Zlatan_01
30th October 2013, 17:17
http://f.ptcdn.info/307/008/000/1376284910-603537img2-o.jpg
เอาละครับวันนี้เราจะมาพูดถึงสาระที่เกี่ยวกับยุงที่คุณยังไม่รู้ หรือ รู้เเล้วก็ได้ :eek:
ยุงเป็นสัตว์ที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุของมนุษย์อย่างมาก นอกจากจะทำให้เกิดความรำคาญแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคร้ายต่าง ๆ มากมายที่ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปี เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคไข้เหลือง โรคเท้าช้าง โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น เรื่องราวของยุงจึงได้มีการศึกษากันมากมาย ในวันนี้จึงขอนำเรื่องของยุงมาเล่าสู่กันฟัง 2 เรื่อง ได้แก่
1. ทำไมยุงจึงชอบบินมาอยู่บริเวณหู
2. ทำไมแต่ละคนจึงถูกยุงกัดไม่เท่ากัน
1. ทำไมยุงจึงชอบบินมาอยู่บริเวณหู
ถ้าหากทุกท่านได้ลองสังเกตดูจะเห็นว่าในขณะที่มียุงกัดนั้น ยุงจะบินมาตอมที่ทุกส่วนของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหู มีรูหูซึ่งเป็นที่มีแสงสว่างอยู่ค่อนข้างน้อย ทำให้ยุง(ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสงสว่าง)บินมาตอมบริเวณนี้มากที่สุด ทำให้เราได้ยินเสียงหวี่ ๆ เกิดขึ้น เสียงนี้เกิดจากการกระพือของปีกยุงจึงเกิดการสั่นสะเทือนในอากาศและเกิดเป็นคลื่นเสียงมากระทบหูของเรา
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้มีการทดลองบันทึกเสียงกระพือปีกของยุงตัวผู้แล้วนำไปเปิดเสียงในเครื่องดักยุงจะพบว่ามียุงตัวเมียบินมาตามเสียงนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่าเลี้ยงกระพือปีกของยุงตัวผู้จะใช้ประโยชน์เพื่อเรียกยุงตัวเมียให้หานั่นเอง
2. ทำไมแต่ละคนจึงถูกยุงกัดไม่เท่ากัน
การที่แต่ละคนถูกยุงกัดไม่เท่ากันนั้นเนื่องจากมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องหลายประการ โดยเฉพาะปัจจัยในเรื่องรูปร่างและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวคือ ผู้ที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ก็จะมีพื้นที่ให้ยุงกัดได้ง่ายกว่าที่ผู้มีรูปร่างขนาดเล็ก ผู้ชายส่วนมากจะมีรูปร่างขนาดใหญ่มากกว่าผู้หญิง จึงมีโอกาสถูกยังกัดได้มากกว่าด้วย นอกจากนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ร่างกายปล่อยออกมาก็มีส่วนช่วยชักนำให้ยุงมากัดเช่นกัน
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นผลพลอยได้จากขบวนการหายใจของร่างกาย ร่างกายจึงขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาตลอดเวลา ถ้าหากร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายก็จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่าปกติจึงชักนำยุงมากัดได้มากด้วย ดังนั้นในขณะที่ถูกยุงกัดและพยายามตบยุงหรือพยายามเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อไล่ยุงจะทำให้ร่างกายขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามาก จึงมีโอกาสที่จะถูกยุงกัดได้มากด้วยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กดกล่าว ขอบคุณผมเพื่อจะได้มีกำลังใจให้ข่าวทุกท่านหน่อยครับ :)
Credit http://atcloud.com/stories/64630
เอาละครับวันนี้เราจะมาพูดถึงสาระที่เกี่ยวกับยุงที่คุณยังไม่รู้ หรือ รู้เเล้วก็ได้ :eek:
ยุงเป็นสัตว์ที่เป็นปัญหาด้านสาธารณสุของมนุษย์อย่างมาก นอกจากจะทำให้เกิดความรำคาญแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคร้ายต่าง ๆ มากมายที่ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปี เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคไข้เหลือง โรคเท้าช้าง โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น เรื่องราวของยุงจึงได้มีการศึกษากันมากมาย ในวันนี้จึงขอนำเรื่องของยุงมาเล่าสู่กันฟัง 2 เรื่อง ได้แก่
1. ทำไมยุงจึงชอบบินมาอยู่บริเวณหู
2. ทำไมแต่ละคนจึงถูกยุงกัดไม่เท่ากัน
1. ทำไมยุงจึงชอบบินมาอยู่บริเวณหู
ถ้าหากทุกท่านได้ลองสังเกตดูจะเห็นว่าในขณะที่มียุงกัดนั้น ยุงจะบินมาตอมที่ทุกส่วนของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณหู มีรูหูซึ่งเป็นที่มีแสงสว่างอยู่ค่อนข้างน้อย ทำให้ยุง(ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสงสว่าง)บินมาตอมบริเวณนี้มากที่สุด ทำให้เราได้ยินเสียงหวี่ ๆ เกิดขึ้น เสียงนี้เกิดจากการกระพือของปีกยุงจึงเกิดการสั่นสะเทือนในอากาศและเกิดเป็นคลื่นเสียงมากระทบหูของเรา
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้มีการทดลองบันทึกเสียงกระพือปีกของยุงตัวผู้แล้วนำไปเปิดเสียงในเครื่องดักยุงจะพบว่ามียุงตัวเมียบินมาตามเสียงนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้สันนิษฐานว่าเลี้ยงกระพือปีกของยุงตัวผู้จะใช้ประโยชน์เพื่อเรียกยุงตัวเมียให้หานั่นเอง
2. ทำไมแต่ละคนจึงถูกยุงกัดไม่เท่ากัน
การที่แต่ละคนถูกยุงกัดไม่เท่ากันนั้นเนื่องจากมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องหลายประการ โดยเฉพาะปัจจัยในเรื่องรูปร่างและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กล่าวคือ ผู้ที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ก็จะมีพื้นที่ให้ยุงกัดได้ง่ายกว่าที่ผู้มีรูปร่างขนาดเล็ก ผู้ชายส่วนมากจะมีรูปร่างขนาดใหญ่มากกว่าผู้หญิง จึงมีโอกาสถูกยังกัดได้มากกว่าด้วย นอกจากนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ร่างกายปล่อยออกมาก็มีส่วนช่วยชักนำให้ยุงมากัดเช่นกัน
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นผลพลอยได้จากขบวนการหายใจของร่างกาย ร่างกายจึงขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาตลอดเวลา ถ้าหากร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายก็จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่าปกติจึงชักนำยุงมากัดได้มากด้วย ดังนั้นในขณะที่ถูกยุงกัดและพยายามตบยุงหรือพยายามเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อไล่ยุงจะทำให้ร่างกายขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามาก จึงมีโอกาสที่จะถูกยุงกัดได้มากด้วยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กดกล่าว ขอบคุณผมเพื่อจะได้มีกำลังใจให้ข่าวทุกท่านหน่อยครับ :)
Credit http://atcloud.com/stories/64630