PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [พูดคุย-แลกเปลี่ยน] ความครอบงำสมัยใหม่ ที่ถูกเปลี่ยนผ่านจากการ์ตูน ไปสู่ 'เกม'



kingcesar
22nd January 2014, 16:15
ตอนช่วงบ่ายๆที่ผ่านมานี้ หลังจากที่ผมนั่งเล่นเกมคลายเครียดเสร็จ (Sleeping Dogs) ก็นึกอะไรได้บางอย่าง......
เกี่ยวกับความรุนแรงภายในเกม และสิ่งที่เพิ่งเห็นไปภายในตัวเกม

ผมเลยออกไปนั่งเล่นรับแสงแดดที่ร้านกาแฟแถบชานเมือง เพื่อจิบโกโก้อุ่นๆยามบ่าย
ระหว่างจิบโกโก้ผมก็ยังครุ่นคิดกับเรื่องที่ยังค้างคาหลังจากเล่นเกมเสร็จ นั่นคือ กลวิธีความรุนแรงที่ฝังมาพร้อมกับเกม
ผมก็เลยโทรไปคุยกับนักวิจัยที่กำลังศึกษางานด้านภัยคุกคามโลกไซเบอร์ (Cyber Threat) ในมหาลัยแห่งหนึ่งในภาคกลาง
ที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ และอาจารย์ของผม หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก

ก็ได้ไอเดียเสริมมาเรื่องนึง คือ ความรุนแรง ที่ถูกแฝงไว้ในสื่อ ของโลกสมัยใหม่ โดยประเทศมหาอำนาจ (Superpower) นั้น
ไม่ได้มีแต่เพียงในข่าวหรือในการ์ตูนเหมือนในอดีตแล้ว แต่สมัยนี้ ความรุนแรง กลายเป็นสิ่งที่ถูกฝังเข้าไปในเกม
หลายๆเกมซะแล้ว การสร้างความชอบธรรมในการต่อสู้และใช้กำลัง กลายเป็นปัจจัยหนึ่งหรืออาจเรียกได้ว่าเป็น
Achievement และ Objective ของตัวเกมหลายๆเกม ที่เป็นเกมกระแสหลักในตลาดเกมไปแล้ว

บวกกับเรื่องทุนวิจัยด้านกลาโหมจาก Pentagon ที่สนับสนุนด้านการทหารและเกมแนวสงครามที่แต่เดิมมีไว้ใช้เพื่อฝึกทหาร
แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า เกมกระแสหลักหลายๆเกม ก็เริ่มที่จะถอดแบบ และสำเนามาจากสถานการณ์จริง โดยมีทหารตัวจริงมาเป็นที่ปรึกษาแล้ว
ความรุนแรงกลายเป็นความชอบธรรมหลักที่ถูกสร้างขึ้นในเกมกระแสหลักของปัจจุบัน

จะเป็นยังไงต่อไป ถ้าเกมในยุคที่มณฑลของไซเบอร์มีลักษณะเฟื่องฟูขนาดนี้ และบริษัทเกมรวมถึงผู้ผลิตเกมสามารถพัฒนา
เกมให้มีระบบสมบูรณ์และก้าวข้ามขีดจำกัดที่ปัจจุบันเป็นได้แค่ 'Simulator' ไป (จะไปถึงขั้นไหน ก็แล้วแต่ ที่มันสมจริงกว่าปัจจุบัน)

จะมีอะไรเป็นตัวการันตีว่า เยาวชนจะไม่อ่อนไหวปล่อยอารมณ์ไปตามเครื่องมือเหล่านี้?

คือ ไม่ได้โลกสวยนะครับ แต่ลองขบคิดเล่นๆมาสักพักได้แล้ว ว่ามันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
สำหรับคนที่มีวุฒิภาวะ หรือกลุ่มคนที่คิดได้ มีสติมาเล่นเกมก็ดีไป

แต่สำหรับคนที่่ขาดวุฒิภาวะและความยั้งคิดล่ะ? กลุ่มดังกล่าวนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นกลุ่มที่ซึมซับความรุนแรงในเกมไป
แล้วไปเผานู่นเผานี่ ทำร้ายคนอื่น โดยตรงอย่างที่เคยเป็นข่าวนะ

ที่น่ากังวลคือ กลุ่มที่ซึมซับความรุนแรง และแนวคิดต่างๆที่ถูกฝังไว้ในตัวเกมไว้ แล้วเก็บงำไว้ภายใต้จิตใต้สำนึกของตนเอง
แล้วก็ไม่รู้ว่า มันจะระเบิดออกมาเมื่อไร (ประเภทนี้นี่น่ากลัวนะครับ เพราะไม่มีใครสามารถรู้ได้เลย ว่าคนใกล้ตัวหรือคนรู้จักจะมีอาการแบบนี้หรือเปล่า
เพราะมันไม่ได้ถูกปล่อยออกมาข้างนอก เหมือนอย่างคดีหลายๆคดีที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามาจากเกม อันนั้นคือ เคสที่มองเห็นได้
แต่เคสที่บอกไป มันไม่สามารถมองเห็นง่ายๆ หรือบางทีอาจจะไม่แสดงออกมาเลย จนกระทั่งมีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไปกระทบนี่)

ตามตรงนะ ผมคิดไปคิดมา มันก็มีความเป็นไปได้ที่สูงนะ เพื่อนสมาชิกคิดว่าไง? :sweat

anamisis
22nd January 2014, 16:35
อยู่ที่การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อม ต่อให้คนเอาคนมาฆ่าให้ดูต่อหน้าต่อตาถ้าคนมีวุฒิภาวะก็ไม่เลียนแบบหลอกครับ ลองมองกับกันสิครับอย่างภาษาอังกฤษในตัวเกมส์ต่อให้เอาคนมานั่งท่องทุกวัน ถ้ามันไม่เอายังไงก็พูดไม่เป็นหรือไม่เข้าใจครับ สื่อต่างๆเช่นหนังสือหรือภาพยนต์ก็มีความรุนแรงพอๆกัน ผมว่าถ้าคนที่ทำอะไรเกินกว่าเหตุ อันนี้คงต้องเข้าขั้นจิตรไม่ปกติแล้วละครับ
ถามว่ามันมีผลมั้ยมันก็มีครับแต่ทุกอย่างมีการจัดเรทติ้งก่อนที่จะซื้อหรือรับชม
คนเราทุกคนมีดีมีเลว ไม่ว่าจะดูหรือเล่นอะไร ถ้าคิดไปในทางไม่ดี มันก็เอาไปทำตามได้ทั้งนั้นละครับ

nevermercy
22nd January 2014, 19:07
สำหรับผม ผมขอเเยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1.สำหรับเกม ผมมองว่าเกมเป็นเหมือนสิ่งบันเทิงที่เหมือนจะ "ตอบสนองความต้องการ"ของตัวผู้สร้างเอง ผู้สร้างเกมก็เป็นคนที่เคยเล่นเเละรักเกมมากๆ เเต่มีความรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่เขาได้สัมภัสมันขาดอะไรบางอย่างไป เขาจึงได้เกิดไอเดียในการนำเสนอสิ่งต่างๆที่เขาคิดว่ามันขาดไป ออกมาเป็นเกมในสมัยใหม่ๆอย่างที่ออกมาทุกวันนี้...ส่วนหนึ่งที่เกิดความรุนเเรง มันเกิดจากตัวผู้สร้างเอง ไม่ว่าจะสิ่งเเวดล้อมหรือความคิดที่หล่อหลอมความคิดเขาขึ้นมา ในปัจจุบันด้วยกราฟฟิคเเละไอเดียที่ล่อตาล่อใจทำให้เยาวชนจำนวนไม่น้อยเกิดความออกเล่นอยากลองขึ้นมา โดยไม่ได้คำนึงถึงความรุนเเรงในเกมเลย สิ่งพวกนี้เป็นเพียงสิ่งที่เเทรกเข้ามา โดยเยาวชนได้ซึมซับมันไปอย่างช้าๆ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ยังไงทุกท่านก็ได้ซึมซับมันไปอย่างเเน่นอน นั่นทำให้เกิดประเด็นที่ 2 ครับ

2.สำหรับบุคคล สำหรับท่านข้างบนได้บอกว่า ถึงจะมีการฆ่าให้ดูต่อหน้าเเต่ถ้าคนมีวุฒิภาวะจะไม่ปฏิบัติตาม ผมมองว่าไม่นะครับ...คือถึงจะไม่ปฏิบัติทันทีทันใด เราๆท่านๆก็ได้ซึมซับมันเข้าไปเเล้วครับ ส่วนการเเสดงออกมา มันจะขึ้นอยู่กับเวลา...ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์โกรธ หรือช่วงวัยที่กำลังโต หรือมีสิ่งเร้าอะไรก็เเล้วเเต่ มนุษย์ทุกคนสามารถอยู่ในภาวะ"ขาดความยั้งคิดได้"ทุกคน เเละการที่ได้ซึมซับความรุนเเรงนั้นก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมที่จะปฏิบัติออกมา

ผมมองว่าถ้าหากผู้ทำเกมยังทำเกมออกมาให้มีเนื้อหารุนเเรง เสียดสี ยังไงๆทุกคนก็จะได้ซึมซับมันไปไม่มากก็น้อย ดังนั้นควรที่จะฝึกสติให้มั่นคง เพื่อให้ภาวะขาดความยั้งคิดออกมาให้น้อยที่สุด


ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมครับ

kingcesar
22nd January 2014, 19:22
อยู่ที่การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อม ต่อให้คนเอาคนมาฆ่าให้ดูต่อหน้าต่อตาถ้าคนมีวุฒิภาวะก็ไม่เลียนแบบหลอกครับ ลองมองกับกันสิครับอย่างภาษาอังกฤษในตัวเกมส์ต่อให้เอาคนมานั่งท่องทุกวัน ถ้ามันไม่เอายังไงก็พูดไม่เป็นหรือไม่เข้าใจครับ สื่อต่างๆเช่นหนังสือหรือภาพยนต์ก็มีความรุนแรงพอๆกัน ผมว่าถ้าคนที่ทำอะไรเกินกว่าเหตุ อันนี้คงต้องเข้าขั้นจิตรไม่ปกติแล้วละครับ
ถามว่ามันมีผลมั้ยมันก็มีครับแต่ทุกอย่างมีการจัดเรทติ้งก่อนที่จะซื้อหรือรับชม
คนเราทุกคนมีดีมีเลว ไม่ว่าจะดูหรือเล่นอะไร ถ้าคิดไปในทางไม่ดี มันก็เอาไปทำตามได้ทั้งนั้นละครับ

ที่พูดมาก็ถูกนะ สภาพแวดล้อมกับการเลี้ยงดูก็ส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นคือ เกมหลายๆเกมนี่
มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขัดเกลาและหล่อหลอมทางสังคมไปในยุคสมัยปัจจุบันนี่น่ะสิ

คือ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ ไอ้เรื่องการจัดเรทติ้งเนี่ย มันไม่ค่อยได้ผลมากนักหรอกครับ สังเกตง่ายๆในไทย ยังไม่ค่อยได้ผลเลยครับ
ขนาดเกมบางเกม จัด Rate ว่า มันมีเนื้อหาที่รุนแรงทางกายภาพ หรือทางเพศสภาพ เด็กๆยังสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายๆเลยครับ
ผมคิดว่ายังไงมันก็เป็นเรื่องที่เราๆท่านๆสมควรที่จะตระหนักไว้เสมอนะ ไม่ควรที่จะละเลย ถึงแม้ว่า มันอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเกิดขึ้น
ได้แทบจะบอกว่า ไม่บ่อยนักในทุกวันนี้ของไทย


สำหรับผม ผมขอเเยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1.สำหรับเกม ผมมองว่าเกมเป็นเหมือนสิ่งบันเทิงที่เหมือนจะ "ตอบสนองความต้องการ"ของตัวผู้สร้างเอง ผู้สร้างเกมก็เป็นคนที่เคยเล่นเเละรักเกมมากๆ เเต่มีความรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่เขาได้สัมภัสมันขาดอะไรบางอย่างไป เขาจึงได้เกิดไอเดียในการนำเสนอสิ่งต่างๆที่เขาคิดว่ามันขาดไป ออกมาเป็นเกมในสมัยใหม่ๆอย่างที่ออกมาทุกวันนี้...ส่วนหนึ่งที่เกิดความรุนเเรง มันเกิดจากตัวผู้สร้างเอง ไม่ว่าจะสิ่งเเวดล้อมหรือความคิดที่หล่อหลอมความคิดเขาขึ้นมา ในปัจจุบันด้วยกราฟฟิคเเละไอเดียที่ล่อตาล่อใจทำให้เยาวชนจำนวนไม่น้อยเกิดความออกเล่นอยากลองขึ้นมา โดยไม่ได้คำนึงถึงความรุนเเรงในเกมเลย สิ่งพวกนี้เป็นเพียงสิ่งที่เเทรกเข้ามา โดยเยาวชนได้ซึมซับมันไปอย่างช้าๆ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ยังไงทุกท่านก็ได้ซึมซับมันไปอย่างเเน่นอน นั่นทำให้เกิดประเด็นที่ 2 ครับ

2.สำหรับบุคคล สำหรับท่านข้างบนได้บอกว่า ถึงจะมีการฆ่าให้ดูต่อหน้าเเต่ถ้าคนมีวุฒิภาวะจะไม่ปฏิบัติตาม ผมมองว่าไม่นะครับ...คือถึงจะไม่ปฏิบัติทันทีทันใด เราๆท่านๆก็ได้ซึมซับมันเข้าไปเเล้วครับ ส่วนการเเสดงออกมา มันจะขึ้นอยู่กับเวลา...ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์โกรธ หรือช่วงวัยที่กำลังโต หรือมีสิ่งเร้าอะไรก็เเล้วเเต่ มนุษย์ทุกคนสามารถอยู่ในภาวะ"ขาดความยั้งคิดได้"ทุกคน เเละการที่ได้ซึมซับความรุนเเรงนั้นก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมที่จะปฏิบัติออกมา

ผมมองว่าถ้าหากผู้ทำเกมยังทำเกมออกมาให้มีเนื้อหารุนเเรง เสียดสี ยังไงๆทุกคนก็จะได้ซึมซับมันไปไม่มากก็น้อย ดังนั้นควรที่จะฝึกสติให้มั่นคง เพื่อให้ภาวะขาดความยั้งคิดออกมาให้น้อยที่สุด


ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมครับ

ก็เห็นด้วยนะครับ แต่สำหรับข้อ 1 นี้ ผมคิดว่าต้องแยกให้ออกระหว่าง เจ้าของปัจจัยการผลิตในวงจรอุตสาหกรรมเกม กับ นักพัฒนาเกม ด้วยนะ
ว่านิยามของคำว่า "ผู้สร้าง" สมควรจะอยู่ตรงจุดไหนนะ 5555

nevermercy
22nd January 2014, 19:27
ผู้สร้างน่าจะเป็นผู้พัฒนาเกมนะครับ ส่วนเจ้าของปัจจัยการผลิตเนี้ย พวกนี้เค้าไม่น่าจะคำนึงถึงความรุนเเรงอะไรนะครับ เค้าเเค่คำนวณว่าเกมนี้เเม่งน่าจะดัง ทุกอย่างมันพังมาเเต่เเรกเเล้วมั้ง พังมาตั้งเเต่ตลาดเกมดังๆส่วนมากจะเป็นเกมรุนเเรง ถ้าเป็นเกมที่มันโนเนะๆหน่อย มันก็คงไม่มีประเด็นนี้หรอก
เเต่ก็อย่างว่า มันไม่เร้าใจ55555555

gikkik
22nd January 2014, 19:39
อืม แล้ว ใครมันจะทำเกมโยนหมากเก็บ หรือเกมอ่านหนังสือสอบให้ได้ที่ 1ล่ะ

gogo2000
22nd January 2014, 19:46
ปัญหาความรุนแรงในเกมเป็นปัญหาก็จริง แต่เกมก็ได้จัดเรทสำหรับคนเล่นอยู่แล้ว อย่าง Sleeping Dogs ก็ได้เรท 18+ และมีอีกหลายเกมได้เรท 20+ ซึ่งช่วงอายุนี้เราเริ่มเปลี่ยนจากเด็กไปเป็นผู้ใหญ่
แต่ปัญหามันเกิดขึ้นที่ว่า เด็กต่ำกว่าที่เรทกำหนดซื้อไปเล่น ซึ่งพ่อแม่สว่นใหญ่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ใช่ว่าเกมเป็นมาเหตุของความรุนแรงเสมอไป ผมว่ามันมีผลน้อยมาก แต่ก็บางคนเห็นพฤติกรรมที่ชัดเจนขึ้นคือ ก้าวร้าว ขึ้น แต่ที่ผมเห็นก็ส่วนน้อยนะถ้าพ่อแม่ ดูแลดึ ไม่ตามใจ ผมสังเกตุเห็นได้จากในเคลือญาติผมเองนี่ละ

liger0000
22nd January 2014, 19:52
ความรุนแรงมันอยู่ในidคับ แล้วแต่มันจะออกมาทางไหน สมัยก่อนความรุนแรงส่วนใหญมันก็เอาไปลงกับสงคราม หรือไม่ก็เอาไปลงกับทางอื่นเช่นพวกทาศ สมัยก่อนมันมีกราเดียเตอร์ก็เพราะชนชั้นสูงในโรมไม่เคยออกสงครามแต่ มันก็ยังมีความต้องการความรุนแรง อยู่ในidของพวกเขาคับ
ต่อมาก็มีละคร มีกลอน มีดนตรี และศิลปะต่างๆ จากสงครามความรุนแรงต่างๆก็ไปลงกับสื่อต่างๆ ไม่ว่าสมัยไหนเพลงหรือวรรณคดีต้องมีความรุนแรงแฝงอยู่เสมอ สงครามเองก็ยังเกิดอยู่

แต่พอหลังสมัยสงครามเย็น สงครามเวียดนามประชาชนที่เสพความรุนแรงจากสงครามรู้รสของสงครามจริงๆที่มีการตายจริงเจ็บจริง คนมากมายจึงเริ่มต่อต้านสงคราม รวมถึงสื่อต่างเริ่มมีมากมายทำให้แหล่งระบายidมันมีมากสงครามมันจึงหมดความจำเป็นลง

แต่สงครามต่างๆมันก็โดนแปรรูปเป็นสื่อสมมุติขึ้น ภาพยนต์ เกม ละคร สิ่งที่ขายได้ดีที่สุดก็คือความรุนแรงคับ อย่าโทษเกมคับ ละครไทยก็ยังมีการใช้ความรุนแรงตบกันเลย หรือแม้แต่การตูนย์เด็กของดิสนียังต้องแฝงความรุนแรงเอาไว้ไม่งั้นขายไม่ได้ ฉนั้น อนิเม เกม หนังต่างๆก็ไม่พ้นคับ

ความรุนแรงมันก็เหมือนSEXอะแหละเราตัดมันไม่ได้ มันเป็นสัญชาติญาณ อย่าไปโทษเกมเหอะคับ คำว่าความรุนแรงเนี้ยมันอยู่ที่เราจะจัดการกับมันยังไงมากกว่า เกมเป็นสิ่งที่เซฟที่สุดคับ


ผมเคยทดลองกับตนเองมานะคับ ตอนเด็กๆเป็นเด็กที่อารามร้ายมากทั้งๆที่ไม่เคยดูอะไรโหดๆหรือเล่นเกมโหดเลย แถมเป็นเด็กเก็บกดด้วย แต่พอเล่นเกมโหดๆพฤติกรรมต่างๆก็หายไป หรือเรื่องเพศสมัยก่อนผมอยากมีแฟนมากจนหมกหมุ่นด้วยซ้ำ สมัยก่อนเว็ปโป้ไม่รู้จัก +กับเพื่อนน้อยมาก ทำให้ความต้องการในส่วนความรัก(ตามทฤษฎีความต้องการ5ขั้นของมัลโร่นะ) สุดท้ายก็กลายเป็นสโต๊คเกอร์ แต่พอเขาวงการอนิเมะบางสิ่งบางอย่างมันถูกตอบสนอง ทุกครั้งที่ผมมองฮารุฮิกับนางาโตะผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเคยเรียกว่าความรักนั้นผมไม่ต้องการอีกแล้ว

jeditrainer
22nd January 2014, 20:17
มนุษย์เราก็มีสัญชาตญาณดิบอยู่ลึก ๆ ในจิตใจอยู่แล้ว บางทีสื่อที่มีความรุนแรงอาจจะไม่ได้ทำให้ซึมซับไปปฏิบัติหรอกครับ
แต่มันจะเป็นการสนองความต้องการพวกนี้ลึก ๆ ในจิตใจได้เหมือนการระบายอารมณ์ มีงานวิจัยของฝรั่งเคยพูดถึงเรื่องการ
รับข่าวอาชญากรรมรุนแรงแบบเลือดตกยางออกไปจนถึงตายนะครับว่าคนที่รับสื่อจำพวกนี้เข้าไปจะทำให้อารมณ์ที่ตึงเครียด
ในใจนั่นผ่อนคลายลงด้วยถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยหรือมีท่าทีชิงชังก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับมนุษย์อยู่แล้วละครับ
ลองมองกลับไปในประวัติศาสตร์ดูสิมีความรุนแรงฉาบทาอยู่เต็มไปหมดในระหว่างที่คนเราพัฒนาอารยธรรมและสังคมขึ้นมา
จนรุ่งเรืองได้จวบจนปัจจุบัน ไม่มีสังคมยุคไหนเลยที่ปราศจากความรุนแรงและสงคราม แต่ด้วยปัจจุบันคนเราเลิกกระทำ
สิ่งพวกนั้นไปแล้ว(เว้นบางประเทศ)ก็หันมาเสพสื่อจำพวกนี้แทนเพื่อสนองความต้องการในสัญชาตญาณดิบในตัวนั่นแล
ปล.ลองย้อนนึกถึงตอนที่คุณเล่นเกมที่รุนแรงมาก ๆ ครั้งแรกในชีวิตดูสิครับว่าคุณรู้สึกอย่างไรแล้วจะเข้าใจ

sattawat1979
22nd January 2014, 20:22
ต้องเข้าใจว่า ''เกม'' ก็คือ ''เกม'' ครับ ไม่ใช่ชีวิตจริง ก่อนที่จะเล่นเกม ผู้เล่นต้องเข้าใจและแยกแยะได้เสียก่อน

เกมมีไว้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นครับ ส่วนเนื้อหาก็แล้วแต่ผู้สร้างจะสอดแทรกอะไรลงไปก็ได้

บางครั้งเกมก็จำเป็นต้องมีอะไรที่แตกต่างจากโลกความเป็นจริงไปบ้างครับ เพื่อความแปลกใหม่และสนุกสนาน

เช่น การปล้น การฆ่า sex อาชญากรรม อะไรก็สุดแล้วแต่ ที่ในโลกความเป็นจริงทำไม่ได้ แต่ในเกมให้คุณได้


อีกความหมายหนึ่งเกมก็เป็นการระบายความเครียดสำหรับหลายคน เช่น การจับปืนแล้วยิงใครก็ได้(ในเกม)

คุณจะรู้สึกว่าคุณมีอำนาจควบคุมได้หลายสิ่งหลายอย่าง มีโลกส่วนตัวที่เราจะทำอะไรก็ได้ อิสระเสรี

อีกทั้งเกมยังช่วยลดความกดดันในชีวิตจริงได้ด้วยครับ


ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับคนเล่นด้วยครับ ว่าสามารถแยกแยะเกมกับโลกความเป็นจริงได้แค่ไหน

kingcesar
22nd January 2014, 21:38
ผู้สร้างน่าจะเป็นผู้พัฒนาเกมนะครับ ส่วนเจ้าของปัจจัยการผลิตเนี้ย พวกนี้เค้าไม่น่าจะคำนึงถึงความรุนเเรงอะไรนะครับ เค้าเเค่คำนวณว่าเกมนี้เเม่งน่าจะดัง ทุกอย่างมันพังมาเเต่เเรกเเล้วมั้ง พังมาตั้งเเต่ตลาดเกมดังๆส่วนมากจะเป็นเกมรุนเเรง ถ้าเป็นเกมที่มันโนเนะๆหน่อย มันก็คงไม่มีประเด็นนี้หรอก
เเต่ก็อย่างว่า มันไม่เร้าใจ55555555

เกมโนเนะที่ว่า นี่หมายถึง เกมแนวเป่ายิงฉุบแก้ผ้าหรือเปล่าครับ 555


อืม แล้ว ใครมันจะทำเกมโยนหมากเก็บ หรือเกมอ่านหนังสือสอบให้ได้ที่ 1ล่ะ

นั่นแหละครับ เพราะเกมเหล่านั้นมันสร้าง "อารมณ์ร่วม" ให้กับผู้เล่นได้ไม่ดีเท่าเกมแบบตื่นเต้นๆไงครับ
ให้ผมเล่น ผมยังไม่อยากจะเล่นเลย พวกเกมแนวที่มันไม่ตื่นเต้นเนี่ย 555


ปัญหาความรุนแรงในเกมเป็นปัญหาก็จริง แต่เกมก็ได้จัดเรทสำหรับคนเล่นอยู่แล้ว อย่าง Sleeping Dogs ก็ได้เรท 18+ และมีอีกหลายเกมได้เรท 20+ ซึ่งช่วงอายุนี้เราเริ่มเปลี่ยนจากเด็กไปเป็นผู้ใหญ่
แต่ปัญหามันเกิดขึ้นที่ว่า เด็กต่ำกว่าที่เรทกำหนดซื้อไปเล่น ซึ่งพ่อแม่สว่นใหญ่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็ใช่ว่าเกมเป็นมาเหตุของความรุนแรงเสมอไป ผมว่ามันมีผลน้อยมาก แต่ก็บางคนเห็นพฤติกรรมที่ชัดเจนขึ้นคือ ก้าวร้าว ขึ้น แต่ที่ผมเห็นก็ส่วนน้อยนะถ้าพ่อแม่ ดูแลดึ ไม่ตามใจ ผมสังเกตุเห็นได้จากในเคลือญาติผมเองนี่ละ

ก็อย่างที่คุณบอกแหละ เกมอาจจะไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่... ต้องดูเงื่อนไขของพฤติกรรมด้วย บางทีเกมอาจจะกลายไปเป็น "กลไกหนึ่ง"
ที่บ่มเพาะลักษณะนิสัยบางประการก็เป็นได้ (อันนี้ผมว่ามันเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเลยล่ะ ถึงแม้จะไม่ส่งผลทางตรง แต่มันก็ได้ส่งผลทางอ้อมไปแล้วทีละน้อยๆ)


ความรุนแรงมันอยู่ในidคับ แล้วแต่มันจะออกมาทางไหน สมัยก่อนความรุนแรงส่วนใหญมันก็เอาไปลงกับสงคราม หรือไม่ก็เอาไปลงกับทางอื่นเช่นพวกทาศ สมัยก่อนมันมีกราเดียเตอร์ก็เพราะชนชั้นสูงในโรมไม่เคยออกสงครามแต่ มันก็ยังมีความต้องการความรุนแรง อยู่ในidของพวกเขาคับ
ต่อมาก็มีละคร มีกลอน มีดนตรี และศิลปะต่างๆ จากสงครามความรุนแรงต่างๆก็ไปลงกับสื่อต่างๆ ไม่ว่าสมัยไหนเพลงหรือวรรณคดีต้องมีความรุนแรงแฝงอยู่เสมอ สงครามเองก็ยังเกิดอยู่

แต่พอหลังสมัยสงครามเย็น สงครามเวียดนามประชาชนที่เสพความรุนแรงจากสงครามรู้รสของสงครามจริงๆที่มีการตายจริงเจ็บจริง คนมากมายจึงเริ่มต่อต้านสงคราม รวมถึงสื่อต่างเริ่มมีมากมายทำให้แหล่งระบายidมันมีมากสงครามมันจึงหมดความจำเป็นลง

แต่สงครามต่างๆมันก็โดนแปรรูปเป็นสื่อสมมุติขึ้น ภาพยนต์ เกม ละคร สิ่งที่ขายได้ดีที่สุดก็คือความรุนแรงคับ อย่าโทษเกมคับ ละครไทยก็ยังมีการใช้ความรุนแรงตบกันเลย หรือแม้แต่การตูนย์เด็กของดิสนียังต้องแฝงความรุนแรงเอาไว้ไม่งั้นขายไม่ได้ ฉนั้น อนิเม เกม หนังต่างๆก็ไม่พ้นคับ

ความรุนแรงมันก็เหมือนSEXอะแหละเราตัดมันไม่ได้ มันเป็นสัญชาติญาณ อย่าไปโทษเกมเหอะคับ คำว่าความรุนแรงเนี้ยมันอยู่ที่เราจะจัดการกับมันยังไงมากกว่า เกมเป็นสิ่งที่เซฟที่สุดคับ

เฮ้ยคุณ ใจเย็นก่อนครับ ผมยังไม่ได้มาโทษเกมเลยสักนิดนะ ผมแค่มานั่งคิดดูว่า ความรุนแรงที่แฝงมากับสื่อในปัจจุบันมันมีอานุภาพแบบไหน
แล้วผมก็ยกตัวอย่างกับเกม และการ์ตูน โอเคว่าผมอาจจะไม่ได้ยกตัวอย่างละคร หรือการ์ตูน Disney ที่มันมีประเด็นเพศสภาพมาแฝงหรืออะไรพวกนั้น

แต่ผมกำลังพยายามให้หลายๆคนลองจินตนาการถึงอนาคต ว่าถ้ามันก้าวข้ามขอบเขตของ Simulator แล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ไม่ใช่ว่าผมออกมาด่าว่าเกมไม่ดี
ผมเองก็เล่นเกม อย่าเพิ่งใช้วาจามาคุกคามผมสิครับ
เออผมเห็นคุณใช้เรื่อง Id วิเคราะห์เรื่องนี้ ผมคิดว่าคุณน่าจะต่อยอด
โดยใช้ทฤษฎี Self ของ George Herbert Mead ด้วยสิครับ



มนุษย์เราก็มีสัญชาตญาณดิบอยู่ลึก ๆ ในจิตใจอยู่แล้ว บางทีสื่อที่มีความรุนแรงอาจจะไม่ได้ทำให้ซึมซับไปปฏิบัติหรอกครับ
แต่มันจะเป็นการสนองความต้องการพวกนี้ลึก ๆ ในจิตใจได้เหมือนการระบายอารมณ์ มีงานวิจัยของฝรั่งเคยพูดถึงเรื่องการ
รับข่าวอาชญากรรมรุนแรงแบบเลือดตกยางออกไปจนถึงตายนะครับว่าคนที่รับสื่อจำพวกนี้เข้าไปจะทำให้อารมณ์ที่ตึงเครียด
ในใจนั่นผ่อนคลายลงด้วยถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยหรือมีท่าทีชิงชังก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับมนุษย์อยู่แล้วละครับ
ลองมองกลับไปในประวัติศาสตร์ดูสิมีความรุนแรงฉาบทาอยู่เต็มไปหมดในระหว่างที่คนเราพัฒนาอารยธรรมและสังคมขึ้นมา
จนรุ่งเรืองได้จวบจนปัจจุบัน ไม่มีสังคมยุคไหนเลยที่ปราศจากความรุนแรงและสงคราม แต่ด้วยปัจจุบันคนเราเลิกกระทำ
สิ่งพวกนั้นไปแล้ว(เว้นบางประเทศ)ก็หันมาเสพสื่อจำพวกนี้แทนเพื่อสนองความต้องการในสัญชาตญาณดิบในตัวนั่นแล
ปล.ลองย้อนนึกถึงตอนที่คุณเล่นเกมที่รุนแรงมาก ๆ ครั้งแรกในชีวิตดูสิครับว่าคุณรู้สึกอย่างไรแล้วจะเข้าใจ

คำพูดของคุณนี่นะ ชวนให้ผมนึกถึงตอนทำบทความวิจารณ์เรื่อง Origins of War เลยแฮะ - -
งั้นขอเสริมของคุณนิดหน่อยละกัน คือ ปัจจุบัน โลกและเวทีการเมืองระหว่างประเทศมันเข้าสู่ยุคจริยธรรมนำการเมือง(Ethical Terms) แล้ว
มันเลยเกิดกระแสต่อต้านเครื่องมือที่เรียกว่า "ความรุนแรงกับสงคราม" ขึ้นมาเป็นระยะๆ การที่มนุษย์โหยหาสันติภาพนี้ก็เป็นอีกอิทธิพลนึง
ของยุคสมัยใหม่ที่เริ่มมีองค์การระหว่างประเทศมาจรรโลง ชักจูงประเด็นเรื่องสันติภาพมากขึ้น คนส่วนใหญ่เลยพยายามจะเปลี่ยนและปกปิด
สัญชาตญาณดิบของตนเองไว้ :D


ต้องเข้าใจว่า ''เกม'' ก็คือ ''เกม'' ครับ ไม่ใช่ชีวิตจริง ก่อนที่จะเล่นเกม ผู้เล่นต้องเข้าใจและแยกแยะได้เสียก่อน

เกมมีไว้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นครับ ส่วนเนื้อหาก็แล้วแต่ผู้สร้างจะสอดแทรกอะไรลงไปก็ได้

บางครั้งเกมก็จำเป็นต้องมีอะไรที่แตกต่างจากโลกความเป็นจริงไปบ้างครับ เพื่อความแปลกใหม่และสนุกสนาน

เช่น การปล้น การฆ่า sex อาชญากรรม อะไรก็สุดแล้วแต่ ที่ในโลกความเป็นจริงทำไม่ได้ แต่ในเกมให้คุณได้


อีกความหมายหนึ่งเกมก็เป็นการระบายความเครียดสำหรับหลายคน เช่น การจับปืนแล้วยิงใครก็ได้(ในเกม)

คุณจะรู้สึกว่าคุณมีอำนาจควบคุมได้หลายสิ่งหลายอย่าง มีโลกส่วนตัวที่เราจะทำอะไรก็ได้ อิสระเสรี

อีกทั้งเกมยังช่วยลดความกดดันในชีวิตจริงได้ด้วยครับ


ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับคนเล่นด้วยครับ ว่าสามารถแยกแยะเกมกับโลกความเป็นจริงได้แค่ไหน

ผมว่าทีคุณพูดมามันเรื่องของคอมมอนเซนส์มากๆเลยนะครับ
มันก็ถูกครับ ว่า เกมสามารถทำให้คุณเลือกจะทำไรก็ได้ที่ไม่สามารถทำในชีวิตจริงได้

แต่ผมมาลองคิดตั้งคำถามเล่นๆว่าในอีก 10 ปี 20 ปีต่อไป ถ้ามีความสื่อการบันเทิงทั้งหลายมีการพัฒนาล้ำหน้าจนกระทั่ง
สามารถสร้าง กระบวนการรับรู้เสมือนจริง ที่มันเลยขอบเขตเดิมของคำว่า จำลองเสมือนจริง จิตของคนจะยังรับสภาพหรือปรับตัวได้ขนาดไหน

(อย่าเพิ่งคิดตามนะ ปวดหัว 5555)




ผมเคยทดลองกับตนเองมานะคับ ตอนเด็กๆเป็นเด็กที่อารามร้ายมากทั้งๆที่ไม่เคยดูอะไรโหดๆหรือเล่นเกมโหดเลย แถมเป็นเด็กเก็บกดด้วย แต่พอเล่นเกมโหดๆพฤติกรรมต่างๆก็หายไป หรือเรื่องเพศสมัยก่อนผมอยากมีแฟนมากจนหมกหมุ่นด้วยซ้ำ สมัยก่อนเว็ปโป้ไม่รู้จัก +กับเพื่อนน้อยมาก ทำให้ความต้องการในส่วนความรัก(ตามทฤษฎีความต้องการ5ขั้นของมัลโร่นะ) สุดท้ายก็กลายเป็นสโต๊คเกอร์ แต่พอเขาวงการอนิเมะบางสิ่งบางอย่างมันถูกตอบสนอง ทุกครั้งที่ผมมองฮารุฮิกับนางาโตะผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเคยเรียกว่าความรักนั้นผมไม่ต้องการอีกแล้ว

ของมาสโลว์ (Maslow) ครับไม่ใช่ มัลโร
ผมอยากจะบอกอีกอย่างนึงว่า ถ้าลองทดลองกับตนเองเสร็จแล้ว ก็ลองทดลองกับคนอื่นด้วยสิครับ ;)

ฝากคติไว้เรื่องนึง "งานวิจัยและงานศึกษาสำรวจ จะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ถ้ามีการทดลองซ้ำๆกันหลายครั้ง หรือ มีกลุ่มตัวอย่างในการทดลองที่หลากหลาย"


อย่าคิดมากเลยครับ ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงอยู่แล้วสุดท้ายเราก็ปรับตัวได้ส่วนคนยุคหลังๆจากเราก็คงปรับตัวได้เร็วกว่าแล้วก็กลายเป็นเรื่องปกติไป เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันเมื่อสิบหรือยี่สิบปีที่แล้วเรายังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมี

*อาการของ จขกท. เหมือนจะเริ่มแก่ พอเห็นอะไรผ่านหูผ่านตาผ่านเข้ามาชีวิตเยอะก็เริ่มคิดถึงภาพรวมและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เฮ้ย นี่ผมยังไม่แก่นะ และไม่ใช่ว่าจะเริ่มแก่ด้วย - -

:sweat

ผมแค่เห็นอะไรแล้วก็ชอบเก็บมาคิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง

kom007
22nd January 2014, 22:08
อย่าคิดมากเลยครับ ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงอยู่แล้วสุดท้ายเราก็ปรับตัวได้ส่วนคนยุคหลังๆจากเราก็คงปรับตัวได้เร็วกว่าแล้วก็กลายเป็นเรื่องปกติไป เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันเมื่อสิบหรือยี่สิบปีที่แล้วเรายังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมี

*อาการของ จขกท. เหมือนจะเริ่มแก่ พอเห็นอะไรผ่านหูผ่านตาผ่านเข้ามาชีวิตเยอะก็เริ่มคิดถึงภาพรวมและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

liger0000
22nd January 2014, 23:13
แต่ผมกำลังพยายามให้หลายๆคนลองจินตนาการถึงอนาคต ว่าถ้ามันก้าวข้ามขอบเขตของ Simulator แล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ไม่ใช่ว่าผมออกมาด่าว่าเกมไม่ดี
ผมเองก็เล่นเกม อย่าเพิ่งใช้วาจามาคุกคามผมสิครับ
เออผมเห็นคุณใช้เรื่อง Id วิเคราะห์เรื่องนี้ ผมคิดว่าคุณน่าจะต่อยอด
โดยใช้ทฤษฎี Self ของ George Herbert Mead ด้วยสิครับ

ถ้าเป็นกรณีSimulatorแนะนำหาเมะ Sword Art onlineมาดูคับ มันจะมีบางส่วนที่เป็นผู้เล่นPKคอยฆ่าผู้เล่นคนอื่นทั้งๆที่รู้ว่าเกมนี้ตายคือตายจริง แต่ก็นะคับ การทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่าว่าแต่ในเกมเหอะมันมีทุกที่แหละคับ โรงเรียนก็มี ที่ทำงานก็มี ยิ่งใครมีอำนาจก็ข่มเหงผู้ไร้อำนาจได้เต็มที่ซึ่งหลายๆครั้งก็ใช้ความรุนแรงด้วย อย่างที่ว่ามาคับidมันก็คือid ตวามรุนแรงเนี้ยมันไม่จำเป็นต้องไปปลูกฝังที่ไหนเราก็เจอได้
ไปตามโรงเรียนอนุบาลแล้วสังเกตพฤติกรรมเด็กดูคับมันมีอยู่แล้วเด็กโตแย่งของเล่นเด็กเล็กบางทีก็ใช้ความรุนแรงด้วย แล้วเด็กมันไปโดนปลูกฝังจากที่ไหนหละ

ถ้าเราจะเอาทฤษฎีอื่นมาจับ จริงๆผมเสนอทฤษฎีที่เข้าใจง่ายที่สุดเลยละกัน คือทฤษฎีวิวัฒนาการคับ ตัวที่แข็งแกร่งกว่าย่อมอยู่รอด การใช้กำลังและความรุนแรงเพื่อแย่งทรัพยากรที่จำกัดนี้มันเรื่องเบสิคของธรรมชาติเลยคนกับสัตว์ก็ไม่ต่างกันหรอกคับ

kingcesar
22nd January 2014, 23:29
ถ้าเป็นกรณีSimulatorแนะนำหาเมะ Sword Art onlineมาดูคับ มันจะมีบางส่วนที่เป็นผู้เล่นPKคอยฆ่าผู้เล่นคนอื่นทั้งๆที่รู้ว่าเกมนี้ตายคือตายจริง แต่ก็นะคับ การทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่าว่าแต่ในเกมเหอะมันมีทุกที่แหละคับ โรงเรียนก็มี ที่ทำงานก็มี ยิ่งใครมีอำนาจก็ข่มเหงผู้ไร้อำนาจได้เต็มที่ซึ่งหลายๆครั้งก็ใช้ความรุนแรงด้วย อย่างที่ว่ามาคับidมันก็คือid ตวามรุนแรงเนี้ยมันไม่จำเป็นต้องไปปลูกฝังที่ไหนเราก็เจอได้
ไปตามโรงเรียนอนุบาลแล้วสังเกตพฤติกรรมเด็กดูคับมันมีอยู่แล้วเด็กโตแย่งของเล่นเด็กเล็กบางทีก็ใช้ความรุนแรงด้วย แล้วเด็กมันไปโดนปลูกฝังจากที่ไหนหละ

ถ้าเราจะเอาทฤษฎีอื่นมาจับ จริงๆผมเสนอทฤษฎีที่เข้าใจง่ายที่สุดเลยละกัน คือทฤษฎีวิวัฒนาการคับ ตัวที่แข็งแกร่งกว่าย่อมอยู่รอด การใช้กำลังและความรุนแรงเพื่อแย่งทรัพยากรที่จำกัดนี้มันเรื่องเบสิคของธรรมชาติเลยคนกับสัตว์ก็ไม่ต่างกันหรอกคับ

จากที่อ่านสิ่งที่คุณเขียนมา สรุปว่าทุกอย่างที่คุณกำลังบอกคือมันเป็นเพราะ "สัญชาตญาณ" (Instinct) เพียงอย่างเดียวเลยใช่ไหมครับนั่น ??
ผมว่ามันหลากหลายดีนะ การที่จะอธิบายเรื่อง Origins of Conflict/War เนี่ย ต่างวิธีวิทยาก็นำมาซึ่งต่างคำอธิบาย

แต่ยังไงก็เถอะผมไม่ค่อยนิยมวิธีการศึกษาแบบวิธีวิทยาของพวก Ethologist ที่นิยมเอาสัตว์ไปทดลองแล้วเอาผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับมนุษย์เท่าไรนะครับ - -

Fear191
22nd January 2014, 23:59
ผมว่าไอ้ความรุนแรงมันก็อยู่คู่มนุษย์เรามาช้านาน โดยเฉพาะสงคราม มันก็เลยเป็นเหตุให้ EA กับ Ubisoft ต้องหาทางยุติสงครามให้ได้เลยตกลงปลงใจกันว่า "งั้นเราก็ทำสงครามเสมือนจริงสิ ในเมื่อมันหยุดไม่ได้" พวก Intel AMD Geforce บลาๆๆ เลยขอแจมร่วมมือกันทำสุดยอดคอมพิวเตอร์ให้คนมันนั่งเล่นเกมอยู่กับบ้านสะจะได้ไม่ต้องไปหาเรื่องใคร Microsoft จึงเสริมว่า เดี๋ยว ไอ ทำวินโดวเมพๆให้ละกัน แต่มีมนุษย์นามนึงถ้วงขึ้นว่า
ถ้าเราอยากเรียนรู้เรื่องอื่นๆละ Google say เดวเราจัดการให้
ถ้าเราอยากดูหนังละ Youtube say เดวเราจัดการให้
ถ้าเราอยากหาออะไรกินละ Pizza say เดวเราไปส่งถึงบ้านให้
บลาๆๆๆ
สรุปคือ ถ้าเรามองมุมกลับ(?)คือค่ายเกมสร้างเกมเพื่อให้มนุษย์โลกอยู่ในบ้าน ใช้ความรุนแรงกับคอม หรืออาจจะใช้แรงหน้าคอมก็ได้ เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงของโลกใบนี้ ว่าไปนั่น:o ฝอยสะยาวเลยตรู:o

ปล.เอาจริงๆแล้วผมว่าความรุนแรงมันอยู่คู่กับกฎ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ซึ่งกฎนี้มันก็อยู่คู่กับมนุษย์มาจนถึงทุกวันนี้แหละ มันไม่ใช่ถูกปลูกฝังด้วยสื่อหรอก แต่มันอยู่คู่กับใจมนุษย์มาตลอดอ่ะแหละ

ILoVePaNgYa
23rd January 2014, 02:09
ถ้ามันข้ามขีดจำกัดของคำว่า"Simulator" ไป ผมว่ามันก็ไม่ใช่เกมแล้วหล่ะครับ

neobleak
23rd January 2014, 04:52
ความรุนแรงมันแฝงอยู่ทุกที่ครับไม่ได้มีแค่เฉพาะในเกมส์ ถ้าจะกังวลนะผมว่ากังวลในทุกๆสือบันเทิงเลยดีกว่ายุติธรรมดี

kingcesar
23rd January 2014, 06:31
ผมว่าไอ้ความรุนแรงมันก็อยู่คู่มนุษย์เรามาช้านาน โดยเฉพาะสงคราม มันก็เลยเป็นเหตุให้ EA กับ Ubisoft ต้องหาทางยุติสงครามให้ได้เลยตกลงปลงใจกันว่า "งั้นเราก็ทำสงครามเสมือนจริงสิ ในเมื่อมันหยุดไม่ได้" พวก Intel AMD Geforce บลาๆๆ เลยขอแจมร่วมมือกันทำสุดยอดคอมพิวเตอร์ให้คนมันนั่งเล่นเกมอยู่กับบ้านสะจะได้ไม่ต้องไปหาเรื่องใคร Microsoft จึงเสริมว่า เดี๋ยว ไอ ทำวินโดวเมพๆให้ละกัน แต่มีมนุษย์นามนึงถ้วงขึ้นว่า
ถ้าเราอยากเรียนรู้เรื่องอื่นๆละ Google say เดวเราจัดการให้
ถ้าเราอยากดูหนังละ Youtube say เดวเราจัดการให้
ถ้าเราอยากหาออะไรกินละ Pizza say เดวเราไปส่งถึงบ้านให้
บลาๆๆๆ
สรุปคือ ถ้าเรามองมุมกลับ(?)คือค่ายเกมสร้างเกมเพื่อให้มนุษย์โลกอยู่ในบ้าน ใช้ความรุนแรงกับคอม หรืออาจจะใช้แรงหน้าคอมก็ได้ เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงของโลกใบนี้ ว่าไปนั่น:o ฝอยสะยาวเลยตรู:o

ปล.เอาจริงๆแล้วผมว่าความรุนแรงมันอยู่คู่กับกฎ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ซึ่งกฎนี้มันก็อยู่คู่กับมนุษย์มาจนถึงทุกวันนี้แหละ มันไม่ใช่ถูกปลูกฝังด้วยสื่อหรอก แต่มันอยู่คู่กับใจมนุษย์มาตลอดอ่ะแหละ

คือถ้าผมบอกว่า ผมลองมองออกมาในมุมที่คนอื่นเขาไม่มอง หรือไม่คิดจะมองล่ะครับคิดว่าไง 5555
สมมตินะ ถ้าบริษัทอย่าง Microsoft กับ บริษัทอุตสาหกรรมเกมสัญชาติอเมริกา เป็นเครื่องมือหนึ่งในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศด้านการปลูกฝังปทัสถานใหม่ล่ะครับ
(ผมแค่สมมติ ถ้าอยากรู้ว่าจริงแท้แค่ไหน ลองไปหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมดูๆ อิอิ คนที่เขียนโจมตีเรื่องนี้เห็นมีหลายคนอยู่เหมือนกัน เรื่องนี้พวกนักวิชาการฝรั่่งเขาโจมตีกันมากเลยล่ะ)



ถ้ามันข้ามขีดจำกัดของคำว่า"Simulator" ไป ผมว่ามันก็ไม่ใช่เกมแล้วหล่ะครับ

ใครจะไปรู้ล่ะครับ มันอาจจะยังเป็นเกม แต่มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับของจริงมากขึ้น เช่น มีกลิ่นไอของนิเวศรอบตัว ในด่านแต่ละด่านของเกม
หรือ สามารถพูดคุยกับคนในเกมได้รู้เรื่อง โต้ตอบกันมากขึ้นมากกว่าระบบออโต้ จินตนาการของผมอาจจะเยอะไป อย่าเพิ่งมาว่าผมแก่นะ
ผมเห็นอะไรก็หยิบจับมาทำประเด็นคิดไปเรื่อย 555


ความรุนแรงมันแฝงอยู่ทุกที่ครับไม่ได้มีแค่เฉพาะในเกมส์ ถ้าจะกังวลนะผมว่ากังวลในทุกๆสือบันเทิงเลยดีกว่ายุติธรรมดี

สื่อบันเทิงสื่ออื่นๆ ผมก็กังวล แต่แค่ยังไม่ได้กล่าวถึงเท่านั้นเอง

ใช่ครับ ความรุนแรงมันแฝงอยู่ในทุกที่ จะหลับหรือตื่นอยู่ในตัวมนุษย์ก็เป็นได้ นั่นเรียกว่า สัญชาตญาณ ครับ
แต่คิดไปคิดมา มันก็คือสื่อต่างๆที่ว่านี่แหละ ที่จะมาเป็น Option เสริมในการปลุกสัญชาตญาณในตัว แหะๆ

gikkik
23rd January 2014, 14:06
ใช่ครับเกมนี่มันแย่จริงๆ เมื่อวาน ผมไปเล่นFFXIV ผมเห็น เด็กครับปกติผมไม่สนใจอะไรเล็กๆ แต่ตอนนี้ผมชักอยากได้สาวจิ๊วๆพวกนี้มาอยู่ด้วยแล้วสิ อ่าาาา
มันน่ารักโคตรๆจริงๆครับ LaLaFell อะ

sattawat1979
24th January 2014, 20:55
โชคดีที่ผมไม่คิดลึกขนาดนั้น ผมเล่นเกมก็แค่สนุกๆ ปิดเครื่องแล้วก็จบกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

อ่านแล้วผมตามไม่ทันเลย แหะๆ คิดมากแล้วปวดหัวนะครับ :o ทุกวันนี้แค่เรื่องหน้าที่การงานก็ปวดหัวจะแย่ละ เฮ้อ

kingcesar
24th January 2014, 23:07
โชคดีที่ผมไม่คิดลึกขนาดนั้น ผมเล่นเกมก็แค่สนุกๆ ปิดเครื่องแล้วก็จบกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

อ่านแล้วผมตามไม่ทันเลย แหะๆ คิดมากแล้วปวดหัวนะครับ :o ทุกวันนี้แค่เรื่องหน้าที่การงานก็ปวดหัวจะแย่ละ เฮ้อ

สนุกดีนะครับ เหมือนนักปรัชญาบางสำนักในสมัยก่อน เห็นนกก็ว่าไม่ดี เห็นน้ำก็ว่าร้าย เห็นวัวก็ว่าเลว 555