HANG-ON
3rd May 2014, 14:21
OH MY GOD
เฮ้ย จริงดิ!!!
หลากหลายเรื่องราวชวน อึ้ง และ ทึง!
ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
***หมายเหตุ*** ข้อมูลทั้งหมด ผมพิมพ์เองล้วนๆ และเอามาจากหนังสือ Oh My God เฮ้ย จริงดิ!!!
ที่ผมใช้เงินส่วนตัวที่เก็บมานานนับปีกว่าๆ :o ซื้อมาจากร้านหนังสือชั้นนำแห่งหนึ่งในราคา 135 บาท
คิดว่าคงไม่ละเมิดกฏ ลิขสิทธิ์ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมแค่อยากแบ่งปันข้อมูล ความรู้ สาระให้กับคนอื่นๆบ้าง
หรือถ้าใครไม่ชอบกระทู้นี้ จะซื้อมาอ่านเอง...เชิญที่ร้านหนังสือครับ...
ส่วนใคร!!! ชอบของฟรี มีสาระ เชิญอ่านบรรทัดต่อจากนี้ได้เลยครับ :yes
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"จงเรียนรู้จากอดีต มีชีวิตเพื่อวันนี้ และมีความหวังเพื่อวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องอย่าหยุดตั้งคำถาม"
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้
"ความจริงเข้าใจง่าย เมื่อมันถูกค้นพบ"
กาลิเลโอเคยกล่าวไว้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าสู่เนื้อหาอย่างจริงจังแล้วครับ ขอให้มีความสุขกับการอ่าน :yes
.
.
.
.
.
ส้วมหกพันล้าน!!
เวลาพูดถึงมนุษย์อวกาศ คนมักจะนึกถึงภาพของอุปกรณ์ไฮเทค ห้วงจักรวาลอันลึกลับดำมืด หรือสถานีที่ลอยอยู่บนอวกาศในสภาพไร้น้ำหนัก
แต่รู้หรือไม่ว่า สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่นานาชาติต้องทุ่มเทคิดค้นไม่แพ้การพัฒนาในด้านอื่นๆเลย ก็คือ "ส้วม"
ซึ่ง ส้วมที่ว่านี้มีมูลค่ากว่า "หก พัน ล้าน บาท"
เพราะชุดอวกาศที่เต็มไปด้วยสายวงจรเชื่อมต่อเซนเซอร์ตรวจวัดสุขภาพอาจจะเสียหายได้ถ้าเปียกขึ้นมา หรือถ้าถุงบรรจุปัสสาวะรั่วซึม
ทำให้มีหยดปัสสาวะเข้าไปในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะทำให้ระบบควบคุมอัตโนมัติของยานไม่ทำงานทันที
แค่การถ่ายเบายังสร้างปัญหาขนาดนี้ แล้วการถ่ายหนักจะสร้างปัญหาขนาดไหน?
นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) ชายในตำนานผู้ที่เหยียบย่ำดวงจันทร์เป็นคนแรก เคยมีถุงเก็บของเสียตัวเองติดอยู่ที่บั้นท้ายที่แปะด้วยแถบกาว
และพอมาถึงยุคของภารกิจยานอพอลโล พวกเขาพบว่าในสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำ ทำให้ของเสียไม่ยอมแยกตัว จนนาซ่าต้องออกแบบ "ถุงยางนิ้ว"
เพื่อให้มนุษย์อวกาศใช้จัดการกับของเสียตัวเอง และต้องคลุกสารกำจัดแบคทีเรียในของเสียตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดการหมักในถุงเก็บของเสียจนระเบิดขึ้นได้...
ทุกวันนี้ การเข้าส้วมของมนุษย์อวกาศน่ากลัวน้อยกว่าเดิมมาก พวกเขาจะเรียนภารกิจถ่ายหนักด้วยโค้ดลับที่รู้กันว่า "No.2" ส่วนภารกิจถ่ายเบาจะเรียกว่า "No.1"
จะใช้วิธีต่อสายยางที่ภายในเป็นสุญญากาศ ซึ่งพวกเขาต้อง "ฝึกจัดตำแหน่ง" ตั้งแต่ตอนอยู่บนโลก เพื่อให้แน่ใจว่า ฉี่ที่พุ่งออกมาจะตรงเป้าไปยังช่องแคบๆ
ของส้วมที่มีมูลค่า "หก พัน ล้าน บาท" ซึ่งมีกล้องอยู่ที่ด้านหลัง เพื่อให้สามารถมองเห็นและตรวจสอบตำแหน่งได้จากจอที่อยู่ตรงหน้า
ว่ากันว่า กรวยที่นาซ่าออกแบบให้นั้น มีอยู่ 3 ขนาด ซึ่งมีรูปร่างต่างกันตามสรีระของผู้ชายและผู้หญิง และพวกมนุษย์อวกาศผู้ชายมักเลือกขนาดใหญ่ที่สุดเสมอ
ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ปัสสาวะของมนุษย์อวกาศจะถูกรีไซเคิลผ่านระบบกรอง เพื่อนำกลับมาเป็นน้ำดื่ม (ห๊ะ!!!) ส่วนของเสียจากร่างกายจะถูกโยนออกจากสถานีอวกาศ
พร้อมกับขยะอื่นๆเพื่อให้เผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ
ล่าสุด นักวิจัยบางส่วนกำลังคิดค้น "การรีไซเคิลอุจจาระ" เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ในยานอีกครั้ง
แต่ "ข่าวดี" สำหรับมนุษย์อวกาศ ก็คือว่า "พวกเขายังคิดค้นไม่สำเร็จ"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แห้งแล้งที่สุดในโลก
ทวีปแอนตาร์กติกา ที่ขั้วโลกใต้ มีพื้นที่บางส่วนที่ไม่มีฝนตกมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ล้านปีแล้ว
พื้นที่บางส่วนของที่นั่นไม่มีหิมะ ปราศจากน้ำแข็งและไม่มีฝนตกเลย เนื่องจากที่นั่นมีความเร็วลมรุนแรงถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ความชื้นทั้งหลายถูกระเหยไปจนหมด
จนมันถูกขนานนามว่า หุบเขาแห้ง (Dry Valley)
ในทางเทคนิคแล้ว คำจำกัดความของคำว่า ทะเลทราย คือสถานที่ๆ ได้รับน้ำฝนไม่ถึง 10 นิ้วต่อปี เช่น ทะเลทรายซาฮาร่า ได้รับน้ำฝนไม่ถึง 1 นิ้วต่อปี
และถ้าวัดจะความแห้งแล้ง ที่นั่นแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่าถึง 250% เลยทีเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
คนทั่วโลกมักเข้าใจกันว่า "ยอดเขาเอเวอร์เรสต์" เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
แต่ความจริงแล้ว "ยอดเขามอ-นา-เคอะ (Mauna Kea)" ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของหมู่เกาะฮาวาย ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เพราะถ้าวัดจากตีนเขา ซึ่งอยู่ที่ระดับใต้พื้นทะเล
มันจะสูงถึง 10,200 เมตร ในขณะที่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์มีความสูงเพียง 8,848 เมตรเท่านั้น...
(เพิ่มเติม) - ในเรื่องของภูเขา ข้อตกลงที่ทั่วโลกยอมรับกันในปัจจุบันคือคำว่า "สูงสุด (highest)" จะหมายถึง การวัดจากระดับน้ำทะเลไปถึงยอดเขา
ส่วนคำว่า "มีความสูงที่สุด (tallest)" จะหมายถึงการวัดจากตีนเขาไปจนถึงยอดเขา
ดังนั้น ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ จึงไม่ใช่ภูเขาที่มีความสูงที่สุดแต่อย่างใด (จขกท. เองก็เพิ่งรู้นะเนี่ย !!)
ปัจจุบัน มีบางคนพยายามแย้งว่า วิธีที่สมเหตุสมผลที่สุดควรจะเป็นการวัดระยะทางจากยอดเขาไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลก
แต่เนื่องจากโลกใบนี้ไม่ได้กลมอย่างสมบูรณ์แบบ บางช่วงเป็นวงรีนิดๆ ดังนั้น ระยะทางจากเปลือกโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลก
จึงมากกว่าระยะทางจากเปลือกโลกบริเวณขั้วโลกไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลกประมาณ 21 กิโลเมตร
ถ้าวิธีนี้ถูกนำมาใช้จริงๆ อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับภูเขาทั้งหลายที่ตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร แต่ถ้านำมาใช้ นั่นหมายถึงเราต้องยอมรับว่า แม้แต่ชายหาด
ในประเทศเอกวาดอร์ ก็ยังสูงกว่าเทือกเขาหิมาลัยเช่นกัน (ชายหาดบ้าอะไรสูงกว่าเทือกเขา :o :o)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ไม่ใช่ "พีระมิด" หรือ "กำแพงเมืองจีน" อย่างที่เราเข้าใจกัน เพราะจริงๆแล้ว สิ่งที่ถูกต้องคือ "เฟรชคิลล์" เกาะสำหรับทิ้งขยะในนิวยอร์ก
"เฟรชคิลล์" เปิดใช้งานในปี 1948 มีพื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร...ในทุกๆวัน เรือ 20 ลำจะบรรทุกขยะลำละ 650 ตัน มาทิ้งที่นั่น
ถ้าเฟรชคิลล์ยังคงเปิดใช้งานตามแผนที่วางไว้ มันจะกลายเป็นจุดสูงสุดของชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของสหรัฐในทันที
แต่ถึงกระนั้น ตอนที่ถูกใช้งานมากที่สุด มันก็มีความสูงมากกว่าเทพีเสรีภาพที่สูงถึง 24 เมตรเข้าไปแล้ว
ภายใต้แรงกดดันของคนในท้องถิ่น ที่ฝังกลบขยะแห่งนั้นจึงปิดทำการลงในเดือนมีนาคม ปี 2001
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องเปิดทำการอีกครั้งเพื่อจัดการกับซากปรักหักพังจำนวนมหาศาลของตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ที่ถล่มเพราะถูกเครื่องบินชน
ล่าสุด...สถานที่ดังกล่าวได้ถูกเกลี่ยให้แบนราบและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นอุทยานและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ...เห็ด!!
เห็ดโคนญี่ปุ่น (Honey mushrooms) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Armillaria Ostoyae มักจะเจริญเติบโตบนซากต้นไม้ที่ตายแล้ว
ครั้งหนึ่งมันเคยถูกพบว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทยานแห่งชาติแมลเฮียร์ ในรัฐโอเรกอน โดยเห็ดที่นั่นได้แผ่ขยายตัวเอง
ปกคลุมพื้นที่ถึง 9 ตารางกิโลเมตร และมีชีวิตอยู่มานาน 2000 - 8000 ปีมาแล้ว
ส่วนใหญ่ของเห็นมันจะอยู่ใต้พื้นดินในรูปของผืนใยสีขาวที่พันกันยุ่งเหยิงเป็นจำนวนมาก แต่โผล่หน้าตาจุ๋มจิ๋มออกมาพ้นผิวดินในรูปของเห็ดโคนญี่ปุ่นเท่านั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
เฉลี่ยแล้วสมองมนุษย์จะหนักประมาณ 1.36 กิโลกรัม (3 ปอนด์)
เฉลี่ยเด็กอายุ 4 ขวบ จะถามคำถามประมาณ 437 คำถามต่อวัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องน่าทึ่งของพระพุทธเจ้า
ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะค้นพบว่า อะตอมเป็นสิ่งที่เล็กที่สุดในโลก เชื่อหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้าทรงเคยอธิบายเรื่องของปรมาณูไว้ โดยกล่าวไว้ว่า
1 ธัญญามาตร (ขนาดเล็กของเมล็ดข้าว) ประกอบด้วย 7 อูกา (ศีรษะของตัวเล็น)
1 อูกา ประกอบด้วย 7 สิกขา (รอยขีดเล็กๆ)
1 สิกขา ประกอบด้วย 37 รถเรณู (ละอองเกษรดอกไม้)
1 รถเรณู ประกอบด้วย 36 ตัชชารี (ละอองรังสีในแสงแดด)
1 ตัชชารี ประกอบด้วย 36 อณู (อนุภาคขนาดเล็ก)
1 อณู ประกอบด้วย 36 ปรมาณู
1 ปรมาณู แบ่งแยกไม่ได้อีก เพราะหากแยกต่อไปจะหมดสภาพของสารนั้น
นักวิทยาศาสตร์ เพิ่งจะรู้ว่าโลกกลม มีแผ่นดินเพียง 1 ใน 4 นอกนั้นคือผืนน้ำ และลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ก็เมื่อตอนที่ส่งดาวเทียมออกไปนอกโลกได้สำเร็จเพียงเมื่อไม่นานมานี้
แต่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ในพรหมชาลสูตรเมื่อหลายพันปีมาแล้วว่า "โลกนี้กลม เหมือนผลมะขามป้อม" แถมยังอธิบายถึงการมีอยู่ของโลก
ผ่านการสนทนากับพราหมณ์ มีใจความว่า (สีน้ำเงินคือพราหมณ์ / สีแดงคือพระพุทธเจ้า)
"โลกตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนแผ่นน้ำ"
"แผ่นน้ำตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนลม"
"และลมตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนอวกาศ"
"และอวกาศเล่า ตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"มากเกินไปเสียแล้วพราหมณ์เอ๋ย อวกาศมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดค้ำอวกาศไว้เลย"
แต่สิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ และนักวิทยาสาสตร์ทั่วโลกต้องอึ้ง ทึ่ง งง ก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้ากล่าวเอาไว้ว่า "เวลาในโลกมนุษย์ สวรรค์ นรก ไม่เท่ากัน"
ซึ่งทางวิทยาศาสตร์เพิ่งจะพิสูจน์ได้โดย ทฤษฏีสัมพันธภาพ ของไอน์สไตน์ว่า เวลาในแต่ละที่ไม่เท่ากัน แม้กระทั่งในยานอวกาศ และดาวแต่ละดวง
โดนเฉพาะใน blackhole ที่มีแรงดึงดูดมหาศาล แม้แต่แสงก็ยังผ่านไปไม่ได้ จะมีเวลานานมากที่สุด
มีนักวิทยาศาสตร์ชาวพุทธคนหนึ่ง ได้นำแผนที่ของ blackhole ที่เคยค้นพบในทุกๆที่มาทาบกับเรื่องราวของภพทั้ง 3 คือ เขาพระสุเมรุนรก สวรรค์ และโลกมนุษย์
พบว่า ตำแหน่งของ blackhole ตรงกับตำแหน่งของขุมนรกต่างๆพอดี และตรงกับคำที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "เวลาในนรก ยาวนานที่สุด"
ซึ่งทำให้แสงเดินทางได้ช้าที่สุด ตามทฤษฏีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์
นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังรู้ถึงการเกิดและอายุขัยของมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว ก่อนที่กรมอนามัยโลกจะวิเคราะห์ว่า มนุษย์ในปัจจุบัน มีอายุเฉลี่ย 75 ปี
ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องหนึ่ง กล่าวไว้ว่า "ทุกๆ 100 ปี อายุขัยของมนุษย์จะลดลง 1 ปี"
ดังนั้น มนุษย์ที่เคยมีอายุขัยเฉลี่ย 100 ปี เมื่อผ่านมา 2,500 ปี แสดงว่าอายุขัยจะลดลงไป 25 ปี ...100-25 = 75 ปี... เท่ากับอายุขัยของมนุษย์ในปัจจุบัน (เป๊ะเวอร์!!)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแปลกในจีน
...จีนกลายเป็นผู้บริโภคหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ต้องเป็นประเทศที่มีวาระ หมูสำรองแห่งชาติ เพื่อมุ่งผลิตหมูออกมาสู่ตลาดในช่วงที่ราคาหมูแพงขึ้น
...คนรวยในเมืองจีนมีทางเลือกการลงทุนที่จำกัด จึงมักนำเงินไปลงทุนในลูกวอลนัทแกะสลัก หยก และขนมไหว้พระจันทร์สีทอง
ตามรายงานของสำนักข่าว Xinhua ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนใช้เงินหลายพันดอลลาร์ ในการซื้อขนมไหว้พระจันทร์สีทอง
..."สัมภาษณ์ก่อนประหารชีวิต" Henan TV เป็นรายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุด แต่ต่อมาต้องยุติรายการเพราะเจ้าหน้ารัฐของจีนเกรงว่า ภาพลักษณ์ของจีนในสื่อต่างประเทศจะดูไม่ดี
...ในประเทศจีนมีช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงมาก จนคนที่ร่ำรวยสามารถจ้างตัวแทนให้เข้ารับการพิจารณาคดีในศาล และรับโทษในเรือนจำแทนตนเองได้ (เอาเงินฟาดหัวนั่นเอง)
...จีน ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการลอกเลียนแบบสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลกมากที่สุด และมีข่าวฮือฮาล่าสุด คือ มีร้านค้า Apple ปลอมใน Kunming
ซึ่งไม่ใช่แค่การทำสินค้าเลียนแบบ แต่เป็นการปลอมร้าน Apple Store ขึ้นทั้งร้าน ซึ่งการตกแต่งร้านใช้ธีมเดียวกันกับ Apple Store ของจริงจนแทบแยกแยะไม่ออก
และในร้านมีพนักงานใส่เสื้อสีน้ำเงิน มีโลโก้ Apple อยู่กลางหน้าอกและมีป้ายห้อยคอเหมือนพนักงาน Apple ตัวจริง ...แต่ที่หนักกว่านั้นคือ
"ตัวของพนักงานเองก็คิดว่าตนเองทำงานให้กับ Apple inc. จริงๆ" (สรุปคือ ไม่มีอะไรจริงเลยสินะ ขนาดพนักงานยังไม่รู้เลยว่าเป็นร้านปลอม :o )
... บริษัทหลายแห่งในจีน เช่น Foxconn ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับ Apple ต้องติดตั้งตาข่ายรอบนอกอาคารหอพักคนงาน และจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
เพื่อบำบัดและบรรเทาอาการของคนงาน ไม่ให้กระโดดตึกฆ่าตัวตายจากความเครียด (แสดงว่ามาตรฐานของงานกับคนงานต่ำมาก)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแปลกในเกาหลี
...คุณสามารถหาซื้อถุงใส่ผ้า ยาขัดรองเท้า ถุงเท้า ได้ในรถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะจะมีคนเอาของลากใส่รถเข็นขึ้นมาขาย
...วัยรุ่นเกาหลีจะนิยมส่งข้อความหากัน มากกว่าการโทรคุยกัน...และเมื่อไม่นานมานี้ วัยรุ่นเกาหลีใต้ ไปแข่งกดส่งSMSและได้รางวัลอันดับ 1 ของโลก
...ชุดนักเรียนเกาหลีจะมีราคาแพงมาก 1 ชุด ตกประมาณ 7,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท
...นักเรียนเกาหลีทุกคนต้องเรียนพิเศษ การเรียนพิเศษจนถึง 4 ทุ่มนับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ในช่วงใกล้สอบอาจมีคอร์สเปิดสอนไปจนถึงตี 2
...วัยรุ่นเกาหลีชาย สามารถบ้าดาราได้อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าวัยรุ่นหญิง เวลาไปดูคอนเสิร์ตจะมีแฟนคลับกลุ่มผู้ชายตะโกนโหวกเหวกยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก
...บริเวณที่จัดงานคอนเสิร์ตทุกงาน จะมีคนขายแท่งไฟ ป้ายชื่อ กล้องส่องทางไกล และสินค้าอื่นๆของศิลปิน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว คนขายจะขายผ้าห่มแทน
...เวลาวัยรุ่นเกาหลีไปกินเหล้า พวกเขาจะประเดิมด้วยการเปิดขวด และใช้แก้ว 1 ใบรินเหล้าให้ดื่มทีละคน วนกันไปจนครบทุกคนจึงเปลี่ยนมาใช้แก้วใครแก้วมัน
...วันสอบเอนทรานซ์ของวันรุ่นเกาหลี เป็นวันที่มีความสำคัญมาก...อาจารย์ผู้หญิงห้ามใส่รองเท้าส้นสูง เพราะถือว่าทำให้เกิดเสียงดังเวลาเดิน
คนวัยทำงานทั่วไปจะอนุญาตให้เข้างานสายได้กว่าปกติ เพราะต้องอำนวยความสะดวกให้นักเรียนรีบออกไปสอบก่อน
...ในคาบสอบการฟัง สายการบินต่างๆจะต้องงดเที่ยวบินในช่วงเวลานั้น เพราะเกรงว่าเสียงเครื่องบินจะทำให้นักเรียนที่สอบไม่มีสมาธิในการสอบ (ขนาดนี้เลย :clap)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
วัวกระทิง ไม่ได้เกลียดสีแดง
กบ กะพริบตาโดยใช้หนังตาล่าง ไม่ใช่หนังตาบนแบบมนุษย์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รักเธอประเทศไทย
...ประเทศไทยมีสถิติผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก(จริงเหรอ :confused:) แต่ติดอันดับคนเสพยาบ้ามากที่สุดติดอันดับต้นๆของโลกแทน (อันนี้น่าจะจริง :o)
...บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่ เป็นบริษัทเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต
...แว่นตาท็อปเจิรญ มีเจ้าของคนเดียวกันกับแว่นตาบิวตี้ฟูล
...ขนมทอดกรอบ ตราปูไทย ไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู
...ปูอัด ทำมาจากเนื้อปลา
...เบียร์สิงห์ มีตัวสิงห์ในโลโก้หันหน้าไปทางซ้าย และยกเท้าข้างขวา
...คนไทยเป็นชาติที่มีสรรพนามเรียกแทนตัวเองและคู่สนทนามากที่สุดในโลก เพราะในขณะที่ชาติอื่นอาจมีแค่ I กับ YOU
แต่ของคนไทยจะมี ฉัน เธอ Gu Mung เอ็ง ข้า ผม คุณ เรา นาย หนู ท่าน เดี๊ยน กระผม ดิฉัน ตัวเอง ที่รัก ฯลฯ :o :o :o :o :o :o
...เวลาแชทสนทนากับชาวต่างชาติ ไม่มีชาติใดในโลกเข้าใจว่า ทำไมเราชอบพิมพ์คำว่า 555 ที่แปลว่า "ห้าร้อยห้าสิบห้า" (เออ นั่นน่ะสิ 55555555)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พม่า...กับเรื่องน่าอึ้ง
...รถยนต์ในประเทศพม่าทั้งหมด เป็นรถยนต์มือ 2
...พม่าจ่ายไฟเป็นช่วงเวลา โดยมีกำหนดตารางเวลาว่า บางวันจะมีไฟใช้แค่ 08.00 - 17.00 น. ในขณะที่บางวันจะประกาศจ่ายไฟแค่ 18.00 - 08.00 น.
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะหาน้ำเย็น หรือน้ำแข็งกินได้ยาก เพราะตู้เย็นไม่ทันเย็นก็โดนตัดไฟซะก่อน
...คนพม่า ไม่เคยได้ยินเรื่องที่เขามาขโมยทองจากอยุธยา (จริงดิ??)
...พระธาตุอินทร์แขวน มีชื่อภาษาพม่าว่า "ไจก์ถิโย" เป็นเจดีย์ที่อยู่บนหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ขอบๆหน้าผา ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้แค่ยืนดูห่างๆ
แต่ผู้ชายสามารถเข้าไปจับต้องได้ ยกเว้นผู้ชายที่ไว้ผมยาวก็ถูกห้ามเข้าใกล้เช่นกัน
...ชุดนักเรียนพม่า เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและโสร่งสีเขียวอ่อนๆ
...โรงเรียนพม่า เรียนแค่ครึ่งวัน อีกครึ่งวันที่เหลือต้องไปหาเรียนพิเศษเอาเอง (เยี่ยมไปเลย น่าเอามาใช้กับประเทศไทยบ้าง)
...การศึกษาพม่ายังคงเป็นแบบท่องจำอยู่ คือ ท่องทุกตัวอักษร ทั้งหน้า และทั้งเล่ม
...ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยพม่า ยังโดนสั่งปิดอยู่ต่อเนื่องมากกว่า 40 ปีแล้ว (เพื่ออะไร:confused:)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรุงเทพฯ ไม่ใช่จังหวัด
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีทั้งสิ้น 76 จังหวัด โดยมีจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดล่าสุด
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัด เพราะถือว่าเป็นเขตปกครองพิเศษ (เหมือนพัทยา)
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัด เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ได้มีการนำเอาจังหวัดพระนครกับจังหวัดธนบุรีมารวมกัน
แล้วจัดตั้งเป็นนครหลวง เรียนว่า นครหลวงกรุงเทพธนบุรี
ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ก็ยังคงเป็นหน่วยงานอยู่ในสังกัดการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการปรับปรุงรูปแบบการปกครองกรุงเทพมหานครอีกครั้ง โดยคราวนี้เปลี่ยนสังกัดจากการบริหารราชการส่วนภูมิภาค (จังหวัด) ไปอยู่ในสังกัดการบริหาร
ราชการส่วนท้องถิ่น (ไม่ใช่จังหวัด) คือไปอยู่ในส่วนที่เรียกว่า ราชการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฏหมายกำหนด (ซึ่งมีการเปลี่ยนอำเภอ ไปเป็น เขต และ เปลี่ยน ตำบล ไปเป็น แขวง)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครอีกครั้งโดยเปลี่ยนแปลงรายละเอียดภายในมากขึ้น แต่รูปส่วนใหญ่ยังคงเดิม สังกัดเดิม
คือเป็นหน่วยงานในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (ซึ่งไม่ใช่จังหวัด) อยู่ในส่วนที่เรียกว่า ราชการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฏหมายกำหนด
เหมือนกับปี พ.ศ. 2518 และก็ใช้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
(จขกท. ก็พิมพ์เองนะ แต่อ่านแล้วก็ยังมึนๆแฮะ :o :o)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมืองน่าประหลาดใจ
...เมือง Aiea ในฮาวาย เป็นเมืองเดียวที่สะกดชื่อด้วยสระเพียงอย่างเดียว
...เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งใน 2 ทวีป คือ ยุโรปและเอเชีย
...ที่ซาอุดิอาระเบีย มีโทรศัพท์สาธารณะกลางทะเลทราย และใช้พลังงานแสงอาทิตย์
...คาราเต้ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
...รหัสโทรศัพท์ของรัสเซีย คือ 007
...กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 1 ในปีจุลศักราช 931 (9+3+1 = 13) และครั้งที่ 2 ปี 1129 (1+1+2+9 = 13)
...ดิสนีย์แลนด์ มีขนาดใหญ่กว่าประเทศที่เล็กที่สุดในโลก 5 ประเทศรวมกัน
...เมืองที่ชื่อ Rome มีอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก
...ปราสาทเขาพระวิหาร อยู๋ในเขตอธิปไตยของประเทศกัมพูชา แต่อยู่ในดินแดนของประเทศไทย
...ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก คือ Principality of Sealand มีขนาดเพียง 207 ตารางเมตร มีประชากรเพียง 4 คน!! (อยู่กันได้ไงว่ะ)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
ตลอดชีวิตของผู้หญิง 1 คน จะบริโภคลิปสติกประมาณ 2.7 กิโลกรัมที่หลุดติดเข้าไปพร้อมกับอาหาร
แอปเปิ้ล เป็นพืชตระกุลเดียวกับกุหลาบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนสซี่แห่งทะเลสาบลอคเนส
ปี 1972 นักสัตววิทยาจาก Yorkshire's Flamingo Park Zoo พบร่างของสิ่งมีชีวิตลึกลับลอยอยู่ในทะเลสาบเนส
มันหนัก 1 ตันครึ่ง
ยาว 15 ฟุตครึ่ง
และไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตใดๆที่ชาวโลกเคยเห็นมาก่อน
พวกเขาจึงนำร่างนั้นขึ้นรถตู้และเตรียมจะขนไปสวนสัตว์ แต่ระหว่างทางโดนตำรวจสกัดจับ เนื่องจากท่าทางมีพิรุธ พวกตำรวจจึงยึดร่างนั้นไว้และส่งไปตรวจพิสูจน์
ซึ่ง สื่อมวลชนแห่กันมาทำข่าวอย่างครึกโครม ว่าเป็นการค้นพบ "ลูกเนสซี่" แต่หลังจากนั้น ผลพิสูจน์ก็เผยออกมาว่า
มันเป็นแค่แมวน้ำช้าง จากแอตแลนติกธรรมดาๆตัวนึงเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่สวยสัตว์รายหนึ่งออกมาสารภาพว่า เขาแค่อยากจะแกล้งเพื่อนที่เป็นพวกบ้าเนสซี่ เลยไปเอาศพแมวน้ำช้างที่ตายแล้วจากสวนสัตว์อื่นมาตัดแต่ง
ให้เหมือนเนสซี่ เอาก้อนหินเย็บไว้ใต้ผิวหนังให้เป็นปุ่มนูนๆแล้วแช่แข็งไว้ 1 อาทิตย์ก่อนจะเอาไปโยนลงในทะเลสาบเรสในวันก่อน April Fool's Day 1 วัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อูฐ เจ้าแห่งทะเลทราย
ตอนที่เราเป็นเด็ก พวกเรามักเชื่อกันว่า "อูฐ" จะเก็บน้ำไว้ในโหนกของมัน
แต่ความจริงแล้วสิ่งที่อยู่ในโหนกอูฐ ไม่มีน้ำอยู่เลย แต่กลับเต็มไปด้วยไขมันล้วนๆ ไม่ปนอย่างอื่น
ส่วนน้ำ จะอยู่ตามระบบไหลเวียนโลหิตของเลือดภายในร่างกายของอูฐ เพราะเม็ดเลือดแดงของอูฐจะแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป
คือ เม็ดเลือดแดงเป็นรูปวงรี(สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปจะเป็นวงกลม) จึงทำให้อูฐไม่มีปัญหาการบวมน้ำ ไม่แตกง่ายเมื่อเลือดจางลงหลังจากดื่มน้ำมากๆ
อูฐสามารถดื่มน้ำได้สูงสุดเกือบ 200 ลิตรต่อตัว ต่อวัน...โดยน้ำจะซึมเข้าไปในกระแสเลือดภายใน 24 ชั่วโมง และจะเหลืออยู่ในกระเพาะประมาณ 4-5 ลิตร
ไตของอูฐมีประสิทธิภาพในการดูดน้ำกลับสูงมาก ทำให้ปัสสาวะมีความข้น และอุจจาระของอูฐที่ออกมาแห้งมากพอที่จะจุดให้ติดไฟได้ แสดงให้เห็นว่า
ไตของอูฐมีประสิทธิภาพในการดูดน้ำกลับจากระบบทางเดินอาหาร
อูฐสามารถทนการขาดน้ำได้ 20-25% หัวใจถึงจะหยุดทำงาน ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปสามารถทนการขาดน้ำได้เพียง 3-4% เท่านั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
น้ำแข็งขั้วโลก
ปี 1978 มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยเข้าไปในอ่าวซิดนีย์ โดยมีนาย Dick Smith มหาเศรษฐีผู้ชื่นชอบการผจญภัยออกมาประกาศว่า
นี่เป็นฝีมือของเขาเอง เพราะเขาลงทุนเดินทางไปทวีปแอนตาร์กติกเพื่อสกัดภูเขาน้ำแข็งนี้ออกมาและลากจูงมาที่นี่
น้ำแข็งนี้แข็งตัวมาเป็นพันๆปี จนน้ำข้างในมีความบริสุทธิ์สูงมาก ถ้าใครได้ดื่มกินก็จะได้สัมผัสถึงรสชาติที่แสนอร่อย ซึ่งเขามีแผนที่จะสกัดขายเป็นก้อนๆ ก้อนละ 10 เซนต์
สื่อมวลชนในอเมริกาพากันให้ความสนใจและนำเสนอเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้า 1 แทบทุกฉบับ ทีวีทุกช่องแข่งกันรายงานข่าวภูเขาน้ำแข็ง แทบจะทุกต้นชั่วโมง
มีประชาชนแตกตื่นไปมุงดูกันรอบอ่าวราวกับว่ามันมีมหกรรมระดับชาติ
แต่เมื่อมันถูกลากจูงเข้าท่าเรือ บังเอิญมีฝนตกลงมา ทำให้โฟมและครีมโกนหนวดที่ฉาบอยู่รอบก้อนน้ำแข็งละลายไปหมด
จนเผยให้เห็นพลาสติกสีขาวที่ขึงบนโครงเหล็กด้านใน
ตามข่าวไม่ได้แจ้งว่า นาย Dick โดนดำเนินคดีไปกี่ข้อหาสำหรับเรื่องอำระดับชาติขนาดนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---สำหรับกระทู้นี้มี 15 เรื่อง เดี๋ยวเรื่องต่อๆไปจะเขียนให้ในภาค 2 นะครับ :)---
เฮ้ย จริงดิ!!!
หลากหลายเรื่องราวชวน อึ้ง และ ทึง!
ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
***หมายเหตุ*** ข้อมูลทั้งหมด ผมพิมพ์เองล้วนๆ และเอามาจากหนังสือ Oh My God เฮ้ย จริงดิ!!!
ที่ผมใช้เงินส่วนตัวที่เก็บมานานนับปีกว่าๆ :o ซื้อมาจากร้านหนังสือชั้นนำแห่งหนึ่งในราคา 135 บาท
คิดว่าคงไม่ละเมิดกฏ ลิขสิทธิ์ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมแค่อยากแบ่งปันข้อมูล ความรู้ สาระให้กับคนอื่นๆบ้าง
หรือถ้าใครไม่ชอบกระทู้นี้ จะซื้อมาอ่านเอง...เชิญที่ร้านหนังสือครับ...
ส่วนใคร!!! ชอบของฟรี มีสาระ เชิญอ่านบรรทัดต่อจากนี้ได้เลยครับ :yes
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"จงเรียนรู้จากอดีต มีชีวิตเพื่อวันนี้ และมีความหวังเพื่อวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องอย่าหยุดตั้งคำถาม"
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้
"ความจริงเข้าใจง่าย เมื่อมันถูกค้นพบ"
กาลิเลโอเคยกล่าวไว้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าสู่เนื้อหาอย่างจริงจังแล้วครับ ขอให้มีความสุขกับการอ่าน :yes
.
.
.
.
.
ส้วมหกพันล้าน!!
เวลาพูดถึงมนุษย์อวกาศ คนมักจะนึกถึงภาพของอุปกรณ์ไฮเทค ห้วงจักรวาลอันลึกลับดำมืด หรือสถานีที่ลอยอยู่บนอวกาศในสภาพไร้น้ำหนัก
แต่รู้หรือไม่ว่า สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่นานาชาติต้องทุ่มเทคิดค้นไม่แพ้การพัฒนาในด้านอื่นๆเลย ก็คือ "ส้วม"
ซึ่ง ส้วมที่ว่านี้มีมูลค่ากว่า "หก พัน ล้าน บาท"
เพราะชุดอวกาศที่เต็มไปด้วยสายวงจรเชื่อมต่อเซนเซอร์ตรวจวัดสุขภาพอาจจะเสียหายได้ถ้าเปียกขึ้นมา หรือถ้าถุงบรรจุปัสสาวะรั่วซึม
ทำให้มีหยดปัสสาวะเข้าไปในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะทำให้ระบบควบคุมอัตโนมัติของยานไม่ทำงานทันที
แค่การถ่ายเบายังสร้างปัญหาขนาดนี้ แล้วการถ่ายหนักจะสร้างปัญหาขนาดไหน?
นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) ชายในตำนานผู้ที่เหยียบย่ำดวงจันทร์เป็นคนแรก เคยมีถุงเก็บของเสียตัวเองติดอยู่ที่บั้นท้ายที่แปะด้วยแถบกาว
และพอมาถึงยุคของภารกิจยานอพอลโล พวกเขาพบว่าในสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำ ทำให้ของเสียไม่ยอมแยกตัว จนนาซ่าต้องออกแบบ "ถุงยางนิ้ว"
เพื่อให้มนุษย์อวกาศใช้จัดการกับของเสียตัวเอง และต้องคลุกสารกำจัดแบคทีเรียในของเสียตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดการหมักในถุงเก็บของเสียจนระเบิดขึ้นได้...
ทุกวันนี้ การเข้าส้วมของมนุษย์อวกาศน่ากลัวน้อยกว่าเดิมมาก พวกเขาจะเรียนภารกิจถ่ายหนักด้วยโค้ดลับที่รู้กันว่า "No.2" ส่วนภารกิจถ่ายเบาจะเรียกว่า "No.1"
จะใช้วิธีต่อสายยางที่ภายในเป็นสุญญากาศ ซึ่งพวกเขาต้อง "ฝึกจัดตำแหน่ง" ตั้งแต่ตอนอยู่บนโลก เพื่อให้แน่ใจว่า ฉี่ที่พุ่งออกมาจะตรงเป้าไปยังช่องแคบๆ
ของส้วมที่มีมูลค่า "หก พัน ล้าน บาท" ซึ่งมีกล้องอยู่ที่ด้านหลัง เพื่อให้สามารถมองเห็นและตรวจสอบตำแหน่งได้จากจอที่อยู่ตรงหน้า
ว่ากันว่า กรวยที่นาซ่าออกแบบให้นั้น มีอยู่ 3 ขนาด ซึ่งมีรูปร่างต่างกันตามสรีระของผู้ชายและผู้หญิง และพวกมนุษย์อวกาศผู้ชายมักเลือกขนาดใหญ่ที่สุดเสมอ
ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ปัสสาวะของมนุษย์อวกาศจะถูกรีไซเคิลผ่านระบบกรอง เพื่อนำกลับมาเป็นน้ำดื่ม (ห๊ะ!!!) ส่วนของเสียจากร่างกายจะถูกโยนออกจากสถานีอวกาศ
พร้อมกับขยะอื่นๆเพื่อให้เผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ
ล่าสุด นักวิจัยบางส่วนกำลังคิดค้น "การรีไซเคิลอุจจาระ" เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ในยานอีกครั้ง
แต่ "ข่าวดี" สำหรับมนุษย์อวกาศ ก็คือว่า "พวกเขายังคิดค้นไม่สำเร็จ"
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แห้งแล้งที่สุดในโลก
ทวีปแอนตาร์กติกา ที่ขั้วโลกใต้ มีพื้นที่บางส่วนที่ไม่มีฝนตกมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ล้านปีแล้ว
พื้นที่บางส่วนของที่นั่นไม่มีหิมะ ปราศจากน้ำแข็งและไม่มีฝนตกเลย เนื่องจากที่นั่นมีความเร็วลมรุนแรงถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ความชื้นทั้งหลายถูกระเหยไปจนหมด
จนมันถูกขนานนามว่า หุบเขาแห้ง (Dry Valley)
ในทางเทคนิคแล้ว คำจำกัดความของคำว่า ทะเลทราย คือสถานที่ๆ ได้รับน้ำฝนไม่ถึง 10 นิ้วต่อปี เช่น ทะเลทรายซาฮาร่า ได้รับน้ำฝนไม่ถึง 1 นิ้วต่อปี
และถ้าวัดจะความแห้งแล้ง ที่นั่นแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่าถึง 250% เลยทีเดียว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
คนทั่วโลกมักเข้าใจกันว่า "ยอดเขาเอเวอร์เรสต์" เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
แต่ความจริงแล้ว "ยอดเขามอ-นา-เคอะ (Mauna Kea)" ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของหมู่เกาะฮาวาย ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เพราะถ้าวัดจากตีนเขา ซึ่งอยู่ที่ระดับใต้พื้นทะเล
มันจะสูงถึง 10,200 เมตร ในขณะที่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์มีความสูงเพียง 8,848 เมตรเท่านั้น...
(เพิ่มเติม) - ในเรื่องของภูเขา ข้อตกลงที่ทั่วโลกยอมรับกันในปัจจุบันคือคำว่า "สูงสุด (highest)" จะหมายถึง การวัดจากระดับน้ำทะเลไปถึงยอดเขา
ส่วนคำว่า "มีความสูงที่สุด (tallest)" จะหมายถึงการวัดจากตีนเขาไปจนถึงยอดเขา
ดังนั้น ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ จึงไม่ใช่ภูเขาที่มีความสูงที่สุดแต่อย่างใด (จขกท. เองก็เพิ่งรู้นะเนี่ย !!)
ปัจจุบัน มีบางคนพยายามแย้งว่า วิธีที่สมเหตุสมผลที่สุดควรจะเป็นการวัดระยะทางจากยอดเขาไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลก
แต่เนื่องจากโลกใบนี้ไม่ได้กลมอย่างสมบูรณ์แบบ บางช่วงเป็นวงรีนิดๆ ดังนั้น ระยะทางจากเปลือกโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลก
จึงมากกว่าระยะทางจากเปลือกโลกบริเวณขั้วโลกไปจนถึงจุดกึ่งกลางของโลกประมาณ 21 กิโลเมตร
ถ้าวิธีนี้ถูกนำมาใช้จริงๆ อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับภูเขาทั้งหลายที่ตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร แต่ถ้านำมาใช้ นั่นหมายถึงเราต้องยอมรับว่า แม้แต่ชายหาด
ในประเทศเอกวาดอร์ ก็ยังสูงกว่าเทือกเขาหิมาลัยเช่นกัน (ชายหาดบ้าอะไรสูงกว่าเทือกเขา :o :o)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ไม่ใช่ "พีระมิด" หรือ "กำแพงเมืองจีน" อย่างที่เราเข้าใจกัน เพราะจริงๆแล้ว สิ่งที่ถูกต้องคือ "เฟรชคิลล์" เกาะสำหรับทิ้งขยะในนิวยอร์ก
"เฟรชคิลล์" เปิดใช้งานในปี 1948 มีพื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร...ในทุกๆวัน เรือ 20 ลำจะบรรทุกขยะลำละ 650 ตัน มาทิ้งที่นั่น
ถ้าเฟรชคิลล์ยังคงเปิดใช้งานตามแผนที่วางไว้ มันจะกลายเป็นจุดสูงสุดของชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของสหรัฐในทันที
แต่ถึงกระนั้น ตอนที่ถูกใช้งานมากที่สุด มันก็มีความสูงมากกว่าเทพีเสรีภาพที่สูงถึง 24 เมตรเข้าไปแล้ว
ภายใต้แรงกดดันของคนในท้องถิ่น ที่ฝังกลบขยะแห่งนั้นจึงปิดทำการลงในเดือนมีนาคม ปี 2001
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องเปิดทำการอีกครั้งเพื่อจัดการกับซากปรักหักพังจำนวนมหาศาลของตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ที่ถล่มเพราะถูกเครื่องบินชน
ล่าสุด...สถานที่ดังกล่าวได้ถูกเกลี่ยให้แบนราบและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นอุทยานและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ...เห็ด!!
เห็ดโคนญี่ปุ่น (Honey mushrooms) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Armillaria Ostoyae มักจะเจริญเติบโตบนซากต้นไม้ที่ตายแล้ว
ครั้งหนึ่งมันเคยถูกพบว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทยานแห่งชาติแมลเฮียร์ ในรัฐโอเรกอน โดยเห็ดที่นั่นได้แผ่ขยายตัวเอง
ปกคลุมพื้นที่ถึง 9 ตารางกิโลเมตร และมีชีวิตอยู่มานาน 2000 - 8000 ปีมาแล้ว
ส่วนใหญ่ของเห็นมันจะอยู่ใต้พื้นดินในรูปของผืนใยสีขาวที่พันกันยุ่งเหยิงเป็นจำนวนมาก แต่โผล่หน้าตาจุ๋มจิ๋มออกมาพ้นผิวดินในรูปของเห็ดโคนญี่ปุ่นเท่านั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
เฉลี่ยแล้วสมองมนุษย์จะหนักประมาณ 1.36 กิโลกรัม (3 ปอนด์)
เฉลี่ยเด็กอายุ 4 ขวบ จะถามคำถามประมาณ 437 คำถามต่อวัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องน่าทึ่งของพระพุทธเจ้า
ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะค้นพบว่า อะตอมเป็นสิ่งที่เล็กที่สุดในโลก เชื่อหรือไม่ ว่าพระพุทธเจ้าทรงเคยอธิบายเรื่องของปรมาณูไว้ โดยกล่าวไว้ว่า
1 ธัญญามาตร (ขนาดเล็กของเมล็ดข้าว) ประกอบด้วย 7 อูกา (ศีรษะของตัวเล็น)
1 อูกา ประกอบด้วย 7 สิกขา (รอยขีดเล็กๆ)
1 สิกขา ประกอบด้วย 37 รถเรณู (ละอองเกษรดอกไม้)
1 รถเรณู ประกอบด้วย 36 ตัชชารี (ละอองรังสีในแสงแดด)
1 ตัชชารี ประกอบด้วย 36 อณู (อนุภาคขนาดเล็ก)
1 อณู ประกอบด้วย 36 ปรมาณู
1 ปรมาณู แบ่งแยกไม่ได้อีก เพราะหากแยกต่อไปจะหมดสภาพของสารนั้น
นักวิทยาศาสตร์ เพิ่งจะรู้ว่าโลกกลม มีแผ่นดินเพียง 1 ใน 4 นอกนั้นคือผืนน้ำ และลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ก็เมื่อตอนที่ส่งดาวเทียมออกไปนอกโลกได้สำเร็จเพียงเมื่อไม่นานมานี้
แต่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ในพรหมชาลสูตรเมื่อหลายพันปีมาแล้วว่า "โลกนี้กลม เหมือนผลมะขามป้อม" แถมยังอธิบายถึงการมีอยู่ของโลก
ผ่านการสนทนากับพราหมณ์ มีใจความว่า (สีน้ำเงินคือพราหมณ์ / สีแดงคือพระพุทธเจ้า)
"โลกตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนแผ่นน้ำ"
"แผ่นน้ำตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนลม"
"และลมตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"บนอวกาศ"
"และอวกาศเล่า ตั้งอยู่บนสิ่งใด?"
"มากเกินไปเสียแล้วพราหมณ์เอ๋ย อวกาศมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดค้ำอวกาศไว้เลย"
แต่สิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ และนักวิทยาสาสตร์ทั่วโลกต้องอึ้ง ทึ่ง งง ก็คือสิ่งที่พระพุทธเจ้ากล่าวเอาไว้ว่า "เวลาในโลกมนุษย์ สวรรค์ นรก ไม่เท่ากัน"
ซึ่งทางวิทยาศาสตร์เพิ่งจะพิสูจน์ได้โดย ทฤษฏีสัมพันธภาพ ของไอน์สไตน์ว่า เวลาในแต่ละที่ไม่เท่ากัน แม้กระทั่งในยานอวกาศ และดาวแต่ละดวง
โดนเฉพาะใน blackhole ที่มีแรงดึงดูดมหาศาล แม้แต่แสงก็ยังผ่านไปไม่ได้ จะมีเวลานานมากที่สุด
มีนักวิทยาศาสตร์ชาวพุทธคนหนึ่ง ได้นำแผนที่ของ blackhole ที่เคยค้นพบในทุกๆที่มาทาบกับเรื่องราวของภพทั้ง 3 คือ เขาพระสุเมรุนรก สวรรค์ และโลกมนุษย์
พบว่า ตำแหน่งของ blackhole ตรงกับตำแหน่งของขุมนรกต่างๆพอดี และตรงกับคำที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "เวลาในนรก ยาวนานที่สุด"
ซึ่งทำให้แสงเดินทางได้ช้าที่สุด ตามทฤษฏีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์
นอกจากนี้ พระพุทธเจ้ายังรู้ถึงการเกิดและอายุขัยของมนุษย์ ตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว ก่อนที่กรมอนามัยโลกจะวิเคราะห์ว่า มนุษย์ในปัจจุบัน มีอายุเฉลี่ย 75 ปี
ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องหนึ่ง กล่าวไว้ว่า "ทุกๆ 100 ปี อายุขัยของมนุษย์จะลดลง 1 ปี"
ดังนั้น มนุษย์ที่เคยมีอายุขัยเฉลี่ย 100 ปี เมื่อผ่านมา 2,500 ปี แสดงว่าอายุขัยจะลดลงไป 25 ปี ...100-25 = 75 ปี... เท่ากับอายุขัยของมนุษย์ในปัจจุบัน (เป๊ะเวอร์!!)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแปลกในจีน
...จีนกลายเป็นผู้บริโภคหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ต้องเป็นประเทศที่มีวาระ หมูสำรองแห่งชาติ เพื่อมุ่งผลิตหมูออกมาสู่ตลาดในช่วงที่ราคาหมูแพงขึ้น
...คนรวยในเมืองจีนมีทางเลือกการลงทุนที่จำกัด จึงมักนำเงินไปลงทุนในลูกวอลนัทแกะสลัก หยก และขนมไหว้พระจันทร์สีทอง
ตามรายงานของสำนักข่าว Xinhua ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนใช้เงินหลายพันดอลลาร์ ในการซื้อขนมไหว้พระจันทร์สีทอง
..."สัมภาษณ์ก่อนประหารชีวิต" Henan TV เป็นรายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุด แต่ต่อมาต้องยุติรายการเพราะเจ้าหน้ารัฐของจีนเกรงว่า ภาพลักษณ์ของจีนในสื่อต่างประเทศจะดูไม่ดี
...ในประเทศจีนมีช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงมาก จนคนที่ร่ำรวยสามารถจ้างตัวแทนให้เข้ารับการพิจารณาคดีในศาล และรับโทษในเรือนจำแทนตนเองได้ (เอาเงินฟาดหัวนั่นเอง)
...จีน ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการลอกเลียนแบบสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลกมากที่สุด และมีข่าวฮือฮาล่าสุด คือ มีร้านค้า Apple ปลอมใน Kunming
ซึ่งไม่ใช่แค่การทำสินค้าเลียนแบบ แต่เป็นการปลอมร้าน Apple Store ขึ้นทั้งร้าน ซึ่งการตกแต่งร้านใช้ธีมเดียวกันกับ Apple Store ของจริงจนแทบแยกแยะไม่ออก
และในร้านมีพนักงานใส่เสื้อสีน้ำเงิน มีโลโก้ Apple อยู่กลางหน้าอกและมีป้ายห้อยคอเหมือนพนักงาน Apple ตัวจริง ...แต่ที่หนักกว่านั้นคือ
"ตัวของพนักงานเองก็คิดว่าตนเองทำงานให้กับ Apple inc. จริงๆ" (สรุปคือ ไม่มีอะไรจริงเลยสินะ ขนาดพนักงานยังไม่รู้เลยว่าเป็นร้านปลอม :o )
... บริษัทหลายแห่งในจีน เช่น Foxconn ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับ Apple ต้องติดตั้งตาข่ายรอบนอกอาคารหอพักคนงาน และจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
เพื่อบำบัดและบรรเทาอาการของคนงาน ไม่ให้กระโดดตึกฆ่าตัวตายจากความเครียด (แสดงว่ามาตรฐานของงานกับคนงานต่ำมาก)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแปลกในเกาหลี
...คุณสามารถหาซื้อถุงใส่ผ้า ยาขัดรองเท้า ถุงเท้า ได้ในรถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะจะมีคนเอาของลากใส่รถเข็นขึ้นมาขาย
...วัยรุ่นเกาหลีจะนิยมส่งข้อความหากัน มากกว่าการโทรคุยกัน...และเมื่อไม่นานมานี้ วัยรุ่นเกาหลีใต้ ไปแข่งกดส่งSMSและได้รางวัลอันดับ 1 ของโลก
...ชุดนักเรียนเกาหลีจะมีราคาแพงมาก 1 ชุด ตกประมาณ 7,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท
...นักเรียนเกาหลีทุกคนต้องเรียนพิเศษ การเรียนพิเศษจนถึง 4 ทุ่มนับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ในช่วงใกล้สอบอาจมีคอร์สเปิดสอนไปจนถึงตี 2
...วัยรุ่นเกาหลีชาย สามารถบ้าดาราได้อย่างเปิดเผยและออกหน้าออกตากว่าวัยรุ่นหญิง เวลาไปดูคอนเสิร์ตจะมีแฟนคลับกลุ่มผู้ชายตะโกนโหวกเหวกยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก
...บริเวณที่จัดงานคอนเสิร์ตทุกงาน จะมีคนขายแท่งไฟ ป้ายชื่อ กล้องส่องทางไกล และสินค้าอื่นๆของศิลปิน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว คนขายจะขายผ้าห่มแทน
...เวลาวัยรุ่นเกาหลีไปกินเหล้า พวกเขาจะประเดิมด้วยการเปิดขวด และใช้แก้ว 1 ใบรินเหล้าให้ดื่มทีละคน วนกันไปจนครบทุกคนจึงเปลี่ยนมาใช้แก้วใครแก้วมัน
...วันสอบเอนทรานซ์ของวันรุ่นเกาหลี เป็นวันที่มีความสำคัญมาก...อาจารย์ผู้หญิงห้ามใส่รองเท้าส้นสูง เพราะถือว่าทำให้เกิดเสียงดังเวลาเดิน
คนวัยทำงานทั่วไปจะอนุญาตให้เข้างานสายได้กว่าปกติ เพราะต้องอำนวยความสะดวกให้นักเรียนรีบออกไปสอบก่อน
...ในคาบสอบการฟัง สายการบินต่างๆจะต้องงดเที่ยวบินในช่วงเวลานั้น เพราะเกรงว่าเสียงเครื่องบินจะทำให้นักเรียนที่สอบไม่มีสมาธิในการสอบ (ขนาดนี้เลย :clap)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
วัวกระทิง ไม่ได้เกลียดสีแดง
กบ กะพริบตาโดยใช้หนังตาล่าง ไม่ใช่หนังตาบนแบบมนุษย์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รักเธอประเทศไทย
...ประเทศไทยมีสถิติผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก(จริงเหรอ :confused:) แต่ติดอันดับคนเสพยาบ้ามากที่สุดติดอันดับต้นๆของโลกแทน (อันนี้น่าจะจริง :o)
...บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่ เป็นบริษัทเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต
...แว่นตาท็อปเจิรญ มีเจ้าของคนเดียวกันกับแว่นตาบิวตี้ฟูล
...ขนมทอดกรอบ ตราปูไทย ไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู
...ปูอัด ทำมาจากเนื้อปลา
...เบียร์สิงห์ มีตัวสิงห์ในโลโก้หันหน้าไปทางซ้าย และยกเท้าข้างขวา
...คนไทยเป็นชาติที่มีสรรพนามเรียกแทนตัวเองและคู่สนทนามากที่สุดในโลก เพราะในขณะที่ชาติอื่นอาจมีแค่ I กับ YOU
แต่ของคนไทยจะมี ฉัน เธอ Gu Mung เอ็ง ข้า ผม คุณ เรา นาย หนู ท่าน เดี๊ยน กระผม ดิฉัน ตัวเอง ที่รัก ฯลฯ :o :o :o :o :o :o
...เวลาแชทสนทนากับชาวต่างชาติ ไม่มีชาติใดในโลกเข้าใจว่า ทำไมเราชอบพิมพ์คำว่า 555 ที่แปลว่า "ห้าร้อยห้าสิบห้า" (เออ นั่นน่ะสิ 55555555)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พม่า...กับเรื่องน่าอึ้ง
...รถยนต์ในประเทศพม่าทั้งหมด เป็นรถยนต์มือ 2
...พม่าจ่ายไฟเป็นช่วงเวลา โดยมีกำหนดตารางเวลาว่า บางวันจะมีไฟใช้แค่ 08.00 - 17.00 น. ในขณะที่บางวันจะประกาศจ่ายไฟแค่ 18.00 - 08.00 น.
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะหาน้ำเย็น หรือน้ำแข็งกินได้ยาก เพราะตู้เย็นไม่ทันเย็นก็โดนตัดไฟซะก่อน
...คนพม่า ไม่เคยได้ยินเรื่องที่เขามาขโมยทองจากอยุธยา (จริงดิ??)
...พระธาตุอินทร์แขวน มีชื่อภาษาพม่าว่า "ไจก์ถิโย" เป็นเจดีย์ที่อยู่บนหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ขอบๆหน้าผา ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้แค่ยืนดูห่างๆ
แต่ผู้ชายสามารถเข้าไปจับต้องได้ ยกเว้นผู้ชายที่ไว้ผมยาวก็ถูกห้ามเข้าใกล้เช่นกัน
...ชุดนักเรียนพม่า เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและโสร่งสีเขียวอ่อนๆ
...โรงเรียนพม่า เรียนแค่ครึ่งวัน อีกครึ่งวันที่เหลือต้องไปหาเรียนพิเศษเอาเอง (เยี่ยมไปเลย น่าเอามาใช้กับประเทศไทยบ้าง)
...การศึกษาพม่ายังคงเป็นแบบท่องจำอยู่ คือ ท่องทุกตัวอักษร ทั้งหน้า และทั้งเล่ม
...ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยพม่า ยังโดนสั่งปิดอยู่ต่อเนื่องมากกว่า 40 ปีแล้ว (เพื่ออะไร:confused:)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรุงเทพฯ ไม่ใช่จังหวัด
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีทั้งสิ้น 76 จังหวัด โดยมีจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดล่าสุด
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัด เพราะถือว่าเป็นเขตปกครองพิเศษ (เหมือนพัทยา)
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า กรุงเทพมหานครเป็นจังหวัด เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ได้มีการนำเอาจังหวัดพระนครกับจังหวัดธนบุรีมารวมกัน
แล้วจัดตั้งเป็นนครหลวง เรียนว่า นครหลวงกรุงเทพธนบุรี
ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ก็ยังคงเป็นหน่วยงานอยู่ในสังกัดการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการปรับปรุงรูปแบบการปกครองกรุงเทพมหานครอีกครั้ง โดยคราวนี้เปลี่ยนสังกัดจากการบริหารราชการส่วนภูมิภาค (จังหวัด) ไปอยู่ในสังกัดการบริหาร
ราชการส่วนท้องถิ่น (ไม่ใช่จังหวัด) คือไปอยู่ในส่วนที่เรียกว่า ราชการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฏหมายกำหนด (ซึ่งมีการเปลี่ยนอำเภอ ไปเป็น เขต และ เปลี่ยน ตำบล ไปเป็น แขวง)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครอีกครั้งโดยเปลี่ยนแปลงรายละเอียดภายในมากขึ้น แต่รูปส่วนใหญ่ยังคงเดิม สังกัดเดิม
คือเป็นหน่วยงานในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (ซึ่งไม่ใช่จังหวัด) อยู่ในส่วนที่เรียกว่า ราชการบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฏหมายกำหนด
เหมือนกับปี พ.ศ. 2518 และก็ใช้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
(จขกท. ก็พิมพ์เองนะ แต่อ่านแล้วก็ยังมึนๆแฮะ :o :o)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมืองน่าประหลาดใจ
...เมือง Aiea ในฮาวาย เป็นเมืองเดียวที่สะกดชื่อด้วยสระเพียงอย่างเดียว
...เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองเดียวในโลกที่ตั้งใน 2 ทวีป คือ ยุโรปและเอเชีย
...ที่ซาอุดิอาระเบีย มีโทรศัพท์สาธารณะกลางทะเลทราย และใช้พลังงานแสงอาทิตย์
...คาราเต้ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
...รหัสโทรศัพท์ของรัสเซีย คือ 007
...กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 1 ในปีจุลศักราช 931 (9+3+1 = 13) และครั้งที่ 2 ปี 1129 (1+1+2+9 = 13)
...ดิสนีย์แลนด์ มีขนาดใหญ่กว่าประเทศที่เล็กที่สุดในโลก 5 ประเทศรวมกัน
...เมืองที่ชื่อ Rome มีอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก
...ปราสาทเขาพระวิหาร อยู๋ในเขตอธิปไตยของประเทศกัมพูชา แต่อยู่ในดินแดนของประเทศไทย
...ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก คือ Principality of Sealand มีขนาดเพียง 207 ตารางเมตร มีประชากรเพียง 4 คน!! (อยู่กันได้ไงว่ะ)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เชื่อ หรือ ไม่...
ตลอดชีวิตของผู้หญิง 1 คน จะบริโภคลิปสติกประมาณ 2.7 กิโลกรัมที่หลุดติดเข้าไปพร้อมกับอาหาร
แอปเปิ้ล เป็นพืชตระกุลเดียวกับกุหลาบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนสซี่แห่งทะเลสาบลอคเนส
ปี 1972 นักสัตววิทยาจาก Yorkshire's Flamingo Park Zoo พบร่างของสิ่งมีชีวิตลึกลับลอยอยู่ในทะเลสาบเนส
มันหนัก 1 ตันครึ่ง
ยาว 15 ฟุตครึ่ง
และไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตใดๆที่ชาวโลกเคยเห็นมาก่อน
พวกเขาจึงนำร่างนั้นขึ้นรถตู้และเตรียมจะขนไปสวนสัตว์ แต่ระหว่างทางโดนตำรวจสกัดจับ เนื่องจากท่าทางมีพิรุธ พวกตำรวจจึงยึดร่างนั้นไว้และส่งไปตรวจพิสูจน์
ซึ่ง สื่อมวลชนแห่กันมาทำข่าวอย่างครึกโครม ว่าเป็นการค้นพบ "ลูกเนสซี่" แต่หลังจากนั้น ผลพิสูจน์ก็เผยออกมาว่า
มันเป็นแค่แมวน้ำช้าง จากแอตแลนติกธรรมดาๆตัวนึงเท่านั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่สวยสัตว์รายหนึ่งออกมาสารภาพว่า เขาแค่อยากจะแกล้งเพื่อนที่เป็นพวกบ้าเนสซี่ เลยไปเอาศพแมวน้ำช้างที่ตายแล้วจากสวนสัตว์อื่นมาตัดแต่ง
ให้เหมือนเนสซี่ เอาก้อนหินเย็บไว้ใต้ผิวหนังให้เป็นปุ่มนูนๆแล้วแช่แข็งไว้ 1 อาทิตย์ก่อนจะเอาไปโยนลงในทะเลสาบเรสในวันก่อน April Fool's Day 1 วัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อูฐ เจ้าแห่งทะเลทราย
ตอนที่เราเป็นเด็ก พวกเรามักเชื่อกันว่า "อูฐ" จะเก็บน้ำไว้ในโหนกของมัน
แต่ความจริงแล้วสิ่งที่อยู่ในโหนกอูฐ ไม่มีน้ำอยู่เลย แต่กลับเต็มไปด้วยไขมันล้วนๆ ไม่ปนอย่างอื่น
ส่วนน้ำ จะอยู่ตามระบบไหลเวียนโลหิตของเลือดภายในร่างกายของอูฐ เพราะเม็ดเลือดแดงของอูฐจะแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป
คือ เม็ดเลือดแดงเป็นรูปวงรี(สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปจะเป็นวงกลม) จึงทำให้อูฐไม่มีปัญหาการบวมน้ำ ไม่แตกง่ายเมื่อเลือดจางลงหลังจากดื่มน้ำมากๆ
อูฐสามารถดื่มน้ำได้สูงสุดเกือบ 200 ลิตรต่อตัว ต่อวัน...โดยน้ำจะซึมเข้าไปในกระแสเลือดภายใน 24 ชั่วโมง และจะเหลืออยู่ในกระเพาะประมาณ 4-5 ลิตร
ไตของอูฐมีประสิทธิภาพในการดูดน้ำกลับสูงมาก ทำให้ปัสสาวะมีความข้น และอุจจาระของอูฐที่ออกมาแห้งมากพอที่จะจุดให้ติดไฟได้ แสดงให้เห็นว่า
ไตของอูฐมีประสิทธิภาพในการดูดน้ำกลับจากระบบทางเดินอาหาร
อูฐสามารถทนการขาดน้ำได้ 20-25% หัวใจถึงจะหยุดทำงาน ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปสามารถทนการขาดน้ำได้เพียง 3-4% เท่านั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
น้ำแข็งขั้วโลก
ปี 1978 มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยเข้าไปในอ่าวซิดนีย์ โดยมีนาย Dick Smith มหาเศรษฐีผู้ชื่นชอบการผจญภัยออกมาประกาศว่า
นี่เป็นฝีมือของเขาเอง เพราะเขาลงทุนเดินทางไปทวีปแอนตาร์กติกเพื่อสกัดภูเขาน้ำแข็งนี้ออกมาและลากจูงมาที่นี่
น้ำแข็งนี้แข็งตัวมาเป็นพันๆปี จนน้ำข้างในมีความบริสุทธิ์สูงมาก ถ้าใครได้ดื่มกินก็จะได้สัมผัสถึงรสชาติที่แสนอร่อย ซึ่งเขามีแผนที่จะสกัดขายเป็นก้อนๆ ก้อนละ 10 เซนต์
สื่อมวลชนในอเมริกาพากันให้ความสนใจและนำเสนอเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้า 1 แทบทุกฉบับ ทีวีทุกช่องแข่งกันรายงานข่าวภูเขาน้ำแข็ง แทบจะทุกต้นชั่วโมง
มีประชาชนแตกตื่นไปมุงดูกันรอบอ่าวราวกับว่ามันมีมหกรรมระดับชาติ
แต่เมื่อมันถูกลากจูงเข้าท่าเรือ บังเอิญมีฝนตกลงมา ทำให้โฟมและครีมโกนหนวดที่ฉาบอยู่รอบก้อนน้ำแข็งละลายไปหมด
จนเผยให้เห็นพลาสติกสีขาวที่ขึงบนโครงเหล็กด้านใน
ตามข่าวไม่ได้แจ้งว่า นาย Dick โดนดำเนินคดีไปกี่ข้อหาสำหรับเรื่องอำระดับชาติขนาดนั้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---สำหรับกระทู้นี้มี 15 เรื่อง เดี๋ยวเรื่องต่อๆไปจะเขียนให้ในภาค 2 นะครับ :)---