PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : ถกปัญหาโลกไม่แตก กับไอเด็กติดเกมมมมมม



pondsif01
16th February 2014, 02:49
อย่าพึ่งรำคาณผมนะครับบังเอิญช่วงนี้ไม่มีงานทำ ติดสอบ อ่านหนังสือเสร็จว่างๆก็มานั่งเกรียนในบอร์ด joker เล่นๆ :p

เรื่องของเรื่องวันนี้เดินไปซื้อข้าวมากิน แล้วบังเอิญเจอเจ้าของหอพักผม กำลังถือไม้ลากลูกมาจากร้านเกมเพราะลูกไม่ยอมทำการบ้าน

เข้าเรื่อง !!!! ปัญหานี้ผมว่าอยู่กับสังคมไทยมาน๊านนาน ส่วนตัวผมเล่นเกม PC ครั้งแรกอนุบาลหนึ่ง (เป็นเกมแฟลชที่เป็น เสก็ตน้ำแข็งไหลลงมาเรื่อยๆจะมีมนุษย์หิมะจับเรากิน)

ส่วน console ก็เล่นตั้งแต่ Famicom ยัน Ps2 จากนั้นก็ลาวงการไป Pc ประเด็นคือทำไมบ้านเราถึงต้องมองคนเล่นเกมเป็นพวกโรคจิตปัญญาอ่อนด้วยหว่า ทั้งๆที่เกมบางทีมีประโยชน์

กว่าเนื้อหาวิชาการในหนังสือบางเล่มอีก ผมเล่นเกมมา 15 ปี ยังไม่เคยเจอเกมที่เล่นแล้วคิดว่าไร้สาระเลย (ยกเว้นเกม H ผมไม่ชอบโดยส่วนตัว) ผู้ใหญ่บ้านเราชอบคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่

ทั้งๆที่ก็เคยเป็นเด็กแบบเราๆมาก่อนแทนที่จะรู้ว่าเราต้องการอะไร กลับทำสิ่งตรงข้าม บ้านผมฝ่ายแม่ก็แอนตี้เกมเหมือนกัน โดนกดดันมาตลอดพยายามแขวะว่าเกมไร้สาระว่าผมโง่บ้างไม่ตั้งใจเรียน

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมแค้นมากมีครั้งนึง สมัยประถมผมจะมีเพื่อนสนิทชอบเล่นเกมเหมือนกันยุคนั้นเป็นยุคแห่ง Ps2 เลยพวกเราจะชอบวาดรูปเกมเล่นกัน มีวันนึงมีครูคนนึงมาเห็นทั้งๆที่พักเที่ยง

ครูมาถามว่าวาดอะไรพวกผมตอบว่าเล่นเกม จากนั้นครูก็ให้พวกขยำกระดาษแล้วอมในปาก เพราะว่าวาดไร้สาระ =___= (ถ้าเป็นตอนนี้นะโดนตบหัวทิ่มไปละ)

และผมก็เคยมีช่วงเวลาตอน ม.1-2 เป็นช่วงติดเกมออนไลน์ในร้านเกมแถวบ้าน เล่นออดิชั่นกับปังย่า ช่วงนั้นแม่ผมต้องทำงานทั้งวัน เลยไม่มีใครดูแล <<< นี่แหล่ะปัญหาใหญ่ของเด็กวัยนี้

ผมว่าถ้าพ่อ แม่ เด็กสมัยนี้รู้จักที่จะหัดเรียนรู้ว่าลูกตัวเองทำอะไร น่าจะดีกว่านะ คงหวังไว้ซักวันว่าจะมีบริษัทเกมใหญ่ๆกลับมาเปิดในประเทศไทยอีกครั้ง

เพราะยุคนี้ เกมส์แท้จะขายดีขึ้นมาก (=_= ก็แหงเนอะ แต่ละเกมส์สร้างมาเน้น mutiplayer )

ข้อดีของการเล่นเกม (คหสต.)

1. ได้ภาษากรณีเล่นเกมต่างประเทศ

2. ฝึกจิณตนาการ ความคิดสร้างสรรค์

3. ถ้าเล่นที่บ้านอย่างน้อยก็อยู่ในสายตาพ่อแม่ไม่น่าเป็นห่วง

4. เกริ่นก่อน คนเล่นเกมส่วนใหญ่มักถูกหาว่าไม่เข้าสังคมไม่รู้จักภายนอก แต่การเล่นเกมแบบ Mutiplayer/Co op /Online ผมว่าเป็นการเรียนรู้สังคมอีกแบบนึง

5. คลายเครียด รึว่าเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้ =___=

6. ถือว่าได้พักจากเรื่องวุ่นวายในชีวิต ไปอยู่ในโลกอีกโลกนึงที่เป็นตัวของเราเองสุดจะจิณตนาการพร้อมกับเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ >,,<

ข้อเสียการเล่นเกมส์

1. ถ้าไม่รู้จักเวล่ำเวลา จะทำให้มีปัญหากับชีวิตได้

2. เล่นนานไปไม่พักอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย

3. หมดแล้ว

และอยากจะฝากไว้สำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ใน Jokergame

1. เกมส่วนใหญ่แบ่งเรทไว้แล้ว กรุณาทำตามด้วยถ้าอายุไม่ถึงก็พยาอย่าเล่นหรือปรึษาผู้ปกครอง เพราะบางเกมน้องๆควรจะมีวิจารณญานให้มากกว่านี้ อย่าคิดว่าไม่เป็นไร ควรทำตามจริงๆ
ไม่งั้นเค้าไม่กำหนดเรทไว้หรอก

2. เรียนรู้จากเกมและอย่าลืมที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตจริง แบ่งให้ถูก

3. ข้อนี้ขอฝากซักนิดละกัน สำหรับคนที่มีเงินเหลือเยอะก็ช่วยๆกันสนับสนุนเกมแท้บ้าง 2 เดือนเกมนึงก็ได้ ส่วนจะโหลดเถื่อนก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน ^^

4. เกมส์ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่คนที่ทำร้ายกันเอง

http://www.youtube.com/watch?v=_EGlrPl0N_o << แนบเป็นลิงค์ละกันไม่อยากผิดหมวด

armakusarecord
16th February 2014, 03:04
ผู้ใหญ่เขาเคยเป็นเด็กมาก่อนเราเขารู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่คุณไม่เคยเป็นผู้ใหญ่อย่างเขา เขาอยากให้คุณได้ดี สมัยรุ่นเขามีเรอะเกมพวกนี้ เขาไม่มี เขาไม่เคยเล่น เขาไม่เข้าใจหรอก
แต่ถ้าพ่อแม่ใครทำงานหากินทางด้านนี้ผมว่าเขาคงไม่ว่าหรอก ฮ่าๆๆ

kanoktuch2
16th February 2014, 03:05
อาจเป็นเพราะว่าผู้ใหญ่มักจะมองว่าเด็กมักจะสนใจในสิ่งที่ไร้สาระ เลยเป็นเหตุให้เกมซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กมักสนใจถูกมองเหมารวมไปด้วยว่าเป็นสิ่งไร้สาระ

และอีกกรณีนึงอาจเป็นพวกที่ชอบเล่นแบบเอาเป็นเอาตายหามรุ่งหามค่ำไร้ความรับผิดชอบ ทำให้ผู้ใหญ่ที่มาเห็นเด็กกลุ่มนี้มองว่าเกมเป็นสิ่งไร้สาระยิ่งกว่าเดิม

เอาจริงๆถ้าตัวเด็กรู้จักรับผิดชอบให้พ่อแม่เห็นว่าตัวเด็กสามารถแบ่งเวลาให้กับการเรียนกับการเล่นเกมได้ พ่อแม่ก็คงไม่ว่าอะไรมากหรอกครับ

แต่เกมที่เล่นก็ควรดูด้วยว่าพ่อแม่รับได้รึเปล่า ตอนเด็กๆผมเคยเล่นเกมแนวยิงๆ พ่อเดินเข้ามาเห็นก็ถามว่า ทำไมเล่นเกมเนื้อหารุนแรงแบบนี้

แต่โดยส่วนตัวผมเล่นเกมผมก็ได้ประโยชน์เยอะนะ ภาษาก็ได้จากเกม แถมประหยัดตังค่าเที่ยวดีด้วย :o

shisaku
16th February 2014, 11:43
ผมก็เคยติดเกมมาก่อนนะ ติดงอมแงม เสียการเรียน เสียเวลาในชีวิตไปเยอะเลย พอโตขึ้นมาหลังจากจบมหาลัยแล้วมาคิดทบทวนดู ผมมาคิดทบทวนดู มันก็ไม่ไร้สาระซะทีเดียวนะ ผมได้อะไรหลายอย่างอยู่ ได้ภาษา ได้ทักษะคอมพิวเตอร์ในระดับสูง-อันนี้คือผมชอบศึกษาการแก้ปัญหาต่างๆของคอมพิวเตอร์เวลามันมีปัญหา ผมจะไม่ส่งร้าน ผมจะศึกษาเองแล้วแ้ก้ปัญหาเอง ผมก็เลยได้ตรงนี้มาเยอะเหมือนกัน และที่ได้อีกก็คงเป็นทักษาะคอมพิวเตอร์ต่างๆ การใช้โปรแกรมต่างๆ จะเรียนรู้โปรแกรมต่างๆเร็วมาก มันเลยส่งผลต่องานที่ทำตอนนี้ ทำให้ทำงานได้เร็วกว่าคนอื่น

ส่วนผลเสีย แน่นอน เล่นเกมมันเป็นดาบสองคม มันมีผลดีและผลเสีย ผลเสียก็คือ ผมสูญเสียเพื่อนไปเยอะ เพราะเล่นเกมคนเดียว เพื่อนในเกมผมไม่นับนะ เพราะมันไม่ใช่ชีวิตจริง เพื่อนจริงๆ ที่จะสนิทกันมีไม่กี่คน ที่เหลือก็เป็นแ่ค่เพื่อนรู้จักกัน ผมสูญเสียการเรียนอันนี้แน่นอน เพราะทุ่มเทกับเกมไปเยอะมาก จากที่จะได้เกรดเยอะๆ ก็ได้น้อยๆ และสูญเสียเวลาในชีวิตไปมากมาย จริงๆอยู่การเล่นเกมมันมีความสุข แต่ึมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ผมไม่มีความสุขกับการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ไม่ค่อยได้ไปหาเพื่อน เพราะมัวแต่เล่นเกม ไม่ค่อยได้รู้จักใคร เพราะมั่วแต่เล่นเกม ผมพยายามหลอกตัวเองว่า ก็ผมมีความสุขดีที่เล่นเกม ไม่จำเป็นต้องออกไปหาใคร แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะมันไม่ใช่ ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่แค่เล่นเกมเพียงอย่างเดียว

ก็อยากจะฝากละกันนะ เล่นเกม ไม่ใช่เรื่องไร้สาระครับ เป็นเรื่องดี แต่ต้องรู้จักเล่น รู้จักแบ่งเวลา ไม่ใช่ทุ่มเทกระหน่ำเล่นอย่างเดียว อันนี้จะเกิดผลเสียแน่นอน เล่นได้ เล่นแล้วหยุด ไปเรียน อ่านหนังสือ ต้องควบคุมตัวเองให้ได้

liger0000
16th February 2014, 12:20
เกมมันเป็นแพะของสังคมคับ สมัยก่อนมันก็มีกรณีติดทีวีเหมือนกันแต่พอคนรุ่นเก่าๆตายรุ่นใหม่ๆกลายเป็นคนมีอายุมากขึ้นพวกนี้ก็มาแทนและก็เริ่มโทษเกมอีก มันเป็นทุกยุคทุกสมัยแหละที่ต้องมีแพะ ไปๆมาๆผมว่าการศึกษาไทยนี้ไร้สาระกว่าเกมอีกคับ โดยเฉพาะมัธยมที่เรียนยากๆเวอร์ เพื่อสอบ สอบเสร็จก็ลืม แข่งกันติวเข้ามหาลัยแต่จบมาก็ไม่รู้จักตัวเองเลย


และผู้ใหญ่เขาชอบตีคำว่าใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชย์ว่าเป็นการเรียนพิเศษ และการเล่นเกมผู้ใหญ่มองว่าเป็นการใช้เวลาว่างไม่เกิดประโยชย์(แต่ผมว่าการไปหายใจทิ้งในโรงเรียนกวดวิชามันไร้ประโยชย์ยิ่งกว่า)

ผมว่านะจริงๆเพราะมันเป็นความต่างของยุคสมัยด้วยแหละคับ ทำให้ผู้ใหญ่มักไม่ค่อยเข้าใจเด็กรุ่นใหม่ สมัยเขามันไม่มีนิ อย่างวงการอนิเมะ ผู้ใหญ่มันยังรู้จักแต่โดเรม่อน ดราก้อนบอล เซเลอร์มูลอยู่เลย ทั้งๆที่สมัยนี้วงการอนิเมมันกว้างมาก มีตั้งแต่เด็กยันโอทาคุ30++ก็ดูกัน เกมก็เหมือนกันคับ หัวพวกนี้มันก็คิดถึงแต่เกมมาริโอ้ หรือเกมยุคพิคเซลทั้งหลาย

clean1447
16th February 2014, 12:36
ปัญหาโลกแตก เด็กไทยไม่อ่าน ข้อมูลที่มีแต่ตัวหนังสือ เกิน 2 บรรทัด

blacklotus55
16th February 2014, 12:41
ผมติดเกมครับ ติดหนักมาก ชอบเล่นวันละหลาย ๆ ชั่วโมง ชอบซื้อ ชอบจัดแท้ ชอบโหลด ชอบโมคอม และจะติดงอมแงมแบบนี้ต่อไป ตราบใดที่ยังมีปัญญาหาเงินเข้าบ้านได้วันละ 2-3 พัน แบบนี้อยู่

รับรอง ติดเกมหนักก็จริง แต่ไม่ทำให้พ่อและแม่ใครเดือดและไม่ทำให้ศีรษะใครมีมวลเพิ่มขึ้นแน่นอน 55555555555555+

เกมเนี่ยแหละ ตัวทำให้รู้จักโลกเลยแหละ พอเล่นเกมแล้วก็สงสัย เอ๊ะ ตรงนั้นตรงนี้ จริง ๆ มันเหมือนในเกมป่ะวะ แล้วไง ก็ไปถาม google ได้รู้จักโน่นนี่เยอะแยะ

ได้ภาษาอังกฤษเยอะแยะ ดีกว่าครูบางคนสอนอีกมั้ง อาจมีที่เกมแต่งมาบ้าง ถ้ามีสมองก็แยกแยะได้เองว่าไรโม้ไรจริง อาจารย์บางคนแม ร่ ง ว่าเกมไม่ดี แก่หัวหงอกแล้วแต่โลกสวย โทษทีวันอาทิตย์ก รู รู้นะว่าเ มิ งนั่งส่องจ้องซีรี่ย์ คิม แก กิม ไรพวกนี้ตั้งกะเช้ายันค่ำ

ถุ้ ยยย มีประโยชน์กว่าเล่นเกมเยอะเหรอไงวะ 55555555555555+

DeadCarnival
16th February 2014, 12:57
พ่อผมก็ไม่ได้ว่าเรื่องนี้นะ แม่ก็เช่นกัน สมัยเด็กๆพ่อมักจะหาเกมมาให้เล่นอยู่บ่อยๆ

ช่วงมี PC ก็จะหาเกมมาลงไว้ให้ มี PS1 ก็มักจะซื้อมาฝาก มี PS2 ก็มักจะพาไปซื้อแผ่นบ่อยๆ

จนอายุป่านนี้แล้วก็ยังเล่นอยู่ โดยไม่มีผลกระทบอะไร

กลับทำให้ผมมีวิชาที่ถนัดมา คือ ภาษาอังกฤษ และประวัติศาสตร์ น๊ะเอง:o

HANG-ON
16th February 2014, 14:21
เกมออนไลน์เกมแรกที่เล่นคือ Yulgang ตอนเปิดใหม่ๆ อยู่ ป.1 ติดงอมแงม กับ Counter Strike ภาค Condition Zero
กลับบ้านมาโยนกระเป๋า เล่นคอมอย่างเดียว โดนแม่ด่าไปหลายรอบ แต่ก็ยังติดเกมอยู่(บางครั้งแม่ไม่ให้เล่นก็แอบขโมยเงินแม่หนีไปเล่นร้านเกม)
แต่เกรดผมอยู่ที่ 3.2 - 3.5 ตลอด แต่ตอน ป.6 เกรดตกเหลือ 3.1 ติด 0 วิชาคณิตกับอังกฤษ โดนแม่ไซโคไปเยอะมาก + จำกัดเวลาเล่นคอม(แต่ก็แอบเล่นเกินตลอด :o)
แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนคอมใหม่พอดี โหลดเกมหลายๆเกมมาเล่น พื้นฐานอังกฤษดีขึ้นเพราะเกมพวกนี้ มันทำให้ผมสนใจภาษาอังกฤษมากขึ้นอะ :o
และหลายๆสิ่งหลายๆอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ ติดเกมน้อยลง ดูแลตัวเองมากขึ้น มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น (ทุกวันนี้ก็ยังนั่งหน้าคอมทั้งวัน แต่ไม่ได้เล่นเกมตลอด)
จนตอนนี้ ไม่บ้าคอมก็บ้ามอเตอร์ไซค์ครับ :o :o รู้สึกว่า2อย่างนี้มันทำให้เราชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆที่เรายังไม่รู้ ส่วนเนื้อหาตำราเรียน สนบ้างไม่สนบ้าง(ก็คนมันไม่ชอบ)
:o สอบผ่านบ้าง ตกบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องความรับผิดชอบ ผมไม่ค่อยจะมีเลย ติด0เพราะไม่ส่งงานเนี่ยแหละ :o

bobbyTJ
16th February 2014, 14:34
อยากจะบอกว่า ได้ภาษาเพราะว่าเล่นเกม 5555 (จาก FF Tactic กับ Suikoden 2)

บ้านผมแม่ก็บ่นเป็นธรรมดา ช่วงที่แบบเล่นเกมหนัก ๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือตะคอกหรือดุด่าอะไร จนผ่านไปซักพัก(เริ่มโต) เข้าสู่ภาวะอิ่มเกม มันก็เล่นน้อยลง
มันอยู่ที่การปรับความเข้าใจของคนทั้งสองรุ่น โชคดีที่ผมเป็นคนหัวโบราณ แต่เกิดในยุคดิจิตอล ส่วนพ่อแม่ ค่อนข้างมีแนวคิดแบบก้าวหน้าสมัยใหม่ เข้าใจลูก ๆ ทุกคน มันเลยจูนกันง่าย

pondsif01
16th February 2014, 14:47
หัวอกเดียวกันทั้งนั้น =___= ขอบคุณทุกคนเลย

BoonTew
16th February 2014, 15:13
เกม เกม เกมเต็มไปหมดเลย.....

ชอบเล่นเกมก็จะโดนแปะยี่ห้อว่าเด็กติดเกมทันที ถ้ามัวแต่ไปคาดหวังว่าจะให้ทุกคนรอบตัวเข้าใจความชอบของเรา เพลียจิตเปล่าๆ

toko2041
16th February 2014, 15:58
คำว่า ไอ่เด็กติดเกมนั้น มันเริ่ม ขึ้นตั้งแต่ อดีตกาล ตอนที่ Ro มาไหม่ๆ แล้วครับ ย้อนไปตอนไปที่ปี 2545 ตอนที่ internet นั้นมีความเร็ว 56k ตอนที่ เกมRo นั้นกำลังบูม มีเด็กชายคนนึง อายุเพียง 10 ขวบ ได้เล่นเล่นน้ำกับเพื่อนอยู่นั้น จู่ๆๆ ก็มีเพื่อนของ เขาคนนึงวิ่งมาอย่างเหนื่องและหอบ ตอนนั้นเขาตกใจมากว่าทำไมเพื่อนของเขานั้นวิ่งมาหน้าตั้งแบบนั้น เขาจึงถามเพื่อนของเขาไปว่า"เห้ยเป็นอะไรทำไมวิ่งหน้าตั้งแบบนั้น อะๆกินน้ำก่อน" แล้วจากนั้นเพื่อนของเขาก็ได้เล่าทุกอย่างให้กับเขาฟัง ว่ามีร้านให้เล่ที่เปิดให้เล่น "เกม"นั้นกำลังเปิดไหม่คนเต็มร้าน แล้วเด็กชายก็มึนงงอยู่ชั่วขณะนึง แล้วก็ถามต่อไปว่า อะคื่อเกมวะ (-_-"), เพื่อนของเขาที่อยู่เล่นน้ำด้วยนั้นก็ตบหัวเขาทันที//เพี้ย พร้อมพูดออกมาว่า "ไอ่...เอ้ย มันก็คือ ไอ่ที่เขาเอาไว้จิ้มกับชูชิไง " เพื่อนที่อยู่ข้างๆอีกคนก็ตบหัวคนที่ตอบดัง//เพี้ย พร้อมพูดออกมาว่่า "อันนั้นมันวาชาบิ" เพื่อนของเด็กชายก็บอกว่า "กุก็ไม่รู้เหมือนกันวะ เห็นลูกคนรวยๆ มานั้งเล่นเต็มร้านข้างๆบ้านเลย" ดังนั้นพวกเด็กๆ จึงพากันไปเล่นเกม แต่ราคาก็ไม่ไช่ว่าถูกๆ เด็กชายเลยต้อง ปั้นจักยานไปขอตังที่พ่อกับ****า ชึ่งพ่อกับแม่ของเขานั้นเป็นถึง "บก"หนังสือพิม พ่อของเขาก็เอะไจ เอาตังไปทำอะไรเยอะแยะหละลูก ลูกของเขาก็ตอบมาว่า จะเอาไปเล่นเกมครับ พ่อเขาก็เอาเงินให้เด็กคนนั้นไป//พ่อของเขาไม่รู้เลยการที่ให้เงินลูกไปนั้นจะการเปลี่ยนชะตาชีวิตของลูกของเขา
ครึ่งปี่ผ่านไป เด็กชายก็ได้เกม Ro จน ตัน เขาก็คิดว่า ถ้าเรามีเครื่องเล่นเกมนี่อยู่ที่บ้านก็จะไม่ต้องเดินมาเล่นเกมไกล ขนาดนี้ เขาจึงไปขอพ่อของเขา ให้ชื่อเครื่องเล่นเกมให้กับเขาหน่อย ตอนนั้นคอมพิวเตอร์เครื่องนึง ก็ปาไป 50000กว่าบาท ใครที่มีก็ถือว่าบ้านของคนนั้นรวยมากๆ เขาได้ขอจนพ่อของเขานั้นยอมชื่้อให้ พอเขาาได้คอมมาแล้ว เขาก็ได้ก็แต่นั้งเล่นจนลืม คำว่า เวลา ไปเลย เาเล่นจนไม่กินข้าวไม่นอนไม่เที่ยว โดเรียนมาเล่นเกมที่บ้านจนพ่อเขานั้นเอะใจที่ทำไมลูกของตัวเองนั้นอยู่แต่ที่บ้านไม่ค่อยออกไปเที่ยวที่ไหน จนพ่อของเขานั้นได้รู้ถึงผลการเรียนของลูกของเขา เขาก็ทราบว่าลูกขของเขานั้นไม่ได้ไปสอบและไม่ได้ไปโรงเรียน มาเป็นเวลา 2เดือนแล้ว พ่อเขาจึงโกรธมาก จับเด็กชายตีๆ และก็ตี ลูกของเขานั้นต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลยที่เดียว เพราะลูกของเขานั้น อ่อนแอไม่ได้ออกไปจากบ้านเลย ทำไห้ร่างกายของเขานั่้น ไม่มีแรง เขาจึงลงข่าวอย่างครึงโครม ว่า "เกม มหันตภัยมืด ลากอากอนาคตให้จมสู่ความมืดมิด" จบ//ไม่รู้กรูมั่ว

pondsif01
16th February 2014, 20:22
คำว่า ไอ่เด็กติดเกมนั้น มันเริ่ม ขึ้นตั้งแต่ อดีตกาล ตอนที่ Ro มาไหม่ๆ แล้วครับ ย้อนไปตอนไปที่ปี 2545 ตอนที่ internet นั้นมีความเร็ว 56k ตอนที่ เกมRo นั้นกำลังบูม มีเด็กชายคนนึง อายุเพียง 10 ขวบ ได้เล่นเล่นน้ำกับเพื่อนอยู่นั้น จู่ๆๆ ก็มีเพื่อนของ เขาคนนึงวิ่งมาอย่างเหนื่องและหอบ ตอนนั้นเขาตกใจมากว่าทำไมเพื่อนของเขานั้นวิ่งมาหน้าตั้งแบบนั้น เขาจึงถามเพื่อนของเขาไปว่า"เห้ยเป็นอะไรทำไมวิ่งหน้าตั้งแบบนั้น อะๆกินน้ำก่อน" แล้วจากนั้นเพื่อนของเขาก็ได้เล่าทุกอย่างให้กับเขาฟัง ว่ามีร้านให้เล่ที่เปิดให้เล่น "เกม"นั้นกำลังเปิดไหม่คนเต็มร้าน แล้วเด็กชายก็มึนงงอยู่ชั่วขณะนึง แล้วก็ถามต่อไปว่า อะคื่อเกมวะ (-_-"), เพื่อนของเขาที่อยู่เล่นน้ำด้วยนั้นก็ตบหัวเขาทันที//เพี้ย พร้อมพูดออกมาว่า "ไอ่...เอ้ย มันก็คือ ไอ่ที่เขาเอาไว้จิ้มกับชูชิไง " เพื่อนที่อยู่ข้างๆอีกคนก็ตบหัวคนที่ตอบดัง//เพี้ย พร้อมพูดออกมาว่่า "อันนั้นมันวาชาบิ" เพื่อนของเด็กชายก็บอกว่า "กุก็ไม่รู้เหมือนกันวะ เห็นลูกคนรวยๆ มานั้งเล่นเต็มร้านข้างๆบ้านเลย" ดังนั้นพวกเด็กๆ จึงพากันไปเล่นเกม แต่ราคาก็ไม่ไช่ว่าถูกๆ เด็กชายเลยต้อง ปั้นจักยานไปขอตังที่พ่อกับ****า ชึ่งพ่อกับแม่ของเขานั้นเป็นถึง "บก"หนังสือพิม พ่อของเขาก็เอะไจ เอาตังไปทำอะไรเยอะแยะหละลูก ลูกของเขาก็ตอบมาว่า จะเอาไปเล่นเกมครับ พ่อเขาก็เอาเงินให้เด็กคนนั้นไป//พ่อของเขาไม่รู้เลยการที่ให้เงินลูกไปนั้นจะการเปลี่ยนชะตาชีวิตของลูกของเขา
ครึ่งปี่ผ่านไป เด็กชายก็ได้เกม Ro จน ตัน เขาก็คิดว่า ถ้าเรามีเครื่องเล่นเกมนี่อยู่ที่บ้านก็จะไม่ต้องเดินมาเล่นเกมไกล ขนาดนี้ เขาจึงไปขอพ่อของเขา ให้ชื่อเครื่องเล่นเกมให้กับเขาหน่อย ตอนนั้นคอมพิวเตอร์เครื่องนึง ก็ปาไป 50000กว่าบาท ใครที่มีก็ถือว่าบ้านของคนนั้นรวยมากๆ เขาได้ขอจนพ่อของเขานั้นยอมชื่้อให้ พอเขาาได้คอมมาแล้ว เขาก็ได้ก็แต่นั้งเล่นจนลืม คำว่า เวลา ไปเลย เาเล่นจนไม่กินข้าวไม่นอนไม่เที่ยว โดเรียนมาเล่นเกมที่บ้านจนพ่อเขานั้นเอะใจที่ทำไมลูกของตัวเองนั้นอยู่แต่ที่บ้านไม่ค่อยออกไปเที่ยวที่ไหน จนพ่อของเขานั้นได้รู้ถึงผลการเรียนของลูกของเขา เขาก็ทราบว่าลูกขของเขานั้นไม่ได้ไปสอบและไม่ได้ไปโรงเรียน มาเป็นเวลา 2เดือนแล้ว พ่อเขาจึงโกรธมาก จับเด็กชายตีๆ และก็ตี ลูกของเขานั้นต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลยที่เดียว เพราะลูกของเขานั้น อ่อนแอไม่ได้ออกไปจากบ้านเลย ทำไห้ร่างกายของเขานั่้น ไม่มีแรง เขาจึงลงข่าวอย่างครึงโครม ว่า "เกม มหันตภัยมืด ลากอากอนาคตให้จมสู่ความมืดมิด" จบ//ไม่รู้กรูมั่ว

ไม่ต้องบอกว่า /มั่วครับ มันคือชีวิตคุณเองใช่มั้ยเนี่ย 5555555 ยุคเดียวกันเลยสมัยหัวโปก ยุคร้านเกมคอมชั่วโมง 30 บาท พอขี้เกียจเล่น RO ก็จัด Half-life ทั้งร้าน คิดถึงสมัยนั้นจริงๆ :gamer

ghost th
16th February 2014, 20:53
พ่อเเม่ไม่ให้เล่นเกมยิงกันเท่าไรหรอก เเต่เดี๋ยวนี้ก็ยังเล่นอยู่ผมว่า คําว่าติดเกมเป็นคําที่คิดไปเองอย่างผมกลับมาบ้านทําการบ้านเเล้วเล่นเกม ขอเเค่เเบ่งเวลา เกมก็จะกลายเป็นสิ่งดีๆในชีวิตไปเอง เพราะถึงผมจะเล่นเกมเเต่ก็เรียนได้คะเเนนดีอยู่ เเต่เกมสมัยนี้อยากให้เน้นเนื้อเรื่องบ้าง เเละทําออกมาให้ดีเเละสนุกก็พอครับ
ปล.เเต่ที่ทั้งพ่อเเละเเม่รวมถึงผมเกลียดคือเกม GTA SERIRES,PAYDAY เเค่นี้เเหละครับ