PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : Ancient Aliens : พระเจ้าจากอวกาศ?



shisaku
13th August 2013, 10:57
Ancient Alien หรือ พระเจ้าจากอวกาศ

http://www.watchdocumentary.tv/wp-content/uploads/2011/08/Ancient-Aliens-Documentary.png

ในอีกชื่อคือ Ancient Astronaut Theory หรือ ETH (Extraterrestrial Hypothesis) ทฤษฎีนี้เสนอถึง การเข้ามาแทรกแซงของสิ่งมีชีวิตภูมิปัญญานอกโลก ต่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พูดง่ายๆ การเข้ามามีบทบาทแทรกแซงของเอเลี่ยนต่อการพัฒนาอารยธรรมของมนุษยชาติในการก้าวขึ้นมาของมนุษย์โฮโมเซเปียน การก้าวกระโดดขึ้นมาของมนุษยชาติ ครั้งสำคัญที่ทำให้เราเหนือกว่าบรรบุรุษเอฟ รุ่นก่อนๆกับหลักฐานของความไม่น่าเป็นไปไม่ได้ของปริศนาที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนทั่วมุมโลกในการเชื่อมโยงด้วยจิกซอว์ที่หายไปสำหรับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ


ในขณะที่มนุษย์ยุคโบราณแรกเริ่ม กล่าวถึง "การมาถึงของพระเจ้าจากท้องฟ้า"
ความสอดคล้องกันของสิ่งต่างๆ หลักฐาน ปริศนา และความไม่น่าเป็นไปได้ทั้งหมดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
อะไรคือ ตัวตนที่แท้จริงของพระเจ้าที่มาจากฟากฟ้านั้น
เราจะมองหาความจริงและความเป็นไปได้แบบใหม่ ต่อความเข้าใจตัวเรา
เปิดตาให้กว้าง เปิดใจ เปิดความคิด และเปิดจิตนาการที่เรามี
เราอาจไม่ต้องไปตามหาสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวหรือรอสัญญาณวิทยุจากที่ที่ไกลแสนไกล
มองที่ตัวเรา มองสิ่งที่เราก้าวผ่านมา เราอาจจะพบสิ่งที่ตามหานั้นแล้วก็ได้


โดยส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้น่าเชื่อถือมากกว่า นรก สวรรค์ อะไรนั่นอีกนะ ทฤษฎีนี้ดูมี้หนัก น่าเชื่อถือมากกว่า คำปากลอยๆของนักบวชเสียอีก


ผมยังคิดต่อยอดถึกศาสนาพุทธด้วยนะ ผมคิดว่าที่พระพุทธเจ้าเจอเทวดา ท่านอาจไปเจอ Alien พวกนี้ก็เป็นได้

หรือไม่แน่นะ พระพุทธเจ้าที่เรานับถือ อาจจะเป็น Ancient Alien เสียเองก็ได้นะ เพราะในตำราบอกไว้ชัดเจนมาก เกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ของพระองค์ ทั้งเรื่องเดินทางข้ามเวลา และดินทางไปจักรวาลอื่น

จากบทความเกี่ยวกับ พระพุทธเจ้ากับจักรวาล LINK (http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=1ea3c141b9e1ed23) จะพบว่า พระพุทธเ้จ้าได้ค้นพบระบบสุริยจักรวาลของเรา และบรรยายไว้้ด้วย (แนะนำให้อ่าน Link ที่ผมโพสประกอบ และคิดตาม) ผมจึงคิดว่า พระพุทธเจ้านี่ละ คือ หัวหน้า Ancient Alien ยุคใหม่ และลูกศิษย์ของท่านก็คืิอ บรรดา Ancient Alien ต่างๆ
ผมเชื่ออย่างนี้เลยละ

http://buy-fengshui.com/productsimages1/3173_bejeweled_medicine_buddha_5.jpg

http://bodhipunx.files.wordpress.com/2012/04/alien-buddha.jpg


อันนี้เป็นสารคดีชุดนี้นะครับ แนะนำให้ดูทุกตอนเลย

http://www.youtube.com/watch?v=tIgwP8Qmwio&list=WL6DB787F0824657D7

_SaBasTaiN_
13th August 2013, 11:08
พระเจ้าของผมคือมนุษย์ต่างดาวสิน่ะ:sweat

Z€l2oN€
13th August 2013, 11:14
เรื่องพระเจ้ามาจากไหนช่างมันเหอะ แค่มีไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจเราก็เป็นพอ

shisaku
13th August 2013, 11:29
เชื่ออย่างสุดใจ โดนไม่สงสัยสินะ ห้ามคิด ห้ามถาม ทำตามแล้วกราบไหว้ :eek:

ศาสนิกชนตัวอย่าง :cool:

manglove
13th August 2013, 11:42
เชื่อผมเถอะพวกเราก็เป็น Alien สายพันนึงที่อยู่ในจักรวาฬอันกว้างนี้

ขนาดโลกเรายังมีสัตว์แปลกๆตั้งเป็นหลายๆสายพันแล้วนับประสาอะไรกับดาวอื่นๆที่เราที่มนุษย์ยังไม่สามารถไปถึงได้แค่ช่วงชีวิตเดียว

USED_JKG
13th August 2013, 11:52
เมื่อเจ้ารู้เรื่องของเราแล้วจะจะทำอย่างไร

BoonTew
13th August 2013, 11:57
มองที่แสงสีฟ้า ดื่มpsvita แล้วไปนอนซะ

http://www.officemaxblog.com.mx/wp-content/uploads/2013/01/MIB.gif

apitape
13th August 2013, 19:12
เชื่ออย่างสุดใจ โดนไม่สงสัยสินะ ห้ามคิด ห้ามถาม ทำตามแล้วกราบไหว้ :eek:

ศาสนิกชนตัวอย่าง :cool:

เอ... ประชดหรือป่าวครับท่าน :sweat

SoNy009
13th August 2013, 19:32
นี่ครับพระเจ้าจากอวกาศของจริง


http://www.youtube.com/watch?v=jy2MLw_JMJk

หนุ่มหน้าหวาน
13th August 2013, 20:26
ไม่น่าจะโยงศาสนามาเกี่ยวกับ เรื่องเอเลี่ยนพวกนี้นะ

first
13th August 2013, 20:34
เหมือน Haruhi ใช่ไหมๆๆๆ

jimwar
14th August 2013, 00:33
เชื่ออย่างสุดใจ โดนไม่สงสัยสินะ ห้ามคิด ห้ามถาม ทำตามแล้วกราบไหว้ :eek:

ศาสนิกชนตัวอย่าง :cool:

เวรกรรม พุทธศาสนาของผมคิดตามได้ ถามได้ พิสูทธิ์ได้นะ จะสงสัยก็ไม่แปลกหรอกเพราะ ท่านเขาใจเพียงผิวเผิน

liger0000
14th August 2013, 17:42
มันอธิบายอะไรหลายๆอย่างได้นะ

เช่นเมืองแอสแลนติสซึ่งในตำนานกล่าวว่าเป็นเมืองที่มีอารยธรรมสูงมาก แต่อยู่ดีๆก็หายไป
ความเชื่อเรื่องสวรรค์นรกที่มีเหมือนกันแทบทั่วโลก หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆที่มนุษย์สมัยนั้นยากมากที่จะสร้างได้อย่างสโตเฮจและปิรามิต และมันก็มีหลักฐานทางประวัติศาสย์พวก ภาพเขียนบนกำแพงในอียิปหรือวิมารลอยฟ้าของพรามส์ฮินดู

พระพุทธเจ้าไม่ใช่คับแน่นอนเพราะไปศึกษาดีๆจะผมว่าพระพุทธเจ้าจริงๆเป็นแค่ปราชธรรมดาแบบ ขงจือเม้งจือ เผลอเรื่องเชื้อเจ้าก็เป็นเรื่องอุปโลคด้วยซ้ำเพราะพระไตยปิฎกมันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่พรามส์เรืองอำนาจแก้ไขพระไตยปิฎกใหม่ใส่ปฎิหาร เทพเจ้าลงไป ถ้าเป็นพุทธแท้ๆจะไปทางลิทธิเชนพวกนั้นคับ

แต่คนอื่นเช่นโมเสก พระเยซู ท่านนบีมูฮัมมัตอันนี้มีความเป็นไปได้ว่าเคยติดต่อกับสิ่งเหนือธรรมชาติพวกนี้ได้ รวมถึงศาสนาพราม ชินโต ลัทธิกรีกโบราณพวก หรืออียิปย์นี้ไม่แน่คับว่าอาจมีมนุษย์ต่างดาวไปแทรกแซงจริงๆ

แต่ก็เป็นสมัยโบราณประมาณยุคหินโน้นละ รวมถึงยุคโบราณก็อาจจะมีแต่พอเข้ายุคกลางก็คงไม่มีแล้วหละมั่งเพราะพวกยุคกลางศาสนามันคือการเมืองรูปแบบหนึ่งไปแล้ว ส่วนปัจจุบันต่อให้มีมนุษย์ต่างดาวจริงพวกนี้ก็คงไม่กล้าเปิดเผยตัวหรอกเพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ป่าเถื่อนใช้ได้เลยนะ เพราะก่อสงครามกันเป็นว่าเล่น

tonthebg
14th August 2013, 18:47
มองที่แสงสีฟ้า ดื่มpsvita แล้วไปนอนซะ

http://www.officemaxblog.com.mx/wp-content/uploads/2013/01/MIB.gif

ให้ตายเถอะ โอโม้ ใครกินกล้วยปิ้งชั้น

Fairy
14th August 2013, 19:36
เรื่องนี้ผมว่านะ...............................



มองที่แสงสีฟ้า ดื่มpsvita แล้วไปนอนซะ

http://www.officemaxblog.com.mx/wp-content/uploads/2013/01/MIB.gif


เอ่อออ...................ห้ะ..! มีงูอยู่ในรองเท้าบูทชั้น

alexsamui2
14th August 2013, 19:52
ท่านเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วครับ พระพุทธเจ้าก็เป็นคนธรรมดาที่คนพบสัจธรรมถึงการคงอยู่ของสิ่งต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ค้นพบว่ามีดาวกี่ดวง ทรงค้นพบอะตอม ทรงกล่าวไว้ถึงเรื่อง มนุษย์ต่างๆดาวต่าง เรื่องนี้พระองค์เคยกล่าวไว้อยู่ในพระคาถามงคลจักรวาล
เรื่องทั้งหมดพวกนี้มันเป็นสิ่งที่มนุษย์รรมดาอย่างเราไม่สามารถจะเข้าใจได้ (คิดดู จักรวาลๆหนึ่งมีกฎฟิสิกซ์แตกต่างกัน มั่วไปหมด แค่จักรวาลเราอย่างเดียวนักวิทยาศาสตร์ก็ยังกุมขมับ)พระองค์เลยไม่สอนครับ เรื่องมิติต่างๆนาๆ การคงอยู่ของสิ่งที่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้ ยังค้นพบไม่เจอ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้คนเราดับทุกข์พ้นทุกข์พ้นกิเลศได้ เพราะเรื่องการดับทุกข์นี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ครับ การที่ทำให้จิตเราเข้าสู่สภาวะนิพพานมันเป็นอะไรที่อยู่เหนือสิ่งต่างๆ แม้แต่เอกภพครับ แต่ก็มีคนทำได้อยู่บนโลกนี้ ซึ่งเราเรียกหมู่คนเหล่านั้นว่าพระอรหันต์ครับ

**ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นพระอย่างเดียว ทำไมต้องเป็นพระอรหันต์ คนธรรมดา อรหันต์ไม่ได้หรอ ขอตอบว่าได้ครับ แต่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะการใช้ชีวิตในทางโลกมันมีสิ่งชักจูงทางกิเลศครับ พระพุทธองค์จึงให้กำเนิดการบวชขึ้น โกนหัวใส่จีวร ไม่ต้องมาห่วงสวยห่วงหล่อ ทำให้ปฎิบัติเพื่อเข้าถึงนิพพานได้ง่ายขึ้นครับ นี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องบวช***

พระองค์ก็เคยบอกไว้ ว่าสิ่งที่พระองค์สอนเราทั้งหมด เปรียบได้กับใบไม้เพียงหนึ่งกำมือจากใบไม้ทั้งป่า
ขอยกตัวอย่างคำว่า จักรวาล คำนี้เป็นคำบาลีสันสกฤตที่มีการค้นพบอยู่ในพระไตรปิฎกมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว แล้วคำนี้ คนสมัยก่อนรู้ได้อย่างไรว่า Galaxy มันเป็นรูปจักร

พระพุทธเจ้าไม่ใช่เอเลี่ยนอะไรหรอกครับ แต่พระองคืทรงเป็นมากกว่านั้น สัจธรรมที่พระองคืทรงค้นพบ แม้แต่เอเลี่ยนก็ยังต้องนับถือครับ เพราะสิ่งทั้งหมดทั้งมวลที่พระองคืได้พบเจอนั้น มันยิ่งกว่าความรู้ของพวก the gray(เอลี่ยนสีเทาตาโตๆ)ซะอีกครับ
ไอนส์ไตน์ยังเคยพูดถึงพระพุทธศาสนาไว้เป็นเป็น Cosmic Religion เป็นศาสนาแห่งจักรกวาล ศาสนาที่สามารถให้คำตอบทางวิทยาศาสตร์ได้ หรือที่เรียกว่า Sciencetific Need เป็นศาสนาที่แม่แต่มนุษย์ต่างดาว มนุษย์ที่ไม่ได้มาจากชมพูทวีป(พระองค์ทรงเรียกโลกที่เราอยู่ว่าชมพูทวีป และเรียกเอกภพว่าโลกธาตุ) ยังต้องนับถือครับ

ผมเคยตั้งกระทู้ถึงเรื่องนี้ไว้อยู่ครับ
http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=195346

wanloveea
14th August 2013, 20:09
ต้องรอดู โรบิ้น แก้ปริศนาโลก 100 ปีไห้หลังเสร็จก่อน (เกี่ยวกันตรงไหนว่ะ)

shisaku
14th August 2013, 21:02
ท่านเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วครับ พระพุทธเจ้าก็เป็นคนธรรมดาที่คนพบสัจธรรมถึงการคงอยู่ของสิ่งต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ค้นพบว่ามีดาวกี่ดวง ทรงค้นพบอะตอม ทรงกล่าวไว้ถึงเรื่อง มนุษย์ต่างๆดาวต่าง เรื่องนี้พระองค์เคยกล่าวไว้อยู่ในพระคาถามงคลจักรวาล
เรื่องทั้งหมดพวกนี้มันเป็นสิ่งที่มนุษย์รรมดาอย่างเราไม่สามารถจะเข้าใจได้ (คิดดู จักรวาลๆหนึ่งมีกฎฟิสิกซ์แตกต่างกัน มั่วไปหมด แค่จักรวาลเราอย่างเดียวนักวิทยาศาสตร์ก็ยังกุมขมับ)พระองค์เลยไม่สอนครับ เรื่องมิติต่างๆนาๆ การคงอยู่ของสิ่งที่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้ ยังค้นพบไม่เจอ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้คนเราดับทุกข์พ้นทุกข์พ้นกิเลศได้ เพราะองคืก็เคยบอกไว้ ว่าสิ่งที่พระองค์สอนเราทั้งหมด เปรียบได้กับกองใบไม้หนึ่งกำมือจากใบไม้ทั้งป่า
ขอยกตัวอย่างคำว่า จักรวาล คำนี้เป็นคำบาลีสันสกฤตที่มีการค้นพบอยู่ในพระไตรปิฎกมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว แล้วคำนี้ คนสมัยก่อนรู้ได้อย่างไรว่า Galaxy มันเป็นรูปจักร

พระพุทธเจ้าไม่ใช่เอเลี่ยนอะไรหรอกครับ แต่พระองคืทรงเป็นมากกว่านั้น สัจธรรมที่พระองคืทรงค้นพบ แม้แต่เอเลี่ยนก็ยังต้องนับถือครับ เพราะสิ่งทั้งหมดทั้งมวลที่พระองคืได้พบเจอนั้น มันยิ่งกว่าความรู้ของพวก the gray(เอลี่ยนสีเทาตาโตๆ)ซะอีกครับ
ไอนส์ไตน์ยังเคยพูดถึงพระพุทธศาสนาไว้เป็นเป็น Cosmic Religion เป็นศาสนาแห่งจักรกวาล ศาสนาที่สามารถให้คำตอบทางวิทยาศาสตร์ได้ หรือที่เรียกว่า Sciencetific Need เป็นศาสนาที่แม่แต่มนุษย์ต่างดาว มนุษย์ที่ไม่ได้มาจากชมพูทวีป(พระองค์ทรงเรียกโลกที่เราอยู่ว่าชมพูทวีป และเรียกเอกภพว่าโลกธาตุ) ยังต้องนับถือครับ

ผมเคยตั้งกระทู้ถึงเรื่องนี้ไว้อยู่ครับ
http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=195346

ก็เพราะความที่ท่านเก่งอย่างนี้ไงครับ ผมจึงคิดว่าท่านที่ละ คือผู้ทางภูมิจากนอกโลกแน่นอน คนธรรมดายุคนั้นจะมีความรู้ขนาดนี้เชียวหรือ อย่าบอกนะว่าท่านเชื่อเรื่อง พลังเหนือธรรมชาติจริงๆ :confused: ถ้าตัดเรื่องเหนือธรรมชาิติ พลัีงเวทมนต์คาถาออก มันก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นละ ท่านคือ ผู้ทรงภูมิจากนอกโลกมาเผยแพร่คำสอนครับ

alexsamui2
14th August 2013, 21:13
ก็เพราะความที่ท่านเก่งอย่างนี้ไงครับ ผมจึงคิดว่าท่านที่ละ คือผู้ทางภูมิจากนอกโลกแน่นอน คนธรรมดายุคนั้นจะมีความรู้ขนาดนี้เชียวหรือ อย่าบอกนะว่าท่านเชื่อเรื่อง พลังเหนือธรรมชาติจริงๆ :confused: ถ้าตัดเรื่องเหนือธรรมชาิติ พลัีงเวทมนต์คาถาออก มันก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นละ ท่านคือ ผู้ทรงภูมิจากนอกโลกมาเผยแพร่คำสอนครับ

ผมไม่ได้มาจากนอกโลก ผมเกิดมาจากพ่อแม่ครับ เป็นแค่คนๆนึงที่ยังมีกิเลศ และผมก็ไม่ใช่ผู้ทรงภูมิด้วย ผมแค่ประฏิบัติตามหลักคำสอนของผู้ทรงภูมิเท่านั้นครับ -*-

สุดท้ายนี้ ผมขอแนะนำให้ท่าน

มองที่แสงสีฟ้า ดื่มpsvita แล้วไปนอนซะ

http://www.officemaxblog.com.mx/wp-content/uploads/2013/01/MIB.gif

อย่าคิดมากครับกับเรื่องแบบนี้ พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้ปล่อยวาง รู้ไปก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นสุข กลับทำให้เป็นทุกข์มากขึ้นไปอีก

shisaku
14th August 2013, 21:38
โอเค ถ้าสมมุติทุกคนปล่อยวาง ละึซึ่งความอยากรู้ แล้วทุกวันนี้เรามี เทคโนโลยีดีๆใช้ มีคอมพิวเตอร์ใช้ มีอินเตอร์เน็ตใช้ มิใช่เพราะความอยากรู้อยากดเห็นของมนุษย์หรอกหรืิอ?

ผมว่าไอ้แนวคิดที่ว่า รู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ต้องรู้จะดีกว่า มันเป็นแนวคิดที่ทำให้เราล้าหลักมากๆเลย นี่มันปี 2013 แล้วครับ 2000ปีหลังจากกำเนิดศาสนาแล้ว เราเจริญกันมากแล้ว ความรู้ของเราก็เพิ่มมากกว่าคนสมัยก่อนมากแล้ว ผมว่า ตอนนี้เราสามารถที่จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้แล้วล่ะ เพราะศักยภาพของเราสูงเพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็มากกว่าคนเมื่อ 2000ปีก่อน

แล้วไิ้อ้แนวคิดที่ว่า รู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์เนี่ย มันเหมือนแนวคิดที่พยายามปกป้อง ไม่ให้เราหาคำตอบเลย เหมือนกับจะปกปิดอะัไรซักอย่าง ยิ่งน่าสงสัยไปใหญ่

เืชื่อไหม ในขณะที่ผมพิมอยู่นี่ ต้องมีคนกำลังด่าผมแน่ๆว่า ไอ้นี่มันเป็นใคร มันมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ศาสนาของเรา เชื่อเถอะ

alexsamui2
14th August 2013, 21:46
โอเค ถ้าสมมุติทุกคนปล่อยวาง ละึซึ่งความอยากรู้ แล้วทุกวันนี้เรามี เทคโนโลยีดีๆใช้ มีคอมพิวเตอร์ใช้ มีอินเตอร์เน็ตใช้ มิใช่เพราะความอยากรู้อยากดเห็นของมนุษย์หรอกหรืิอ?
มนุษย์เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆไว้ใช้เพื่อเพื่อตอบสนองความต้องการหรือบำเรอกิเลส อยากมีสุข อยากสบาย จนสุดท้ายก็ตายหายจากไปเรื่อยๆ ก็เกิดเป็นวัฎจักรสังสาร หมุนเวียนไปเรื่อย พระพุทธองค์ก็บอกไว้หมดแล้ว
คนเรามันมีหลายประเภท คนที่เขาไม่ละกิเลศยังหาคำตอบไปเรื่อยๆก็มี คนที่เบื่อหน่าย ละกิเลศไปจากโลกแล้วก็มี
คนในโลกนี้มีนับไม่ถ้วน พระพุทธเจ้า พระองค์ไม่สามารถบังคับให้คนต้องเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ได้ พระองค์แค่มาสอนแนวทางและให้ความรู้ในสิ่งที่มนุษย์ยังไม่ทราบและยังไม่ค้นพบเท่านั้น
ผมก็เป็นคนๆหนึ่งที่ยังมีกิเลสอยู่ อยากรู้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่เหมือนท่านนั่นแหละ ชอบศึกษาเหมือนกัน ชอบเกมส์ ชอบเพลงดนตรี ชอบกีฬา ชอบผู้หญิง ชอบเซ็กซ์ บ้าเซ็กซ์ แต่ผมแค่มาพูดถึงสิ่งที่แท้จริงที่พระพุทธเจ้าอยากจะสอนเราก็แค่นั้นแหละครับ


ผมว่าไอ้แนวคิดที่ว่า รู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ต้องรู้จะดีกว่า มันเป็นแนวคิดที่ทำให้เราล้าหลักมากๆเลย นี่มันปี 2013 แล้วครับ 2000ปีหลังจากกำเนิดศาสนาแล้ว เราเจริญกันมากแล้ว ความรู้ของเราก็เพิ่มมากกว่าคนสมัยก่อนมากแล้ว ผมว่า ตอนนี้เราสามารถที่จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้แล้วล่ะ เพราะศักยภาพของเราสูงเพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็มากกว่าคนเมื่อ 2000ปีก่อน

แล้วไิ้อ้แนวคิดที่ว่า รู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์เนี่ย มันเหมือนแนวคิดที่พยายามปกป้อง ไม่ให้เราหาคำตอบเลย เหมือนกับจะปกปิดอะัไรซักอย่าง ยิ่งน่าสงสัยไปใหญ่

เืชื่อไหม ในขณะที่ผมพิมอยู่นี่ ต้องมีคนกำลังด่าผมแน่ๆว่า ไอ้นี่มันเป็นใคร มันมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ศาสนาของเรา เชื่อเถอะ
ศักยภาพของมนุษย์ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ได้เห็นมาแล้วได้ครับ สัจธรรมที่ท่านได้เห็นมาแล้วนั่นไม่ขึ้นกับกาล คงความเป็นอมตะตลอดกาลครับ ไม่ใช่ท่านตรัสรุ้มาแล้ว 2500 ปีแล้วคนสมัยใหม่จะสามารถรู้เหมือนท่านได้ หาไม่ครับ
และที่บอกว่าปกปิดอะไร พระพุทธเจ้าไม่เคยปกปิดครับ พระพุทธองค์ทรงมีคำตอบมากกว่าคำถามของมนุษย์ธรรมดาอยู่แล้วครับ ถามปุ๊ปพระองคืก็ตอบได้ทันที ไม่ใช่พระองคืบอกว่าขอเวลาอีก 3 วัน เดี๋ยวมาให้คำตอบ หาไม่ครับ ถ้ามีคนมาถาม พระพุทธองค์ก็ตอบครับ ที่บอกว่าพระพุทธเจ้าปกปิดไม่สอน เพราะถ้าสอน ถ่านก็ต้องมานั่งอธิบายกันใหม่หมด ในอนาคตจะมีคอมพิวเตอร์นู่นนี่ มีจรวดนู่นนี่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ ซึ่งพระพุทธองค์ก็ต้องสอนคนในสมัยนั้นในสิ่งที่เป็นสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้นสิครับ แต่ถ้ามีคนนั่งทามแมชชีนไปถาม พระองคืก็จะตอบให้ครับ

ผมก้อยากจะนั่งไทม์แมชชีนไปถามพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
ไอเรื่องพวกนี้มันเป็นสิ่งที่เหนือความขาดหมายของท่านเยอะ มันเข้าใจยาก ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ นอกจากท่านจะตรัสรู้เองท่านถึงจะเข้าใจว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนู้นอย่างนี้

cheedman007
14th August 2013, 22:47
ง่ายๆครับ คนเรามีเทคโนโลยี ใหม่ๆไว้ใช้ เพื่อบำเรอกิเลส ครับ อยากสบาย สบายไปเรื่อย จนสุดท้ายก็ตายหายจากไปครับ

เรื่องของศาสนา เป็น สิ่งที่รู้ได้ด้วยตนเองครับ ทำเองรู้เองครับ

อธิบายไปก็ยืดยาว ถ้าคนไม่เชื่อ ซะอย่าง ก็ยากที่จะให้เค้าเชื่อ

payback
14th August 2013, 22:47
ผมชอบแนวคิดนี้นะ

ถ้ายึดพื้นฐานตามหลักความเป้นจริงแล้ว

Mcarmy
14th August 2013, 23:50
https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRvv-117WuI12vajY9jWsJV9N9R3rLfNts0Qn0_rZHp13svJF1I4Q

https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTu5BNQWObh9xERPibtorV3Cgh4TqHUiS5jOPPMNPsjqLIPeC4U

http://doniv.org/blog/wp-content/uploads/2010/01/evolution-1024x347.jpg

คำตอบของทุกอย่างอยู่ใน ยานลำนี้หมดแล้ว

https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRl8NBlw2-FZrl-Ak62MSfdS-MhgOMux48LoGUp94fxambEah_yyw