EPISODE1
23rd September 2011, 10:59
หนุ่มอังกฤษชวนสร้างบ้านฮอบบิท คืนสู่ธรรมชาติ
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit1.jpg
บ้านหลังกะทัดรัดที่ฝังตัวอยู่ในเนินดิน โผล่มาให้เห็นเพียงประตูหน้าต่างเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่าบ้านฮอบบิท ซึ่งปรากฎอยู่ในหนังเรื่อง "เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์" บัดนี้มีปรากฏให้เห็นจริง ๆ แล้วที่แคว้นเวลส์ ของสหราชอาณาจักร ซึ่งแม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าเคยเห็นจากที่อื่น ๆ มาบ้างแล้ว แต่บ้านฮอบบิทที่เรานำมาฝากวันนี้..."แตกต่าง" นะจะบอกให้
ทั้งนี้ เจ้าของบ้าน "ไซมอน เดล" ได้สร้างบ้านฮอบบิทของเขาขึ้นมาโดยอาศัยหลักรักษ์ธรรมชาติสุด ๆ แถมลงมือสร้างเองโดยอาศัยอุปกรณ์เพียง ค้อน สิ่ว และเลื่อยไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนเวลาที่ใช้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จก็เร็วราวกับเนรมิตเมื่อเทียบกับการก่อสร้างบ้านสมัยใหม่ทั่วไป เพราะบ้านฮอบบิทหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น .. เอาล่ะ เรามาทัวร์บ้านของเขากันสักหน่อยดีกว่า มีให้ชมตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างฐาน จนพร้อมเข้าอยู่เลยทีเดียว
แบบแปลนบ้าน
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/plan.jpg
เริ่มขุด
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hole1.jpg
วางโครงเสาหลัก
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/inner%20frame1.jpg
วางโครงหลังคาและพื้น
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/roof.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/frame1.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/frame2.jpg
"บ้านฮอบบิท" ของไซมอน เดล นั้น สร้างขึ้นมาจากวัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติทั้งสิ้น เริ่มแรกตั้งแต่ขุดดินลงไปแล้ววางไม้ซึ่งได้จากการสะสมและหาเพิ่มเอาจากบริเวณป่าแถวนั้นลงไปเพื่อเป็นโครงฐานและเสาหลักของบ้าน ส่วนดินและหินที่ได้จากการขุดหลุมนั้นก็เก็บเอาไว้สำหรับก่อความแข็งแรงให้กับผนังและทำหลังคา ผนังภายในบ้านก่อมาจากมัดฟางแล้วฉาบด้วยปูนขาวโดยไม่ลืมเว้นช่องไว้เพื่อเป็นหน้าต่าง ส่วนพื้นวางมัดฟางเป็นฐานรองก่อนจะปูทับด้วยไม้แผ่น หลังคาตีด้วยโครงไม้มองคล้ายใยแมงมุม ก่อนจะปูด้วยแผ่นไม้และมุงแผ่นพลาสติกทับอีกชั้นเพื่อกันน้ำซึมและกันเศษดินที่จะนำไปฉาบทับหลังคาจะร่วงลงมา
นอกจากจะเว้นหลังคาบางส่วนโปร่งเพื่อให้แสงธรรมชาติลอดผ่านลงมาได้ ยังมีส่วนของแผงโซลาร์เซลเพื่อสร้างพลังงานจากแสงแดด และมีระบบน้ำที่อาศัยหลักแรงดันน้ำจากธารน้ำใกล้เคียงซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงกว่า เรียกได้ว่าสร้างเสร็จก็พร้อมเข้าอยู่มีน้ำมีไฟพร้อมใช้กันเลยทีเดียว
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit2.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit3.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit4.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit5.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit6.jpg
แม้ว่าบ้านหลังนี้ไซมอนจะไม่ได้สร้างขึ้นมาบนพื้นที่ของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักแดง เพราะเจ้าของที่เองก็ต้องการให้ป่าผืนนี้ของเขามีคนดูแล การได้ไซมอนเข้าไปสร้างบ้านที่กลมกลืนกับธรรมชาติก็เท่ากับว่ามีคนคอยดูแลผืนป่าของเขาไปด้วย และแม้นายเขาจะไม่เคยร่ำเรียนวิชาสถาปัตย์หรือการก่อสร้างใด ๆ มา เพียงแค่อาศัยประสบการณ์ที่เคยเห็นบ้านลักษณะนี้มาครั้งหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว บวกกับการค้นคว้าของเขา ก็ทำให้บ้านหลังนี้สร้างสำเร็จลงได้ด้วยดีในระยะเวลาอันสั้น หลังจากลงมือก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552 โดยมีแรงหนุนหลัก ๆ จากคุณพ่อตาและบรรดามิตรสหายของเขา
โดยหนุ่มรักษ์โลกรายนี้ กล่าวว่า บ้านหลังนี้สร้างโดยเสียเงินไปแค่ 3,000 ปอนด์ (141,240 บาท) เท่านั้น เมื่อเทียบกับบ้านจัดสรรที่มีมูลค่าถึง 60 ปอนด์ต่อตารางเมตร (2,825 บาท) ที่หากจะสร้างบ้านสักหลังสำหรับครอบครัวก็คงต้องอาศัยพื้นที่ไม่น้อย ซึ่งนั่นหมายถึงมูลค่าที่ดินที่พุ่งขึ้นสูงตาม แถมนี่ยังไม่ได้รวมค่าแรงในการก่อสร้างอีกต่างหาก การสร้างบ้านหลังนี้จึงถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
"ผมได้ทั้งบ้านที่อบอุ่นสำหรับครอบครัว แถมยังไม่ต้องทำลายธรรมชาติโดยรอบด้วย" นอกจากนี้เขายังเสริมว่า "การได้ทำตัวเป็นสถาปนิกเสียเองมันก็สนุกไม่เบา มันดีที่ได้สนุกกับการออกแบบอะไรที่ออกมาจากตัวเองแล้วมันก็กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ดีกว่าการอยู่ในบ้านจัดสรร ที่ดูเป็นกล่อง ๆ แล้วก็ออกแบบมาให้สร้างแล้วได้กำไรมากที่สุดตั้งเยอะเลย"
และตอนนี้ ไซมอน ภรรยา และลูกชายลูกชายทั้งสองคนก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นนี้แล้วเรียบร้อย แถมนอกจากนี้ ไซมอน ยังมีโครงการทำบ้านลักษณะนี้อีกหลาย ๆ หลังให้กลายเป็นหมู่บ้านฮ็อบบิท หรือ "อีโควิลเลจ" ในโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า "Lammas" ในเขตเพร็มโบกเชียร์ ทางตอนใต้ของเวลส์ด้วย
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit8.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit7.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit9.jpg
http://msn.kapook.com/images/logo-kapook.png
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit1.jpg
บ้านหลังกะทัดรัดที่ฝังตัวอยู่ในเนินดิน โผล่มาให้เห็นเพียงประตูหน้าต่างเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่าบ้านฮอบบิท ซึ่งปรากฎอยู่ในหนังเรื่อง "เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์" บัดนี้มีปรากฏให้เห็นจริง ๆ แล้วที่แคว้นเวลส์ ของสหราชอาณาจักร ซึ่งแม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าเคยเห็นจากที่อื่น ๆ มาบ้างแล้ว แต่บ้านฮอบบิทที่เรานำมาฝากวันนี้..."แตกต่าง" นะจะบอกให้
ทั้งนี้ เจ้าของบ้าน "ไซมอน เดล" ได้สร้างบ้านฮอบบิทของเขาขึ้นมาโดยอาศัยหลักรักษ์ธรรมชาติสุด ๆ แถมลงมือสร้างเองโดยอาศัยอุปกรณ์เพียง ค้อน สิ่ว และเลื่อยไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนเวลาที่ใช้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จก็เร็วราวกับเนรมิตเมื่อเทียบกับการก่อสร้างบ้านสมัยใหม่ทั่วไป เพราะบ้านฮอบบิทหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น .. เอาล่ะ เรามาทัวร์บ้านของเขากันสักหน่อยดีกว่า มีให้ชมตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างฐาน จนพร้อมเข้าอยู่เลยทีเดียว
แบบแปลนบ้าน
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/plan.jpg
เริ่มขุด
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hole1.jpg
วางโครงเสาหลัก
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/inner%20frame1.jpg
วางโครงหลังคาและพื้น
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/roof.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/frame1.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/frame2.jpg
"บ้านฮอบบิท" ของไซมอน เดล นั้น สร้างขึ้นมาจากวัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติทั้งสิ้น เริ่มแรกตั้งแต่ขุดดินลงไปแล้ววางไม้ซึ่งได้จากการสะสมและหาเพิ่มเอาจากบริเวณป่าแถวนั้นลงไปเพื่อเป็นโครงฐานและเสาหลักของบ้าน ส่วนดินและหินที่ได้จากการขุดหลุมนั้นก็เก็บเอาไว้สำหรับก่อความแข็งแรงให้กับผนังและทำหลังคา ผนังภายในบ้านก่อมาจากมัดฟางแล้วฉาบด้วยปูนขาวโดยไม่ลืมเว้นช่องไว้เพื่อเป็นหน้าต่าง ส่วนพื้นวางมัดฟางเป็นฐานรองก่อนจะปูทับด้วยไม้แผ่น หลังคาตีด้วยโครงไม้มองคล้ายใยแมงมุม ก่อนจะปูด้วยแผ่นไม้และมุงแผ่นพลาสติกทับอีกชั้นเพื่อกันน้ำซึมและกันเศษดินที่จะนำไปฉาบทับหลังคาจะร่วงลงมา
นอกจากจะเว้นหลังคาบางส่วนโปร่งเพื่อให้แสงธรรมชาติลอดผ่านลงมาได้ ยังมีส่วนของแผงโซลาร์เซลเพื่อสร้างพลังงานจากแสงแดด และมีระบบน้ำที่อาศัยหลักแรงดันน้ำจากธารน้ำใกล้เคียงซึ่งอยู่ในพื้นที่สูงกว่า เรียกได้ว่าสร้างเสร็จก็พร้อมเข้าอยู่มีน้ำมีไฟพร้อมใช้กันเลยทีเดียว
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit2.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit3.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit4.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit5.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit6.jpg
แม้ว่าบ้านหลังนี้ไซมอนจะไม่ได้สร้างขึ้นมาบนพื้นที่ของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสักแดง เพราะเจ้าของที่เองก็ต้องการให้ป่าผืนนี้ของเขามีคนดูแล การได้ไซมอนเข้าไปสร้างบ้านที่กลมกลืนกับธรรมชาติก็เท่ากับว่ามีคนคอยดูแลผืนป่าของเขาไปด้วย และแม้นายเขาจะไม่เคยร่ำเรียนวิชาสถาปัตย์หรือการก่อสร้างใด ๆ มา เพียงแค่อาศัยประสบการณ์ที่เคยเห็นบ้านลักษณะนี้มาครั้งหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว บวกกับการค้นคว้าของเขา ก็ทำให้บ้านหลังนี้สร้างสำเร็จลงได้ด้วยดีในระยะเวลาอันสั้น หลังจากลงมือก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552 โดยมีแรงหนุนหลัก ๆ จากคุณพ่อตาและบรรดามิตรสหายของเขา
โดยหนุ่มรักษ์โลกรายนี้ กล่าวว่า บ้านหลังนี้สร้างโดยเสียเงินไปแค่ 3,000 ปอนด์ (141,240 บาท) เท่านั้น เมื่อเทียบกับบ้านจัดสรรที่มีมูลค่าถึง 60 ปอนด์ต่อตารางเมตร (2,825 บาท) ที่หากจะสร้างบ้านสักหลังสำหรับครอบครัวก็คงต้องอาศัยพื้นที่ไม่น้อย ซึ่งนั่นหมายถึงมูลค่าที่ดินที่พุ่งขึ้นสูงตาม แถมนี่ยังไม่ได้รวมค่าแรงในการก่อสร้างอีกต่างหาก การสร้างบ้านหลังนี้จึงถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
"ผมได้ทั้งบ้านที่อบอุ่นสำหรับครอบครัว แถมยังไม่ต้องทำลายธรรมชาติโดยรอบด้วย" นอกจากนี้เขายังเสริมว่า "การได้ทำตัวเป็นสถาปนิกเสียเองมันก็สนุกไม่เบา มันดีที่ได้สนุกกับการออกแบบอะไรที่ออกมาจากตัวเองแล้วมันก็กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ดีกว่าการอยู่ในบ้านจัดสรร ที่ดูเป็นกล่อง ๆ แล้วก็ออกแบบมาให้สร้างแล้วได้กำไรมากที่สุดตั้งเยอะเลย"
และตอนนี้ ไซมอน ภรรยา และลูกชายลูกชายทั้งสองคนก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นนี้แล้วเรียบร้อย แถมนอกจากนี้ ไซมอน ยังมีโครงการทำบ้านลักษณะนี้อีกหลาย ๆ หลังให้กลายเป็นหมู่บ้านฮ็อบบิท หรือ "อีโควิลเลจ" ในโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า "Lammas" ในเขตเพร็มโบกเชียร์ ทางตอนใต้ของเวลส์ด้วย
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit8.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit7.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/varity_2/hobbit9.jpg
http://msn.kapook.com/images/logo-kapook.png