราะทุกการกระทำย่อมส่งผลภายหลังอยู่ที่ว่าช้าเร็ว
เช่นไม่อ่านหนังสือสอบ -..- กรรมที่ตามมาคือคะแนนไม่ดี อิอิ

แต่สิ่งที่ผมยึดถือคือ ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง

ปล.โดยส่วยตัวคิดว่าบาปเป็นกุศโลบายเพื่อให้คนหันมาทำตามข้อปฎิบัติของศาสนานั้นๆมั้งนะผมว่า
ปล2.เอาจิงๆแล้วผมคิดว่า ศาสนา = กฎหมาย เพียงแต่ไม่ตึงเกินไปไม่มีบทลงโทษแค่นั้นเอง เหมือนเป็นแนวทางให้คนปฎิบัติไปในแนวทางเดียวกัน

zupermax
2nd August 2013, 14:29
กฏแห่งกรรมมันซับซ้อนมากกว่ามนุษย์จะเข้าใจครับ ไม่มีใครตัดสินบาปของเราไปเวลาตายหรอกครับ บาปบางทีผมก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง มันไม่มีอะไรพิสูจน์ เท่าที่รู้ ๆ มาบาปมันจะเกิดจากการกระทำของเราเอง

โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคำพิพากษา กรรมจะเกิดขึ้นโดยเป็นพลังงานไร้รูปครับ ยกตัวอย่างคนทำแท้ง จะมีเด็กเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาตามอาจถึงชาติหน้่า แต่เมื่อเจ้ากรรมนายเวรไปเกิดก่อน กรรมที่ตัวเราก่อไว้ก็ยังไม่หมดหรอกครับ

แต่เราจะโดยสนองกรรมโดยพลังงงานไร้รูปที่เราว่าทำให้ชีวิตไม่เป็นสุข

และนรกแต่ละศาสนาอย่างที่ จขกท. กล่าวไว้ ผมคิดว่าไม่แยกศาสนากันหรอก ตายไปไปไหนนี้ไม่ทราบ แต่ตอนเด็ก ๆ ผมเคยเห็นยมทูต จะไปเล่าคนอื่นก็หาว่าบ้า เค้าตามย่าผมตลอดเวลาก่อนที่ย่าผมเสีย

ซึ่งผมเคยได้ยินเสียงกรีดร้องของยมทูตหรืออะไรไม่ทราบซึ่งคิดว่าใช่ พวกนี้ไม่ได้ใช้ภาษามนุษย์สื่อสารกันหรอก แต่เหมือนอะไรสักอย่างที่ทุกคนทั่วโลกตายไปแล้วสามารถเข้าใจการสื่อสารของมันได้

Criora
2nd August 2013, 14:34
ให้"คนดี"ตัดสินครับ

_SaBasTaiN_
2nd August 2013, 14:40
นับถือทั้งพุทธเเละคริสนี่บาปไหม:sweat

codivine
2nd August 2013, 14:48
ตอนเด็กๆผมก็เคยถามแม่แบบนี้ละ แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
ตอนนี้ผมก็ยึดคติทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง(ทำแล้วเราจะไม่เสียใจทีหลัง)ก็พอ

jamebanjen
2nd August 2013, 14:55
เคยได้ยินมั้ยครับ บาปคือขี้มูกแห้ง

hisawahiroki
2nd August 2013, 14:59
สำหรับผม สวรรค์กับนรก มันอยู่ในใจเราครับ สมมติไปฆ่าใครก็มีบาปติดตัว คิดมาก กังวล ทุกข์ใจ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจ

6thhokage
2nd August 2013, 15:02
ไม่มีใครเขาบอกว่า ผิด หรือว่า ถูก
เขียนคำว่าจิตสำนึกมาปิด รึว่า ปลูก
บางทีคนเราก็พลาดพรั้งเผลอไผล
แต่ถ้ามันบ่อยครั้งเข้า แล้วตัวเจ้ายังจะเผลอไหม #P9d :declare

DkTaP82
2nd August 2013, 15:21
มาต่อกันเลยดีกว่า...

ต้องทำความเข้าใจก่อนนะ ในฐานะที่ท่านผู้ฟัง มีฐานะอ่านแล้วเสพเนื้อหาความความ แต่จะให้เข้าใจเป็นหลักสมมุติก็แล้วกัน พิจรณาไม่ต้องเชื่อ ให้เก็บเป็นข้อคิดในจิตในก็พอ จะอธิบายด้วยภาษาง่ายๆไม่ลึกซึ้งอะไร

ภพภูมินั้น เมื่อดวงจิตละสังขารก็จะถูกพัดไปตามแรงของการกระทำ ครั้งที่มีชีิวิตอยู่ อย่างเช่นผีเร่ร่อน จำพวกนี่้เป็นพวกที่ยึดติดอยู่กับโลกมาก ด้วยจิตอาลัยต่างๆแล้ว ก็จะทำให้เขาวนเวียนอยู่ ตามที่ต่างๆ อาจเป็นวาระสุดท้ายของการมีชีวิต จำพวกนี้คือมีพันธการในโลกยึดตรึงเหมือนโซ่ล่ามไว้ ไปไหนก็ไม่ได้ เหมือนมีอะไรคาใจอยู่ จึงจำเป็นต้องเวียนว่ายอยู่อย่างนี้อยู่เรื่อยไป เราอาจเจอเขาได้ในรายการล่าท้าผี

จำพวกต่อมาเป็นพวกที่พัดไปตามแรงกรรมสนับสนุน จำพวกทำเลวไว้มาก ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ทำร้ายบิดามารดาร ทำร้ายพระอรหัต์พวกนี้จะถูกนรกสูบ ให้ต้องไปชดใช้กรรมที่ทรมาณแสนสาหัสนับแสนๆปี หรือนานกว่านั้นจนประมาณระยะเวลาไม่ได้ โลกเกิดแล้วดับกี่ครั้งก็นับเอาก็แล้วกัน หรือเรียกว่าต้องทนทุกข์นับอสงไขย จำพวกนี้จะทำเลวไว้มาก เมื่อมีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ในสุคคติภูิมิแล้ว แต่กลับสร้างบาปกรรมไว้เยอะ เมื่อพลาดตกนรกไปแล้ว ก็ไม่ได้เกิดในเวลาอันใกล้นี้แน่นอน

จำพวกที่ทำเลวบ้าง แต่ชีวิตก็พอที่จะมีความดีบ้าง พวกนี้กรรมที่จะต้องชดใช้ ก็ไปตามภูมิต่างๆ เช่นภูมมนุษย์ หรือเดรัจฉานนั้นเอง คือวิบากกรรมว่า ทำไม่ต้องเกิดมาแล้วเจอกับเรื่องร้ายๆ โชคร้าย หรือแย่กว่านั้นก็รับกรรมไปเกิดเป็นสัตว์ที่ชาติก่อนๆ เคยทำร้ายเขา เบียดเบียนเขานั้นเอง จึงเป็นเวรที่เวียนว่ายร่วมกันอยู่ คือทำดีบ้าง ทำชั่วบ้าง จึงไม่ต้องตกนรก จึงเวียนว่ายตายเกิดในภพใกล้ๆ เวลาใกล้เคียงกัน ภูมิเกิดไปตามกรรมที่ทำ ทำดีก็เกิดที่ดีๆ มีคนอุปถัมนัั้นเองละน้ะ

จำพวกทำความดี มีความเลื่อมใส ปราถนาบุญ พวกนนี้จะไปเกิดในเทวโลก มีระยะเวลายาวนานกว่ามนุษย์โลกมาก ส่วนใหญ่มนุษย์จะบูชาเทวดาเช่นนี้ หรือในศาสนาอื่นๆ ก็คือพระเจ้านั้นเอง แต่ก็ไม่้พ้นของการเกิด ย่อมมีกิเลสเช่นเดียวกัน ยังไม่หมดสิ้นกิเลส แต่กิเลสเบาบางจึงต้องเสวยสุขในเทวโลก แต่เมื่อหมดบุญ ไม่สะสมบารมีต่อ ก็กลับมาเกิดในภูมิมนุษย์เหมือนเดิม

สุดท้ายจะเป็นจิตที่ไม่มีอาลัยแก่เพศ หรือพันธ์การต่างๆ จิตสะอาดหมดซึ้งกิเลส ละปล่อยวาง หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง... อิอิ ในศาสนาพุทธเรียกว่า นิพพานนั้นเอง คือบุคคลที่ไม่กลัวตาย แต่กลัวเกิดเสียมากกว่า บุคคลนี้จำเป็นต้องสะสมบารมีอยู่มากกว่าจะพ้นการเวียนว่ายในภูมิต่างๆ หรือเรียกว่าวัฏสงสาร ในศาสนาพุทธ

ทั้งหมดนี้เป็นการอธิบายคร่าวๆ แต่สิ่งที่รับรู้และอ่านมานี้ ในฐานนะท่านผู้อ่านก็ขอให้เพียงระลึกไว้ เก็บไว้พิจรณา เมื่อรู้ว่าภพภูมิต่างๆมีจริงหรือไม่ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญเลยสักนิดเดียว เมื่อรู้แล้วต้องถามตัวเองว่า ได้ประโยนช์อะไรกับความรู้นี้บ้าง สำหรับผู้ที่สามารถรู้ หยั่งเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของเหล่าสรรพสัตว์ เห็นเหตุและปัจจัยต่างๆ พวกนี้จะเรียกว่าตาทิตย์ หรือ ทิพจักขุญาณในศาสนาพุทธ เป็นอภิณญาความสามารถพิเศษ เพื่อที่จะลดความสงสัยนั้นเอง ทั้งหมดนี้จึงจัดอยู่ในอจินไตย เรารู้ไปแต่ไม่ทำประโยชน์อะไรก็เท่้านั้น 555+

จึงขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทก็พอ สิ่งใดที่นับถือก็ขอให้นับถือไว้ ในสิ่งที่ถูกต้อง พาตนเองทำในสิ่งที่ดี เรียนรู้ทางโลก อย่าเชื่องมงายในสิ่งที่ปราศจากการพิจรณาไตร่ตรองก่อน เพราะสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุของปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับเป็นของธรรมดา.. การหาความสุขที่สุดคือจากตัวเรานั้นเอง คือความสงบที่ไม่มีความสุขใดเทียบเท่า การทำให้ใจแจ่มใสเบิกบาน รักษาชีวิตไว้ ประโยชน์ตนเองและผู้อื่น แบบนี้ไม่ต้องนับถือศาสนาใดก็ได้ แต่ขอให้มีกฏเกนของของตน เท่านี้ก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลก เข้าถึงความสุขสุดแล้ว.... 555+

ASSASSIN S
2nd August 2013, 15:21
ผมตอบได้ทุกคำถามครับ

อย่างแรกบาปคือสิ่งที่เราทำแล้วทำให้คนอื่นหรือตัวเราเองเดือดร้อน คุณคงอาจผูดว่า "เฮ่ย ก็มันตัวเราเองเราทำอะไรก็เรื่องของเรา" แต่คุณคงลืมว่าคัยเป็นคนให้กำเนิจคุนมา
มีคนๆนึงเคยพูกับผมไว้ว่า (การฆ่าบางครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่เป็น"เจตนา"ตังหากว่าแกฆ่าเขาเพราะอะไร)

บุญไม่มีวันทีจะหักร้างบาปได้ครับ ควางคิดที่ว่า 1-1=0 มันเป็นความคิดที่ผิดครับ ความจริงคือ บุญก็ส่วนบุญ บาบก็ส่วนบาบ และบุญจะ คุ้มครองเราตรอดเวลาไม่ใช่ว่าทำบุณมากจะได้สิ่งดีๆ
แต่มันจะทำเคราะภัยบรรเทาลงเช่นถูก10ล้อชน จริงๆคุณต้องตายแต่คุณแค่ขาหัก ส่วนบาป จะกลายเป็นกรรมและจะติดตัวคุณตลอดเวลาแต่จะน้อยหรือมาก็แล้วแต่เวลาเช็นคุณเคยไปหยียบ
หางแมวเล่นหลายวันต่อมาคุณก็โดนนิ้วก้อยเทากระเเทก

แล้วอีกกรณี ถ้าผมไม่รู้จักศาสนา ไม่รู้จักเลยซักศาสนา แต่ผมเป็นคนดีมาก ดีสุดๆ ตายไปผมจะไปขึ้นสวรรค์ที่ไหน ?

คำตอบคือคุณจะเกิดใหม่โดยไม่ไปใหนเลยครับ เพียงแต่คุณทำอะไรเอาใว้มันก็จะทำให้คุณได้เกิดเป็นสิ่งนันๆไป(การเกิดเป็นมนุษ์ครบ32นั้นยากมากกว่าการขึ้นสวรรษะอีก)

คำว่าบาปไม่มีคัยคิดค้น เพียงแต่มีคนรู้ถึงคำว่าบาปแล้วตังชื่อให้ครับ

การทำให้คนอื่นเจ็บปวดทรมาณมันก็ถือเป็นบาปอย่างนึง แล้วอย่างนี้ ท่านพยายมจะได้รับบาปหรือไม่?

ก็ท่านพยายมเขาไม่ได้เป็นคน ทรมาณ นิครับเขาแค่ตัดสินว่าโดเทาไหร่ ส่วนคนทำคือ ตัวตนที่เกิดจะกรรมของเรา เรียกว่า "นาย/นางพยาบาท"

ในนรกเวลาจะเร็วกว่าโลกมนุษ หลายเท่าเช่น 24ช.ม.= 30ปีของทางนั้น

ปล.ศาสนาคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิดใจ ถ้าถามว่า ศาสนาอะไรมีบาปมากที่สุดผมาว่าศาสนาคริสต์ ครับ เพราะหลาย ทศวรรษมาแล้วพวกเขาทำบาบมามากมาย
ทั้ง ล้าเเม่มด ทำสงครามศาสนา และ สั่งฆ่าอัศวิน ที่ขึ้นชื่อว่าศรัทธาต่อ คริสตจักรมาทีสุดที่ชื่อ Templiers ยักไม่นับรวมคำสอนสุดตรกที่ว่า การไม่เชื่อในพระเจ้าคือบาปอีกนะ

oolldjlloo
2nd August 2013, 16:28
*0* ผมพอจะเข้าใจในสิ่งที่ข้างบนบอก แต่ถ้าสมมตินะ สมมติว่า ทำการทดลองโดยยิงนิวเครียล้างโลกทำให้สิ่งมีชีวิตตายหมด(ยกเว้นแมลงสาบ) เราจะเกิดมาเป็นแมลงสาบ หรือไปเกิดดาวดวงอื่นใช่หรือไม่?

Price
2nd August 2013, 16:41
ผมก็คิดแบบท่านแหละครับ และผมก็ไม่เชื่อด้วยซ้ำ บุญ บาป นรก สวรรค์ ไร้สาระในความคิดผม ที่ในยูทูปแสดงเกี่ยวกับเรื่องผิดศีลว่าผิดศีลข้อดีโดนไรก็ทำให้เรากลัวไงเลยไม่กล้าทำอีกแค่นั้นเอง ถ้า บุญ บาป มีจริง แล้วพวกโจร พวกขายยา ทำไมมันไม่โดนจับสักทีล่ะ

wanjaiteeruk
2nd August 2013, 16:44
บาปบุญนี่ไม่ทราบแน่ชัดครับ เพียงแต่ว่าหากทำบาปที่ผิดกฏหมาย ได้นอนคุกแน่ครับ

DkTaP82
2nd August 2013, 16:49
ผมก็คิดแบบท่านแหละครับ และผมก็ไม่เชื่อด้วยซ้ำ บุญ บาป นรก สวรรค์ ไร้สาระในความคิดผม ที่ในยูทูปแสดงเกี่ยวกับเรื่องผิดศีลว่าผิดศีลข้อดีโดนไรก็ทำให้เรากลัวไงเลยไม่กล้าทำอีกแค่นั้นเอง ถ้า บุญ บาป มีจริง แล้วพวกโจร พวกขายยา ทำไมมันไม่โดนจับสักทีล่ะ

คิดแบบนี้ประมาทชัดๆ ถ้าการทำชั่วไม่มีผล คนเขาก็ไล่ฆ่ากัน ลักขโมย ล้างแค้นกัน ผลกรรมยังไม่ส่งผลตอนนี้หรอกครับ

ลองนึกภาพ คนที่เกิดมาโชคร้าย ทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ มักถูกเบียดเบียน ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกลูกหลง ชีวิตเจอะแต่เรื่องร้ายๆ นี่แหละคือผล... จากที่เคยทำมาในอดีตชาติ คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ให้มองดูโลกนี้ มีคนอยู่ดีกินดี มีคนลำบาก เพราะความไม่เท่าเทียมกันนั้นแหละ คือผลของกรรมในอดีตชาติ ประกอบเวรซึ้งมีต่อกันและกันที่มีกันมาช้านาน เมื่อคุณลากภพนี้ไปแล้ว หากจำคำผมได้ อยากให้คุณระลึกถึงบุญก็แล้วกัน ว่ามันจะช่วยคุณได้แค่ไหน หากระลึกไม่ได้ ของเหล่านี้ อย่าประมาทว่าไม่มี แต่ให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทดีกว่า

อยากพิสูนจ์ ง่ายๆ ปล้นธนาคารดูละกัน เห็นผล...:bye

Real men cry
2nd August 2013, 17:22
1.บุญ เส้นๆ หนึ่่ง บาปก็คือเส้นอีกเส้นหนึ่ง ทำบาป บุญไม่สามารถลบได้ครับ.

2.ผมมีความคิดที่แตกต่างจากชาวพุทธทั่วไป ตายแล้วไปไหน? ผมคิดว่าตายแล้วเราก็หายไปเลยครับ เหมือนคุณแค่หลับตา หลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีก...ไม่มีโลกใหม่ไม่มีนรกหรือสวรรค์

3.บาปและบุญใครคิด? ไม่ทราบครับ คล้ายๆ โดนไฟลวก คุณรู้่ว่า "เจ็บ" นั้นคือชื่อที่มีคนตั้งซึ่งไม่รู้ใครตั้ง อาจเป็นบางคนที่เรียกอาการปวดนั้นๆ ว่า "เจ็บ" คนที่ได้ยินต่อจากเขาก็เรียกว่า "เจ็บ" คนอื่นๆก็เรียกตาม ถ้าคนนั้นตั้งชื่อว่่า "สบาย" ปานนี้เราคงโดนไฟลวกแล้วพูดว่า "โอ้ย!..สบายจังเลย"

สุดท้ายนี้. ขอบคุณท่านที่นั่งหน้าคอม แหม่ๆ อุตส่าห์อ่านซะด้วย = =" "บุญ" และ "บาป" ไม่มีใครกำหนด พระศาสดาทุกท่านล้วนกำเนิดมาเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความมีอยู่ ท่านทรงสอนให้คุณเชื่อ เพื่อเกรงกลัวในการกระทำ ผมไม่อาจบอกได้เต็มปากว่า นรก,สวรรค์,กรรม เป็นยังไง.แต่เชื่อผมเถอะ อยูุ่ต่อไปโดยไม่ทำกรรมก็เพียงพอแล้ว.^^

FadeHeart
2nd August 2013, 17:28
ด้วยเหตุนี้แหละ ผมถึงไม่เชื่อเรื่องบาป เพราะมันไร้เหตุผลสิ้นดี

BoonTew
2nd August 2013, 17:32
มู้นี้มันคือมาม่าเจชัดๆ

ASSASSIN S
2nd August 2013, 17:49
*0* ผมพอจะเข้าใจในสิ่งที่ข้างบนบอก แต่ถ้าสมมตินะ สมมติว่า ทำการทดลองโดยยิงนิวเครียล้างโลกทำให้สิ่งมีชีวิตตายหมด(ยกเว้นแมลงสาบ) เราจะเกิดมาเป็นแมลงสาบ หรือไปเกิดดาวดวงอื่นใช่หรือไม่?

ก็คงจะอย่างนั้นแหละครับ ไม่เกิดเป็นแมลงสาบก็รอเป็นสิ่งมีชีวิดใหม่

samuan01
2nd August 2013, 17:50
สำหรับผมนะครับ กรรมคือการกระทำส่วนเราคือดวงจิตครับ การที่เราพิจารณาตัดสินสิ่งต่างๆ ก็เหมือนการเก็บบางอย่งไว้คล้ายๆกับเปลือก เช่นความรู้สึกเกลียด พอเราตายจิตนั้นก็จะพิจารณาความรู้สึกหรือกรรม ก่อนตายมาและส่งเราไปยังมิติที่เข้ากับกรรมนั้น แล้วก็ค่อยๆพิจารณาเปลือกชั้นต่อไป ก็เปรียบได้กับการใช้กรรม ไม่มีใครมาตัดสิน ไม่มีใครมากำหนด ทั้งหมดนั้นขึ้นกับตัวเราและสิ่งที่เราทำครับ

LuiseEX
2nd August 2013, 18:07
ความคิดผมนะครับ โลกถูกปกครองด้วยผู้ปกครองหลักๆใหญ่ทั้ง 4 ได้แก่ทาง พระพุทธเจ้า จีน ฮินดู พระเจ้า(คริสต์)

ถามว่าผู้ปกครองเหล่านี้มาจากไหน มากจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า(ขอใช้ว่า Kingdom of spirit ) ผู้กำหนดทุกอย่าง โลกเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการควบคุม และผู้ปกครองถูกส่งมาแยกย่อยในการดูแล
สังเกตุ ในคำสอนของทุกศาสนา จะไม่มีการก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ทั้งๆที่ก็รู้เห็นอนาคต รู้ว่าต้องมีศาสนาอื่นๆเกิดขึ้นมา แต่ผู้ปกครองถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าควรดูแลทวีปไหน ยุคของผู้ปกครองแต่ละคนใช้เวลากี่ปี

ดูได้จากเมื่อก่อน อารยธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะมายา แอตแลนติส ล้วนแต่นับถือเทพเจ้าต่างกันไป นั่นคือผู้ปกครองในยุคนั้นที่ถูกส่งมา คิดดูว่าอารยธรรมขนาดนั้น ที่สามารถค้นพบแสงเลเซอร์ และพลังจิต สูญหายเพียงข้ามคืน นั่นก็คือช่วงที่หมดยุคของผู้ปกครอง ทุกอย่างก็จะถูกล้างใหม่ เริ่มใหม่ ผู้ปกครองคนใหม่ก็จะมา

ไม่เชื่อก็ดูเอาละกันว่า ทำไมเทพเจ้า หรือศาสดาต่างๆ ไม่ยอมอยู่ในโลกเพื่อให้มนุษย์เห็น และเชื่อจนถึงปัจจุบันล่ะ

เพราะว่าเมื่อมนุษย์เชื่อในสิ่งใด ในศาสนาไหน ผู้ปกครองคนไหน เขาก็จะได้รับเข้าไปสู่โลกของผู้ปกครองนั้น
เช่น นับถือพุทธ คุณก็จะได้พบ สวรรค์ นรก ในแบบศาสนาพุทธ
นับถือคริส ก็ได้พบสวรรว์ ของพระเจ้า เป็นต้น

ถ้าคุณจะเอาพุทธศาสนามาอ้างในความเป็นจริง กับคนทั้งโลก ผมว่ามันไม่แฟร์ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ฝรั่งที่ไม่รุ้เรื่องพระพุทธเจ้า ต้องตกนรก หรือไม่มีทางนิพพานได้เลยตลอดไปหรือ ? มันไม่ใช่ครับ
ทั้งที่พระพุทธเจ้ารู้ว่า จะมีศาสนาอื่นเกิดมา แต่ก็ไม่ทรงก้าวก่ายผู้ปกครองคนอื่น แล้วทำไมพระพุทธเจ้า ไม่เกิดทวีปยุโรป แล้วเผยแพร่ที่อเมริกาล่ะ

เพราะคนแต่ละทวีป มีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน ในเอเชีย เป็นแบบละเอียดอ่อน ประณีต ส่วนฝรั่งนั้น คิดไว ทำไว กล้า ผู้ปกครองเลยเลือกแบบของตน เพื่อปกครองให้ง่ายที่สุด

(ศาสนาพุทธ มีรายละเอียดเยอะ เหมาะกับเอเชียที่ประณีต) (คริสต์ สอนกันตรงๆให้เชื่อ ให้ความรัก เพราะฝรั่งมักอยู่คนเดียวไม่ค่อยเอื้อเฟื้อต่อกัน เปนนักคิด นักทำ นักพัฒนา)

ผมเชื่อแบบนี้ สุดท้ายคนที่เชื่อในผู้ปกครองคนไหน ก็จะเข้ารับแบบนั้น พบนรถ สวรรค์ แบบนั้นไป นี่คือความเป็นเหตุผลที่สุด

เพราะนอกจากโลก ยังมีจักรวาล ดาวอื่นๆ มิติอื่นๆ ซึ่งมันยิ่งใหญ่และเหนือกว่าความเข้าใจของมนุษย์

Shanbo
2nd August 2013, 21:06
คือผมสับสนกับคำว่า บาป-กรรม มากเลยครับ

สมมุตินะ มีคนกำลังจะฆ่ากัน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมมีปืนในมือ คนคนนั้นเมายาบ้าหนัก จำเป็นต้องจับตายสถานเดียวเท่านั้น เพือช่วยชีวิตคน
ผมเลยจำเป็นต้องฆ่าเขา

-ผมช่วยคน ผมได้บุญ
-แต่ผมฆ่าคน ผมได้บาป

:sweat:sweat:sweat:sweat:sweat

ผมจะตกนรก หรือขึ้นสวรรค์ หรือมันจะหักล้างกันเหมือน 1-1=0 ?



แล้วอีกกรณี ถ้าผมไม่รู้จักศาสนา ไม่รู้จักเลยซักศาสนา แต่ผมเป็นคนดีมาก ดีสุดๆ ตายไปผมจะไปขึ้นสวรรค์ที่ไหน ? หรือผมชั่วสุดๆ แล้วตายไปผมจะตกนรกที่ไหน?
เพราะ สวรรค์กับนรกของศาสนาอื่นๆมันต่างกัน บรรยายไม่เหมือนกันทุกศาสนา ผมไม่เคยได้ยินพระพูดเลยว่า เจอฝรั่งในกระทะทองแดง หรือเจอนิโกในนรก

ข้องใจมาก มากที่มากที่สุด

บางทีผมอาจไม่ต้องการคำตอบ แค่อยากถามว่าทุกๆท่านคิดแบบผมบ้างไหม




อีกคำถาม


คำว่าบาปคืออะไร ใครเป็นคนคิดคนแรก ใครเป็นคนบัญญัติไว้ว่าทำแบบนี้ได้บาป เช่น ฆ่าสัตว์ ฆ่าชีวิตต้องได้รับบาป การผิดลูกผิดเมีย ดื่มสุราเมรัย ต้องได้รับบาป
ใครคิดค้นเรื้องนี้ ผมเรียนมานะว่าทำอะไรจะเป็นบาป แต่ผมไม่เคยได้เรียนเลยว่า ใครเป็นคนคิดค้นเรื้องบาป บุญ จะว่าพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่ เพราะที่เรียนมาน่าจะมีเรื่องของ บาป บุญมาก่อนหน้านั้นแล้ว

สมมุตินะ เราอยู่ในโลกที่การฆ่ากันไม่ผิด เหมือนกับ เสือ สิงโต ที่มันฆ่ากันได้เพื่อความอยู่รอด แล้วเราจะนิยามคำว่าบาปยังไงดี

แล้วถ้าสมมติว่านรกมีจริง ตามตำราที่ผมศึกษามา ในนรกมีท่าน พยายม คอยพิจารณาบาปของแต่ละคนและตัดสินว่าจะต้องชดใช้กรรมอย่างไรจึงจะสาสมกับบาปที่เราทำไป เราจึงถูกไปทรมาณต่างๆมากมาย ...... ทรมาณ??? การทำให้คนอื่นเจ็บปวดทรมาณมันก็ถือเป็นบาปอย่างนึง แล้วอย่างนี้ ท่านพยายมจะได้รับบาปหรือไม่?
แล้วการพิจารณาบาปเนี่ยต้องทำเป็นรายคน....คือตอนนี้่ประชากรไทยมี 60กว่าล้านคน วันนึงคนตายเยอะไม่รู้เท่าไร แต่รู้ว่าเยอะมาก การพิจารณารายคน มันจะทันกับคนที่ตายเหรอ ถ้าเกิดตายวันละ 500ร้อย ไม่ต้องยืนรอพิจารณาเป็นปีๆเลยเหรอ? หรือในนรกมีเครื่้องสแกนบาปอัตโนมัติ ใครตายก็เข้าเครื้องนี้แล้วสแกนบาปออกมาเลย ไม่จำเป็นต้องให้ท่านมาตัดสิน ......... แล้วถ้าการชดใช้กรรมเนี่ย มันต้องมีระยะเวลา แล้วในนรกมีนาฬิกาหรือปล่าว ถ้าสมมุติชดใช้กรรมหมดแล้ว แต่คนคุมลืมดูเวลา ไม่ต้องใช้กรรมฟรีเลยเหรอ แล้วจะได้รับการชดเชยยังไง

คือทุกวันนี้คิดเรื่องพวกนี้มาก คือจริงจังๆ แต่ไม่กล้าพูดกับคนอื่น กลัวหาว่าบ้า:eek:

โปรดใช้วิจารนญาณในการอ่าน


ถ้ามีเหตุที่ต้องทำบาป เราก็ต้องมาดูกันที่เจตนา แต่ยังไงก็บาปอยู่ดี เพราะเราปฎิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่เราทำคือการฆ่าหนึ่งชีวิต เพื่อเอาตัวรอด

บาป กับ บุญ เป็นสิ่งที่เอามา ผสม หรือ หักล้างกันไม่ได้ เปรียบเสหมือน น้ำกับน้ำมัน ที่ไม่สามารถรวมกันได้ แต่หาก ปริมาณน้ำเยอะกว่าน้ำมันเท่าใด โอกาส ที่ไฟจะลุกก็น้อยลงเท่านั้น ดังนั้น เราไม่สามารถทำบุญ เพื่อลบล้างบาปที่กระทำลงไปได้ แต่บุญที่เราทำนั้นสามารถช่วยลดหย่อนให้ กรรม นั่น ตามทันช้าลงแค่นั้นเอง เช่นนี้ ผลสุดท้ายเราก็ต้องได้รับ ผลกรรม ที่ได้ทำไว้ทุกผู้ทุกคน

ถ้าเราไม่ได้นับถือศาสนาใด แต่ทั้งชีวิตกอปรด้วยคุณงามความดี แสดงว่าผู้นั้นเป็นคนที่ถือมั่นในคุณะธรรมอย่างแท้จริง มาว่าที่เรื่อง นรก สวรรค์ ทุกศาสนา ล้วนพิสูจน์ไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านั้นยังถือว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ดังนั้น สิ่งที่ถูกต้อง และควรจะทำเป็นอันดับแรกก็คือ ยึดเหตุและผลเป็นหลัก อ้างอิงตามคำบอกกล่าวของนักวิทยาศาสตร์ ศาสนาส่วนใหญ่นั้น ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ จึงไม่ได้นับถือศาสนาใดทั้งสิ้น แต่ก็มีหนึ่งศาสนาที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์กลับมานับถือศาสนา นั่นก็คือศาสนาพุทธนั่นเอง เพราะศาสนาพุทธเป็นเพียงศาสนาเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลัก วิทยาศาสตร์ นั่นก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้า

ส่วนเรื่องต่อมา ผมไม่ขอตอบนะครับ ผมแนะนำให้ไปศึกษาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ในพระไตรปิฎก แล้วคุณจะทราบกระจ่างแท้ทุกอย่างครับ


เพิ่มตอบให้นิดนึงนะครับ ตามความเชื่อของผมนั้น นรก เวลาจะช้ากว่าโลกมนุษย์หลายเท่ามากครับ

AUSTIN
2nd August 2013, 21:19
"Everybody Wants to go to Heaven, But Nobody Wants to Die." ผมก็คิดแบบท่านครับตอนนี้ผมยึดหลักศาสนาพุทธแค่คำสอนที่เอามาใช้ในชีวิตเท่านั้นส่วนเรื่องพิธีกรรมอะไรต่างๆผมไม่ยุ่งละครับ ผมก็เชิงไม่มีศานานั่นแหละ ซึ่งเอาไปคุยกับใครก็โดนว่าขวางโลกทั้งนั้น แต่จำเป็นด้วยเหรอที่คนมีศาสนาจะเป็นคนดี คนเรานับถือศาสนาเพราะอะไร เพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะศาสนา หรืออยากใช้ศาสนาสุมหัวให้ตัวเองดูดีขึ้นแบบจอมปลอมกันแน่

Shanbo
2nd August 2013, 21:22
"Everybody Wants to go to Heaven, But Nobody Wants to Die." ผมก็คิดแบบท่านครับตอนนี้ผมยึดหลักศาสนาพุทธแค่คำสอนที่เอามาใช้ในชีวิตเท่านั้นส่วนเรื่องพิธีกรรมอะไรต่างๆผมไม่ยุ่งละครับ ผมก็เชิงไม่มีศานานั่นแหละ ซึ่งเอาไปคุยกับใครก็โดนว่าขวางโลกทั้งนั้น แต่จำเป็นด้วยเหรอที่คนมีศาสนาจะเป็นคนดี คนเรานับถือศาสนาเพราะอะไร เพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะศาสนา หรืออยากใช้ศาสนาสุมหัวให้ตัวเองดูดีขึ้นแบบจอมปลอมกันแน่


พวกพิธีกรรม ไม่ใช่คำสอนของพระพุธทเจ้าครับ เพราะฉะนั้น ศาสนาพุทธไม่ได้ให้ทำแต่อย่างใด แต่เป็นมนุษย์เราเองนี่แหละ เสริมสร้างปรุงแต่งขึ้นมาเองครับ

armakusarecord
2nd August 2013, 21:22
ความเชื่อหลอกเด็ก

Gu Pai!
2nd August 2013, 21:23
"การเกิดเป็นมนุษ์ครบ32นั้นยากมากกว่าการขึ้นสวรรษะอีก"

ถ้ามันเป็นยั่งงี้ เคยถามผมไหมว่าอยากเกิดรึป่าว??? ผมแค่ไม่อยากเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ผมไม่อยากเกิดมาเจอเรื่องปวดหัว ผมไม่อยากเกิดมาเจ็บ มาป่วย ไม่อยากเกิดมาเจอกับความผิดหวัง
สู้ให้ผม หายๆไปจากโลกเลย แบบหายไปเลย ในนรกก็ไม่อยู่ บนสวรรค์ก็ไม่อยู่ บนโลกก็ไม่อยู่ ไม่ดีซะกว่าหรอ????

สอบก็ตก เกิดมาก็ต้องเรียน ต้องแข่งขัน ต้องแย่งชิงกันไปกันมา ไม่งั้นก็อยู่บนโลกอย่าเป็นสุขก็ไม่ได้

แล้วที่บอกว่า "เกิดมาเพื่อใช้เวรใช้กรรม" ผมถามหน่อยเหอะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำกรรมอะไรไว้??? มาใช้กรรมที่ใครก่อ?? ผมหรอ?? แล้วเรื่องอะไร?? ก็ไม่รู้ = ="
ผมไปฆ่าคนหรือไงถึงได้เกิดมาเป็นคน = =" หรือชาติที่แล้วผมเป็นสัตว์แล้วไปกัดคนตายเลยเกิดมาเป็นคน = ="

\\\\\ จขกท. ก็เหมือนผม ผมเคยคุยเรื่องนี้กับแม่ โดนด่ายับเลย = ="

Pop_PeR
2nd August 2013, 21:25
บาปก็เป็นเพียงเเค่สิ่งยึดเหนี่ยว ขู่ให้ มนุษย์ไม่กระทำชั่ว บางคนก็ว่า ไร้สาระ

เเต่ ถ้าไม่เคยตาย ใครจะรู้ว่า บุญบาปมีจริง นรกสวรรค์มีจริง

ส่วนตัวผมหรอ ??? เรื่องบาปบุญ มีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถึงเเม้การทำดีจะต้องรอไปซัก 10 - 20 ปี รู้ไม๊ ความดีซักวันมันก็ต้องกลับมาหาตัวเรา

exodus
2nd August 2013, 21:29
บุญ-บาป เกิดมาจากความต้องการของมนุษย์นี่แหละ
ถ้าจะบอกว่าทำดีเพื่อขับเคลื่อนสังคม ทำไม่ดีคนในสังคมก็จะระหองระแหงกัน
มันไม่เป็นรูปธรรมหรอกครับ มนุษย์เรามันอยากได้อะไรที่จับต้องได้ หรือ "เข้าใจว่า" จับต้องได้
แล้วนึกดูว่าไอ้เรื่องบุญ-บาปมันมีมากันกี่พันปีแล้ว มนุษย์เรามันยังไม่ฉลาดขนาดที่จะนิยามอะไรแบบนั้นหรอกครับ
จนสมัยนี้มีคำกล่าวว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" เพราะสิ่งที่เรียกว่า บุญ-บาป มันชักจะไม่เป็นรูปธรรมที่แน่นอนซะแล้วในยุคโลกาภิวัฒน์
เมื่อมันไม่มีความเป็นรูปธรรมพอ มนุษย์ก็รู้สึกว่าตนนั้นขาดสิ่งตอบแทน

ทีนี้ประเด็นก็คือ คุณจะสนใจในบุญ-บาป หรือการขับเคลื่อนของสังคม
ถ้าคุณสนใจในบุญ-บาปมากกว่า คุณก็ไปหาไอ้พวก myth ของศาสนาต่างๆมาอ่านไว้ชักจูงจิตใจเพราะจริตของคุณมันชอบเรื่องแฟนตาซีอะไรแบบนั้น
แต่ถ้าคุณสนใจในเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมสังคม ก็มองในแง่ของการกระทำและผลกระทบต่อส่วนรวมไป
แต่ส่วนหนึ่งตามจริตของผมเอง ผมกลับไม่ได้มองว่าพวกที่คลั่งบุญหลงบาปเป็นคนดีอะไรนักหนา เพราะมันไม่ได้เกิดการการตกผลึกทางความคิดและจริยธรรมที่แท้จริง แต่มาจากการถูกชี้นำจากเหตุปัจจัยภายนอกให้ทำเพียงเพราะหวังในบุญ หรือหวาดกลัวในบาป แต่ก็นั่นแหละตราบใดที่เขาพยายามจะทำดีมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

Shanbo
2nd August 2013, 21:35
สำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องบาปนะครับ คุณลองเอามีดไปแทงใครสักคน นั่นแหละครับ บาปนี้มันแรง ก่อนอื่นเลยคือติดคุก

ยกตัวอย่างนะครับ ไม่ได้ให้ไปทำ

อีกอันคือ ทำความดี ใส่บาตร อย่างแรกที่ได้คือ ความสุขกายสบายใจ [แต่ถ้าในใจคิดอกุศลอยู่ ก็ไม่ได้อะไร]

อันนี้แนะนำให้ทำอย่างยิ่ง

Eikkew
2nd August 2013, 21:36
ถ้าในความคิดผม ความคิดผมมีสองอย่าง ถ้าเเบบอิงวิทยาศาสตร์ ตายไปก็เป็นเเค่สสารครับ
เเต่ถ้าเเบบเชื่อศาสนา ผมว่ามันเป็นเรื่องเล่า ให้ทุกคนเชื่อ ทุกศาสนา ศาสดาทุกองค์คงเป็นคนเดียวกันก็ได้ครับ
เเต่คนเล่าเเต่ต่างกัน เรื่องเลยบิดเบือน หรืออาจจะเเค่เป็นเรื่องเล่าที่เเต่งขึ้นก็ได้ครับ
เเล้วเเต่คนคิดครับ ผมเฉยๆกับเรื่องนี้ เเต่จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เชื่อ 70 ไม่เชื่อ 30
เเต่ยังไง ทำดีก็เป็นผลต่อตัวครับ :cool:

yunnn
2nd August 2013, 21:50
"การเกิดเป็นมนุษ์ครบ32นั้นยากมากกว่าการขึ้นสวรรษะอีก"

ถ้ามันเป็นยั่งงี้ เคยถามผมไหมว่าอยากเกิดรึป่าว??? ผมแค่ไม่อยากเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ผมไม่อยากเกิดมาเจอเรื่องปวดหัว ผมไม่อยากเกิดมาเจ็บ มาป่วย ไม่อยากเกิดมาเจอกับความผิดหวัง
สู้ให้ผม หายๆไปจากโลกเลย แบบหายไปเลย ในนรกก็ไม่อยู่ บนสวรรค์ก็ไม่อยู่ บนโลกก็ไม่อยู่ ไม่ดีซะกว่าหรอ????

สอบก็ตก เกิดมาก็ต้องเรียน ต้องแข่งขัน ต้องแย่งชิงกันไปกันมา ไม่งั้นก็อยู่บนโลกอย่าเป็นสุขก็ไม่ได้

แล้วที่บอกว่า "เกิดมาเพื่อใช้เวรใช้กรรม" ผมถามหน่อยเหอะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำกรรมอะไรไว้??? มาใช้กรรมที่ใครก่อ?? ผมหรอ?? แล้วเรื่องอะไร?? ก็ไม่รู้ = ="
ผมไปฆ่าคนหรือไงถึงได้เกิดมาเป็นคน = =" หรือชาติที่แล้วผมเป็นสัตว์แล้วไปกัดคนตายเลยเกิดมาเป็นคน = ="

\\\\\ จขกท. ก็เหมือนผม ผมเคยคุยเรื่องนี้กับแม่ โดนด่ายับเลย = ="
ถ้าคุณมีวัยมากกว่านี้ คุณจะรับรู้คำถามเหล่านี้ได้และจะเข้าใจมันเอง "เกิดมาใช้เวรกรรม" มันจะคิดออกมาตอนชีวิตคุณกำลังเจอเรื่องแย่ คุณเกิดมาทำไหมจะมีคนมาบอกว่าเกิดมาใช้เวรกรรม หากมีคนมาบอกว่าชีวิตคุณเกิดมาไร้ความหมายเพราะปลายทางคุณก็ตายอยู่ดี ถ้าคุณอายุยังน้อย ปัญญาและประสบการณ์ยังไม่เยอะ คุณจะไปหาทางตายเลย เพราะชีวิตคุณมันไร้ความหมาย ศาสนาสอนให้คุณมองชีวิตอย่างมีความหมาย สอนให้สัตว์ที่เรียกว่า มนุษย์ อยู่ด้วยกันในหมู่คนมากอยู๋ได้โดยไม่เบียดเบียนกัน(ปล้น..อยากได้ของคนอื่น ฆ่า..อารมณ์โกรธ ข่มขืน..ตัณหา) จะสอนคนหมู่มาก จะให้คนหมู่มากอยู่กันได้มันจะต้องใช้ กฎหมาย ในการควบคุมคนหมู่มากที่อยู่ร่วมกัน ดังนั้นศาสนา เป็นกฎหมาย(ทางนามธรรม)ฉบับแรกของโลก เข้าใจไหมครับ

--151--
2nd August 2013, 23:19
ผมเป็นคนนึงที่คิดแบบคุณเเต่ผมถือพุธท พุธทจริงๆที่ไม่ใช้เพียงความเชื่อ
ถามว่าอะไรวัดความบาป สำหรับผมคือความรู้สึก หากเราทำไปเเล้วเรารู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลกับผลที่จะตามมา 100% เรากำลังทุกข์ เเต่สิ่งที่พ่วงมาอีกคืออาจจะบาป
เคยมีคนบอกพูดเพ้อเจ้อบาป ผมก็ไม่ได้สนใจเพราตอนผมอยุ่กับเพื่อนผมพูดเพ้อเจ้อไร้สาระเพื่อนผมหัวเราะเพื่อนผมมีความสุข
เคยมีคนบอกพูดคำหยาบ(กู***)เเล้วบาป ผมก็พูดกู***กับเพื่อนปกติ เพราะผมคิดว่าคำหยาบคือคำที่เสียดเเท้งทำร้ายความรู้สึกของผู้ฟัง ท่าคำว่าหยาบคือคำว่ากู*** สัต คว เเล้วคนอิสานที่เขาเรียกควายว่าคว. เขาจะไม่บาปไปด้วยหลอ เเล้วฝรั่งละมันก้ไม่ได้พุดภาษาไทยก้ไม่บาปสิ ดังนั้นผมจึงคิดว่าจะบาปไม่บาปขึ้นอยู่ที่ความคิดของตน(จำเป้นที่จะต้องถกถามในกลุ่มคนด้วยว่าที่เราคิดมันถูกหรือผิดด้วยเพราะท่าเราคิดว่าถูกคนเดียวคนอื่นว่าผิดมันก็ไม่ใช่)
ถึงจะรู้เเล้วว่าบาป หรือบุญ มันไม่มีอะไรกำหนดได้เเน่ชัด เเต่มันก็คือสิ่งที่เราไม่ควรทำ
ส่วนนรกสวรรค์ เเล้วเเต่คุณจะคิดนะเเต่ลองคิดดู
ท่าเราไปยืมเงินคนอื่นเขามา สิ่งที่สมควรเกิดคือเราต้องไปคืนเงินเขาใช่ไหม
ท่าเราทำงานส่งทันเวลา เราควรจะได้คะเเนนเต็มใช่ไหม
เเล้วท่าวันนึงเราไปฆ่าสัตว์ตัวนึงละ สิ่งที่มันสมควรตามมาจิงๆคือเราต้องชดใช้ใช่ไหม
ท่าเราไปแอบทำอะไรที่มันไม่ดีมา เราก้ควรที่จะชดใช้การกระทำของตน
มันเป็นกฎที่สมควรเกิดเเละมีอยู่เเล้วไม่เห็นจะต้องไปคิดมากตรงไหน


สุดท้ายเรื่องบัญชีท่าคุณไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ผมก้ไม่มีความจำเป้นที่จะต้องบรรยายอะไรหรืออะธิบายอะไรให้คุณฟังมากมายเพราะ ใจ ของคุณมันบอกคุณอยู่เเล้วว่าคุณไม่เชื่อ
ฝันดีคับจุ้บๆ

supercaramel
2nd August 2013, 23:34
เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้ากำลังออกบิณฑบาต
เมีชายคนหนึ่งถูกโจรวิ่งไล่ถือมีดมาจะฆ่าให้ตาย
ชายคนนั้นวิ่งผ่านพระพุทธเจ้าไป แล้วไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้
โจรวิ่งตามมา พบพระพุทธเจ้ายืนอยู่ จึงถามว่า "ตั้งแต่ที่ท่านยืนอยู่ตรงนี้ ท่านเห็นชายคนหนึ่งวิ่งผ่านมาหรือไม่"
พระพุทธเจ้าคิดในใจ ถ้าขืนบอกไป ชายคนนั้นก็ต้องตาย ถ้าโกหกก็ไม่ได้อีก ทำอย่างไรดี
พระพุทธเจ้าจึงถอยหลังมาหนึ่งก้าว แล้วบอกว่า "ตั้งแต่เรายืนอยู่ตรงนี้ เรามองไม่เห็น"

:) แล้วแต่จะคิดน้าาา

Hellraizer
3rd August 2013, 00:07
ก็เหมือนกับยุคโลกกลม-แบนนั่นแหล่ะครับ คนในยุคนั้นเชื่อว่าโลกแบน และก็คงจะพูดเหมือนกับคนสมัยนี้ว่า "ใครพิสูจน์ได้ล่ะ"
ยังมีสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้อีกมากกว่า 99% ในจักรวาลนี้ พึงตระหนักเอาไว้เสมอว่า "สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่"
คิดอะไรแบบรอบด้านจะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง และจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ ถ้าเกิดมีจริงๆขึ้นมาน๊ะ ^^ ..

Shanbo
3rd August 2013, 00:13
ก็เหมือนกับยุคโลกกลม-แบนนั่นแหล่ะครับ คนในยุคนั้นเชื่อว่าโลกแบน และก็คงจะพูดเหมือนกับคนสมัยนี้ว่า "ใครพิสูจน์ได้ล่ะ"
ยังมีสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้อีกมากกว่า 99% ในจักรวาลนี้ พึงตระหนักเอาไว้เสมอว่า "สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่"
คิดอะไรแบบรอบด้านจะดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง และจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ ถ้าเกิดมีจริงๆขึ้นมาน๊ะ ^^ ..

ความคิดเห็นนี้ ถึงจะสั้น ๆ แต่ก็ ชัดเจนที่สุดเท่าที่ผมอ่านมา แนะนำให้อ่านเม้นนี้่เลยครับ

TAnwa1219
3rd August 2013, 00:48
เท่าที่เข้าใจคือ
บาปคือ กรรมชั่ว บุญคือ กรรมดี เราจะรู้เองว่าอันไหนดีไม่ดี (อันนี้จริง มันเหมือนสันดานที่แยกแยะได้ว่าไหนดีไม่ดี เรื่องที่กล่าวมา ยิงโจรบาปแน่ ช่วยคนก็ได้บุญ แล้วไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหรอ ลองคิดดู) กรรมคือการกระทำ กรรมดี กรรมชั่ว ศาสนาพุทธสอนว่า เราทำกรรมอะไรไว้จะต้องได้รับกรรมนั้นอาจจะชาติภพนี้หรือชาติภพหน้า สำหรับคนทั่วไป บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ตายไปก็ชดใช้กรรม หรือหากเกิดแล้วกรรมก็ยังติดตัว กรรมดีส่งผลดี กรรมชั่นส่งผลร้าย แต่ถ้าสมเร็จเป็นพระอรหันต์ ยกตัวอย่างเช่น องคุลีมาล ท่านมีบุญอยู่แล้ว แต่มาทำบาป บาปก็จะคอยขัดขวางไม่ให้ท่านสำเร็จอรหันต์ และท่านยังโดนชาวบ้านทำร้าย ถึงจะสำเร็จเป็นอรหันต์กรรมก็ยังไม่หาย จนกว่าจะนิพพาน พ้นจากวงเวียนกรรมนั่นเอง


สำหรับผม พระพุทธเจ้า สอนให้คนทำดี ละเว้นชั่ว ไม่ได้สอนให้ทำบุญ กลัวบาป อย่ากลัวที่จะทำบาป แต่จงไม่ทำเพราะรู้ว่ามันไม่ควร
ผมเคารพท่านเช่นดังอาจารย์ อาจารย์ที่สอนการกระทำ การกระทำที่จะบ่งบอกถึงตัวเรา เป็นตัวเรา และด้วยเหตุนี้ศาสนาพุทธจึงเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตัวผม

kurolykan
3rd August 2013, 00:49
ความคิดเห็นนี้ ถึงจะสั้น ๆ แต่ก็ ชัดเจนที่สุดเท่าที่ผมอ่านมา แนะนำให้อ่านเม้นนี้่เลยครับ

อืมเห็นด้วยๆ เป็นแนวคิดที่ Play Safe ดี ฝากถึงคนที่ชอบท้าให้พิสูจน์นิดหน่อยนะครับ

ไอสิ่งที่เป็น ปัจจัตตัง หรือ ที่แปลกันเป็นไทยว่า รู้ได้เฉพาะตนนั้น สิ่งเหล่านี้คุณจะพิสูจน์ให้เขาเห็นได้ก็ต่อเมื่อทำให้เขาผ่านมันมาแล้วเท่านั้น หากใครยังนึกไม่ออก ลองพยายามอธิบาย ว่า สาหร่ายทะเล กับ ไก(สาหร่ายน้ำจืดที่โตในน้ำเชี่ยว) รสชาติต่างกันยังไง ให้คนที่ไม่เคยกินดูสิ คุณจะพบว่า ให้ตายยังไง ถ้าเขาไม่เคยลองกิน ก็ไม่มีทางเข้าใจถูก 100% ได้เลย แต่ในเรื่องธรรมะ จะยากขึ้นไปอีก เพราะบางอย่างมันไม่ได้ใช้แค่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 มาพิสูจน์

พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้มากำหนดกฏแห่งกรรมนะครับ ท่านแค่ไปค้นพบมันก็เท่านั้นเอง

Mcarmy
3rd August 2013, 00:57
บาปบุญ มีจริงครับ แต่ไอ่ ขึ้นนรก ตกสวรรค์นี่ไม่มีจริงหรอกครับ

บาปคือ ความละอายใจและการถูกลงโทษด้วยอุบัติเหตุและมนุษย์ตัดสิน บุญคือ สิ่งที่ทำแล้วเรารู้สึกสบายใจ เช่นช่วยคนแก่ข้ามถนน เราจะได้รู็สึกว่าเราก็มีดี

ตกนรก ขึ้นสวรรค์ คืออะไร คือสิ่งที่คนรุ่นหลังมีความเชื่อโบราณ เช่น โรคภัยเกิดจาก ผีหรือพระเจ้าลงโทษ

คนรุ่นเก่าเค้าไม่มีเทคโนโลยีในการหาเหตุและผลตามหลักฟิสิกส์ และผนวกเข้ากับศาสนาที่ว่าด้วยการาสอนมนุษย์ให้เป็นคนดี

ฉะนั้น ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นคนบอกว่า ทำดีขึ้นสวรรค์ ทำชั่วตกนรก แสดงว่าท่าน

หลอกเราให้กลัวว่าทำชั่ว ตกนรกต้องโดน เหล็กร้อนที่เดือดจนเหลว กรอกปาก เพราะดื่มสุราเมไร

โดนเตารีดร้อนๆ ทาบมือให้เนื้อหนังหลุดลอกจนไหม้เกรียม เพราะลักทรัพย์ (แต่ผมว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าหรอกที่มานั่งบอก กฏแห่งกรรม พระพุทธเจ้าเป็นคนฉลาดเหมือนมาจากอนาคต)

และสุดท้ายนี้ผมอยากจะบอก จขกท. ชีวิตมันเกิดมาได้แค่ครั้งเดียว จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ

onizuka0035
4th August 2013, 04:46
บาปคืออะไร? ใครตัดสิน?
จิตสำนึกของ***

moochote
4th August 2013, 07:18
ผมจะลองเปร๊ยบเทียบเท่าที่ผมเข้าใจให้ฟังนะครับ (พุทธนะครับ)
บาป คือ กรรม ดำ
บุญ คือ กรรม ขาว
ในทุกภพที่มีสัตว์อาศัยอยู่ จะมีการกระทำ กรรม ต่างๆทั้ง ดำ และ ขาว และการที่สัตว์ทำทั้งกรรม ดำ และ ขาว สลับกันไปมา ก็เพราะว่ามันเป็นธรรมชาติ ( อย่าลืมนะว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ )
และขณะที่สัตว์กระทำกรรมทั้งดำและขาวนั้น ธรรมชาติของกรรมนั้นหลังจากทำแล้วจะมีผลตามมา กรรมดำ ให้ผล เป็นความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ ส่วนกรรมขาว ให้ผลเป็น ความสบายกาย สบายใจ เป็นสุข เพราะฉะนั้น นรกมีก็เพราะเราสร้างเหตุ คือ กรรมดำ สวรรค์มีก็เพราะ เราสร้างเหตุคือกรรม ขาว ทั้งสวรรค์และนรกเป็น ภพ อย่างหนึ่ง และไม่ได้มีแค่นั้น 2 ภพ มีที่ที่รองรับสัตว์อีกมาก แล้วแต่การกระทำ สัตว์ทั้งหลายต่างมีการกระทำที่ต่างกัน ก็เลย วนไปวนมา ในภพทั้งหลาย ไม่มีที่สิ้นสุด หาเบื้องต้นไม่ได้ เพราะอะไร เพราะมันคือธรรมชาติ

๛KID1412๛^__^
4th August 2013, 14:11
สมมุตินะ มีคนกำลังจะฆ่ากัน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ผมมีปืนในมือ คนคนนั้นเมายาบ้าหนัก จำเป็นต้องจับตายสถานเดียวเท่านั้น เพือช่วยชีวิตคน
ผมเลยจำเป็นต้องฆ่าเขา
ทั้งสองอย่างเลยครับ แต่จะไม่หักล้างกัน คุณได้บุญจากการช่วยชีวิต คุณได้บาปจากการฆ่าคนโดยเจตนา ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรดี? ก็ต้องคิดให้ลึกซึ้งและตัดสินใจให้ลึกซึ้งกว่าการให้มันจบลงอย่างนี้ครับ

คำว่าบาปใครกำหนด? ถ้าไม่นับถือศาสนาแล้วตายไปจะเป็นยังไง?
ศาสนาไม่ได้สร้างสวรรค์ สร้างนรกแล้วมาพูดให้เราฟัง แต่ศาสนาบอกว่ามีนรก มีสวรรค์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ศาสนาบอกไปเนี่ย อย่างไหนเป็นความจริงที่สุดกันแน่ ซึ่งทั้งสามศาสนาสอดคล้องกันบางส่วนนะในเรื่องนี้ แต่ผมว่าถ้าตายไปก็รู้ได้เอง

สมมุตินะ เราอยู่ในโลกที่การฆ่ากันไม่ผิด เหมือนกับ เสือ สิงโต ที่มันฆ่ากันได้เพื่อความอยู่รอด แล้วเราจะนิยามคำว่าบาปยังไงดี
ฆ่ากันเพื่อความอยู่รอดก็บาป แต่ช่วยไม่ได้เมื่อไม่ฆ่าก็จะตายเสียเอง ผลบาปก็ส่งผลในภพชาติต่อๆมาให้เราถูกฆ่าบ้าง ไปฆ่าเองบ้าง แล้วก็ถูกฆ่าอีก

ยมบาลล่ะ บาปไหม?
ไม่แน่ใจครับ เรื่องนี้ผมไม่ได้ศึกษามามาก แต่คิดว่าก็บาป เหมือนเป็นหน้าที่ของผู้พิพากษา แต่ในเมื่อถูกกำหนดมาก็ต้องทำตามหน้าที่ แล้วก็ชดใช้กันต่อไป

ปริศนาอื่นๆ ใครกำหนด?
ธรรมชาติ เราไม่มีทางที่จะหยั่งรู้ได้ง่ายๆเลยถ้าใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว กลไกของธรรมชาติกำหนดให้ทุกสิ่งทุกอย่างซับซ้อนมากๆ ไม่รู้ว่าทำไม ไม่รู้ว่าจุดกำเนิดคืออะไร แต่เราก็รู้ว่ามี รู้ว่าโหดร้าย และมีผู้ชี้ทางให้เราออกไปจากสิ่งนี้ได้แล้ว(พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)

ปัจจุบันก็ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ รู้แค่ว่าทำดีมันต้องได้ดี หลายครั้งที่คนทำดีท้อแท้เพราะไม่ได้ดีกับซวยยิ่งกว่าเก่า นั่นก็เพราะกรรมาเก่าที่ผมยกไปว่ามันบาปทั้งหมดนั่นแหละ ก็ทำใจยอมรับซะ จะได้ไม่ทำให้จิตใจแย่ลง แล้วก็สู้ทำดีต่อไป ถ้าใครไม่อยากจะอยู่ในนี้ก็ลองทำตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านแนะนำครับ ฝึกจิตทำสมาธิอะไรก็ว่าไป(เนี่ยพอผมพูดถึงช่วงนี้มันจะมีคนหาว่าบ้าละ) แต่ผมเคยทำมาผมว่าได้ผลจริงนะครับ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร จะลบหลู่ก็ไม่เป็นไร มันเป็นสิทธิของแต่ละคน

jomemy
4th August 2013, 14:17
บาป และ บุญ ศาสนา มนุษย์ อุปโลกน์ ขึ้นมา เองทั้งนั้น !

BoonTew
4th August 2013, 14:53
ความหลากหลายของลักษณะทางสังคม มันเป็นจุดเด่นของโฮโมเซเปียนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นสังคมใหญ่ยิ่งต้องมีความขัดแย้งแตกต่างเป็นเรื่องธรรมดา

ถ้ามองมนุษย์เราในฐานะสัตว์ชนิดหนึ่ง เราถือว่าประสบความสำเร็จในการดำรงเผ่าพันธุ์

ตั้งเป้าไปที่ความต้องการพื้นฐานของสัตว์ พระเจ้าของใครของมัน เน้นกิน อยู่ สืบพันธุ์ก็พอแล้วม้างงงงง พระจ้ง พระเจ้า ศาสนาปาหี่เลิกศรัทธาไปเล้ย

โฮโมเซเปียนจงเจริญ

alcacia
9th August 2013, 14:38
ผมสงสัยว่า เวลาตายไปแล้ว จะอยู่บนสวรรค์/นรก เป็นแสนเป็นล้านปี แล้วคนตาย มีทุกวัน อะสมมติ ตายสักวันละแค่ 100คน 1ปีมี 365วัน ก็ตายไป 36500คนละปีนึง แล้วสักแสนปีนี่ จะเยอะขนาดไหน มันเป็นที่ที่ไม่มีวันสิ้นสุดแบบจักรวาลหรอ? ใครมีหน้าที่ดูแล คนหลายล้านล้านคน ใครเป็นคนดูแล ใครจะหมดกรรมตอนไหน ผมยังสงสัยๆ

NCIS{Fc}
9th August 2013, 14:47
ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆละกัน สมมุติคุณขโมยเงินแม่ของคุณมา พอแม่จะมาคุยกับคุณทีไรคุณก็จะกลัวและทำอะไรไม่ถูก ถึงแม่จะไม่รู้ว่าคุณขโมยเงิน แต่ก็ยังรู้สึกเป็นทุกข์

สรุป บาปก็คือความรู้สึกละอายต่อความผิดที่คุณกระทำลงไปนั้นเอง

GuY_NoOpPeR
9th August 2013, 14:58
เอิ่มม มม นิทามเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ซื้อของเเท้เป็นพระ โหลดของเถื่อนเป็นมาร /// เผ่น นน น ฟิ๊ววว ว วว:dance

jengdexinw
9th August 2013, 15:26
เคยคิดเช่นกันครับ แต่ปัจจุบันเลิกคิดไปแล้วละครับเพราะผมคิดต่ออีกว่า ของแบบนี้ไม่สามารถวัดกันเป็นค่าได้ไม่ว่าจะทําดีหรือชั่ว ถ้าเกิดผมช่วยคนบริสุทธิ์ได้โดยที่ต้องรีบฆ่าคนชั่วที่จะทําร้ายเขานั้น

ถ้าเป็นผมขอกล่าวเลยได้ว่า ไม่กลัวที่จะตกนรกหรือจะขึ้นสววรค์ "โลก" ให้สิ่งที่ถูกต้องมาตั้งแต่แรกแล้ว อะไรดีไม่ดี ตัวเราเองย่อมรู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเราเองคิดว่าสิ่งที่ทํามันดีและถูกต้องโดยที่ไม่ทําให้คนอื่นเดือดร้อนแค่นั้นก็พอ

หรือเป็นการช่วยคนอย่างไรถ้าเราทําพลาดพลั้งหรือฆ่าคนชั่วเพื่อปกป้องคนดีอย่างท่าน จขกท. ว่ามา แน่นอนว่าถ้าเป็นผมก็คงต้องไว้อาลัยกับเขาเช่นกันเพราะเขาก็เป็นสิ่งมีชิวิตเหมือนกัน...ถามว่าจะไปที่ไหนเมื่อตายในเมื่อเราฆ่าคน


เรื่องนี้ผมคงไม่อยากจะคิดสักเท่าไหร่ ปีหนึ่งเข้าวัดไม่ถึง 3ครั้ง ทําดีก็ทําเท่าที่ว่ามันดีได้ กิเลศมันมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนขึ้นอยู่กับว่าใครจะระงับมันได้ดีกว่าแค่นั้นเอง แต่ที่สําคัญที่เราไม่ควรมองข้ามคือการปล่อยวางกับหลายๆสิ่งเพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้วในยุคสมัยปุจจบันและจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

เพียงใจของเรายังอยู่กับความถูกต้องแค่นั้นมันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรือไม่ว่าเราจะต้องตกนรกหรือขึ้นสววรค์มันก็ไม่จําเป็นกับผมสัเท่าไหร่ ทุกวันนี้แค่เพียงได้มีชีวิตอยู่บนพื้นโลก ได้เกิดมามีพ่อและแม่ มีคนสอนเรา

มีคอมให้เล่นมีข้าวให้กิน มีเพื่อนให้คุย

สิ่งเหล่านี้คือความสุขที่เราได้มา ถามว่าใครจะตัดสินเราเมื่อกระทําผิด ส่วนตัวผมก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างกํ้าๆกึ่งๆ สุดท้ายแล้วคนเราต่างมีความคิดที่แตกต่างกันไปคนละแบบผมเชื่อว่าหลายๆความคิดสามาราถสร้างคนทําให้มีสติได้
คิดได้หลายๆยอ่างครับ

ถึงกระนั้นแล้วถ้าเรารู้ข้อเท็จจริงของผลบุญหรือกรรมแล้ว คิดว่าเราจะทําอะไรได้บ้าง หรือเราควรจะทําอย่างไรต่อ มันอาจจะเป็นสิ่งที่คํ้าจุ้นโลกที่ทําให้มนุษย์อยู่ด้วยกันอย่างสันติจนถึงทุกวันนี้ยังไงละครับ

แม้มนุษย์จะเป็นคนฆ่าสัตว์และมีแหล่งอาหารมากมายให้เราได้เลือกซื้อเลือกกินกันนั้นอาจจะเป็นบาปก็ได้แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีเพราะมนุษย์ตอนนี้เป็นสัตว์ประเสริฐที่เป็นผู้อาศัยในโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ไม่ว่าจะมีศาสนาหรือไม่มีก็ตาม ตายไปยังไง จะไปไหนก็ไปกัน ผมไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะได้ไปโผล่ไหนแต่ผมมีความสุขกับชีวิตที่ใช้อยู่ในตอนนี้ที่สุดครับ^^ ปล.อย่าดราม่าใส่ตรูน่ะ

peenudnom
9th August 2013, 15:35
การทำเรื่องไม่ดีทำให้ทุกข์ใจเรียกว่าบาป..การทำดีทำให้เรามีความสุขใจเรียกว่าบุญ ครับ ลืมไปคนที่ตัดสินก็คือตัวเราเอง เลือกเอาว่าจะทำบุญหรือทำบาป

[Never]
9th August 2013, 19:44
คิดแบบนี้ประมาทชัดๆ ถ้าการทำชั่วไม่มีผล คนเขาก็ไล่ฆ่ากัน ลักขโมย ล้างแค้นกัน ผลกรรมยังไม่ส่งผลตอนนี้หรอกครับ

ลองนึกภาพ คนที่เกิดมาโชคร้าย ทำอะไรแล้วไม่ประสบความสำเร็จ มักถูกเบียดเบียน ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกลูกหลง ชีวิตเจอะแต่เรื่องร้ายๆ นี่แหละคือผล... จากที่เคยทำมาในอดีตชาติ คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ให้มองดูโลกนี้ มีคนอยู่ดีกินดี มีคนลำบาก เพราะความไม่เท่าเทียมกันนั้นแหละ คือผลของกรรมในอดีตชาติ ประกอบเวรซึ้งมีต่อกันและกันที่มีกันมาช้านาน เมื่อคุณลากภพนี้ไปแล้ว หากจำคำผมได้ อยากให้คุณระลึกถึงบุญก็แล้วกัน ว่ามันจะช่วยคุณได้แค่ไหน หากระลึกไม่ได้ ของเหล่านี้ อย่าประมาทว่าไม่มี แต่ให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทดีกว่า

อยากพิสูนจ์ ง่ายๆ ปล้นธนาคารดูละกัน เห็นผล...:bye


สำหรับผมมันก็แค่ความคิดของพวกขี้แพ้ !
ทำดีได้ดี ทำชั่วแล้วจะได้ชั่ว ตัดขาคนอื่นขาตัวเองจะขาด
ทำสิ่งไม่ดี ชีวิตเราจะแย่ลง ดูยังไงมันก็แค่คำขู่

rockblood39
9th August 2013, 20:28
เท่าที่อ่านมามักจะมีพวกที่แบบ ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ประมาทเรื่องพวกนี้ถือว่าบาป อยู่ๆก็บาปซะงั้น อย่าง จขกท.ที่ถามอ่ะครับ เขาถามเพราะความอยากรู้ แต่ดันมีคำตอบนึงด่าด้วยความเมามัน คุณเป็นพวกตาบอดที่ไม่ให้สอนให้มองเห็นได้บลาๆๆๆๆ
ถ้าคุณนับถือพุทธจริงๆคุณผิดหลักพุทธอย่างแรง

บาป บุญ เรียกรวมๆว่า กรรมครับ กรรม แปลว่าการกระทำ ครับ กรรมคือการกระทำที่ก่อให้เกิดที่ดีและแย่ กรรมดีหรือบุญนั้น ทำให้เกิดผลดีอาจจะกับเราหรือคนรอบตัว ครับตรงข้ามกับบาปหรือกรรมชั่วนั่นเอง ทั้งหมดเหล่านี้เกิดจากการกระทำของเรา
การที่เราฆ่านู่นนี่แล้วสมมติว่าคนที่ตายไม่ทุกข์ ก็จะเกิดบาปกับตัวเราเช่น เราจะรู้สึกไม่ดีครับ อะไรประมาณนั้น และอาจจะมีบาป(ในที่นี้คือความเสียใจ)กับคนรักของผู้ตายก็ได้ เขาก็จะคิดแค้นคุณ(ใช่ครับ แค้นก็เป็นบาปครับ) เขาอาจจะมาจองเวรคุณ(ทีนีบาปหนักเลย) และจจองเวรกันไปจนกว่าจะจบ ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องภพชาติเพราะดูจะนอกเหนือการสัมผัสได้ของมนุษย์เรา

การที่คุณไม่รู้จักศาสนาคุณก็ยังรู้สึกเสียใจ ไม่สบายใจ แค้น บลาๆๆๆ อะไรพวกนี้อยู่ดีครับ ศาสนาเป็นแค่เครื่องมือให้ความหมายของคำว่า กรรม บาป บุญ ว่ามีความหมายอย่างไรตามศาสนานั้น
บาปบุญไม่สามรถหักล้างกันได้ครับ ตอนแรกผมก็คิดแบบคุณ แต่ความจริงคือว่า ผมจะสมมติว่า บาปคือเกลือ แล้วบุญคือน้ำ เมื่อเกลือเค็มมากคือบาปมาก แต่เมื่อเราทำดีซึ่งก็คือน้ำ น้ำน้ำเทลงไปผสม เกลือก็จะจางลงและเค็มน้อยลง แต่ไม่ได้หายเค็ม พูดง่ายๆเลยคือ มันลดทอนความรุนแรงเฉยๆครับ(อันนี้เคยฟังจากพระ)

ก็อย่างที่บอกแหละครับ บาปเป็นคำที่ศาสนาพุทธใช้เพื่อนเรียกเหตุผลที่ก่อให้เกิดทุกข์
เขาบอกว่าพญายมไม่บาปอ่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ ท่านไม่ได้ลงมือทำเอง ท่านเป้นเทวดานะตามที่เขาเล่ากัน ผมไม่รู้ผมไม่ชอบเรื่องพวกนี้ดูหลอกเด็ก - -

อีกอย่างฝากบอกไว้ถึงพวกคลั่งพระพุทธศาสนาขนาดหนักโดยที่ไม่ได้เข้าใจถึงแก่นแท้เลย ว่ามันเป็นยังไง แล้วก็ด่าทุกคนที่พยายามจะถามที่พยายามจะหาคำตอบหรือมีข้อกังขากับศาสนาพุทธ หากปัจจุบันพระพุทธเจ้ายังอยู่ พวกคุณจะสั่งสอนใหม่อย่างแน่นอน ปัจจุบันศาสนายังเป็นศาสนาไม่เคยเปลี่ยนแปลง แก่นแท้ไม่เป็นเปลี่ยน แต่ภายนอกถูกคนนำมาใช้เป็นเครื่องมือทำชั่ว มีคนทำให้มันดูแย่ แต่แก่นแท้มันคือหลักคำสอนที่ทำให้ไม่มีทุกข์ที่ใช้ได้จริงครับ

ปล.แล้วก็เลิกพูดเรื่องปาฏิหารย์เว่อร์อลังการซะ ดูหลอกเด็กอ่ะ -*-

jimwar
9th August 2013, 21:21
กระทู้แบบนี้อีกล่ะ
ผมจำได้เสมอตอนเรียน ชั่วโมง พุทธศาสนา พระพุทธเจ้าแบ่งดอกบัวไว้ 4 เหล่า

เหล่าบัวใต้โคลนตม เหล่าคนพวกนี้เ็ป็นผู้สอนยากไม่ว่าจะด้วยฐิติ หรือความเขลาไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าภึงสารที่อยากจะบอกได้
เหล่าบัวใต้น้ำ เหล่าคนพวกนี้ลดฐิติในใจลงได้ พยายามเข้าหาความรู้ ถึงจะไม่ฉลาดแต่ก็สามารถเข้าใจสารได้แม้จะใช้เวลานานพอสมควร
เหล่าบัวปิ่มน้ำ เหล่าคนพวกนี้ไม่มีฐิติในใจ เมื่อได้ฟังได้ฝึกฝนนิดหน่อย ก็จะเบ่งบาน
เหล่าบัวพ้นน้ำ เหล่าคนพวกนี้ไร้ซึ้งฐิติในใจ เมิ่อได้ฟังก็เข้าใจโดยรวดเร็ว พร้อมจะเบ่งบานเมื่อต้องแสงอาทิตย์

เรื่องที่ว่าด้วยกฎของกรรมเป็นเรื่อง คู่ธรรมชาติไม่สามารถแยกออก เสมือนกับกฏแรงโน้มถ่วง กฏนิวตัน การหมุนรอบดวงอาทิตย์ของโลก ถึงจะหลับตาแต่กฏก็ต้องดำเนินไปของมัน มันซับซ่้อนไหม มันทั้งเข้าใจง่ายและยากเหมือนเราเรียน ฟิสิก เคมี ชีวะ ตอนมัธยม นั้นแหละ ทั้งพูดให้ฟังดูง่าย หรืออธิบายสมการแบบยากที่จะเข้าใจ

กฏของกรรม
กรรม (Action) เป็นภาษาบาลีแปลว่า การกระทำโดยเจตนา ในทางพุทธศาสนาอธิบายไว้เยอะมากเพราะมันมีปลีกย่อย ของ Action เยอะมาก ลองหา search ตาม วิกิดูเอา ผมจะอธิบายง่ายๆ เพื่อให้รู้จักคำว่า "กรรม" ก่อน ผมยกตัวอย่างง่ายๆ คือ ผมต่อยกำแพง ต่อย ก็คือ กรรม(ต่อย) ผลของการกระทำ (Re-Action) ของกรรมนี้คือ ผมเจ็บมือ ยิ่งผมต่อยแรงมากผมก็ยิ่งเจ็บมือมาก
โดยหลักใหญ่แล้วเราแบ่งกรรมเป็น 2 ประเภท บุญ(kindness) และบาป(crime) สองอย่างนี้เสมือนน้ำในแก้ว คนล่ะแก้ว ผลของมันค่อนข้างซับซ่ิอน เพราะมันเป็นสายใยที่เซื่อมโยงผ่านกาลเวลามีเพียงพระพุทธเจ้าที่เข้าใจ

golflover
9th August 2013, 22:10
ถ้าอยากรู้คำตอบ...
คุณต้องรู้จักกับความดี หรือบุญ เสียก่อน
สิ่งนั้น จะทำให้คุณรู้ว่า บาป-กรรม คืออะไร...

ขึ้นอยู่กับว่า คุณอยากรู้ความหมายในแนวทางไหน... พุทธ คริส อิสลาม หรือศาสนาอื่นๆ
ทุกศาสนามีแนวทางให้คุณครับ แต่ถ้าคุณต้องการแนวทางที่เป็นธรรมชาติ ผมว่า... คุณรู้คำตอบนั้นอยู่แล้วล่ะ
เพราะถ้าคุณถามถึงการทำสิ่งไม่ดี แปลว่าคุณรู็อยู่แล้วว่าอะไรคือการทำสิ่งที่ดี

Blacker
9th August 2013, 22:18
บาปไม่มีจริง
ทำในสิ่งที่เราคิดว่ามันถูกก็พอแล้ว