PDA

ดูเวอร์ชั่นเต็ม : .:: Classic Of Red [Card] สำหรับแฟนผี ::.



~[v]~THAILAND~
30th September 2011, 01:59
Classic Of Red (Card)

ในเกมฟุตบอลที่ต้องมีการเข้าปะทะกันระหว่างผู้เล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการถือกำเนิดขึ้นของใบเหลืองใบแดง ถือเป็นอาวุธสำคัญของผู้ตัดสินในการควบคุมความดุเดือดของเกมการแข่งขัน ทั้งยังช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของเหล่าบรรดานักเตะทั้งหลายด้วยว่า หากพวกเขาทำซ่า เล่นผิดกติกาในสนาม พวกเขามีสิทธิถูกเตือนหรือถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ นั่นยังไม่รวมถึงจำนวนโทษแบน และค่าปรับที่อาจตามมาภายหลัง

แต่ถ้าหากมองในแง่ของความคลาสสิค หรือความเป็นอมตะของเหตุการณ์อันเป็นที่น่าจดจำเกี่ยวกับการคาดโทษนั้น โอเคมันฟังดูแปลกอยู่ไม่น้อยที่การทำฟาล์วอันรุนแรงจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของความคลาสสิค โดยเฉพาะใบแดงด้วยแล้ว มันอาจดูเหมือนจะไปด้วยกันไม่ได้ แต่ผู้เขียนมองว่าผลกระทบ คุณประโยชน์หรือที่มาของใบแดงนั้นต่างหากล่ะคือความอมตะที่ควรค่าแก่การจดจำอย่างแท้จริง

ผู้เขียนติดตามดูผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มานานพอที่จะเห็นใบแดงของผู้เล่นเลือดผีหลายครั้งในรอบหลายปีมานี้ หากเรามองถึงเหตุผล ที่มาของเรื่อง เราจะพบว่าเจ้าใบแดงที่ให้โทษแก่นักฟุตบอลขวัญใจของเราเนี่ย ในบางเคสมันแฝงไปด้วยความ "คลาสสิค" อย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงขอคัดเลือก 5 เหตุการณ์เกี่ยวกับใบแดงของผู้เล่นหรืออดีตผู้เล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด มานำเสนอเพื่อร่วมรำลึกความหลังด้วยกันครับ

1. เดวิด เบ๊คแฮม : ฝันร้ายที่ลืมไม่ลงใน ฟร๊องค์ 98

http://newsimg.bbc.co.uk/media/images/47956000/jpg/_47956203_1998_becks_getty512.jpg

หนุ่มเบ๊คส์ ซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 23 ขวบปี ถูกดิเอโก้ ซิโมเน่ กระทุ้งอย่างแรงจากด้านหลังโดยการปะทะอันหนักหน่วง ในเกมฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่อังกฤษพบกับอาเจนติน่าบนแผ่นดินฝรั่งเศสในปี 1998 โดยหลังจากจังหวะดังกล่าว เบ๊คแฮมเกิดโทสะดีดขาเอาคืนดาวเตะชาวอาเจนไตน์ ซึ่ง คิม มิลตัน นีลเซ่น ชูใบแดงไล่เขาออกจากสนามในทันที และหลังจากอังกฤษตกรอบในเกมดังกล่าวจากการพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษ เบ๊คแฮมเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของแฟนบอลชาวอังกฤษ ซึ่งบางรายรุนแรงถึงขนาดขู่ฆ่ากันเลยทีเดียว

เบ๊คแฮมตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขายิงฟรีคิกช่วยให้ปิศาจแดงตีเสมอเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ในเกมลีกนัดเปิดฤดูกาล 1998-1999 และแม้เขาจะลงเล่นท่ามกลางเสียงโห่มาตลอดซีซั่น แต่ท้ายที่สุดเขาก็สร้างผลงานจนเป็นหนึ่งในคีย์แมนชุดประวัติศาสตร์คว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ได้ในท้ายที่สุด ซึ่งผู้เขียนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความกดดันไม่เคยมีผลกระทบใดๆ กับมิดฟิลด์เท้าชั่งทองรายนี้เลย นั่นเพราะเขาเคยก้าวผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดมาได้ตั้งแต่อายุยังน้อยนั่นเอง

_________________________________________________________________________

2. รอย คีน : "ผมถือคติ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"

http://i.telegraph.co.uk/telegraph/multimedia/archive/01342/roy-keane_1342720c.jpg

รอย คีน เคยมีอาการเจ็บหนักในปี 1997 เมื่อเขาวิ่งควบไปเอาบอลหน้ากรอบเขตโทษกับ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ ของลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนที่เขาจะล้มลง และได้รับความเสียหายที่เอ็นหัวเข่าแต่กระนั้นก็ดี ฮาแลนด์ ได้เดินเข้ามาตะคอกใส่รอยว่าเป็นพวกสำออยแกล้งเจ็บ ทั้งที่หลังจากนั้นคีน ต้องพักรักษาตัวไปจนจบฤดูกาล

เมื่อเข้าสู่ปี 2001 คีนประจันหน้ากับ ฮาแลนด์อีกครั้ง ในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ก่อนที่คีนจะเอาคืนด้วยการยกเท้าย่ำไปที่ขาของดาวเตะนอเวย์เต็มๆ จนหมุนเคว้ง และหลังจากที่กัปตันพันธ์ดุผู้นี้ได้รับใบแดง เขาก็เดินเข้าไปตะคอกกับฮาแลนด์ที่นอนเจ็บอยู่ ซึ่งต่อมาข้อความในอัตชีวประวัติของคีน ก็ช่วยย้ำให้ทุกคนที่พอจะเดาเรื่องราวออกได้ว่า มันเป็นการเอาคืนที่เขารอคอยมานาน และเป็นการเข้าสกัด(คน)อย่างจงใจ และไม่ว่าจะสมใจอยากของมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนผู้นี้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ฮาแลนด์ต้องแขวนสตั๊คไปก่อนเวลาอันควรเพราะการปะทะครั้งนี้


http://www.youtube.com/watch?v=p_st29mlQwU&feature=player_embedded

____________________________________________________________________________

3. รูน & โด้ : เพื่อนร่วม(ทีม)ชาติ

http://cdn.bleacherreport.net/images_root/slides/photos/000/226/103/ronaldo-england-red-card-0092_display_image.jpg?1273839337

เวิร์ลคัพ 2006 ที่เยอรมันรอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษพบกับโปรตุเกสอีกครั้ง หลังจากที่พบกันถี่เหลือเกินในยูโร 2000,2004 แม้โปรตุเกสจะย้ำแค้นอังกฤษได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของเกมนัดนี้คือใบแดงของเวย์น รูนีย์ โดยที่ทีมเมทในสโมสรอย่างโรนัลโด้ เข้ามามีส่วนพัวพันด้วย

หากใครยังจำกันได้ รูนีย์แย่งการครอบครองบอลกับคาวัญโย่ที่กลางสนาม ก่อนที่เขาจะจัดการทำหมันแห้งกองหลังโปรตุกีสผู้นี้จนเกิดเหตุชุลมุนประท้วงกันขึ้น และโรนัลโด้ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก เป็นคนแรกๆ ที่เข้ามาขอให้ผู้ตัดสินพิจารณาความเสียหายของคาวัญโย่ว่านี่เป็นการทำฟาล์วที่รุนแรง ก่อนที่รูนีย์จะผลักเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของเขาออกไปด้วยความไม่พอใจ

รูนีย์ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม และอังกฤษยื้อได้จนถึงช่วงดวลจุดโทษอีกครั้ง ก่อนจะพ่ายแพ้ตกรอบไป ซึ่งจุดสนใจของแฟนบอลทั่วโลกต่างมองในประเด็นเดียวกันว่า มิตรภาพของรูนีย์ และโรนัลโด้จะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งพวกเขาไม่ต้องรอนาน เพราะหลังจากนั้น รูนีย์ และโรนัลโด้ ก็ผนึกกำลังพาทีมคว้าแชมป์ลีก ได้ในซีซั่น 2006-2007 โดยไม่เคยมีข่าวระหองระแหงจากทั้งสองฝ่ายเลย


http://www.youtube.com/watch?v=SFvZ389nsCE&feature=player_embedded

____________________________________________________________________

4. โซลชา : "ผมจำเป็นต้องทำมัน"

http://d.yimg.com/eur.yimg.com/ng/sp/empics/4999096

ย้อนกลับไปในช่วงท้ายฤดูกาล 1997-1998 แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิพกับอาเซน่อลอย่างเข้มข้น ในเกมลีกนัดที่ 35 พวกเขาต้องรับมือกับนิวคาสเซิ่ล ในบ้านของตัวเอง ขณะที่สกอร์กำลังเสมอกันอยู่ที่ 1-1 เฟอร์กี้ ตัดสินใจส่งโซลชา ลงสนามในช่วงท้ายเกม แต่เมื่อถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นิวคาสเซิ่ลได้จังหวะโต้กลับโดยโรเบิร์ต ลี ซึ่งดาวยิงนอวีเจี้ยนผู้นี้ก็วิ่งห้อไล่กวดจนทัน และเข้าสกัดจนได้รับใบแดงไปตามระเบียบ แต่ทุกคนทราบดีว่าถ้าหากโซลชาไม่ทำแบบนั้น โอกาสโดนเจาะประตูมีสูงแน่ เพราะจะเหลือเพียง ฟานเดอร์ กาว ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูในเกมนั้นเพียงคนเดียว ที่ต้องดวลเดี่ยวกับลี และขณะที่โซลชากำลังเดินออกจากสนาม เสียงปรบมือของแฟนผีก็ดังกึกก้องไปทั่วโรงละครแห่งความฝัน

แม้ปีนั้นอาเซน่อลจะคว้าแชมป์ลีกไปครอง แต่เชื่อว่าแฟนผีคงไม่มีวันลืมโอเล่ กุนนาร์ โซลชา กับเหตุการณ์ที่เขาเสียสละตัวเองเพื่อทีมในวันนั้นอย่างแน่นอน


http://www.youtube.com/watch?v=QBrFlDpQudY&feature=player_embedded

________________________________________________________________________

5. เอริค เดอะ คิง : กังฟู คิก

http://cdn.bleacherreport.net/images_root/slides/photos/000/291/516/ericcantona_display_image.jpg?1278655818

มาถึงเคสศาสดาของชาวปิศาจผู้นี้ เอริค คันโตน่า ซึ่งวีรกรรมของเขาอาจจะแหวกแนวเสียหน่อย เพราะคุณอาจจะไม่ได้เห็นการกระโดดถีบแฟนบอลได้อีกแล้วในชั่วชีวิตนี้เลยก็ว่าได้แต่เอริค เดอะ คิง ทำได้ และเขาทำมันได้ดีเสียด้วย

ในเกมที่พบกับคริสตัล พาเลซ ที่เซลเฮิร์สปาร์ค ในปี 1995 คันโตน่าไปเตะใส่ ริชาร์ด ชอร์ จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับการวิ่งเข้าไปกังฟูคิกใส่ แมทธิว ซิมม่อนส์แฟนบอลปากเสียของเจ้าถิ่น อันเป็นที่ช็อคแฟนบอลไปทั่วโลก

แต่ความคลาสสิคของเขายังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ คันโตน่ายังเอ่ยประโยค "เมื่อนกนางนวลบินตามเรือประมง ก็เพราะพวกมันคิดว่าปลาซาร์ดีนจะถูกโยนลงมาในทะเล" ในวันแถลงข่าวหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อันสร้างความงุนงงแก่สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวเป็นอย่างมาก

และไม่ว่าคนอื่นจะวิพากษ์วิจารณ์ก็องโตต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้สักเพียงใด แต่สำหรับสาวกปิศาจแดงนั้น เอริค คันโตน่ายังคงเป็นราชาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปตลอดกาล


http://www.youtube.com/watch?v=ovYWY4Pf9_M&feature=player_embedded

:heart Credit.MANU Club :heart

:o ก็ช่วยกดThankกันหน่อยน่ะ :sharky

lone cat
30th September 2011, 02:08
ข้อ 1 นิ ก่อนแมตช์จะเริ่ม นัง victoria adams สมาชิกวง spice girls (ตอนนั้นดังคับฟ้า ตอนนี้แตกสลายจนต่อไม่ติด) หลอก Beck เข้าไปในห้องน้ำสนามกีฬา (แล้วก็กินตับๆๆๆๆพี่ beck ซ้า)
พอแข่งจริง beck เจอใบแดง แถมอังกฤษแพ้อีก ตกรอบ
อันนี้ไม่ทราบว่านัง victoria เป็นตัวกาลกินีรึเปล่า? ตั้งแต่คบกันนิ ชีวิตค้าแข้งเจ้า beck ตกต่ำลงพอสมควร

ข้อ 2 นิตยสาร Pop Magazine สมัยก่อน เรียก Roy Keanne เล่นๆ ว่า รอยตีน

ฉายานี้น่าจะเริ่มจากการเผชิญหน้ากับเจ้าฮาแลนด์ และน่าจะมาจากพฤติกรรมชอบสะสมใบแดงบ่อยๆ ละม้าง =^.^=

Mid-NighAngel
30th September 2011, 03:08
,, Solskjaer !! ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้ดูนายเล่น ในยุคนั้น ประทับใจทุกๆ ฝีก้าวของนายจริงๆ

จนถึงบัดนี้ แม้จะได้ดูแค่ Clip VDO ของนาย ! ขนภายในตัวก็ยังลุกซู่เสมอ !!



p$ . Keanne นี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เล่น บอลหนัก ตามสไตล์เสมอๆ เลยเน้อ ! ฮ่าฮ่า เป็นการเอาคืนที่คุ้มจริงๆ พักยาว กับ เลิกเล่น อุบ๊ะ !!




บอกตรงๆ

เสียดาย โซลชา จริงๆ คนดีๆแบบเขา ทำไมไม่เกิดมาเป็นแข็งแรงไม่เจ็บบ่อยๆ

ผมว่าอาจเป็นดาราระดับบัลลังดอร์ได้เลยนะ(เว่อไป 55)

,, ผมก็คิดเหมือนท่าน นะครับ ถ้า โซลชา กระดูกแข็ง !! น่าจะไปได้ไกลกว่านี้จริงๆ T T

montreepot
30th September 2011, 04:44
,, Solskjaer !! ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้ดูนายเล่น ในยุคนั้น ประทับใจทุกๆ ฝีก้าวของนายจริงๆ

จนถึงบัดนี้ แม้จะได้ดูแค่ Clip VDO ของนาย ! ขนภายในตัวก็ยังลุกซู่เสมอ !!



p$ . Keanne นี้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เล่น บอลหนัก ตามสไตล์เสมอๆ เลยเน้อ ! ฮ่าฮ่า เป็นการเอาคืนที่คุ้มจริงๆ พักยาว กับ เลิกเล่น อุบ๊ะ !!

บอกตรงๆ

เสียดาย โซลชา จริงๆ คนดีๆแบบเขา ทำไมไม่เกิดมาเป็นแข็งแรงไม่เจ็บบ่อยๆ

ผมว่าอาจเป็นดาราระดับบัลลังดอร์ได้เลยนะ(เว่อไป 55)

armarm2002
30th September 2011, 12:59
โซลชา คลาสซิกมากครับ~ นี่หละครับตำนานลูกหนังของโลกตัวจริง ไม่บ่น ไม่เถียง ลงตอนไหนก็ได้ ทำประตูได้อีกตะหาก ทุ่มเทเพื่อทีม ชาบูครับโซชา~

WhiteKnightZ
30th September 2011, 13:10
โซลชาโคตรเท่เลยๆ

Twilightz
30th September 2011, 13:12
เห้อะๆ คันโทน่ากังฟูคิก

pza00007
30th September 2011, 18:43
รอย คีน โหดสุดๆ ^ ^

Weeravat
30th September 2011, 19:28
คันโตน่าเอาใจไปเลยครับ

lone cat
30th September 2011, 19:48
พวกปอปแม็กกาซีนเรียกเขาว่า "รอยตีน" ก็เพราะแบบนี้นี่แหล่ะ
ส่วน Victorial Adams (ปัจจุบันใช้นามสกุลว่า Beckham) เองก็ใช่ว่าจะมี career path สดใสนัก หลังจากปี 1998 วง spice girls ตกต่ำอย่างฮวบฮาบ เพราะเจอคู่แข่งแนว candypop หลากหลายวง (บางวงเน้นแนวแอ๊บแบ๊ว เช่น M2M ซึ่งปัจจุบันก็แตกไปแล้วหลังจากปี 2002) จนเมื่อวง spice girls แตก! ในปี 2000 บรรดาสมาชิกวงดังกล่าวต่างแยกย้ายไปออกอัลบัมเดี่ยว ยัย Gerry Halliwell กะยัย Emma Bunton ประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ Victoria ไม่ใช่เลย! ออกซิงเกิล feat กับใครผมก็จำไม่ได้ ยอดขายก็ไม่ดี ทำอันดับก็แย่กว่าเพื่อนร่วมวง ทั้งนี้ปัญหาน่าจะมาจากการที่ Victoria Beckham ขาดทักษะด้านการร้องเพลง ดนตรี และนาฏศิลป์ อย่างแรง (ว่ากันว่ายัยนี่นิ "อ่อนหัด" ที่สุดในวงแล้ว) และไม่ยอมพัฒนาตนเองในด้านนี้ เอาแต่ "เกาะผัวกิน" (ตอนนั้น David Beckham ยังสังกัด ManU) ทุ่มเงินไปในด้าน fashion มากจนเกินไป (และไม่สมดุลด้วย) แถมประกาศสงครามกับ "เพื่อนเก่า" ทั้งสองคน (คิดว่านี่คือการตลาดที่ดี? แต่ผลก็คือ แป๊ก ครับ) และในเดือนกันยายน ปี 2001 Victoria Beckham เริ่มมองหา "เรื่องโอ้อวด" คราวนี้ไปท้ารบกับ "เจ้าแม่ disco หวนคืนบัลลังค์" ไม่ใช่ใครอื่นหรอก ชาวกรุงลอนดอนเหมือนกัน แต่ตัวเตี้ยกว่า และแก่กว่า นั่นคือ เจ๊ Kylie Minogue นั่นเอง
ยัยวิ๊กคิดว่าจะอาศรัยฐานเสียงวัยรุ่นมาแข่งบารมีเจ๊ (ซึ่งยัยวิ๊กเชื่อว่ามีฐานเสียงน้อยกว่า และส่วนใหญ่เป็นสาวกยุค 80 ปลายๆ - 90 ต้นๆ ไร้น้ำยา ไร้พลัง) และจะเอาชนะได้ จึงประกาศสงครามกับเจ๊ Kylie Minogue ทันที!
พร้อมทั้งเลื่อนวันออกซิงเกิล Not just an innocent girl ของ she ไปทาบกับวันออกซิงเกิล Can't Get you out of my head ของเจ๊ไข่ (kylie)
ผลคือ แพ้หลุดลุ่ย ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย คู่แข่งทำยอดขายได้ดีกว่า ทำอันดับในตารางได้ดีกว่ามากๆ แถมเจ๊ kylie สร้างฐานเสียงใหม่ได้เยอะอย่างที่ยัยวิ๊กไม่เชื่อ!? (เอาเป็นว่าวัยรุ่นไทยในยุคนั้นรู้จักเจ๊แกก็เพราะเพลง can't get... นั่นแหล่ะเหมียวๆ ผมก็เริ่มชอบเจ๊แกจากเพลงนั้นนั่นแหล่ะ)
แต่นังวิ๊กก็ยังไม่เข็ดหลาบ เลื่อนวันออกอัลบัมเดี่ยว (เดี่ยวจริงๆ ครับ อัลบัมเดียว ผลเป็นใงอ่านต่อ) Victoria Beckham (แถมทำโลโก้เลียนแบบกระเป๋า Louis Vuitton เสย) มาชน (แบบตั้งใจชนเลยหล่ะ) กับวันออกอัลบัม Fever ของเจ๊ไข่
Vic ก็อาศรัยวิธีหาเสียงแบบเดิมๆ คือเดินสายด่าคู่แข่งผ่านรายการทีวีต่างๆ บนเกาะบริเตนใหญ่ (เล่าแค่นี้พอ รายละเอียดเยอะมาก ถ้าอยากฟังเด๋วจัดกระทู้ให้ เพราะตอนนี้ก็ครบรอบ 10 ปี ซิงเกิล can't get... จร้า)
ส่วน Kylie เน้นผลงานล้วนๆ ตอบโต้เด็กอมมือ vic แค่พอแก้เขิน ขณะเดียวกันก็เดินสายโปรโมตผลงานใหม่ (ตอนนั้น) โดยจัดโชว์แบบ one-off ออกทีวี
มาดูผล album มั่ง vic ก็สู้เขาไม่ได้
สุดท้าย กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน เจ๊ kylie ชนะ Victoria Beckham อย่างขาดลอย 2 - 0 !!!!
Aftermath: Victoria Beckham พยายามดิ้นรนครั้งสุดท้ายโดยการออกซิงเกิล A mind of its own แต่ก็เรียกคะแนนจากแฟนๆ ไม่ได้ คราวนี้สื่ออังกฤษไม่เอาไปเทียบกับคนอื่นอีกแล้วหละ ผลคือ อัลบัม Victoria Beckham ตายสนิท ปิดฉากอาชีพนักร้องอย่างน่าอัปยศอดสู ในที่สุด EMI ก็ไล่ vic ออกจากสังกัด
หลังจากนั้น อีกหลายปีให้หลัง อยู่ๆ วง Spice Girls ประกาศรวมตัวเฉพาะกิจ ออกคอนเสิร์ตเรียกเงินจากคนดู (นัยว่าหยั่งเสียงหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้) ตอนนั้นตั๋วขายหมดเกลี้ยง!! ทุกคนคิดว่าจะได้ดู แต่อยู่ๆ สาวๆ เหล่านั้นก็ยกเลิกคอนเสิร์ตกะทันหัน (ผมไม่ทราบสาเหตุจริงๆ)
นอกเรื่องไปไกล แต่ถ้าพูดถึง David Beckham แล้วไม่พูดเรื่อง Victoria Adams (Beckham) ก็กระไรอยู่ แต่ lifesyle ฉาวๆ คาวๆ ของผัวเมียคู่นี้นิเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดละคอนชุด The Footballer's Wives ขึ้น (และทำให้ตำนาน Joan Collins กลับสู่วงการแสดงอีกครั้งหลังจบโปรเจ็กต์ Dynasty เมื่อยี่สิบปีก่อน)

lanlanla
30th September 2011, 21:36
ชอบของรอบตีนเอ๊ย!คีน กับ โซลชามาก ^^

Maggots
30th September 2011, 22:42
ชอบ Roy Keane ตรงที่พี่แกเถื่อน ดิบ โหดดี แต่ผมชอบตอนที่ผีฉะกับปืน
ที่ตอนนั้น วิเอร่ายังอยู่กับน่อล ที่ก่อนเกมแกรี่เนวิลล์ ไปมีเรื่องกับ วิเอร่า พอจะเดินออกมาจากอุโมงค์
คีนก็เข้ามาหาเรื่องแล้วก็บอกในทำนองที่ว่า "****ก็เก่งแต่กับคนตัวเล็ก แน่จริง****ไปฉะกับอั๊วะในสนามดีกว่า"

ปล.คีน พี่แกเล่นหนักทุกนัดจริงๆ