zpmqhj
28th May 2014, 06:22
คุณแอบเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆนาๆ ที่มีแต่เบาะแสที่ไม่ชัดเจน แต่ลึกๆในใจคุณก็คิดว่าเป็นไปได้หรือปล่าว?!
อย่างที่กล่าวไปแหละครับ ทั้งเรื่องเวทย์มนต์หรือพลังพิเศษต่างๆนาๆ มันอาจจะฟังดูไร้สาระก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้อย่างเช่นดูจากคำถามพวกนี้
1.นี่คือยุคหิน เราใช้หนังสัตว์เป็นเสื้อผ้า เราล่าสัตว์เป็นอาหาร เราอาศัยในถ้ำ ผมมาจากยุคปัจจุบันกลับมาหาพวกคุณแล้วบอกว่า โลกนี้มียานพาหณะ มีเครื่องบิน มีคอมพิวเตอร์ เราคุยทางไกลกันด้วยโทรศัพท์และโซเชียลต่างๆนาๆ แน่นอนคุณไม่เชื่อผมและหาว่าผมบ้า
2.science is fact เราทุกคนยืนยันทุกสิ่งบนโลกแบบมีน้ำหนักโดยอิงจากสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ใช่มั้ยล่ะครับ? แต่ลองคิดดีๆ วิทยาศาสตร์เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์เจอ ณ ตอนนั้นแค่นั้น สิ่งที่มีหลักฐานแน่นอน ณ ตอนนั้น ย้ำว่า ณ ตอนนั้น ถ้าอนาคต ยืนยันได้ว่าผีมีจริง? มีคนลอยฟ้าได้? มันก็คงจะถูกบันทึกลงในวิทยาศาสตร์โลกใช่ไหมล่ะครับ นั้นแหละครับ วิทยาศาสตร์ยืนยันทุกสิ่งก็จริงนะครับแต่ไม่ใช่ตลอดไป
3.ยกตัวอย่างจากข้อ 2 นะครับ สัตว์แปลกๆต่างๆนาที่ค้นพบในท้องทะเลลึกหรือที่ไกลๆ นั้นแหละครับตัวอย่างง่ายๆ บางประเภทที่เราเจอนี่หน้าตาสีสันและขนาดๆต่างๆนานา ดูแปลกและน่าตกใจมากถ้ามาพูดให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อและด่ากลับมาว่า ตัวประหลาดแบบนั้นจะมีได้ยังไง????
4.ถ้าคิดว่ามันไกลตัวเกินไปลองนึกง่ายๆแค่กับโลกเราและสิ่งมีชีวิตต่างๆนาๆ ลองนึกย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นสิครับ มันน่าคิดนะ โลกเรามาจากไหน? ทฤษฤีบิ้กแบงมีอะไรมายืนยันว่าโลกเราเกิดมาแบบนั้นจริงๆ? ปัญหาโลกแตกไก่กับไข่?
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาพูดกันเยอะแยะว่าอันนี้เกิดก่อนนะอันนี้เกิดก่อนนะบลาๆๆ แต่มันก็ไม่มีอะไรยืนยันได้แน่ชัด
5.ผู้คนมักคิดว่าสิ่งที่ไม่มีหลักฐานหรือไม่แน่ชัด มันไม่มีตัวตน[ผี,พลังวิเศษ,เทพเจ้า บลาๆๆๆ] มันก็ถูกนะครับที่เราไม่มีหลักฐานที่จะมายืนยันอะไรซักอย่าง แต่ลองคิดกลับกันนะครับ เราก็ไม่มีหลักฐานยืนยันเหมือนกันว่ามันไม่มีตัวตนหนิ!?
6.จักรวาลหน่ะ พูดถึงคำนี้คงไม่ได้คิดไรมาก แต่ลองนึกถึงความประหลาดของมันดีๆ เราแค่เคยชินกับมันจนไม่รู้สึกอะไร แต่ลองคิดดีๆ โลกเรานี่มันแปลกนะครับ ทั้งระบบสุริยะ แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดต่างๆนาๆ และสิ่งแปลกๆในจักรวาล
7.คิดว่าที่ขอบของอวกาศเป็นยังไง? มันต้องมีไรซักอย่าง คำว่าไม่มีที่สิ้นสุดคืออะไร แค่คุณลองหลับตาแล้วคิดถึงสถานที่ซักแห่งที่มันไร้ขอบเขตสิ นึกภาพไม่ออกใช่มั้ยละ หรือประมาณว่า มันgenerate map ต่อๆไปแบบ minecraft !!? [ล้อเล่นหน่ะครับ] คือผมเคยคุยเรื่องนี้ตอนเด็กๆกับพ่อนะ พ่อก็บอกผมว่า ละจะให้เอาอะไรไปปิดมันล่ะ? มันก็น่าคิดนะครับ ถ้าจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ผมงงกับคำนี้มาก มันจะเป็นยังไงหรอ เป็นที่ดำๆ มีดวงดาว แล้วก็ดำไปเรื่อยๆ ไม่จบ? หรือบางทีมันวนกลับมาที่เดิม? หรือว่ามันมีเขตกั้นอยู่ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น หลังเขตนั้นเป็นอะไรล่ะ? คิดละปวดหัวจริงๆนะครับ -..-
8.คุณเชื่อเรื่องเอเลี่ยนมั้ย สำหรับผมเชื่อนะ ลองคิดดูสิ จักรวาลมันใหญ่มากนะ คงไม่ใช่มีแค่โลกมั้งที่มีอะไรอยู่ ถ้าแบบนั้นโลกก็คง vip เกินไปสำหรับอวกาศละแหละ หรือถ้าเป็นแบบนั้นจะสร้างอวกาศมาใหญ่แบบนี้ทำไมถ้ามีสิ่งมีชีวิตแค่ดาวเดียว?
มันก็แค่กระทู้ที่ลองคิดแปลกๆดูบ้างนะครับ คำถามที่อืม... ไม่ค่อยมีคำตอบ เราก็ลองมาคิดๆกันดูนะครับ
ปล.กระทู้นี้ต้องคิดตามนะครับ ถ้ามองในมุมคนทั่วไปมันก็ไร้สาระแหละ เราต้องคิดแปลกๆกันบ้าง :o
ผมเคยดูสารคดีอยู่นะ ว่าโลกเราอยู่ห่างจากดาวอื่นมากเกินไปไม่ใช้หรอ :confused::confused:
ห่างแล้วยังไงหรอครับ หมายถึงเอเลี่ยนหรอหรืออะไรยังไง ขอลายละเอียดเพิ่มหน่อยครับ ผม งง - -" :)
เอเลี่ยนเชื่อคับ เพราะประวัติศาสตร์ก็มีรูปแกะสลักต่างๆที่อาจเชื่อมโยง
ศาสนา ต้องมีถ้าไม่มีโลกนี้คงวินาศ เป็นสิ่งที่ทำดีแล้วสบายใจ เพราะถูกปลูกฝังมาหลายปี
ผี ในความคิดเป็นสิ่งที่บางคนยึดถือยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อเพิ่มพลังให้กับจิตใจหลายเท่า ป้าผมปวดขาปวดหัว ก็หาอะไรมาไหว้ศาลไหว้ผี และก็หายไปเอง... (ยาใจ) แต่หมอปลากลับทำให้ผมที่ไม่เชื่อในผีสาง เริ่มเชื่อขึ้นนิดหน่อยเพราะยังไม่เจอ
คำถามที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้สักทีคือ ทำไมต้องเกิด แล้วก็ตาย แล้วใครสร้าง ไม่มีใครสร้างแล้วมันผุดมาจากอะไร ยาว.................... :o
1.อย่าเชื่อประวัติศาสตร์สิครับ ตอนนี้เรากำลังคิดโดยที่ไม่มีหลักฐาน เราจะไม่อิงของเดิมครับ ลองคิดสิ่งใหม่แปลกๆ ที่มันกำลังจะถูกค้นพบ หรือกำลังจะเกิดไรแนวนี้มากกว่า
2.กรณีผีของคุณป้าท่านอาจจะเป็นเพราะเกิดความสบายใจแล้วทำให้รู้สึกบรรเทาลงก็เป็นได้ครับ [คล้ายๆกับกำลังใจทำให้มีแรงเพิ่มในการทำอะไรซักอย่าง] แต่ผีในกรณีผมคือคนที่อยู่ในรูปแบบแปลกๆไรแบบนั้นครับ
3.ศาสนาที่ใช้ปกครองคน อันนี้ก็พอเข้าใจอยู่ครับ
;2515413']ผมชอบคิดเรื่องพวกนี้แล้วไปพูดกะเพื่อน มันหาว่าผมบ้า T T
5555 คนเรามีความคิดต่างไม่ได้แปลว่าบ้าหรอกครับ บ้าสำหรับผมความหมายคือคนที่มีความผิดปกติทางสมองครับ ไม่ใช่คนที่มีความคิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ซะหน่อย :)
คิดยังไงก็ยุ่งยากครับ กับแค่ จขกท.อยากพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมา หรือมีบางสิ่งสั่งให้ จขกท.พิมพ์ขึ้นมา
สรุปคือ เราอยากทำเอง หรือมีอะไรบันดาลให้เราอยากทำ คิดแค่นี้ถ้าเถียงกันจริงๆก็ไม่จบไม่สิ้นแล้ว 5555
มีอีกๆๆ ลองคิดดูเล่นๆน้าา พระเจ้าเนี่ย?? เชื่อได้เหรอ???? 5555
เอ้าเข้าเรื่องๆ เขาว่ากันว่าพระเจ้าทำได้ทุกสิ่งใช่มะ แล้วสมมุติว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งได้
เนรมิตทุกสิ่งได้ พระเจ้าสามารถยกได้ทุกอย่าง ทำได้ตามใจตัวเองหมด แล้วว...
คุณพระเจ้าเนี่ย สามารถสร้างหินซักก้อนที่ตัวเองยกไม่ได้ ได้หรือเปล่านะ?
เอ้าแล้ว ถ้าสร้างได้พระเจ้าก็ยกไม่ขึ้นน่ะสิ แล้วไหนว่าพระเจ้าทำทุกอย่างได้
แต่ดันยกหินที่ตัวเองสร้างไม่ได้เนี่ยนะ? 5555 แล้วพระเจ้าทำในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ได้หรือเปล่า
บางคนอ่านแล้วอาจจะ งง บางคนก็คิดอีกแบบ ความเชื่อที่เป่าหูเราแต่เด็ก คิดไปได้อีกเยอะนะครับ
55555 คิดละปวดหมอง ส่วนตัวผมไม่เชื่อไรเลย แต่กลัวผีเพราะหนังผีเนี่ยหละ -.- 5555
ผมชอบเม้นนี้มากเลยครับ มีเหตุผลจริงๆ5555 อืม...นั้นสิครับ เอางี้สิ เราไม่ได้เถียงกันครับ เราจะคิดไปในทางเดียวกันช่วยกันตอบคำถามแปลกๆของโลก อืม จะพูดไงดี5555 เอาเป็นว่า ใครอยากคิดเห็นยังไงก็เต็มที่เลยครับ ไร้ขอบเขต 555555555555
หมายความว่าพระเจ้ามีความสามารถที่ว่าทำได้ทุกอย่างสิน่ะครับ ถ้าพระเจ้าสร้างหินที่ตัวเองยกไม่ไหวขึ้นได้ ก็แปลว่าจะยกมันไม่ได้? ก็คือผิดตามความสามารถ
หรือถ้าจะบอกว่าไม่มีหินแบบไหนที่พระเจ้ายกไม่ขึ้น แสดงว่าพระเจ้าทำไม่ได้ทุกอย่าง เพราะสร้างหินยักษ์ที่ตัวเองยกไม่ไหวไม่ได้สินะ? แหม่สับซ้อน
มันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ผมเชื่อว่า บางทีเวทมนตร์มันก็คือ เทคโนโลยี ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้นั่นแหละ
จริงๆ หลักการในทางวิทยาศาสตร์ หรือ Approach ในแนวนี้ มันก็เป็นมายาคติอีกอย่างนึงในยุคหลังปฏิวัติวิทยาศาสตร์นะ
เพราะ จะเชื่อไรก็ต้องเอามาพิสูจน์ ด้วยขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ด้วยข้อมูลเชิงตัวเลข ด้วยสูตรมาตรวัดต่างๆที่วิชาวิทยาศาสตร์สร้างขึ้น
แต่หารู้ไม่ว่า ในทางกลับกันเราถูกครอบงำด้วยการสร้าง "องค์ความรู้" ในแบบของวิทยาศาสตร์ กลายเป็นว่า อะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
ก็คือไม่สามารถเชื่อถือ อันนี้ถ้ามองในเชิงปรัชญาบางแขนง หรือ ในเชิงสังคมวิทยา ไอ้วิทยาศาสตร์ก็มีโครงสร้างที่ค่อนข้างจะไม่ต่างจากลัทธิหรือศาสนาเลย
ที่มีกลวิธี หรือ วิธีวิทยา ของตนเองในการสร้างองค์ความรู้ และการจัดองค์กรทางสังคมขึ้นมา
สิ่งเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้เลยถูกพับเก็บไว้หรือถูกติดปายว่าเป็นสิ่งหลอกหลวงไปโดยปริยาย
เนื่องจากความสามารถ หรือ ศักยภาพของวิทยาศาสตร์ที่มีขอบเขตในการเอาชนะข้อมูล ข้อเท็จจริง มีไม่เพียงพอ
เป็นมุมมองนึงจากทางฝั่งคนในสายสังคมศาสตร์ ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร อันนี้ผมพยายามอธิบายโดยยึดวิธีคิดแบบ Posุtmodern
ตามแนวกระแสปรัชญาของโลกวิชาการสังคมศาสตร์ในช่วงนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเห็นอันนี้อาจจะไม่อิงหลักวิทยาศาสตร์อะไรเลย
ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือให้ความสำคัญอะไรกับมันมาก 5555
ถ้าพูดในทางปรัชญา Postmodernism ในแบบของ J.F. Lyotard ก็อาจบอกได้ว่า วิทยาศาสตร์ ก็คือเรื่องเล่า หรือ นิทานที่ยิ่งใหญ่
ที่คนในยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นเพื่อครอบงำคนรุ่นหลัง (Meta-Narratives)
เผื่อใครที่สนใจเพิ่มเติมผมแนะนำให้ไปอ่านคำอธิบายเรื่อง วิทยาศาสตร์ เพิ่มเติม ในงานสังเขปการบรรยายของ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์
ในหนังสือเรื่อง Deconstruct - ถอดรื้อมายาคติ ดูละกัน
มาเต็มเลย55555 น่าสนใจครับ มุมมองของวิทยาศาสตร์? ผมชอบมากเลยตรงที่บอกว่า วิทยาศาสตร์มันยังไม่ถึงขั้นกับข้อมูลที่นำมาพิสูจสินะ? พอพิสูจไม่ได้ ก็ตีความว่ามันเป็นเท็จซะงั้น อืม... น่าคิดในข้อนี้
เรื่องผีนี้ผมขอเล่าประสบการณ์หน่อยนะครับ ตอนนั่นผมอายุประมาณ 5-6 ขวบ ซึ่งก็พอจำความได้บ้างแหละ ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่เคยมีความเชื่อหรือสิ่งบันดาลใจให้จินตนาการได้ว่าผีนั่นมีรูปร่างยังไงนะครับ ส่วนที่ผมเห็นนั่นก็บริเวณหน้าต่างชั้น 2 ห่างจากผมก็ไม่กี่เมตรเองครับ เป็นชายแก่หน้าตาจำไม่ได้แต่ โดนมีดผ่าหัวแบะเลยครับ จนบัดนี้อายุ 17 ปีก็ยังจำเหตุการนั่นไม่ลืมและไม่เคยที่จะไม่เชื่อว่าผีไม่มีจริงเลยครับ -*-
เรื่องนี้น่าสนใจนะครับประเด็นผีเนี้ยก็ถือว่าหลักฐาน 50/50 เลยนะ เพราะคนที่เคยเห็นค่อนค่างมากพอสมควร งั้นตามที่ท่านเล่ามา ท่านเห็นชัดเจนไหมครับ หรือแค่เห็นแว๊บเดียว หรือยังไง เพราะบางทีความกลัวที่เราสร้างขึ้น มันทำให้เราจินตนาการออกมาแปลๆได้นะครับ คล้ายๆกับความฝันหรืออะไรที่เกิดขึ้นแว๊บเดียว ลองเล่ารายละเอียดให้มากกว่านี้ได้ไหมครับ น่าสนใจทีเดียว แล้วถ้าคุณเห็นจริงๆ ชายแก่คนนั้นต้องการอะไรจากคุณ ทำไมเค้าถึงมาให้คุณเห็นละ น่าคิดๆๆๆ
เขามีประวัติศาสตร์ ก็ไม่ให้เชื่อซะงั้น งงกับ กขจท.
ผมหมายถึงประมาณว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องที่อาจจะเกิดแต่ยังไงม่เกิด!? คือเราจะไม่มองย้อนไปสิครับ ความคิดออกแนวมาจากข้างหน้ามากกว่าอิงสิ่งที่มีอยู่ เพราะกระทู้นี้พูดถึงแต่เรื่องที่ยังไม่มีตัวตนในปัจจุบันหน่ะสิครับ :o
http://www.youtube.com/watch?v=jM6-_cB2J0Q
สิ่งนี้คือเท่าที่คนเรารู้ตอนนี้สินะครับ? ภาพจำลองจากความคิดที่มีหลักฐานประกอบ ณ ตอนนี้? ไม่แน่นะจักรวาลอาจเกิดมาจากจุด 1 จุด ก็ได้ ผ่านไป 1 วิ ทุกอย่างออกมาแบบปัจจุบัน?555555 ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับผม
อย่างที่กล่าวไปแหละครับ ทั้งเรื่องเวทย์มนต์หรือพลังพิเศษต่างๆนาๆ มันอาจจะฟังดูไร้สาระก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้อย่างเช่นดูจากคำถามพวกนี้
1.นี่คือยุคหิน เราใช้หนังสัตว์เป็นเสื้อผ้า เราล่าสัตว์เป็นอาหาร เราอาศัยในถ้ำ ผมมาจากยุคปัจจุบันกลับมาหาพวกคุณแล้วบอกว่า โลกนี้มียานพาหณะ มีเครื่องบิน มีคอมพิวเตอร์ เราคุยทางไกลกันด้วยโทรศัพท์และโซเชียลต่างๆนาๆ แน่นอนคุณไม่เชื่อผมและหาว่าผมบ้า
2.science is fact เราทุกคนยืนยันทุกสิ่งบนโลกแบบมีน้ำหนักโดยอิงจากสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ใช่มั้ยล่ะครับ? แต่ลองคิดดีๆ วิทยาศาสตร์เป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์เจอ ณ ตอนนั้นแค่นั้น สิ่งที่มีหลักฐานแน่นอน ณ ตอนนั้น ย้ำว่า ณ ตอนนั้น ถ้าอนาคต ยืนยันได้ว่าผีมีจริง? มีคนลอยฟ้าได้? มันก็คงจะถูกบันทึกลงในวิทยาศาสตร์โลกใช่ไหมล่ะครับ นั้นแหละครับ วิทยาศาสตร์ยืนยันทุกสิ่งก็จริงนะครับแต่ไม่ใช่ตลอดไป
3.ยกตัวอย่างจากข้อ 2 นะครับ สัตว์แปลกๆต่างๆนาที่ค้นพบในท้องทะเลลึกหรือที่ไกลๆ นั้นแหละครับตัวอย่างง่ายๆ บางประเภทที่เราเจอนี่หน้าตาสีสันและขนาดๆต่างๆนานา ดูแปลกและน่าตกใจมากถ้ามาพูดให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อและด่ากลับมาว่า ตัวประหลาดแบบนั้นจะมีได้ยังไง????
4.ถ้าคิดว่ามันไกลตัวเกินไปลองนึกง่ายๆแค่กับโลกเราและสิ่งมีชีวิตต่างๆนาๆ ลองนึกย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นสิครับ มันน่าคิดนะ โลกเรามาจากไหน? ทฤษฤีบิ้กแบงมีอะไรมายืนยันว่าโลกเราเกิดมาแบบนั้นจริงๆ? ปัญหาโลกแตกไก่กับไข่?
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาพูดกันเยอะแยะว่าอันนี้เกิดก่อนนะอันนี้เกิดก่อนนะบลาๆๆ แต่มันก็ไม่มีอะไรยืนยันได้แน่ชัด
5.ผู้คนมักคิดว่าสิ่งที่ไม่มีหลักฐานหรือไม่แน่ชัด มันไม่มีตัวตน[ผี,พลังวิเศษ,เทพเจ้า บลาๆๆๆ] มันก็ถูกนะครับที่เราไม่มีหลักฐานที่จะมายืนยันอะไรซักอย่าง แต่ลองคิดกลับกันนะครับ เราก็ไม่มีหลักฐานยืนยันเหมือนกันว่ามันไม่มีตัวตนหนิ!?
6.จักรวาลหน่ะ พูดถึงคำนี้คงไม่ได้คิดไรมาก แต่ลองนึกถึงความประหลาดของมันดีๆ เราแค่เคยชินกับมันจนไม่รู้สึกอะไร แต่ลองคิดดีๆ โลกเรานี่มันแปลกนะครับ ทั้งระบบสุริยะ แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดต่างๆนาๆ และสิ่งแปลกๆในจักรวาล
7.คิดว่าที่ขอบของอวกาศเป็นยังไง? มันต้องมีไรซักอย่าง คำว่าไม่มีที่สิ้นสุดคืออะไร แค่คุณลองหลับตาแล้วคิดถึงสถานที่ซักแห่งที่มันไร้ขอบเขตสิ นึกภาพไม่ออกใช่มั้ยละ หรือประมาณว่า มันgenerate map ต่อๆไปแบบ minecraft !!? [ล้อเล่นหน่ะครับ] คือผมเคยคุยเรื่องนี้ตอนเด็กๆกับพ่อนะ พ่อก็บอกผมว่า ละจะให้เอาอะไรไปปิดมันล่ะ? มันก็น่าคิดนะครับ ถ้าจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ผมงงกับคำนี้มาก มันจะเป็นยังไงหรอ เป็นที่ดำๆ มีดวงดาว แล้วก็ดำไปเรื่อยๆ ไม่จบ? หรือบางทีมันวนกลับมาที่เดิม? หรือว่ามันมีเขตกั้นอยู่ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น หลังเขตนั้นเป็นอะไรล่ะ? คิดละปวดหัวจริงๆนะครับ -..-
8.คุณเชื่อเรื่องเอเลี่ยนมั้ย สำหรับผมเชื่อนะ ลองคิดดูสิ จักรวาลมันใหญ่มากนะ คงไม่ใช่มีแค่โลกมั้งที่มีอะไรอยู่ ถ้าแบบนั้นโลกก็คง vip เกินไปสำหรับอวกาศละแหละ หรือถ้าเป็นแบบนั้นจะสร้างอวกาศมาใหญ่แบบนี้ทำไมถ้ามีสิ่งมีชีวิตแค่ดาวเดียว?
มันก็แค่กระทู้ที่ลองคิดแปลกๆดูบ้างนะครับ คำถามที่อืม... ไม่ค่อยมีคำตอบ เราก็ลองมาคิดๆกันดูนะครับ
ปล.กระทู้นี้ต้องคิดตามนะครับ ถ้ามองในมุมคนทั่วไปมันก็ไร้สาระแหละ เราต้องคิดแปลกๆกันบ้าง :o
ผมเคยดูสารคดีอยู่นะ ว่าโลกเราอยู่ห่างจากดาวอื่นมากเกินไปไม่ใช้หรอ :confused::confused:
ห่างแล้วยังไงหรอครับ หมายถึงเอเลี่ยนหรอหรืออะไรยังไง ขอลายละเอียดเพิ่มหน่อยครับ ผม งง - -" :)
เอเลี่ยนเชื่อคับ เพราะประวัติศาสตร์ก็มีรูปแกะสลักต่างๆที่อาจเชื่อมโยง
ศาสนา ต้องมีถ้าไม่มีโลกนี้คงวินาศ เป็นสิ่งที่ทำดีแล้วสบายใจ เพราะถูกปลูกฝังมาหลายปี
ผี ในความคิดเป็นสิ่งที่บางคนยึดถือยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อเพิ่มพลังให้กับจิตใจหลายเท่า ป้าผมปวดขาปวดหัว ก็หาอะไรมาไหว้ศาลไหว้ผี และก็หายไปเอง... (ยาใจ) แต่หมอปลากลับทำให้ผมที่ไม่เชื่อในผีสาง เริ่มเชื่อขึ้นนิดหน่อยเพราะยังไม่เจอ
คำถามที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้สักทีคือ ทำไมต้องเกิด แล้วก็ตาย แล้วใครสร้าง ไม่มีใครสร้างแล้วมันผุดมาจากอะไร ยาว.................... :o
1.อย่าเชื่อประวัติศาสตร์สิครับ ตอนนี้เรากำลังคิดโดยที่ไม่มีหลักฐาน เราจะไม่อิงของเดิมครับ ลองคิดสิ่งใหม่แปลกๆ ที่มันกำลังจะถูกค้นพบ หรือกำลังจะเกิดไรแนวนี้มากกว่า
2.กรณีผีของคุณป้าท่านอาจจะเป็นเพราะเกิดความสบายใจแล้วทำให้รู้สึกบรรเทาลงก็เป็นได้ครับ [คล้ายๆกับกำลังใจทำให้มีแรงเพิ่มในการทำอะไรซักอย่าง] แต่ผีในกรณีผมคือคนที่อยู่ในรูปแบบแปลกๆไรแบบนั้นครับ
3.ศาสนาที่ใช้ปกครองคน อันนี้ก็พอเข้าใจอยู่ครับ
;2515413']ผมชอบคิดเรื่องพวกนี้แล้วไปพูดกะเพื่อน มันหาว่าผมบ้า T T
5555 คนเรามีความคิดต่างไม่ได้แปลว่าบ้าหรอกครับ บ้าสำหรับผมความหมายคือคนที่มีความผิดปกติทางสมองครับ ไม่ใช่คนที่มีความคิดไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ซะหน่อย :)
คิดยังไงก็ยุ่งยากครับ กับแค่ จขกท.อยากพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมา หรือมีบางสิ่งสั่งให้ จขกท.พิมพ์ขึ้นมา
สรุปคือ เราอยากทำเอง หรือมีอะไรบันดาลให้เราอยากทำ คิดแค่นี้ถ้าเถียงกันจริงๆก็ไม่จบไม่สิ้นแล้ว 5555
มีอีกๆๆ ลองคิดดูเล่นๆน้าา พระเจ้าเนี่ย?? เชื่อได้เหรอ???? 5555
เอ้าเข้าเรื่องๆ เขาว่ากันว่าพระเจ้าทำได้ทุกสิ่งใช่มะ แล้วสมมุติว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งได้
เนรมิตทุกสิ่งได้ พระเจ้าสามารถยกได้ทุกอย่าง ทำได้ตามใจตัวเองหมด แล้วว...
คุณพระเจ้าเนี่ย สามารถสร้างหินซักก้อนที่ตัวเองยกไม่ได้ ได้หรือเปล่านะ?
เอ้าแล้ว ถ้าสร้างได้พระเจ้าก็ยกไม่ขึ้นน่ะสิ แล้วไหนว่าพระเจ้าทำทุกอย่างได้
แต่ดันยกหินที่ตัวเองสร้างไม่ได้เนี่ยนะ? 5555 แล้วพระเจ้าทำในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ได้หรือเปล่า
บางคนอ่านแล้วอาจจะ งง บางคนก็คิดอีกแบบ ความเชื่อที่เป่าหูเราแต่เด็ก คิดไปได้อีกเยอะนะครับ
55555 คิดละปวดหมอง ส่วนตัวผมไม่เชื่อไรเลย แต่กลัวผีเพราะหนังผีเนี่ยหละ -.- 5555
ผมชอบเม้นนี้มากเลยครับ มีเหตุผลจริงๆ5555 อืม...นั้นสิครับ เอางี้สิ เราไม่ได้เถียงกันครับ เราจะคิดไปในทางเดียวกันช่วยกันตอบคำถามแปลกๆของโลก อืม จะพูดไงดี5555 เอาเป็นว่า ใครอยากคิดเห็นยังไงก็เต็มที่เลยครับ ไร้ขอบเขต 555555555555
หมายความว่าพระเจ้ามีความสามารถที่ว่าทำได้ทุกอย่างสิน่ะครับ ถ้าพระเจ้าสร้างหินที่ตัวเองยกไม่ไหวขึ้นได้ ก็แปลว่าจะยกมันไม่ได้? ก็คือผิดตามความสามารถ
หรือถ้าจะบอกว่าไม่มีหินแบบไหนที่พระเจ้ายกไม่ขึ้น แสดงว่าพระเจ้าทำไม่ได้ทุกอย่าง เพราะสร้างหินยักษ์ที่ตัวเองยกไม่ไหวไม่ได้สินะ? แหม่สับซ้อน
มันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ผมเชื่อว่า บางทีเวทมนตร์มันก็คือ เทคโนโลยี ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้นั่นแหละ
จริงๆ หลักการในทางวิทยาศาสตร์ หรือ Approach ในแนวนี้ มันก็เป็นมายาคติอีกอย่างนึงในยุคหลังปฏิวัติวิทยาศาสตร์นะ
เพราะ จะเชื่อไรก็ต้องเอามาพิสูจน์ ด้วยขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ด้วยข้อมูลเชิงตัวเลข ด้วยสูตรมาตรวัดต่างๆที่วิชาวิทยาศาสตร์สร้างขึ้น
แต่หารู้ไม่ว่า ในทางกลับกันเราถูกครอบงำด้วยการสร้าง "องค์ความรู้" ในแบบของวิทยาศาสตร์ กลายเป็นว่า อะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
ก็คือไม่สามารถเชื่อถือ อันนี้ถ้ามองในเชิงปรัชญาบางแขนง หรือ ในเชิงสังคมวิทยา ไอ้วิทยาศาสตร์ก็มีโครงสร้างที่ค่อนข้างจะไม่ต่างจากลัทธิหรือศาสนาเลย
ที่มีกลวิธี หรือ วิธีวิทยา ของตนเองในการสร้างองค์ความรู้ และการจัดองค์กรทางสังคมขึ้นมา
สิ่งเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้เลยถูกพับเก็บไว้หรือถูกติดปายว่าเป็นสิ่งหลอกหลวงไปโดยปริยาย
เนื่องจากความสามารถ หรือ ศักยภาพของวิทยาศาสตร์ที่มีขอบเขตในการเอาชนะข้อมูล ข้อเท็จจริง มีไม่เพียงพอ
เป็นมุมมองนึงจากทางฝั่งคนในสายสังคมศาสตร์ ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร อันนี้ผมพยายามอธิบายโดยยึดวิธีคิดแบบ Posุtmodern
ตามแนวกระแสปรัชญาของโลกวิชาการสังคมศาสตร์ในช่วงนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ความเห็นอันนี้อาจจะไม่อิงหลักวิทยาศาสตร์อะไรเลย
ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือให้ความสำคัญอะไรกับมันมาก 5555
ถ้าพูดในทางปรัชญา Postmodernism ในแบบของ J.F. Lyotard ก็อาจบอกได้ว่า วิทยาศาสตร์ ก็คือเรื่องเล่า หรือ นิทานที่ยิ่งใหญ่
ที่คนในยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นเพื่อครอบงำคนรุ่นหลัง (Meta-Narratives)
เผื่อใครที่สนใจเพิ่มเติมผมแนะนำให้ไปอ่านคำอธิบายเรื่อง วิทยาศาสตร์ เพิ่มเติม ในงานสังเขปการบรรยายของ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์
ในหนังสือเรื่อง Deconstruct - ถอดรื้อมายาคติ ดูละกัน
มาเต็มเลย55555 น่าสนใจครับ มุมมองของวิทยาศาสตร์? ผมชอบมากเลยตรงที่บอกว่า วิทยาศาสตร์มันยังไม่ถึงขั้นกับข้อมูลที่นำมาพิสูจสินะ? พอพิสูจไม่ได้ ก็ตีความว่ามันเป็นเท็จซะงั้น อืม... น่าคิดในข้อนี้
เรื่องผีนี้ผมขอเล่าประสบการณ์หน่อยนะครับ ตอนนั่นผมอายุประมาณ 5-6 ขวบ ซึ่งก็พอจำความได้บ้างแหละ ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่เคยมีความเชื่อหรือสิ่งบันดาลใจให้จินตนาการได้ว่าผีนั่นมีรูปร่างยังไงนะครับ ส่วนที่ผมเห็นนั่นก็บริเวณหน้าต่างชั้น 2 ห่างจากผมก็ไม่กี่เมตรเองครับ เป็นชายแก่หน้าตาจำไม่ได้แต่ โดนมีดผ่าหัวแบะเลยครับ จนบัดนี้อายุ 17 ปีก็ยังจำเหตุการนั่นไม่ลืมและไม่เคยที่จะไม่เชื่อว่าผีไม่มีจริงเลยครับ -*-
เรื่องนี้น่าสนใจนะครับประเด็นผีเนี้ยก็ถือว่าหลักฐาน 50/50 เลยนะ เพราะคนที่เคยเห็นค่อนค่างมากพอสมควร งั้นตามที่ท่านเล่ามา ท่านเห็นชัดเจนไหมครับ หรือแค่เห็นแว๊บเดียว หรือยังไง เพราะบางทีความกลัวที่เราสร้างขึ้น มันทำให้เราจินตนาการออกมาแปลๆได้นะครับ คล้ายๆกับความฝันหรืออะไรที่เกิดขึ้นแว๊บเดียว ลองเล่ารายละเอียดให้มากกว่านี้ได้ไหมครับ น่าสนใจทีเดียว แล้วถ้าคุณเห็นจริงๆ ชายแก่คนนั้นต้องการอะไรจากคุณ ทำไมเค้าถึงมาให้คุณเห็นละ น่าคิดๆๆๆ
เขามีประวัติศาสตร์ ก็ไม่ให้เชื่อซะงั้น งงกับ กขจท.
ผมหมายถึงประมาณว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องที่อาจจะเกิดแต่ยังไงม่เกิด!? คือเราจะไม่มองย้อนไปสิครับ ความคิดออกแนวมาจากข้างหน้ามากกว่าอิงสิ่งที่มีอยู่ เพราะกระทู้นี้พูดถึงแต่เรื่องที่ยังไม่มีตัวตนในปัจจุบันหน่ะสิครับ :o
http://www.youtube.com/watch?v=jM6-_cB2J0Q
สิ่งนี้คือเท่าที่คนเรารู้ตอนนี้สินะครับ? ภาพจำลองจากความคิดที่มีหลักฐานประกอบ ณ ตอนนี้? ไม่แน่นะจักรวาลอาจเกิดมาจากจุด 1 จุด ก็ได้ ผ่านไป 1 วิ ทุกอย่างออกมาแบบปัจจุบัน?555555 ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับผม