wataruzz
7th April 2014, 17:34
5 อันดับหนังโปรดของ โคจิม่า กับอิทธิพลต่อการสร้างเกม
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/12/Kojima-700x357.jpg (http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/12/Kojima.jpg)
Hideo Kojima นักสร้างเกมจากแดนอาทิตย์อุทัยชื่อดังที่เรารู้จักกันดีในนามผู้สร้างเกม Metal Gear ซึ่งทาง IGN ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักสร้างเกมคนนี้และได้ถามถึง 5 อันดับภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขาที่มีผลต่อการสร้างเกม จะมีเรื่องไหนบ้างลองดูกัน
อันดับ 5: Blade Runner
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/blade-runner-2-movie.jpeg
Blade Runner ภาพยนตร์ในปี 1982 ของ Ridley Scott ที่นำเสนอโลกในรูปแบบ Cyberpunk ,โดยเรื่องนี้เหตุที่โคจิม่าชอบนั้นก็เพราะว่าตัวภาพยนตร์นำเสนอสภาพแวดล้อมที่ดูมีชีวิตชีวา มีการหลอมรวมกันของอารยธรรมในโลกที่แตกต่างออกไปจากภาพยนตร์แนวโลกล่มสลาย อีกทั้งตัวภาพยนตร์นั้นจะไม่ได้เป็นแอ็คชั่น แต่กลับนำเสนอการพูดถึงเรื่องปรัชญาเสียส่วนใหญ่จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอะไรที่ดูเหมือนงานศิลป์เอามากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้โคจิม่าได้รับอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างเกมของเขาด้วยครับ
อันดับ 4: Mad Max 2
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/tumblr_mw4zc4U9wR1qjotcro2_500.jpg
Mad Max 2 ภาพยนตร์ปี 1982 ของ George Miller ที่ถือว่าต่างไปจากอันดับก่อนหน้านี้คนละเรื่องไปเลยที่ตัวภาพยนตร์นำเสนอโลกที่ล่มสลายรวมถึงจิตใจของคน โดย Mad Max 2 นี้โคจิม่าได้บอกว่ามันไม่ใช่แค่มีอิทธิพลต่อตัวเขา แต่นักสร้างเกม ,หนังสือการ์ตูน ,การ์ตูน ทั่วโลกล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าทำเอาช็อคกันไปเลยเพราะเป็นต้นตำรับโลกแบบ Apocalypse ครับ
ส่วนสิ่งที่โคจิม่าชื่นชอบใน Mad Max 2 ก็เป็นเรื่องของคาแรคเตอร์หรือเหล่าตัวละครภายในภาพยนตร์ที่นำเสนอนิสัยและภาพลักษณ์ของตัวละครออกมาได้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในภาพยนตร์ภาคสองนี้จะแตกต่างจากภาคแรกก็ตรงที่ภาคใหม่จะไม่มีการมานั่งเล่าเสียเวลากับภูมิหลังของตัวละคร แต่จะเป็นการนำเสนอสิ่งที่ตัวละครมีหรือเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นได้อย่างไม่ติดขัดและคนดูอินไปกับมันได้ หากเป็นเกมก็คงต้องตัดไปฉากคัตซีนเล่าความหลังแทน ซึ่งตรงนี้โคจิม่าได้กล่าวชื่นชมความเป็นอัจฉริยะของ George Miller ที่นำเสนอตรงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและแนวคิดนี้จึงมีอิทธิพลต่อนักสร้างเกมหลายคนเลยล่ะ
อันดับ 3: High and Low
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/high-and-low.jpg
High and Low ภาพยนตร์ปี 1963 จากแดนญี่ปุ่นซึ่งเป็นผลงานกำกับของ Akira Kurosawa โดยตัวโคจิม่าชอบผลงานของผู้กำกับคนนี้และติดตามมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วเขาจึงหยิบเรื่องนี้มาบอกเรา ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องราวการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ครับ
สิ่งที่โคจิม่าประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็คือเรื่องมุมกล้องที่ทำออกมาได้ดีทั้งเรื่อง แต่สิ่งที่เขาอยากนำเสนอและบอกเล่าคือการที่สมัยก่อนนั้นการลักพาตัวหรือจับเรียกค่าไถ่นั้นเป็นอะไรที่มีการลงโทษเบาเอามากๆ แต่ด้วยภาพยนตร์ของ Kurosawa เรื่องนี้จึงทำให้สังคมญี่ปุ่นตระหนักถึงปัญหานี้ ภายหลังจึงมีการแก้กฏหมายให้มีการลงโทษที่หนักขึ้น ตรงนี้เองโคจิม่าเลยยกย่องว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ของ Kurosawa ได้เปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่ ในขณะที่เขาเองก็อยากให้เกมของเขานั้นออกมาแตกต่างและพลิกโฉมวงการเกมเช่นกัน
อันดับ 2: Taxi Driver
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/Taxi_Driver_DVD_cover_by_helbo.jpg
Taxi Driver ภาพยนตร์ปี 1976 ที่กำกับโดยผู้กำกับเลื่องชื่ออย่าง Martin Scorsese กับการนำเสนอเรื่องราวของชายที่อารมณ์ไม่ค่อยมั่นคงหลังจากผ่านการรบในสงครามเวียดนามมาที่นำแสดงโดย Robert De Niro
ในภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้มีอิทธิพลต่อการสร้างเกมของตัวโคจิม่า แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อออกมาคือความโดดเดี่ยวอ้างว้างของตัวเอกในขณะที่ผู้คนรอบข้างนั้นกลับยิ้มแย้มร่าเริงแจ่มใส ตรงนี้เองตัวโคจิม่ารู้สึกว่ามันเหมือนกับตัวของเขาจริงๆ หากใครเคยอ่านประวัติมาบ้างคงจะทราบดีว่าตั้งแต่สมัยเด็กโคจิม่ามักจะได้อยู่คนเดียวเสมอเหตุเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องต่างต้องออกไปทำงาน ด้วยเหตุนี้ Taxi Driver จึงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขาครับ
อันดับ 1: 2001: A Space Odyssey
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/1349282020_2001_7.jpg
2001: A Space Odyssey ภาพยนตร์ sci-fi ระดับตำนานปี 1968 ของ Stanley Kubrick กับการท่องอวกาศทำภารกิจตามหาวัตถุประหลาดบนดวงจันทร์ที่ทำให้ตัวโคจิม่ารู้สึกว่าได้ท่องไปในอวกาศจริงๆเพราะในช่วงหนึ่งของชีวิตเขาก็อยากเป็นมนุษย์อวกาศอยู่แล้ว ยิ่งการนำเสนอการไปสถานที่ที่เราไม่สามารถเข้าไปได้แต่ในภาพยนตร์กลับทำได้นั่นจึงเป็นอะไรที่พิเศษต่อโคจิม่าพอสมควร อย่างฉากที่มีแท่งหินประหลาดและมีฝูงลิงรายล้อมราวกับว่าได้เจอพระเจ้าของพวกมันทำให้เริ่มเกิดการวิวัฒนาการณ์ ตรงนี้โคจิม่ารู้สึกว่า Kubrick ได้สร้างอะไรที่สมบูรณ์แบบเอามากๆออกมาและภาพยนตร์ 2001: A Space Odyssey ก็เปรียบเสมือนแท่งหินของเขาและทำให้ตัวเขาพัฒนามาเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม 2001: A Space Odyssey จึงเป็นเรื่องที่เขาโปรดปรานที่สุดครับ
ก็จบกันไปแล้วกับ 5 อันดับภาพยนตร์ที่ ฮิเดโอะ โคจิม่า ชื่นชอบ ซึ่งหลายเรื่องในนี้ผมเองก็ต้องยกนิ้วให้เลยเพราะยอดเยี่ยมเอามากๆบวกกับหนังพวกนี้มีอิทธิพลต่อวงการเกมในปัจจุบันทั้งนั้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ Blade Runner และ Mad Max 2 ครับ ผู้อ่านคนไหนชื่นชอบเรื่องไหนที่สุดจาก 5 อันดับนี้หรือมีเรื่องอื่นที่อยากนำเสนอก็แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยครับ สวัสดี
Credit
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/09/juropy-logo-low-hd.png
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/12/Kojima-700x357.jpg (http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/12/Kojima.jpg)
Hideo Kojima นักสร้างเกมจากแดนอาทิตย์อุทัยชื่อดังที่เรารู้จักกันดีในนามผู้สร้างเกม Metal Gear ซึ่งทาง IGN ได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักสร้างเกมคนนี้และได้ถามถึง 5 อันดับภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขาที่มีผลต่อการสร้างเกม จะมีเรื่องไหนบ้างลองดูกัน
อันดับ 5: Blade Runner
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/blade-runner-2-movie.jpeg
Blade Runner ภาพยนตร์ในปี 1982 ของ Ridley Scott ที่นำเสนอโลกในรูปแบบ Cyberpunk ,โดยเรื่องนี้เหตุที่โคจิม่าชอบนั้นก็เพราะว่าตัวภาพยนตร์นำเสนอสภาพแวดล้อมที่ดูมีชีวิตชีวา มีการหลอมรวมกันของอารยธรรมในโลกที่แตกต่างออกไปจากภาพยนตร์แนวโลกล่มสลาย อีกทั้งตัวภาพยนตร์นั้นจะไม่ได้เป็นแอ็คชั่น แต่กลับนำเสนอการพูดถึงเรื่องปรัชญาเสียส่วนใหญ่จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอะไรที่ดูเหมือนงานศิลป์เอามากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้โคจิม่าได้รับอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างเกมของเขาด้วยครับ
อันดับ 4: Mad Max 2
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/tumblr_mw4zc4U9wR1qjotcro2_500.jpg
Mad Max 2 ภาพยนตร์ปี 1982 ของ George Miller ที่ถือว่าต่างไปจากอันดับก่อนหน้านี้คนละเรื่องไปเลยที่ตัวภาพยนตร์นำเสนอโลกที่ล่มสลายรวมถึงจิตใจของคน โดย Mad Max 2 นี้โคจิม่าได้บอกว่ามันไม่ใช่แค่มีอิทธิพลต่อตัวเขา แต่นักสร้างเกม ,หนังสือการ์ตูน ,การ์ตูน ทั่วโลกล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าทำเอาช็อคกันไปเลยเพราะเป็นต้นตำรับโลกแบบ Apocalypse ครับ
ส่วนสิ่งที่โคจิม่าชื่นชอบใน Mad Max 2 ก็เป็นเรื่องของคาแรคเตอร์หรือเหล่าตัวละครภายในภาพยนตร์ที่นำเสนอนิสัยและภาพลักษณ์ของตัวละครออกมาได้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในภาพยนตร์ภาคสองนี้จะแตกต่างจากภาคแรกก็ตรงที่ภาคใหม่จะไม่มีการมานั่งเล่าเสียเวลากับภูมิหลังของตัวละคร แต่จะเป็นการนำเสนอสิ่งที่ตัวละครมีหรือเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นได้อย่างไม่ติดขัดและคนดูอินไปกับมันได้ หากเป็นเกมก็คงต้องตัดไปฉากคัตซีนเล่าความหลังแทน ซึ่งตรงนี้โคจิม่าได้กล่าวชื่นชมความเป็นอัจฉริยะของ George Miller ที่นำเสนอตรงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและแนวคิดนี้จึงมีอิทธิพลต่อนักสร้างเกมหลายคนเลยล่ะ
อันดับ 3: High and Low
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/high-and-low.jpg
High and Low ภาพยนตร์ปี 1963 จากแดนญี่ปุ่นซึ่งเป็นผลงานกำกับของ Akira Kurosawa โดยตัวโคจิม่าชอบผลงานของผู้กำกับคนนี้และติดตามมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วเขาจึงหยิบเรื่องนี้มาบอกเรา ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องราวการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ครับ
สิ่งที่โคจิม่าประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็คือเรื่องมุมกล้องที่ทำออกมาได้ดีทั้งเรื่อง แต่สิ่งที่เขาอยากนำเสนอและบอกเล่าคือการที่สมัยก่อนนั้นการลักพาตัวหรือจับเรียกค่าไถ่นั้นเป็นอะไรที่มีการลงโทษเบาเอามากๆ แต่ด้วยภาพยนตร์ของ Kurosawa เรื่องนี้จึงทำให้สังคมญี่ปุ่นตระหนักถึงปัญหานี้ ภายหลังจึงมีการแก้กฏหมายให้มีการลงโทษที่หนักขึ้น ตรงนี้เองโคจิม่าเลยยกย่องว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ของ Kurosawa ได้เปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่ ในขณะที่เขาเองก็อยากให้เกมของเขานั้นออกมาแตกต่างและพลิกโฉมวงการเกมเช่นกัน
อันดับ 2: Taxi Driver
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/Taxi_Driver_DVD_cover_by_helbo.jpg
Taxi Driver ภาพยนตร์ปี 1976 ที่กำกับโดยผู้กำกับเลื่องชื่ออย่าง Martin Scorsese กับการนำเสนอเรื่องราวของชายที่อารมณ์ไม่ค่อยมั่นคงหลังจากผ่านการรบในสงครามเวียดนามมาที่นำแสดงโดย Robert De Niro
ในภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้มีอิทธิพลต่อการสร้างเกมของตัวโคจิม่า แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อออกมาคือความโดดเดี่ยวอ้างว้างของตัวเอกในขณะที่ผู้คนรอบข้างนั้นกลับยิ้มแย้มร่าเริงแจ่มใส ตรงนี้เองตัวโคจิม่ารู้สึกว่ามันเหมือนกับตัวของเขาจริงๆ หากใครเคยอ่านประวัติมาบ้างคงจะทราบดีว่าตั้งแต่สมัยเด็กโคจิม่ามักจะได้อยู่คนเดียวเสมอเหตุเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องต่างต้องออกไปทำงาน ด้วยเหตุนี้ Taxi Driver จึงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องโปรดของเขาครับ
อันดับ 1: 2001: A Space Odyssey
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2014/04/1349282020_2001_7.jpg
2001: A Space Odyssey ภาพยนตร์ sci-fi ระดับตำนานปี 1968 ของ Stanley Kubrick กับการท่องอวกาศทำภารกิจตามหาวัตถุประหลาดบนดวงจันทร์ที่ทำให้ตัวโคจิม่ารู้สึกว่าได้ท่องไปในอวกาศจริงๆเพราะในช่วงหนึ่งของชีวิตเขาก็อยากเป็นมนุษย์อวกาศอยู่แล้ว ยิ่งการนำเสนอการไปสถานที่ที่เราไม่สามารถเข้าไปได้แต่ในภาพยนตร์กลับทำได้นั่นจึงเป็นอะไรที่พิเศษต่อโคจิม่าพอสมควร อย่างฉากที่มีแท่งหินประหลาดและมีฝูงลิงรายล้อมราวกับว่าได้เจอพระเจ้าของพวกมันทำให้เริ่มเกิดการวิวัฒนาการณ์ ตรงนี้โคจิม่ารู้สึกว่า Kubrick ได้สร้างอะไรที่สมบูรณ์แบบเอามากๆออกมาและภาพยนตร์ 2001: A Space Odyssey ก็เปรียบเสมือนแท่งหินของเขาและทำให้ตัวเขาพัฒนามาเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม 2001: A Space Odyssey จึงเป็นเรื่องที่เขาโปรดปรานที่สุดครับ
ก็จบกันไปแล้วกับ 5 อันดับภาพยนตร์ที่ ฮิเดโอะ โคจิม่า ชื่นชอบ ซึ่งหลายเรื่องในนี้ผมเองก็ต้องยกนิ้วให้เลยเพราะยอดเยี่ยมเอามากๆบวกกับหนังพวกนี้มีอิทธิพลต่อวงการเกมในปัจจุบันทั้งนั้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ Blade Runner และ Mad Max 2 ครับ ผู้อ่านคนไหนชื่นชอบเรื่องไหนที่สุดจาก 5 อันดับนี้หรือมีเรื่องอื่นที่อยากนำเสนอก็แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยครับ สวัสดี
Credit
http://www.juropy.com/wp-content/uploads/2013/09/juropy-logo-low-hd.png