PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ถกปัญหาโลกแตก(อีกแล้ว) กับตอน เมืองไทยเมืองพุทธศูนย์กลางจักรวาล



pondsif01
14th February 2014, 21:27
โอเคร ขอเปิดประเด็นอีกแล้วนะครับ ใครรำคาณบอกได้นะครับแต่ผมก็ไม่หยุดหรอก 5555 เกริ่นไว้ก่อนนะหลายคนคงมโนว่าผมเป็นเด็กเกรียนๆไม่มีเพื่อนนั่งหน้าคอมวันๆไม่ไปใหน

โลกส่วนตัวสูง ซกมก ขี้เหร่ <<< ที่จริงผิดหมดครับ(ยกเว้นขี้เหล่) ผมเป็นนักศึกษา ทำงานฟรีแล๊นเป็นตากล้อง และก็ร่วมงานกับหน่วยอาสาบ่อยๆ(ไม่ใช่กู้ชีพนะเป็นพวกนักกิจกรรมไปชนบท)

ส่วนชีวิตผมอยู่กลางเมืองกรุงเลยครับ เวลาว่างชอบออกไปเดินเอ้อละเหย ถ่ายรูปที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นม็อบ รึอะไรก็แล้วแต่ งั้นอย่ามองว่าผมโลกสวยละกัน โลกผมเป็นสีเทาจริงๆ ย้ำว่าเทาเข้มเลย


โอเครเริ่มละ แค่อยากถกปัญหา ว่าทำไมคนไทยต้องคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางด้านศาสนาของโลก เพราะตามประวัติศาสตร์ประเทศไทยรวมตัวกันมาจากหลายเชื้อชาติก่อนจะมีศาสนา

ทำไมต้องมีการแบ่งแยกศาสนาไว้ในบัตรประชาชน ทำไมต้องมีกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียนในรูปแบบกึ่งบังคับ บางทีหลายคนอาจจะคิดว่าผมบ้าก็ได้มีปัญหาไรมากมายกับชีวิต

แต่ผมสงสัยไง เมื่อวานก็ไปทำงานกับกลุ่มอาสาธรรมมะ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทอายุก็สองเท่าของผม นั่งฟังเค้าคุยกันก็คุยเรื่องนินทากัน เรื่องพยายามยกตัวเองเป็นใหญ่

เพราะบอกว่าตัวเองปฏิบัติทำบ่อยๆ งง เลยกับคนที่ประเภทนี้ ไม่ก็คุยเรื่องลบหลู่ศาสนาอื่นเยอะแยะ แต่ก็ดีถือว่าเค้าทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมก็ช่างมันละกัน =__=

ผมว่าบางทีศาสนามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องกับอาชีพธุรกิจการทำงานและการศึกษา ทั้งๆที่ประเทศเราเป็นประชาธิปไตย เราควรจะปล่อยให้มีการเลือกถืออย่างเสรีไม่เข้าใจว่าทำไม

ต้องมีการปลูกฝังผ่านทางครอบครัว บ้านผมก็นับถือพุทธทั้งบ้าน และก็ไม่ชอบอิสลาม ถึงขั้นเกลียด ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ผมเคยใช้ชีวิตที่ปัตตานีและยะลา ผมจึงรู้ว่าถ้าตัดศาสนาออกไป ไม่ว่าที่ใหน

ก็มีคนเลวๆทั้งนั้นแหล่ะ และศาสนาพุทธบ้านเราทำไมถึงเสื่อมมาก ทั้งข่าวพระเกย์ เณรเกย์ พระข่มขืนผู้หญิง พระนักเลง ที่กล่าวมาผมเคยเจอมากับตัวก็ พระเกย์เดินจับมือกับเณรในตลาด

พระนักเลงอันนี้เป็นญาติแถวบ้าน แต่ละคนบวชเพื่อนำเงินไปใช้ส่วนตัวทั้งนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้ว่าศาสนาไม่ดีเพราะผมก็รู้จักรุ่นพี่คนนึง แกเรียนด้านปรัชญาปัจจุบันไปอยู่อินเดีย เป็นครั้งแรกที่ผม

เห็นพระที่ไม่เคยจับต้องอุปกรณ์อิเลกโทรนิค ไม่มีการบูชาพระพุทธรูป เป็นพระที่ศึกษาพระธรรมแบบสายกลางไม่อิงประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าอิงแต่คำสอน ถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆผมว่าโลกเรา

คงน่าอยู่ขึ้นเยอะ ขอจบบทความไว้ละกัน อยากให้เพื่อนๆชาว Joker เข้ามานั่งคุยประเด็นศาสนากัน และข้อร้องห้ามเหยียดหรือแสดงความฉลาดตัวเองแบบไม่พึงประสงค์หล่ะ ผมอ่าน

ทุกคอมเม้นอยู่แล้ว :p

supercaramel
14th February 2014, 22:22
คิดมากจุง :p คือผมก็เข้าใจว่าคุณคิดยังไงนะครับ
ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้เคร่งศาสนาอะไรเลย นับถือพุทธแค่บัตรประชาชน

คำถามที่ว่า ทำไมต้องมีการแบ่งแยกศาสนาไว้ในบัตรประชาชน อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ไม่สนใจด้วย อย่างที่กล่าวไป มีก็มีไป ผมไม่ได้เคร่งอยู่แล้ว
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียนในรูปแบบกึ่งบังคับ ผมคิดว่า ทุกศาสนามีคำสอนที่ดีๆทั้งนั้นแหละครับ
ท้ายที่สุดเขาก็พยายามปลูกฝังสิ่งดีๆให้กับเด็กนั่นแหละครับ อะไรดีๆก็เก็บไว้
แต่ถ้ามีบางอย่างที่ไม่ชอบ มันไม่ใช่ ก็ปล่อยให้มันเข้าหูซ้ายทะลุขวาไปก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก
ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็รับคำสอนดีๆได้ ไม่จำกัดศาสนา
อย่างตอนมัธยม ผมอยู่โรงเรียนคริสต์ ไม่มีสวดมนต์นะโมหรอกครับ มีแต่สวดภาวนา วันทามารีอา มีกิจกรรมมิสซา อะไรต่างๆเยอะแยะ เคยไปร้องเพลงที่โบสถ์ด้วย
แต่ผมไม่ได้ศึกษาในคำสอนหรือว่าคัมภีร์อะไรลึกซึ้งหรอก ก็แค่โรงเรียนพาทำก็ทำ ผมว่ามันก็สนุกดี

ส่วนที่ว่าได้ยินคนอื่นๆพูดๆๆๆ ถ้าเป็นผม ผมจะไม่เก็บมาใส่ใจหรอกครับ ใครจะคิดแบบไหนก็ช่างเขา
โลจิกที่ผิดเพี้ยนของคนอื่นๆ นำมาคิดก็ปวดหัวตัวเองเปล่าๆ

ส่วนเรื่องที่บ้านแอนตี้อิสลามนี่ไม่ขอออกความเห็นละกัน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
และก็ไม่ต้องไปเถียงที่บ้านหรอกนะครับ เดี๋ยวเป็นเรื่อง :P

แต่ก็อย่างว่าครับ ทุกอย่างในโลกนี้มันมีขึ้นมีลง มีเกิดมีดับ มีรุ่งเรื่องมีเสื่อมถอย
ครั้งนึงบ้านเมืองเราเคยรุ่งเรื่อง สงบเรียบร้อย ปลอดภัย
คิดว่าช่วงนี้มันเป็นขาลงนะครับ อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด แต่เชื่อว่าซักวันมันต้องดีขึ้น
ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะผมไม่มีอำนาจที่จะไปทำให้มันดีขึ้นเองได้น่ะครับ
และที่สำคัญก็คือไม่ว่าทุกอย่างรอบตัวเรามันจะแย่มันจะเสื่อมขนาดขนาดไหน ก็แค่อย่าปล่อยให้ตัวเองตกต่ำไปกับมันเลยครับ :cool:

babymaster
14th February 2014, 22:25
ลดความเป็นไทย(ความหยิ่งผยอง) แล้วเพิ่มความเป็นคน

บ้านผม พ่อ-พุทธ แม่-พุทธ ผม-คริสต์

รธน2550 มาตรา 37 บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน

gtyhu333
14th February 2014, 22:50
ประเด็น : ทำไมไทยคิดว่าเราเป็นศูนย์กลางด้านศาสนาของโลก

ในปัจจุบันเรายิ่งเห็นชัดว่าการกระทำของพระสงฆ์นั้นผิดจากหลักคำสอนไปมาก

แต่คนไทยเรานั้นเปลี่ยนยากเพราะมีสิ่งที่เรียกว่า 1.ศรัทธา(ศรัทธาในทางศาสนา = การเชื่อโดยไม่มีความจำเป็นต้องมีการพิสจน์)
เชิงสิ่งปัจเจกภายนอกมากกว่าเนื้อหาหลักธรรมคำสอนที่ฟังเป็นบทสวดแต่ไม่ได้ทำความเข้าใจ

2.ยึดติดกับสิ่งต่างๆมากเกินไป (งมงาย)(เรื่องนี้น่าเศร้าสำหรับประเทศที่แถว่าเป็นพุทธแต่ไม่คิดอ่านพระไตรปิฏกที่มีคำสอนที่สมบูรณ์)

3.การปลูกฝังของพวกที่เรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ครับ เรื่องนี้สร้างปัญหามาก ไหนจะการโปรโมทแบบผิดๆของสื่อปัจจุบันอีกทุกวันนี้มันเลยออกมาประมาณนี้ครับ

เกริ่นเล็กๆน้อยๆพอล่ะกันครับที่จริงมีเยอะกว่านี้อีกปัจเจกต่างๆที่ทำให้คนที่เป็นแบบโน้นเป็นนี้ได้


สุดท้าย : ผมว่าคนไทยเราสามารถเรียนรู้ภายใต้ขีดจำกัดที่ตัวเองมีให้เข้าใจในศาสนาได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันครับแต่ไม่ทำกันเพราะมี 3 ข้อข้างบนสะมากกว่า
ขอบคุณสำหรับพื้นที่แสดงความคิดเห็นครับ :)

champ45117
14th February 2014, 23:05
ตามความเห็นผมนะ

1.ทำไมต้องมีกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียนในรูปแบบกึ่งบังคับ > มันเป็นอะไรที่ยึดถือกันมาช้านาน ผมว่ามันก็ดีในระดับหนึ่งในคำสอน เช่น ศีล สมาธิ ปัญญา ผมขอพูดถึงศีล มันคือกฏหมายดีๆนี่เอง ถ้าทุกๆมีแค่ข้อนี้ กฏหมายจริงๆ(ที่มีช่องโหว่)ไม่ต้องใช้ครับ ทำไมเมืองนอกเช่นอเมริกาไม่มีโจรเลย กฏหมายเข้มแข็งมากๆ แล้วเขาไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ > ประเทศเขามีความสุขไหมละ ลองไปอยู่ดู เหยียดผิว ก่อการร้าย การว่างงาน ภัยธรรมชาติ
ข้อเสียเมืองพุทธ > เรื่อยๆเฉื่อยๆ แต่คำสอนการพัฒนาตนเองนี้มีครับ ลองศึกษาดู คือเมืองไทยมีเนื้อหาที่น่าเบื่อ เยอะเกินความจำเป็น หลายๆคนถึงไม่ชอบ ที่จริงศาสนาพุทธ เขามีไม่กี่คำสอนที่ให้คนศึกษาและนำไปใช้ และอีกปัญหาคือการตีพระไตรปิฏกผิดๆครับ ปัจจุบันถึงมีหลายนิกายไงครับ

สรุป คำสอนศาสนาพุทธเป็นสิ่งทีดี

2. นั่งฟังเค้าคุยกันก็คุยเรื่องนินทากัน เรื่องพยายามยกตัวเองเป็นใหญ่ เพราะบอกว่าตัวเองปฏิบัติทำบ่อยๆ > แสดงว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยครับ การนินทาอยู่ โลกธรรม8 ต้องมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เหอๆ

3.ศาสนาพุทธบ้านเราทำไมถึงเสื่อมมาก ทั้งข่าวพระเกย์ เณรเกย์ พระข่มขืนผู้หญิง พระนักเลง ที่กล่าวมาผมเคยเจอมากับตัวก็ พระเกย์เดินจับมือกับเณรในตลาด ฯลฯ > การเม้นข้างบนเลยครับ เกิดขึ้นย่อมมีดับ เสื่อมถอย ไม่ใช่ธรรม แต่สงฆ์ครับ
เขาไม่ใช่พระอนาคามีด้วยซ้ำ

ผมอยากให้ท่านลองอ่านหนังสือธรรมที่พระอาจารย์ดีๆได้เขียนไว้ มันประยุกต์ใช้ได้ ผมเคยเป็นเด็กเรียนมอต้นที่เข้าร้านเกมส์ทุกวัน เกรดผม2.1มั๊งเข้าสายวิทย์ไม่ได้เลยแต่อาจารย์สงสารเลยให้เรียน เอาเงินพ่อแม่ส่งให้เรียนพิเศษไม่เล่นเกมส์ พอผมได้ลองออ่านบางบทความ มันทำให้เข้าใจและกลับตัว ม.ปลายผผมจบด้วยสายวิทย์เกรด3.7 แม้ช่วงนั้นไม่ได้เข้าถึงพุทธมากนักขอยอมรับ แต่พอผมจบมหาลัย (ขอไม่กล่าวไม่อยากอ้างอิง 555+) พอจบผมบวช1พรรษา ถึงแม้จะเป็นวัดตัวเมือง เห็นโลกสงฆ์คล้ายๆท่านว่า แต่ผมไม่สนใจ เพราะผมมาบวชเพื่อศึกษา "ธรรม" ครับ

liger0000
14th February 2014, 23:23
มันเป็นวัฒนธรรมของคนไทยส่วนหนึ่งด้วยนะที่ค่อนข้างผูกติดกับพุทธ-พราม

1.คนไทยเป็นคนหัวโบราณ(อนุรักษ์นิยม)มากนะ เชื่อเรื่องบุญกรรม และด้วยความเชื่อทำให้บ้างอย่างแตะไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ทำตามไม่ได้ ทำให้เด็กไทยทุกยุคทุกสมัยไม่สามารถเปลี่ยนศาสนาได้เลยเพราะจะโดนพ่อแม่และสังคมรอบข้างว่าเอาได้
2.คนไทยชอบแบ่งแยกคับ ผมเป็นเอทิส(ไม่นับถือ)นี้รู้ดีเลย มักจะโดนเพื่อนตั้งคำถามแปลกๆเสมอๆ เคยโดนแม่ว่าเรื่องนี้หลายรอบด้ว แม้แต่ตอนไปติดต่อราชกาลยังมีปัญหาเลย
3.คนไทยคนไทยตามกระแสคับคือสังคมส่วนมากเป็นยังไงเราก็เป็นอย่างงั้น

จริงๆเมืองนอกนี้ เขามีเยอะเลยนะไม่นับถือศาสนา หรือไม่นับถือศาสนาหลักๆนับถือลัทธิก็มีเยอะ อย่างญี่ปุ่นนี้มีเป็น100ลัทธิเลย ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ๆนี้ยิ่งจะไม่นับถือกัน แต่บ้านเราอนุรักษ์นิยมคับ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และตัวศาสนาเองก็มีอิทธิพลมากในประเทศนี้ อย่างวัดธรรมกายไง ซึ่งพวกนี้หละที่จะค่อยแทรกแซงตามโรงเรียนหรือมหาลัย โรงเรียนที่ผมเคยเรียนเป็นคริสตร์นะแต่ไอ้วัดธรรมกายนีแทรกซึมถึงขนาดเอาแม่ชีปัดระเบิดมาล้างสมองถึงในโรงเรียน ตามมหาลัยเองทุกชมรมพุทธคือชมรมของธรรมกาย

ผมก็ไม่เข้าใจนะจริงๆศาสนาเนี้ยมันกก็แค่ความเชื่อ ความเชื่อก็คือความเชื่อ ผมจะเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเด็กผู้หญิงใส่คาดผมสีเหลืองก็เรื่องของผม ทำไมเราต้องเชื่อๆตามๆกันด้วยแถมบังคับให้เชื่ออีกต่างหาก ความเชื่อเนี้ยโดยเฉพาะศาสนาเนี้ยมันไร้ความหมายมากเลยนะในสังคมสมัยนี้ เพราะทุกอย่างมันพิสูทย์ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ประเทศไทยเนี้ยเอาความเชื่อมาสลักสำคัญ



V
V
V
สังคมเอเชียมันมีวัฒนธรรมไปทางอำนาจนิยมอยู่แล้วคับ ซึ่งมันทำให้เด็กรุ่นใหม่ๆไม่กล้าคิดต่าง เพราะอาจโดนลงโทษซึ่งไม่ว่าในโรงเรียนหรือในบ้านถ้าไปเคารพศาสนาเราก็อาจโดนลงโทษได้

rockblood39
14th February 2014, 23:42
ง่ายๆนะครับ สังคมเราเป็นเผด็จการนะ ประมาณเผด็จการทางความคิดอ่ะ ในแบบของจิตใจที่ถ้าหากไม่ทำตามที่เป็นกันมาคือ คนผู้นั้นอยู่ในสังคมไม่ได้ สิ่งที่กำหนดไม่ได้อยู่ในกฏหมาย แต่อยู่ในความคิดและการปฏิบัติของคนในสังคมเนี่ยแหละ ผมเป็นอีกคนที่มองมุมต่าง แล้วก็จะมีคนถามผมว่า ***ทำอะไร คนอื่นเขาไม่ทำกัน อะไรแบบนี้ มันทำให้คนที่กล้าจะออกมาจากความเดิมๆ ที่ทำตามกันมาน้อยลง เด็กที่เกิดใหม่ก็จะถูกยัดความคิดพวกนั้นลงไปในสมอง ทั้งที่บ้านแล้วที่โรงเรียน สุดท้าย ก็กลายเป็นแบบเดียวกัน
แต่ไม่ใช่สำหรับผมอ่ะ ผมโคตรเกลียดอะไรแย่ๆที่มันมีเดิมอยู่แลยอ่ะ อะไรที่ไม่มีเหตุผล ทำแล้วไม่ดี ผมไม่ทำอ่ะ


ศาสนาไม่เคยเสื่อม....แต่คนต่างหากที่เสื่อม

- ภาพยนต์เรื่อง นาคปรก

ParanoidZ
14th February 2014, 23:52
ผมคนนึงล่ะที่ไม่เคร่ง ละบางทีก็ยังมีนึกแย้งเกี่ยวกับศาสนาในปัจจุบันเช่น

ถ้าคนๆนึง อยากทำบุญ บริจาคทรัพย์ สิ่งต่างๆให้วัด แต่ด้วยชีวิตในปัจจุบัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างจำกัด เขาแค่เข้าวัด แล้วนำข้าวของไปให้พระแล้วกลับเลย โดยไม่ต้องอยู่รับศีล-พร อะไรเลย จะได้ไหม

อีกอย่าง คนเฒ่าคนแก่ที่ชอบไปนั่งฟังพระสวดกันนานๆ หลับบ้าง ตื่นบ้าง เขาเหล่านั้นเข้าใจไหมว่าที่สวดน่ะ ได้ความหมายใจความอะไรบ้าง สู้ไปฟังพระเทศน์ที่เป็นภาษาไทยเลยยังดีกว่า

อีกอย่างไม่ชอบจากใจเลยคือ นำชื่อพระรูปต่างๆ มาหากินกับความงมงายของคน เช่นให้หวยโดยหลวงพ่อ xxxx หลวงลุง xxxx ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะ ในวัดแท้ๆ ยังจะทำให้จิตใจตกต่ำ อย่างว่าเรื่องเงินๆทองๆทั้งนั้น

สุดท้ายละแต่จริงๆยังมีอีกเยอะที่ผมว่ามันไม่เข้าท่าคือ ไอ่วัดธรรมกาย(วัดจานบิน)เห็นกันอยู่โต้งๆ ถามเด็กมันยังรู้ มันก็แค่บริษัท ที่มีพนักงานโกนหัว โกนคิ้ว ห่มผ้าส้ม ยังไม่มีใครทำอะไรได้เลย แย่ๆๆ

OUTbreaK!!!
14th February 2014, 23:55
ผมเลือกที่จะไม่นับถือศาสนาครับ

DavidNassau
15th February 2014, 00:23
จริงๆแล้ว ไทยไม่ได้มี ศาสนา ใด ศาสนา นึ่ง ปักไว้ประจำชาติครับ

และ ก็ไม่ได้บังคับให้ใครนับถืออะไรด้วย แค่ว่าคนยุคหลังๆ ตั้งกฏกันขึ้นมาเอง

อย่างตัวผมเองก็ เป็น พุทธ แต่ก็พอจะมีข้อมูลของแต่ละศาสนาอยู่บ้าง

ก็ ได้มาจากพวกเพื่อนต่าง ศาสนา นี่ แหละ


ผมคนนึงล่ะที่ไม่เคร่ง ละบางทีก็ยังมีนึกแย้งเกี่ยวกับศาสนาในปัจจุบันเช่น

ถ้าคนๆนึง อยากทำบุญ บริจาคทรัพย์ สิ่งต่างๆให้วัด แต่ด้วยชีวิตในปัจจุบัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างจำกัด เขาแค่เข้าวัด แล้วนำข้าวของไปให้พระแล้วกลับเลย โดยไม่ต้องอยู่รับศีล-พร อะไรเลย จะได้ไหม

อีกอย่าง คนเฒ่าคนแก่ที่ชอบไปนั่งฟังพระสวดกันนานๆ หลับบ้าง ตื่นบ้าง เขาเหล่านั้นเข้าใจไหมว่าที่สวดน่ะ ได้ความหมายใจความอะไรบ้าง สู้ไปฟังพระเทศน์ที่เป็นภาษาไทยเลยยังดีกว่า

อีกอย่างไม่ชอบจากใจเลยคือ นำชื่อพระรูปต่างๆ มาหากินกับความงมงายของคน เช่นให้หวยโดยหลวงพ่อ xxxx หลวงลุง xxxx ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะ ในวัดแท้ๆ ยังจะทำให้จิตใจตกต่ำ อย่างว่าเรื่องเงินๆทองๆทั้งนั้น

สุดท้ายละแต่จริงๆยังมีอีกเยอะที่ผมว่ามันไม่เข้าท่าคือ ไอ่วัดธรรมกาย(วัดจานบิน)เห็นกันอยู่โต้งๆ ถามเด็กมันยังรู้ มันก็แค่บริษัท ที่มีพนักงานโกนหัว โกนคิ้ว ห่มผ้าส้ม ยังไม่มีใครทำอะไรได้เลย แย่ๆๆ
---
ถ้าตามหลักของพระพุทธเจ้า น่ะ ทำได้ครับ เพราะ เราให้ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ส่วน ศีล-พร อะไรนั่นประมาณเป็นการตอบแทน
เพราะเดิมทีแล้ว พระ ไม่มีอะไรจะให้(ถ้านับจากยุคความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น) แต่ตอนนี้ผิดกันริบ
---
ส่วนเรื่อง พระสวด นี่ คิดเหมือนผมเลยครับ ผมว่าจริงๆแล้ว ความหมายของมันแหละ สำคัญสุด
ไปนั่ง พนมมือ จะได้บุญ ได้ไง บุญ คือการกระทำที่ดี / บาป คือการกระทำที่ไม่ดี
---
จานบินเล่นด้วย ยากครับ เพราะเงินหนา และ อาจจะมีพวกใช้ ปากกา เซ็นชื่อใส่ตัวเลขหลายๆหลัก ฆ่าคนได้ครับ

pug1
15th February 2014, 00:24
โอเคครับ ผมว่าเราต้องปรับความเข้าใจกันสักนิดหน่อยก่อนนะ
ประเทศไทยไม่ได้ห้ามให้คนนับถือศาสนาอื่นนะ นับถือได้ทุกศาสนานะครับ
เพียงแต่ว่าศาสนาพุทธ เหมือนจะเป็นศาสนาแรกๆที่เข้ามาในประเทศไทยเลยมั้ง กษัตริย์หลายๆพระองค์ก็ยังใช้พุทธศาสนาในการปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขเลยครับ
เพราะฉนั้นจึงมีการสืบทอดต่อๆกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยิ่งเป็นพวกผู้เฒ่าผู้แก้ของบ้านเราด้วยแล้วยิ่งถูกปลุกฝังมานาน
เพราะในอดีต(ไม่ต้องย้อนไปไกลหรอกครับ เอาแค่สมัยพ่อกับแม่เรายังเป็นเด็กๆเนี้ยแหละ) ในสมัยนั้นยังไม่มีสื่อออนไลน์
วิทยาการและเทคโนโลยียังไม่เจริญเหมือนตอนนี้ เพราะฉนั้น เด็กๆในสมัยนั้นจะต้องถูกพ่อแม่ของพวกเขา(รุ่นปู่รุ่นญ่าของเรา)ปลูกฝังมากับความเชื่อ
ศรัทธา ประเพณี และวัฒณธรรมต่างๆตามท้องถิ่น(เมื่อก่อน จะดูหลังส่วนมากก็ดูกันที่ลานวัด ไปงานรื่นเริงก็ที่งานวัด อะไรหลายๆอย่างจะเกี่ยวกับวัดหมดเลย)
ซึ่งเมื่อเด็กเหล่านั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่และกลายมาเป็นพ่อแม่เรา เขาก็ต้องสั่งสอนลูกๆตามแนวทางที่เขาเคยได้รับการสั่งสอนมา
เพียงแต่สมัยนี้ทุกอย่างมันเจริญขึ้น มีเน็ต มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ผมได้มานั่งตอบกระทู้อยู่ในตอนนี้ แนวคิดของคนมันก็เริ่มเปลี่ยนไป
เพียงแต่ผู้ใหญ่บางคนอาจจะยัง"ปรับตัวไม่ทัน" เลยพยายามต่อต้านอะไรก็ตามที่เขาไม่ได้ถูกปลูกฝังมา และพยายามให้ลูกหลานของเขาเป็นแบบนั้น
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ผมว่ามันก็ไมได่้เป็นกันทุกบ้านนะครับ (อย่างบ้านผมพ่อกับแม่ค่อนข้างเคร่งไปทางพุทธศาสนา) แต่พวกท่านก็ไม่เคยตำหนิหรือดูถูกสาสนาอื่นเลยนะรับ
ส่วนตัวผมเองในบัตรประชาชนของผมเขียนไว้ว่าะพุทธศาสนาครับ แต่จริงๆแล้วผมก็นับถือเกือบจะทุกศาสนาเลยก็ว่าได้ ผมนับถืออะไรก็ตามของศาสนาใดก็ตามที่ผมคิดว่ามันศาสมารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
แต่ผมก็ยังคงเข้าวัดทำบุญบ้างบางครั้ง เพื่อความสบายใจของตัวเองหรือไม่ก็ของพ่อแม่ เอาจริงๆผมว่าปัญหาที่จขก.ยกมามันก็คงจะหมดไปในอีกไม่ช้าแล้วนะครับ เพราะโลกนี้มันเริ่มเปิดกว้างกันมากขึ้นละ
ไม่ต้องไปดูไกลหรอกครับ ผมขอถามจริงๆเถอะ ในบอร์ดเนี้ย ยังมีกี่คนที่นับถือพุทธศาสนาและเข้าใจหลักของศาสนาอย่างแท้จริงบ้างครับ (ผมไม่ได้ดูถูกหรืออะไรใครนะ แต่ผมอยากรู้จริงๆ โปรดแสดงตัวด่วน)

bobbyTJ
15th February 2014, 01:26
ก็ไม่รู้สินะ...ฮี่ฮี่ฮี่

มันไม่ผิดที่ศาสนาหรอกครับผมว่า มันผิดที่คนนับถือครับ...

ผมนับถือพุทธ...เพราะรู้สึกว่าคำสอนมันเป็นอะไรที่ ทำได้จริง เห็นผลจริง
บางครั้งก็อยากศรัทธาในพระเจ้าเหมือนคริสต์...เวลารู้สึกไม่สบายใจ ก็อยากลองมีพระเจ้าไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ส่วนอิสลามผมเฉย ๆ ครับ ไม่ได้รังเกียจอะไร ละก็รู้สึกเขาเคร่งครัดมากเกินไป ถ้าเข้าไปผมคงอึดอัด แต่ก็อยากลองศึกษา อยากอ่านคัมภีร์ของอิสลามดูเหมือนกัน

จะนับถือศาสนาอะไรยังไงก็ช่าง แค่ทุกคนประพฤติดี โลกก็สงบสุขไปแล้วครับ

nongbible
15th February 2014, 14:34
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอยู่ที่คน
ผมก็ไม่เข้าใจ ประเทศเราทำไมถึงไม่เจริญซักที ทั้งๆที่เป็นเมืองพุทธศรัททากันมากมายเลยเมืองพุทธของไทยเรา

ปล.ผมกลางหมดไม่เกลียดศาสนาใดทั้งนั้น

Mcarmy
15th February 2014, 14:41
ผมไม่นับถืออศาสนา แต่ผมรู้ว่าผมควรทำตัวอย่างไร

kanany
15th February 2014, 15:00
คิดมากจุง :p คือผมก็เข้าใจว่าคุณคิดยังไงนะครับ
ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้เคร่งศาสนาอะไรเลย นับถือพุทธแค่บัตรประชาชน

คำถามที่ว่า ทำไมต้องมีการแบ่งแยกศาสนาไว้ในบัตรประชาชน อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ไม่สนใจด้วย อย่างที่กล่าวไป มีก็มีไป ผมไม่ได้เคร่งอยู่แล้ว
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียนในรูปแบบกึ่งบังคับ ผมคิดว่า ทุกศาสนามีคำสอนที่ดีๆทั้งนั้นแหละครับ
ท้ายที่สุดเขาก็พยายามปลูกฝังสิ่งดีๆให้กับเด็กนั่นแหละครับ อะไรดีๆก็เก็บไว้
แต่ถ้ามีบางอย่างที่ไม่ชอบ มันไม่ใช่ ก็ปล่อยให้มันเข้าหูซ้ายทะลุขวาไปก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก
ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็รับคำสอนดีๆได้ ไม่จำกัดศาสนา
อย่างตอนมัธยม ผมอยู่โรงเรียนคริสต์ ไม่มีสวดมนต์นะโมหรอกครับ มีแต่สวดภาวนา วันทามารีอา มีกิจกรรมมิสซา อะไรต่างๆเยอะแยะ เคยไปร้องเพลงที่โบสถ์ด้วย
แต่ผมไม่ได้ศึกษาในคำสอนหรือว่าคัมภีร์อะไรลึกซึ้งหรอก ก็แค่โรงเรียนพาทำก็ทำ ผมว่ามันก็สนุกดี

ส่วนที่ว่าได้ยินคนอื่นๆพูดๆๆๆ ถ้าเป็นผม ผมจะไม่เก็บมาใส่ใจหรอกครับ ใครจะคิดแบบไหนก็ช่างเขา
โลจิกที่ผิดเพี้ยนของคนอื่นๆ นำมาคิดก็ปวดหัวตัวเองเปล่าๆ

ส่วนเรื่องที่บ้านแอนตี้อิสลามนี่ไม่ขอออกความเห็นละกัน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
และก็ไม่ต้องไปเถียงที่บ้านหรอกนะครับ เดี๋ยวเป็นเรื่อง :P

แต่ก็อย่างว่าครับ ทุกอย่างในโลกนี้มันมีขึ้นมีลง มีเกิดมีดับ มีรุ่งเรื่องมีเสื่อมถอย
ครั้งนึงบ้านเมืองเราเคยรุ่งเรื่อง สงบเรียบร้อย ปลอดภัย
คิดว่าช่วงนี้มันเป็นขาลงนะครับ อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด แต่เชื่อว่าซักวันมันต้องดีขึ้น
ที่ผมคิดแบบนี้ เพราะผมไม่มีอำนาจที่จะไปทำให้มันดีขึ้นเองได้น่ะครับ
และที่สำคัญก็คือไม่ว่าทุกอย่างรอบตัวเรามันจะแย่มันจะเสื่อมขนาดขนาดไหน ก็แค่อย่าปล่อยให้ตัวเองตกต่ำไปกับมันเลยครับ :cool:


ตอบได้ครอบคลุมดีครับ ผมก็คิดแแบบนี้

blacklotus55
15th February 2014, 15:05
ผมนับถือศาสนา The Realm = "หลักความเป็นจริง"

ศาสนานี้มีศาสดา 2 องค์ องค์หนึ่งชื่อ "เหตุ" อีกองค์ชื่อ "ผล"

ฑูตสวรรค์ที่คอยปกป้องรักษาตัวผมมี 2 องค์ องค์หนึ่งชื่อ "สติ" อีกองค์ชื่อ "ปัญญา" สององค์นี้สถิตเบื้องซ้ายขวาในตัวผม

เทพสติและเทพปัญญาสมสู่ได้กันออกมา ได้บุตรองค์โตชื่อ "พละกำลัง" สถิตในสองแขนและสองขาของผม

องค์กลางเป็นฝาแฝด ชื่อ "เมตตา-กรุณา" สถิตในจิตใจผม

องค์เล็กชื่อ "พิจารณา" สถิตในสองหู สองตา และสมองของผม

พระยามารต่าง ๆ ได้แก่ "มารสุรา (ศัตรูตัวเอกของเทพสติ)" "มารงมงาย (ศัตรูตัวเอกของเทพปัญญา)" "มารโง่ เง่ า" "มารอ่อนแอ (ศัตรูตัวเอกของเทพพละกำลัง)"

ศาสนาเนี้ย มันมีมาก่อนทุกศาสนาบนโลกใบนี้ แล้วมันก็ศํกสิทธิ์กว่าทุกศาสนาบนโลกนี้ด้วย จะบอกให้

แหม่ ๆ เข้าเรื่องศาสนาแล้วอยากต่อยหน้า ต่อยปากไอ่ตัวที่เรียกตัวเองว่า "อิสระ" ยังไงไม่รุ

momowalker
15th February 2014, 15:07
พื้นฐานศาสนาของทุกศาสนา คือ การสอนให้ทุกคนเป็นคนดีเลือกกระทำในสิ่งถูก (ถูกตามหลักของแต่ล่ะศาสนา) เพียงแต่ว่านั้นคือหลักคำสอน
ทุกวันนี้จะมี ซักกี่คนที่สามารถเข้าถึงหลักคำสอนที่แท้จริงได้ คงต้องเป็นพระที่บวชมานาน หรือไม่ก็คนที่ยอมหันหน้าเข้าหาศาสนาเพียงอย่างเดียว

ผมว่าการแจ้งศาสนาในบัตรประชาชน อาจจะเป็นการบ่งบอกว่าเราควนจะปฏิบัติตัวยังไงกับคนๆ นั้น เพราะแต่ล่ะศาสนามีหลักควรกระทำต่างกัน
ส่วนเรื่องการทำกิจกรรมทางศาสนาใน โรงเรียน ก็คงเรียกว่า การยึดประเพณีเดิมๆ ให้คงอยู่เพื่อรักษาข้อปฏิบัติเอาไว้ ซึ่งไม่ได้มองว่า สมาชิกจะตั้งใจทำมันหรือเปล่า
ส่วนไอ้เรื่องการไป ทำกิจกรรมทางศาสนาเป็นกลุ่ม นั่นคงเป็นการหาเรื่องหาเงินสังสรรค์กันซะมากกว่า

ผมมองโดยรวมของศาสนาพุทธในไทยตอนนี้ เหมือนว่า วัดคือสถานที่ ประกอบศาสนพิธีแต่เพียงส่วนน้อย มีเพียง คนเก่าคนแก่ เท่านั้นแหละที่เข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรม
วัยรุ่นปัจจุบันส่วนน้อย ที่จะเข้าวัด ต่อให้เข้าไปก็เพื่อจะขอให้สอบได้ สมหวังความรัก อะไรประมาณนั้น ผมเลยมองว่าวัดทุกวันนี้เหมือนที่หาเงินของพระ ซะมากว่า ไม่ได้เป็นที่ที่น่าเข้าไป เพื่อหาความสงบแต่อย่างใด
วัดบางที่ จัดงานใหญ่โตเรียกเงินเข้าวัดมหาศาล ส่วนบางวัดที่ทำไม่ได้ ก็แทบจะเป็นวัดร้างกันเลยทีเดียว ถ้าไม่มีอาจารย์ดีของเด็ด ก็เป็นแค่วัดห่วยๆคนแทบไม่รู้จักที่ไม่รู้จะเข้าไปทำไม

ผมว่าคนที่บอกว่าไทยเป็นศูนย์กลางศาสนาโลก น่าจะเปลี่ยนเป็น ไทยเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและสถานที่ท่องเที่ยงทางศาสนาจะเหมาะกว่านะครับ หุหุหุ

pondsif01
15th February 2014, 16:40
ผมนับถือศาสนา The Realm = "หลักความเป็นจริง"

ศาสนานี้มีศาสดา 2 องค์ องค์หนึ่งชื่อ "เหตุ" อีกองค์ชื่อ "ผล"

ฑูตสวรรค์ที่คอยปกป้องรักษาตัวผมมี 2 องค์ องค์หนึ่งชื่อ "สติ" อีกองค์ชื่อ "ปัญญา" สององค์นี้สถิตเบื้องซ้ายขวาในตัวผม

เทพสติและเทพปัญญาสมสู่ได้กันออกมา ได้บุตรองค์โตชื่อ "พละกำลัง" สถิตในสองแขนและสองขาของผม

องค์กลางเป็นฝาแฝด ชื่อ "เมตตา-กรุณา" สถิตในจิตใจผม

องค์เล็กชื่อ "พิจารณา" สถิตในสองหู สองตา และสมองของผม

พระยามารต่าง ๆ ได้แก่ "มารสุรา (ศัตรูตัวเอกของเทพสติ)" "มารงมงาย (ศัตรูตัวเอกของเทพปัญญา)" "มารโง่ เง่ า" "มารอ่อนแอ (ศัตรูตัวเอกของเทพพละกำลัง)"

ศาสนาเนี้ย มันมีมาก่อนทุกศาสนาบนโลกใบนี้ แล้วมันก็ศํกสิทธิ์กว่าทุกศาสนาบนโลกนี้ด้วย จะบอกให้

แหม่ ๆ เข้าเรื่องศาสนาแล้วอยากต่อยหน้า ต่อยปากไอ่ตัวที่เรียกตัวเองว่า "อิสระ" ยังไงไม่รุ

โอ้ว ความคิดคุณเจ๋งดีผมว่าน่าจะลองไปบวชนะครับ คนแบบคุณผมว่าทำให้ศาสนากลับมาในยุครุ่งเรืองได้แน่ เป็นความคิดเชิงไม่งมงายอยู่กับตัวเองผมชอบครับ

liger0000
15th February 2014, 22:48
ใครเคยเรียนปรัชญาหรือเปล่าคับ ปรัชญากับศาสนามันก็ไม่ต่างกันหรอกมันคือ ความคิดของคนเมื่อ2000ปีที่แล้วซึ่งหลายๆเรื่องมันล้าสมัยแล้ว เช่นทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว สมัยนี้มันก็ไม่ใช่แล้วมันอยู่ที่คุณอ่านเมแตกมากแค่ไหนมากกว่า ถ้าเราอ่านเกมแตกก็วิเคราะห์ผลลัพท์กระทำต่างๆได้ เราจะพบว่าโลกเรามันไปทางแนวคิดแมคเควาลี่มากว่าคือการกระทำต่างๆ แค่ทำให้ได้ตามผลลัพท์ที่ต้องการวิธีการมันไม่ได้ต้องดีหรือเลว

หรือศาสนาอิศลาม หลายๆเรื่องมันกลายเป็นว่าละเมิดสิทธิมนุษย์ชน เพราะสมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนหญิง ชายเท่าเทียมกันแล้ว แนวคิดศาสนาต่างๆผมว่าถึงเวลาแล้วนะที่เก็บเข้าหิ้งแบบพวกแนวคิดปรัชญาโบราณอื่นๆ

มันหมดยุคแล้วคับสมัยนี้ความคิดแค่40-50ปีที่แล้วบางทียังล้าสมัยเลยแต่ศาสนาคือแนวคิดเมือ่2000ปีที่แล้วแต่คนไทยยังเอามาถือเป็นสลักสำคัญ

mensis
15th February 2014, 23:09
บัตรประชาชนเดียวนี้ สามารถเลือกได้ว่าจะแสดงศาสนาหรือไม่ด้วยนะ :p