PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : [เรื่อยเปื่อย] "When we all in the game Project L.I.E." (Fiction) By godji001



godji001
24th September 2011, 21:58
ก่อนจะแต่งเรื่องขออนุญาติไป หาเรื่องมาก่อนเนื่องจากเรื่องเก่าๆที่แต่งไว้เผอิญอยู่ในบอร์ดเก่าเลยทำให้หายไป = =*

ไอเดียเรื่องนี้มาจากหลายๆอย่างรวมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน,การ์ตูนหรือนิยาย ฯลฯ ตามแต่คนเขียนมันจะแถไป ....(ลอย.)

โดยใจจริงแล้วได้ไอเดียจากนิยายของจีน และการ์ตูนเรื่อง EXE (ใครไม่รู้ก็ไปหามาดูนะ) :cool:
___________________________________ A A
แต่ยังไงก็จะพยายามแต่งใหม่ให้ได้เค้าโครงเดิมล่ะนะ (= V=)//~

แต่ขอเกริ่นไว้สั้นๆก่อนจะเริ่มตอนที่หนึ่งล่ะกันครับ (ส่วนที่ขึ้น xxxx ไว้นั้นคือวันที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะช่วงไหนดี)





"ณ ประเทศไทย พ.ศ. 2xxx ได้เริ่มมีการลงทุนเหล่าเกมเมอร์กับนักวิทยาศาสตร์ ว่าจะทำการร่วมกันสร้างเอนจิ้นเกมใหม่ล่าสุดโดนมีคุณสมบัติครบถ้วนคุณก็สามารถเข้าเล่นได้ทันที คือ"

1.คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลหรือประวัติส่วนตัวของคุณ (แต่จำเป็นในการตั้งกระทู้หรือลงดันเจี้ยน)

2.คุณไม่จำเป็นต้องลำบากในเลเวลแรกเพียงแต่คุณจะได้ไอเทมช่วยเหลือให้คุณสามารถไล่ล่ามอนเตอร์ได้สบายมากขึ้น

3.คุณสามารถเก็บเลเวลไม่จำจำกัดและคุณสามารถสวมใส่ไอเทมได้ทุกเลเวล ยกตัวอย่างเช่น เลเวล5 สามารถใส่ไอเทมของเลเวล 20ได้ (แต่คุณจะแลกมาด้วยกับผลข้างเคียงของไอเทมและStatsนั้นๆ)

4. หากคุณตายในเวลาล่ามอนเตอร์คุณจะเสีย Exp ตามสัดส่วนของเลเวลของคุณ (เลเวลสูงก็ยิ่งเสียเยอะ)

และข้อสุดท้าย

5.หากคุณพบหรือเจอผู้เล่น,Npcหรือ GM มีอาการผิดปกติสามารถท้าสู้เพื่อรับไอเทม เพียงแต่คุณ......


....จะสามารถรอดจากเงื้อมมือพวกเขาได้หรือไม่


Detail of Charecter

Main Charecter

Name : ครินทร์ Lastname : ผ่องนวล
Nickname : รินทร์
เพศ : ชาย
อายุ : 15ปี

สัดส่วน สูง 178 น้ำหนัก 51 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ คอม,Eng และภาษาอื่นๆ

อุปนิสัย พูดน้อย ไม่ค่อยมีจุดเด่น เก็บความลับได้เป็นอย่างดี

เป้าหมาย : ต้องการหาความจริงว่าตนเองเป็นใคร

อาชีพใน Project L.I.E. : Unknown


Name : กรรณิการ์ Lastname : ใจชื่นหมาย
Nickname : กานต์
เพศ : หญิง
อายุ : 15ปี

สัดส่วน สูง 162 น้ำหนัก 45 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ คณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,อังกถษ ฯลฯ

อุปนิสัย : ตั้งใจเรียนและขยันอยู่เสมอถึงบางครั้งจะแสดงอาการออกมาแบบเอ๋อๆ บ้างก็ตาม และมีเกษมสุขเป็นน้องชาย

เป้าหมาย : ตั้งใจอยากจะเป็นคุณครูสอนวิทยาศาสตร์และเดินทางไปสำรวจที่ต่างๆ

อาชีพใน Project L.I.E. : Mage

Name : ชาญวงศ์ Nickname : มาร์
Lastname : ปรีชาเิลิศ
เพศ : ชาย
อายุ : 16 ปี

สัดส่วน : สูง 189 น้ำหนัก 59 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ พละศึกษา

อุปนิสัย : เป็นคนที่เก่งด้านกีฬาหลากหลายชนิดและยังถนัดเรื่องการชกต่อยกับเพื่อนใน โรงเรียนอยู่เสมอๆ

เป้าหมาย : อยากจะไปแข่งขันกีฬาในระดับต่างประเทศ

อาชีพใน Project L.I.E. : Swordman

Name : อรุณดวง Nickname : หมิว

Lastname : ปักษาศรี
เพศ : หญิง
อายุ : 15 ปี

สัดส่วน : สูง 168 น้ำหนัก 50 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ ศิลป์,ดนตรี และ การแสดง

อุปนิสัย : เป็นคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและเวลามีเรื่องเกิดขึ้นมักจะไปเจอเหตุการณ์ก่อนคนอื่นๆ

เป้าหมาย : อยากจะเป็นนักเขียนบทตัวละคร และเป็นเจ้าของงานธุรกิจการแสดง

อาชีพใน Project L.I.E. : Archer

Name : วชิระนนท์ Nickname : นนท์
Lastname : กรรธิวงศ์
เพศ : ชาย
อายุ : 15ปี

สัดส่วน สูง 173 น้ำหนัก 46 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ สังคม,ประวัติศาสตร์

อุปนิสัย : ชอบหยอกล้อเล่นกับผู้อื่นเป็นบางครั้ง และมีปัญหากับ มาร์เสมอ แต่บางครั้งก็มีน้ำใจมากเวลาช่วยเหลือผู้อื่น

เป้าหมาย : ต้องการจะเป็นนักวิชาการและลงสำรวจหาวัตถุโบราณ

อาชีพใน Project L.I.E. : Thief


ตัวละครอื่นๆ

Name : เกษมสุข Nickname : เกษม
Lastname : ใจชื่อหมาย
เพศ : ชาย
อายุ : 13ปี

สัดส่วน สูง 151 น้ำหนัก 42 วิชาที่ชอบ การงาน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

อุปนิสัย : มีความซุกซนเป็นบ้างครั้งและชอบประดิษฐ์สิ่งของแปลกๆ มาอยู่เรื่อย และโดนพี่สาวเตือนบ่อยครั้ง

เป้าหมาย : เพื่อต้องการจะสมัครเข้าเป็นผู้สร้างเอนจิ้นเกมใหม่ล่าสุด

อาชีพใน Project L.I.E. : Craftsmith

์Name : เวอร์คัส

Lastname : วินเชอร์
เพศ : ชาย
อายุ 22 ปี

สัดส่วน สูง 190 น้ำหนัก 75 กิโลกรัม

อุปนิสัย เป็นผู้วางแผนและดำเนินโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Project L.I.E.

เป้าหมาย : เพื่อนำบางสิ่งที่ตนเองได้ทำผิดลงไปนั้นไม่ให้ใครได้รู้



Name : Ameno Nickname : Ano
Lastname : wishering

อายุ : Unknown

สัดส่วนสูง 140 น้ำหนัก 40 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ : Unknown

อุปนิสัย : ชอบกินอาหารและร่าเริงอยู่เสมอถึงบางครั้งจะร้องไห้ในบางที

เป้าหมาย : หาผู้สืบทอดผู้ที่จะควบคุม Project L.I.E.

Name : อนุชาัติ Nickname : นุ
Lastname : พฤษาชื่น
เพศ : ชาย
อายุ : 19ปี

สัดส่วน สูง 180 น้ำหนัก 54 กิโลกรัม

อุปนิสัย : เป็นคนที่จริงจังกับงานและตั้งใจกับทุกจุดอยู่เสมอ แต่บางครั้งก็อู้งาน ตอนนี้ทำงานให้กับProject L.I.E.

เป้าหมาย : ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือ โปรแกรมเมอร์ดี

อาชีพใน Project L.I.E. Gunner

Name : ช่อฤดี Nickname : นา
Lastname : ชอุ่มฤทัย
เพศ : หญิง
อายุ : 21 ปี

สัดส่วน : สูง 170 น้ำหนัก 43 กิโลกรัม

อุปนิสัย : คอยตรวจหาสิ่งแปลกปลอมในแทบทุกอย่างไม่เว้นแม้ที่บ้าน มีออาชีพทำงานให้กับ Project L.I.E.

เป้าหมาย : ไปทำการสร้างที่อยู่ให้เจ้าตูบข้างบ้าน

อาชีพใน Project L.I.E. Medic



แถมสักนิด


หัวข้อดีที่ควรรู้กัน > w<"ระหว่าง Fiction กับ Novel มันต่างกันตรงไหน??"


"งานเขียนจะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ Fiction และ Non-fiction

Non-fiction คือ เรื่องที่ไม่ได้ แต่งขึ้น เป็นเรื่องจริง หรือความรู้ต่างๆ เช่น สารคดี อัตชีวประวัติคนสำคัญ เป็นต้น

Fiction คือเรื่องแต่ง เรื่องที่เกิดขึ้นจากจินตนาการ จะเป็นเรื่องแบบใดก็ได้ จึงครอบคลุมทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย และเรื่องแต่งอื่นๆ

N0vel คือนวนิยาย ซึ่งมีหลายประเภท อิโรติก โรแมนติก ก็ว่ากันไป (ไม่ขออธิบายเพิ่มเติมแล้วกันนะคะ)

เพราะฉะนั้นจากความหมายเราจะเห็นแล้วว่า...Novel เป็นสับเซตของ Fiction"

Thx Credit www.dek-d.com/board/view.php?id=737580



::Talking Zone::



คล้ายยุทธภพออนไลน์ กับไพรด์ออนไลนเลยนะครับ

แต่อันนี้จะเป็นแบบไทยแทนอ่าสิ :yes

pone123
24th September 2011, 22:15
พี่ก๊อดว่าไง ไปดูผลงานผมด้วยเด้http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=22203

inwfield
24th September 2011, 22:45
คล้ายยุทธภพออนไลน์ กับไพรด์ออนไลนเลยนะครับ

godji001
26th September 2011, 17:06
ขอรับตัวละครไม่ว่าจะเป็นชื่อ ไทย,ญี่ปุ่น,Eng,Etc. และขอรายละเอียดไม่เวอร์มากตามตัวตัวละครที่ตั้งมาแล้วบางส่วน = ="

(หาชื่อมีความหมายจะช่วยได้มากครับ)


และถ้าจะลงภาพช่วยทำตามข้างล่างด้วยนิดนะครับ :sweat



ฝากเผื่อบางคนคอมไม่ค่อยดีแนะนำให้นำรูปลงแบบ Thumbnail Size เพื่อไม่ให้คอมบางคนโหลดภาพไม่ขึ้นและขอความร่วมมือห้ามเอาภาพ Hotlink มาใส่ในกระทู้นะครับ

เพราะว่าถ้ามีคนเข้ามาชมเรื่อยๆภาพที่โพสไว้จะหายได้ครับ (หรือโหลดไม่ขึ้นนั้นเอง)

วิธีการโพสรูปแบบไม่ Hotlink สามารถทำตามได้ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ

http://p-achblog.exteen.com/20110819/entry


Thx Credit http://p-achblog.exteen.com/

ป.ล. Imageshack สามารถทำให้ภาพเมื่อเราโพสภาพมากๆจะทำให้ภาพไม่ขึ้นในภายหลัง ให้เปลี่ยนเวลาอัพโหลดภาพให้ใช้Host อื่นๆอัพรูปแทนครับ

ขอความรว่มมือด้วยนะครับ :cool:

อ่อ อาชีพสามารถ ช้ำได้นะครับไม่จำเป็นต้องไม่เหมือนกัน ;)

ป.ล. ตัวละครที่จะรับอาจจะไปตั้งอีกกระทู้หนึ่งครับอ่อและอย่าสบสันเรื่องกันนะครับ

pza00007
26th September 2011, 19:31
http://upic.me/i/5m/joipbm307696-02.jpg

Name :เสฎฐวุฒิ

Lastname : นิยมสามารถ

Nickname : ปูน

เพศ : ชาย

อายุ : 19 ปี

สัดส่วน สูง 180 น้ำหนัก 65 กิโลกรัม วิชาที่ชอบ Computer,English

อุปนิสัย เฮฮา อารมดี พูดเยอะในเวลาที่สมควรพูด พูดน้อยในเวลาที่สมควรพูด จริงจัง ตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ

เป้าหมาย : นักร้องนำในวงดนตรีซักวง และได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ที่ใหญที่สุดในประเทศ

อาชีพใน Project L.I.E. :Gunner

pone123
26th September 2011, 19:55
อยากจะส่งอะ แต่แค่ของตัวเองยังจะไม่รอดขอโทษนะพี่กำลังตัวละครตัวต่อไปอยู่:sweat

godji001
6th October 2011, 17:13
ณ ริมชายหาดแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากผู้คน ได้มี หญิงสาว และชายหนุ่ม คู่หนึ่งได้ยืนคุยกันอย่าตรงไปตรงมา...

....แต่ทว่ามันกลับเป็นเรื่องไม่เหมาะกับสถานที่เอาเสียเลย หญิงสาวที่คุยกับชายหนุ่มมีลักษณะตัวสูงพอๆกับไหล่ของเขา หน้าตาก็ดูสวยงามพอๆกับเจ้าหญิง ดวงตาเป็นสีฟ้าครามอ่อนๆผมสีดำขลับเงาและแต่งกายด้วยผ้าแพรไหม

และหญิงสาวผู้นั้นจึงได้ถามชายหนุ่มว่า

"ทำไม ท่านถึงต้องจากข้าไป" หญิงสาวถาม "ท่านน่าจะอยู่กับข้าให้ ข้าได้อยู่กับท่านแล้วชีวิตของข้าจะปลอดภัย"

ชายหนุ่มผู้นั้นมีลักษณะรูปร่างสันทัดมีบาดแผลฉกรรจ์เล็กน้อยดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาลประกายทองผมสีน้ำตาล สวมใส่ชุดเดินทางไกลและมีดาบพกติดอยู่ด้านหลังและที่เอวมีตำราเวทมนตร์โบราณกับมีดสั้น

จึงตอบกลับทำเสียงราบเรียบและบอกกับหญิงสาวผู้นั้นว่า

"ข้าเองก็อยากจะอยู่กับเจ้าเพียงแต่ว่าข้าไม่อาจรักเจ้าได้เพราะข้าเป็นเพียงแค่คนสามัญธรรมดา มิอาจจะไปอยู่กับคนอย่างเจ้าซึ่งมีฐานะรำรวยและเพียบพร้อมทุกอย่าง" หญิงสาวผู้นั้นจึงโต้แย้งทันที

"ก็เพราะข้ารักเท่านถึงอยากจะอยู่กับท่านเพราะถึงแม้ความคนจะมีฐานะหรือไม่ก็ตามและท่านก็ไม่ได้เป็นคนชั่วอะไรเลย" ชายหนุ่มผู้นั้นได้ยินและบอกกับหญิงสาวว่า

"เจ้าจงไปเถอะ กลับไปยังบ้านของเจ้าชะที่นั้นยังมีครอบครัว,เพื่อนๆของเจ้ารอเจ้าอยู่ นั้นนับถือว่าโชคดีแล้วที่เจ้ามีครบพร้อมทุกอย่าง เพียงแต่...."

"เพียงแต่อะไรหรือ?" หญิงสาวถาม "เพียงแต่ข้ามีชีวิตที่ลำบากต้องเดินทางร่อนเร่ไปทั่วทุกๆที่ข้าไปนั้นมักลงเอยด้วยความอัปโชคหรือไม่ก็มีความสุข"

"แล้วทำไมท่านไม่อยู่กับข้าล่ะเพราะข้าจะได้ช่วยท่านทำงานและขจัดความอัปโชคไปเสีย" ชายหนุ่มผู้นั้นพอได้ยินประโยคนี้เขากลับนึกถึงคำพูดหนึ่งที่เคยพูดไว้ตอนเด็ก... "นี่มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า!!" ชายหนุ่มพูดนั้นพูดใส่หญิงสาวจนทำให้เธอตกใจและร้องไห้ออกมา "ข..ขะ....ข้า..ข้าแค่อยากจะช่วยท่านเท่านั้นเอง...." หญิงสาวผู้นั้นจึงค่อยชับน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากดวงตาของเธอ

ชายหนุ่มผู้นั้นรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมากในการกระทำเพียงอารมณ์ เพียงชั่ววูบเดียว และจากนั้นเขาได้กล่าวขอโทษกับเธอ "ข้าขอโทษ....ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เจ้าเสียใจเพียงแต่ข้าไม่ได้อยากให้เจ้าต้องไปทนทุกข์ทรมานกับข้าเพียงแค่เหตุผลว่าเจ้ารักข้า"

"ข้าเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกันที่ทำให้ท่านต้องปล่อยโทสะออกมาเพียงแค่ข้าต้องการอยู่กับท่าน" หญิงสาวผู้นั้นตอบกลับ

.....

ทันใดนั้นเองก็มีกองกำลังทหารส่วนหนึ่งมีประมาณห้าคน พวกเขาแต่งกายด้วยชุดเกราะเต็มอัตราศึกและขี่ม้าควบมาและพร้อมกับเสียงตะโกนมาว่า "มันอยู่ทางนั้น!!"
ชายหนุ่มจึงคิดว่าคงจะเป็นเหล่าทหารรับจ้างที่ถูกเกณฑ์มาจับเขาโดยเฉพาะ ชึ่งหนึ่งในห้าของทหารนั้นมีตำราเวทมนตร์เช่นกับเพียงแต่ว่าตำราเล่มนั้นเป็นตำราแห่งการทำลาย

"ไปนำตำราเวทมนตร์ เล่มนั้นมาให้ข้าและนำตัวองค์หญิงกลับไปยังพระราชวังชะ" "Yes! my Lord. " พวกทหารได้รับคำสั่งจึงควบม้าไปยังจุดที่ชายหนุ่มและหญิงสาวยืนอยู่อย่างรวดเร็ว ส่วนชายหนุ่มก็ไม่รีรอ
เขาชักดาบออกมาเป็นดาบหินยาวประมาณ2ฟุต และก็เริ่มร่ายเวทมนตร์เป็นภาษาโบราณ "เจ้าจงไปหลบอยู่หลังข้าและข้าจะปกป้องเจ้าเอง" หญิงสาวพยักหน้าแล้วไปหลบอยู่ข้างหลังเขา
และกลุ่มทหารรับจ้างก็ควบม้ามาล้อมพวกเขาไว้ "เจ้าถูกล้อมแล้วยอมจำนนซะเถอะ เจ้านักเวท...." หญิงสาวกลับงงงันในสิ่งที่ทหารคนหนึ่งพูดมาและได้ตั้งคำถามกับชายหนุ่มว่า

"นี่ท่านเป็นนักเวทอย่างนั้นหรือทำไมท่านไม่บอกข้าเลย" พอสิ้นประโยคนั้นเสร็จเหล่าทหารก็ทำการชักดาบออกมาและมองกับดาบของชายหนุ่มและพูดว่า "เจ้าช่างโง่เขลาเสียจริงที่นำดาบนั้นออกมาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ มันควรจะแตกสลายไปกับกาลเวลาแล้วแท้ๆ แต่เหล่าจอมเวทกลับเชื่อว่าจะมีปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นเมื่อมีคนใช้ดาบเล่มนี้ต่อสู้กับ...."

ชายหนุ่มจึงท้วงทันทีว่า "แล้วทำไมพวกท่านถึงต้องการทำลายวิชาของพวกเรา เผ่าพันธุ์ของเราทั้งๆที่พวกเราอยู่ร่วมกันมานานนับไม่ถ้วนแล้วแท้ๆ หรือเพียงต้องการเพียงแค่ชื่อเสียงเงินทอง เท่านั้นเองหรือ?"
เหล่าหทารทั้ง4คนจึงไม่พอใจมากที่ได้ยินประโยคหลัง จึงทำการจะบั่นหัวของชายหัวให้ลงกับพื้น ณ ที่ตรงนั้น "ระวัง ข้างหลังท่าน!!" หญิงสาวตะโกนบอก ชายหนุ่มจึงรับดาบทันท่วงทีและปัดมันออกไป

และการต่อสู้ก็ดุเดือดขึ้นมาและชายหนุ่มได้ใช้ทักษะการต่อสู้ที่ได้รับตกทอดมายังรุ่นต่อรุ่น และสังหารเหล่าทหารไปสองคน แต่พอจะเข้าไปสังหารอีกสองคนที่เหลือก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า

"หยุดตรงนั้นเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้าไม่อยากใ้หหล่อนตาย" ชายหนุ่มจึงหันไปตามเสียงนั้นและพบว่าเป็นหัวหน้าของทหารรับจ้างนั้นเอง "เจ้า....เจ้านั้นเองที่เป็นคนทำลายหมู่บ้านข้า ข้าจะฆ่าเจ้าตอนนี้เลย"

ชายหนุ่มพูดขึ้นและเตรียมตัวที่จะพุ่งเข้าใส่แต่แล้วก็หยุดชะงักลง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของปีศาจ "ใช่แล้ว...เข้ามาสิเจ้าจะได้เห็นความตายของหญิงสาวคนนี้และเจ้าจะได้ถูกฆ่าตายตามนางไปด้วย"

"อย่าไปยอมมันนะ!" หญิงสาวบอก "หุปปากชะหากเจ้ายังไม่อยากตาย" หัวหน้าทหารพูดเสร็จและจี้มีดให้ไกล้คอของหญิงสาวมากขึ้นไปอีกจนเห็นเลือดไหลชิบออกมา

"เจ้ามันคนขี้ขลาด!!" ชายหนุ่มตวาดขึ้นและหญิงสาวก็สังเกตุเห็นว่าดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนสีจากน้ำตาลอ่อนเป็นสีน้ำเงินเข้ม
"เจ้าอย่าคิดแม้แต่จะมาช่วยนางเลยจะดีกว่า เจ้าไม่ต้องห่วงพวกข้าจะพานางกลับไปยังที่พักเอง และเจ้าก็ส่งหนังสือเล่มนั้นมาได้แล้ว" ชายหนุ่มเห็นว่าไม่มีทางเลือกจึงยอมอ่อนข้อและโยนหนังสือไปที่เท้าของหัวหน้าทหาร

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดข้าก็จะปกครองแผ่นดินนี้โดยสมบูรณ์และข้าจะขยายอำนาจออกไปจนข้าเป็นเจ้าของทั้งหมด เอาล่ะทีนี้ข้าหมดธุระกับเจ้าแล้ว" แล้วเข้าก็ลดมีดลงจากคอหญิงสาวแล้วสั่งให้ทหารนำไปไว้ที่ม้าและมองมาที่ชายหนุ่มแต่ทว่า...

...ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ได้อยู่ในสภาพปกติทั่วไปเขาได้ร่ายมนตร์เป็นภาษาโบราณลึกลับและบรรยากาศของท้องทะเลได้เปลี่ยนไปจากสงบและสว่างไสวแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดสิ้นทั้งทะเลก็มีคลื่นอันรุนแรงท้องฟ้าก็มืดครื้ม และชายหนุ่มก็ร่ายมนตร์ของเขาต่อไป และทหารก็ฟังภาษาที่ชายหนุ่มมพูดออกมาและแปลได้บางส่วนจึงทบทวนว่าบทนี้เป็นเวทมนต์ชนิไหนอยู่ในของเผ่าใด และหัวหน้าทหารจึงสั่งว่า

"พวกเจ้าจงฟังให้ดี ข้าจะเป็นคนจัดการเจ้านี่เองส่วนพวกเจ้าคอยคุ้มกันองค์หญิงให้ดี...." เปรี้ยง!! เสียงฟ้าผ่านลงมาข้างหน้าของหัวหน้าทหารแล้วก็เกิดหมู่ควันมากมายจนทำให้ให้หัวหน้าทหารมองเห็นไม่ชัด และเขาก็ค่อยๆทบทวน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่ แต่ในระหว่างนั้น เขาก็เหลือบมองว่าหญิงสาวยังปลอดภัยไหม แต่มีสิ่งหนึ่งเปลี่ยนไป คือ หญิงสาวทำสีหน้าหวาดกลัวอย่างสุดขีดเมื่อได้เห็นแค่ชุดเกราะกับเลือดทะไหลออกมาจากชุดเกราะของทหารเหล่านั้น และเขาก็หันกลับมาตั้งจุดสนใจกับชายหนุ่ม และพูดกับตัวเองว่า...

"นี่...มันเป็นไปไม่ได้" หัวหน้าทหารตลึงในสิ่งที่เขาสังเกตุมา "นี่มันมนต์ที่หายไปจากโลกแห่งนี้มานับหลาย ยุคแล้วนี่นา แต่ทำไมเจ้าถึงได้ร่ายมนตร์ได้ มีเพียงแต่สายเลือดเหล่าจอมเวทเท่านั้น..หรือว่าเจ้าคือ..."

อั๊ก! เสียงของหัวหน้าทหารที่โดนกระทุ้งเข้าที่ท้อง "เจ้าผู้ทำลายเผ่าพันธุ์ของข้า พี่นอ้งข้า รวมถึงคนของเจ้า บัดนี้คงถึงเวาที่ข้าจะต้องจบชีวิตเจ้าลง ณ ตรงนี้" เป็นเสียงของชายหนุ่มพูดขึ้นในกลุ่มหมอกควัน

"เจ้าจงเผยตัวออกมาชะ!! และข้าจะได้สังหารเจ้าตอนนี้เลย" หัวหน้าทหารแย้งขึ้น "ถ้าหากจะไม่เป็นการดูถูกเจ้าจนเกินไป....ข้าก็จักแสดงให้เห็น"
และท้องฟ้าก็กลับไปเป็นตามปกติ คลื่นทะเลสงบและดวงจันทร์ขึ้นตามปกติ หัวหน้าทหารได้มองชายหนุ่มอย่างตกใจสุดขีดเพราะรูปลักษณะของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยทรงผมยาวถึงกลางหลังเป็นสีขาวนวล ดวงตาของเขาเป็นสีน้ำเงินเข้มบาดแผลฉกรรจ์ก็หายไปและชุดของเขาก็ไม่ได้เป็นชุดเดินทางแต่กลับเป็นชุดเกราะโบราณสีเงินและมีคำจารึกเขียน สลักไว้สั้นๆว่า "แด่ผู้ชนะในสงคราม ในโลกหน้า" และชายหนุ่มก็ยืนมองเขาอย่างเศร้าสร้อย

แต่ยังไงความโหดร้ายของหัวหน้าทหารก็ไม่ได้หยุดให้เขาสังหาร และมุ่งหน้าไปเพื่อที่จะสังหารเขา "ตายชะเถอะเจ้าจอมเวท เอ๋ย!" แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้ทำอะไรเลยเพียงเขาแค่ใช้มือช้ายเปล่าเพียงข้างเดียวก็ปัดดาบของหัวหน้าทหารลงทะเลไปแล้ว ชายหนุ่มจึงมองเขาและถามว่า "เหตุใดเจ้า ต้องการให้เผ่าพันธุ์ของข้าตาย? ทำไมต้องทำลายอนุสรณ์ของเผ่าพันธุ์ข้า? ไหนจะรวมถึงการที่เจ้าฆ่าฟันกันเองอีก

เจ้าทำไปเพื่อเพียงแค่ต้องการอำนาจ ที่จะปกครองทุกสิ่งอย่างนั้นรึ?" หัวหน้าทหารกลับไม่พูดอะไรออกมาและคุกเข่าข้างหน้าชายหนุ่มสีหน้าของเขาดูสลดมากเพราะเขาทำไปก็แค่ต้องการเงินไปดูแลตัวเองไหนจะเรื่องเพื่อนๆของเขาที่ต้องตายไป อีก "ข้ายังไม่อยากตาย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!" หัวหน้าทหารอ้อนวอน "ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดแต่ข้าจะส่งเจ้าไปยังอีกโลกหนึ่ง ชึ่งเราจะได้เจอกันอีกครั้ง การต่อสู้ครั้งหน้าข้าจะสู้กับเจ้าตัวต่อตัวจะไม่มีตัวประกัน จะไม่มีใครได้รับความทรมาน เอาล่ะทีนี้เจ้าจงก้มหน้านึกถึงความผิดของเจ้าชะ!" หัวหน้าทหารได้ก้มหน้าลงและน้ำตาไหลออกมา ส่วนหญิงสาวได้แต่มองว่าเกิดอะไรขึ้น

และชายหนุ่มก็ได้ยกดาบขึ้นมาไว้ทำท่ายกดาบและร่ายมนตร์อีกครั้งแต่ทว่าเวทมตร์นี้มีความรู้สึกที่อบอุ่นและไม่เหมือนเวทมนตร์ที่จะทำลายล้างใครได้แต่หัวหน้าทหารก็สะอื้นจนเขาหยุดร้องไห้

และจากดาบหินเล่มนั้นได้แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วทรายก็รวมตัวกันที่ด้ามดาบและไปสุดที่ปลายดาบเมื่อทรายหลุดออก ดาบเล่มนั้นก็ส่องแสงสีฟ้าออกมา

"ไว้เจอกันอีกครั้งในโลกหน้าหากเจ้าพ่ายเจ้าจงหยุดการกระทำแบบนี้ชะ" ฉึบ! เป็นเสียงดาบที่ตวัดเข้าที่ศีรษะของหัวหน้าทหารแต่ดาบนั้นไม่สร้างบาดแผลแต่ทำให้หัวหน้าทหารสลายกลายเป็นไอน้ำรวมถึงตำราเวทมนตร์เล่มนั้นไปด้วย

หญิงสาวจึงวิ่งมาหาชาหนุ่มและชายหนุ่มมองมาที่หญิงสาว เขาก็ได้เพ่งสมาธิแล้วปีกสีขาวของเขาก็งอกออกมา

"ข้าจำเป็นต้องไปแล้ว มันถึงเวลาที่ข้าจะต้องเตรียมตัวในการต่อสู้ครั้งหน้า" ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาว

"แล้วข้าล่ะจะเป็นอย่างไรในเมื่อท่านไปแล้วข้าจะเป็นอย่างไรล่ะ?" หญิงสาวตอบ "ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เราเจอกันอีกครั้ง มีแต่สิ่งนั้นเพียงสิ่งเดียวที่ข้าเคยบอกเจ้าไว้" ชายหนุ่มตอบ

"ความหวัง" หญิงสาวพูดออกมาทันที และหญิงสาวจึงได้กอดเขาเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอเจอเขาถึงแม้จะเป็นเวลาที่สั้นๆที่เธอได้อยู่กับเขาแต่ก็เหมือนผ่านมานานมากแล้ว หญิงสาวได้จุมพิตชายหนุ่ม และคลายมือออก

ชายหนุ่มมองหญิงสาวคนนั้นและไปยังท้องฟ้าอันปลอดโปร่งและแสงตะวันที่ไกล้จะขึ้นมา ณ ขอบชายทะเล "ข้าต้องไปแล้ว แต่ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า" ชายหนุ่มยื่นจี้สร้อยอันหนึ่ง มันเป็นรูปดาวสีฟ้าและสายคล้องสีดำเงาวาว

"แล้วข้าจะเจอท่านอีกครั้งเมื่อไหร่?" หญิงสาวตอบ

"เจ้าจะเจอข้าีอีกครั้งเมื่อเจ้าค้นหาผู้ที่จะใช้สร้อยคอนี้ได้ และข้าจะอยู่ที่นั้น" ชายหนุ่มตอบกลับ

และเขาก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่เขาจะกลายเป็นขนนกทั้งส่วนเขาได้พูดอีกประโยคว่า "ขอบคุณที่เจ้าให้โอกาศข้าอีกครั้ง และลาก่อน"

"ลาก่อน" หญิงสาวตอบในขณะที่มองร่างเขากลายเป็นขนนกและเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นของเขา




"รินทร์... รินทร์... รินทร์~!!!! ตื่นได้แล้วนี่นายจะนอนตื่นสายไปถึงไหนกัน?" หมิวได้ตะโกนเรียกเขาจากโทรศัพท์มือถือ "นี่สายแล้วนะรู้ไหมอีก15นาทีรถจะออกแล้วนะเดี๋ยวนายก็ อดไปทัศนศึกษาหรอก"

รินทร์ได้หยิบไปมองที่นาฬิกาของเขาแล้วก็พบว่านี่มันเวลา 7.15 แล้ว "... ว๊าก!!! สายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? โธเอ้ยทำไมนาฬิกาไม่ปลุกล่ะเนี่ย~!!!!?" และรินทร์ก็รีบจัดการอาบน้ำแต่งตัวและคาบขนมปังไประหว่างลงบรรได

"ระวังล้มนะลูกวิ่งแบบนั้นน่ะ" แม่ของรินทร์เตือน "ครับแม่ผมไปก่อนนะครับ" และรินทร์ก็รีบวิ่งไปที่ร.ร. ทันที

pone123
6th October 2011, 18:31
นิยายทุกคนใหญ่ยาวกันทั้งนั้น แต่ของเราเล็ก สั้น ขยันซอย

godji001
6th October 2011, 22:04
นิยายทุกคนใหญ่ยาวกันทั้งนั้น แต่ของเราเล็ก สั้น ขยันซอย


ถ้าไม่ยาวแล้วจะเรียกว่านิยายรึ? :eek:

pone123
6th October 2011, 22:09
ของผมสั้นๆไม่ยาวบทหนึ่งก็ไม่กี่บรรทัด แต่ออกตลอด

Season
6th October 2011, 22:18
พยายามเข้าครับ เป็นกำลังใจให้ เดี๋ยวลองไปอ่าน

godji001
18th October 2011, 21:28
แฮ่ก...แฮ่ก...

"เมื่อไหร่มันจะถึง โรงเรียนสักทีเนี่ย!! อุตส่าห์ ตั้งนาฬิกาไว้แล้วแท้ๆเชียว" (@_@) รินทร์ลำพึงกับตัวเอง และในขณะนั้นในโรงเรียนระหว่างที่รินทร์กำลังวิ่งไปโรงเรียนนั้น ทางร.ร.ก็เริ่มนับจำนวนคนแล้วเริ่มอุ่นเครื่องรถเพื่อออกเดินทาง "แต่ละคนยังไม่มาเลย...เฮ้อ เจ้ารินทร์คอยดูเถอะมาถึง ร.ร. เมื่อไหร่ฉันจะอัดนายก่อนเลย ฮึ่ม..." มาร์ เด็กหนุ่มผมสีส้มอ่อนๆ ผิวขาว ตาสีน้ำตาล บ่นอย่างไม่พอใจ "แล้วนายไม่เคยคิดเลยรึไงว่าคนอื่นจะไม่มาน่ะ! (-*-) " นนท์ เด็กหนุ่มผิวสิน้ำตาล ผมสีดำ ตาสีแย้งบอก
"แล้วนายจะเอายังไงกับฉันล่ะ ห่ะ!?" มาร์พูดใส่กับนนท์แล้วจับคอเสื้อของนนท์ขึ้นมาแล้วง้างหมัดแต่ระหว่างนั้น "พอได้แล้วน่าทั้งสองคนนั้นน่ะเดี๋ยวก็โดนหักคะแนนหรอก" คุณครูประจำห้องตะโกนบอก "คะ...ครับ" ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน "แล้วเมื่อไหร่นายรินทร์จะมากันนะ" กานต์ บ่นอย่างไม่พอใจ "เอาล่ะขึ้นรถไปก่อนดีกว่าเรา" หมิวบ่ออย่างไม่ค่อยพอใจนักและขึ้นรถไป "เอาล่ะๆเราเสียเวลามากแล้วรีบขึ้นรถได้แล้วค่ะนักเรียนทุกคน" คุณครูหัวหน้าระดับชั้นบอกขึ้น

หลังจากนั้นนักเรียนทุกคนก็ขึ้นรถเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นรถทาง ร.ร. ก็ออกไปทันทีโดยไม่ได้รอรินทร์ "ระหว่างนี้ก็ขอหวังว่าเขาจะตามมานะ" .....


"หัวหน้าครับเราพบการเคลื่อนไหวของพลังงานสูงชนิดหนึ่งครับ" นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งบอกกับ หัวหน้านักวิจัย "ไหนลองตรวจสอบสิว่าแหล่งงานนั้นอยู่ไหน" นักวิทยาศาตร์กลุ่มย่อยๆลงมาก็เริ่มทำการค้นหาในเวลาไม่นานก็พบว่า.... "เด็กนั้น.....ตื่นจากการหลับไหลแล้วสินะ? ส่งหน่วยสอดแนมไปเราต้องการพลังงานชนิดนี้มาเปลี่ยนแกนพลังงานใหม่ งานนี้จะต้องสำเร็จไปได้!!" "รับทราบครับหัวหน้า"

เหล่านักวิทยาศาสตร์จึงหยิบอุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่เคยเห็นมาก่อนชึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากกว่าปัจจุบันแล้วออกเดินทางไปยังสถานที่ทางร.ร.ไปทัศนศึกษา......

"....เรามาไม่ทันสินะ" รินทร์ บ่นอย่างอย่างไม่พอใจ "อ้าว! รินทร์ไม่ไปทัศนะศึกษาหรอกเหรอ?" คุณครูคนหนึ่งขี่รถยนต์คนหนึ่งแต่สภาพไม่เก่ามาก "แล้วคุณครูไม่ไปไหนครับเนี่ย?" "ใครว่าครูไม่ไปล่ะ? หน้าที่ครูที่ได้รับคือหานักเรียนที่ตกรถและไปไม่ทันอย่างเธอไงล่ะ เอาล่ะขึ้นมาเลยหนุ่มน้อย" "แล้วมันจะดีเหรอครับ?" รินทร์ถามขึ้น "เอาเถอะน่าขึ้นๆมาเถอะ " "อ่า....ครับ"
แล้วรินทร์จึงขึ้นรถไปกับคุณครูฝึกหัดคนนั้นแต่ทว่าเป็นการเดินทางที่ออกจะพิลึกหน่อยก็คือ รถนั้นขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมและความร้อน นั้นหมายความว่าพวกเขากำลังนั่งรถเจ็ตดีๆอยู่นี่เอง
ระหว่างนั้นรินทร์ก็รู้สึกง่วงและได้หลับไปในรถเพราะเหนื่อยจากการวิ่งจากบ้านมา ร.ร.

"เอาล่ะทุกคนลงจากรถบัสได้ครับเรามาถึงที่ทัศนศึกษาเรียบร้อยแล้ว" พนักงานขับรถบัสได้ประกาศบอก "ในที่สุดเราก็มาถึงสักทีสินะ" หมิวพูดอย่างลอยๆ และในระหว่างที่เดินไปยังจุดรวมกลุ่มมาร์กับนนท์ก็ยังเถียงกันไม่หยุดเกี่ยวกับเรื่องเกมที่พวกเขาได้เล่นในช่วงปิดเทอม "นายไม่รู้หรอกว่าอาชีพฉันน่ะเก่งแค่ไหนอยากจะได้อะไรก็เพียงแค่ใช้ความไวแล้วก็ฉวยมาเองไม่เหมือนอาชีพของนายหรอกทำตัวเป็นอัศวินแล้วได้ค่าตอบแทนนิดเดียวน่ะ" นนท์บอกกับมาร์
"แล้วไงล่ะอาชีพของนายมันก็แค่ต้องหลบๆซ่อนๆไม่รู้จะอยู่ได้เป็นสุขได้รึเปล่า แต่อาชีพของฉันน่ะยังไงก็ดีกว่าเพราะฉันมีหน้าที่ปกป้องคนอื่นๆถึงจะได้บาดแผลก็แค่เป็นรอยถลอกแค่นั้นเองยังไงอาชีพของฉันน่ะดีที่สุดแล้ว" มาร์เถียงกับนนท์อย่างทันควันและกานต์เลยหักมุมสนทนาด้วยประโยคสั้นๆ

"พวกนายน่ะช่วยเงียบก่อนได้ไหมก่อนที่ฉันจะสาปพวกนายให้เป็นสัตว์ประหลาดน่ะ หืม?" "ใช่ๆเดี๋ยวฉันก็เอาธนูมายิงก้นพวกนายชะหรอก" หมิวพูดเสริมกานต์ "แต่ยังไงเราก็ขาดอาชีพที่สำคัญไปล่ะนะ"

"นี่รึว่าเธอกำลังหมายถึงอาชีพนั้นน่ะ?" นนท์ถาม "ใช่ อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่มีใครเคยได้มาก่อนนอกเหนือจากอาชีพพวกเราที่ทำการเลือกแล้วมันยังมีระบบหนึ่งชึ่งระบบนี้เป็นการสุ่มเลือกอาชีพทั้งหมดในเกมไม่ว่าจะเป็นNpcธรรมดาหรือบอสระดับสูงก็ตามชึ่งสามารถเป็นได้หมดเพียงแต่ความเสี่ยงคือ ผู้เล่นนั้นจะถูกหมายหัวเมื่อเข้าเมืองหลักๆมาและผู้เล่นอื่นๆสามารถกำจัดได้ยกเว้นเพียงแต่......" ก่อนที่หมิวจะพูดประโยคจบก็มีการประกาศออกมาว่า "ขอให้นักเรียนทุกคนมายังห้องประชุมในระยะเวลา10นาทีเพราะทางโรงเรียนมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ"

"เอาล่ะพวกเราสายแล้วรีบไปกันเถอะ" กานต์บอกกับทุกคน "นั้นสินะวิ่งไปกันเลยดีกว่าใครคนสุดท้ายเลี้ยงน้ำด้วยล่ะฉันไปก่อนล่ะ" "ฮะ...เฮ้ยนนท์ หนอยแก~!!!! มาท้ากันแบบนี้ก็สวยสิยังไงฉันก็จะไม่แพ้นายหรอก" มาร์จึงวิ่งไล่กวดนนท์ ส่วนกานต์กับหมิวก็วิ่งตามเหยาะๆไป

ในห้องประชุมทุกคนกำลังเตรียมตัวนั่งอยู่ในห้องประชุม และกลุ่มพวกกานต์ก็มาพบกับพอดีรินทร์ "รินทร์รีบไปห้องประชุมเร็วเข้า!" มาร์ตะโกนบอก รินทร์จึงวิ่งตามไปและ้เข้าทันประชุมพอดี "เอาล่ะครับนักเรียนทุกคนการที่เรามาทัศนศึกษาครั้งนี้เป็นการทัศนศึกษาที่ทางหน่วยงานวิทยาศาตร์ได้จัดตั้งขึ้นมาชึ่งรายละเอียดจะแจ้งในต่อไป ขอเชิญ ผู้อำนวยการสถานที่ทัศนศึกษาแห่งนี้เปิดงานได้ครับ" และผู้อำนวยการก็ลงจากเวทีไป และเจ้าหน้าที่ก็ขึ้นมาอธิบายส่วนต่างๆของสถานที่

"นักเรียนทุกคนคงทราบกันดีนะครับว่าที่นี่เปิดสถานที่พัฒนาระบบเอนจิ้นเกมล่าสุด L.I.E.นั้นเองครับ ชึ่งผลการตอบรับนั้นได้สูงมากเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียวชึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ทำการพัฒนาเอนจิ้นนี้สะดวกสบายมากขึ้น" "แล้ว L.I.E. จะมีอะไรใหม่ๆมาหรือเปล่าครับ?" นักเรียนคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น "แน่นอนครับจะมีระบบใหม่ๆเข้ามาชึ่งทางทีมงานกำลังพัฒนาอยู่ชึ่งเป็น ระบบเสริมขึ้นมาชึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นได้ความรู้สึกไปพร้อมกันกับเกมครับ"

"แล้วระบบนี้จะไม่อันตรายต่อผู้เล่นหรือครับ?" คุณครูคนหนึ่งถาม "ระบบนี้ไม่ต้องห่วงครับเพราะผู้เล่นจะได้ความรู้สึกไปพร้อมๆกันเพียงแต่ร่างกายจะไม่บาดเจ็บครับ หากเกิดมีข้อผิดพลาดทางทีมงานจะทำการออกค่าเสียหายทุกอย่างครับ เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราเริ่มออกทัวร์กันดีกว่าครับ" นักเรียนจึงจับกลุ่มและเริ่มออกเิดนทัวร์ตามที่เจ้าหน้าที่จัดเอาไว้

"คิดว่านายจะไม่มาชะแล้วรินทร์" กานต์บอก "ใช้ๆพวกเราคิดว่าเอามัวแต่นอนอยู่ในบ้านชะอีกนะ" นนท์พูดเสริม "ไหนๆก็มาแล้วเลี้ยงน้ำพวกเราหน่อยสิ" มาร์บอกรินทร์ "....ขอโทษนะฉันไม่ได้เอาเงินมาน่ะ"
"หมายความว่าไงนายไม่ได้เอาเงินมาน่ะหา!!!" มาร์ตะโกนใส่รินทร์ "พอได้แล้วน่ะมาร์" หมิวพูดขึ้น "มาเร็วยังต้องไปต่อนะ"

ผ่านไปสักพักทีมงานก็ให้นักเรียนเดินทัวร์รอบๆได้โดยให้เวลา 1ซม. แล้วกลุ่มรินทร์จึงรีบตรงบึ่งไปที่จุดล็อกอินของ L.I.E.

โดยนนท์บอกกับรินทร์ว่า "นายจะต้องลองเล่นให้ได้นะเอนจิ้นนี่สุดยอดเลยล่ะ มันทำให้นายอยู่ในโลกของเกมไม่ต่างจากโลกความจริงเลยล่ะ"
"โลกเกม.....กับโลกแห่งความจริงเหรอ?" รินทร์ถามอย่างสงสัย "ใช่แล้วละรินทร์ แต่มีข้อแตกต่างคือโลกเกมนั้นเวลาจะผ่านไปเร็วกว่าของจริงเยอะเลยล่ะ ถ้านายไปอยู่ในนั้น1วันจะเท่ากับเวลาโลกจริงผ่านไปแค่10นาทีเองล่ะ"
"และทำไมบอกว่าเป็นโลกเสมือนจริงแท้ๆทำไมไม่เอาเวลาให้เป็นตามความจริงด้วยล่ะ" รินทร์ชักถามนนท์ "พอดีว่าทีมงานบอกว่าตรงนี้เป็นกฏของทางหัวหน้าสั่งมาน่ะเลยไม่ทำเวลาให้ต่างกันมากนัก"
มาร์บอกรินทร์ และชูโทรศัพท์ให้ดู "รินทร์ L.I.E. สามารถเชื่อมต่อยังไงก็ได้เพียงแค่นายอยู่ไกล้กับแสงหรือความร้อนอะไรก็ได้ ส่วนของที่จะใช้ล๊อกอินก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นโทรศัพท์มือถือหรอกเพราะไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ล็อกอินได้หมดนั้นล่ะ แค่เอาไปให้ทางเจ้าหน้าที่ล็อกอินทางให้ชึ่งนายจะล็อกอินได้หนึ่งครั้งเพื่อไปเลือกอาชีพระหว่างรอเจ้าหน้าที่สร้างไอเท็มล็อกอินให้"

"เอาล่ะพวกเราไปล็อกอินกันดีกว่า รินทร์......นายคนแรกเลย" แล้วนนท์ก็ผลักรินทร์เ้ข้าไปยังจุดล็อกอิน "แต่...เฮ้ย!!! เดี๋ยวสิ...." แล้วก็เกิดแสงสว่างจ้าแล้วรินทร์ก็หลับตาและเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่สองคนกำลังนั่งจัดเอกสารอยู่ โดยมีหมายเลขกำกับเอาไว้ 0.1 และ 0.2 "สวัดดีค่ะยินดีต้องรับสู่จุดล็อกอินครั้งแรกค่ะ" พนักงานหมายเลข 0.1 ไหว้รินทร์อย่างเป็นมิตรและรินทร์ก็ไหว้ตอบกลับเช่นกัน
"รายละเอียดต่อไปหมายเลข0.2จะเป็นคนอธิบานนะค่ะ" โครม... เสียงเอกสารกองเท่าโต๊ะงานล้มลงโดยมีพนักงานหมายเลข0.2กำลังเก็บเอกสารอย่างลนลาน
"หวา....แย่แล้วหากไม่รีบเก็บโดนหักเงินเดินแน่ๆเลยเรา" "ให้ผมช่วยไหมครับ?" รินทร์ถามขึ้นอย่างสุภาพ "ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณมากค่ะ กรุณาเขียนข้อมูลให้ครบและวางของที่จะเป็นไอเท็มในการที่จะใช้ล็อกอินบนโต๊ะด้วยค่ะ
อ่อ อย่าลืมไปเลือกอาชีพก่อนเริ่มด้วยนะค่ะ" และพนักงานหมายเลข0.2ก็ไปจัดการกับเอกสารต่อ ส่วนรินทร์จึงปลดสร้อยคอที่ใส่มาวางบนโต๊ะแล้วไปยังจุดเลือกอาชีพ "เอาล่ะได้เวลาเลือกอาชีพแล้วสินะ" และรินทร์ก็ถูกส่งไปยังจุดเลือกอาชีพชึ่งมี Npcที่มีชีวิต(จะไม่ตอบคำถามช้ำไปมาและใช้ชีวิตเหมือนคนในชีวิตจริง)และกลุ่มหัวหน้าแต่ล่ะสายอาชีพนั้นได้แนะนำอาชีพต่างกับรินทร์

แต่เป็นที่หน้าผิดหวังเพราะรินทร์ไม่ได้เลือกอาชีพอะไรเลยเพราะรินทร์ได้เลือกว่าจะไม่เอาอาชีพที่ช้ำกับคนอื่นเพื่อที่จะไม่เป็นคนลำบากต่อตนเอง และรินทร์จึงเผลอไปเลือกคำสั่งประหลาดอย่างหนึ่งชึ่งคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งที่ยังไม่มีผู้เล่นคนไหนเลือก และท้องฟ้าในเมืองก็กลับกลายเป็นสีดำและเกิดแสงมายังรินทร์ชึ่งรินทร์ป้องแสงไว้ไม่ให้กระทบตาและรินทร์ก้ปัดฝุ่นที่เกาะในคำสั่งและเขาเผลอไปกดคำสั่ง


....Risk

pone123
18th October 2011, 21:30
โอ๊ย กว่าจะมาทำอะไรอยู่ห๊ะ

godji001
18th October 2011, 21:35
โอ๊ย กว่าจะมาทำอะไรอยู่ห๊ะ

แปล BRS Innocent Soul Ep.2 อยู่น่ะ - -*