PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ทำไมผู้หญิง3Dจึงเริ่มตกกระป๋องขึ้นไปทุกวัน



liger0000
5th October 2013, 15:28
http://upic.me/i/5t/225123e5wwdvy67d58o7ds.jpg (http://upic.me/show/47412539)

ภาพของหญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่เกิดจากลายเส้นของนักวาด กลายเป็นขวัญใจของหนุ่ม ๆ ยุค


ใหม่หลายคน นี่คือยุคสมัยที่ผู้ชายหันไปหา


ตัวการ์ตูน ที่อาจสะท้อนไปถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมบางอย่าง


ภาพตัวการ์ตูนสาว ๆ ที่เขียนขึ้นเลียนแบบภาพถ่ายนางแบบตัวจริง ชนิดที่แทบจะลอกลายเลียน


แบบกันมา เป็นงานศิลปะแบบหนึ่งที่เหล่า


ศิลปินอิสระในชุมชุนออนไลน์สุดฮิตของญี่ปุ่น 2channel นิยมวาดกันออกมาด้วยการใช้ภาพจริง


เป็นแบบ นอกจากจะเป็นการโชว์ฝีมือเหนือ


จินตนาการในการเปลี่ยนภาพสาวจริงให้กลายเป็นการ์ตูนสุดเซ็กซีแล้ว ก็ยังสะท้อนถึงความเป็นไป


ของสังคมญี่ปุ่นในยุคนี้ออกมาให้เห็น

ด้วย


ภาพมากมายหลายแบบ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบระหว่างรูปของนางแบบสาวสุดเซ็กซี และภาพ


การ์ตูนซึ่งโพสต์ท่าแบบเดียวกัน ได้ทำให้เกิด


หัวข้อสนทนาขึ้นมาบ่อย ๆ ว่าว่าระหว่าง “สาว 2D กับสาว 3D” คุณชอบอะไรมากกว่ากัน ซึ่ง


ประเด็นดังกล่าวเป็นที่พูดถึงในสังคมญี่ปุ่นมา


พักใหญ่แล้ว เมื่อหนุ่ม ๆ หลายคนเริ่มจะแสดงตัวกันมากขึ้นว่าพวกเขานิยมสาว 2D มากกว่าสาว


จริง

Senki Zessho Symphogear เคยตั้งคำถามถึงเรื่องนี้กับหนุ่ม ๆ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเฉพาะเจาะจงไปถึง


บรรดาแฟนคลับของการ์ตูนอนิเมะ, มังงะ และ


เกม ซึ่งอาจถูกเหมารวมเรียกว่าพวก “โอตาคุ” ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจในสิ่งที่ตนชอบ

(มักหมายความถึงอะนิเมะ, มังงะ หรือเกม) อย่างเกินปกติ และมีความสามารถในการเข้าสังคมไม่สูง ว่าสาว ๆ แบบไหนที่พวกเขารู้สึกว่ามี


เสน่ห์ที่สุด ระหว่าง 2D, 2.5D หรือว่า 3D


อธิบายอย่างง่าย ๆ สาว 3D ก็คือหญิงสาวในชีวิตจริง ส่วน 2.5D คือภาพสาวสวยที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ซึ่งจะดูมีมิติ


ความตื่นลึก แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่แค่ในจอภาพเท่านั้นและสุดท้าย 2D ก็คือภาพของหญิงสาวที่เกิดจากลายเส้นไม่ว่าจะวาดด้วยมือ หรือ


คอมพิวเตอร์ก็ตาม เป็นความงามในแบบภาพวาดที่เขียน


ขึ้นด้วยอุดมคติ ประกอบไปด้วยทั้งรูปร่าง และเครื่องหน้าอันสมบูรณ์แบบ


ซึ่งผลสำรวจโอตาคุหนุ่มจำนวน 500 คน (แม้บางคนจะพยายามอธิบายว่าตัวเองไม่ใช่โอตาคุก็ตาม) ปรากฏออกมาว่าส่วนใหญ่ก็ยังคง


เลือกสาว 3D หรือสาวตัวจริงตัวเป็น ๆ ที่มีจำนวนสูงถึง 66% ส่วนที่บอกว่าขอเลือก 2.5D นั้นมีอยู่ 9.6% และที่ยอมรับว่าตัวเองชอบ


สาว 2D ก็มีถึง 23% เลยทีเดียว


แม้จะไม่ได้ถึงกับเป็นจำนวนส่วนใหญ่ แต่กลุ่มหนุ่ม ๆ ที่เรียกตัวเองว่า “ผู้นิยม 2D” ก็ยังมีสัดส่วนที่มากอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อ


นำตัวเลขของผู้เลือก 2D และ 2.5D มาร่วมกันแล้วก็หมายความว่ามีคนหนุ่มถึง 32.6% ที่ไม่ขอเลือกหญิงสาวตัวเป็นๆคนจริงๆจับต้องได้


พฤติกรรมของคนหนุ่มเหล่านี้ยังได้รับความสนใจและปรากฏเป็นข่าวประเภทเรื่องพิสดารให้เห็นกันอยู่เป็นระยะ ทั้งประเด็นข่าวการจัดงาน


แต่งงานของโอตาคุหนุ่มกับตัวการ์ตูนที่เขารัก หรือปลอกหมอนข้างรูปวาดหญิงสาวขนาดเท่าตัวจริง


ดร. ชินยุ อิวะมุโระ แห่ง สมาคมเวชศาสตร์ชุมชนแห่งประเทศญี่ปุ่น ประจำ ศูนย์วิจัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้แสดงความเห็นถึงปรากฏการณ์ที่


เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ยอมรับว่าตัวเองขอเลือกสาว 2D หรืออาจจะพูดได้ว่าหลงรักตัวการ์ตูน แทนที่จะเป็นสาวจริง ๆ ว่า เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิต


ของคนหนุ่มรุ่นใหม่จำนวนหนึ่ง ที่แทบไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งในระดับใด ๆ กับเพศตรงข้ามเลย คนกลุ่มนี้มักจะวิตกกังวลกับการ


สานสัมพันธ์ต่อเพศตรงข้าม และกลัวที่จะต้องถูกทำให้ผิดหวัง เสียจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่นอกโลกของ 2D ได้เลย


การปฏิเสธสาว 3D ของหนุ่ม ๆ หลายคน จึงอาจเป็นการชิงปฏิเสธฝ่ายหญิงก่อน ที่พวกเขาจะโดนปฏิเสธเสียเอง


Yucasee Media ยังอ้างความเห็นของบรรดา “โอตาคุ” ที่เลือกสาว 2D ที่บางคนยอมรับว่าเขา “ไม่เคยคบกับสาวจริง ๆ มาก่อนเลย” หรือไม่


ก็อ้างว่า “ไม่มีสาว 3D คนใดที่จะเป็นคู่ของพวกเขาได้" บางคนก็อ้างว่าตนเองไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ และยังมีพวกที่บอกว่าสาว 2D


พวกนี้ไม่มีวันแก่ และจะไม่เปลี่ยนแปลงไปใด ๆ สำหรับพวกเขาแล้ว 3D จึงไม่ใช่จริงจำเป็น


ส่วนพวกที่ชอบ 2.5D ก็ให้ความเห็นว่านี่คือส่วนผสมระหว่างความเพ้อฝัน และความสมจริง เขาจึงชอบและมีความรู้สึกให้กับสาวลักษณะนี้


มากที่สุด ยังมี โอตาคุ จำนวนหนึ่งที่ยอมรับว่าแม้ตนเองจะชอบสาว 2D แต่ก็คิดว่าหากจะมีคู่จริง ๆ ก็คงต้องเลือก 3D เพราะสำหรับพวก


เขาแล้ว 2D เป็นเพียงอุดมคติที่ไม่ได้มีอยู่จริงเท่านั้น และเชื่อว่าตัวเองสามารถชื่นชมความงามของสตรีเพศได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น 2D หรือ 3D


ผลของปรากฏการณ์ทางสังคมดังกล่าวยังแสดงหลักฐานออกมาให้เห็นชัดเจนในรูปอัตราการเกิดที่น้อยของญี่ปุ่น, จำนวนคนโสดที่เพิ่ม


มากขึ้น จนไปถึงยอดขายถุงยางอนามัยที่ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่อาจจะสร้างปัญหาให้กับสังคมญี่ปุ่นขึ้นได้ใน


อนาคตอันใกล้ภาพของหนุ่มชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่จึงค่อนข้างเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตไปไม่น้อย จากเดิมทีที่เป็นสังคมของเพศชาย เพราะตอน


นี้ดูเหมือนว่า


เด็กหนุ่มรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งจะไม่ได้ต้องการเป็นผู้นำ หรือแสวงหาอุดมคติแบบ “ซามูไร” เหมือนชาวญี่ปุ่นดั้งเดิมกันอีกต่อไปแล้ว ส่วนใหญ่มี


ชีวิตที่หมกมุ่นกับเรื่องของตัวเอง ไม่ได้มีความทะเยอทะยานในเรื่องการงาน และเลือกที่จะทุ่มเวลา หรืออาจจะเป็นรายได้ที่หามาไปให้กับเรื่อง


ส่วนตัว และงานอดิเรก แม้แต่หน้าที่สืบวงศ์ตระ:Xลก็ดูจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรในชีวิตของพวกเขา


และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ผู้ชายชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกของฝ่ายหญิงต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงของหนุ่ม ๆ ใน


ญี่ปุ่นก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน


บ่อยครั้งที่เพศหญิงเริ่มแสดงความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อผู้ชายญี่ปุ่นยุคใหม่บางครั้งก็เรียกหนุ่ม ๆ ในยุคนี้ว่าเป็น “สัตว์กินพืช” ที่นุ่มนิ่ม


อ่อนแอ ไร้ซึ่งความเด็ดขาดความอหังการแบบ “สัตว์กินเนื้อ” ของชายชาวญี่ปุ่นในอดีตโดยสิ้นเชิง
เครดิต2thหนอ


คือผมเห็นกระมู้แต่งงานกับตุ๊กตายาง เลยมาลง ไอ้ฝรั่งรายนั้นเด็กๆคับบอกตรงๆ เคสแบบนี้เจอมาเยอะ
2D ตัวอย่างก็ Hutsune Miku ส่วน2.5ก็เจ๊lightningละกัน

ใครเคยดูพวกเมะฮาเร็มแบบว่ามีตัวผู้หลุดเข้าไปกลางดงสาวๆ ความเป็นจริงมันก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิง ไม่ดำหน้าปลาบู่เขื่อนแม่วงค์ ก็อ้วน ไม่ก็ไม่สวย เอาเป็นว่าส่วนใหญ่ไม่สวยละกัน หลายๆครั้งเมะฮาเร็มนี้มันหนังสยองขวัญมากกว่า

คือจากที่ผมสำรวจมานะ ผู้หญฺิงนี้มีมากกว่าผู้ชาย3เท่าแต่ชีวิตท่านก็ใช่จะเป็นแบบในเมะฮาเร็มซะที่ไหน ผู้หญฺิงหน้าตาดีจริงๆมีน้อยมาก ประมาณ10% สมมุติมีรถสองแถวคันหนึ่งขนผู้หญฺงมา10คน ผู้ชายแค่4คนแต่ผู้หญิงในรถมีหน้าตาดีแค่คนเดียว นี้คือความจริงและผู้หญฺงหน้าตาดีๆ ก็จะไปจับผู้ชายๆรวยๆซะหมด(ขึ้นมหาลัยเอ็งจะรู้ ยิ่งทำงานแล้วนี้ยิ่งใช่ใหญ่) บ้างส่วนก็ไปจับทอม ทำให้เราเหลือผู้หญฺงสวยๆไม่มากนัก ซึ่งมักจะเสร็จพวกขี้หลี้ซะหมด ไม่แปลกใจว่าทุกวันนี้ ผู้ชายหล่อๆมักจะไปขุดทองกันหมด แน่นอนมันก็มีพวกที่ไม่ใช่เกย์ พวกนี้ก็อยู่โสดกันไป

ผู้หญฺิงๆจริงๆนี้ใช่ว่าจะดีนะ ใช้เงินเปลืองมาก นิสัยก็ประมาณรายการป้าแก่4หน่อตอนเช้า แก่ง่าย 12-15ยังเป็นโลลิน่ารัก15-18 เป็นสาวมัธยม 18-22เป็นสาวมหาลัย(yong adult) 22-30ก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แต่30++ก็ป้าและ แน่นอนจากการสำรวจช่วงอายุที่ดูดีที่สุดจริงๆคือ15-18 เด็กรุ่นๆที่เราเรียกกัน พูดง่ายๆผู้หญิงจริงๆนี้อายุการใช้งานสั้นมากจริงๆ

แต่2D อายุต่อให้ผ่านไป10ปียังไงเสียก็ยังเป็นสาวรุ่นๆอยู่ กาลเวลามิอาจทำอะไรได้ นอกจากนี้นิศัยต่างๆก็ซัพพอร์ตกับรสนิยมมากขึ้นทุกที ผู้หญิงหลายๆคนไม่ชอบเล่นเกม แต่2Dชอบเล่นเกมเช่น โคนาตะจากLucky Star หรือเนื้อจากไร้เพื่อน 2Dไม่บ้าช๊อปปิ้ง 2Dไม่โทรจิกเวลาที่เราอยากอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อน 2Dไม่เคยบ่นจู่จี้

โลกเราเนี้ยมันจะมีผู้หญิงกี่เปอร์เซ็นคับที่สมบูณแบบ 2Dต่อให้หน้าแย่ที่สุดอย่างโทโมโกะจากเรื่องwatamote แต่ยังไงเสียโทโมโกะก็ยังน่ารักกว่า3D 90%บนโลก

ไม่แปลกใจว่าตลาดอนิเมในไทยมันถึงโตเร็วมากๆเพราะมันสนองกับประชากรชายได้หลายเปอร์เซ็นมาก หลายเปอร์เซ็นที่ไร้คู่ หลายเปอร์เซ็นที่3Dที่ตัวเองชอบ หนีไปหาหน้าเห่ยแต่รวย


แต่ก็นะ2Dมันจับต้องไม่ได้ -*- ไม่รู้นะบางครั้งร่างเนื้อเนี้ย สัมผัสมันไม่เหมือน จอLCD หรือผ้า หรือพลาสติก นะ

ปล.จริงๆผมขอรวมถึง สาวกเกาหลี หรือคนที่ชอบดาราด้วยนะ เพราะ2Dกับไอดอลมันแถบไม่ต่างกันเลยในแง่ของบทบาท จับต้องไม่ได้เหมือนกัน ง่ายๆนะคุณชอบดาราแต่มีซักกี่คนบนโลกที่ได้แต่งงานกับดาราหรือไอดอล ถ้าไม่ใช่พวกเงินถึงรวยจัดแบบเสี่ยบุญชัย

Wimpy Kid
5th October 2013, 15:32
ผมชอบ3Dมากกว่านะ 2Dมันจับต้องไม่ได้นิ

kodeem
5th October 2013, 17:19
3D มันปี้ได้ครับ

parisj007
5th October 2013, 17:29
2D ดีกว่าจะทำยังไงก็ไม่ผิดแต่เมื่อ 3D ละก็อิอิ....

Fairy
5th October 2013, 20:03
รัก 2D ชอบซั่ม 3D ครับ

Wimpy Kid
5th October 2013, 20:05
พวกท่านก็พูดตรงไปนะครับ 5555555

first
5th October 2013, 20:19
ชอบหมดครับ แต่ถ้าดีมีคนเทพจับมัดรวมกันละก็ ฮิฮิฮิฮิ

wpspo2499
5th October 2013, 20:19
ผมก็ชอบทั้ง 2 ละนะที่ดูอนิเมะหลักๆเลยคือมันว่าง มันเป็นเหมือนงานอดิเรกละมั้ง เพราะแต่ก่อนวันๆก็เล่นแต่เกม :music

ปล.ผู้หญิงสมัยนี้ชอบบอกว่าผู้ชายเป็นสัตว์กินพืช ผมพูดได้เลยว่า ผมไม่เล็กนะครับ

exodus
5th October 2013, 20:22
มันมีขีดจำกัดหลายๆอย่างในสังคม จริงมั้ย มันไม่ใช่ว่าคุณอยากขึ้นมาแล้วก็เดินไปกดหัวอึ๊บกันกลางถนนกันดื้อๆ คนส่วนใหญ่สนใจแต่ตนเองและต้องการสิ่งที่มัน "ง่าย" และใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบ

ความใคร่ จัดเป็นแรงขับสำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ แต่ถ้ามันไม่สามารถขับเคลื่อนไปในทางตรงได้ มันก็ระเบิดออกไปในทางอื่น นี่คือตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัดของพฤติกรรมแบบทางเลือก หากว่าผู้หญิงตัวเป็นๆนั้นต้องการปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อน ทำความเข้าใจได้ยาก และเหน็ดเหนื่อยที่จะทำ มันก็มีทางออกที่ง่ายกว่า แน่นอนว่าทางออกมันมีหลายทางเลือก เช่น การซื้อบริการทางเพศ หรือการเบนไปตอบสนองปัจจัยทางด้านอื่นเช่นเงินตรา หรือความสะดวกสบาย รวมไปถึงเรื่องนี้คือการหา "สิ่งทดแทน" ที่ไม่ได้ด้อยค่ากว่ากัน น่าจะเป็นคำอธิบายที่ดีของแรงขับเคลื่อนที่ต้องมาเจอกับทางตันแล้วระเบิดออกไปทางด้านอื่น

liger0000
5th October 2013, 21:23
มันมีขีดจำกัดหลายๆอย่างในสังคม จริงมั้ย มันไม่ใช่ว่าคุณอยากขึ้นมาแล้วก็เดินไปกดหัวอึ๊บกันกลางถนนกันดื้อๆ คนส่วนใหญ่สนใจแต่ตนเองและต้องการสิ่งที่มัน "ง่าย" และใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบ

ความใคร่ จัดเป็นแรงขับสำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ แต่ถ้ามันไม่สามารถขับเคลื่อนไปในทางตรงได้ มันก็ระเบิดออกไปในทางอื่น นี่คือตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัดของพฤติกรรมแบบทางเลือก หากว่าผู้หญิงตัวเป็นๆนั้นต้องการปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อน ทำความเข้าใจได้ยาก และเหน็ดเหนื่อยที่จะทำ มันก็มีทางออกที่ง่ายกว่า แน่นอนว่าทางออกมันมีหลายทางเลือก เช่น การซื้อบริการทางเพศ หรือการเบนไปตอบสนองปัจจัยทางด้านอื่นเช่นเงินตรา หรือความสะดวกสบาย รวมไปถึงเรื่องนี้คือการหา "สิ่งทดแทน" ที่ไม่ได้ด้อยค่ากว่ากัน น่าจะเป็นคำอธิบายที่ดีของแรงขับเคลื่อนที่ต้องมาเจอกับทางตันแล้วระเบิดออกไปทางด้านอื่น

จริงๆถ้าเราอิงทฤษฎีความต้องการ5ขั้นของมัสโรล 2Dมันไม่ใช่แค่ความใคร่นะ หลายๆคนจะเป็นความรักด้วยซ้ำ คนที่ชอบ2Dมากๆอย่างพวกโอทาคุในญี่ปุ่นทุกคนมักมีปมทั้งนั้นแหละ เพื่อนน้อยบ้าง หน้าตาอัปลักบ้าง โดนผู้หญิงจริงๆทิ้งมาบ้าง คนเราถึงจุดๆหนึ่ง ที่ความต้องการทางกายภาพครบ ความปลอดภัยคบ ที่ต้องเลยคือความรักคับ สังคมสมัยใหม่ มัมีแต่การแข่งขันทั้งนั้นคับ ในที่ทำงานนี้หนักเลย หาเพื่อนแท้ยาก ตัวผู้หญิงต่างๆเองก็สนใจแต่การทำงานและการเลื่อนต่ำแหน่งอย่างเดียว สังเกตคับโอทาคุในญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่เด็กมัธยม เด็กมหาลัยหรอกนะ แต่เป็นกลุ่มคนทำงานมากกว่า รวมถึงกลุ่มที่เค้าเรียกว่าพวกเนิร์ดด้วย นอกจากนี้พวกฮิกกี้หรือนีตก็มักเป็นโอทาคุเพราะพวกนี้ พูดง่ายๆคือไม่เคยเจอผู้หญฺิงต่างเพศเลยด้วยซ้ำเพราะต้องอยู่คนเดียวตลอดแต่มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรที่ทำงานอย่างเดียว ไม่ใช่ของอะไรสักอย่างที่ถูกทิ้งไว้ในกล่อง มนุษย์ต้องการความรักคับ แล้วใครหละที่จะตอบสนองได้2Dไง

อย่างใครเคยดูWatamoteเรื่อนี้ผมว่าดีนะ มันสะท้อนความจริงของสังคมเต็มๆเลย โทโมโกะ สิ่งที่เทอต้องคือความรักกับการถูกยอมรับคับซึ่งแน่นอนคนแบบโทโมโกะในสังคมนั้นมีเยอะมาก แต่สุดท้ายโทโมโกะ ก็เอาความต้องการลงไปกับเกมจีบหนุ่ม(Boylove ซะด้วย)

ปล.จริงๆผมดูเมะเพราะว่างและอีกอย่างผมต้องการคนมาเติมเต็มส่วนที่หายไปด้วยหละมั่งนะ ก็นะมหาลัยปี3ละ ยังซิงสนิดเลย ชีวิตเราไหนบอกว่าผู้หญฺงมากกว่าผู้ชาย4/1ไง ทำไชีวิตผมมันไม่เป็นแบบในเมะฮาเร็ม

atomza07
5th October 2013, 21:31
คือ พอดีผมชอบทอมกับเลสเบี้ยนอ่ะ 5555 แต่ 2d ผมดูเมะธรรมดามันก็ขึ้นอยู่นะ แต่พอผมดูแบบ H แล้วแบบเหมือนมันมีจิตสำนึกขึ้นมาแบบว่า เห้ยแบบไม่ดีๆไม่ดูๆ แต่ดูแบบคนแล้วทำไมผมไม่คิดแบบบนั้นว่ะ ผมว่าผมแปลกนะเนี่ย 5555