PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : แฉวัดพระธรรมกาย โดย อาจารย์มโน ศิษย์คนสำคัญ



shisaku
3rd September 2013, 15:28
ใครที่ดูแล้ว รบกวนช่วยแชร์ทางเฟสบุคได้ไหม ผมไม่กล้าแชร์ เพราะกลัวจะกระทบต่อการงานแล้วก็เพื่อนฝูง ถ้าใครที่ไม่แคร์เรื่องพวกนี้รบกวนช่วยๆกันแชร์หน่อยนะครับ:cool:


http://www.youtube.com/watch?v=SfR474nCo-s&feature=endscreen

ปล. ถ้าใครขี้เกียจดูแต่ต้น ให้ไปดูนาทีที่ 2.10 เป็นต้นไปครับ จะพบความจริงบางอย่างที่น่าตะลึง

ILoVePaNgYa
3rd September 2013, 16:59
เจ้าของกระทู้ระวังโดนแม่ชีปัดระเบิดใส่นะครับ

shisaku
3rd September 2013, 17:02
คือผมอยากจะแชร์ในเฟสบุคใจจะขาด อยากจะเอาเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ ทุกๆคน แต่ผมไม่สามารถทำได้จริงๆ ได้แต่เก็บความขื่นขมไว้ในใจ เ้พราะสาวกของเขามีพลังมากเหลือเกิน ถ้าผมแรงไปแล้วกลัวว่าจะมีผลกระทบมากมายตามมา ยังไงถ้าใครสามารถแชร์ได้ก็ช่วยๆกันหน่อยนะครับ นึกซะว่าช่วยปกป้องศาสนาของเรา

sattawat1979
3rd September 2013, 19:20
อยากจะบอกว่าผมก็เคยเข้าวัดธรรมกายนะครับ แต่ก็มีหลายอย่างที่ผมไม่ชอบอยู่เหมือนกัน

ทำบุญเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรทำจนตัวเองเดือดร้อน เดินทางสายกลางดีที่สุด


ประเภทที่ว่ามีบ้าน ขายบ้าน มีรถ ขายรถ มาทำบุญแบบนี้มันก็เกินไป ถ้าอย่างนั้นมาบวชตลอดชีวิตเลยดีกว่ามั้งครับ ได้บุญเยอะกว่าด้วย

ทำบุญ บุญมันเกิดที่ใจครับ ทำแล้วสบายใจนั่นก็บุญเกิดแล้ว ไม่ใช่ต้องทำเป็นล้านๆขนาดนั้น ถ้ารวยอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าโหมทำบุญ แล้วตัวเองและครอบครัวต้องลำบาก อย่างนั้นมันไม่มีสติแล้วครับ


วัดนี้เป็นวัดใหญ่ครับ ส่วนดีก็มี ส่วนไม่ดีก็มี เราก็เลือกเก็บแต่ส่วนดีๆ ส่วนที่ไม่ดีก็ไม่ต้องเก็บมาครับ

BoonTew
3rd September 2013, 20:10
จขกท.ระวังโดนจานบินลักพาตัวไปล้างสมองนะครับ area คลอง3 นี่เป็นสถานที่ลึกลับมาก(น้องๆ area 51)

ใครโดนเอเลี่ยนนะจ๊ะจับไปล้างสมองจะไม่ได้กลับออกมาเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่จะกลายเป็นสุดยอดเทพกึ่งมนุษย์ผู้อิ่มเอิบไปด้วยรังสีแห่งเงินทอง

ปล.ตามพจนานุกรมฉบับเอเลี่ยนนะจ๊ะ เงิน = บุญ , ทอง = โค ตะ ระ บุญ ทั้งนี้ค่าของบุญขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

Blackened
3rd September 2013, 20:20
ขึ้นสวรรค์เอาเท่าไหร่??

nakiann123
3rd September 2013, 20:51
ผมเคยไปวัดธรรมกายครั้งนึงครับ

ผมแทบไม่ได้นอนเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วัดใหญ่เกิน เดินหาที่นอนทั้งคืน หาไม่เจอ

ILoVePaNgYa
3rd September 2013, 21:02
ผมอยากให้มีการตรวจสอบทรัพสินของที่นี่จังครับ ทั้งในส่วนของวัดและมูลนิธิ ไม่แน่อาจจะมากกว่าเณรคำก็ได้

sattawat1979
3rd September 2013, 21:34
ผมขอออกตัวว่า ผมเข้าวัดธรรมกายมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คาใจผมมานานมาก คือท่านเจ้าอาวาส พระเดชพระคุณหลวงพ่อธรรมชโย ครับ

ผิวพรรณวรรณะท่านสว่างไสว งดงามมาก ผิดจากพระรูปอื่นๆ ว่ากันว่าคนที่เข้าถึงธรรมแล้วจะมีผิวกายที่ผ่องใสเป็นธรรมดา

อันนี้ผมเข้าใจ...


แต่ทำไมดูอย่างเกจิพระดังๆอย่าง หลวงพ่อวัดปากน้ำ , หลวงปู่แหวน , หลวงปู่มั่น , หลวงตามหาบัว และอีกหลายรูปที่ล้วนแต่เป็นผู้ทรงศีล

เมื่ออายุมากก็ผิวพรรณเหี่ยวย่น แก่ตามอายุขัย แต่กับหลวงพ่อธรรมชโยที่อายุก็มากแล้ว ทำไมหน้าตายังผ่องใส ไม่เหี่ยวย่นเลย

ตรรกกะนี้จะอธิบายยังไง?? หลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อธรรมชโยด้วยซ้ำ ภูมิธรรมท่านต้องลึกล้ำมากแน่ๆ

แต่ทำไมหน้าตาก็แก่ตามวัย แต่หลวงพ่อธรรมชโยหน้าใสมาก


ผมไม่ได้ล่วงเกินใครนะครับ ผมแค่คนที่อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง หากผมล่วงเกินก็ขอโทษด้วยครับ

BoonTew
3rd September 2013, 21:43
ผมขอออกตัวว่า ผมเข้าวัดธรรมกายมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คาใจผมมานานมาก คือท่านเจ้าอาวาส พระเดชพระคุณหลวงพ่อธรรมชโย ครับ

ผิวพรรณวรรณะท่านสว่างไสว งดงามมาก ผิดจากพระรูปอื่นๆ ว่ากันว่าคนที่เข้าถึงธรรมแล้วจะมีผิวกายที่ผ่องใสเป็นธรรมดา

อันนี้ผมเข้าใจ...


แต่ทำไมดูอย่างเกจิพระดังๆอย่าง หลวงพ่อวัดปากน้ำ , หลวงปู่แหวน , หลวงปู่มั่น , หลวงตามหาบัว และอีกหลายรูปที่ล้วนแต่เป็นผู้ทรงศีล

เมื่ออายุมากก็ผิวพรรณเหี่ยวย่น แก่ตามอายุขัย แต่กับหลวงพ่อธรรมชโยที่อายุก็มากแล้ว ทำไมหน้าตายังผ่องใส ไม่เหี่ยวย่นเลย

ตรรกกะนี้จะอธิบายยังไง?? หลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อธรรมชโยด้วยซ้ำ ภูมิธรรมท่านต้องลึกล้ำมากแน่ๆ

แต่ทำไมหน้าตาก็แก่ตามวัย แต่หลวงพ่อธรรมชโยหน้าใสมาก


ผมไม่ได้ล่วงเกินใครนะครับ ผมแค่คนที่อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง หากผมล่วงเกินก็ขอโทษด้วยครับ

น่าจะเป็นเพราะคอลลาเจนเยอะครับ อาหารการกินก็มีส่วน เน้นผัก ธัญพืช ปลาทะเลโดยเฉพาะแซลมอน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณโดยไม่ต้องพึ่งยาดูนะครับ อาจจะช่วยได้

alexsamui2
3rd September 2013, 21:44
ผมขอออกตัวว่า ผมเข้าวัดธรรมกายมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คาใจผมมานานมาก คือท่านเจ้าอาวาส พระเดชพระคุณหลวงพ่อธรรมชโย ครับ

ผิวพรรณวรรณะท่านสว่างไสว งดงามมาก ผิดจากพระรูปอื่นๆ ว่ากันว่าคนที่เข้าถึงธรรมแล้วจะมีผิวกายที่ผ่องใสเป็นธรรมดา

อันนี้ผมเข้าใจ...


แต่ทำไมดูอย่างเกจิพระดังๆอย่าง หลวงพ่อวัดปากน้ำ , หลวงปู่แหวน , หลวงปู่มั่น , หลวงตามหาบัว และอีกหลายรูปที่ล้วนแต่เป็นผู้ทรงศีล

เมื่ออายุมากก็ผิวพรรณเหี่ยวย่น แก่ตามอายุขัย แต่กับหลวงพ่อธรรมชโยที่อายุก็มากแล้ว ทำไมหน้าตายังผ่องใส ไม่เหี่ยวย่นเลย

ตรรกกะนี้จะอธิบายยังไง?? หลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อธรรมชโยด้วยซ้ำ ภูมิธรรมท่านต้องลึกล้ำมากแน่ๆ

แต่ทำไมหน้าตาก็แก่ตามวัย แต่หลวงพ่อธรรมชโยหน้าใสมาก


ผมไม่ได้ล่วงเกินใครนะครับ ผมแค่คนที่อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง หากผมล่วงเกินก็ขอโทษด้วยครับ


อืมมมม น่าคิดเหมือนกันครับ

noomha
3rd September 2013, 21:51
ผมขอออกตัวว่า ผมเข้าวัดธรรมกายมากว่า 10 ปีแล้วนะครับ

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คาใจผมมานานมาก คือท่านเจ้าอาวาส พระเดชพระคุณหลวงพ่อธรรมชโย ครับ

ผิวพรรณวรรณะท่านสว่างไสว งดงามมาก ผิดจากพระรูปอื่นๆ ว่ากันว่าคนที่เข้าถึงธรรมแล้วจะมีผิวกายที่ผ่องใสเป็นธรรมดา



อันนี้ผมเข้าใจ...


แต่ทำไมดูอย่างเกจิพระดังๆอย่าง หลวงพ่อวัดปากน้ำ , หลวงปู่แหวน , หลวงปู่มั่น , หลวงตามหาบัว และอีกหลายรูปที่ล้วนแต่เป็นผู้ทรงศีล

เมื่ออายุมากก็ผิวพรรณเหี่ยวย่น แก่ตามอายุขัย แต่กับหลวงพ่อธรรมชโยที่อายุก็มากแล้ว ทำไมหน้าตายังผ่องใส ไม่เหี่ยวย่นเลย

ตรรกกะนี้จะอธิบายยังไง?? หลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อธรรมชโยด้วยซ้ำ ภูมิธรรมท่านต้องลึกล้ำมากแน่ๆ

แต่ทำไมหน้าตาก็แก่ตามวัย แต่หลวงพ่อธรรมชโยหน้าใสมาก


ผมไม่ได้ล่วงเกินใครนะครับ ผมแค่คนที่อยากรู้ความจริงเท่านั้นเอง หากผมล่วงเกินก็ขอโทษด้วยครับ
ท่านไป wuttisuk ครับ แบบเจมส์จิเลยแหละ

kaio256k
3rd September 2013, 22:01
ของมีสาระ คนไม่ค่อยอยากดูครับ

sattawat1979
3rd September 2013, 22:07
หลวงพ่อท่านอายุ 69 แล้วนะครับ ดูผิวพรรณแล้วมันผิดธรรมดาจากมนุษย์ทั่วไป

เป็นไปได้ 2 กรณี

1. เป็นผู้มีบุญญาธิการจากสวรรค์มาเกิดครับ

2. ทำศัลยกรรม

dewgtr
3rd September 2013, 22:18
ผมทำบุญเต็มที่ก็ไปแค่ไหว้พระ ปล่อยปลา แค่นั้นแหละครับ ทำเพื่อความสบายอกสบายใจในชีวิต ไม่ใช้ทำบุญกะเอาขึ้นสวรรค์

เคยได้ยินไหมครับ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ผมกรรมเกิดจากการกระทำ ใครทำดีก็ได้กรรมดี ใครทำชั่วก็ต้องได้กรรมชั่ว

Richardo
3rd September 2013, 22:23
หลวงพ่อท่านอายุ 69 แล้วนะครับ ดูผิวพรรณแล้วมันผิดธรรมดาจากมนุษย์ทั่วไป

เป็นไปได้ 2 กรณี

1. เป็นผู้มีบุญญาธิการจากสวรรค์มาเกิดครับ

2. ทำศัลยกรรม
ทำศัลยกรรม

melano
3rd September 2013, 22:24
หลวงพ่อท่านอายุ 69 แล้วนะครับ ดูผิวพรรณแล้วมันผิดธรรมดาจากมนุษย์ทั่วไป

เป็นไปได้ 2 กรณี

1. เป็นผู้มีบุญญาธิการจากสวรรค์มาเกิดครับ

2. ทำศัลยกรรม

...ข้อ 1. งมงายไปครับ นรก - สวรรค์ คำสอนของพระพุทธเจ้าแท้ๆ ไม่มีเรื่องพวกนี้นะครับ

...ข้อ 2. เป็นอีก 1 เหตุผล ที่ใช้หลักการวิเคราะห์หาเหตุผล ด้วยสติปัญญา ตามหลักคำสอนที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งของ พระพุทธเจ้าครับ

*เวลาเจอเงาไหวๆใต้ต้นไม้ตอนกลางคืนรูปร่างเหมือนคน ถ้าท่านคิดแบบข้อ 1 ท่านก็จะคิดว่ามันคือผี แล้วท่านก็กลัวไปเองทันที แต่ถ้าท่านคิดแบบข้อ 2 ท่านก็แค่เดินไปดูให้ชัดว่ามันเงาอะไร มันมาจากไหน .....ไม่รู้ แล้วคิดไปเองแบบไม่มีเหตุผล หรือ ไม่รู้แล้วกลัวไปเองแบบไม่มีเหตุผล มันก็คือความงมงายดีๆนี่เองครับ

sattawat1979
3rd September 2013, 22:27
ผมทำบุญเต็มที่ก็ไปแค่ไหว้พระ ปล่อยปลา แค่นั้นแหละครับ ทำเพื่อความสบายอกสบายใจในชีวิต ไม่ใช้ทำบุญกะเอาขึ้นสวรรค์

เคยได้ยินไหมครับ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ผมกรรมเกิดจากการกระทำ ใครทำดีก็ได้กรรมดี ใครทำชั่วก็ต้องได้กรรมชั่ว



ผมก็เหมือนกัน ถ้าทำบุญแล้วถ้ามันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ผมก็พอใจแล้ว ไม่เคยขออธิฐานไปสวรรค์ชั้นไหนหรอก

ถ้าบุญถึงก็ได้ขึ้นสวรรค์เองแหละ ถ้าบุญไม่ถึงอธิฐานยังไงมันก็ขึ้นสวรรค์ไม่ได้หรอก

titanoon
3rd September 2013, 22:36
หลวงพ่อท่านอายุ 69 แล้วนะครับ ดูผิวพรรณแล้วมันผิดธรรมดาจากมนุษย์ทั่วไป

เป็นไปได้ 2 กรณี

1. เป็นผู้มีบุญญาธิการจากสวรรค์มาเกิดครับ

2. ทำศัลยกรรม

แน่นอนครับ ผมขอตอบข้อที่สอง พระพุทธเจ้าก็สอนอยู่ว่าเราเกิดมาก็ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครพ้นทุกข์เหล่านี้ได้หรอกครับ ต่อให้หน้าใสเรียบขนาดไหน ถ้าถึงเวลาก็ต้องตายครับ
พระพุทธเจ้าก็เหมือนนักปราชญ์ครับ ท่านก็ไม่ได้เป็นผู้วิเศษอะไรหรอก เพียงแต่ท่านรู้ถึงความจริงของมนุษย์ครับ และผมเชื่อว่า ถ้าท่านประสูติมาในยุคนี้ ก็คงยากที่จะตรัสรู้ถึงความจริงได้ครับ
เพราะความก้าวหน้าทางวัตถุมันมีมาก ทำให้คนสมัยนี้เข้าหาทางธรรมจริงๆน้อย และเข้าใจหลักจริงๆของพุทธศาสนาน้อยมากครับ เราเลยเห็นข่าวเกี่ยวกับพระทำผิดอยู่บ่อยๆ เพราะกิเลส ตัณหานั่นแหละ

ถ้าใครเคยดูเรื่อง Life of Pi และได้วิเคราะห์ดีๆ จะเข้าใจครับ ว่า... (สปอย มั้ง)
หนังได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับศาสนาไปทีละน้อยๆครับ โดยหนังจะพูดถึง 3 ศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าครับ ได้แก่ คริสต์ อิสลาม พราห์ม-ฮินดู(รึเปล่า?) โดยตัวเอกได้นับถือศาสนาทั้งสาม และได้พรัดพรากจาก
ครอบครัวบนเรือ และได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองที่ได้อาศัยกับเสืออยู่หลายวัน แต่ในตอนท้ายพายได้เล่าถึงการอาศัยอยู่บนเรือกับเสือแต่บริษัทประกันไม่เชื่อ พายเลยต้องเล่าอีกแบบที่ติดอยู่บนเรือกับพ่อครัว แม่ และอีกหลายๆคน
โดยพ่อครัวแทนเสือนั่นแหละครับ และหนังก็ได้ทิ้งท้ายคำถามว่า เราเชื่อแบบไหน ซึ่งผู้กำกับอังลี น่าจะทิ้งท้ายปริศนาให้เราไปคิดเอง โดยคนที่เชื่อเรื่องพระเจ้าก็จะเชื่อเรื่องที่พายอาศัยอยู่กับเสือ
แต่ศาสนาอื่นเช่น"พุทธศาสนา"จะเชื่อในความเป็นจริง ว่าพายนั้นได้อาศัยและต่อสู่กับพ่อครัว และคนอื่นๆครับ
โดยในจริงๆแล้วหนังสือของเรื่องนี้ ก็เหมือนจะเฉลย โดยไม่ได้มีปริศนาทิ้งท้ายเลยว่า พายน่าจะเป็นคนจิตไม่ค่อยดี เลยเห็นภาพต่างๆนาๆ แล้วหลอนไปเอง

และถ้าถามว่าทำไมผมถึงเอาเรื่องนี้มาพูดเหรอ?
เพราะผมอยากจะบอกว่าคนไทยหลายๆคนเข้าใจหลักธรรมของศาสนาพุทธผิดไป ศาสนาพุทธสอนให้เชื่อเรื่องความจริงของมนุษย์ กรรมคือการกระทำ กรรมดีก็เกิดจากการทำดี เช่นเราเอาของให้คนอื่น
คนอื่นก็จะให้ของเราเป็นการตอบแทน ก็ถือว่ารับกรรมดีไป หรือสมมติเราไปขโมยของ กรรมชั่วก็ติดตัวเราเอง โดยเราก็จะรู้สึกไม่ดีอยู่แล้วที่เอาของคนอื่นมา และมักจะเกิดการระแวงต่างๆนาๆมากมาย
นั่นแหละคือกรรมชั่ว มันไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรมให้เราเห็น แต่มันเป็นผลของการกระทำของเรา

และถ้าถามว่าศาสนาไหนเป็นศาสนาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มากที่สุด!? ก็ต้องตอบศาสนาพุทธอยู่แล้วล่ะครับ
(ตรงส่วนนี้ ก็จะเห็นว่า เรื่อง Life of Pi ก็จะแทบไม่พูดถึงศาสนาพุทธเลยนะครับ)
พิธีกรรมต่างๆ ผมเชื่อว่าเราไม่ได้รับมาจากศาสนาพุทธโดยตรงหรอกครับ เพียงแต่ก่อนที่เราจะได้รับศาสนาพุทธเข้ามานั้น ก็จะมีศาสนาพราห์ม-ฮินดูต่างๆเข้ามาก่อน ทำให้เกิดพิธีกรรมต่างๆตามขึ้นมา
และพุทธศาสนาก็เผยแพร่เข้ามาทีหลัง

:yes

ILoVePaNgYa
4th September 2013, 04:14
คือมันเป็นการฝึกวิชาธรรมกายขั้นสูงสุดครับทำให้ดูอ่อนกว่าวัย

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5935863/Y5935863-15.gif

เคยมีคนตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวปพันทิพเล้วนะครับ สนใจก็เข้าไปอ่านได้
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5935863/Y5935863.html

shisaku
4th September 2013, 10:04
^
^
^
^
^

มู้บนเอาฮาใ่ช่มะ :eek:

อึ้งเลย คือคิดหาคำพูดต่อจากนี้ไม่ได้จริง ถ้าเอาฮาก็โอเคนะฮามาก แต่ถ้าเอาจริงนี่.......

dbmusics
4th September 2013, 12:51
แน่นอนครับ ผมขอตอบข้อที่สอง พระพุทธเจ้าก็สอนอยู่ว่าเราเกิดมาก็ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครพ้นทุกข์เหล่านี้ได้หรอกครับ ต่อให้หน้าใสเรียบขนาดไหน ถ้าถึงเวลาก็ต้องตายครับ
พระพุทธเจ้าก็เหมือนนักปราชญ์ครับ ท่านก็ไม่ได้เป็นผู้วิเศษอะไรหรอก เพียงแต่ท่านรู้ถึงความจริงของมนุษย์ครับ และผมเชื่อว่า ถ้าท่านประสูติมาในยุคนี้ ก็คงยากที่จะตรัสรู้ถึงความจริงได้ครับ
เพราะความก้าวหน้าทางวัตถุมันมีมาก ทำให้คนสมัยนี้เข้าหาทางธรรมจริงๆน้อย และเข้าใจหลักจริงๆของพุทธศาสนาน้อยมากครับ เราเลยเห็นข่าวเกี่ยวกับพระทำผิดอยู่บ่อยๆ เพราะกิเลส ตัณหานั่นแหละ

ถ้าใครเคยดูเรื่อง Life of Pi และได้วิเคราะห์ดีๆ จะเข้าใจครับ ว่า... (สปอย มั้ง)
หนังได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับศาสนาไปทีละน้อยๆครับ โดยหนังจะพูดถึง 3 ศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าครับ ได้แก่ คริสต์ อิสลาม พราห์ม-ฮินดู(รึเปล่า?) โดยตัวเอกได้นับถือศาสนาทั้งสาม และได้พรัดพรากจาก
ครอบครัวบนเรือ และได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองที่ได้อาศัยกับเสืออยู่หลายวัน แต่ในตอนท้ายพายได้เล่าถึงการอาศัยอยู่บนเรือกับเสือแต่บริษัทประกันไม่เชื่อ พายเลยต้องเล่าอีกแบบที่ติดอยู่บนเรือกับพ่อครัว แม่ และอีกหลายๆคน
โดยพ่อครัวแทนเสือนั่นแหละครับ และหนังก็ได้ทิ้งท้ายคำถามว่า เราเชื่อแบบไหน ซึ่งผู้กำกับอังลี น่าจะทิ้งท้ายปริศนาให้เราไปคิดเอง โดยคนที่เชื่อเรื่องพระเจ้าก็จะเชื่อเรื่องที่พายอาศัยอยู่กับเสือ
แต่ศาสนาอื่นเช่น"พุทธศาสนา"จะเชื่อในความเป็นจริง ว่าพายนั้นได้อาศัยและต่อสู่กับพ่อครัว และคนอื่นๆครับ
โดยในจริงๆแล้วหนังสือของเรื่องนี้ ก็เหมือนจะเฉลย โดยไม่ได้มีปริศนาทิ้งท้ายเลยว่า พายน่าจะเป็นคนจิตไม่ค่อยดี เลยเห็นภาพต่างๆนาๆ แล้วหลอนไปเอง

และถ้าถามว่าทำไมผมถึงเอาเรื่องนี้มาพูดเหรอ?
เพราะผมอยากจะบอกว่าคนไทยหลายๆคนเข้าใจหลักธรรมของศาสนาพุทธผิดไป ศาสนาพุทธสอนให้เชื่อเรื่องความจริงของมนุษย์ กรรมคือการกระทำ กรรมดีก็เกิดจากการทำดี เช่นเราเอาของให้คนอื่น
คนอื่นก็จะให้ของเราเป็นการตอบแทน ก็ถือว่ารับกรรมดีไป หรือสมมติเราไปขโมยของ กรรมชั่วก็ติดตัวเราเอง โดยเราก็จะรู้สึกไม่ดีอยู่แล้วที่เอาของคนอื่นมา และมักจะเกิดการระแวงต่างๆนาๆมากมาย
นั่นแหละคือกรรมชั่ว มันไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรมให้เราเห็น แต่มันเป็นผลของการกระทำของเรา

และถ้าถามว่าศาสนาไหนเป็นศาสนาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มากที่สุด!? ก็ต้องตอบศาสนาพุทธอยู่แล้วล่ะครับ
(ตรงส่วนนี้ ก็จะเห็นว่า เรื่อง Life of Pi ก็จะแทบไม่พูดถึงศาสนาพุทธเลยนะครับ)
พิธีกรรมต่างๆ ผมเชื่อว่าเราไม่ได้รับมาจากศาสนาพุทธโดยตรงหรอกครับ เพียงแต่ก่อนที่เราจะได้รับศาสนาพุทธเข้ามานั้น ก็จะมีศาสนาพราห์ม-ฮินดูต่างๆเข้ามาก่อน ทำให้เกิดพิธีกรรมต่างๆตามขึ้นมา
และพุทธศาสนาก็เผยแพร่เข้ามาทีหลัง

:yes

ถ้าตอบข้อหนึ่งก็ผิดหลักศาสนาพุืทธ ที่มีเกิดแก่เจ็บตายซินะครับ

แต่ถ้าใครจะทำ จะเป็น อะไรที่ขัดกับศาสนาพุืทธ ก็ทำไปนะครับ แต่ไปตั้งศาสนาใหม่ก็สิ้นเรื่อง ไม่ใช่ทำตัวเหมือนลูกครูใหญ่ ทั้งครูทั้งนักเรียนไม่กล้าแตะ จะทำอะไรก็ได้

rockblood39
4th September 2013, 19:50
แน่นอนครับ ผมขอตอบข้อที่สอง พระพุทธเจ้าก็สอนอยู่ว่าเราเกิดมาก็ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครพ้นทุกข์เหล่านี้ได้หรอกครับ ต่อให้หน้าใสเรียบขนาดไหน ถ้าถึงเวลาก็ต้องตายครับ
พระพุทธเจ้าก็เหมือนนักปราชญ์ครับ ท่านก็ไม่ได้เป็นผู้วิเศษอะไรหรอก เพียงแต่ท่านรู้ถึงความจริงของมนุษย์ครับ และผมเชื่อว่า ถ้าท่านประสูติมาในยุคนี้ ก็คงยากที่จะตรัสรู้ถึงความจริงได้ครับ
เพราะความก้าวหน้าทางวัตถุมันมีมาก ทำให้คนสมัยนี้เข้าหาทางธรรมจริงๆน้อย และเข้าใจหลักจริงๆของพุทธศาสนาน้อยมากครับ เราเลยเห็นข่าวเกี่ยวกับพระทำผิดอยู่บ่อยๆ เพราะกิเลส ตัณหานั่นแหละ

เพราะผมอยากจะบอกว่าคนไทยหลายๆคนเข้าใจหลักธรรมของศาสนาพุทธผิดไป ศาสนาพุทธสอนให้เชื่อเรื่องความจริงของมนุษย์ กรรมคือการกระทำ กรรมดีก็เกิดจากการทำดี เช่นเราเอาของให้คนอื่น
คนอื่นก็จะให้ของเราเป็นการตอบแทน ก็ถือว่ารับกรรมดีไป หรือสมมติเราไปขโมยของ กรรมชั่วก็ติดตัวเราเอง โดยเราก็จะรู้สึกไม่ดีอยู่แล้วที่เอาของคนอื่นมา และมักจะเกิดการระแวงต่างๆนาๆมากมาย
นั่นแหละคือกรรมชั่ว มันไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรมให้เราเห็น แต่มันเป็นผลของการกระทำของเรา

และถ้าถามว่าศาสนาไหนเป็นศาสนาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มากที่สุด!? ก็ต้องตอบศาสนาพุทธอยู่แล้วล่ะครับ
(ตรงส่วนนี้ ก็จะเห็นว่า เรื่อง Life of Pi ก็จะแทบไม่พูดถึงศาสนาพุทธเลยนะครับ)
พิธีกรรมต่างๆ ผมเชื่อว่าเราไม่ได้รับมาจากศาสนาพุทธโดยตรงหรอกครับ เพียงแต่ก่อนที่เราจะได้รับศาสนาพุทธเข้ามานั้น ก็จะมีศาสนาพราห์ม-ฮินดูต่างๆเข้ามาก่อน ทำให้เกิดพิธีกรรมต่างๆตามขึ้นมา
และพุทธศาสนาก็เผยแพร่เข้ามาทีหลัง

:yes
ผมก็จะตอบแบบนี้เลยครับ ดั่งที่ในหนังเรื่อง นาคปรก บอกไว้
"ศาสนาไม่มีวันเสื่อมหรอกโยม แก่นแท้ของศาสนาก็ยังคงคุณค่าอยู่เสมอ คนเราเองต่างหากที่เสื่อม"