หากคุณเป็นหัวหน้าบริษัท คุณไม่อยากให้บุคคลกลุ่มไหนทำงานด้วยที่สุด

[macnum10]

หากคุณเป็นหัวหน้าบริษัท คุณไม่อยากให้บุคคลกลุ่มไหนทำงานด้วยที่สุด


ฉลาดแต่ขยัน


บุคคลกลุ่มนี้อันตราย พวกเขาจะมีความสามารถในการโกงและทำเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด พวกเขาฉลาดมากและโดยที่คุณไม่ทันคิด เขาอาจจะมาแทนที่คุณในอนาคต


ฉลาดแต่ขี้เกียจ


บุคคลกลุ่มนี้ หากคุณมอบหมายงานให้แก่เขา เขาก็จะหาวิธีต่างๆนาๆที่จะทำให้งานนั้นเสร็จโดยไวเพราะเขาไม่ต้องการทำงานเยอะ หรือพูดอีกอย่างนึงคือ พวกเขาอาจจะไม่ทำตามจุดประสงค์ของคุณ


โง่แต่ขยัน


บุคคลกลุ่มนี้จะขยันทำแต่ในสิ่งที่โง่ๆ พวกเขาไม่รู้ผิดรู้ถูก หรือพูดอีกอย่างนึงคือ พวกเขาอาจจะนำความล่มสลายมาให้กับบริษัทคุณ


โง่แต่ขี้เกียจ


บุคคลกลุ่มนี้จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากคุณจะสั่งเขาให้ทำ พวกเขาจะไม่เป็นพิษภัยต่อสังคม เพียงแต่คุณอย่าหวังว่าเขาจะทำงานนอกเหนือจากที่เขาต้องการ

[Duckboy]

โง่แต่ขยันต้องเอาออกไปก่อนเลยครับ

[CanDiiZ]

ตัดโง่ แต่ขยันออกก่อน

เพราะอย่างน้อยพวกโง่แต่ขี้เกียจ มันก็ยังขี้เกียจ ไม่ทำ xx อะไรเลย

แต่พวกโง่แต่ขยัน พวกนี้มักจะทำให้งานพัง ไม่รู้แล้วยังจะทำ

-*-

[นรกตัวสุดท้าย]

ผมปิดบริษัทตั้งแต่อ่านคุณสมบัติสี่ข้อแล้วครับ:p

[tonkaw456]

ถ้ามีลูกน้องแบบนี้ก็ไม่ไหวนะคับแนะนำให้ปิดบริษัท :o

[nunt77]

มีตัวเลือกแค่นี้หรอครับ แหมไม่มีข้อดีเลยหรอ
เสียวๆ ทั้งนั้นเลย ผมสนใจข้อ 1 ผมแนะนำวิธีจัดการให้
จับแต่งงาน มีลูกสัก 2 คน ดูซิยังกล้าแทนที่เราป่าว ถ้าไล่เราออก
เราก็เกาะมันกินสิ

[Mercury]

ฉลาดแต่ขี้เกียจครับ เพราะคนพวกนี้ฉลาดที่จะทำวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดให้งานเสร็จ ซึ่งบางวิธีเราอาจจะไม่ทันคิดด้วยซ้ำ ถ้าเป็นผมจะไม่ฟิคจุดประสงค์ เพราะดูจะเป็นกลุ่มที่พัฒนาบริษัทได้มากที่สุด

[AUTcher]

ไล่ออก llมร่งให้หมด - ___________-

แล้วออกไปเปิดร้านข้าวผัด

[chanwitpop]

โง่แต่ขยันผมชอบนะ เพราะงานทุกชนิดทุกอย่างมันต้องใช้เวลากว่าจะเก่ง
คนพวกนี้แค่เอาใจใส่มากหน่อยก็อาจกลายเป็นคนเก่งได้


ที่ผมเกลียดสุดๆและเจอในชีวิตจริงบ่อยๆคือ "โง่แต่ชอบเถียง" (คิดว่าตัวเองฉลาดแต่ที่จริงโง่)
ล่าสุดก็เด็กจบ ม.3พึ่งเคยทำงานมาเถียงเพื่อนผมที่เป็นวิศวะทำงานมากว่าสิบปี
มันบอกว่าเพื่อนผมอ่านแบบ(พิมพ์เขียว)ผิด แต่มันอ่านได้นะถูกด้วย

ผมเลยบอกให้มันลองทำตามแบบที่มันว่าดูสุดท้ายทำผิด แต่มันก็ยังเอาสีข้างถูจนเหวอะอยู่ดี

[taiptai]

ครอบครัวผมเป็นเจ้าของกิจการ เจอมาหมดละ

ฉลาดแต่ขยัน

รับได้ถ้าคุณฉลาดกว่า

ฉลาดแต่ขี้เกียจ

ให้ทำเกินร้อย งานจะออกมา ร้อย พอดี

โง่แต่ขยัน

สั่งงานง่ายๆ ใช้ระเบียบบังคับ แก้ได้ อยากทำเกิน เกินงั้นโดน จบ

โง่แต่ขี้เกียจ

สุดจะบรรยาย ประเภทนี้อยู่ได้ไม่นานหรอก เขาจะไม่ต้องให้เราไล่เขาออกหรอก สังคมจะบีบให้เขาออกเองถ้าเขาไม่ปรับตัว

สรุปจะเจอประเภทไหนก็ไม่มีปัญหาหรอก เเต่วิธีที่คุณใช้เเก้ปัญหาของพวกเขานี่สิคือปัญหาของคุณว่าจะทำยังไง

[jeditrainer]

ดูส่วนใหญ่เลือกตอบโง่และขี้เกียจมากที่สุด แต่สำหรับผมว่านี่คือตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งเลยครับ
เพราะพวกเขาจะทำตามคำสั่งของเราเท่านั้นและจะไม่ทำอะไรเกินขอบเขตคำสั่งด้วยเพราะความขี้เกียจ
และที่ผมจะไม่เลือกที่สุดก็คือ โง่แต่ขยัน เพราะใครได้อ่านสามก๊กจะรู้ว่าคนจำพวกนี้มักนำพาหายนะ
มาให้มากที่สุด ตามตำราพิชัยยุทธของสามก๊กนั้นสั่งให้ฆ่าทิ้งเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าคนจำพวกนี้ได้ขึ้น
มามีอำนาจเมื่อใด ไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็จะพาล่มจมสิ้น เพราะมักจะขยันทำในสิ่งที่โง่เขลาเสมอ ส่วนคนฉลาด
ถึงบางครั้งจะดูร้ายกาจเหมือนเลี้ยงงูพิษไว้ก็ตามแต่ก็ยังมีประโยชน์กว่ามาก
ปล.อยากให้หลายคนเข้าใจนะว่าคนโง่ที่ขยันหมั่นเพียรในการหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอนั้นไม่ใช่คนโง่นะครับ

[liger0000]

แล้วแต่ตัวเราคับ ว่าเราอยู่ตำแหน่งอะไร
หัวหน้างาน/เพื่อนร่วมงาน
-ฉลาดแต่ขยัน พวกนี้อันตรายสำหรับการโดนเลื่อยขาเก้าอี้ ถ้าดีอย่าไปยุ่ง บางคนก็ไม่ชอบเพราะบางทีพวกนี้ชอบทำให้คนอื่นหมั่นไส้ พวกนี้จะลำบากมากในองกรณ์ใหญ่ๆ
-ฉลาดแต่ขี้เกียจพวกนี้ ทำงานด้วยมีโอกาศโดนเอาเปรียบเยอะ
-โง่แต่ขยัน พวกนี้หละคับทำงานด้วยดีสั่งอะไรก็ทำตามหมด ไม่เรื่องมากด้วย พนักงานที่ดีที่สุดไม่ว่ารัฐหรือเอกชนในประเทศไทย โง่แต่ขยันดีที่สุดคับ แถมเอาไว้เป็นแพะดีที่เดียว
-โง่และขี้เกียจ ไร้ประโยชย์ เอาไว้ก็ตัวถ่วงแข๊งถ่วงขา แต่พวกนี้ส่วนใหญ่ประจบสอพรอเก่ง ส่วนใหญ่ไม่ไต่ด้วยเต้าก็ นักเลียตัวพ่อ จะเจริญได้ดีในงานข้าราชการ ถ้าเป็นเพื่อร่วมงานก็เอื่อมแน่ๆแต่ถ้าเป็นหัวหน้าพวกนี้ก็สบายหน่อยคับในงานราชการนะ
เจ้าของธุรกิจ
-ฉลาดแต่ขยัน เจ้านายชอบคับ จากข้อแรกถ้าเป็นบริษัทเล็กๆคนไม่กี่คน ได้พวกนี้มานี้ยิ่งกว่าขุมทรัพท์
-ฉลาดแต่ขี้เกียจ พวกนี้เจ้าของธุรกิจไม่เอามากที่สุดพวกนี้จริงๆหยิ่งด้วยนะ กุเมพกุไม่ทำ ใช้ยาก
-โง่แต่ขยัน เหมาะกับงานunskill workerมากที่สุด รวมถึงงานอะไรที่ไม่ต้องใช้การตัดสินใจ พวกนี้ใช้ได้อย่างวัว ควายเลย
-โง่แต่ขี้เกียจ แย่พอๆกับฉลาดแต่ขี้เกียจแหละ

[poys]

เหมือนเคยเจอคำถามนี้นะ ที่ผมเจอถามว่า ถ้าต้องการจะปกครองคนคนประเภทใดดีที่สุด คำตอบคือ โง่และขี้เกียจ เพราะปกครองง่ายสั่งให้ทำอะไรก็ได้ไม่มีข้อสงสัยหรือคัดค้านทำแต่ที่สั่งไม่ทำเกินที่สั่ง เช่น บางประเทศ(แถวๆนี้ละคาบสมุทรอินโดจีน)ที่ถูกตะวันตกปกครองแล้วปลูกฝังให้มีการนอนตอนกลางวัน อิอิ แต่กับบริษัทนี้ไม่รู้ครับ5555:o

[rockohhh]

โง่เเต่ ขี้เกียด กำ
ไล่ออก เลย อย่างนี้
โง่ ขยัน อะดีสุด

[death9]

ผมว่าท่านให้คำจำกัดความผิดนะ
โดยเฉพาะโง่แต่ขยัน เนี่ย

[macnum10]

หลายคนก็หลายความคิดนะครับ ส่วนตัวผมไม่อยากให้คน โง่แต่ขยัน ทำงานด้วยเพราะพวกนี้จะไม่มีประโยชน์กับสังคมแถมยังให้โทษอีกด้วย ถ้าสมมุติว่าเราโง่แล้วเราไปยิ่งไปประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าเราโง่ (ดูจากผลงานความขยัน) สังคมก็จะยิ่งต่อต้าน แต่ถ้าเราโง่แล้วเราอยู่เฉยๆ เราก็จะปลอดภัยกว่า

[bostion]

โง่ แต่ ขยัน นี้ล่ะ ครับตัวล่มจมเลย

[Final-Fantasy]

ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมองว่าโง่แต่ขยันไม่ดีหรอครับ ผมว่าบางทีไม่มีใครเป็นอะไรแต่เกิดหรอก ผมว่าความขยันนี้แหละจะทำให้เค้าเก่งได้ ทำไมผมมองแบบนั้น เหมือนนักฟุตบอลที่ขยันซ้อมกับไม่ขยันซ้อม พรสวรรค์ยังไงก็สู้พรแสวงไม่ได้หรอกครับ สำหรับผมนะ

[thekrof]

บุคคลที่ไม่น่าทำงานหรือให้อยู่ด้วยคือบุคคลที่ขาดคุณธรรมครับ อาจจะไม่มีคำตอบ ณ ที่นี้แต่ผมคิดว่านี่คือคำตอบครับ

[pamzar5546]

ตรรกะอะไรของ จขกท โลกแคบจัง
ไม่อยากด่าเน้อ บาย -*-

[deathwhisper123]

แล้วแต่ครับ แต่ในที่นี้ผมจะพูดถึงกรณีเราเป็น เจ้าของบริษัท ตามที่หัวข้อกล่าวไว้

บุคคลกลุ่มที่ผมจะเอาออกมีแค่สองกลุ่มครับ บุคคลที่วุฒิภาวะในการเป็นผู้ตามไม่พอ กับบุคคลที่ไร้ศีลธรรมจรรยาบรร และความรับผิดชอบออก

ถ้ามองในแง่มุมของเจ้าของบริษัทก็ต้องมาในแง่มุมนักพัฒนาบุคคลด้วยครับ เปรียบเสมอเราเป็นคุณครูในห้องเรียนนึง ซึ่งคัดเลือกเด็กมา 4 กลุ่ม ฉลาดและขยัน/ฉลาดและขี้เกียจ/โง่แต่ขยัน/โง่แถมขี้เกียจ เราต้องสอนพวกเขาครับโดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบ

ฉลาดแต่ขยัน อันนี้ผมมีความภูมิใจในตัวพวกเขาครับ สามารถเรียนรู้ได้ไว และมีโอกาศมีอนาคตมากกว่าบุคคลกลุ่มอื่น ที่เราต้องสอนมีแค่อย่างเดียว คือความรับผิดชอบที่ถูกต้องและพึงกระทำ
ฉลาดแต่ขี้เกียจ อันนี้จะสอนยากลงมาหน่อย บุคคลกลุ่มนี้ผมไม่วอร์รี่มากครับ สอนได้ก็สอน สอนไม่ได้ก็ไล่ออก สอนแค่สองเรื่องครับ คือเรื่องความรับผิดชอบกับการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพียงแต่จะเน้นหนัก
โง่แต่ขยัน บุคคลกลุ่มนี้ถือเป็นตัวปัญหาในหลาย ๆ แง่มุมครับ แต่สามารถควบคุมในหลาย ๆ ความหมาย สิ่งเดียวที่ต้องทำคือการสอนพวกเขาอย่างใกล้ชิด ให้เขาใจว่างานที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้เป็นการบ้านคืออะไร และควรทำอย่างไรให้ถูกต้อง
โง่แต่ขี้เกียจ อันนี้ผมว่าก็ยังไม่ยากครับ สอนเหมือนพวก โง่แต่ขยัน กับ ฉลาดแต่ขี้เกียจแหละครับ

จริง ๆ แล้ว ตรรกะของผมมีช่องโหว่อยู่มากแต่ผมจะพูกถึงแค่ว่า การที่เราจะพัฒนาบริษัทให้ประสบความสำเร็จ เราเองก็ต้องเอาใจใส่ด้วยครับ ถ้าคุณคิดว่าทุกคนที่การศึกษาสูงจบออกมาเกรดดีดี มาอยู่บริษัทคุณแล้วจะรุ่ง คุณคิดผิดครับ คุณต้องเข้าใจพวกเขาด้วยว่า นิสัยของพวกเขาเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ควรมอบหมายสิ่งใดให้ และรู้จักการใช้คนให้ถูกต้อง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรับผิดชอบกับ จรรยาบรรครับ ขาดไม่ได้ (อันนี้คงรู้นะครับว่าทำไมขาดไม่ได้) แล้วอีกอย่าง การมองคนในฐานะผู้บริหาร การให้โอกาศแก้ไขหนึ่งครั้งเป็นเรื่องที่จำเป็นครับ อย่าดีด่วนในแง่ลบไว้ก่อน ไม่งั้นบางทีอาจจะเสียบุคลากรที่ดีไปคนนึง เพียงแค่การผิดพลาดครั้งเดียว จริงไหมครับ ?

[bestzer1234]

แล้วแต่ครับ แต่ในที่นี้ผมจะพูดถึงกรณีเราเป็น เจ้าของบริษัท ตามที่หัวข้อกล่าวไว้

บุคคลกลุ่มที่ผมจะเอาออกมีแค่สองกลุ่มครับ บุคคลที่วุฒิภาวะในการเป็นผู้ตามไม่พอ กับบุคคลที่ไร้ศีลธรรมจรรยาบรร และความรับผิดชอบออก

ถ้ามองในแง่มุมของเจ้าของบริษัทก็ต้องมาในแง่มุมนักพัฒนาบุคคลด้วยครับ เปรียบเสมอเราเป็นคุณครูในห้องเรียนนึง ซึ่งคัดเลือกเด็กมา 4 กลุ่ม ฉลาดและขยัน/ฉลาดและขี้เกียจ/โง่แต่ขยัน/โง่แถมขี้เกียจ เราต้องสอนพวกเขาครับโดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบ

ฉลาดแต่ขยัน อันนี้ผมมีความภูมิใจในตัวพวกเขาครับ สามารถเรียนรู้ได้ไว และมีโอกาศมีอนาคตมากกว่าบุคคลกลุ่มอื่น ที่เราต้องสอนมีแค่อย่างเดียว คือความรับผิดชอบที่ถูกต้องและพึงกระทำ
ฉลาดแต่ขี้เกียจ อันนี้จะสอนยากลงมาหน่อย บุคคลกลุ่มนี้ผมไม่วอร์รี่มากครับ สอนได้ก็สอน สอนไม่ได้ก็ไล่ออก สอนแค่สองเรื่องครับ คือเรื่องความรับผิดชอบกับการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพียงแต่จะเน้นหนัก
โง่แต่ขยัน บุคคลกลุ่มนี้ถือเป็นตัวปัญหาในหลาย ๆ แง่มุมครับ แต่สามารถควบคุมในหลาย ๆ ความหมาย สิ่งเดียวที่ต้องทำคือการสอนพวกเขาอย่างใกล้ชิด ให้เขาใจว่างานที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้เป็นการบ้านคืออะไร และควรทำอย่างไรให้ถูกต้อง
โง่แต่ขี้เกียจ อันนี้ผมว่าก็ยังไม่ยากครับ สอนเหมือนพวก โง่แต่ขยัน กับ ฉลาดแต่ขี้เกียจแหละครับ

จริง ๆ แล้ว ตรรกะของผมมีช่องโหว่อยู่มากแต่ผมจะพูกถึงแค่ว่า การที่เราจะพัฒนาบริษัทให้ประสบความสำเร็จ เราเองก็ต้องเอาใจใส่ด้วยครับ ถ้าคุณคิดว่าทุกคนที่การศึกษาสูงจบออกมาเกรดดีดี มาอยู่บริษัทคุณแล้วจะรุ่ง คุณคิดผิดครับ คุณต้องเข้าใจพวกเขาด้วยว่า นิสัยของพวกเขาเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร ควรมอบหมายสิ่งใดให้ และรู้จักการใช้คนให้ถูกต้อง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรับผิดชอบกับ จรรยาบรรครับ ขาดไม่ได้ (อันนี้คงรู้นะครับว่าทำไมขาดไม่ได้) แล้วอีกอย่าง การมองคนในฐานะผู้บริหาร การให้โอกาศแก้ไขหนึ่งครั้งเป็นเรื่องที่จำเป็นครับ อย่าดีด่วนในแง่ลบไว้ก่อน ไม่งั้นบางทีอาจจะเสียบุคลากรที่ดีไปคนนึง เพียงแค่การผิดพลาดครั้งเดียว จริงไหมครับ ?

ถูกกกกกก :pleasantry