482566789
26th March 2014, 22:47
มาเริ่มที่ pistol(หรือที่เรียกว่า ปืนพกกันก่อนเลยนะครับ)
1.ปืน Luger
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839729.jpg
ปืนพกประจำตัวของนายทหารของฝ่ายนาซีเป็นปืนพกขนาดเล็กพกพาสะดวกมันเป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับทหารฝ่ายพันธมิตรและ จะพบมากในการค้นตัวของทหารเยอรมัน
2.ปืน Walther P38
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839723.jpg
โดยปกติปืนนี้จะพกโดยทหารเยอรมันมันมีขนาดเล็กและสะดวกในการใช้งานแต่มันไม่สามารถสู้ปืน M1911A1 ของสหรัฐได้แต่มัน เล็กกว่าจึงสะดวกในการใช้งานมากกว่า
3.ปืน M 1911กับM 1911A1
http://image.ohozaa.com/i/6d1/19111911a1.jpg
M1911 ในยุคแรกๆที่ยังไม่ปรับแบบ คอ ยู.เอส บ้านเราชอบเรียกว่าเอวเต็มเพราะพื้นที่ตรงนี้ยังเต็มไม่ปาดเว้าแบบยุคต่อมา
ที่ปรับแบบ เป็น M1911A1 ในปี ค.ศ 1924 ใชกระสุนเเบบ .45 ACP
4.ปืน Webley Revolver MK 4
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-6.jpg
ปืนพกลูกโม่ประจำตัวของทหารอังกฤษมีใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มี น้ำหนักที่เบามากใช้ง่ายไม่ต้องใช้การฝึกอะไรมากเป็นที่นิยมมากและยังคงถูกใช้ใน บางส่วนของโลกอยู่
5.Tokarev TT-33
http://board.postjung.com/data/716/716902-topic-ix-0.jpg
ปืนพกประจำกายมาตรฐานของทหารกองทัพแดงปืนชนิดนี้ได้รับการพัฒนามาจากปืน M1911 ของสหรัฐโดยตัดแปลงทำให้มันใช้งานได้ดีขึ้นง่ายขึ้นและทนทานมากขึ้น
ต่อไปจะเป็นปืนหลักเเละปืนกลเบา ปืนกลหนัก เเละปืนต่อต้านรถถังนะครับ
1.ปืนเล็กยาว Karabiner Mauser Kar98K
http://jutta.exteen.com/images/karabiner-98.jpg
คาราไบน์เนอร์ เค 98 เป็นปืนที่ส่งลูกเข้ารังเพลิงด้วยระบบลูกเลื่อน เป็นอาวุธประจำกายของทหารเยอรมันมาตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ปืนเล็กยาวรุ่นนี้ บริษัทเมาเซอร์ (Mauser) พัฒนามาจากปืน Gewehr 98 ซึ่งก่อนเกิดสงครามปืนรุ่นนี้จะผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตัวปืนที่เป็นไม้ จะผลิตโดยช่างฝีมอทางด้านงานไม้ แต่พอเกิดสงคราม ความต้องการของปืนมีมาก จึงผลิตด้วยไม้เคลือบมันราคาถูกๆแทน คาราไบเนอร์ เค 98 มีน้ำหนักตัวเปล่า โดยยังไม่บรรจุกระสุน 3.66 กก. บรรจุกระสุนขนาด 7.92 มม. ด้วยซองกระสุน 5 นัด ซึ่งขนาดกระสุน 7.92 มม.นี้เป็นขนาดกระสุนมาตรฐานของกองทัพนาซีเยอรมันในขณะนั้น ต่างจากขนาดกระสุนของรัสเซียที่ใช้ขนาด 7.62 มม. เล็กน้อย กระสุนของเคร 98 มีความเร็ว 745 เมตรต่อวินาที ระยะยิงได้ไกล 550 เมตรหรือ 600 หลา
สมรรถนะ
ผู้ผลิต บริษัทเมาเซอร์ ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,250 มม.
ลำกล้องยาว 740 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 3.66 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ 5 นัด
ระยะยิงไกล 500 ม.
2.ปืนกลมือ MP 40
http://jutta.exteen.com/images/mp40.jpg
ปืนกลรุ่นนี้ใช้กระสุนขนาด 9 มม. ส่งกระสุนด้วยซองกระสุนบรรจุกระสุน 32 นัด อัตราความเร็วในการยิง 500 นัดต่อนาที เป็นปืนที่ทหารเยอรมันใช้ในระยะประชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารของหน่วย เอส เอส มักนิยมใช้ปืน MP 40 เป็นอาวุธประจำกาย รวมทั้งทหารประจำรถถัง หรือหน่วยยานเกราะ ตลอดจนหน่วยพลร่ม ก็ใช้อาวุธชนิดนี้เป็นอาวุธประจำกาย เพราะไม่ยาวเกะกะ มีความคล่องตัวสูง บรรจุกระสุนได้มาก บำรุงรักษาง่าย และมีความทนทาน ไม่แต่เฉพาะทหารเยอรมันเท่านั้นที่ชมชอบปืนรุ่นนี้ ทหารพันธมิตร และทหารรัสเซียก็มักจะนำไปใช้ เมื่อยึดมันมาได้จากทหารเยอรมัน
สมรรถนะ
ผู้ผลิต บริษัทเออร์ม่า (Erma)ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 833 มม.
ลำกล้องยาว 251 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 4 กก.
กระสุนขนาด 9 มม.
บรรจุ 32 นัด
ระยะยิงไกล 200-250 ม.
3.ปืนกล MG 34
http://jutta.exteen.com/images/machinengewehr-mg34.jpg
ปืนกล Machinengewehr MG 34 นี้ บางคนจัดให้เป็นปืนกลเบา (Light machine gun) แต่บางตำราก็จัดให้เป็นปืนกลหนัก (Heavy machine gun) ปืนกลรุ่นี้ผลิตโดย Louis Stange จากบริษัท Rhinemetall และบริษัท Mauser ของเยอรมันในคราวเดียวกัน ซึ่งการถือกำเนิดปืนกล MG 34 ในปี 1934 นี้ ถือเป็นการก่อกำเนิดของอาวุธปืนกลสมัยใหม่ ในกองทัพเยอรมันเลยทีเดียว
ผู้ผลิต ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,220 มม.
ลำกล้องยาว 628 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 12.1 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ สายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล 2000 ม.
4.ปืนกล MG 42
http://jutta.exteen.com/images/mg42.jpg
ปืนกล Machinengewehr MG 42 หรือปืนกลสแปนเดา (Spandau) นี้ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของกองทัพเยอรมัน ที่ต้องการปืนกลที่มีประสิทธิภาพสูง มีสายการผลิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ที่รับแนวคิดนี้ไปทำให้เป็นความจริงคือ Dr. Grunow ผู้ซึ่งเป็นนักอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน ในการผลิตแบบสายการผลิตจำนวนมาก ที่ไม่ต้องการผู้ X วชาญมาทำการผลิต ผลที่ได้ก็คือ ปืนกลที่ได้ชื่อว่า เป็นปืนกลที่ดีที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองชนิดหนึ่ง
ผู้ผลิต ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,220 มม.
ลำกล้องยาว 533 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 11.6 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ สายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล 2000 ม.
5.ปืนไรเฟิลจู่โจม STG 44
http://jutta.exteen.com/images/sturmgewhr-stg44.jpg
เอส ที จี 44 มีกำเนิดมาจากปืนกล เอ็ม พี 43 (MP 43 - Machine Pistol 43) ซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 1943 เป็นปืนกลที่มีอำนาจการยิงสูง โดยเฉพาะในระยะประชิด มีแรงสะท้อน หรือแรงสะบัดของปืนต่ำ ทำให้มีความแม่นยำ แม้ระยะยิงจะไม่ไกลนัก
6.ปืน M1 Thompson
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-1.jpg
ปืนกลมือ Thompson ถูกผลิตมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดทำให้กองทัพในตอนนั้นไม่สนใจในการใช้ในช่วงแรก ปืนนี้ถูกใช้ในกลุ่มมาเฟียแต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นทางกองทัพจึงนำมันมาใช้มันเป็นปืนที่น้ำหนักเบามีการยิงกระสุนได้เร็วแต่ความแม่นยำไม่มากและมีการส่ายของลำกล้องสูงมาก เวลายิงเร็วๆ
7.ปืน M1918 Browning Automatic Rifle(BAR)
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/75/Army_Heritage_Museum_B.A.R..jpg/800px-Army_Heritage_Museum_B.A.R..jpg
ปืนชนิดนี้เป็นปืนสนับสนุนของเหล่าหมู่ปืนเป็นปืนที่มีผลิตมาใช้ในสงครามโลก ครั้งที่ 1 แต่ทางกองทัพให้ความเห็นว่ามันเป็นปืนที่มีความยอดเยี่ยมมากในสมัย นั้นจึงไม่สามารถให้มันตกไปอยู่ในมือของฝ่ายข้าศึกได้ปืนนี้จึงถูกเก็บไว้ ก่อนจนสงครามโลกครั้งที่2ระเบิดขึ้น ปืนนี้จึงถูกนำมาใช้มันมี น้ำหนักมากและบรรจุกระสุนได้น้อยและมีความเร็วในการยิงมากทำให้กระสุนหมดเร็วและ ปืนถูกยกเลิกไปหลังสงครามเกาหลี
8.ปืน M1903 Springfield rifle
http://file.siam2web.com/bossbaz/springfield_rifle.jpg
http://www.imfdb.org/images/thumb/3/3c/Rifle_Springfield_M1903A4_with_M84_sight.jpg/450px-Rifle_Springfield_M1903A4_with_M84_sight.jpg
ปืนกระบอกนี้ถูกใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นปืนที่มีความแม่นยำสูงมากๆแต่บรรจุกระสุนได้น้อยจึงไม่สามารถจัดการข้าศึกทีละมากๆได้และในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนนี้จะใช้โดยพลแม่นปืนซะเป็นส่วนมาก
9.ปืนTHOMPSON M1927
http://file.siam2web.com/bossbaz/thompson19271.jpg
เป็น ปืนกลมือทอมป์สัน รุ่น M1927 ผลิตเมื่อปี 1927 เป็นรุ่นที่พัฒนามาก่อน M1928 ตลับกระสุนของรุ่น M1927 เพิ่งจะมีการพัฒนาในภายหลัง สามารถบรรจุกระสุนได้ 100-120 นัด นิยมเรียกตลับกระสุนนี้ว่า DRUM MAGAZINE
10.ปืนSten gun
http://file.siam2web.com/bossbaz/sten_gun.jpg
ปืนกลมือที่กองทัพอังกฤษใตลอดสงครามโลกครั้งที่2ไปจนถึงสงครามเวียดนามด้วยที่มันมีลักษณะเล็ก นน. เบากระทัดรัดใช้ง่ายมันจึงเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
11.ปืนPPSH-41
http://file.siam2web.com/bossbaz/ppsh41.jpg
ปืนกลมือของกองทัพบกโซเวียตมีอัตราการยิงต่อเนื่องสูงมากบรรจุกระสุนได้เยอะมากความแม่นยำต่ำไม่เหมาะกับการยิงระยะไกลแต่เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดและใช้ในหลายประเทศเช่นเวียดนามเหนือหรือเกาหลีเหนือ
12.ปืน M1A1 Carbine
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-3.jpg
ปืนนี้เป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและมีหลายรุ่นทั้งแบบพานท้ายพับได้มี น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับเหล่าพลร่มมีความแม่นยำสูงแต่มีความรุนแรงต่ำกว่าปืนแบบ อื่นแต่ก็ชดเชยด้วยความเล็ก น้ำหนักเบา ใช้ง่าย
13.ปืน M1 GARAND
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-4.jpg
เป็นปืนที่ฝ่ายสหรัฐใช้เป็นอาวุธประจำกายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสงครามเวียดนามเป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงมากแต่ก็มีจุดเด่นที่น่ากลัวคือเมื่อทำ การยิงจนกระสุนหมดในการยิงนัดสุดท้ายปืนจะทำการดีดตลับกระสุนออกมาทำให้มี เสียงดังพิ้งซึ่งจะบอกตำแหน่งของผู้ยิงได้ ปืนนี้สามารถเสริมอุปกรณ์พิเศษได้อย่างดาบปลายปืนกล้องเล็งหรือลูกระเบิดแต่ การยิงลูกระเบิดต้องอาศัยกระสุนเปล่า 1 นัดในการช่วยยิงด้วย
14.ปืน Lee Enfield
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-9.jpg
ปืนไรเฟิลประจำกองทัพบกอังกฤษมีใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังใช้กันอยู่เป็นไรเฟิลลูกเลื่อนเหมือนของเยอรมัน แต่บรรจุกระสุนได้มากกว่าคือ 10 นัดโดยตลับกระสุนจะแบ่งเป็น 2 ตลับๆละ 5 นัด
15.ปืน PIAT (Projector Infantry, Anti-Tank)
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-5.jpg
ปืนต่อสู้รถถังของกองทัพบกอังกฤษไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากมีน้ำหนักมากความแม่นยำต่ำระยะหวังผลไม่ไกลมากนักและมีความยุ่งยากในการยิง ทหารจึงนิยมใช้ปืนM1A1 Bazooka มากกว่า
16.ปืน Panzerfaust
http://file.siam2web.com/bossbaz/panzerfaust.jpg
อาวุธทุกฝ่ายนาซีใช้ต่อต้นรถถังโดยการยิงลูกระเบิดใส่รถถังหรือยานหุ้มเกราะมีอำนาจในการทำลายสูงแต่ไม่เหมาะกับการยิงใส่บุคคล และสามารถยิงได้แค่ครั้งเดียวแต่ปืนนี้ก็เป็นต้นแบบให้ปืนต่อสู้รถถังแบบ RPG-2 หรือ RPG-7
17.ปืน Raketenpanzerbuchse(Panzerchrek)
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839693.jpg
เมื่อเยอรมันสามารถยึดปืนบาซูก้าจากอเมริกาได้ในศึกที่ตูนีเซีย ในปี 1943 วิศวกรของเยอรมันก็วิเคราะห์และลอกแบบปืนบาซูก้า โดยทันที ในไม่ช้าเยอรมันก็มีปืนต่อสู้รถถังก็คือRaketenpanzerbuchse 43 มันมีชื่อเล่นๆว่า Panzerchrekโดยจะยิงจรวดขนาด 3.46 นิ้วและมีระยะ หวังผลกว่า 160 หลา จากนั้นมันก็เป็นฝันร้ายของเหล่าผู้บังคับรถถังฝ่ายพันธมิตรจนต้องมีการเสริมเกราะเพื่อที่จะรับมือกับมัน
เเล้วชาวJKGชอบปืนไหนกันบ้างละครับ ??
สุดท้ายก็ขอขอบคุณยูสเซอร์ทุกท่านที่เขามาอ่านครับ ขอบคุณครับ :thank
credit
http://jutta.exteen.com/
http://playplern.com/19118/
http://board.postjung.com/703865.html
http://bossbaz.siam2web.com//?cid=1041242
1.ปืน Luger
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839729.jpg
ปืนพกประจำตัวของนายทหารของฝ่ายนาซีเป็นปืนพกขนาดเล็กพกพาสะดวกมันเป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับทหารฝ่ายพันธมิตรและ จะพบมากในการค้นตัวของทหารเยอรมัน
2.ปืน Walther P38
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839723.jpg
โดยปกติปืนนี้จะพกโดยทหารเยอรมันมันมีขนาดเล็กและสะดวกในการใช้งานแต่มันไม่สามารถสู้ปืน M1911A1 ของสหรัฐได้แต่มัน เล็กกว่าจึงสะดวกในการใช้งานมากกว่า
3.ปืน M 1911กับM 1911A1
http://image.ohozaa.com/i/6d1/19111911a1.jpg
M1911 ในยุคแรกๆที่ยังไม่ปรับแบบ คอ ยู.เอส บ้านเราชอบเรียกว่าเอวเต็มเพราะพื้นที่ตรงนี้ยังเต็มไม่ปาดเว้าแบบยุคต่อมา
ที่ปรับแบบ เป็น M1911A1 ในปี ค.ศ 1924 ใชกระสุนเเบบ .45 ACP
4.ปืน Webley Revolver MK 4
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-6.jpg
ปืนพกลูกโม่ประจำตัวของทหารอังกฤษมีใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มี น้ำหนักที่เบามากใช้ง่ายไม่ต้องใช้การฝึกอะไรมากเป็นที่นิยมมากและยังคงถูกใช้ใน บางส่วนของโลกอยู่
5.Tokarev TT-33
http://board.postjung.com/data/716/716902-topic-ix-0.jpg
ปืนพกประจำกายมาตรฐานของทหารกองทัพแดงปืนชนิดนี้ได้รับการพัฒนามาจากปืน M1911 ของสหรัฐโดยตัดแปลงทำให้มันใช้งานได้ดีขึ้นง่ายขึ้นและทนทานมากขึ้น
ต่อไปจะเป็นปืนหลักเเละปืนกลเบา ปืนกลหนัก เเละปืนต่อต้านรถถังนะครับ
1.ปืนเล็กยาว Karabiner Mauser Kar98K
http://jutta.exteen.com/images/karabiner-98.jpg
คาราไบน์เนอร์ เค 98 เป็นปืนที่ส่งลูกเข้ารังเพลิงด้วยระบบลูกเลื่อน เป็นอาวุธประจำกายของทหารเยอรมันมาตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ปืนเล็กยาวรุ่นนี้ บริษัทเมาเซอร์ (Mauser) พัฒนามาจากปืน Gewehr 98 ซึ่งก่อนเกิดสงครามปืนรุ่นนี้จะผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตัวปืนที่เป็นไม้ จะผลิตโดยช่างฝีมอทางด้านงานไม้ แต่พอเกิดสงคราม ความต้องการของปืนมีมาก จึงผลิตด้วยไม้เคลือบมันราคาถูกๆแทน คาราไบเนอร์ เค 98 มีน้ำหนักตัวเปล่า โดยยังไม่บรรจุกระสุน 3.66 กก. บรรจุกระสุนขนาด 7.92 มม. ด้วยซองกระสุน 5 นัด ซึ่งขนาดกระสุน 7.92 มม.นี้เป็นขนาดกระสุนมาตรฐานของกองทัพนาซีเยอรมันในขณะนั้น ต่างจากขนาดกระสุนของรัสเซียที่ใช้ขนาด 7.62 มม. เล็กน้อย กระสุนของเคร 98 มีความเร็ว 745 เมตรต่อวินาที ระยะยิงได้ไกล 550 เมตรหรือ 600 หลา
สมรรถนะ
ผู้ผลิต บริษัทเมาเซอร์ ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,250 มม.
ลำกล้องยาว 740 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 3.66 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ 5 นัด
ระยะยิงไกล 500 ม.
2.ปืนกลมือ MP 40
http://jutta.exteen.com/images/mp40.jpg
ปืนกลรุ่นนี้ใช้กระสุนขนาด 9 มม. ส่งกระสุนด้วยซองกระสุนบรรจุกระสุน 32 นัด อัตราความเร็วในการยิง 500 นัดต่อนาที เป็นปืนที่ทหารเยอรมันใช้ในระยะประชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารของหน่วย เอส เอส มักนิยมใช้ปืน MP 40 เป็นอาวุธประจำกาย รวมทั้งทหารประจำรถถัง หรือหน่วยยานเกราะ ตลอดจนหน่วยพลร่ม ก็ใช้อาวุธชนิดนี้เป็นอาวุธประจำกาย เพราะไม่ยาวเกะกะ มีความคล่องตัวสูง บรรจุกระสุนได้มาก บำรุงรักษาง่าย และมีความทนทาน ไม่แต่เฉพาะทหารเยอรมันเท่านั้นที่ชมชอบปืนรุ่นนี้ ทหารพันธมิตร และทหารรัสเซียก็มักจะนำไปใช้ เมื่อยึดมันมาได้จากทหารเยอรมัน
สมรรถนะ
ผู้ผลิต บริษัทเออร์ม่า (Erma)ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 833 มม.
ลำกล้องยาว 251 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 4 กก.
กระสุนขนาด 9 มม.
บรรจุ 32 นัด
ระยะยิงไกล 200-250 ม.
3.ปืนกล MG 34
http://jutta.exteen.com/images/machinengewehr-mg34.jpg
ปืนกล Machinengewehr MG 34 นี้ บางคนจัดให้เป็นปืนกลเบา (Light machine gun) แต่บางตำราก็จัดให้เป็นปืนกลหนัก (Heavy machine gun) ปืนกลรุ่นี้ผลิตโดย Louis Stange จากบริษัท Rhinemetall และบริษัท Mauser ของเยอรมันในคราวเดียวกัน ซึ่งการถือกำเนิดปืนกล MG 34 ในปี 1934 นี้ ถือเป็นการก่อกำเนิดของอาวุธปืนกลสมัยใหม่ ในกองทัพเยอรมันเลยทีเดียว
ผู้ผลิต ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,220 มม.
ลำกล้องยาว 628 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 12.1 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ สายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล 2000 ม.
4.ปืนกล MG 42
http://jutta.exteen.com/images/mg42.jpg
ปืนกล Machinengewehr MG 42 หรือปืนกลสแปนเดา (Spandau) นี้ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของกองทัพเยอรมัน ที่ต้องการปืนกลที่มีประสิทธิภาพสูง มีสายการผลิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ที่รับแนวคิดนี้ไปทำให้เป็นความจริงคือ Dr. Grunow ผู้ซึ่งเป็นนักอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน ในการผลิตแบบสายการผลิตจำนวนมาก ที่ไม่ต้องการผู้ X วชาญมาทำการผลิต ผลที่ได้ก็คือ ปืนกลที่ได้ชื่อว่า เป็นปืนกลที่ดีที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองชนิดหนึ่ง
ผู้ผลิต ประเทศเยอรมัน
ความยาวของปืน 1,220 มม.
ลำกล้องยาว 533 มม.
น้ำหนักปืนเปล่า 11.6 กก.
กระสุนขนาด 7.92 มม.
บรรจุ สายกระสุน สายละ 50 นัด
ระยะยิงไกล 2000 ม.
5.ปืนไรเฟิลจู่โจม STG 44
http://jutta.exteen.com/images/sturmgewhr-stg44.jpg
เอส ที จี 44 มีกำเนิดมาจากปืนกล เอ็ม พี 43 (MP 43 - Machine Pistol 43) ซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 1943 เป็นปืนกลที่มีอำนาจการยิงสูง โดยเฉพาะในระยะประชิด มีแรงสะท้อน หรือแรงสะบัดของปืนต่ำ ทำให้มีความแม่นยำ แม้ระยะยิงจะไม่ไกลนัก
6.ปืน M1 Thompson
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-1.jpg
ปืนกลมือ Thompson ถูกผลิตมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดทำให้กองทัพในตอนนั้นไม่สนใจในการใช้ในช่วงแรก ปืนนี้ถูกใช้ในกลุ่มมาเฟียแต่พอสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นทางกองทัพจึงนำมันมาใช้มันเป็นปืนที่น้ำหนักเบามีการยิงกระสุนได้เร็วแต่ความแม่นยำไม่มากและมีการส่ายของลำกล้องสูงมาก เวลายิงเร็วๆ
7.ปืน M1918 Browning Automatic Rifle(BAR)
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/75/Army_Heritage_Museum_B.A.R..jpg/800px-Army_Heritage_Museum_B.A.R..jpg
ปืนชนิดนี้เป็นปืนสนับสนุนของเหล่าหมู่ปืนเป็นปืนที่มีผลิตมาใช้ในสงครามโลก ครั้งที่ 1 แต่ทางกองทัพให้ความเห็นว่ามันเป็นปืนที่มีความยอดเยี่ยมมากในสมัย นั้นจึงไม่สามารถให้มันตกไปอยู่ในมือของฝ่ายข้าศึกได้ปืนนี้จึงถูกเก็บไว้ ก่อนจนสงครามโลกครั้งที่2ระเบิดขึ้น ปืนนี้จึงถูกนำมาใช้มันมี น้ำหนักมากและบรรจุกระสุนได้น้อยและมีความเร็วในการยิงมากทำให้กระสุนหมดเร็วและ ปืนถูกยกเลิกไปหลังสงครามเกาหลี
8.ปืน M1903 Springfield rifle
http://file.siam2web.com/bossbaz/springfield_rifle.jpg
http://www.imfdb.org/images/thumb/3/3c/Rifle_Springfield_M1903A4_with_M84_sight.jpg/450px-Rifle_Springfield_M1903A4_with_M84_sight.jpg
ปืนกระบอกนี้ถูกใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นปืนที่มีความแม่นยำสูงมากๆแต่บรรจุกระสุนได้น้อยจึงไม่สามารถจัดการข้าศึกทีละมากๆได้และในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนนี้จะใช้โดยพลแม่นปืนซะเป็นส่วนมาก
9.ปืนTHOMPSON M1927
http://file.siam2web.com/bossbaz/thompson19271.jpg
เป็น ปืนกลมือทอมป์สัน รุ่น M1927 ผลิตเมื่อปี 1927 เป็นรุ่นที่พัฒนามาก่อน M1928 ตลับกระสุนของรุ่น M1927 เพิ่งจะมีการพัฒนาในภายหลัง สามารถบรรจุกระสุนได้ 100-120 นัด นิยมเรียกตลับกระสุนนี้ว่า DRUM MAGAZINE
10.ปืนSten gun
http://file.siam2web.com/bossbaz/sten_gun.jpg
ปืนกลมือที่กองทัพอังกฤษใตลอดสงครามโลกครั้งที่2ไปจนถึงสงครามเวียดนามด้วยที่มันมีลักษณะเล็ก นน. เบากระทัดรัดใช้ง่ายมันจึงเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
11.ปืนPPSH-41
http://file.siam2web.com/bossbaz/ppsh41.jpg
ปืนกลมือของกองทัพบกโซเวียตมีอัตราการยิงต่อเนื่องสูงมากบรรจุกระสุนได้เยอะมากความแม่นยำต่ำไม่เหมาะกับการยิงระยะไกลแต่เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดและใช้ในหลายประเทศเช่นเวียดนามเหนือหรือเกาหลีเหนือ
12.ปืน M1A1 Carbine
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-3.jpg
ปืนนี้เป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและมีหลายรุ่นทั้งแบบพานท้ายพับได้มี น้ำหนักเบาเหมาะสำหรับเหล่าพลร่มมีความแม่นยำสูงแต่มีความรุนแรงต่ำกว่าปืนแบบ อื่นแต่ก็ชดเชยด้วยความเล็ก น้ำหนักเบา ใช้ง่าย
13.ปืน M1 GARAND
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-4.jpg
เป็นปืนที่ฝ่ายสหรัฐใช้เป็นอาวุธประจำกายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสงครามเวียดนามเป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงมากแต่ก็มีจุดเด่นที่น่ากลัวคือเมื่อทำ การยิงจนกระสุนหมดในการยิงนัดสุดท้ายปืนจะทำการดีดตลับกระสุนออกมาทำให้มี เสียงดังพิ้งซึ่งจะบอกตำแหน่งของผู้ยิงได้ ปืนนี้สามารถเสริมอุปกรณ์พิเศษได้อย่างดาบปลายปืนกล้องเล็งหรือลูกระเบิดแต่ การยิงลูกระเบิดต้องอาศัยกระสุนเปล่า 1 นัดในการช่วยยิงด้วย
14.ปืน Lee Enfield
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-9.jpg
ปืนไรเฟิลประจำกองทัพบกอังกฤษมีใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังใช้กันอยู่เป็นไรเฟิลลูกเลื่อนเหมือนของเยอรมัน แต่บรรจุกระสุนได้มากกว่าคือ 10 นัดโดยตลับกระสุนจะแบ่งเป็น 2 ตลับๆละ 5 นัด
15.ปืน PIAT (Projector Infantry, Anti-Tank)
http://board.postjung.com/data/703/703865-topic-ix-5.jpg
ปืนต่อสู้รถถังของกองทัพบกอังกฤษไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากมีน้ำหนักมากความแม่นยำต่ำระยะหวังผลไม่ไกลมากนักและมีความยุ่งยากในการยิง ทหารจึงนิยมใช้ปืนM1A1 Bazooka มากกว่า
16.ปืน Panzerfaust
http://file.siam2web.com/bossbaz/panzerfaust.jpg
อาวุธทุกฝ่ายนาซีใช้ต่อต้นรถถังโดยการยิงลูกระเบิดใส่รถถังหรือยานหุ้มเกราะมีอำนาจในการทำลายสูงแต่ไม่เหมาะกับการยิงใส่บุคคล และสามารถยิงได้แค่ครั้งเดียวแต่ปืนนี้ก็เป็นต้นแบบให้ปืนต่อสู้รถถังแบบ RPG-2 หรือ RPG-7
17.ปืน Raketenpanzerbuchse(Panzerchrek)
http://playplern.com/wp-content/uploads/2013/12/1346839693.jpg
เมื่อเยอรมันสามารถยึดปืนบาซูก้าจากอเมริกาได้ในศึกที่ตูนีเซีย ในปี 1943 วิศวกรของเยอรมันก็วิเคราะห์และลอกแบบปืนบาซูก้า โดยทันที ในไม่ช้าเยอรมันก็มีปืนต่อสู้รถถังก็คือRaketenpanzerbuchse 43 มันมีชื่อเล่นๆว่า Panzerchrekโดยจะยิงจรวดขนาด 3.46 นิ้วและมีระยะ หวังผลกว่า 160 หลา จากนั้นมันก็เป็นฝันร้ายของเหล่าผู้บังคับรถถังฝ่ายพันธมิตรจนต้องมีการเสริมเกราะเพื่อที่จะรับมือกับมัน
เเล้วชาวJKGชอบปืนไหนกันบ้างละครับ ??
สุดท้ายก็ขอขอบคุณยูสเซอร์ทุกท่านที่เขามาอ่านครับ ขอบคุณครับ :thank
credit
http://jutta.exteen.com/
http://playplern.com/19118/
http://board.postjung.com/703865.html
http://bossbaz.siam2web.com//?cid=1041242