PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [บทความ]เทคนิคดีๆ ที่จะทำให้เกมของคุณมีคุณภาพมาก​ขึ้น ตอนที่ 1



LusiferNazi
18th September 2011, 00:25
ขอแนะนำเว็บสำหรับผู้สนใจการสร้างเกมครับ อยากได้ทรัพยากรแจ่มๆ บทความเจ๋งๆ อ่าน
ลองมาแวะได้ที่ IRPG (http://irpg.in.th/)ครับ ยินดีต้อนรับเสมอ ^^\
http://i213.photobucket.com/albums/cc265/LusiferNazi/irpgbanner.jpg (http://irpg.in.th/)


Credit บทความ : Neoz Kaho

ไม่ได้โพสต์ซะนานเลย กลับมาเยี่ยม ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยครับ ผีบอร์ดเก่าแก่อยู่มานานล่ะ
แต่ไม่ได้โพสต์^ ^" วันนี้เอาบทความที่เขียนเองมาฝากครับ เคยเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่เอากลับมาปัดฝุ่นใหม่
ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะครับหากมีอะไรผิดพลาดแต่ประการใด

ตอน 1 ว่าด้วยเรื่องราว
โดย Neoz Kaho
ภาพประกอบโดย LuZi

1. แก่นเรื่อง - หัวใจของเกมคุณคืออะไร?
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คนทำเกมต้องตอบให้ได้ว่าเกมที่คุณกำลังทำอยู่กำลังต้องการเสนออะไรหรือตอบสนองอะไร
บางคนอาจจะทำมินิเกมหรือเกมแบบที่ไม่มีพื้นเพเรื่องราวอะไรมาก แก่นของเกมประเภทนี้ก็อาจจะเน้นในความสนุกเป็นหลัก
ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง หากเกมของเราต้องการนำเสนออะไรที่สเกลใหญ่กว่านั้นมากล่ะ เหมือนเอานิยายมาทำเป็นเกมก็ไม่ปาน
(นิยายเล่นได้?) แก่นเรื่องของเกมก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นการนำเสนอเรื่องราวขณะที่ความสนุกจะเริ่มเป็นรองลงไปนิดๆ
(แต่อย่ามากเกินไป)
http://i434.photobucket.com/albums/qq64/neozkaho/4koma1.jpg
สรุป: รู้ให้ได้ก่อนว่าเกมเรามีจุดประสงค์อะไร อยากเป็นเกมเฮฮาง่ายๆ หรือเล่นเอามันส์
หรืออยากเป็นมหากาพย์ที่สื่อเรื่องราวในหัวเรา!

2. นิยามเกม - อธิบายเกมของคุณมาให้ได้ใน 1 บรรทัด
เมื่อเรารู้ว่าจุดประสงค์ว่าเราต้องการทำเกมแบบไหนกันแน่ ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะพูดถึงเรื่องราว แต่ก่อนที่จะไป
คิดชื่อตัวเอกหรือตัวร้าย หรืออะไรก็ตาม จงตอบให้ได้ก่อนว่าเกมของคุณมีนิยามว่าอย่างไร!? เพราะการที่เกมขาด
นิยามของตัวเอง จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า"ออกทะเล"ได้โดยง่าย เพราะเราไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดหมายที่ชัดเจน
อย่าวางเนื้อเรื่องตัวเองแบบการ์ตูนทั้งหลาย (B*each หรือ O*e Piece) เป็นต้น เพราะหากเราไม่มีจุดจบที่ชัดเจน
ขอบอกได้เลยว่าเกมจะจบเห่ได้ตั้งแต่เริ่ม เพราะยิ่งทำไป ก็จะเริ่มคิดบานปลาย อยากยัดนู่น ยัดนี่ ไซด์เควสนั่น
ด่านพิเศษนู่น ด่านพิเศษนี่ จนสุดท้าย...ตกลงตัวเอกมันจะทำอะไรกันแน่ฟะครับ

นิยามนั้นไม่ยากเลย แค่บอกให้ได้ก็พอ อย่าง
A จะทำอะไร B A ต้องการไอเทม X เพื่อจุดประสงค์ Y หรือ A ต้องการหยุดจอมมาร Z ประเทศ A ทำสงครามกับประเทศ B และนาย C ต้องการหยุดสงครามให้ได้
*Tip เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด อย่านิยามอะไรที่ตีความยากและดูแถไปได้เรื่อยๆ อย่าง"A อยากเป็นคนที่แกร่งที่สุดของโลก"
(เพราะถัดจากจอมมาร A อาจจะไปตบเทพดาวอังคาร เซียนดาวเสาร์ มหาเทพเนปจูน หรือจ้าวจักรวาลต่อได้
มันไม่มีจุดสิ้นสุดที่แน่นอน)

มาดูตัวอย่างนิยามกันดีกว่า
"คุโร่ต้องการตามหาไอเทมจอกศักดิ์สิทธ์มาเพื่อขายตลาดมืดไปซื้อบ้านใหม่ (ทั้งเกมคุโร่ก็จะตามหาจอกศักดิ์สิทธ์ ไม่ใช่ไอเทมอย่างอื่น พอได้แล้วก็เป็นอันจบ) "ผู้กล้าต้องการปราบจอมมารที่ทำลายบ้านเกิดตัวเอง" (จบที่การปราบจอมมาร เนื้อหาคือการผจญภัยเพื่อไปปราบจอมมาร) "สิบโทสปาร์ค ทหารของประเทศกิวกิวต้องการหยุดยั้งไม่ให้ประเทศชิลชิลรุกราน ด้วยการผลักดันกองทัพกลับแล้วปราบนายพลธันเดอร์อีกฝ่าย" (เรื่องจะคลี่คลายหรือเข้าสู่ไคลแมกซ์ตอนจบทันทีที่นายพลธันเดอร์ตาย เพราะสงครามจะจบไม่ก็ตัวร้ายจริงๆ จะปรากฏตัว) "มานะอยากเป็นแฟนมานี" (เป็นแฟน จบโรงเรียนหรือแต่งงานเมื่อไหร่ก็จบเกม)http://i434.photobucket.com/albums/qq64/neozkaho/4koma2.jpg
สรุป: ใครจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ (ไม่จำเป็นต้องอย่างไร แต่ถ้าจะใส่จริงๆ ก็อย่าซีเรียสมาก เดี๋ยวยาว) นิยามมาซะ

3. แนวที่ใช่ แนวที่ชอบ - เดินฟันหรือวิ่งสู้ฟัด
หนึ่งในขั้นตอนที่เหมือนจะง่าย แต่มันก็ไม่ง่าย แต่เอาจริงๆ มันก็ง่าย (ยังไงนั่น!?)

เอาจริงๆ เลยนะคับ ไม่ล้อเล่นล่ะ นี่คือขั้นตอนที่ในหัวหลายๆ คน อาจจะมาเป็นอย่างแรกก่อนจะคิดเรื่องซะอีก
ว่า"ตูอยากทำเกมเดินฟัน!" ไม่ก็"ยิงๆ หูดับตับไหม้" หรือ"แอ๊คชั่นเลือดสาดยิงกระจุย" แต่ทำไมถึงยกขั้นตอนนี้มาที่ 3 ล่ะ?

"แนวเกมยึดตามเรื่องเป็นหลัก แนวเกมยึดตามเรื่องเป็นหลัก แนวเกมยึดตามเรื่องเป็นหลัก แนวเกมยึดตามเรื่องเป็นหลัก"

ท่องไว้ให้ขึ้นใจครับ เพราะพอเราคิดอยากจะทำเกมแนวอะไร แต่บางทีมันก็อาจจะไม่เข้ากับเรื่องก็ได้ อย่างเช่น
อยากทำเกมจีบสาว แต่เราชอบแฟนตาซีเลือดสาดแบบ Berserk...มันก็ไม่ใช่แนว หรืออยากทำเกมขับเครื่องบิน
ยิงตู้มๆ หลบห่ากระสุน แต่มีเรื่องราวเบื้องหลังถึงจักรวรรดิล้างโลก ครองจักรวาลอะไรพวกนี้และไอเทมในตำนาน...
มันก็ไม่เข้ากัน ปัญหาสำคัญอีกอย่างนั่นคือเมื่อเราคิดแนวก่อน แล้วยัดเนื้อเรื่องลงไป มันจะกลายเป็น"หาข้ออ้างทำเกม"
ด้วยการยัดเนื้อเรื่องลงไป ซึ่งจุดนี้บางคนอาจจะไม่มีปัญหา แต่กับหลายๆ คนมันอาจจะกลายเป็นว่าเราแค่แถๆ ให้เกมมัน
มีเนื้อเรื่องไป เกมเราจะได้ไม่ดูว่างเปล่า

ฉะนั้นเราจึงควรจะกำหนดแนวของเกมหลังจากคิดเรื่องและนิยาม! ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยจากตัวอย่างข้างบน

แนวเกมของคุโร่ - อาจจะเป็นผจญภัย แก้พัซเซิ่ลไปตามโบราณสถานแบบ Indiana Jones หรือ Uncharted แนวเกมของผู้กล้า - RPG แน่นอน สิบโทสปาร์ค - อาจจะเป็นแนวๆ หลบๆ ซ่อนๆ Stealth Action หรือแนวสายลับจารกรรม มานะ - Visual Novel จีบสาว...อุโฮะ (หรือจะอาจให้มีกึ่งๆ RPG ด้วยก็ได้)
เท่านี้ล่ะ เราก็จะกำหนดได้แล้วว่าเราทำเกมแบบไหน ใช้เอ็นจิ้นอะไรเหมาะสมที่สุด! และจุดนี้ล่ะที่เราจะกำหนดสิ่งสำคัญในข้อต่อไป
http://i434.photobucket.com/albums/qq64/neozkaho/4koma3.jpg
สรุป: คิดเนื้อเรื่องให้ได้ก่อน แล้วแนวเกมจะตามมาเอง อย่าเพิ่งคิดแนวว่าจะทำอะไรแล้วแต่งเรื่องทับลงไปอีกที

4. จักรวาลของเกม - เมื่อผู้สร้างรับบทพระเจ้า
ข้อนี้อาจจะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่สำหรับคนทำมินิเกม เกมสั้นๆ หรือเกมที่ไม่ได้ซีเรียสกับเนื้อหาอะไร แต่ถ้าเกม
เป็นแนว RPG หรือมีจักรวาล เรื่องราวเบื้องหลังที่ลุ่มลึก หรือคิดไว้ว่าอยากจะทำ แล้วเก็บไว้ใช้หากินนานๆ ก็อ่านเลย!
ไม่เสียหายอย่างไร

โลกและเรื่องราวความเป็นมาของจักรวาลนั้นจะเป็นส่วนสำคัญทีเดียวในการแต่งเรื่อง แต่จักรวาลในที่นี้ไม่ได้แปลว่า
ต้องแต่งถึงขั้นสร้างโลกขึ้นมาเอง คำจำกัดความของโลกในที่นี้อาจจะเป็นแค่ในโรงเรียน (ว่าเป็นยังไง) หรือแค่เมืองๆ
เดียวก็ยังได้ ขณะที่ทั้งโลกก็ปล่อยมันไป เราไม่ได้อยากจะพูดถึงมัน เราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าขอบเขตของเกมที่เราทำมัน
ขนาดไหน แล้วเราจึงกำหนดลงไปว่าในโลกแห่งนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีใคร อะไร ที่ไหน ทำอะไรอยู่ โลกมันถึงเป็น
แบบทุกวันนี้ (เช่นเมกายิงนิวเคลียร์ใส่ เมืองที่เราเล่นอยู่ในเกมตอนนี้ถึงเละเป็นกากนิวเคลียร์)

ดังนั้นเมื่อเรากำหนดจักรวาลได้แล้ว เราก็จะสามารถกำหนดได้ว่าอยากให้สเกลของเกมนั้นอยู่ที่ขนาดไหน อยากให้
ดำเนินเรื่องแค่ในเมืองๆ เดียว หรืออยากให้พระเอกตะลอนทั้งทวีป หรือขี่เรือเหาะมันไปทั้งโลกเลยดี? นี่คือสิ่งสำคัญ
ว่าทำไมการคิดจักรวาลของเกมจึงเป็นส่วนสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการให้โลกของเรานั้นมีมิติ และมีความลุ่มลึกมาก
ขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่เราจะดึงมาใช้ได้อีกทีหลังโดยไม่รู้ตัว เช่นจำนวนประชากรของประเทศ A ที่อาจ
เป็นแค่ตัวเลข แต่พอถึงเวลาจริงๆ เราไปถึงที่โน่น เราก็ได้เห็นจริงๆ ว่าคนมันน้อยจนแทบจะเป็นประเทศร้าง

*Tip ส่วนนี้เป็นส่วนที่จะมาและไปในหัวเราได้ง่าย จึงควรจดบันทึกและเรียบเรียงเก็บให้เป็นระเบียบ
เพื่อจะได้ดึงมาใช้งานในภายหลัง!
http://i434.photobucket.com/albums/qq64/neozkaho/4koma4.jpg
สรุป: คิดได้แล้วว่าจะให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนก็คิดดูว่าเป็นโรงเรียนที่มีเบื้องหลังยังไง ครูกี่คน
วิชาอะไรสอนบ้าง มีสาวๆ น่ารักกี่คน!

บทความนี้ยังทีอีกหลายตอน แต่ที่นำเสนอมานี้ เป็นแค่พื้นฐานเล็กๆ น้อยในการวางโครงเกมซะก่อนที่เราจะเริ่มทำ
ไว้โอกาสหน้าเราจะมาเจาะลึกอย่างอื่นมากขึ้น จำไว้ว่าเกมคือผลงานทางวรรณกรรมอย่างหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าเรามีความคิด
อย่างไร อย่าคิดแต่เพียงเอาใจคนเล่นและตามใจคนอื่นซะหมด จงใส่หัวใจของเราลงไปในเกม และให้ผู้ที่เล่นเกมของเราเข้าถึง
หัวใจนั้นได้เหมือนกับเรา!

PeaceterZero
18th September 2011, 13:38
บทความเยี่ยมมากๆครับ
ติดเรียนไม่มีเวลาจะทำอะ = = รอตุลา

kingwar01
19th September 2011, 09:15
หรอยครับ บทความสนุกดีอ่านแล้วเพลิน